คู่ซ่ารสแซ่บ 2560

คู่ซ่ารสแซ่บ

คู่ซ่ารสแซ่บ (2560/2017) เรื่องวุ่นๆ เริ่มต้นขึ้น เมื่อลูกสาวเจ้าของโรงงานปลาร้า จับพัดจับผลูมาแต่งงานกับไฮโซหนุ่มเนื้อหอม ผู้ขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้ หญิงสาวจากแดนอีสาน ผู้ไม่เคยยอมก้มหัวให้ใคร กับชายหนุ่มที่แสนจะหยิ่งทะนง แถมพกพาความดันทุรังสูงมาตั้งแต่เกิด ต้องมาใช้ชีวิตร่วมกัน ภายใต้ข้อตกลงของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย สงครามการต่อสู้เพื่อประกาศชัยชนะระหว่างหนึ่งหนุ่มกับหลายสาว จึงเริ่มขึ้นพร้อมๆ กับความรู้สึกผูกพันของคู่รักต่างถิ่น ที่ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ แต่ชัดเจนไปด้วยความรู้สึกของคนสองคน สุดท้ายแล้ว เรื่องราววุ่นๆ จะลงเอยอย่างไร มีเพียง แม่ปลาร้ากับพ่อปลาไหลเท่านั้น ที่รู้คำตอบ หลังจากเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในรอบสิบปี โรงงานทำปลาร้าแปรรูป ‘แม่ศรีไทยแลนด์’ ต้องกลายเป็นโรงงานร้าง เนื่องจากตัวโรงงาน เครื่องจักรในการผลิต ตลอดจนวัตถุดิบฯลฯ อันเป็นส่วนประกอบสำคัญของโรงงานเสียหายจนไม่อาจนำกลับมาใช้งานได้ หายนะที่เกิดขึ้นครั้งนี้ทำให้ เรือนแก้ว(มณีนุช เสมรสุต) ผู้เป็นเจ้าของถึงกับล้มป่วยเข้าโรงพยาบาล เดือดร้อนถึง รสริน (พีชญา วัฒนามนตรี) ลูกสาวคนเดียว ที่ต้องรับภาระในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับโรงงาน รวมทั้งฟื้นฟูสภาพจิตใจมารดา ทั้งที่ความจริงแล้ว รสรินเองก็น้ำตาตกในไม่ต่างจากเรือนแก้วเท่าไรนัก โชคดีที่สองแม่ลูกยังมี สายบัว(ศิรินุช เพ็ชรอุไร) พี่สาวคนเดียวของเรือนแก้วคอยเตือนสติให้กำลังใจ กระทั่งเรือนแก้วมีอาการดีขึ้น หลังออกจากโรงพยาบาล เรือนแก้ว สายบัว และรสริน เริ่มต้นปรึกษาหาทางออกให้กับธุรกิจของครอบครัว ที่เวลานี้ แทบมองไม่เห็นหนทางในการฟื้นฟูกิจการให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เนื่องจากขาดเงินทุนหมุนเวียน รสรินบอกให้แม่ไปยืมเงินจากญาติทางพ่อซึ่งมีฐานะเข้าขั้นเศรษฐี แต่เรือนแก้วรู้อยู่แก่ใจดีว่าญาติของ อรรณพ ไม่เคยยอมรับเธอในฐานะสะใภ้ และหลังจากอรรณพจบชีวิตลงด้วยโรคร้าย สองแม่ลูกจึงกลายเป็นคนอื่น แม้แต่นามสกุล เรือนแก้วกับลูกสาวยังต้องเปลี่ยนมาใช้นามสกุล ‘เนินสูงชัน’ ตามเดิม เรือนแก้วนึกได้ว่า อรรณพมีเพื่อนรักอยู่คนหนึ่งชื่อศักดิ์สกุล(ทูน หิรัญทรัพย์) ประสบความสำเร็จร่ำรวยจากการทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ เขาได้ให้นามบัตรไว้กับเรือนแก้วพร้อมกับย้ำว่า หากเธอมีเรื่องเดือดร้อนให้ติดต่อเขาได้ทุกเวลา เรือนแก้วจึงตัดสินใจโทรศัพท์เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับโรงงานให้ศักดิ์สกุลฟัง พร้อมทั้งเอ่ยปากขอกู้เงินจำนวนหนึ่งเพื่อนำมาปรับปรุงโรงงานและซื้อเครื่องจักร ศักดิ์สกุลรีบเดินทางมาพบเรือนแก้วกับรสริน พร้อมนำเช็คเงินสดสามสิบล้านบาทมามอบให้สองแม่ลูก โดยไม่มีสัญญาเงินกู้ เรือนแก้วกับรสรินจึงลังเลที่จะรับความช่วยเหลือ เมื่อสองแม่ลูกถามความเห็นของสายบัว ซึ่งเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายอยู่แล้ว ก็ได้รับคำตอบว่า ขืนรับความช่วยเหลือครั้งนี้ ดีไม่ดี โรงงานแม่ศรีไทยแลนด์ อาจตกเป็นของศักดิ์สกุลในอนาคตก็เป็นได้ เรือนแก้วจำต้องปฏิเสธความช่วยเหลือจากศักดิ์สกุล ศักดิ์สกุลดูเหมือนจะรู้เท่าทันความคิดของสามสาวตระกูลเนินสูงชัน เขาจึงขอคุยกับเรือนแก้วเป็นการส่วนตัว ศักดิ์สกุลจึงเล่าถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างเขากับอรรณพที่ผ่านมาให้เรือนแก้วฟัง ก่อนจะตบท้ายด้วยการเล่าถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ศักดิ์สกุลไม่ต้องการให้ กรพงศ์(ศุกลวัฒน์ คณารศ) ลูกชายคนโตแต่งงานกับ อรอาภา(ธัญกันต์ ธนกิตต์ธนานนท์) ลูกสาวคนเดียวของ รัฐมนตรีวีระ(กฤตย์ อัทธเสรี) นอกจากนั้นเขายังต้องการดัดนิสัย เจ้าชู้ เอาแต่ใจของลูกชาย ที่วันๆ ไม่ยอมทำงานทำการ เวลานี้เขามองไม่เห็นใครที่มีความสามารถมากพอที่จะช่วยลูกชายให้รอดพ้นจากเงื้อมือของอรอาภาได้ นอกจาก รสริน เพียงคนเดียวเท่านั้นและเขาเชื่อว่าผู้หญิงอย่างรสรินนี่ละที่จะปราบพยศลูกชายได้ ถ้าเรือนแก้วคิดจะตอบแทนความช่วยเหลือของเขา ก็ต้องยอมให้รสรินแต่งงานจดทะเบียนกับกรพงศ์ซึ่งจะทำกันแต่เพียงในนามเท่านั้น หลังจากเรือนแก้วนำเงินมาใช้คืนรสรินก็จะเป็นอิสระทันที เรือนแก้วจึงเรียกรสรินมาพูดคุยถึงข้อเสนอของศักดิ์สกุล รสรินตอบปฎิเสธทันทีโดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา เรือนแก้วจนใจไม่รู้จะหาเหตุผลใดมาจูงใจลูกสาวให้ร่วมมือกับภารกิจครั้งนี้ สายบัวซึ่งนั่งฟังเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบจึงเป็นคนชี้หนทางสว่างให้หลานสาว ด้วยการอ้างถึงความเดือดร้อนของคนงานหลายสิบชีวิตที่ต้องตกงาน หลังจากรับฟังเหตุผลยาวเหยียดจากป้าสายบัวในที่สุดรสรินจึงตอบตกลงรับข้อเสนอของศักดิ์สกุล ศักดิ์สกุลที่พอรู้ข่าวก็วางแผน ปรึกษากับ พิมพ์เพทาย(ณัฐชา นวลแจ่ม) ลูกสาวคนเล็กของเขา ที่ไม่ต้องการให้พี่ชายตกเป็นเหยื่อนางแบบสาวที่สวยแต่รูปอย่างอรอาภา และหลังจากสองพ่อลูกคิดแผนการเพื่อรับมือกรพงศ์กับดวงกมล(เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์)ได้แล้ว ศักดิ์สกุลจึงเริ่มดำเนินการตามแผนทันที กรพงศ์ถึงกับร้องลั่นเมื่อศักดิ์สกุลบอกเรื่องที่เขาต้องแต่งงานกับลูกสาวเจ้าของโรงงานทำปลาร้า ไม่ว่าหัวเด็ดตีนขาดยังไง เขาก็ไม่ยอมทำตามคำสั่งของพ่อเป็นอันขาด ศักดิ์สกุลจึงยื่นคำขาดว่า จะยกเลิกบัตรเครดิตทุกใบที่กรพงศ์ครอบครอง รวมทั้งเงินได้รายเดือนที่ได้รับ เมื่อได้ฟังคำพูดของบิดาชายหนุ่มถึงกับคอตก สุดท้ายจึงยอมรับข้อเสนอนั้นแต่โดยดี หลังจากนั้นกรพงศ์และอรอาภาได้มาแอบดูหน้าว่าที่เจ้าสาวก่อนที่บ้านเกิดรสริน ก็เกิดตกใจเพราะเข้าใจผิดว่าจิ้งหรีด(ปรัชญานันท์ สุวรรณมณี)ลูกสาวคนงาน คือ รสริน ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กรพงศ์คิดจะล้มงานวิวาห์ให้ได้ ศักดิ์สกุลได้พากรพงศ์มาที่ขอนแก่นอีกครั้ง กรพงศ์จึงแอบหนีออกมาเที่ยวในเมือง ได้มาเจอกับรสรินซึ่งก็เกิดชอบในหน้าตา และนิสัยของหญิงสาว แต่รสรินไม่ยอมบอกความจริงว่าตัวเองเป็นใคร ทำให้กรพงศ์ยิ่งอยากค้นหาและสุดท้ายก็ตกหลุมรักเธอและอยากพาหนีไปอยู่ด้วยกัน ในระหว่างที่ทั้งคู่ไปเที่ยวที่ต่างๆ กรพงศ์มักจะพูดจาให้ร้ายว่าที่เจ้าสาวว่าเป็นคนไม่สวย หวังแต่จะเกาะครอบครัวตนกิน ทำให้รสรินคิดแผนดัดหลังจนกว่าจะถึงวันแต่งงาน งานแต่งงานระหว่างกรพงศ์กับรสรินจึงเกิดขึ้นท่ามกลางความแปลกใจของแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน และบรรดาหญิงสาวที่เคยควงคู่กับกรพงศ์มาก่อน มีเพียงอรอาภาคนเดียวเท่านั้นที่รู้ถึงความจำเป็นในการตัดสินใจแต่งงานกะทันหันของชายหนุ่มที่เธอหมายปองในครั้งนี้ เพราะก่อนหน้านั้นดวงกมลยังคงยืนยันว่าต้องการให้เธอเข้ามาเป็นสะใภ้ของศาสตราบุรินทร์เหมือนเดิม อรอาภาจึงขนบรรดาเหล่าเพื่อนนางแบบมาเฉิดฉายในงานแต่งของกรพงศ์กับรสริน และจัดการลักหาตัวจิ้งหรีดที่นึกว่าเป็นรสรินไปทำให้เสียโฉมเพิ่มความอับอายหวังล้มงานวิวาห์ แต่สุดท้ายเมื่อทุกคนมาเห็นรสรินตัวจริง กรพงศ์เกิดอาการตะลึงและโมโหที่ตัวเองโดนหลอก อรอาภารู้สึกเสียหน้าที่เห็นหน้ารสรินที่ทั้งสวย หุ่นดี บุคลิกลักษณะไม่มีเค้าบ้านนอกอย่างที่เธอวาดไว้ อรอาภาต่อว่ากรพงศ์ที่หลอกเธอเรื่องรสริน เพราะอรอาภารู้ดีว่า ถึงกรพงศ์ไม่เต็มใจแต่งงาน แต่พ่อปลาไหลจอมเจ้าชู้อย่างเขามีหรือจะไม่เนื้อเต้นที่ได้แต่งงานกับสาวสวยหุ่นดี ถึงจะเป็นทายาทโรงงานปลาร้า กรพงศ์ยังคงยืนยันหนักแน่นว่าเขากับรสรินแต่งงานกันเพียงในนามเท่านั้น แถมยังหยอดคำหวานว่าทันทีที่เขาหย่าขาดกับรสริน เขาจะรีบแต่งงานกับอรอาภาทันที ชายหนุ่มทั้งแค้นและอยากเอาคืนรสริน ซึ่งเหตุการณ์ทุกอย่างล้วนตกอยู่ในสายตาของรสรินที่เริ่มเก็บข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขา เพื่อจะได้วางแผนรับมือกับการทำหน้าที่ภรรยาพ่อปลาไหล และลูกสะใภ้ตระกูลศาสตราบุรินทร์ในครั้งนี้ ข่าวการแต่งงานของรสรินสร้างความเสียใจให้กับ พลวัฒน์ (ธนากร ศรีบรรจง) เพื่อนชายคนสนิทที่แอบหลงรักรสรินมานาน แต่เธอก็ยืนยันว่าเธอรู้สึกกับเขาแค่เพื่อนเท่านั้น และเธอรู้ดีว่า นวลพรรณ (วรางคนาง วุฑฒยากร) เพื่อนรักของเธอรู้สึกอย่างไรกับพลวัฒน์ เมื่อรสรินแต่งงานกับกรพงศ์แล้ว เธอคิดว่าอีกไม่นานพลวัฒน์คงตัดใจจากเธอได้ แต่ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของนวลพรรณด้วยเช่นกัน หลังจากรสรินก้าวเข้ามาเป็นสะใภ้ของศาสตราบุรินทร์ หญิงสาวต้องย้ายจากต่างจังหวัดมาอยู่ในบ้านศักดิ์สกุลที่กรุงเทพฯ พร้อมกับเริ่มต้นศึกษาธุรกิจบ้านจัดสรรที่ศักดิ์สกุลเพิ่งเริ่มดำเนินโครงการได้เพียงไม่นาน พร้อมๆ กับการทำหน้าที่ภรรยาของกรพงศ์ ด้วยการประกาศตัวกับสาวๆ ทุกคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับสามีตามกฏหมาย นอกจากนั้นเธอต้องดึงชายหนุ่มเข้ามาทำงานที่บริษัท กรพงศ์ต่อต้านทุกอย่างที่รสรินสั่งให้เขาทำ ก่อนแต่งงานเคยทำตัวอย่างไร เขาก็ทำอย่างนั้น รสรินเริ่มถอดใจในการทำหน้าที่ภรรยาของกรพงศ์ เธอคิดจะกลับบ้านไปช่วยเรือนแก้วบริหารโรงงาน เมื่อใช้หนี้หมดแล้วเธอค่อยหย่าขาดจากชายหนุ่ม เวลานี้นอกจากจิ้งหรีดที่เรือนแก้วส่งให้มาอยู่เป็นเพื่อนเธอแล้ว เธอก็แทบไม่มีใครที่สามารถพูดคุยปรับทุกข์ด้วยได้ ขณะที่รสรินเกิดความท้อแท้ โรงงานแม่ศรีไทยแลนด์ก็เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ยอดสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทคู่ค้ามีจำนวนเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ส่งผลให้บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ตรงกันข้ามกับโครงการบ้านจัดสรรของศักดิ์สกุลที่เริ่มประสบปัญหา เนื่องจากถูกมือดีปล่อยข่าวเรื่องการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน กระทั่งทางเขตได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ แม้ผลการตรวจสอบจะเป็นไปด้วยดี แต่ข่าวที่ออกไป กลับส่งผลกระทบต่อยอดสั่งจอง รสรินรับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับโครงการบ้านจัดสรร เธอจึงโทรไปปรึกษากับนวลพรรณหญิงสาวแนะนำให้รสรินไปขอความช่วยเหลือจากพลวัฒน์ ที่เวลานี้ทำงานอยู่สำนักพิมพ์บ้านแสนสุขซึ่งจัดพิมพ์นิตยสารเกี่ยวกับการตกแต่งบ้าน รสรินตอบตกลงทันทีเพื่อพลิกวิกฤตที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ให้เป็นประโยชน์กับบริษัท รสรินจึงเริ่มต้นภารกิจกอบกู้ชื่อเสียงของบริษัท เมื่อเหตุการณ์ภายในบริษัทเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี รสรินได้รับการยอมรับจากศักดิ์สกุลมากขึ้น ถึงขนาดต้องการให้หญิงสาวกับลูกชายมีความสัมพันธ์กันอย่างจริงจัง แต่อรอาภายังคงเกาะติดกรพงศ์ รสรินเริ่มลุกขึ้นมาตอบโต้ กรพงศ์เริ่มเห็นใจรสริน เพราะนอกจากหญิงสาวจะต้องเป็นฝ่ายรับมือดวงกมลกับอรอาภาแล้ว เธอยังต้องช่วยทำงานในบริษัท ไหนจะต้องคอยดูแลปรนนิบัติเขาในฐานะภรรยา ทั้งเรื่องอาหารการกิน เสื้อผ้า จะยกเว้นเพียงเรื่องเดียวคือเรื่องบนเตียง กรพงศ์ไม่รู้เลยว่า ทุกเรื่องที่รสรินทำให้เขานั้น นอกเหนือจากต้องการตอบแทนบุญคุณของศักดิ์สกุลแล้ว ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่รสรินเก็บไว้ในใจก็คือ เธอต้องการเอาชนะกรพงศ์ให้หันมาสนใจเธอ จากที่เคยตั้งแง่รังเกียจรสริน กรพงศ์เริ่มมีความรู้สึกดีๆ ให้หญิงสาว เขาพยายามหัดกินอาหารที่มีส่วนผสมของปลาร้าที่หญิงสาวทำขึ้นโต๊ะ นากจากนั้นกรพงศ์ยังหันมาศึกษาธุรกิจของครอบครัว เขาเริ่มเข้าไปทำงานในบริษัท พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของชายหนุ่มสร้างความแปลกใจให้กับทุกคนในครอบครัว อานนท์น้องชายสุดหล่อของรสรินเรียนจบกับมาจากเมืองนอก รสรินเข้าใจว่าน้องชายไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเธอสั่งไม่ให้ใครบอกน้องกลัวน้องจะเรียนไม่จบ แต่สายบัวกลับส่งข่าวบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับรสรินทั้งหมดให้อานนท์ทราบ ทำให้อานนท์ไม่พอใจครอบครัวของกรพงศ์ และอานนท์ก็เอาความผิดทั้งหมดที่เกิดขึ้นไปโยนให้กับพิมพ์เพทายน้องสาวของกรพงศ์นั่นเอง รสรินเริ่มเห็นตัวตนอีกด้านของกรพงศ์ ที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรับผิดชอบ ความมีน้ำใจ ฯลฯ ซึ่งแต่ละเรื่องล้วนเป็นสิ่งที่สร้างความรู้สึกดีให้กับเธอ แต่หญิงสาวพยายามหักห้ามใจตัวเองไม่ให้คิดเกินเลยกับชายหนุ่ม เพราะรู้ดีว่าหลังจากเรือนแก้วนำเงินมาคืนศักดิ์สกุลครบตามจำนวนที่ยืมไปเสร็จเรียบร้อย เธอก็ต้องหย่าขาดจากกรพงศ์อยู่ดี อานนท์แสดงความไม่พอใจบ้านศาสตราบุรินทร์ทั้งบ้านไม่เว้นแม้แต่ศักดิ์สกุลกับพิมพ์เพทาย จนถูกพิมพ์เพทายตอกหน้ากลับไป อานนท์ขอร้องให้รสรินเลิกกับกรพงศ์แล้วกลับบ้าน แต่รสรินปฏิเสธอ้างว่าต้องทำตามสัญญา ทางด้านแม่ศรีไทยแลนด์ กิจการโรงงานปลาร้าดีขึ้นตามลำดับ พอรู้ข่าวเรื่องศาสตราบุรินทร์ก็กระวนกระวาย อานนท์เห็นพิมพ์เพทายถูกโจมตีในเฟส ก็เริ่มสงสาร อดไม่ได้ที่จะเข้าไปสู้กับพวกเกรียนคีย์บอร์ด จนถูกเอาไปลือว่าเป็นผัวพิมพ์เพทาย แต่แล้วอรอาภาต้องพบกับความผิดหวัง เมื่อศักดิ์สกุลกับกรพงศ์ปฏิเสธการช่วยเหลือครั้งนี้อย่างไม่ใยดี แถมสองพ่อลูกยังบอกอีกว่า เหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เป็นเพราะแผนการชั่วร้ายของอรอาภา เมื่อเหตุการณ์กลับตาลปัตร อรอาภาจึงเชิดหน้ากลับไปอย่างไม่เหลือเยื่อใย เพราะคิดว่าอีกไม่ช้ากรพงศ์กับครอบครัวจะต้องกลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว ในขณะที่เธอได้เงินมาฟรีๆ ถึงสามสิบล้านบาท อานนท์คิดเข้าทางอรอาภาเพื่อหาวิธีเอา 30 ล้านมาคืน อรอาภาหลงคารมอานนท์จนยอมเลิกกับหนุ่มไฮโซคนใหม่ที่เพิ่งคบแล้วเผยไต๋เรื่องความลับต่างๆ ออกมาจนหมด อานนท์เอาหลักฐานอันนี้ไปบลัฟ รมต.วีระให้คืนเงิน 30 ล้าน พร้อมกับให้แก้ข่าวให้ศาสตราบุรินทร์ รมต.วีระจำใจทำตามทั้งที่ยังแค้น แต่ทำอะไรไม่ได้ พิมพ์เพทายขอบคุณและเผลอกอดเขา ทั้งคู่เริ่มรู้ใจตัวเองว่าเริ่มชอบกันแล้ว แต่ยังคงวางท่ากันอยู่ ขณะที่เหตุการณ์ภายในครอบครัวกำลังคลี่คลายไปในทางที่ดี กรพงศ์กลับกำลังรับรู้ถึงความสูญเสียที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะเขารู้ดีว่า ขณะนี้ครอบครัวเขาต่างหากที่มีหนี้สินติดค้างกับครอบครัวรสรินดังนั้น คงถึงเวลาที่เขาต้องหย่าขาดกับหญิงสาว ตามที่ศักดิ์สกุลได้บอกไว้ เพื่อไม่เป็นการเอาเปรียบหญิงสาว เขาจึงเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอหย่ากับรสรินทันที รสรินเข้าใจว่ากรพงศ์ต้องการหย่าเพื่อกลับไปหาอรอาภา หญิงสาวจึงรีบทำตามความต้องการของชายหนุ่มทันที เมื่อต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระแล้ว รสรินได้เข้าไปลาศักดิ์สกุล ดวงกมล พิมพ์เพทาย ก่อนออกเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดทันที ในวันที่รสรินเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด พลวัฒน์ได้ขับรถมารับเธอที่บ้าน เมื่อกรพงศ์เห็นลักษณะท่าทางสนิทสนมที่สองหนุ่มสาวแสดงออกต่อกัน ทำให้เขาเริ่มตระหนักถึงความรู้สึกผูกพันที่มีต่อรสริน หลังจากวันที่หญิงสาวจากไปกรพงศ์เอาแต่เก็บตัวไม่พูดไม่จากับใครอาการซึมเศร้าของชายหนุ่มหาได้รอดพ้นจากสายตาคนในบ้าน เช่นเดียวกับรสริน หลังจากเป็นอิสระและกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดตามเดิม หญิงสาวได้แต่ทุ่มเทให้กับการทำงานในโรงงานวันๆ แทบไม่พูดไม่จากับใคร เรือนแก้วกับสายบัวต่างเฝ้ามองพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นคนละคนของรสรินด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ เรือนแก้วจึงโทรศัพท์ไปเล่าเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงของลูกสาวให้ศักดิ์สกุลฟัง ถึงได้รู้ว่ากรพงศ์ก็มีอาการเดียวกับรสริน ทั้งสองฝ่ายจึงสรุปว่าสองหนุ่มสาวนั้นรักกัน และจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากทุกคนที่เกี่ยวข้อง และแล้ว...แผนการพิสูจน์รักของกรพงศ์กับรสรินจึงเริ่มต้นขึ้น ในวันที่กรพงศ์ได้รับบัตรเชิญงานแต่งงานระหว่างพลวัฒน์กับรสริน ชายหนุ่มถึงกับพูดไม่ออก ศักดิ์สกุลกับดวงกมลเห็นอาการของลูกชายจึงรีบใส่ไฟว่า รสรินจำเป็นต้องแต่งงานกับพลวัฒน์เพื่อจะได้ลืมกรพงศ์ พร้อมทั้งกู้ชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล เพราะไม่อยากเป็นแม่หม้ายตั้งแต่ยังสาว กรพงศ์เริ่มคิดได้ว่า รสรินต้องมีใจให้เขาอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นคงไม่รีบแต่งงานเพื่อจะได้ลืมเขาตามที่ศักดิ์สกุลกับดวงกมลบอก คิดได้อย่างนั้นแล้ว กรพงศ์จึงรีบขับรถมุ่งหน้าไปหารสรินเพื่อขัดขวางงานแต่งงานที่จะมีขึ้น เมื่อเดินทางไปถึงที่หมาย กรพงศ์รีบบุกขึ้นไปหารสรินถึงห้องนอนของหญิงสาว รสรินซึ่งกำลังแต่งตัวเพื่อเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้นวลพรรณ ถึงกับตกใจและแปลกใจ เมื่อกรพงศ์ตรงเข้ากอดเธอพร้อมทั้งสารภาพความรู้สึกที่มีต่อเธอ ก่อนจะขอร้องให้เธอยกเลิกงานแต่งงานกับพลวัฒน์และกลับไปเป็นภรรยาเขาตามเดิม ด้านอานนท์ก็อ้อมแอ้มขอจีบพิมพ์เพทาย พิมพ์เพทายขอดูความประพฤติก่อนว่าจะไม่เป็นอย่างพี่ชายเธอ อานนท์เลยบอกว่าจะพิสูจน์ให้ดู รสรินดีใจที่ได้ฟังคำสารภาพรักจากกรพงศ์ หญิงสาวตัดสินใจบอกความรู้สึกที่มีต่อชายหนุ่มพร้อมทั้งย้ำว่างานแต่งงานในวันนี้ เป็นงานแต่งของพลวัฒน์กับนวลพรรณ ส่วนเธอเป็นแค่เพื่อนเจ้าสาวให้นวลพรรณแค่นั้น กรพงศ์ได้ฟังจึงหยิบการ์ดที่มีชื่อของรสรินกับพลวัฒน์ให้รสรินดู เมื่อเห็นการ์ดงานแต่งงานนั้นแล้ว รสรินรู้ได้ทันทีว่าเป็นแผนการของเรือนแก้วกับศักดิ์สกุลอย่างแน่นอน หลังจากกรพงศ์ได้ปรับความเข้าใจกับรสรินเสร็จเรียบร้อย สองหนุ่มสาวจึงพากันออกมานอกห้องและได้พบว่าผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายพร้อมทั้งคู่บ่าวสาวตัวจริงของงานได้ออกมายืนรอต้อนรับ ต่างพากันส่งเสียงโห่ร้องแสดงความยินดี ที่แม่ปลาร้ากับพ่อปลาไหลได้กลับมาคืนดีกันอีกครั้ง ด้วยความรักความเข้าใจที่มีให้กันตลอดไป...

ดู คู่ซ่า รสแซ่บ (2560) inter.bugaboo
ชื่อไทย : คู่ซ่ารสแซ่บ
ชื่ออังกฤษ : Koo Za Rot Zab
ละครช่อง : ช่อง 7
ผลิตโดย : บริษัท มุมใหม่ จำกัด
บทประพันธ์ : ชยุต รัตนกรี
บทโทรทัศน์ : พิง ลำพระเพลิง
กำกับการแสดง : เอกภพ ตันหยงมาศกุล
แสดงนำ : ศุกลวัฒน์ คณารศ, พีชญา วัฒนามนตรี, อาทิตย์ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์, ณัฐชา นวลแจ่ม
ออกอากาศ : 20 กุมภาพันธ์ 2560 – 10 เมษายน 2560
วันออกอากาศ : จันทร์ – อังคาร
เวลาออกอากาศ : 20:30 – 22:40 น.
จำนวนตอน : 15
ความยาวตอน : 98 นาที
เรทละคร : น 13+

 

 

เป็นคนแรกที่รีวิว “คู่ซ่ารสแซ่บ”

ยังไม่มีรีวิว

นักแสดงและทีมงาน

เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ

กรพงศ์ ศาสตราบุรินทร์

มิน พีชญา วัฒนามนตรี

รสริน เนินสูงชัน

แนท ณัฐชา นวลแจ่ม

พิมพ์เพทาย ศาสตราบุรินทร์

บ๊อบ ทูน หิรัญทรัพย์

ศักดิ์สกุล ศาสตราบุรินทร์

จิ๊ก เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์

ดวงกมล ศาสตราบุรินทร์

จารุเดช จันทร์น้อย

กรพงศ์ (ตอนเด็ก)

ปุณยนุช สวัสดี

สมิตา (รับเชิญตอนจบ)

สมิท ธนโชติ

(รับเชิญ)

กํากับการแสดง

นักเขียน

ชยุต รัตนกรี

บทประพันธ์