ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๕ ยุทธหัตถี

ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๕ ยุทธหัตถี (2557/2014) ในปี พ.ศ. 2129 พระเจ้านันทบุเรง ทรงแค้นเคืองที่ต้องปราชั­ยต่อ สมเด็จพระนเรศฯ อย่างย่อยยับ ทั้งต้องเสียไพร่พลและพระสิริโฉม จึงระบายความแค้นนั้นไปที่องค์พระสุพรรณกั­ลยา เมื่อ สมเด็จพระมหาธรรมราชา พระราชบิดาทราบค­วามก็ให้โทมนัสด้วยสำนึกว่าชะตากรรมของพระ­ราชธิดาและแผ่นดินอยุธยาที่ถูกกระทำการย่ำ­ยีก็ด้วยเพราะพระองค์ทรงแปรพักตร์ไปเข้าข้­างศัตรู จนตรอมพระทัยเสด็จสวรรคต สมเด็จพระนเรศฯ ทรงมีพระชนมายุ 31 พรรษา จึงเสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติค­รองกรุงศรีอยุธยาสืบต่อจากพระราชบิดา สมเด็จพระมหาธรรมราชา หรือ (สมเด็จพระสรรเพ็ชญ์ที่ 1) ข่าวการผลัดแผ่นดินของกรุงศรีอยุธยารู้ไปถึง พระเจ้านันทบุเรง แห่งกรุงหงสาวดี พระเจ้านันทบุเรง พระราชโอรสในพระเจ้าบุเรงนอง สำคัญว่าราชอาณาจักรสยาม หรืออาณาจักรอยุธยาจะไม่เป็นป­กติสุขเป็นช่องชวนชิงเชิง จึงโปรดให้พระราชบุตร พระมังสาม­เกียด หรือ(พระมังกะยอขวาที่ 1) พระมหาอุปราชเจ้าวังหน้ากรีฑาทัพไปตีกรุงศรีอยุธยาอีกคำรบ นำกองทัพทหาร 240,000 นาย (สองแสนสี่หมื่นนาย) มาตีกรุงศรีอยุธยาหมายจะชนะศึกในครั้งนี้ สมเด็จพระนเรศวร ทรงทราบว่า พม่ายกทัพใหญ่มาตี จึงทรงเตรียมไพร่พล มีกำลัง 100,000 นาย (หนึ่งแสนนาย) เดินทางออกจากบ้านป่าโมก อ่างทองไปสุพรรณบุรี ข้ามน้ำตรงท่าท้าวอู่ทอง ลพบุรี และตั้งค่ายหลวงบริเวณหนองสาหร่าย โดย สมเด็จพระนเรศวร โปรดให้ พระราชมนู แต่­งพลเป็นทัพหน้าขึ้นไปลองกำลังข้าศึกถึงหนอง­สาหร่าย ทัพหน้า พระราชมนู ปะทะเข้ากับทัพพม่าถึงขั้­นตะลุมบอน แต่กำลังข้าง พระราชมนู น้อยกว่าจึงแตกพ่ายถ­อยลงมาเป็นอลหม่าน สมเด็จพระนเรศฯ ทราบความจึงออกอุบายให้ทัพข้าศึกไล่เตลิดลงมาจนเสียกระบวนแล้วจึงทรงนำกำลังออกยอทัพข้าศึก ครั้งนั้นพระคชสารทรงของสมเด็จพระนเรศฯ นามเจ้าพระยาไชยานุภาพ และพระคชสารทรงของสมเด็จพระเอกาทศรถคือเจ้าพระ­ยาปราบไตรจักรต่างตกมัน วิ่งเตลิดแบกพลฝ่าเข้าไปในทัพพม่ารามัญกลางว­งล้อมข้าศึก และหยุดอยู่หน้าช้าง พระมังสามเกียดพระมหาอุปร­าชา พระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นพระมหาอุปราชาทรงพระคชสารอยู่ในร่มไม้กับเหล่าพระยาขุนศึก จึงทราบได้ว่าพระคชสารทรงของสองพระองค์หลงถลำเข้ามาถึงกลางกองทัพข้าศึก และตกอยู่ในวงล้อมข้าศึกแล้ว แต่ด้วยพระปฏิภาณไหวพริบของสมเด็จพระนเรศวร ทรงเห็นว่าเป็นการเสียเปรียบข้าศึกจึงไสช้างเข้าไปใกล้ แล้วตรัสถามด้วยคุ้นเคยมาก่อนแต่วัยเยาว์ว่า "พระเจ้าพี่เราจะยืนอยู่ใยในร่มไม้เล่า เชิญออกมาทำยุทธหัตถีด้วยกัน ให้สมพระเกียรติยศไว้ในแผ่นดินเถิด ภายหน้าไปไม่มีพระเจ้าแผ่นดินที่จะได้ยุทธหัตถีแล้ว" พระมังสามเกียดพระมหาอุปราชาได้ยินดังนั้น จึงไสพระคชสารนามว่า พลายพัทธกอเข้าชนเจ้าพระยาไชยานุภาพเสียหลัก พระมังสามเกียดพระมหาอุปราชาทรงฟันสมเด็จพระนเรศวรด้วยพระแสงของ้าว แต่ สมเด็จพระนเรศวร ทรงเบี่ยงหลบทัน จึงฟันถูกพระมาลาหนังขาด จากนั้น เจ้าพระยาไชยานุภาพชนพลายพัทธกอเสียหลัก สมเด็จพระนเรศวร ทรงฟันด้วยพระแสงของ้าวถูก พระมังสามเกียด พระมหาอุปราชา เข้าที่อังสะขวา สิ้นพระชนม์อยู่บนคอช้าง ส่วน สมเด็จพระเอกาทศรถ ทรงฟันเจ้าเมืองจาปะโรเสียชีวิตเช่นกัน พม่าจึงยกทัพกลับกรุงหงสาวดีไป นับแต่นั้นมาก็ไม่มีกองทัพใดกล้ายกมากล้ำกรายกรุงศรีอยุธยาอีกเป็นระยะเวลาอีกยาวนาน

ไพรดิบ SPIRITS WAR (2557/2014) เรื่องราวการผจญภัยและเวทมนตร์ยังปรากฏอยู่ในพรมแดนที่มีชื่อว่า สยาม ดินแดนที่เต็มไปด้วยความดีและความสุข กระทั่ง ท้าวพันวา (สมชาย ศักดิกุล) ตัดสินใจที่จะสร้างเหมืองขึ้นในภูเขาท่ามกลางป่าอันเต็มไปด้วยมนตร์ดำ โดยไม่ล่วงรู้เลยว่าเหมืองนั้นเป็นสุสานโบราณ เรื่องราวร้าย ๆ เกิดขึ้นระหว่างการสร้างเหมืองมีคนตายคนแล้วคนเล่า ซึ่งชีวิตเหล่านี้ได้ปลุกวิญญาณร้ายขึ้นมา เผยแพร่มนตร์ดำไปยังหมู่บ้านข้างเคียง ไพร (อัครา อมาตยกุล) นักล่าวิญญาณ เดินทางจากบ้านเกิดมายังสยามและได้พักผ่อนใกล้กับเหมืองปีศาจ เขาหลับไปและถูกปลุกขึ้นมาโดยวิญญาณชั่วร้าย ไพร ใช้เขี้ยวนาคาต่อสู้กับศัตรู ในเวลาเดียวกัน ภารตี นักล่าภูติสาวได้รับการว่าจ้างจาก ท้าวพันวา ให้มาจัดการกับภูติร้ายในเหมือง ระหว่างทาง ภารตี เห็น ไพร สู้กับภูติร้ายจึงเข้าช่วยเหลือ แต่ก็สายไป เธอถูกจับตัวไป เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นฝีมือของ ยันตรัย (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) แท้จริงแล้ว ยันตรัย กับพ่อของ ไพร เคยเป็นศัตรูกันมาก่อน
วังพิกุล Village of Hope (2557/2014) วังพิกุล (Village of Hope) ผลงานภาพยนตร์อิสระเรื่องที่ 3 ของกลุ่ม ปลาเป็นว่ายทวนน้ำ ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นภาคที่ 2 ของไตรภาคชุด คนจน (Poor people ) ของบุญส่ง นาคภู่ ภาคแรก คือ คนจนผู้ยิ่งใหญ่ ปี 2554 (Poor People The Great) ในภาคแรก เรื่องราวเน้นที่ตัวละคร พ่อ ที่พยายามหาเงินมาใช้หนี้เงินล้านของหมู่บ้าน ขณะที่ลูกชายวัยรุ่นช่างฝันอยากเป็นนักร้องเพลงเพื่อชีวิต ภาคที่ 2 ปี 2557 นี้ เป็นเรื่องราวลูกชาย หลังจากสามปีผ่านไป เขาติดทหาร และได้เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้าน แต่สิ่งที่เขาค้นพบเมื่อกลับบ้านคือ ความล่มสลายของครอบครัวของทุกคนรอบๆ ตัวเขา เรื่องราวเล็กๆ แห่งชีวิตทำให้เขาต้องตัดสินเลือกเดินในทางใดทางหนึ่ง
By the River สายน้ำติดเชื้อ (2557/2014) ท่ามกลางความสงบของป่าลึก ชาวบ้านหมู่บ้านคลิตี้ในจังหวัดกาญจนบุรี ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายมาโดยตลอด ปลาในลำธารคือแหล่งอาหารหลักของชาวบ้านคลิตี้ แต่สายน้ำที่เป็นแหล่งทำมาหากินนั้นปนเปื้อนด้วยแร่ตะกั่วจากการทำเหมืองแร่มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ชายหนุ่มคนหนึ่งในหมู่บ้านลงดำน้ำจับปลามาให้คนรักทุกวัน แต่วันนี้เขาหายไป ไม่อาจกลับมาหาเธอที่ยังคงรอคอยเขาอยู่
บนบานศาลกล่าว The Pray  (2557/2014) เป็นเรื่องราวของหน่วยงานของมูลนิธิแห่งหนึ่งที่ได้รับแจ้งเรื่องเจอศพที่โรงงานร้างแห่งหนึ่ง แต่ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงนั่นก็ได้พากันเล่าถึงประสบการณ์ของอาถรรพ์ ที่พวกตนเจอในระหว่างปฏิบัติหน้าที่เก็บศพ ๆ หนึ่งที่ถูกลือว่าตายเพราะไม่ไปแก้บนที่ขอลูกกับผีแล้วผีมาเอาคืนสู่กันฟัง ก่อนที่สุดท้ายจะพบความจริงว่าคนที่นั่งฟังเรื่องเล่าและร่วมเล่าเรื่องผีและอาถรรพ์ด้วยอีกคนหนึ่งนั่น คือ ศพ ( ผี ) ที่พวกตนเคยมาเก็บที่โรงงานร้างดังกล่าวจากก่อนหน้านี้.
จิตตก Dark Souls (2557/2014) เรื่องราวของสังคมเมืองยุคปัจจุบัน ที่ไม่ว่าจะเป็นคนหรือวิญญาณต่างก็ต้องเอาตัวรอดและฉกฉวยโอกาสที่มีในทุกถานการณ์
The End ผู้หญิงเลือกได้ (2557/2014) เรื่องราวมุมมองและการเรียนรู้ความรักของ แอล (นาตาลี ดูเชียง) หญิงสาวสมัยใหม่ที่ถูก โบร๋ว (ยุรนันท์ พรนำโชคชัย) คนรักทำให้ผิดหวังหลายครั้งหลายหนจากนิสัย­เจ้าชู้ของเขา แอลตัดสินใจจบความรักครั้งนี้หลังจากมีผู้­หวังดีส่งคลิปของโบร๋วที่แอบมีเซ็กส์กับผู้หญิงอื่นในห้องน้ำผับให้แอลดู จากจุดจบความรักครั้งนี้ แอลคิดประชดชีวิตด้วยการทำตัวเหลวแหลก จึงชวน มิ้นท์ (ณัชชา สุผลากร) เพื่อนรักออกเที่ยวผับและตั้งใจจะปล่อยตัว­กับผู้ชายไม่เลือกหน้า แต่สิ่งที่แอลไม่รู้ก็คือ เหตุการณ์ครั้งนี้จะเปลี่ยนมุมมองและนิยามความรักของแอลไปตลอดกาลในแบบที่แอลเองก็คาดไม่ถึงระหว่างผู้ชาย 3 คน ต้น (วรุตม์ ภัทราเวสส์สกุล) ชายหนุ่มโรแมนติกนิสัยดี ที่แอลพบในผับ และเขาอาจเป็นความรักครั้งใหม่ บุ๊ค (ประเสริฐสุข เหมทานนท์) บาร์เทนเดอร์จอมกะล่อน ที่แอลหวังจะปล่อยตัวปล่อยใจในคืนนั้น หรือแอลจะกลับไปคืนดีกับ โบร๋ว คนรักเก่าที่ลึก ๆ แล้วแอลก็ยังไม่ลืม จุดจบความรักครั้งนี้ มีเพียงแอลเท่านั้นที่จะตอบได้ว่า แอลจะเริ่มต้นความรักครั้งใหม่ของเธออย่างไร
บ้านขังวิญญาณ My House (2557/2014) คงไม่มีอะไรจะน่ากลัวไปกว่าบ้านที่คุณซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรง ด้วยเงินที่คุณเก็บสะสมมาทั้งหมด ด้วยความคาดหวังในความสุขที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของคุณต้องมาพังทลายลง เพราะสิ่งเหล่านี้จะไม่มีวันเกิดขึ้น เมื่อคุณพบว่าบ้านของคุณมี...ผี!!! เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นในบ้านหลังหนึ่งของ แอน (กมลนภัช ถานวงศ์) และครอบครัวของเธอซึ่งประกอบไปด้วย อิน (อัครา อมาตยกุล) สามี เชอร์รี่ (ด.ญ.ชินารดี อนุพงษ์ภิชาติ) ลูกสาว ยายอร (สนทนีย์ ยุวนางกูร) แม่ของแอน แอนและอินได้ซื้อบ้านหลังหนึ่งด้วยเงินเก็บที่มีทั้งหมด เพื่อหวังสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่บ้านใหม่นี้ไม่ได้สร้างความสุขอย่างที่แอนได้คาดหวังไว้ เมื่อทุกคืนเชอรรี่มักเดินละเมอออกไปนั่งเล่นชิงช้านอกบ้าน อินมักมีอารมณ์หงุดหงิดง่ายจากที่เมื่อก่อนไม่เคยเป็น แม้แต่อาหารเครื่องดื่มภายในบ้านเน่าเสียเร็วจนผิดปกติ แอนเริ่มสงสัยถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเธอ ซึ่งมันคุกคามไปถึงหน้าที่การงานของเธอและสามี จนถึงขั้นตกงานพร้อมกันทั้งคู่ แล้วจู่ๆแม่ก็ตายอย่างไม่รู้สาเหตุ มันยิ่งทำให้แอนค้นหาความจริงทั้งหมดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวเธอกันแน่ แอนนำเรื่องราวที่เธอประสบไปปรึกษา อาจารย์ชวิน(ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์) ผู้มีความรู้ในด้านสิ่งลึกลับ เขาได้เตือนให้เธอรีบออกจากบ้านหลังนั้นก่อนที่จะสายเกินไป แอนรีบกลับไปที่บ้านเพื่อบอกเรื่องนี้แก่อิน และให้รีบพาเชอรรี่ออกมาจากบ้าน แต่เมื่อมาถึงทั้งสองยังไม่กลับมา แอนจึงนั่งรออยู่นอกบ้านเพื่อหนีไปพร้อมกัน แต่เธอคิดผิด ขณะที่เธอรอลูกกับสามีกลับมาที่บ้าน เธอกลับเคลิ้มหลับและได้รับรู้เรื่องราวความลับของบ้านหลังนี้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น โดย วุธ(นรินทร์ ภูวนเจริญ) ผู้เป็นเจ้าของบ้านคนแรกหลังนี้ ได้พาแอนเข้าไปเห็นความจริงที่น่ากลัวด้วยตาของเธอเอง แอนจึงต้องเข้าไปรับรู้และเห็นเหตุการณ์ที่เป็นต้นตอของความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในบ้าน เริ่มตั้งแต่แอนย้ายเข้ามาอยู่และตอนนี้พวกสิ่งชั่วร้ายในบ้านหลังนี้ กำลังต้องการครอบครัวของแอนมาเป็นส่วนหนึ่งในบ้านหลังนี้เช่นกัน...
กรรไกร ไข่ ผ้าไหม (2557/2014) ในกรุงเทพฯ ที่มีแต่เรื่องการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียนหรืออาชีพต่าง ๆ ทุกแขนงของสังคมทำให้ทุกคนต้องปากกัดตีนถีบเพื่อเอาตัวรอด แต่ที่ "โรงเรียนนานาจิตตรงกัน" นั้นมีความรักความสามัคคีให้กันและกันเสมอจนทำให้ทุกคนอยากจะมาเรียนที่โรงเรียนนี้ทั้งคนจนและคนรวย เพราะโรงเรียนมีความเมตตาสูง และเรื่องราวความสนุกสนานครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้นในโรงเรียนนี้ เมื่อประเทศไทยต้องเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (AEC) ในอีกสองปีข้างหน้า ทำให้โรงเรียนต้องยกระดับความรู้ความสามารถในเรื่องภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาสากลโลกให้ได้เป็นอย่างดี งานนี้จึงกลายเป็นภาระ เอ้ย! การบ้านชิ้นใหญ่สำหรับเด็กนักเรียนที่ไม่คุ้นเคยกับภาษาอังกฤษ เมื่อนักเรียนทุกคนต้องเรียนรู้และฝึกพูดภาษาอังกฤษให้ได้ทั้งทักทาย พูดคุย ถามตอบในโรงเรียน OMG! Hello, How Are You, I'm Fine, Thank You, What, When, Where, Why กันละเนี่ย แต่ยังไม่จบเรื่องฟุดฟิดฟอไฟ ก็ดันมีเรื่องเวรี่ด่วนมากให้ต้องรีบทำ เมื่อทางโรงเรียนได้รับเชิญให้ส่งนักเรียนเข้าประกวดลีลาศเพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันกับนานาชาติ ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพในปีนี้ เอาล่ะสิ งานเข้าเต็ม ๆ แบบยกกำลังสอง ทั้งการเรียน การแข่งขัน ความรัก ความสามัคคี ความอลเวงแสบซ่าจากเด็กนักเรียนหลากรุ่นหลายแก๊งทั้งแก๊งนางฟ้า, แก๊งโอเลี้ยง, แก๊งนักดนตรี, แก๊งเด็กแสบ, แก๊งหนุ่มหล่อ, แก๊งกะโหลกกะลา ฯลฯ
มอ 6/5 ปากหมา ท้าแม่นาค 3D (2557/2014) เรื่องราวความปากดีของแก๊ง ม.6/5 นำโดยขาซ่าประจำกลุ่ม นิก (คุณาธิป ปิ่นประดับ) หัวหน้าแก๊ง และพลพรรคชาวแก๊งที่ยังอยู่กันครบทีม เจมส์ (ภูริพรรธน์ เวชวงศาเตชาวัชร์), บิว (กิตติพัฒน์ สมานตระกูลชัย), เทป (วรชัย ศิริคงสุวรรณ), ออย (ฤทธิชัย ตะสาริกา), ไบรอัน (ไบรอัน การ์ตั้น) และ เน็ต (สิรภพ มานิธิคุณ) หลังจากที่ทุกคนเคยเคยผ่านประสบการณ์เจอดีในตึกเก่าของโรงเรียนมาแล้ว ก็ทำให้พวกเขาสำนึกและไม่กล้าไปลองดีที่ไหนอีกจนถึงวันที่เหล่าก๊วนแสบต้องเตรียมตัวเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่ด้วยความที่แต่ละคนก็ไม่ใช่เด็กเรียนเก่งอะไรกันมากนัก ไสยศาสตร์ จึงเป็นทางออกที่เด็กกลุ่มนี้คิดได้ การไปบนบานศาลกล่าวต่อ ศาลแม่นาคพระโขนง จึงเป็นหนทางที่กลุ่มเด็ก ม.6/5 ตัดสินใจว่าน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด แต่เพราะความปากหมาของ นิก ที่ยังคงเสมอต้นเสมอปลายเลยทำให้เกิดเหตุการณ์ที่สุดตื่นเต้นที่พวกเขายากจะลืมเลือนกันอีกครั้ง
The Goddess of Nymph เทพเทวี นารีผล (2557/2014) ด้วยความเชื่อที่ว่า หญิงใดที่มีเมล็ดพันธุ์แห่งนารีผลอยู่ในเรือนกาย จะนำมาซึ่งพลังอำนาจ รวมทั้งยังบันดาลความร่ำรวยให้อย่างไม่มีวันสิ้นสุด และเมื่อกลุ่มคนร้ายบังเอิญล่วงรู้ถึงความลึกลับแห่ง “นารีผล” ที่อยู่ภายในร่างกายของสาวงามผู้หนึ่ง เมื่อนั้นการแย่งชิงเพื่อให้ได้มาซึ่งพลังอำนาจที่ไร้ซึ่งจุดจบสิ้นก็เริ่มต้นขึ้น
คิดถึงวิทยา (2557/2014) ปีการศึกษา 2555 สอง (สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว) อดีตนักกีฬามวยปล้ำตกอับต้องผันตัวเองมาเป็นครูยังโรงเรียนแห่งหนึ่งที่กว่าจะไปถึงต้องออกเดินทางตั้งแต่เช้ามืด ขึ้นรถผ่านผืนป่า ลงเรือฝ่าผืนน้ำหลายชั่วโมง โรงเรียนซึ่งตั้งอยู่กลางเขื่อน โอบล้อมด้วยภูเขาและผืนน้ำอันกว้างใหญ่ “โรงเรียนบ้านแก่งวิทยา สาขาเรือนแพ” โรงเรียนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เด็กๆลูกชาวประมงที่ไม่มีโอกาสออกไปนอกเขื่อนได้มีโอกาสเรียนหนังสือ สองต้องสอนเด็กๆสุดแสบที่แม้จะมีเพียง 4 คน แต่ก็ล้วนเรียนกันคนละชั้นกันหมด แถมเขายังต้องสอนเด็กๆทุกวิชาทุกชั้นเรียนด้วยตัวคนเดียว ยิ่งไปกว่านั้นเขายังต้องทนกับสภาพที่ไม่มีทั้งไฟฟ้าน้ำประปา หนำซ้ำต้องผจญกับความเหงาที่ไม่สามารถติดต่อใครได้เพราะที่โรงเรียนนี้ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ สิ่งเดียวที่พอจะช่วยให้สองคลายเหงาได้คือไดอารี่เล่มหนึ่งที่ถูกลืมทิ้งไว้ของแอน (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ครูคนเก่าที่เพิ่งย้ายออกไป แอนเขียนตัดพ้อถึงชีวิตของเธอและครูทุกคนที่มาสอนที่นี่ว่านอกจากจะลำบากแล้วยังต้องเลิกกับแฟนทุกราย ถึงขนาดตั้งฉายาให้โรงเรียนนี้ว่า “ถ.ท.ว. ถูกทิ้งวิทยา” สองอ่านเรื่องของแอนผ่านสมุดเล่มนี้เสมือนเธอเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่เข้าใจหัวอกของเขา จนกลายเป็นความผูกพันผ่านตัวหนังสือที่ยิ่งอ่านเขาก็ยิ่งเฝ้าคิดถึงตัวจริงของเธอ แต่แม้สองจะอยากเจอแอนแค่ไหน เขาก็ไม่รู้ว่าจะไปพบเธอได้อย่างไร…
ฮาชิมิ โปรเจ็กต์ (2557/2014) ครั้งหนึ่งในประเทศกลุ่มยุโรป ท่านเคาร์แด็กคิวล่ากับลูกน้องได้ถูกกลุ่มมนุษย์หมาป่าตามล่า เพราะท่านเคราไม่สามารถสูกกับพวกหมาป่าได้เพราะสัญญากับภรรยาที่เป็นมนุษย์ว่าจะไม่กินเลือดคนอีก จึงทำให้อ่อนแอไม่สามารถสู้ได้จึงหนีมาเมืองไทยเพื่อตามหาเมียและลูกที่เกิดกับเมียคนไทย การมาเมืองไทยของท่านเคาร์ก็ถูกพวกมนุษย์หมาป่าติดตามมาเมืองไทยด้วย ท่านเคาร์ได้มาที่บริษัททัวร์แห่งหนึ่งเพื่อจะได้เดินทางไปกับทัวร์ตามหาลูกเมีย แต่เรื่องวุ่นๆก็ได้เกิดขึ้นเพราะไปเจอบริษัททัวร์ที่หลอกลวงแต่เรื่องราวต่างๆจะดีหรือร้ายโปรดติดตามชม ได้เร็วๆนี้
รักฝังเขี้ยว (2557/2014) วายุ กับ อัสนี เป็นแวมไพร์คู่แค้นที่ต่อสู้แย่งชิง นภา หญิงสาวผู้ที่มีเลือดที่เหล่าแวมไพร์ถวิลหาเพื่อความเป็นอมตะ ทั้งคู่ต่อสู้กันจนพลาดทำให้ นภา เสียชีวิต ทั้งคู่จึงต้องรออีก 500 ปี นภา จึงจะกลับมาเกิดใหม่ โดย อัสนี จำศีลตัวเองไว้ในถ้ำ ส่วน วายุ แทรกซึมเข้ากับสังคมมนุษย์ก่อกรรมทำเข็ญอยู่ต่ออีก 500 ปี ฟ้า (เกล้าแก้ว สินเทพดล) บุตรสาวของ เสี่ยใหญ่ (สมชาติ ประชาไทย) ผู้ทรงอิทธิพล เธอคือ นภา ที่กลับชาติมาเกิดใหม่ วายุ รู้ได้ทันทีก้ส่งสมุนเข้ามาจับ อัสนี ที่ฟื้นจากจำศีลในสภาพแก่ชรามาช่วยไว้ แต่ด้วยกลัวว่า ฟ้า จะไม่ชอบร่างที่แก่เฒ่าจึงจำแลงกลายร่างเป็นร่างสมัยที่ยังหนุ่ม ทั้งคู่พากันหนีไป จนกระทั่ง วายุ ไล่ตามจับตัวฟ้าไป อัสนี จึงร่วมมือกับ เสี่ยใหญ่ เพื่อไปช่วยชีวิต ฟ้า กลับมา
เธอ เขา เรา ผี (2557/2014) บางห้วงแห่งความรักที่อาจจะต้องเลือกระหว่าง คนที่เรารัก กับ คนที่รักเรา ถึงแม้ว่าเขาจะเป็น "ผี" เรื่องราวความรักอันซับซ้อนทางความรู้สึกและจิตวิญญาณของ ส้ม (อาภา ภาวิไล) ช่างแต่งหน้าเสริมตามกองถ่าย ซึ่งเธอกำลังมีความรักกับ หรั่ง (ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต) ทีมอาร์ตหล่อขั้นเทพที่ทุกคนในกองหมายปองทั้งชายไม่จริงหญิงแท้และเก้งกวาง ที่สำคัญ หรั่ง เป็นคนสร้างความสุขให้กับทุกคนได้ทั่วไป ยกเว้นกับแฟนตัวเองที่ดูเหมือนเขาไม่ค่อยเอาใจใส่เธอซักเท่าไหร่นัก ความนอยด์ของ ส้ม จึงบังเกิดขึ้นกับความรู้สึกไม่มั่นคงในความรักครั้งนี้ ขณะนั้นเอง ส้ม ก็ได้รู้จักกับ เปิ้ล (สตีเว่น อิสรพงศ์ ฟูเรอร์) นักศึกษาหนุ่มหล่อข้างห้องที่เข้ามาจีบและนิสัยตรงข้ามกับ หรั่ง ทุกอย่าง ส้ม จึงบอกเลิกกับ หรั่ง แล้วหันมาคบกับ เปิ้ล หรั่ง เสียใจมากเพราะเขาก็รัก ส้ม มากแต่ดันไม่แสดงออก และไม่คิดว่า ส้ม จะเลือกคนรักใหม่ที่...ไม่ใช่คน เพราะจริง ๆ แล้ว เปิ้ล เป็น ผี!!!
The Cheer Ambassadors (2557/2014) Cheer Ambassadors เฉลิมฉลองความสำเร็จจากการฉายในเทศกาลภาพยนตร์ทั่วโลก ด้วยการฉายในกรุงเทพฯ หลังคว้ารางวัลมากมายจากการเข้าฉายใน 10 ประเทศ และเผยให้ทั่วโลกเห็นความสามารถของเด็กไทย ในที่สุด The Cheer Ambassadors ก็พร้อมเข้าฉายที่กรุงเทพฯ แล้ว 04 มีนาคม 2014 - A Single Production Company ยินดีที่จะประกาศให้ทราบว่า The Cheer Ambassadors ภาพยนตร์สารคดีที่คว้ารางวัลจากเทศกาลมากมาย จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ House Rama (RCA) ในวันที่ 13 มีนาคม เป็นต้นไป ผลตอบรับจากทั่วโลกที่มีต่อ The Cheer Ambassador น่าพอใจเป็นอย่างมาก ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้เข้าฉายมากกว่า 10 ประเทศ ได้รับรางวัล Best Documentary จากเทศกาลภาพยนตร์ 60°N Os ประเทศนอร์เวย์ และรางวัล the Audience Award จากเทศกาล the ChopShots Documentary Film Festival Southeast Asia ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และเข้าฉายเป็นครั้งแรกที่ทวีปอเมริกาเหนือที่ CAAMFEST เทศกาลภาพยนตร์อเมริกันเอเชียนที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ทีมผู้สร้างยังได้มีโอกาสทูลเกล้าถวายภาพยนตร์เรื่องนี้แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีอีกด้วย The Cheer Ambassadors เป็นภาพยนตร์สารคดีที่นำเสนอเรื่องราวของผู้ฝึกสอนของทีมเชียร์ลีดเดอร์ทีมชาติไทยที่เปี่ยมไปด้วยความฝันและความมุ่งมั่น เขาได้ผลักดันนักกีฬาที่ไม่มีใครรู้จักให้กลายเป็นทีมระดับโลกและทำให้ผู้คนทั่วโลกตะลึง เมื่อพวกเขาสามารถนำเหรียญรางวัลจากการแข่งขัน World Cheerleading Championships ที่จัดโดย ICU (International Cheer Union) ณ เมืองออร์ลันโด มลรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา กลับบ้านได้ในปี 2009 และ ปี 2011 ภาพยนตร์ได้เก็บบันทึกเรื่องราวของมิตรภาพอันพิเศษของนักกีฬาทีมไทยและทีมอเมริกัน ซึ่งต่างก็ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และเป็นกำลังใจให้แก่กัน นี่คือภาพยนตร์สารคดีที่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจที่จะทำให้คุณเอาใจช่วยทีมนักกีฬาไก่รองบ่อนอย่างหมดหัวใจ