แอคชั่น
คมเฉือนคม (2519/1976) ข้อความบนใบปิด ขวัญใจภาพยนตร์ โดย สุทธิพงษ์ กัมทรทิพย์ สร้าง พยุง พยกุล ผู้กำกับเจ้าตำรับหนังบู๊ พลิกประวัติการณ์หนังไทย นำ 10 ดาราดังแห่งโลกบันเทิง ประกาศความยิ่งใหญ่ในยุทธจักรหนังบู๊ คมเฉือนคม THE OUTLAW MAN (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (ไชยา สุริยัน) (นาท ภูวนัย) (ไพโรจน์ ใจสิงห์) (เกชา เปลี่ยนวิถี) ดามพ์ ดัสกร (ปริศนา ชบาไพร) ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ศิริขวัญ นันทศิริ รติรส จอมขวัญ กัมทรทิพย์ อำนวยการสร้าง จงรักษ์ พึ่งสวัสดิ์ ดำเนินงาน นคร ภู่ดี ถ่ายภาพ ประศักดิ์ พยนต์ภาค กำกับบท ขวัญใจภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
สู้ (2519/1976) มหามัน สะท้านแผ่นดิน บ้าบิ่นไม่มีใครเท่า เพราะเขา... สู้ ของ รวี ก้องหล้า
ราม (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) อดีตทหารรับจ้างที่กลีบสู่บ้านเกิด ทว่าเขากลับถูกบีบให้ต้องเป็นศัตรูกับแก๊งค์อันธพาล เขาพยายามปลุกระดมให้ทุกคนในหมู่บ้านลุกขึ้นสู้กับอิทธิพลเถื่อน รวมถึงขอความช่วยเหลือกับทางการ ทว่าทุกคนกลับหันหลังให้เขา แต่นั่นไม่ได้ทำให้นักสู้อย่างรามยอมแพ้ เขาจะต่อกรกับเหล่าอันธพาลทั้งหมดแม้ว่าจะหลือเขาสู้อยู่คนเดียวก็ตาม!
ดับสุริยา (2519/1976) ข้อความบนใบปิด เทพศิลป์ภาพยนตร์ เสนอผลงานต่อจาก เสน่หาอาลัย “กูเปรียบเสมือนแสงอาทิตย์ที่แผดจ้า มีรึ..ที่จะให้ก้อนเมฆเท่าส้นตีนมาบังเสียได้..” ดับสุริยา ของ อรวรรณ (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (พิศมัย วิไลศักดิ์) (ไพโรจน์ ใจสิงห์) ศิริขวัญ นันทศิริ ธัญญารัตน์ โลหะนันท์ (มานพ อัศวเทพ) (เกชา เปลี่ยนวิถี) (สายัณห์ จันทรวิบูลย์) ภุชชงค์ ทาริกา ธิดาทิตย์ วิทยา สุขดำรงค์, รอง เค้ามูลคดี, ศศิธร เพชรรุ่ง, ม.ล.รุจิรา-มารศรี อิศรางกูร, ดวงพร, สุดสวาท, นิตยา, (สมชาย สามิภักดิ์), สมเกียรติ พัฒนทรัพย์, จุมพล, (ทานทัต วิภาตะโยธิน), เมฆิน, จังโก้, เข้ม, เมือง อพอลโล่, เบี้ยว, พีรพล, บัญชา, พาส, อาจ, เล็ก พร้อมด้วยขบวนการดาวร้ายทั้งหมดแห่งโลกเซลลูลอยด์ไทย วัชรี อรรถไกวัลวที อำนวยการสร้าง พันธุ์เทพ อรรถไกวัลวที กำกับการแสดง สมาน ทองทรัพย์สิน ถ่ายภาพ ปัญญา แก้วกียูร กำกับบท ประสิทธิ์ ศิริบันเทิง สร้างบทภาพยนตร์ สหมงคลฟิล์ม จัดจำหน่าย
ขุนศึก (2519/1976) 15 ปี หลังจากกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พระเจ้าบุเรงนอง สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ทรงกรีธาทัพไทย พร้อมด้วยถสมเด็จพระเอกาทศรถ พระอนุชา เข้ายึดเมืองแกลงอันเป็นเมืองเชื่อมเขตแดนไทยกับพม่า ได้ทรงหลั่งอุทกธาราประเทศตัดไมตรีกับพม่า พม่ายกกำลังบุกไทย เสมาคุมทหารกองหนึ่งจากท่านขุนลิต ขุนลิตสู้จนตัวตาย เสมาสืบทอดเจตนารมณ์ทำงานต่อจากขุนลิต รวบรวมกองอาสาและนำเรื่องกราบเรียนพระธรรมนูญ พระธรรมนูญรับเสมาเข้าร่วมรบ ทัพหน้าของพระธรรมนูญเข้าตีทัพพม่า จนพม่าถอยทัพกลับ บ้านเมืองจึงสงบ และเสมาได้บรรดาศักดิ์เป็นขุนแสนศึกพ่าย
เสือ 4 แคว (2519/1976) เพลิง ปากน้ำโพ หลบหนีตำรวจระหว่างถูกคุมตัวไปศาลได้สำเร็จ แต่เขาจำต้องนำตัวชาติ เจ้าพระยา ตามไปด้วยเพราะทั้งคู่มีกุญแจมือผูกติดกัน ทั้งคู่ตัดสินใจโหนตัวบนรางรถไฟให้รถวิ่งมาตัดโซ่ขาด เมื่อสำเร็จก็แยกย้ายกันคนละทาง เพลิงกลับบ้านเกิดเพื่อหาทางแก้แค้นพ่อเลี้ยงดวงตะวันที่หักหลังจนเขาถูกตำรวจจับ ขณะที่ชาติเข้าไปเป็นมือปืนในแก๊งพ่อเลี้ยงดวงตะวัน และเจอคู่ปรับเป็นมือปืนฉายาเสือ 4 แคว ซึ่งมีเสือปิง เสือวัง เสือยม และเสือน่าน หากงานนี้จะสำเร็จได้ ทั้งเพลิงและชาติมีทางเดียว คือจำต้องร่วมมือกันเท่านั้น
เมื่อพรรคพวกของเพลิง ปากน้ำโพ (กรุง ศรีวิไล) ดักชิงตัวเพลิงขณะถูกควบคุมตัวไปศาล แต่ก็ได้ตัวชาติ เจ้าพระยา (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) ติดมาด้วยเพราะกุญแจมือผูกติดกัน ซึ่งต่อมาทั้งคู่ก็ตัดโซ่ได้โดยใช้โซ่พาดกับรางรถไฟที่สะพานข้ามแม่น้ำ เมื่อรถไฟวิ่งมาทับ โซ่ก็ขาด ทั้งคู่ก็ตกลงไปในแม่น้ำแยกกันไปคนละทาง เพลิงเดินทางกลับหมายไปแก้แค้นพ่อเลี้ยงดวงตะวัน ((เกชา เปลี่ยนวิถี)) โทษฐานที่หักหลังเรื่องยาเสพติดจนเพลิงถูกตำรวจจับไป แต่พ่อเลี้ยงก็ไหวทันชิงจับตัววาริน (นัยนา ชีวานันท์) น้องสาวเพลิงไปขังไว้เป็นตัวประกันก่อนและสั่งมือปืนฉายาเสือ 4 แควซึ่งมีเสือปิง (ชนะ ศรีอุบล) เสือวัง (พิภพ ภู่ภิญโญ) เสือยม (โดม สิงหโมฬี) เสือน่าน (ดามพ์ ดัสกร) ให้มาตามฆ่าเพลิงอีกด้วย แต่เพลิงก็รู้ข่าวตลอดจากดวงแก้ว (เรวดี ปัตตะพงษ์) น้องสาวพ่อเลี้ยง ต่อมาชาติก็เข้ามาเป็นมือปืนให้กับพ่อเลี้ยงดวงตะวัน ซึ่งทำให้พวกเสือ 4 แควไม่พอใจ ระหว่างนั้นชาติก็แอบสืบจนรู้เบื้องหลังว่า พ่อเลี้ยงค้ายาเสพติดและรู้ที่คุมขังตัววารินและเข้าไปช่วยเหลือโดยมีจอย (อัมรัตน์ ขัตติยา) สายตำรวจที่ยอมตัวมาเป็นเมียน้อยของพ่อเลี้ยงดวงตะวันช่วยเหลืออีกทาง แต่ไม่นานชาติก็ถูกพ่อเลี้ยงจับได้และนำตัวไปมัดพาดไว้บนรางรถไฟ แต่จอยก็ไปบอกเพลิงให้มาช่วยชาติไว้จนรอดตาย จากนั้นชาติและเพลิงก็ร่วมมือกับตำรวจเข้าทลายรังของพ่อเลี้ยงดวงตะวัน
เทวดาเดินดิน (2519/1976) เรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นที่ทำงานเถื่อน เริ่มจากขนยาเสพติด ขโมยของปล้นร้านทอง ขโมยรถ และฆ่าคน พวกเขาใช้ชีวิตอย่างอิสระและไม่เกรงกลัวกฎหมาย จนได้รับฉายาว่า "เทวดาเดินดิน" แต่ก็ถูกตำรวจตามล่าจนต้องหนีลงใต้
ในปี พ.ศ. 2520 ต้อย (ต่อลาภ กำพุศิริ) ปลอมตัวเป็นลูกศิษย์วัด แล้วนำผงขาวไปส่งลูกค้าแต่ถูกตำรวจตามล่า ขณะกำลังหนีเอาตัวรอด ต้อยขับรถชนรถ พล (สรพงษ์ ชาตรี) ที่กำลังมีเรื่องกับนักข่าวไพบูลย์ และกำลังจะถูกตำรวจเล่นงาน พลจึงกระโดดขึ้นรถต้อยและหนีไปด้วยกัน ต้อยขอตามไปอยู่กับพลด้วย พลแนะนำให้รู้จักกับน้อง (วิยะดา อุมารินทร์) พวกเขาไม่ทำงานเที่ยว เอาแต่ขโมยของ ปล้นฆ่าคนตามอำเภอใจ ไพบูลย์จึงให้ฉายาทั้งสามว่า เทวดาเดินดิน
ทั้งสามหนีการตามล่าของสารวัตรบุญลงภาคใต้ ระหว่างหนี พลช่วยแอ๊ด (กิตติ ดัสกร) ที่เกือบตกรถไฟไว้ได้ จึงตกลงเป็นเพื่อน และพาไปอยู่ด้วยกัน ทั้งหมดชวนกันปล้นธนาคารที่บูลย์ (บู๊ วิบูลย์นันท์) ทำงานอยู่ บูลย์ขอเข้าเป็นพวกและร่วมทีมอีกคน ทั้งหมดปล้นฆ่าไปทั่ว คืนหนึ่งขณะที่พวกพลเริงร่ากับเงินที่ปล้นมาได้ สารวัตรบุญพาตำรวจล้อมจับ แต่พวกพลไม่ยอมจึงต่อสู้กับตำรวจ จนทำให้บูลย์ถูกยิงตาย
พล น้อง ต้อย และแอ๊ด หนีเข้าไปในป่าเลาะซึ่งเป็นเขตอันตราย น้องถูกกับดักที่ขาบาดเจ็บ พวกพลถูกชาวป่าเลาะจับตัวไปสอบสวน ตกดึกหมู่บ้านป่าเลาะถูกบุกแอ๊ดสู้จนตาย ชาวป่าเลาะเป็นฝ่ายชนะ แต่ต้องการให้ พล น้อง ต้อย ออกจากหมู่บ้านไป น้องกำลังจะตายเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว น้องอยากจะไปพัทยา พลตกลงจะพาไป ขณะที่พล ต้อย และน้อง กำลังไปพัทยา ก็ถูกตำรวจตามล่าและปิดล้อม ทุกคนหนีขึ้นไปบนตึกและยึดชั้นบนได้ นักข่าวไพบูลย์แอบขึ้นไปคุยกับพล และพยายามกล่อมให้พลยอมจำนน แต่พลไม่ยอม สุดท้ายทั้งหมดจึงถูกตำรวจฆ่าตาย
3 นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ (2519/1976) เสี่ยเคี้ยงมีลูกน้องมาก ชอบรังควานชาวบ้านและเป็นคู่อริกับพ่อเลี้ยงยัน จอมเป็นลูกน้องของพ่อเลี้ยง มาอยู่กับพ่อเลี้ยงพร้อมกับ สีทองซึ่งเป็นเมีย ต่อมาเมียของจอมถูกฆ่า จอมจึงออกตามหาฆาตกรด้วยตัวเอง ด้านพ่อเลี้ยงจับได้ว่าเมียมีชู้กับลูกน้องที่ชื่อ โรจน์
เสาร์ 5 (2519/1976) เรื่องราวของ 5 สหายที่เกิดในวันเสาร์ห้า คือ เทิด ยอดธง (กรุง ศรีวิไล) กริ่ง คลองตะเคียน (สรพงศ์ ชาตรี) ดอน ท่ากระดาน (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) เดี่ยว สมเด็จ (ไพโรจน์ ใจสิงห์) ยอด นางพญา (สิงหา สุริยง) ซึ่งมีพระประจำตัวจึงหนังเหนียว คงกะพันกันทุกคน แล้วขบวนการเสาร์ 5 ก็เข้าร่วมปฏิบัติการรบใต้ดิน อีกครั้งเมื่อองค์การจาร์ก้าคิดร้ายทำลายชาติ
ชายหนุ่ม 5 คนที่เกิดวันเสาร์ที่ 5 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 เหมือนกันและมีพลังพิเศษจากพระเครื่อง 5 องค์อยู่ในตัวซึ่งต้องร่วมมือกันหยุด ยั้งกลุ่มก่อการร้าย "จาร์ก้า" ที่ขโมยอาวุธนิวเคลียร์มาจากยุโรปเพื่อใช้ข่มขู่เรียกเงินจำนวน 1,000 ล้านดอลลาร์จากประเทศเอเชียแล้วพวกเขาทั้ง 5 จะหยุดยั้งแผนการร้ายของจาร์ก้าได้หรือไม่
ไอ้ปืนแฝด (2519/1976) ข้อความบนใบปิด ไทยสตาร์ภาพยนตร์ เสนอ ไอ้ปืนแฝด ของ เพชร สถาบัน พระเอกตุ๊กตาทอง (กรุง ศรีวิไล) พบ 2 พระเอก 2 นางเอก และดาราชั้นนำ สรพงศ์ ชาตรี ธัญญรัตน์ โลหะนันท์ (ตึ๋ง อัศวิน รัตนประชา) เนรัญชลา เถลิงศักดิ์ (มานพ อัศวเทพ), ดามพ์ ดัสกร, กฤษณะ อำนวยพร, พิภพ ภู่ภิญโญ, (ล้อต๊อก), บาหยัน พันธุ์โสภา, เหมยฟ้า สันติ สันติพัฒนาชัย อำนวยการสร้าง สนธยา ดวงทองดี ดำเนินงาน นิวัติ ศิลปสมศักดิ์ ถ่ายภาพ สว่าง บุณกาญจน์ ธุรกิจ ดวง สุริยา กำกับการแสดง ไทยสตาร์ จัดจำหน่าย
วีรบุรุษกองขยะ (2519/1976) ข้อความบนใบปิด ปริทรรศน์ฟิล์ม โดย ชุติมา สุวรรณรัต เสนอผลงานยอดเยี่ยม เพื่อเชิดชูวีรกรรมอันห้าวหาญ ของตำรวจตระเวนชายแดน.. สรพงศ์ ชาตรี ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ (มานพ อัศวเทพ) (3 คนรวมกัน 3 ตุ๊กตาทอง) (ตึ๋ง อัศวิน รัตนประชา) ดวงใจ หทัยกาญจน์ (ครรชิต ขวัญประชา) ทม วิศวชาติ, วิทยา สุขดำรงค์, (เมตตา รุ่งรัตน์), (สุวิน สว่างรัตน์), (สมชาย สามิภักดิ์), สุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต และ ด.ญ.บรรจง นิลเพชร วีรบุรุษกองขยะ ชุติมา สุวรรณรัต กำกับการแสดง เฉลิม บุตรบุรุษ ถ่ายภาพ ประวิทย์ ขุ่มฤทธิ์ กำกับบท ปริทรรศน์ฟิล์ม จัดจำหน่าย
ชุมแพ (2519/1976) เพิก ชุมแพ (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) กลับมายังชุมแพอีกครั้งหลังจากที่ต้องจากไปนานเพราะพ่อของเขาถูกฆ่าตาย โดยศัตรูเก่าของเขาคือจ่าบุญถม ((เกชา เปลี่ยนวิถี)) ตำรวจเก่าเจ้าของฉายา จ่าถม นิยมไถ เพราะจ่าถมมีธุรกิจผิดกฎหมายหลายอย่างรวมทั้งในอิทธิพลในการรีดไถชาวบ้านมากมาย
จ่าถมใช้ความคุ้นเคยกับ ร.ต.อ.ไชโย วีรพล (นาท ภูวนัย) นายตำรวจมือปราบที่มาชอบพอกับดวงพร (ธัญญรัตน์ โลหะนันท์) มาสร้างอิทธิพลในอีกทางหนึ่ง แต่ผู้กองไชโยเป็นตำรวจตงฉินเมื่อรู้เข้าก็แยกตัวห่างจากจ่าถม ในขณะที่เพิกเองก็ทำการตอบโต้จ่าถมด้วยการขัดขวางการรีดไถของจ่าถมทำให้จ่าถมโกรธมากจึงตามตัว ภู น้ำพอง (ดามพ์ ดัสกร) ลูกเก่ามาช่วยจัดการกับเพิก
ผู้ใหญ่เสือ (มานพ อัศวเทพ) ศัตรูเก่าอีกคนของเพิกออกปล้นชาวบ้านโดยใช้ชื่อเสือเพิกทำเพิกเป็นที่ต้องการตัวของทางการ โดยเฉพาะผู้กองไชโยที่ต้องการจับเพิกให้ได้ เพิกไปขอความช่วยเหลือจากพิณ ภูเขียว (ครรชิต ขวัญประชา) เพื่อนเก่าพร้อมกับจับตัวแววดาว (ปิยะมาศ โมนยะกุล) หญิงสาวที่จ่าถมหมายปองมาสอบสวนแต่สุดท้ายก็ปล่อยตัวไป
ภูวางแผนลอบฆ่าเพิก แต่ดอน (ลักษณ์ อภิชาติ) ลูกน้องของจ่าถมที่เพิกเคบช่วยไว้ไม่ลงมือสังหารเพิก ทำให้ดอนต้องหลบหนีมาเข้ากับเพิก จากนั้นเพิกก็วางแผนตอบโต้ครั้งใหญ่ จับดวงพรที่ไม่รู้การกระทำของพ่อไปไว้ที่อื่น จับตัวจ่าถมและผู่ใหญ่เสือมาแล้วลลวงให้ลูกน้องของทั้งสงคนมาช่วยและพาไปชุมนุมกันอยุ่ที่รังใหญ่ของจ่าถม จากนั้นเพิกก็ให้คนไปแจ้งผู้กองไชดยยกกำลังมาจับจ่าถมและพวก การปะทะครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น จ่าถมถูกจับ ส่วนภูก็ตายไปในการดวลปืนกันผู้กองไชโย ส่วนเพิกจะขอไปมอบตัวในวันรุ่งชึ้น และเมื่อวันนั้นมาถึงความจริงก็เปิดเผยว่า แท้จริงแล้วแววดาวคือ ร.ต.ท.หญิงแววดาว ส่วนเสือเพิกคือ นายอำแภอ เพิก ชุมแพ นายอำเภอคนใหม่
ท้ามฤตยู (2519/1976) พันตรีตวงอรรถ ผู้บังคับการกองพันทหารพรานรับจ้าง ได้รับภารกิจจากกองทัพบกสหรัฐอเมริกา ให้ลอบสังหาร ท้าวโกสี อำพันทอง ผู้นำผู้ก่อการร้ายฝั่งลาว ภารกิจครั้งนี้เต็มไปด้วยความน่าสงสัยและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต สถานการณ์ที่พลิกผันส่งผลให้ตวงเริ่มตั้งคำถามว่า เหตุใดท้าวโกสีถึงมีค่าต่อกองทัพสหรัฐยิ่งนัก
นรกตะรูเตา (2519/1976) ภาพยนตร์ที่สร้างโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงของเกาะตะรุเตา ซึ่งเคยถูกใช้เป็นสถานที่คุมขังนักโทษการเมืองในช่วงต้นของการเปลี่ยนแปลงการปกครองปี พ.ศ. 2475 เรื่องราวของพันโทหลวงพิษณุรักษ์เสนา ร้อยเอกสกล และบรรดานักโทษการเมือง ซึ่งถูกจับกุมตัวไปจองจำอยู่ในคุกตะรุเตา และต้องเผชิญกับการทารุณกรรมโดยจ่าเผื่อน ผู้คุมจอมโหด แต่กระนั้นพวกเขายังได้รับมิตรภาพที่ดีจากหมอปรีชา แพทย์ประจำเกาะ รวมทั้งได้พบเจอกับ บุหงาและตันหยง สองสาวชาวเกาะแสนสวย
พ.ศ. 2475 หลังจากเปลี่ยนแปลงการปกครอง รัฐบาลได้จับกุมข้าราชการทหาร พ่อค้า ประชาชน ผู้มีความเห็นขัดแย้งทางการเมือง ไปกักขังยังเกาะตะรูเตา พันโทคุณหลวงพิษณุรักษ์เสนา (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) ร้อยเอกสกล (นาท ภูวนัย) และพรรคพวกก็ถูกส่งไปยังสถานกักกันบนเกาะนรกตะรูเตาเช่นกันทั้งหมดต้องหาทางแหกคุก