วายร้ายชายแดน (2500)
วายร้ายชายแดน (2500/1957) ดูฉากต่อสู้ที่ใช้อาวุธและกระสุนจริงๆ ที่น่าหวาดเสียว ตื่นเต้น ดู..การต่อสู้ ปราบปรามของเหล่าวายร้าย ที่หมายครองเมือง โดยกองตำรวจชายแดน อย่างนองเลือด
มือปืนหน้าหยก (2500)
มือปืนหน้าหยก (2500/1957) มือปืนหน้าหยก เป็นภาพยนตร์สีธรรมชาติ 16 มม.ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2500 สร้างโดย พูนเทพภาพยนตร์ โดยมี สุเทพ เหมือนประสิทธิเวช เป็นผู้อำนวยการสร้างและนำแสดง กำกับการแสดงโดย ปริญญา ลีละศร
เล็บครุฑ (2500)
เล็บครุฑ (2500/1957) เล็บครุฑ เป็นภาพยนตร์สี 16 มม.ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2500 สร้างจากบทประพันธ์ของ พนมเทียน โดยคุณสุพรรณ พราหมณ์พันธุ์ แห่งบริการ ภาพยนตร์สหะนาวีไทย ซึ่งลงมือกำกับการแสดงเป็นเรื่องแรก ภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุดถึงหนึ่งล้านเก้าแสนบาท
ทุรบุรุษทุย (2500)
ทุรบุรุษทุย (2500/1957) เรื่องราวของอันธพาลกลับใจ หันเข้าสู้กับอธรรม แห่งพระศาสนาเป็นโล่ห์ป้อง และใช้ความดีเป็นอาวุธ ลูกกำลังจะบวช ไม่ยอมเข้าสู่อ้อมกอดของพ่อ แม่แต่เมียตาบอด ก็ยังเข็ดขามต่อความชั่วร้ายของผัวที่สุด เขายอมหลั่งเลือดสู้สุดชีวิตเพื่อนำแม่มาจูงลูกไปสู่ร่มกาสาวพัตร์
ไพรกว้าง (2500)
ไพรกว้าง (2500/1957) ข้อความบนใบปิด บริษัทสหการภาพยนตร์ไทยจำกัด เสนอ เกชา เปลี่ยนวิถี พระเอกหนุ่มร่างสมาร์ท ใน ภาพยนตร์ ชีวิต รัก ต่อสู้ของลูกผู้ชาย ในถิ่นเถื่อนและคนพาล ไพรกว้าง จากบทประพันธ์ชิ้นเยี่ยมที่หวงแหนของ “อรวรรณ” สีวิจิตรสวยสด ร่วมนำแสดงโดย...สุขศรี ภมรพิบูล, ทัศนีย์ ชุวสวัต, จำนงค์ คุณะดิลก พรั่งพร้อมด้วย...ดาวร้าย ดาวยวน... (ที่มา: Thai Movie Posters)
7 มุมเมือง (2499)
7 มุมเมือง (2499/1956) ณ กองปราบสามยอด บนโต๊ะของ ร.ต.อ.ปราโมทย์ สารวัตรใหญ่เต็มไปด้วยแฟ้มประวัติอาชญากรที่กำลังออกอาละวาดอยู่ทุกมุมเมือง คนแรกคือพ่อเลี้ยงผู้มีอิทธิพลทางภาคเหนือประกอบการค้าของผิดกฎหมาย อีกคนคือ สะพรั่ง มือปืนชื่อดังในจังหวัดสุพรรณบุรี จากปากน้ำโพจนถึงตะพานหินไม่มีใครไม่รู้จัก แพรว นักต้มตุ๋น เหยี่ยว ขโมยมือฉมังชื่อดังในปักษ์ใต้ กบินทร์ นักย่องเบาฉายาไอ้ตีนแมวอาละวาดแถบอรัญประเทศ ชล ฆาตรกรซึ่งฆ่าคนมาแล้วทั่วจังหวัดชลบุรี และ เพลิง นักรีดไถประจำจังหวัดเพชรบุรี สารวัตรใหญ่คิดจะใช้ไม้เบาจึงเรียกโจรทั้ง 7 มุมเมืองเข้ากรุงเทพเพื่อตักเตือน แต่กลายเป็นการเปิดโอกาสให้ทั้งเจ็ดจับมือกันปล้นกรุงเทพ โดยที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมได้ วันหนึ่ง ชลพบ เคลือ นอนสลบอยู่กลางถนน จึงนำตัวมาพักฟื้นที่รังโจร เคลือมีอาการอ่อนเพลียเนื่องจากอดอาหารและไม่มีที่อยู่ ทั้งเจ็ดจึงขอให้เธอช่วยดูแลเรื่องอาหารและทำความสะอาดรังโจรแลกกับที่อยู่อาศัย ทั้งเจ็ดเริ่มขัดแย้งกันเพราะต่างหลงใหลในตัวเคลือยกเว้นชลที่คอยสังเกตอยู่เงียบๆ วันหนึ่ง ตำรวจได้เบาะแสว่าทั้งเจ็ดจะปล้นบ้านเศรษฐี จึงส่งกำลังออกไปจับกุมแต่ทั้งเจ็ดก็หนีรอดไปได้ ชลถูกกระสุนบาดเจ็บแต่ได้เคลือช่วยพยาบาล ชลจึงเริ่มรักเคลือ ต่อมาพ่อเลี้ยงวางแผนปล้นโรงภาพยนตร์ โดยตกลงกันว่าจะทำเป็นครั้งสุดท้าย แต่ตำรวจตามติดมาถึงรังโจรจนเกิดการปะทะกันขึ้น กบินทร์กับเพลิงขัดแย้งกันเรื่องส่วนแบ่งจึงฆ่ากันเอง ส่วนที่เหลือถูกตำรวจยิงเสียชีวิต ยกเว้นชลที่ยอมจำนนรับโทษในคุก
แผ่นดินว่างกษัตริย์ (2499)
แผ่นดินว่างกษัตริย์ (2499/1956) หลังเสียกรุงครั้งที่สอง พระเจ้าตากผู้นำการกอบกู้เอกราช ได้สั่งให้ ขุนพิชิตจตุรงค์ นายทหารฝีมือดีชาวบ้านแหลม ไปทำการขนส่งทรัพย์เสบียงมาจากบ้านแหลม แม้ว่าพระองค์จะรู้ว่าทหารพม่านั้นอยู่รายล้อม การออกไปทำหน้าที่ของขุนพิชิตจึงทำให้เขาตกอยู่ในอันตราย ครั้นไปถึงบ้านแหลม ขุนพิชิตก็รวบรวมไพร่พลออกวางอุบายเพื่อจะขนถ่ายทรัพย์เสบียงไปให้ถึงทัพพระเจ้าตาก แต่ทว่าระหว่างทางลักลอบขุนพิชิตกลับถูกหักหลัง จนเกิดการต่อสู้ เป็นเหตุให้ขุนพิชิตต้องตายในสนามรบ ฝากไว้ซึ่งความความเสียสละต่อชาติบ้านเมืองที่น่ายกย่อง
กัปตันยุทธ (2499)
กัปตันยุทธ (2499/1956) เรื่องราวของ ร.อ. ยุทธ ยุทธนาวิน ร.น. หรือที่ทุกคนเรียกว่า กัปตันยุทธ ซึ่งเคยเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนทหารเรือ แต่จู่ๆ ก็กลายเป็นขี้เมาอาละวาดจนถูกสั่งปลดราชการมิหนำซ้ำยังถูกตัดออกจากตระกูลกัปตันยุทธจึงตอบแทนด้วยการถอนหมั้น สายสุนี แล้วหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ร.อ. สุรพล เพื่อนสนิทของกับตันยุทธได้รับคำสั่งให้ไปราชการที่ฟิลิปปินส์ เขาได้พบกับโรซิต้าซึ่งเข้ามาทำความสนิทสนม โดยมีเบื้องหลังเพื่อหว่านล้อมให้สุรพลช่วยติดตั้งปืนบนเรือบังคับด้วยกระแสคลื่นวิทยุตามคำแนะนำของยุทธ แต่โรซิต้าเกิดหลงรักสุรพลจริงจึงบอกความจริงทั้งหมดแก่สุรพล สุรพลโกรธมากจึงต่อว่าโรซิต้า ยุทธ ดำรง และพรรคพวกซึ่งแอบสังเกตการณ์อยู่ จึงจับตัวสุรพลไปขัง สุรพลโดนทรมานแสนสาหัส แต่ก็ยังไม่ยอมร่วมมือกับดำรง ในเวลานั้นสมุนของเดชได้ฆ่านักสืบกองทัพเรือไทยซึ่งมีไม้ขีดหมายเลข 13 อยู่ในตัว ดำรงจำได้ว่าเคยเห็นยุทธพกไม้ขีดไฟลักษณะเดียวกันแต่เป็นหมายเลข 19 จึงรู้ว่ายุทธเป็นนักสืบของกองทัพเรือ แต่ยุทธไหวตัวทันช่วงชิงแผนผังการต่อเรือของไทยที่หายไปมาได้และรีบหนีออกมา โรซิต้าหาทางช่วยชีวิตสุรพลแต่ตัวเองถูกสมุนของดำรงยิงจนเสียชีวิต ยุทธหนีการไล่ล่าของดำรงและเกิดการต่อสู้กัน ดำรงพลาดท่าจมน้ำเสียชีวิต ส่วนยุทธถูกยิงจนบาดเจ็บสาหัส ก่อนสิ้นใจยุทธมอบแผนผังการต่อเรือและไม้ขีดไฟประจำตัวให้สุรพลนำไปมอบผู้บังคับบัญชากองเรือ
ลูกโจร (2499)
ลูกโจร (2499/1956) เสือวัน และ เสือแคล้ว สองเสือมหาโจรที่ถูกทางการหมายหัว คืนหนึ่ง ทั้งสองออกไปปล้นบ้านเศรษฐีและถูกตำรวจนำกำลังเข้าจับกุม ในระหว่างที่เสือวันพยายามหลบหนี ก็ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ด้วยความสงสารจึงอุ้มเด็กคนนั้นมาด้วย และในวันเดียวกันนั้นเอง ส.ต.อ.เพิ่ม ซึ่งถูกยิงใกล้เสียชีวิตได้ขอร้องเสือวันให้ช่วยส่งเสียเงินทองแก่ลูกชายของตน เสือวันรับปาก นับตั้งแต่วันนั้นเสือวันจึงกลับใจเลิกเป็นโจร เวลาผ่านไปยี่สิบกว่าปี วันทนีย์ ลูกสาวของเสือวันโตจนเรียนจบมหาวิทยาลัย และมีคนรักชื่อ ร.ต.ต.พงษ์ เสือวันจำได้ทันทีว่าเป็นลูกชายของ ส.ต.อ.เพิ่ม ซึ่งเขาคอยส่งเสียเงินทองมาตลอดหลังจาก ส.ต.อ.เพิ่ม เสียชีวิตโดยไม่เคยเปิดเผยตัว แต่แล้ววันหนึ่ง เสือแคล้วก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อม เคลิ้ม ลูกชาย เพราะหมายมั่นจะให้เคลิ้มได้แต่งงานกับวันทนีย์ แต่เสือวันไม่ยอมเพราะรู้ว่าเสือแคล้วยังไม่เลิกเป็นโจร เสือแคล้วเจ็บใจจึงให้เคลิ้มลักพาตัววันทนีย์ เพราะรู้ดีว่าเสือวันไม่กล้าแจ้งตำรวจ ร.ต.ต.พงษ์ เมื่อรู้ว่าวันทนีย์ถูกจับตัวไปก็ไม่รอช้ารีบไปช่วย เสือวันกลัวว่า ร.ต.ต.พงษ์ จะถูกเสือแคล้วทำร้าย จึงแอบบุกไปหาเสือแคล้ว แต่ถูกวันทนีย์ซึ่งรู้เรื่องราวในอดีตจากเสือแคล้วตัดพ้อต่อว่า เสือวันเสียใจเป็นอันมากจึงส่งปืนให้วันทนีย์ยิงตัวเองให้หายแค้น แต่วันทนีย์ก็ไม่อาจทำได้ เสือแคล้วฉวยโอกาสที่พ่อลูกทะเลาะกันหยิบปืนเล็งไปที่เสือวัน แต่ ร.ต.ต.พงษ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจมาได้ทันท่วงที จึงยิงเสือแคล้วและเคลิ้มเสียชีวิต เมื่อเหตุการณ์สงบ เสือวันจึงเล่าเรื่องราวในอดีตทั้งหมดให้วันทนีย์และ ร.ต.ต.พงษ์ ฟังอย่างละเอียดร.ต.ต.พงษ์ รู้สึกเป็นหนี้บุญคุณต่อเสือวันมาก ส่วนวันทนีย์ซึ้งน้ำใจเสือวันจึงเขียนประวัติของตัวเองส่งมหาวิทยาลัยอย่างไม่อายว่าเป็น "ลูกโจร"
ล่องสมุทร์ (2498)
ล่องสมุทร์ (2498/1955) ภาพยนตร์สีเรื่องผจญภัยของลูกน้ำเค็ม! ชมการต่อสู้ของเหล่าร้ายกับผู้รักษากฎหมาย (ที่มา: นิตยสารตุ๊กตาทอง ธันวาคม พ.ศ. 2498)
ขุนโจรสามร้อยยอด (2498)
ขุนโจรสามร้อยยอด (2498/1955) สภาพบ้านเมืองอันแร้นแค้นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง บีบคั้นให้ชาวบ้านธรรมดาต้องผันตัวเป็นเสือออกปล้นเพื่อประทังชีวิต และอาละวาดหนักราวปี พ.ศ. 2493 ทางการจึงออกมาตรการกวาดล้างขุนโจรขนานใหญ่ เสือผิน เสือพาน และ เสือหรีด สามขุนโจรสามร้อยยอด เขตปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์จึงเริ่มหารือเรื่องการมอบตัว เสือพานได้ยินเข้าก็หัวเราะเยาะว่าเสือผินกับเสือหรีดขี้ขลาด แล้วสวมรอยใช้ชื่อเสือหรีดออกปล้น แต่สุดท้ายทั้งเสือพานและเสือหรีดก็หนีไม่พ้นการจับกุม ยกเว้นเสือผินซึ่งหลบซ่อนตัวอยู่กับ นิด ภรรยาและลูกโดยอำพรางตัวเป็นคนหาปลา เมื่อเหตุการณ์เป็นปรกติสุข ชาวบ้านหนองเตาปูนก็ย้ายกลับมาถิ่นฐานเดิม เสือพานแหกคุกมาหาผู้ใหญ่หนุน ซึ่งเป็นสายให้พวกเสือ แล้วใช้แผนชั่วหลอกให้เสือผินกลับมาร่วมโจรกรรม วันหนึ่ง สมุนของเสือพานไปรีดไถเงินจากญาติของ เยื่อ แต่ไม่สำเร็จ เสือพานจึงใช้สมุนไปปล้นวัวทั้งฉุด เจียน คนรักของเยื่อ แต่เยื่อก็ช่วยเจียนมาได้และเมื่อทราบว่าผู้ใหญ่หนุนอยู่เบื้องหลัง เยื่อจึงชวน ชู กับ พิศ บุกไปฆ่าผู้ใหญ่หนุน ทั้งสามจึงต้องกลายเป็นเสือเพราะความจำเป็น เสือสองกลุ่มจึงท้าดวลปืนกัน เสือเยื่อไปรอบริเวณที่นัดพบ แต่พวกเสือผินกับเสือพานไม่ยอมมา ตามเวลาที่กำหนด ผลสุดท้ายเสือพิศซึ่งเฝ้าต้นทางถูกยิงตาย ทางการได้สั่งให้ พ.ต.อ.ประชา บูรณะธนิต ผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 7 เป็นผู้อำนวยการปราบปรามภายในสามเดือน เป็นเหตุให้เสือพาน เสือผินและสมุนถูกยิงตายส่วนเยื่อกับชูที่ต้องเป็นเสือด้วยความจำเป็น ก็เข้ามอบตัวเพื่อรับผิดตามกฎหมายแต่โดยดี
สลัดดำ (2498)
สลัดดำ (2498/1955) ชะตากรรมของสี่พี่น้องต่างสายเลือด ไชยยศ คำรณ ทองสัช และทองจันทร์ เด็กกำพร้าสี่คนซึ่งร้อยเอกหม่อมเจ้ากมลสุริยารับมาเลี้ยงดู เมื่อโตขึ้นทั้งสี่ต่างหมายปอง ม.ร.ว.หญิงปัทมาวดี ลูกสาวของหม่อมเจ้ากมลสุริยา แต่สุดท้ายไชยยศก็เป็นฝ่ายพิชิตใจ ม.ร.ว.หญิงปัทมาวดี และแอบได้เสียกันจนกระทั่ง ม.ร.ว.หญิงปัทมาวดี ตั้งครรภ์ วันหนึ่ง หม่อมเจ้ากมลสุริยาอยากลองใจลูกทั้งสี่ จึงออกอุบายว่าแผนป้องกันประเทศหายไปและสงสัยว่าหนึ่งในสี่จะเป็นผู้ขโมย ปรากฏว่าไชยยศ คำรณ และทองสัชต่างก็หนีออกจากบ้านโดยเขียนจดหมายเหมือนกันว่าตนเองเป็นผู้ขโมย ในไม่ช้าเรื่องที่ปัทมาวดีท้องก็เปิดเผย หม่อมเจ้ากมลสุริยาโกรธมากบังคับให้ปัทมาวดีฆ่าตัวตาย แต่ทองสัชออกรับแทนว่าเป็นพ่อของเด็ก ทั้งคู่จึงได้แต่งงานกัน ไชยยศหลบไปอยู่กับนางจำปาซึ่งเป็นแม่ ชบา ญาติห่างๆ เกิดมาหลงรักไชยยศ ทำให้ โผน ลูกชายกำนันสังข์ ซึ่งหลงรักชบาไม่พอใจจึงหาเรื่องจับตัวไชยยศ เป็นเหตุให้นางจำปาถูกลูกหลงโดยยิงเสียชีวิต ไชยยศโกรธมากจึงหนีไปเป็นโจรสลัดกับทองสัชและคำรณ แต่ก่อนออกเรือ ชบาแอบได้เสียกับคำรณเพราะความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นไชยยศ ไชยยศออกไปปล้นเรือของ สาหร่าย โจรสลัดหญิง กลุ่มนางนวลทะเลและจับมาอยู่บนเรือ คำรณที่ถูกบังคับให้รับเป็นพ่อของลูกชบาก็รู้สึกไม่พอใจจึงคิดจะฆ่าไชยยศ แต่สมุนโจรสลัดไม่ยอมร่วมมือด้วย คำรณจึงถูกฆ่าฐานคิดทรยศ โผนพาลูกน้องปล้นเรือของไชยยศม.จ. กมลสุริยาและเรือตรีทองจันทร์นำกำลังกองทัพเรือมาจับกุมโจรสลัด เป็นเหตุให้ทองสัชถูกทองจันทร์ยิงตาย หม่อมเจ้ากมลสุริยาพยายามเกลี้ยกล่อมไชยยศให้มอบตัวแต่เขาไม่ยอมมิหนำซ้ำยังใช้ปืนขู่หม่อมเจ้ากมลสุริยาให้นำกำลังกลับ ส่วนตัวเองลงเรือหนีไปกับสาหร่าย
อัศวินเหล็ก (2498)
อัศวินเหล็ก (2498/1955) บุษบง และ บุษบา สองศรีพี่น้องซึ่งกำลังเป็นสาวสะพรั่ง สร้างความกลุ้มอกกลุ้มใจแก่ นายพลตรีบรรลือฤทธิ์ ผู้เป็นบิดา เพราะเริ่มมีหนุ่มๆ มาจีบลูกสาวของตนโดยเฉพาะบุษบงผู้พี่ ซึ่งมี ธำรง มาติดพัน แม้บรรลือฤทธิ์จะปรามด้วยว่าบุษบงมีคู่หมั้นอยู่แล้ว แต่ก็ถูกบุษบงตอกกลับทุกครั้ง เพราะไม่เคยเห็นหน้าตาคู่หมั้นที่พ่อกล่าวอ้าง รู้เพียงว่าชื่อ เปีย วันหนึ่ง ด่วม ลูกชายผู้ว่าเชียงใหม่เกลอเก่าของบรรลือฤทธิ์ มาศึกษาต่อที่กรุงเทพและขออาศัยที่บ้านของบรรลือฤทธิ์ บุษบงมองด่วมด้วยสายตาดูถูก แถมยังบังคับไม่ให้บุษบาไปสุงสิงกับด่วม บรรลือฤทธิ์ได้แต่ระอาใจ จึงขอร้องให้ด่วมช่วยดูแลบุตรีในระหว่างที่ตนเองไปทำธุระที่ปากน้ำโพ ทำให้ด่วมมีเรื่องชกต่อยกับธำรงที่ดึงดันจะพาบุษบงไปเที่ยว บุษบงไม่เข็ดหลาบขอพ่อไปเที่ยวบางแสนกับ ธำรงบรรลือฤทธิ์อนุญาตโดยมีข้อแม้ว่าต้องมีด่วมไปด้วย ธำรงเกลียดด่วมเป็นทุนเดิมจึงไปจ้างวานนักเลงท้องถิ่นให้ฆ่าด่วม แต่กลับตาลปัตรเพราะนักเลงคนนั้นนับถือด่วมมาก จึงตลบหลังขูดรีดเงินจากธำรง ซ้ำยังขู่ให้ธำรงรีบไสหัวกลับกรุงเทพ ที่บางแสนนี่เองที่บุษบงได้รู้ว่าด่วมมีอีกชื่อ คือ โสภณ จู่ๆ บุษบาก็โทรเลขมาแจ้งว่าบรรลือฤทธิ์หายตัวไป โสภณสังหรณ์ใจว่าจะเกิดเหตุร้ายจึงรีบไปแจ้งตำรวจทำให้คลาดสายตาจากบุษบง ธำรงส่ง สกล มาหลอกบุษบงว่าธำรงถูกรถชนอาการปางตาย บุษบงหลงเชื่ออย่างง่ายดาย กว่าจะรู้ตัวว่าถูกหลอกก็ต่อเมื่อพบว่าธำรงเป็นคนจับตัวบรรลือฤทธิ์ไปทรมาน เพื่อเค้นถามที่ซ่อนอาวุธของรัฐบาล ร.ต.อ. เผชิญ กับ ร.ต.อ. โสภณ นำกำลังตำรวจมาล้อมที่บ้านธำรง เกลี้ยกล่อมให้ยอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผลโสภณร้อนใจแอบปีนหน้าต่างเข้าไปภายในตึกและเกิดการต่อสู้กับธำรงขึ้น โสภณฟันธำรงเสียชีวิตและช่วยบุษบงออกมาได้สำเร็จ หลังเกิดเหตุ สิทธิศักดิ์ พ่อของโสภณเดินทางจากภาคเหนือมาเยี่ยมลูกชาย บุษบงจึงได้รู้ความจริงว่าแท้จริงแล้ว ด่วม หรือ โสภณ ก็คือ เปีย คู่หมั้นปริศนาที่บุษบงไม่เคยเห็นหน้านั่นเอง
ตังเก (2498)
ตังเก (2498/1955) ในเขตจังหวัดสมุทรปราการมีชาวประมงสองกลุ่มเป็นคู่แข่งกันในการจับปลา กลุ่มแรกนำโดย กังวาล เจ้าของเรือสิงห์สมุทรซึ่งให้ ทองหล่อ ลูกชายทำหน้าที่ควบคุมเรือ และให้ ผา เป็นไต้ก๋งเรือ อีกกลุ่มควบคุมโดย เม้ง มีลูกชายชื่อ ยี่ปลิว เป็นผู้ดูแลกิจการและมี จ่าย เป็นไต้ก๋ง ทองหล่อคบหาอยู่กับ หงษ์ฟ้าลูกสาวของเม้ง ส่วนยี่ปลิวหลงรักสร้อยแต่สร้อยกลับไปชอบผา เป็นเหตุให้ยี่ปลิวหาเรื่องทองหล่อกับผาอยู่เนืองๆ วันหนึ่งผาโดนสร้อยปฏิเสธจึงหนีกลับไปชุมพรบ้านเกิดเพราะเข้าใจผิดคิดว่าสร้อยไม่สนใจตน เมื่อถึงฤดูมรสุม ชาวตังเกต้องย้ายไปหาปลาในเขตปากน้ำชุมพร ยี่ปลิวกับจ่ายวางแผนกำจัดทองหล่อโดยให้ฉายไปสมัครเป็นไต้ก๋งเรือสิงห์สมุทร ในขณะที่ออกเรือฉายก็แอบตีศีรษะทองหล่อตกทะเล กัลปังหา ชาวเกาะพบทองหล่อโดยบังเอิญจึงช่วยชีวิตไว้ ผารู้ข่าวว่าทองหล่อพยายามสืบหาคนร้าย ฉายกลัวจะถูกจับได้จึงไปขอเงินค่าแรงกับยี่ปลิวแต่กลับโดนฆ่าปิดปาก ยี่ปลิววางแผนกับจ่ายจะฉุดสร้อย จ่ายยอมร่วมมือแต่มีข้อแม้ว่าขอหงษ์ฟ้าเป็นสิ่งตอบแทน ยี่ปลิวรับคำด้วยความไม่เต็มใจ คืนนั้น ทองหล่อมองเห็นสำเภาใหญ่ทอดสมออยู่จึงไปขอให้กัลปังหาพายเรือไปส่ง ส่วนยี่ปลิวหลังจากฉุดสร้อยมาได้ก็หักหลังฆ่าจ่ายทิ้ง เมื่อทองหล่อมาถึงเรือสำเภาจึงได้รู้ว่าเป็นเรือของเม้ง และถูกลูกน้องของเม้งทำร้าย ขณะนั้นเอง ผาพร้อมพวกชาวเกาะมาช่วยทองหล่อเม้งเห็นท่าไม่ดีคว้าดาบจะมาแทงทองหล่อแต่หงษ์ฟ้าเอาตัวมาขวางถึงแก่ความตาย เม้งเสียใจจึงฆ่าตัวตายตามทำให้เหตุร้ายสงบลง สร้อยปรับความเข้าใจกับผาทองหล่อกลับไปหากัลปังหา ซึ่งก็คือน้องสาวของผานั่นเอง
สิงห์ท่าเรือ (2498/1955) เมื่อสิงห์ กับเสือ ต้องมาเจอกัน มันก็หมายถึง เลือด เท่านั้น แต่ว่า สิงห์จะล้างเสือ หรือ เสือจะล้างสิงห์ นิยายรักที่ร้อนแรง เต็มไปด้วยการต่อสู้ เยี่ยงนักเลง ทั้งหมัด และกระสุนปืน ดุเดือด
ยอดคน (2498)
ยอดคน (2498/1955) ภูมิ สีหราช ขุนโจรนักแม่นปืนยอมมอบตัวกับตำรวจเพราะอยากจะเลิกเป็นโจร แต่ถูกกำนันอุ่น พ่อของ เกษรา คนรักล้อมยิง จึงหนีออกจากสามร้อยยอดและได้พบกับ หมอชวลิต ซึ่งชวนภูมิมาทำงานด้วย หมอชวลิตมอบหมายให้ภูมิช่วยดูแลงานแทนระหว่างที่ตนเดินทางไปกรุงเทพ ไม่กี่วันหลังจากนั้นปฐมสุข กับ เชิดชาย เพื่อนของ สุมาลย์ ภรรยาของหมอชวลิตก็เดินทางมาเพื่อขอซื้อที่ดิน แต่ภูมิไม่ยอมเพราะเห็นความไม่ชอบมาพากล หลังจากที่ภูมิหายตัวไป ก้าน รุ่งดี ก็ร่วมมือกับกำนันอุ่นเข้ายึดครองสามร้อยยอด เกษรารวบรวมคนเก่าแก่ของภูมิเพื่อจะต่อสู้แต่ถูกก้านจับตัวไป เกิด พลายแก้วสมุนเก่าซึ่งจงรักภักดีต่อภูมินำกำลังบุกรังของก้าน และเข้าไปช่วยเกษราไว้ได้ เกษรากับเกิดจึงเริ่มออกตามหาภูมิและได้พบกันในที่สุด ปฐมสุขวางแผนฆ่าหมอชวลิตแต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาของภูมิ เมื่อช่วยหมอชวลิตได้แล้ว ภูมิจึงกลับไปชำระแค้นและได้ครองรักกับเกษราในที่สุด