ฟ้าแก้มโต (2557/2014) ชีวิตของอดีตนักแสดง นักร้อง และผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง ฟ้า (พิง ลำพระเพลิง) มาถึงจุดตกต่ำ เมื่องานและเงินที่เคยมีกลับหดหาย เพราะนิสัยโอหังของเขาเอง บ้านกำลังจะถูกยึดและเขายังมีภาระในการเลี้ยงดูบุตรสาวอันเป็นที่รัก แก้ม (พิมพ์พิศา งามลิขิตเลิศ) ลูกสาววัยเพียงแค่ 7 ขวบ ซึ่งเป็นสิ่งสุดท้ายและเป็นสิ่งเดียวที่ภรรยามอบไว้ให้ก่อนตาย และเป็นสิ่งยึดมั่นเดียวที่ช่วยให้ฟ้ายังคงมีกำลังใจสู้ชีวิตต่อไป ฟ้าต้องหอบลูกสาวตระเวนหางานร้องเพลงตามผับต่างๆ พร้อมกับ โต (ประเสริฐสุข เหมทานนท์) นักร้องในวงที่ยังเหลืออยู่ และยังเป็นอดีตแฟนที่ศรัทธาในตัวฟ้าจนแทบจะกลายเป็นเสมือนคนในครอบครัว แต่พวกเขาก็ถูกบรรดาเจ้าของผับกลั่นแกล้ง ดูถูกเหยียดหยาม จนถึงขั้นทำร้ายเพื่อเป็นการสั่งสอน เพราะเคยถูกฟ้าปฏิเสธไม่รับงานอย่างยโสโอหัง เมื่อครั้งยังรุ่งโรจน์และมีชื่อเสียง บวกกับความหมั่นไส้ในนิสัยปากเสียของฟ้าเอง เริ่มตั้งแต่ เฮียชัย (ชาลี ศรีเจริญ) เฮียอั้บ (เกียรติขจร ท้วมดี) บอย (สิทธิชัย ผาบชมภู) น้องชายเฮียอั้บที่รับหน้าที่เป็นนักเลงคนสนิทคุมผับ จนถึงขาใหญ่สุดในบรรดาเจ้าของธุรกิจผับในกรุงเทพฯ อย่าง เฮียบรู๊ซ (สุเทพ สีใส) แม้ว่าเส้นทางของฟ้าจะดูมืดมน แต่ฟ้ายังมีกำลังใจและมิตรภาพจากคนรอบข้าง รวมทั้งเพื่อนร่วมอาชีพที่ยังคงรักและศรัทธาเขา ทั้งอดีตนักร้องสาวชื่อดังร่วมสมัยกับฟ้า นักกีตาร์ฝีมือดี และนักร้องเสียงทรงพลัง รวมทั้ง ปุ่น (ณัฐชา แก้วน้ำมิตร) สาวมั่นที่ทำงานให้เฮียชัย
ตุ๊กแกรักแป้งมาก (2557/2014) ภาพยนตร์ที่จะพาทุกคนย้อนอดีตกลับไปในยุคที่ผู้คนไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่ในโลกออนไลน์ แต่มันคือยุคอันสดใสของหนุ่มสาวที่ให้ค่าของความรักมากกว่าความเกลียดชัง เรื่องราวของหนุ่มสาวในยุคดิสโก้เฟื่องฟูเล่าผ่านความทรงจำวัยเยาว์ของ เด็กชายตุ๊กแก (ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์) ที่ถูกเลี้ยงเเละเติบโตที่เมืองโบราณริมฝั่งโขงอำเภอเชียงคานจังหวัดเลย ตลอดชีวิตวัยเด็กของ ตุ๊กแก ได้ใช้ชีวิตคลุกคลีอยู่หลังโรงหนังช่วย ครูป๋อง วาดคัทเอ้าท์ให้โรงหนัง "เพชรเชียงคาน" จน ตุ๊กแก ได้สิทธิพิเศษจากลุงคนเฝ้าโรงหนัง นั่นก็คือการได้ดูหนังฟรีทุกเรื่องที่เข้ามาฉายในโรงหนังประจำอำเภอเเห่งนี้ เมื่อโตขึ้น ตุ๊กแก (จิรายุ ละอองมณี) เข้าไปเรียนศิลปะที่กรุงเทพฯ จนจบชั้น ปวช ตุ๊กแก ก็ตัดสินใจออกมาช่วยเพื่อนรุ่นพี่ในกองถ่ายเพราะความที่ ตุ๊กแก อยู่กับหนังมาจนชอบหนังเป็นชีวิตจิตใจ เเละในเวลานั้นเอง ตุ๊กแก ได้พบกับ คุณแป้ง (ชนม์ทิดา อัศวเหม) คุณหนูลูกสาวนายอำเภอที่เคยเรียนอยู่ชั้นเดียวกับ ตุ๊กแก ในอดีตเมื่อสิบกว่าปีที่เเล้ว สำหรับ ตุ๊กแก เขาไม่เคยลืม เด็กหญิงแป้ง (ชนิกานต์ ตังกบดี) ที่จากเชียงคานไปโดยที่เขาไม่มีโอกาสได้ร่ำลาคนนี้ไปจากความทรงจำเลย แต่การได้พบกับ แป้ง ในครั้งนี้กลับไม่เหมือนดังเช่นในอดีต แป้ง เปลี่ยนไปทั้งใจเเละกายจน ตุ๊กแก เเทบจะจำเด็กหญิงที่แสนดีของเขาไม่ได้ แต่ด้วยความทรงจำอันดีในอดีต ตุ๊กแก ตัดสินใจทิ้งทุกอย่างก่อนจะทุ่มสุดตัวเพื่อจะทำให้ แป้ง กลับมาเป็น แป้ง คนเดิมที่เขาเคยรู้จัก แม้ว่าจะต้องเสี่ยงกับการที่เขาจะสูญเสียเธอไปตลอดชีวิตก็ตาม
แผลเก่า The Scar (2557/2014) ความรักระหว่าง ขวัญ หนุ่มลูกทุ่งและ เรียม สาวบ้านนาที่กลายเป็นรักต้องห้าม เมื่อครอบครัวแต่ละฝ่ายต่างเป็นศัตรูกัน กาลเวลาและโชคชะตาพรากพวกเขาออกจากกัน เมื่อสาวเรียมจำต้องถูกขายขัดดอกให้กับคุณหญิงทองคำเปลว ผู้รักเรียมประดุจลูกสาวของตนเอง คุณหญิงได้ชุบเลี้ยงเรียมจนกลายเป็นสาวชาวกรุงผู้มีการศึกษา สุดท้ายเป็นเพราะโชคชะตาอีกครั้งที่นำพวกเขามาพบกันอีกครั้งท่ามกลางความแตกต่างราวฟ้ากับเหวของทั้งสอง
ฝากไว้..ในกายเธอ (2557/2014) เพิร์ท (จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล) และแทน (ธนภพ ลีรัตนขจร) ต่างก็เป็นทั้งเพื่อนรักและศัตรูคนสำคัญกั­นมาโดยตลอด ทั้งคู่เป็นนักกีฬาว่ายน้ำของจังหวัดที่พย­ายามแข่งกันเพื่อแย่งชิงโควต้าเข้ามหาวิทย­าลัย แต่แม้ว่าเพิร์ทจะพยายามฝึกฝนตัวเองมากแค่­ไหน เขาก็ไม่สามารถเอาชนะพรสวรรค์ของแทนได้ หนำซ้ำเพิร์ทยังแอบไปตกหลุมรักไอซ์ (สุภัสสรา ธนชาต) แฟนสาวของแทนซึ่งเธอก็มีใจให้เขาเช่นกัน แต่แล้วไอซ์กลับฆ่าตัวตายอย่างปริศนาภายใน­สระว่ายน้ำซึ่งเป็นที่ซ้อมของนักกีฬาจังหว­ัด แทนเสียใจมากจนหายหน้าไปจากการฝึกซ้อม เพิร์ทจึงกลับมาเป็นตัวเต็งในการคว้าโควต้­าเข้ามหาวิทยาลัย ทว่าตลอดเวลาที่เพิร์ทซ้อมว่ายน้ำคนเดียวก­ลางดึก นับวันเขายิ่งกลับรู้สึกราวกับมีใครมาว่าย­อยู่ด้วยข้างๆหรือแม้แต่สายตาที่คอยจ้องมอ­งเขาในเงามืด แม้ว่าทั้งสระจะมีเพียงเขาคนเดียวก็ตาม กระทั่งวันหนึ่งแทนกลับมาที่สระ แล้วเล่าให้เพิร์ทฟังถึงสาเหตุที่ไอซ์ฆ่าต­ัวตายว่าเป็นเพราะเธอท้อง แทนบอกเพิร์ทว่าเขาจะแก้แค้นให้ไอซ์ เขาจะต้องรู้ตัวคนที่ทำให้ไอซ์ฆ่าตัวตายให­้ได้ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม เพิร์ทจะทำอย่างไรกับสิ่งที่เขาต้องเผชิญ ความผิดที่เขาได้ฝากไว้กับทั้งแทนและไอซ์ก­ำลังจะถูกเปิดเผยออกมาอย่างช้าๆและทรมาน
The Unreasonable Man ไม่รู้.มันคืออะไร.แต่ชอบ (2557/2014) เข่ง (สมชาย เข็มกลัด) ช่างตัดผมชายธรรมดาคนหนึ่งที่มีชีวิตธรรมดาปกติทั่วไปคือตื่นไปทำงานเลิกงานกลับมาที่บ้าน เข่ง ใช้ชีวิตแบบ Lowtech อยู่ห้องเช่าเล็ก ๆ ในย่านใจกลางเมืองกรุงเทพ วันหนึ่งที่ เข่ง ไปทำงานที่ร้านตัดผม พี่ตุล เพื่อนรุ่นพี่ช่างตัดผมได้ให้โทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าที่ตัวเองไม่ได้ใช้แล้วกับ เข่ง Nokia 3310 รุ่นเก่าจอขาวดำ ซึ่ง เข่ง เองก็ใช้เครื่องนี้ไม่เป็น ในขณะที่ เข่ง กำลังเดินทางกลับบ้านอยู่ ๆ มือถือก็เกิดดังขึ้น เข่ง ลังเลอยู่พักนึงจน Miss called เข่ง กดปุ่มโทรกลับทันทีทั้งทีไม่รู้ว่าปุ่มนั่นคือปุ่มโทรออก เสียงรอสายค่อย ๆ ดังขึ้น ไม่มีผู้รับสาย แต่มีเสียงผู้หญิงรับฝากข้อความของเจ้าของเบอร์ ซึ่งเป็นเสียงหญิงสาวที่ฟังเพราะมาก ๆ เข่ง หลงรักเสียงนี้ทันที หลังจากนั้น เข่ง เฝ้าแต่โทรออกเพื่อที่จะได้ยินเสียงเธอคนนี้ จน เข่ง ทนเสียงร่ำร้องของจิตใจไม่ไหวจนต้องออกตามหาเสียงนี้ ในระหว่างที่ตามหาเธอเจ้าของเสียง เข่ง ได้พบกับคนประหลาดที่เข้ามาในชีวิต เข่ง 3 คน ช่างตัดผมคนใหม่ (ปราโมทย์ แสงศร) ที่มีนิสัยและการกระทำทุกอย่างเหมือนเข่ง เจ้าของร้านกาแฟหญิงชุดดำ (สิริอร ม้ามณี) หญิงสาวที่ป้ายรถเมล์ (สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา) ทั้งหมดเกิดขึ้นจากความรักที่ไร้เหตุผลของ เข่ง
ความลับ นางมารร้าย (2557/2014) เรื่องราวของ บุษบา (พีชญา วัฒนามนตรี) เป็นหัวหน้าแก๊งค์นางมารร้ายมีกฎเหล็กรักสนุกไม่ผูกพันเที่ยวได้ สนุกได้ แต่อย่างลงลึก มีสมาชิกประกอบไปด้วย ซินดี้ (นพรัตน์ นุ่มพรม) แอร์โฮสเตสสาว พราวด์ยูนิฟอร์ม, แอ้ (พรรณปพร ศรีดุรงคธรรมพ์) สาวแบงค์ผู้คุ้มกฎของเพื่อน ๆ, ลาล่า (สรารัตน์ แซ่จิ๋ว) พีอาร์สาวผู้ทำตัวเงียบ ๆ เชียบ ๆ แต่ชอบหลอกกินตับผู้ชาย ทุกคนพร้อมใจยกตำแหน่ง "นางมารร้ายตัวแม่" ให้กับเธอ วันหนึ่ง บุษบา ไปเที่ยวผับกับเดอะแก๊ง เธอดันไปเจอกับ เหนือสมุทร (ธีรเดช เมธาวรายุทธ) หนุ่มหล่อสุดเพอร์เฟ็กต์ที่มาเกี่ยวกับ ปองชาย (กิตติศักดิ์ เวชประสาร) เพื่อนเกย์สุดแสบที่แอบสะใจ เพราะได้ควงผู้ชายหน้าตาดีทำให้สาวแท้สาวเทียมทั้งร้านต้องอึ้งตะลึงหันมามองค้อนด้วยความอิจฉา แต่ไม่ใช่กับนางมารร้ายตัวแม่อย่าง บุษบา เธอวางแผนในใจแล้วเดินเข้าไปฉก เหนือสมุทร ออกมาจากอ้อมอกของปองชาย โชว์ทุกคนอย่างหน้าตาเฉยทำเอา เหนือสมุทร ถึงกับเซอร์ไพรส์ บุษบา คิดจะเล่นสนุกปั่นหัว เหนือสมุทร แล้วจะทิ้งเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาแต่ เหนือสมุทร กับเซอร์ไพร์ส์เธอด้วยลูกชื่อ และจริงใจ จนทำให้ บุษบา เริ่มแปลกใจกับความรู้สึกของตัวเอง แต่เธอก็ไม่ยอมรับความรู้สึกนั้นเพราะโดนเพื่อนกดดันว่าเธอจะทำลายกฎที่ตัวเองตั้งขึ้นมาได้อย่างไร เธอจึงบอกเลิกเขาอย่างไม่ใยดี ทำให้ เหนือสมุทร เสียใจมาก ปองชาย จึงแนะนำเขาให้ไปปลดปล่อยความเศร้าที่คอนเสิร์ต "หัวใจสลาย" ที่นั่นเขาได้บังเอิญพบกับ 3 สาวเพื่อซี้สุดน่ารัก ป่า (สุวพิชญ์ ไตรพรวรกิจ) โปรดิวเซอร์สาวมั่น, คิม (ภาวิณี พูนนิพัฒน์) สปอร์ตตี้เกิร์ล, จิ (สิปโปทัย ฉันทะสิริวัฒน์) พริตตี้จีเนียส พูดได้ 5 ภาษา ที่เข้ามาใจช่วงเวลาที่เขาเสียหลักจาก บุษบา พอดี ความน่ารักสดใสของ 3 สาว ทำให้ เหนือสมุทร เริ่มสดชื่น และเอนเอียง แต่ฝั่งนางมารร้ายจอมแสบอย่าง บุษบา กลับหงอยเหงาและดูไม่มีความสุขมากขึ้นทุกวัน จนกลุ่มเพื่อนสังเกตเห็นว่า "นางมารร้ายตัวแม่" กำลังสิ้นลาย ทุกคนจึงยอมให้ บุษบา แหกกฎ และเชียร์ให้เธอใช้ความเป็นนางมารร้ายตัวแม่ไปตาม เหนือสมุทร กลับมาให้ได้ แต่เธอกลับต้องเจอกับก้างขวางคอชิ้นใหญ่ คือ 3 สาว ป่า, คิม, จิ ที่งัดทุกกลยุทธ์ลงสนามแข่งชิงหัวใจของ เหนือสมุทร อย่างไม่ยอมอ่อนข้อจนทำให้เธอดูเหมือนจะพ่ายแพ้ แต่ขึ้นชื่อว่านางมารร้ายตัวแม่แล้ว บุษบา ก็ไม่มีทางยอมแพ้ศึกครั้งนี้ เธองัดทุกกลเม็ดและอึกหลายสิ่งหลายอย่างที่เธอไม่เคยคิดว่าตัวเองจะทำเพื่อที่จะเอาตัวเขากลับมาให้ได้ เหนือสมุทร กลับมาหาเธออีกครั้ง โดยที่สาว ๆ ที่พลาดโอกาส ต่างก็สงสัยว่า นางมารร้ายตัวแม่อย่าง บุษบา ผู้ที่ไม่เคยก้มหัวให้ใคร เธอมีความลับอะไรถึงได้ผู้ชายสุดเพอร์เฟคอย่าง เหนือสมุทร คืนมา?
ทาสรักอสูร (2557/2014) อู้อี้ หญิงสาวไฮโซ ถูกลักพาตัวมายังเกาะเกาะหนึ่ง เธอพบว่าคนที่จับเธอมาคือ นายหัวเพิ่ม เจ้าของเกาะมาดเถื่อน ผู้ที่จมอยู่กับอดีต และความแค้นที่มีคนมาทำร้ายจิตใจพี่สาวของตนจนต้องฆ่าตัวตายไป และเขาจับตัวอู้อี้มา เพราะต้องการแก้แค้นพ่อของอู้อี้ ที่เป็นคนทำร้ายพี่สาวของเขานั่นเอง อู้อี้ต้องถูกกดขี่ ถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ และต้องตกเป็นทาสของนายหัวเพิ่ม แต่เมื่อใจสองใจใกล้กัน กลับทำให้นายหัวเพิ่มกับอู้อี้เริ่มผูกพันกันเกินกว่าคำว่าเจ้านายกับทาส ติดแต่เพียงทิฐิที่ท้ังคู่ยังก้าวผ่านไม่ได้ "อู้อี้" (สาวิกา ไชยเดช) หญิงสาวเมืองกรุงสุดไฮโซ ฟื้นขึ้นมาบนเรือลำหนึ่งและพบกับความจริงว่า เธอกำลังถูกลักพาตัวมายังเกาะๆ หนึ่งโดยที่เธอก็ไม่รู้ว่าใครกันที่จับเธอมาและด้วยเหตุผลอะไรกัน จนเมื่อเรือมาจอดที่เกาะ เธอก็พบว่าคนที่จับเธอมาคือ "นายหัวเพิ่ม" (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) เจ้าของเกาะมาดเถื่อน ผู้ที่จมอยู่กับอดีต และความแค้นที่มีคนมาทำร้ายจิตใจพี่สาวของตนจนเต้องฆ่าตัวตายไป และนี่คือเหตุผลที่เขาจับตัวอู้อี้มา เพราะต้องการแก้แค้นพ่อของอู้อี้ที่เป็นคนทำร้ายพี่สาวของเขานั่นเอง อู้อี้ต้องถูกกดขี่ ถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ และต้องตกเป็นทาสของนายหัวเพิ่ม ซึ่งนั่นยังไม่ทุกข์ทรมานพอ เพราะเธอยังต้องเจอภัยเสริมจาก "ดอกอ้อ" อดีตแฟนเก่าสุดเร่าร้อนของนายหัวเพิ่ม และ "เจ็ทสกี" หลานสาวสุดเซ็กซี่ของลูกน้องคนสนิท ที่ต่างพากันกลั่นแกล้งเพราะหึงหวงกลัวอู้อี้จะกลายมาเป็นเมียใหม่ของนายหัวเพิ่ม เมื่อใจสองใจใกล้กันก็ทำให้นายหัวเพิ่มกับอู้อี้ เริ่มผูกพันกันเกินกว่าคำว่า "เจ้านาย" กับ "ทาส" ติดแต่เพียงทิฐิที่ทั้งคู่ยังก้าวผ่านไม่ได้ ความแค้น ความเกลียดชัง ตำนานรักของอสูรผู้นี้จะจบลงที่ทาสรักอย่างไร เธอและเขาจะตามหาหัวใจกันเจอมั้ย
เพชฌฆาต The Last Executioner (2557/2014) เชาวเรศน์ จารุบุณย์ (วิทยา ปานศรีงาม) เป็นมือประหารคนสุดท้ายของประเทศไทย ที่ปลิดชีวิตนักโทษด้วยวิธีการยิงเป้าจากนักดนตรีหนุ่มผู้หลงใหลในเพลงร็อคแอนด์โรล และเล่นดนตรีให้กับเหล่าทหารไอจีในช่วงสงครามเวียดนาม เขาต้องเลือกทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ผู้คุมในเรือนจำเพื่อความมั่นคงของครอบครัวที่เขารักเขาใช้ชีวิตทั้งชีวิตยอมรับกรรมดีกรรมชั่วที่เกิดจากหน้าที่ของเขา ในการทำหน้าที่เป็นเพชฌฆาตผู้ปลิดชีพนักโทษมาแล้วถึง 55 คน ตลอดกว่า 19 ปี ในเรือนจำกลางบางขวางหรือที่รู้จักกันดีในนาม คุกเสือใหญ่ หรือ The Bangkok Hilton
Placeholder
จากจันทร์ (2557/2014) ภาพยนตร์ต่อต้านยาเสพติด ฉายเฉพาะสื่อของจังหวัดจันทบุรีเท่านั้น
อยากอยู่อย่างใหญ่ BORN TO BE YAI (2557/2014) ชัย ชัยปรีชา (สรวิชญ์ สุบุญ) เป็นคนเมืองชาละวัน จากเด็กชายบ้านนอก การศึกษาแค่ ป.6 ทั้งๆ ที่ชัยอยากเรียนต่อใจจะขาด แต่ขาดแค่ความพร้อมของครอบครัว คำสอนของคุณปู่ที่พูดถืงแต่อนาคตที่ดี ขัดกับคำพูดของคุณพ่อที่ไม่ให้ชัยเรียนต่อมัธยม คุณแม่สงสารชัยแต่ก็ขัดคุณพ่อไม่ได้ คุณพ่อเพียงคิดแค่จะให้ชัยออกมาช่วยกันทำนาทำสวน เก็บดอกเก็บผลไปขาย หรือรับจ้างตามอย่างพวกพี่ๆ ที่มาช่วยกันทำมาหากิน แม้จะต้องออกจากระบบการศึกษาตามความต้องการของคุณพ่อ แต่ชัยก็ไม่ยอมปล่อยโอกาสที่ผ่านเข้ามาในชีวิตให้ผ่านเลยไปเฉยๆ เขาคว้าโอกาสไว้ และไขว่คว้าหาอนาคตที่ตัวเองต้องการด้วยตนเอง จนในที่สุดโชคชะตาของเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป
ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๕ ยุทธหัตถี

ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๕ ยุทธหัตถี (2557/2014) ในปี พ.ศ. 2129 พระเจ้านันทบุเรง ทรงแค้นเคืองที่ต้องปราชั­ยต่อ สมเด็จพระนเรศฯ อย่างย่อยยับ ทั้งต้องเสียไพร่พลและพระสิริโฉม จึงระบายความแค้นนั้นไปที่องค์พระสุพรรณกั­ลยา เมื่อ สมเด็จพระมหาธรรมราชา พระราชบิดาทราบค­วามก็ให้โทมนัสด้วยสำนึกว่าชะตากรรมของพระ­ราชธิดาและแผ่นดินอยุธยาที่ถูกกระทำการย่ำ­ยีก็ด้วยเพราะพระองค์ทรงแปรพักตร์ไปเข้าข้­างศัตรู จนตรอมพระทัยเสด็จสวรรคต สมเด็จพระนเรศฯ ทรงมีพระชนมายุ 31 พรรษา จึงเสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติค­รองกรุงศรีอยุธยาสืบต่อจากพระราชบิดา สมเด็จพระมหาธรรมราชา หรือ (สมเด็จพระสรรเพ็ชญ์ที่ 1) ข่าวการผลัดแผ่นดินของกรุงศรีอยุธยารู้ไปถึง พระเจ้านันทบุเรง แห่งกรุงหงสาวดี พระเจ้านันทบุเรง พระราชโอรสในพระเจ้าบุเรงนอง สำคัญว่าราชอาณาจักรสยาม หรืออาณาจักรอยุธยาจะไม่เป็นป­กติสุขเป็นช่องชวนชิงเชิง จึงโปรดให้พระราชบุตร พระมังสาม­เกียด หรือ(พระมังกะยอขวาที่ 1) พระมหาอุปราชเจ้าวังหน้ากรีฑาทัพไปตีกรุงศรีอยุธยาอีกคำรบ นำกองทัพทหาร 240,000 นาย (สองแสนสี่หมื่นนาย) มาตีกรุงศรีอยุธยาหมายจะชนะศึกในครั้งนี้ สมเด็จพระนเรศวร ทรงทราบว่า พม่ายกทัพใหญ่มาตี จึงทรงเตรียมไพร่พล มีกำลัง 100,000 นาย (หนึ่งแสนนาย) เดินทางออกจากบ้านป่าโมก อ่างทองไปสุพรรณบุรี ข้ามน้ำตรงท่าท้าวอู่ทอง ลพบุรี และตั้งค่ายหลวงบริเวณหนองสาหร่าย โดย สมเด็จพระนเรศวร โปรดให้ พระราชมนู แต่­งพลเป็นทัพหน้าขึ้นไปลองกำลังข้าศึกถึงหนอง­สาหร่าย ทัพหน้า พระราชมนู ปะทะเข้ากับทัพพม่าถึงขั้­นตะลุมบอน แต่กำลังข้าง พระราชมนู น้อยกว่าจึงแตกพ่ายถ­อยลงมาเป็นอลหม่าน สมเด็จพระนเรศฯ ทราบความจึงออกอุบายให้ทัพข้าศึกไล่เตลิดลงมาจนเสียกระบวนแล้วจึงทรงนำกำลังออกยอทัพข้าศึก ครั้งนั้นพระคชสารทรงของสมเด็จพระนเรศฯ นามเจ้าพระยาไชยานุภาพ และพระคชสารทรงของสมเด็จพระเอกาทศรถคือเจ้าพระ­ยาปราบไตรจักรต่างตกมัน วิ่งเตลิดแบกพลฝ่าเข้าไปในทัพพม่ารามัญกลางว­งล้อมข้าศึก และหยุดอยู่หน้าช้าง พระมังสามเกียดพระมหาอุปร­าชา พระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นพระมหาอุปราชาทรงพระคชสารอยู่ในร่มไม้กับเหล่าพระยาขุนศึก จึงทราบได้ว่าพระคชสารทรงของสองพระองค์หลงถลำเข้ามาถึงกลางกองทัพข้าศึก และตกอยู่ในวงล้อมข้าศึกแล้ว แต่ด้วยพระปฏิภาณไหวพริบของสมเด็จพระนเรศวร ทรงเห็นว่าเป็นการเสียเปรียบข้าศึกจึงไสช้างเข้าไปใกล้ แล้วตรัสถามด้วยคุ้นเคยมาก่อนแต่วัยเยาว์ว่า "พระเจ้าพี่เราจะยืนอยู่ใยในร่มไม้เล่า เชิญออกมาทำยุทธหัตถีด้วยกัน ให้สมพระเกียรติยศไว้ในแผ่นดินเถิด ภายหน้าไปไม่มีพระเจ้าแผ่นดินที่จะได้ยุทธหัตถีแล้ว" พระมังสามเกียดพระมหาอุปราชาได้ยินดังนั้น จึงไสพระคชสารนามว่า พลายพัทธกอเข้าชนเจ้าพระยาไชยานุภาพเสียหลัก พระมังสามเกียดพระมหาอุปราชาทรงฟันสมเด็จพระนเรศวรด้วยพระแสงของ้าว แต่ สมเด็จพระนเรศวร ทรงเบี่ยงหลบทัน จึงฟันถูกพระมาลาหนังขาด จากนั้น เจ้าพระยาไชยานุภาพชนพลายพัทธกอเสียหลัก สมเด็จพระนเรศวร ทรงฟันด้วยพระแสงของ้าวถูก พระมังสามเกียด พระมหาอุปราชา เข้าที่อังสะขวา สิ้นพระชนม์อยู่บนคอช้าง ส่วน สมเด็จพระเอกาทศรถ ทรงฟันเจ้าเมืองจาปะโรเสียชีวิตเช่นกัน พม่าจึงยกทัพกลับกรุงหงสาวดีไป นับแต่นั้นมาก็ไม่มีกองทัพใดกล้ายกมากล้ำกรายกรุงศรีอยุธยาอีกเป็นระยะเวลาอีกยาวนาน

วังพิกุล Village of Hope (2557/2014) วังพิกุล (Village of Hope) ผลงานภาพยนตร์อิสระเรื่องที่ 3 ของกลุ่ม ปลาเป็นว่ายทวนน้ำ ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นภาคที่ 2 ของไตรภาคชุด คนจน (Poor people ) ของบุญส่ง นาคภู่ ภาคแรก คือ คนจนผู้ยิ่งใหญ่ ปี 2554 (Poor People The Great) ในภาคแรก เรื่องราวเน้นที่ตัวละคร พ่อ ที่พยายามหาเงินมาใช้หนี้เงินล้านของหมู่บ้าน ขณะที่ลูกชายวัยรุ่นช่างฝันอยากเป็นนักร้องเพลงเพื่อชีวิต ภาคที่ 2 ปี 2557 นี้ เป็นเรื่องราวลูกชาย หลังจากสามปีผ่านไป เขาติดทหาร และได้เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้าน แต่สิ่งที่เขาค้นพบเมื่อกลับบ้านคือ ความล่มสลายของครอบครัวของทุกคนรอบๆ ตัวเขา เรื่องราวเล็กๆ แห่งชีวิตทำให้เขาต้องตัดสินเลือกเดินในทางใดทางหนึ่ง
The End ผู้หญิงเลือกได้ (2557/2014) เรื่องราวมุมมองและการเรียนรู้ความรักของ แอล (นาตาลี ดูเชียง) หญิงสาวสมัยใหม่ที่ถูก โบร๋ว (ยุรนันท์ พรนำโชคชัย) คนรักทำให้ผิดหวังหลายครั้งหลายหนจากนิสัย­เจ้าชู้ของเขา แอลตัดสินใจจบความรักครั้งนี้หลังจากมีผู้­หวังดีส่งคลิปของโบร๋วที่แอบมีเซ็กส์กับผู้หญิงอื่นในห้องน้ำผับให้แอลดู จากจุดจบความรักครั้งนี้ แอลคิดประชดชีวิตด้วยการทำตัวเหลวแหลก จึงชวน มิ้นท์ (ณัชชา สุผลากร) เพื่อนรักออกเที่ยวผับและตั้งใจจะปล่อยตัว­กับผู้ชายไม่เลือกหน้า แต่สิ่งที่แอลไม่รู้ก็คือ เหตุการณ์ครั้งนี้จะเปลี่ยนมุมมองและนิยามความรักของแอลไปตลอดกาลในแบบที่แอลเองก็คาดไม่ถึงระหว่างผู้ชาย 3 คน ต้น (วรุตม์ ภัทราเวสส์สกุล) ชายหนุ่มโรแมนติกนิสัยดี ที่แอลพบในผับ และเขาอาจเป็นความรักครั้งใหม่ บุ๊ค (ประเสริฐสุข เหมทานนท์) บาร์เทนเดอร์จอมกะล่อน ที่แอลหวังจะปล่อยตัวปล่อยใจในคืนนั้น หรือแอลจะกลับไปคืนดีกับ โบร๋ว คนรักเก่าที่ลึก ๆ แล้วแอลก็ยังไม่ลืม จุดจบความรักครั้งนี้ มีเพียงแอลเท่านั้นที่จะตอบได้ว่า แอลจะเริ่มต้นความรักครั้งใหม่ของเธออย่างไร
กรรไกร ไข่ ผ้าไหม (2557/2014) ในกรุงเทพฯ ที่มีแต่เรื่องการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียนหรืออาชีพต่าง ๆ ทุกแขนงของสังคมทำให้ทุกคนต้องปากกัดตีนถีบเพื่อเอาตัวรอด แต่ที่ "โรงเรียนนานาจิตตรงกัน" นั้นมีความรักความสามัคคีให้กันและกันเสมอจนทำให้ทุกคนอยากจะมาเรียนที่โรงเรียนนี้ทั้งคนจนและคนรวย เพราะโรงเรียนมีความเมตตาสูง และเรื่องราวความสนุกสนานครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้นในโรงเรียนนี้ เมื่อประเทศไทยต้องเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (AEC) ในอีกสองปีข้างหน้า ทำให้โรงเรียนต้องยกระดับความรู้ความสามารถในเรื่องภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาสากลโลกให้ได้เป็นอย่างดี งานนี้จึงกลายเป็นภาระ เอ้ย! การบ้านชิ้นใหญ่สำหรับเด็กนักเรียนที่ไม่คุ้นเคยกับภาษาอังกฤษ เมื่อนักเรียนทุกคนต้องเรียนรู้และฝึกพูดภาษาอังกฤษให้ได้ทั้งทักทาย พูดคุย ถามตอบในโรงเรียน OMG! Hello, How Are You, I'm Fine, Thank You, What, When, Where, Why กันละเนี่ย แต่ยังไม่จบเรื่องฟุดฟิดฟอไฟ ก็ดันมีเรื่องเวรี่ด่วนมากให้ต้องรีบทำ เมื่อทางโรงเรียนได้รับเชิญให้ส่งนักเรียนเข้าประกวดลีลาศเพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันกับนานาชาติ ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพในปีนี้ เอาล่ะสิ งานเข้าเต็ม ๆ แบบยกกำลังสอง ทั้งการเรียน การแข่งขัน ความรัก ความสามัคคี ความอลเวงแสบซ่าจากเด็กนักเรียนหลากรุ่นหลายแก๊งทั้งแก๊งนางฟ้า, แก๊งโอเลี้ยง, แก๊งนักดนตรี, แก๊งเด็กแสบ, แก๊งหนุ่มหล่อ, แก๊งกะโหลกกะลา ฯลฯ
คิดถึงวิทยา (2557/2014) ปีการศึกษา 2555 สอง (สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว) อดีตนักกีฬามวยปล้ำตกอับต้องผันตัวเองมาเป็นครูยังโรงเรียนแห่งหนึ่งที่กว่าจะไปถึงต้องออกเดินทางตั้งแต่เช้ามืด ขึ้นรถผ่านผืนป่า ลงเรือฝ่าผืนน้ำหลายชั่วโมง โรงเรียนซึ่งตั้งอยู่กลางเขื่อน โอบล้อมด้วยภูเขาและผืนน้ำอันกว้างใหญ่ “โรงเรียนบ้านแก่งวิทยา สาขาเรือนแพ” โรงเรียนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เด็กๆลูกชาวประมงที่ไม่มีโอกาสออกไปนอกเขื่อนได้มีโอกาสเรียนหนังสือ สองต้องสอนเด็กๆสุดแสบที่แม้จะมีเพียง 4 คน แต่ก็ล้วนเรียนกันคนละชั้นกันหมด แถมเขายังต้องสอนเด็กๆทุกวิชาทุกชั้นเรียนด้วยตัวคนเดียว ยิ่งไปกว่านั้นเขายังต้องทนกับสภาพที่ไม่มีทั้งไฟฟ้าน้ำประปา หนำซ้ำต้องผจญกับความเหงาที่ไม่สามารถติดต่อใครได้เพราะที่โรงเรียนนี้ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ สิ่งเดียวที่พอจะช่วยให้สองคลายเหงาได้คือไดอารี่เล่มหนึ่งที่ถูกลืมทิ้งไว้ของแอน (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ครูคนเก่าที่เพิ่งย้ายออกไป แอนเขียนตัดพ้อถึงชีวิตของเธอและครูทุกคนที่มาสอนที่นี่ว่านอกจากจะลำบากแล้วยังต้องเลิกกับแฟนทุกราย ถึงขนาดตั้งฉายาให้โรงเรียนนี้ว่า “ถ.ท.ว. ถูกทิ้งวิทยา” สองอ่านเรื่องของแอนผ่านสมุดเล่มนี้เสมือนเธอเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่เข้าใจหัวอกของเขา จนกลายเป็นความผูกพันผ่านตัวหนังสือที่ยิ่งอ่านเขาก็ยิ่งเฝ้าคิดถึงตัวจริงของเธอ แต่แม้สองจะอยากเจอแอนแค่ไหน เขาก็ไม่รู้ว่าจะไปพบเธอได้อย่างไร…
Present Perfect หากว่าย้อนเวลากลับไปได้ (2557/2014) "...เรื่องราวของหญิงสาวฮิปสเตอร์ขาปาร์ตี­้ ที่ต้องมารับมือกับหลานสาวสุดซน ที่เธอไม่เคยเจอกันมาก่อน ในเวลาเดียวกันเธอยังต้องรับมือกับปมความร­ักในอดีต และ ความสัมพันธ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตจากหน­ุ่มข้างห้อง..."