แก๊งค์ ตบผี (2555/2012) เมื่อกลุ่มหมอผีกลุ่มหนึ่งที่ยังหลงเหลือในยุค 2011 ได้ถูกเชิญให้ไปออกรายการทีวี ซึ่งเป็นรายการที่กำลังถูกโจมตีอยู่ในตอนนี้ หลังจากทางทีมงานได้เห็นคลิปการปราบผีของกลุ่มคนผู้อ้างตัวว่าเป็นหมอผีที่โพสต์โชว์ไว้ในยูทูป แล้วเห็นว่าเป็นกลที่มันส์และเนียนดี จึงต้องการเชิญมาแสดงโชว์เพื่อเรียกเรทติ้งกลับคืนมา ในวันอัดรายการ เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อไอ้เม่นกับไอ้เฉียดสองหนุ่มมาดกวนที่อยู่ในคลิปไม่ใช่แค่พวกเล่นกลปาหี่อย่างที่ทีมงานเข้าใจแต่งานนี้ดันเป็นหมอผีตัวจริงเสียงจริง ที่หวังจะแจ้งเกิดส่งเสริมชื่อเสียง เรื่องราวความชุลมุนวุ่นวายจึงเกิดขึ้นตามมา ขณะที่รายการก็ต้องถ่ายต่อ ให้จบเพราะงานนี้เป็นงานลบคำสบประมาทด้วย
The Melody รักทำนองนี้ (2555/2012) เพลงรักนับล้านที่มีมากมายอยู่บนโลก แต่มีแค่เพลงเดียวที่มันเป็นของเราสองคน “The Melody รักทำนองนี้” เมื่อดนตรีนำพาทั้งคู่ให้เจอกัน เนื้อเพลงและความหมายที่มีอยู่ต่อจากนี้ จึงเต็มไปด้วยความรู้สึกและความรัก…ที่มีอยู่จริง เมื่อเส้นทางชีวิตของ “วิน” (แดน วรเวช) นักร้องและนักแต่งเพลงยอดนิยมผู้มีความมั่นใจในตัวเองสูง กำลังเข้าสู่ช่วงขาลงแบบสุดๆ ความเปลี่ยนแปลงที่ยากจะยอมรับทำให้วินหนีไปซ่อนตัวที่แม่ฮ่องสอน เมืองเล็กๆ บนภูสูง ที่ที่ทำให้เขาบังเอิญพบกับ “หมอก” (ฉัตร ปริยฉัตร) นักเปียโนฝีมือดี สาวจอมตื๊อที่มักชอบบังคับให้เขาทำในสิ่งที่เกลียดอยู่เสมอ และแล้วเธอก็เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาโดยไม่รู้ตัว ความใกล้ชิดและดนตรีทำให้วินได้เรียนรู้ว่า ทำนองเพลงที่บรรเลงได้ไพเราะที่เขาค้นหามาตลอดชั่วชีวิต คือเสียงหัวใจของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าของเขานี่เอง แต่กว่าวินจะรู้ตัว โชคชะตาก็นำพาอุปสรรคสำคัญเข้ามา สิ่งที่จะทำให้วินและหมอกเรียนรู้ที่จะเป็นแรงบันดาลใจของกันและกัน บททดสอบที่จะทำให้คู่รักทุกคู่รู้จักไขว่คว้าความสุข แม้ว่าจะอยู่ในมุมมืดมิดของความทุกข์ที่กำลังก่อตัวขึ้นมา เพลงที่เธอแต่งทำนองและเขาช่วยแต่งคำร้องที่บริสุทธิ์ที่สุดที่บทเพลงทั้งหมดเคยบรรเลงมา ร่วมซึ้งไปกับบรรยากาศสุดโรแมนติกในเมืองแห่งสายหมอก กับบทเพลงอันไพเราะด้วยฝีมือการแต่งเพลงจากนักแสดงนำ “แดน วรเวช” และนักร้องเสียงอบอุ่นอย่าง “บอย ตรัย” ที่จะมาเปลี่ยนแปลงฤดูหนาวของใครหลายคน ให้กลายเป็นฤดูที่หัวใจเต้นเป็นทำนองใหม่ที่อบอุ่นที่สุด
It Gets Better ไม่ได้ขอให้มารัก (2555/2012) การเดินทางตามหารักแท้ของ 3 คน ที่ทำให้ทุกที่ที่พวกเขาและเธอเดินทางไป ต่างทำให้คนที่พวกเขาตกหลุมรักต่างปั่นป่วนกันไปทั่ว สายธาร (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) กะเทยแปลงเพศรุ่นปลดระวางในมาดเหมือนก๊อบปี้หลุดมาจากนางเอกหนัง เธอเดินทางไปหมู่บ้านบนดอยในภาคเหนือจึงได้พบกับ ไฟ (ปรมะ อิ่มอโนทัย) ช่างซ่อมมอเตอร์ไซค์หนุ่มรูปหล่อที่ขโมยทั้งตัวและหัวใจของเธอไปทันทีที่เธอ จะขับรถชนเขาในตลาด เธอต้องหาทางทำทุกวิถีทางให้เขามองข้ามเพศชายที่เธอเคยเป็นและหันมามองเธอที่หัวใจให้ได้ ต้นไม้ (ภาณุพงศ์ วราเอกศิริ) หนุ่มหล่อที่เดินทางมาจากเมืองนอกเพื่อมารับมรดกซึ่งเป็นบาร์โชว์กะเทยของพ่อที่ตายไปซึ่งเขาต้องการจะปิดบาร์และกลับเมืองนอกถ้าเขาไม่ได้พบรักกับ ต้นหลิว (นันทิตา ฆัมภิรานนท์) กะเทยทอมบอยที่เป็นคนขับรถตู้ของบาร์ แต่เขาก็ไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเธอที่เป็นผู้ชายมาก่อน เขาจะทำอย่างไรกับหัวใจอันสับสนของตัวเอง ดิน (พาวิช ทรัพย์รุ่งโรจน์) เด็กหนุ่มวัยมัธยมที่พ่อจับได้ว่ากำลังจะเป็นกะเทย พ่อจึงจับเขาเดินทางไปบวชที่วัดเพื่อฝึกตัวให้เป็นผู้ชาย แต่ที่วัดแห่งนั้นดินก็ไปพบกับ หลวงพี่แสง (กฤษตฌาพนธ์ ธนะนารา) พระพี่เลี้ยงใจดีที่คอยดูแลเขา เขาจึงอดใจไม่ไหวที่จะมอบหัวใจให้กับเขา แต่ก็ด้วยอยู่ในผ้าเหลืองเขาจึงจำใจต้องสะกดความรู้สึกตัวเองเอาไว้แต่จะเก็บอาการได้มากแค่ไหนนั้น ใครจะไปรู้ ทั้ง3 คู่ 6 หัวใจนั้น ต้องฝ่าฟันกับความเชื่อของผู้คนในสังคมมากมายจนอาจจะ ไม่สามารถก้าวข้ามความต้องการของหัวใจตัวเองก็เป็นได้ ทั้งที่ความจริงแล้วพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้ต้องการความรัก ขอแค่ความเข้าใจ
วาเลนไทน์ สวีทตี้ (2555/2012) เพราะเชื่อว่าทุกคนอยากได้ "สภาวะทิ้งตัว" ทุกคนอยากได้ ใครซักคนที่เรารัก ใครซักคนที่รักเรา ใครซักคนที่พึ่งพิงได้ และใครซักคนที่เราสามารถทิ้งทั้งตัวและหัวใจไว้กับเค้าได้ เรื่องราวความรักของคนเหล่านี้ เริ่มต้นขึ้นในคืนวันคริสมาสอีฟ และจบลงในคืนวันวาเลนไทน์ "คนบางคนหลงรักแฟนเพื่อน และคนบางคนหลงรักเพื่อนแฟน" "ผู้ชายบางคนเป็นพี่ชายที่น่ารักดี และผู้หญิงบางคนอยากหาพี่ชายดี ๆ มาเป็นคนรัก" "คนบางคนแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าเป็นคู่รักหรือเป็นคู่แข่ง และคนบางคนที่ยอมแพ้เพราะยอมให้" "คนบางคนไม่รู้ว่าหลงรักเพื่อนตัวเอง และคนบางคนไม่รู้ว่าเป็นเพื่อนรักหรือเป็นคนรัก" "คนบางคนต้องการหาใครซักคนบนโลกมาเป็นคนรัก และใครบางคนต้องการเป็นคนถูกรักมากที่สุดในโลก" "คนบางคน เมื่อมีความรักที่ดีดันไปทำเลว และเมื่อเวลาที่จะทำดี ใคร ๆ ก็ดันเชื่อว่าเดี๋ยวก็จะเลว" หลายครั้งที่เราสรุปว่า นี่คือตอนจบของความรัก แต่เชื่อเถอะ บางทีมันอาจจะไม่ใช่จุดจบ แต่มันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นด้วยซ้ำ จากภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้เราเชื่อได้ว่า ความรักจะจบลงเมื่อไหร่ก็ได้ และความรักจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้เช่นกัน คนรักของเราอาจจะเป็นคนนี้ก็ได้ เป็นคนใหม่ก็ได้ หรืออาจจะเป็นคนเก่าก็ได้ ความรักเป็นเรื่องที่ไม่ได้สวยงามอย่างเดียว มันมีเรื่องที่เลวร้ายรวมอยู่ด้วย แต่เมื่อเราเลือกที่จะมีคนรักแล้วล่ะก็ เราควรจะยอมรับทั้งส่วนที่สวยงามและส่วนที่เลวร้ายของคนรักเราด้วย...
ก้านคอการ์ด (2555/2012) ในตำบลหนึ่งได้มีค่ายมวยอยู่สองค่าย และปีต้องมีการต่อยมวยเดิมพันกันค่ายหนึ่งซึ่งเป็นแชมป์คือ ส.เคราแพะ อีกค่ายหนึ่งซึ่งเป็นอดีตแชมป์ ค่าย ศิษย์เฮียอ๋า ทั้งสองพยามหานักมวยที่เก่งมาฝึกซ้อมเพื่อจะได้ประลองกัน ฝ่ายที่เป็นรองคือค่ายเฮียอ๋าจึงพยามหานักมวยมาต่อสู้กับแชมป์ของส.เคราแพะ ใครจะเป็นฝ่ายชนะหรือใครเป็น ฝ่ายได้เปรียบ และใครต้องเสียค่ายมวยเป็นเดิมพันโปรดตืดตามชมก้านคอ+การ์ดสุดมันส์
รักเลี้ยว.. เฟี้ยวว!! (อ่ะ) (2555/2012) กรธวัช (หลุยส์ สก็อตต์) ชายหนุ่มหน้าตาดี ฐานะดี มีการศึกษาสูงเป็นชายในฝันของหญิงสาวทั่วไป วันหนึ่งเมื่อเขาตื่นขึ้นมาในที่แห่งหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยธรรมชาติของขุนเขาและสายน้ำอันแสนจะสวยงาม อุดมสมบูรณ์ ซึ่งแตกต่างกันอย่างมากมายกับสถานที่ ที่เขาจากมา เขาได้ค้นพบความหมายของชีวิตบางอย่างที่นี่ ที่ ภูทับเบิก ซึ่งมีเรื่องราวของชีวิตพอเพียง และได้จุดประกายบางสิ่งบางอย่างขึ้น และเพื่อแก้ไขความสับสนยุ่งยาก ซับซ้อน ในชีวิตของเขาที่เกิดขึ้น กรธวัช จึงเริ่มค้นหาคำตอบ โดยการเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ เขาเริ่มเดินทางจาก ภูทับเบิก ซึ่งอาจจะถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นการดำเนินชีวิตในแบบใหม่ของเขา ต่อไปยัง เชียงคาน เมืองเลย เชียงใหม่ หัวหิน เวียงกาหลง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นสถานที่โบราณ ที่ทำให้ กรธวัช ได้ค้นพบคำตอบที่สามารถเป็นแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาความสับสน ยุ่งยาก และซับซ้อนในชีวิตของเขาได้ และถึงแม้ว่าจะรู้แนวทางแก้ไขแล้ว แต่การเดินทางไปในที่ต่าง ๆ การได้พบเจอผู้คนหลากหลาย ความแตกต่างในการดำเนินชีวิตของผู้คนที่เขาได้รู้จักระหว่างทาง กลับทำให้ กรธวัช ต้องเลือกอีกครั้ง ว่าเขาจะใช้แนวทางคำตอบที่เขาได้รับรู้มา แก้ไขปัญหาของเขาดีหรือไม่ หรือว่าจะปล่อยทิ้งไว้อย่างเดิมต่อไป บางทีคุณอาจจะช่วย กรธวัช ได้
รัก An Ordinary Love Story (2555/2012) โน้ต (โกเมน เรืองกิจรัตนกุล) กำลังวางแผนขอ น้ำ (เบญจณัฎฐ์ อักษรนันทน์) แต่งงาน ทั้งคู่วาดฝันที่จะมีพิธีวิวาห์ ณ รีสอร์ทริมชายหาดหัวหินอย่างเรียบง่าย โดยมี คุณหนึ่ง (บิลลี่ โอแกน) เจ้าของบริษัทโฆษณา เจ้านายของ "น้ำ" และภรรยาคือ คุณวินนี่ (ซอนย่า คูลลิ่ง) เจ้าของรีสอร์ท อดีตนักแสดงผู้กำลังจะหวนกลับสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง เป็นโต้โผจัดงานสมรสให้อย่างพิถีพิถัน คู่บ่าวสาวยังได้รับความช่วยเหลือจาก รุ่นน้องแสนซน พลอย (แพรว คณิตกุล) มาเป็นคนเก็บภาพวิดีโอเบื้องหลังของช่วงเวลาอันแสนอลหม่านก่อนงานวิวาห์นี้ พร้อมกับ ตั้ม (วทัญญู นิวัติศัยวงศ์) ตากล้องหนุ่มมาดเซอร์สุดยียวน ที่คอยป่วนหัวใจพลอยตลอดเวลา เรื่องราวของทั้งคู่วุ่นวายพอ ๆ กับ กาย (สุรเกียรติ บุนนาค) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของวินนี่และหนึ่ง ที่ต้องโคจรมาเจอ โบ้ท (อวบอ้วน - วัฒนา ชุมสาย ณ อยุธยา) พ่อครัวหัวป่าก์ประจำรีสอร์ท ด้วยความร่วมมือจากหลาย ๆ ฝ่าย งานวิวาห์ที่มีคอนเซ็ปต์สุดแสนจะกิ๊บเก๋จาก ซูซี่ สาวหัวครีเอทีฟสุดเพี้ยน (อิม อชิตะ) ก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ไปพร้อม ๆ กับความรักจากอีกหลายคู่ที่เริ่มก่อตัวขึ้นไปพร้อม ๆ กัน โดยว่าที่เจ้าบ่าว-เจ้าสาวมือใหม่ ยังต้องเผชิญกับบททดสอบหัวใจครั้งสำคัญ... "คำ ๆ เดียวที่สร้างเรื่องราวได้ไม่รู้จบ"
ตำนานรัก แม่นาค 3D (2555/2012) ความจริงไม่จำเป็นต้องเล่าเรื่องย่อก็ได้ เพราะทุกคนรู้อยู่แล้ว แต่ใส่ไว้ จะได้ดูแง่มุมการทำใหม่ครั้งนี้ ณ.พระโขนง เมื่อผัวเมียคู่หนึ่งยืนร่ำลากันที่ศาลาด้วยความอาลัย นายมาก ผู้ผัวถูกบาดหมายเกณฑ์เลขไพร่ไปเป็นทหารที่บางกอก ฝ่ายเมีย คือ นางนาก ขณะนั้นกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ อยู่ด้วย นางนากเอาแต่ร่ำไห้ว่าจะขาดใจตาย ในยามที่เรือของผัวลับคุ้งน้ำไป นายมากถูกเกณฑ์ไปรบในสงคราม ณ สมรภูมิอันกันดาร ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงถูกส่งตัวไปรักษากับ สมเด็จพุฒาจารย์โตที่วัดระฆัง นางนากไม่ได้ข่าวคราวผัวเลยตั้งแต่จากกันไป ได้แต่เพียรมายืนรอผัวที่ศาลาท่าน้ำแห่งนั้นทุกเมื่อเชื่อวัน ขณะที่ครรภ์ของนางก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เข้าเดือนที่ 9 นางนากเจ็บท้องจะคลอดลูก ทิดอ่ำ ได้ตาม ยายเอิบ หมอตำแยมาทำคลอด แต่ลูกในท้องก็หายอมออกมาไม่ นางนากเบ่งลูกด้วยความเจ็บปวดจนในที่สุดก็ขาดใจตายไปทั้งแม่และลูก ฝ่ายนายมาก เมื่อบาดแผลหายดีแล้วก็ให้เป็นห่วงเมีย จึงอำลา สมเด็จโต กลับบ้านที่พระโขนงระหว่างทาง นายมากให้ผิดสังเกตนัก ด้วยทั่วทั้งบางพระโขนงเงียบเหงาวังเวงผิดหูผิดตา ครั้นมาถึงที่ศาลาริมน้ำก็พบ นางนาก อุ้มลูกมายืนรอผัวอยู่ นายมากก็ดีใจที่ได้พบลูกเมีย โดยหาเฉลียวใจไม่ว่าเมียและลูกของตนนั้นเป็นผีหาชีวิตไม่แล้ว นายมาก อยู่กินกับ ผีนางนาก ฉันผัวเมีย โดยมิได้ระแคะระคายใดๆ เลย ผีนางนากเฝ้าปรนนิบัติผัวเฉกเมื่อครั้นยังมีชีวิตอยู่ ความรักความอาลัยของนางนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่ากฎอนิจจัง หากนางเองก็สำเหนียกได้ว่า วันหนึ่งนายมากจะต้องรู้ความจริงว่านางตายไปแล้ว และวันนั้นทั้งสองผัวเมียก็จะต้องจำพรากจากกันไปชั่วนิรันดร์ นางจึงทำทุกวิถีทางเพื่อมิให้นายมากรู้ ขณะที่ชาวบ้านละแวกนั้นเริ่มตายลงทีละคน รวมทั้ง ทิดอ่ำก็ตายลงอย่างลึกลับ และเสียงล่ำลือถึงอิทธิฤทธิ์ ผีนางนากก็ระบือไปทั่วบางพระโขนง จนไม่มีใครกล้าออกไปไหน และแล้วคืนที่ นายมาก รู้ความจริงก็มาถึง เมื่อผีนางนากเผลอนำมะนาวตกลงใต้ถุนเรือน นายมากแอบเห็นเมียแสดงอิทธิฤทธิ์ยื่นมือยาวลงไปเก็บผลมะนาวนั้น ก็รู้ทันทีว่าเมียของตนเป็นผี นายมากตกใจกลัวจึงหนีไปซ่อนตัวที่วัดมหาบุด เวลานั้นญาติทิดอ่ำผู้โกรธแค้นได้ยกพวกมาเผาเรือนนางนาก ผีนางนากอาละวาดฆ่าคนตายไปมากมาย ก่อนจะออกติดตามหาผัวไปถึงวัดมหาบุด จนพระเณรแตกตื่นตกใจกันไปทั่ว ร้อนถึง สมเด็จโต วัดระฆังต้องออกเดินทางมาปราบ ท่านไปที่หลุมศพ นางนากจึงสงบลง สมเด็จโตจึงเจาะเอากระดูกหน้าผากศพชิ้นหนึ่ง เพื่อสะกดวิญญาณนางนากไว้ และนำติดตัวไปกับท่านตลอดเวลา นับตั้งแต่วันนั้นมาไม่มีใครได้ยินข่าว ผีนางนาก ออกอาละวาดอีกเลย นายมากได้บวชเป็นภิกษุเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่เมียรักในสัมปรายภพ ส่วนกระดูกหน้าผากชิ้นนั้น ภายหลังได้หายสาปสูญไปเหลือไว้แต่เพียงเรื่องเล่าขานถึงความรักความภักดีต่อ ผัวของนางนาก ที่ยังคงอยู่ตราบทุกวันนี้
Fatherland ปิตุภูมิพรมแดนแห่งรัก (2555/2012) ภาพยนตร์ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่อง พรมแดน ของศิลปินแห่งชาติ เรื่องราวเกี่ยวกับการตีแผ่ปัญหาความรุนแรงของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
กาฝาก Parasite (2555/2012) รีสอร์ทห่างไกลแห่งหนึ่งเป็นที่ซ่องสุมของสามโจร และเงินจำนวนมากที่พวกเขาไปปล้นมา เส้นทางแห่งการเลือกเอาชีวิตรอดและความรักจะถูกทดสอบ และใครกันแน่ที่เป็นกาฝาก
ว่ายน้ำข้ามทะเลดาว (2555/2012) เรื่องราวของพี่ชายกับน้องสาวตัวเล็กๆ ที่กำลังเผชิญปัญหาชีวิต คุณแม่ของพวกเขาเสียชีวิต ส่วนคุณพ่อก็ล้มป่วยลง ฝ่ายน้องสาวก็ไม่ยอมพูดจา พี่ชายอย่าง โจ (โทนี่ รากแก่น) ก็มีชีวิตที่ดำดิ่งลงเรื่อยๆ กระทั่งเขาได้มาทำงานพิเศษกับ ดร. ดุจดาว (ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี) ที่ท้องฟ้าจำลอง ดร. ดุจดาวได้สอนให้ 2 พี่น้องได้เห็นมุมมองต่อโลกผ่านการพูดคุยกับเธอ ส่วนพวกเขาก็ได้เรียนรู้ว่าการใช้ชีวิตต้องประกอบด้วยความเพียร จึงจะผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้ แทนที่จะถามว่าเราจะไปถึงดวงดาวดวงไหนได้ไหม เราต้องถามตัวเองว่าวันนี้ตัวเราเองว่ายน้ำแล้วหรือยัง เพราะถ้าหยุดอยู่นิ่งเมื่อใด เราจะจมลงและไม่มีทางไปถึงดวงดาวที่อยากไปได้เลย
หนูเอาอยู่ (2555/2012) หนูนาเด็กจากต่างจังหวัดเข้ามาในกรุงเพื่อแก้แค้นให้พี่สาวที่ตายเพราะผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อเผด็จ ซึ่งเผด็จเป็นคนเจ้าชู้ชาวบ้านร้านถิ่นรู้จักดีว่าเผด็จเป็นคนเจ้าชู้ หนูนาได้เข้ามาอยู่ที่หอพักที่พี่สาวเคยอยู่และมีเพื่อนๆของพี่สาวคอยช่วยเหลือในการแก้แค้น หนูนาหาเผด็จเจอและคิดหาทางที่จะแก้แค้นให้พี่สาวให้จงได้ แต่ทำไม่สำเร็จสักที แต่อยู่มาวันหนึ่งเพื่อนของพี่สาวที่เป็นพยาบาลอยู่ที่โรงหมอแห่งหนึ่งมาบอกว่าเผด็จเกิดไอ้จู๋หักจะยุ่งกับใครไม่ได้ถ้ายุ่งกับใครภายใน 1 เดือนจะต้องถูกตัดจู๋ทิ้ง ทั้งหมดจึงวางแผนเพื่อที่จะแก้แค้นเผด็จ แต่เรื่องไม่เป็นอย่างที่คิด มันเกิดอะไรขึ้นกับหนูนาและเผด็จ โปรดติดตามชม หนูเอาอยู่ ว่าจะมันแค่ไหน
วัยรุ่นพังร้าน (2555/2012) กระต๊อบลูกชายคนขายปาท่องโก๋ ที่วันๆได้แต่แว๊นรถมอเตอร์ไซร์แข่งประจำ จนโดนตำรวจจับ และถูกพ่อด่าอย่างแรงจนออกจากบ้านมาอยู่กับก๊วนเด็กแว๊น และมีความคิดที่จะนำเงินที่ขโมยพ่อมาลงทุนธุรกิจหลายๆอย่างก็เจ๊งหมด แต่สุดท้ายได้ไปเจอกับซาละเปาซึ่งรสชาดอร่อยมาก จึงพยายามที่จะไปขอสูตรการทำ ได้หรือไม่ได้ ธุรกิจนี้จะสำเร็จหรือไม่ หรือว่าจะต้องพังร้านอีก
อีแก่อันตราย (2555/2012) ยายชา(ยายชา เถิดเทิง)ซึ่งเป็นคนที่คลั่งไคล้หนังทูมไรเดอร์ กับตาเหยิน(ค่อม ชวนชื่น)ขาย กล้วยแขกอยู่ในชุมชนแห่งหนึ่งซึ่งมีการค้าขายยาเสพติคระบาดอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตาเหยินไม่ ชอบเป็นอย่างมากและได้พยายามที่จะขัดขวาง โดยได้รับการช่วยเหลือจากจ่าเหน่ง(โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม) ซึ่งเป็นเพื่อนกันและเคยแอบชอบยายชาเหมือนกัน จึงได้มีการประชุมชาวบ้านเพื่อ ต่อต้านยาเสพติด ต่อมาเสี่ยศักดิ์(แอนนา ชวนชื่น)ว่าที่ผู้สมัคร สส.ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังยา เสพติดในชุมชนไม่พอใจ จึงได้สั่งคนไปเก็บตาเหยินและได้โยนความผิดให้ด้วย ยายชาจึง ต้องมาตามแก้แค้นและเปิดโปงแก๊งค้ายาเสพติค ซึ่งจะดุเดือดเผ็ดมันปนฮาแค่ไหนต้องติดตาม
ปัญญา เรณู 2 (2555/2012) หลังเหตุการณ์ทั้งดีและร้ายในภาคแรกได้ผ่านพ้นไป และถึงแม้ "วงโปงลางหนหวย" ที่ ปัญญา (โชติทิวัตถ์ ผลรัศมี) และ เรณู (สุธิดา หงษา) เป็นสมาชิกอยู่จะไม่ได้เข้าแข่งขันในระดับจังหวัดก็ตาม แต่ทั้งคู่และหมู่เพื่อนก็กลับมาใช้ชีวิตในวัยเด็ก ณ หมู่บ้านโคกสะอาด อย่างสนุกสนานเช่นเคย แต่เรื่องรักวุ่น ๆ ของรุ่นเล็กก็ยังไม่จบลงง่าย ๆ เมื่อ เรณู อยากจะใกล้ชิดกับ ปัญญา ให้มากขึ้นอีกนิดนึง แผนการเอาชนะใจ ปัญญา จึงเริ่มต้นขึ้น โดยมี อภัสรา (สุดารัตน์ บุตรพรม) อดีตสาวรำวงผู้มั่นใจในความสวยของตนเอง มาเป็นกุนซือคอยช่วยเหลือทุกจังหวะ "ตื๊อสุดติ่งชิงใจเธอ" ไม่ว่าปัญญาจะทำอะไรอยู่ที่ไหน เรณู และ อภัสรา จะต้องเข้าไปสร้างความปั่นป่วนกวนใจปัญญาทุกครั้งไป ด้าน ปัญญา นั้นก็มี บักจอบ (บุญฤทธิ์ จันทร์แก้ว) เพื่อนสนิทช่างจ้อ และ พี่กิ๋ง (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) หนุ่มรุ่นพี่ปากร้ายใจดีมาเป็นตัวช่วยกันท่าเว้นวรรคสองสาวให้ห่างจาก ปัญญา เช่นกัน จากเหตุการณ์นี้เองที่ทำให้ อภัสรา ได้พบกับ พี่กิ๋ง อยู่บ่อย ๆ แต่ด้วยความไม่กินเส้นทำให้ต้องปะทะคารมกันทุกครั้งที่เจอ เป็นไม้เบื่อไม้เมากันอยู่ตลอดเวลา แต่นานวันเข้าจังหวะหัวใจกลับเต้นไม่เหมือนเดิม เอาล่ะสิ จังซี่มันต้องถอน เรื่องรักวุ่น ๆ ที่บ้านนาดูเหมือนจะดำเนินไปด้วยดี ก็ดันมีเหตุให้ว้าวุ่นหัวใจเมื่อ มิว (ธฤศวรรณ กาหาวงษ์) และ กี่ (พงษ์สิทธิ์ นาเวียง) เพื่อนจากเมืองกรุงที่เคยช่วย ปัญญา และ เรณู ไว้ ได้เดินทางมาขอความช่วยเหลือจาก ปัญญา และ เรณู ให้เข้าร่วมแข่งขันร้องเพลงที่กรุงเทพฯ ด้วยกัน งานนี้ทำเอา เรณู เกิดอาการหวง ปัญญา ขึ้นมาทันควัน เมื่อเห็น มิว กับ ปัญญา สนิทกันเกินหน้าเกินตา เมื่อ ปัญญา และ เรณู พร้อมหมู่เพื่อนตกลงปลงใจจะเข้าร่วมการแข่งขัน ทุกคนต่างก็ตั้งใจฝึกซ้อมโดยมี อภัสรา ผู้มากทักษะทางการเต้นคอยช่วยฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ และแล้วเวลาสำคัญก็มาถึง เมื่อทีมของ ปัญญา และ เรณู เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปแข่งขัน แต่ระหว่างทาง ปัญญา เกิดหายตัวไปอย่างไม่คาดฝัน ทำให้ทั้งทีมต้องกังวลกับการหายตัวไปของ ปัญญา โดยเฉพาะ เรณู ที่เอาแต่เป็นห่วง ปัญญา จนไม่มีสมาธิในการแข่งขันครั้งนี้แล้ว เรื่องราวจะจบลงเช่นไร อภัสรา และ เรณู จะแก้ไขสถานการณ์นี้ยังไง ปัญญา จะกลับมาทันการแข่งขันหรือไม่ รักวุ่น ๆ ของรุ่นเล็กจะอลเวงแค่ไหน เอาใจช่วย ปัญญา กับ เรณู พร้อมหมู่เพื่อนด้วยเด้อจ้า
รักสุดท้าย ป้ายหน้า (2555/2012) ความรักสุดป่วนของหนุ่มสาวต่างวัย ที่สร้างจากนิยายสุดฮิต "หนุ่มม.ปลาย VS สาววัยทำงาน" ฝีมือการแต่งของ โรบินฮู้ด (Robinhood) ซึ่งติดอันดับ Top5 ของเว็บไซต์วัยรุ่นชื่อดัง และถูกนำมาตีพิมพ์ในปี 2550 โดยสำนักพิมพ์ บลูเบลล์ (Bluebell) ความสนุกสนานของนิยายเรื่องนี้ได้ถูกตาต้องใจ กิรติ นาคอินทนนท์ ผู้กำกับภาพยนตร์ฝีมือดีจากวงการโฆษณาและทีมงานได้ตัดสินใจซื้อลิขสิทธิ์บทประพันธ์มาตั้งแต่ต้นปี 2552 และพัฒนามาอย่างต่อเนื่องร่วมกับทาง บ.ไฟว์สตาร์ฯ จนมาเป็นภาพยนตร์เรื่อง "รักสุดท้าย ป้ายหน้า" ในปัจจุบัน โดยได้นักแสดงสาวเจ้าบทบาท รถเมล์ - คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์ ประกบคู่กับนักแสดงหน้าใสวัยกิ๊ก เพ็ชร - ฐกฤต เหมอรรณพจิต ร่วมด้วย กบ ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี, สิ พิชญ์สินี ตันวิบูลย์, เกตุ ธัญญา รัตนมาลากุล, โมทช์ ปราโมทช์ เทียนชัยเกิดศิลป์, ฤทัยวรรณ วงศ์สิรสวัสดิ์ ฯลฯ เรื่องย่อ ชนิสา สาวออฟฟิศอายุ 25 ปี ที่ไม่เคยจะรักใครจริง ๆ จัง ๆ ได้สักที ไม่ใช่ว่าสาไม่รักใครแต่เป็นเพราะสายังยึดมั่นกับ "รักครั้งแรกŽ" ที่มีต่อ พี่โอม รุ่นพี่ที่แอบรักมาตั้งแต่สมัยเรียนประถมจนถึงมัธยม แต่พี่โอมกลายเป็นแฟนกับ พี่แพม โดยที่สาไม่ทันจะได้สารภาพรักเสียด้วยซ้ำ กระนั้นสาก็ไม่เคยลืมพี่โอมได้เลย จนกระทั่งโชคชะตาส่งพี่โอมกลับเข้ามาในชีวิตของสาอีกครั้ง และในครั้งนี้ พี่โอมบอกกับสาตรง ๆ ว่าเขามีความสุขมากที่ได้พบกับสาอีก แน่นอนว่าความหวังในรักแรกที่ริบหรี่กลับมาโชติช่วงชัชวาลสว่างไสวอีกครั้ง แฟนคนแรกมาแล้ว อีกไม่นานจูบแรกก็จะมาถึง ขณะที่สากำลังฝันหวานถึงความสัมพันธ์ของเธอกับโอมอยู่บนรถเมล์ ตอนนั้นเอง รถคันข้าง ๆ เกิดอุบัติเหตุ สาชะโงกไปดูเหตุการณ์นั้น และเมื่อหันหน้ากลับมาปากของสาก็ไปกระทบเข้ากับปากของเด็กมัธยมเมื่อวานซืน‚ จบกัน!!!...จูบแรกของสา