Placeholder
วีรชน คนถูกลืม ขุนรองปลัดชู (2554/2011) นปี พ.ศ. 2302 หลังการสวรรคตของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ดาวหางฮัลเลย์ได้โคจรผ่านโลกเสมือนหนึ่งลางร้าย ขุนรองปลัดชู (สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ) ครูดาบอาตมาทและนายหมู่บ้านแขวงเมืองวิเศษไชยชาญ ได้ไปยังกรุงศรีอยุธยาพร้อมกับกรมการเมืองผู้ใหญ่ เพื่อเฝ้าสถานการณ์การผลัดแผ่นดิน ขุนรองปลัดชูเฝ้ามองดูสถานการณ์ของบ้านเมืองด้วยความเป็นห่วง เนื่องจากการผลัดแผ่นดิน เจ้านายในพระราชวังแย่งชิงพระราชบัลลังก์ ขุนนางก็แตกแยกสนับสนุนแต่ละฝ่ายกัน เจ้าสามกรม ถูกกุมตัวไปประหารชีวิตยังวัดโคกพระยาแล้ว พระเจ้าอุทุมพร ขึ้นเสวยราชสมบัติยังมิทันได้ 2 เดือน เจ้าฟ้าเอกทัศ พระบรมเชษฐาแสดงเจตนาชัดเจนว่า ต้องการขึ้นเสวยราชย์เอง ด้วยการประทับอยู่ในพระที่นั่งสุริยาศน์อัมรินทร์ ซ้ำยังการเข้าเฝ้าบางครั้งยังพกเอาพระแสงขรรค์ขึ้นวางพาดตัก พระเจ้าอุมทุมพรยอมหลีกให้พระบรมเชษฐาขึ้นเสวยราชย์แต่โดยดี โดยพระองค์เสด็จออกผนวช แม้น กรมหมื่นเทพพิพิธจะเสด็จหนีราชภัยออกผนวชเช่นกัน แต่ก็ไม่พ้นถูกกำจัดด้วยน้ำมือของตัวขุนรองฯเอง แม้นตัวขุนรองฯจะไม่เข้าข้างผู้ใดและสลดใจกับเหตุการณ์ที่คนในชาติเดียวกันต้องมาเข่นฆ่ากันเองก็ตาม ในเวลาเดียวกัน ทางอังวะ พระเจ้าอลองพญาสถาปนาตนเองขึ้นครองราชย์ หลังจากปราบปรามมอญได้สิ้น โดยมีพระราชบุตรมังระ (จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม) และมังฆ้องนรธา เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญ ที่ตะนาวศรีทางฝ่ายอยุธยาได้ริบเรือสินค้าของอังวะไป พระเจ้าอลองพญาเห็นเป็นจังหวะเหมาะ ประกอบกับได้สดับรู้ความของพระเจ้าแผ่นดินองค์ใหม่ของอยุธยาว่า โฉดเขลา ไม่เป็นที่ยอมรับของราษฎร โดยที่พระองค์ต้องการจะทำสงครามเพื่อให้อาณาประชาราษฎร์และสมณชีพราหมณ์ได้เป็นอยู่อย่างเป็นสุข เมื่อขุนรองฯได้กลับวิเศษไชยชาญ ได้เล่าเรื่องราวที่ตนเองประสบพบเจอมาที่อยุธยา พร้อมย้ำอยู่เสมอว่า บ้านเมืองอ่อนแอ เหมือนบ้านไม้ที่ถูกปลวกมอดกัดแทะ แม้ต้องลมเพียงนิดก็จะพังทลายทั้งหมด ต้องเตรียมทำสงคราม สู้เพื่อวิเศษไชยชาญ โดยรวบรวมอาสาสมัครได้ 400 คน ฝึกดาบอาตมาท และอาบน้ำว่านเพื่อปลุกขวัญกำลังใจและอยู่ยงคงกระพัน เดินทางไปยังด่านสิงขรเพื่อสกัดกั้นทัพพม่า โดยที่กรมการเมืองวิเศษไชยชาญได้แจ้งไปยัง พระยารัตนาธิเบศร์ ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในอยุธยาได้ทราบแล้ว และจะยกทัพไปสมทบ แต่เมื่อได้ปะทะกับทางพม่าแล้ว ขุนรองฯได้ใช้ป่าชายเลนริมหาดซุ่มโจมตี แม้ตัดกำลังพม่าได้ส่วนหนึ่ง แต่เมื่อทางพม่าโต้กลับก็มิอาจทานได้ ทั้งหมดจึงหนีไปอยู่ริมหาด และถูกฆ่าตายทั้งหมดด้วยการจับกดน้ำและใช้ช้างกระทืบ ด้วยทั้งตัวขุนรองปลัดชูด้วย ก่อนตาย ขุนรองฯเหลือบเห็นทัพของพระยารัตนาธิเบศร์ที่สัญญาว่าจะยกมาช่วยยืนมองอยู่ห่าง ๆ โดยไม่มาช่วยจริงดังคำที่ว่าไว้ ขุนรองฯรู้สึกสลดกับเหตุการณ์และระลึกถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้น
Love Faith Miracle ความรัก ศรัทธา ปาฏิหาริย์ (2554/2011) "ผู้หญิงคนนี้ไม่อยากชื่อบุญรอด - Precious Love" บุญรอด (ศิรพันธ์ วัฒนจินดา) ผู้หญิงธรรมดาที่ไร้ต้นทุนทางสังคม แต่สามารถสร้างมรดกล้ำค่าเพื่อมอบให้กับลูกได้ เธอคือตัวแทนผู้หญิงไทยที่ต้องตกเป็นเหยื่อถูกกระทำความรุนแรงที่จิตใจ จากความต้องการทางเพศที่ไม่เคยพอของคนที่เป็นสามี เธอต้องต่อสู้กับความกลัวในหัวใจตัวเองที่จะไม่ทำลายชีวิตลูก เพราะเชื้อโรคซิฟิลิสที่สามีนำมาติดขณะตั้งครรภ์จนเป็นเหตุที่อาจทำให้ลูกต้องตาบอด อะไรทำให้หัวใจแม่พลิกจากความกลัวเป็นกล้า แล้วอะไรทำให้หัวใจลูกพลิกจากความหวาดหวั่นเป็นมั่นคงในที่สุด "ขยะ - Junk" เตย (สุชารัตน์ มานะยิ่ง) เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่เติบโตมาจากข้างถนน ไม่มีทั้งแม่และพ่อ เธอต้องเอาชีวิตรอดไปวัน ๆ อย่างไร้ภูมิคุ้มกันเหมือนถังขยะข้างถนน ในที่สุดเธอก็ติดยาเสพติดและถูกจับ เตย อ้อนวอนขออิสรภาพจากเจ้าหน้าที่ซึ่งเขาก็แสนใจดียอมมอบให้ เพียงให้เธอทำตามเงื่อนไขคือการนอนกับผู้ชายจำนวนมากให้เขาดูเพื่อแลกเปลี่ยนกับอิสรภาพ ไม่มีใครคิดว่าอิสรภาพในวันนั้นจะทำให้เธอต้องติดเชื้อเอดส์ และตั้งท้อง แต่เด็กข้างถนนที่เคยมีความทุกข์อัดแน่นอยู่เต็มหัวใจ ก็ได้พิสูจน์ให้โลกเห็นว่า หนูไม่ใช่ถังขยะ "สวัสดีความรัก - Hello Love" ปริม เด็กนักเรียนนาฏศิลป์อายุ 16 ปี ที่กำลังอยู่ในวัยสดใสร่าเริง แต่ชีวิตของเธอกลับพลิกผันเพราะความรักที่เกินขอบเขต เธอตั้งท้องทั้งที่ยังไม่พร้อม และท้องนี้ก็ทำให้เธอต้องเผชิญกับปัญหาชีวิตมากมายอย่างที่เธอคาดไม่ถึง เส้นทางชีวิตของปริมสะท้อนชีวิตจริงของวัยรุ่นไทยจำนวนมาก เธอเกลียดลูกที่มาทำร้ายชีวิตอันสวยงามของเธอ แต่การได้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านสายสัมพันธ์ ได้เปลี่ยนแปลงหัวใจของเธอจนหมดสิ้น หัวใจแม่ที่มอบให้กับลูกอย่างไม่มีเงื่อนไขได้หล่อหลอมให้ลูกเติบใหญ่ และพร้อมเข้าสู่บททดสอบชีวิตวัยใสที่เรียกว่า ความรัก เช่นเดียวกับแม่ "ภัยใกล้ตัว - Porcelain Doll" บุ๋ม เด็กหญิงวัย 10 ปี เรียบร้อย พูดน้อย คนภายนอกจะมองเธออย่างชื่นชมในความเรียบร้อยน่ารักของเธอ แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าภายใต้กิริยาท่าทางที่เรียบร้อยน่ารักนั้น ต้องปิดบังความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจไว้อย่างมากมาย บุ๋ม ถูก พ่อเลี้ยง (อภิสิทธิ์ พงศ์ชัยสิริกุล) ซึ่งเป็นชายที่แม่เธอรักสุดหัวใจข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนบุ๋มตั้งครรภ์ และพ่อเลี้ยงก็ยังพยายามพรากความรักที่เหลืออยู่น้อยนิดไปจากเธอและลูก แม้ลูกจะไม่ได้เกิดมาด้วยความรัก แต่ด้วยหัวใจแม่ เธอก็รักลูกของเธอ "เสียงของความเงียบ - Sound of Silent" เอ (พลอยลภัสร์ อมรธนาพรกุล) ผู้หญิงวัยทำงาน เธอร่าเริงสดใสและทำงานเก่งจนเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานและ เจ้านาย (ราชวัติ ขลิบเงิน) เขาชื่นชมและเมตตาเอ็นดูเธอจนเธอยกย่องศรัทธาเขาเป็นดังพ่อพระ แต่แล้ว เอ ก็พบความจริงว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอคิดผิด พ่อพระของเธอแท้จริงคือซาตานที่ทำลายชีวิตเธออย่างย่อยยับ เอ ถูกเจ้านายข่มขืนจนตั้งท้องและถูกไล่ออกจากงาน เธอโกรธแค้นเขาแต่ไม่เคยโกรธแค้นลูก เธอได้พบกับเสียงเตือนจากธรรมชาติ ที่ทำให้เธอได้สัมผัสกับพลังแห่งรักจากหัวใจของแม่ ที่ช่วยประคับประคองชีวิตของเธอและลูกได้โดยลำพัง "แสงสุดท้าย - Last Light" ซาร่า (นันทรัตน์ เชาวราษฏร์) เด็กสาวนักเรียนนอกจากครอบครัวที่สมบูรณ์ เธอร่าเริง เธอฉลาด และเธอมีความรัก แต่ความรักทำให้เธอหลงผิด เธอติดยาเสพติดเพียงเพราะคำพูดเดียวจากชายคนรักที่บอกว่า เธอไม่รู้หรอกว่าคนติดยารู้สึกยังไง จากแค่ลองกลายเป็นติด จากติดกลายเป็นเอเย่นต์ ยาเสพติดได้คร่าชีวิตเธอจนแทบไม่เหลืออะไรเลย กระทั่งเธอออกบวชและได้พบกับพระธรรม แสงสว่างนี้ทำให้เธอหลุดพ้นจากบ่วงทุกข์ที่ผ่านมาได้ แต่มันเป็นแสงสุดท้ายในชีวิตของเธอ "ฟื้น - Conscious" เจน (กิตต์ลภัส กรสุทธิ์ไรวรรณ) เด็กสาวนักกีฬาดีเด่น เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความอบอุ่น เธอเป็นความหวังของที่โรงเรียนและครอบครัว ที่จะสร้างชื่อเป็นนักกีฬาทีมชาติ แต่แล้วความหวังของทุกคนก็ดับวูบลง เมื่อเธอถูกเดนนรกกลุ่มใหญ่ฉุดลากเธอไปย่ำยี พวกมันฆ่าแต่เจนไม่ตาย เธอเก็บงำเรื่องราวทั้งหมดไว้เพียงลำพังเพราะหวังว่ามันจะจบ แต่การตั้งท้องที่ไม่รู้ว่าใครคือพ่อ ทำให้เธอไม่ใช่ความหวังที่น่าภาคภูมิใจอีกต่อไป เธอถูกไล่ออกจากบ้านและโรงเรียนเป็นบาดแผลที่เจ็บปวดยิ่งกว่าการถูกเดนนรกย่ำยี จนเธอคิดจะฆ่าตัวตาย แต่ชีวิตเล็ก ๆ ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงความคิดของเธอตลอดไป
ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน (2554/2011) คนที่ทั้งใช่และโดน จะมีมั้ยน๊า? ปัญหาโลกแตกที่ ใหม่ (สิริวิมล เจริญปุระ) สาวเปรี้ยวสุดซ่าส์ตั้งคำถามกับตัวเองมาตั้งแต่สมัยมัธยม จนผ่านมหาลัย ข้ามวัยมาจนถึงบัดนาว ก็ยังไม่เห็นหนุ่มหน้าไหนจะจริงใจรักจริงสักราย นอกจากพ่อบังเกิดเกล้า ผู้ชายทั่วไปก็เลวเหมือนกันหมดเจ้าชู้ไม่เลือกหน้า ดีที่ชีวิตนี้ยังมี หม่ำ (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) เพื่อนซี้ที่คอยดามอกหิ้วปีกใหม่ทุกครั้งที่เมาเละจากอาการอกหักจากบรรดาผู้ชายทั้งหลายที่เข้ามาในชีวิต แต่ในขณะเดียวกัน กะเพรา (ชูศักดิ์ เอี่ยมสุข) เมียสาวของ หม่ำ เริ่มอดรนทนไม่ไหวกับมิตรภาพความห่วงใยที่ไม่รู้จักเวล่ำเวลาของเพื่อน หม่ำ-ใหม่ ที่นับวันจะเกินความพอดี ถึงขนาดต้องยื่นคำขาดกันแล้วว่า ระหว่างเพื่อนกับเมีย หม่ำ จะเลือกใคร? แต่ก่อนที่ หม่ำ จะมีโอกาสเคลียร์โจทย์ที่ยากที่สุด เพราะทั้งชีวิตของ หม่ำ ก็มีแค่เพื่อนกับเมียนี่แหละสำคัญที่สุด แล้วทำไมต้องเลือกด้วย! ดูเหมือนอุปสรรคขวากหนามของชีวิตจะยังไม่ยุ่งเหยิงพอ จู่ ๆ สวรรค์เบื้องบนก็ส่ง โกสน (พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ) ไม่ใช่มือที่ 3 แต่เป็นมือที่ 4 มาทดสอบความสัมพันธ์ระหว่าง หม่ำ ใหม่ และ กะเพรา พร้อมกับดลใจให้หม่ำที่ร้อยวันพันปีไม่เคยกินเหล้าดันเกิดอาการเมาปลิ้นกับซี้ใหม่ ทั้งคู่ต่างสลบสไลไร้สติไปกับการเมาเละครั้งประวัติศาสตร์ก่อนที่จะตื่นขึ้นมาพบว่าต่างฝ่ายต่างเนื้อตัวล่อนจ้อน และที่สำคัญคือ ใหม่ ท้อง? เอาละซิ และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความรัก ความผูกผัน ของทั้ง 3 ที่ต้องมะรุมมะตุ้มวุ่นวายยุ่งเหยิงอย่างที่ใครก็กะเกณฑ์ไม่ได้ จนเป็นเหตุให้สัมพันธภาพของเพื่อนซี้อย่างใหม่-หม่ำ-ต้องเปลี่ยนไปอย่างกู่ไม่กลับโดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานภาพความเป็นเพื่อนรักเพื่อน
สมอลล์รู กูแนว (2554/2011) เรื่องราวความฝันของกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักดนตรี โดยมี ซื่อสัตย์ (พงศ์พิชญ์ ปรีชาบริสุทธิ์กุล) เป็นมือกีต้าร์และหัวหน้าวง แข็ง (ชญาน์ทัต อยู่เป็นแก้ว) เล่นกีต้าร์ รั่ว (ศิริชัย อัชนัยไกรเลิศ) ตีกลอง ไข่ (นนทัช ธนวัฒน์ยรรยง) เล่นเบส โดยมี ว่าว (แจ๊ส ชวนชื่น) เป็นนักร้องนำ แต่การเข้าไปทดสอบผลงานครั้งแรกของพวกเขาดันไม่ประสบความสำเร็จ เพราะเหล่ากรรมการบอกว่าไม่แนวพอไม่เหมาะกับยุคนี้ เป็นสาเหตุให้ว่าวลาออกจากวงไปตั้งวงใหม่ ซื่อสัตย์และเพื่อนๆ จึงต้องเปิดรับสมาชิกวงคนใหม่ขึ้นมา และได้ จิ๋ม (ณฉัตร จันทพันธ์) กับ โต (ปฏิภาณ หล่อเสถียร) เข้ามาร่วมวง แต่ทุกอย่างก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อซื่อสัตย์ต้องเข้ามาสืบทอดกิจการร้านขนมปังที่คุณพ่อเคยทำเอาไว้ เพื่อแลกกับห้องซ้อมดนตรีและเครื่องดนตรีครบชุดตามข้อตกลงของคุณแม่ (โซเฟีย ลา) ซื่อสัตย์และพวกต้องยอมทำร้านขนมปังโดยมี เปียกปูน (วนิดา เติมธนาภรณ์) ลูกสาวของหัวหน้าพ่อครัวมือทอง (แอนนา ชวนชื่น) เข้ามาสอนและช่วยกันปรับปรุงร้าน พร้อมกับสอนหนุ่มๆ ในเรื่องของวงดนตรีให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น
พระหยอง อาจารย์เหน่ง นักเลงหน่อย (2554/2011) เรื่องเกิดขี้นที่หมู่บ้านหนึ่งที่ชาวบ้านร่ำเรียนกันมาน้อย จึงจะมักงมงาย ยิ่งมีผู้ใหญ่บ้าน หน่อย(หน่อย เชิญยิ้ม) ที่เป็นคนเชื่อคนง่าย อีกทั้งมีเมียอย่างเพ็ญ(เห็บเผาะ)ซึ่งเชื่อเรื่องงม งายตัวแม่เลย ประกอบในหมู่บ้านนี้ มีอาจารย์เหน่ง(โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม) กับลูกศิษย์คน สนิทโจอี้(โจอี้ เชิญยิ้ม) ที่ตั้งตนเป็นผู้มีคาถาอาคม หลอกลวงชาวบ้านไปวัน ๆ ปล่อยข่าว เกี่ยวกับผีแม่ม่ายอาละวาดไปทั่วหมู่บ้าน โดยอ้างว่าตนเองจะเป็นผู้เดียวที่จะปราบผีได้ แต่ โชคยังดีที่หมู่บ้านนี้มีพระหยอง(หยอง ลูกหยี) และพัน(นุ๊ย เชิญยิ้ม) ที่ยังคอยใช้หลักเหตุ และผลช่วยเตือนสติชาวบ้าน ไม่ให้งมงายและพระหยองยังได้พบเห็นถึงความไม่ชอบมา พากลของเรื่องนี้ เรื่องจะจบแบบฮากันขนาดไหน ก็ต้องติดตามกันได้
สะบายดี วันวิวาห์ (2554/2011) เชน (ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) ทำงานเป็นนักเขียนสกู๊ปให้กับนิตยสารชั้นนำฉบับหนึ่ง เชนเคยเดินทางมาทำข่าวที่ประเทศลาวเมื่อ 6 เดือนก่อน ในครั้งนั้นเขาได้รู้จักกับ คำ (คำลี่ พิลาวง) หญิงสาวชาวลาวที่เขารู้สึกผูกพันและชอบพอกับเธอ เขาให้สัญญาว่าจะกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้ง เชนทำตามคำมั่นโดยไม่คาดคิดมาก่อนว่าการกลับมาเยือนครั้งนี้จะทำให้เกิดเรื่องราวโกลาหลจนถึงขั้นต้องแต่งงานกับเธอ โดยทั้งที่เขาและเธอก็ยังไม่มั่นใจและไม่แน่ใจในงานแต่งงานครั้งนี้นัก ด้วยความแตกต่างทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตหลาย ๆ ด้าน ทั้งความทันสมัยของคนเมืองซึ่งดูขัดแย้งกับความงดงามและเรียบง่ายแบบดั้งเดิมของวิถีชีวิตชาวลาว เวลา 3-4 วันก่อนงานแต่งงาน ชายหนุ่มจากเมืองใหญ่ และหญิงสาวในเมืองเล็กที่มีวัฒนธรรมแตกต่างกัน ทั้งคู่ต้องเรียนรู้และปรับตัวร่วมกันเพื่อที่จะเริ่มต้นชีวิตครอบครัวใหม่ให้ได้ ขณะเดียวกัน ฝน (ธนิยา อำมฤตโชติ) เพื่อนสาวสมัยเรียนของเชน เริ่มเข้ามาพัวพันกับความรักของพวกเขา
โด๋-นัท (2554/2011) เรื่องราวความรักและความผูกพันของ คน 3 คน ที่เกิดขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัย นัท (พิมพ์รดาภา ไรท์) สาวผู้มีนิสัยเป็นทอมบอยที่มีเพื่อนสนิท คือ โด๋ (ชาลี ไตรรัตน์) หนุ่มมาดเซอร์ ทั้งสองคนเรียนอยู่คณะศิลปกรรมศาสตร์ด้วยกัน นัท เป็นทอมที่เท่ห์และจัดว่าหน้าตาดีจึงมีสาว ๆ ทั้งในและนอกมหาวิทยาลัยเข้ามาติดพันอยู่บ่อย ๆ แต่ความสัมพันธ์ของ นัท กับสาว ๆ ทั้งหลายก็ไม่เคยยืดยาว ทุกครั้งที่ นัท อยู่คนเดียวก็จะมี โด๋ คอยอยู่เป็นเพื่อนสนิท โด๋ เป็นหนุ่มเซอร์อารมณ์ดี ไม่มีแฟน และชอบงานศิลปะแต่ก็ให้คำปรึกษานัทได้ทุกเรื่อง โด๋ เคยสงสัยว่าทำไมรักแต่ละครั้งของ นัท มันถึงไม่ยืดยาวแต่ก็ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจาก นัท หลัง ๆ เลยขี้เกียจสนใจ แต่ นัท ก็ยังเป็นที่ชื่นชอบของสาว ๆ เหมือนเดิม จนคนในมหาวิทยาลัยรวมทั้ง โด๋ เห็นเป็นเรื่องชินตา จนกระทั่งนัท ได้มาเจอกับ เจน (ภูลดา แสงเดือน) น้องปีหนึ่งคณะมนุษย์ศาสตร์ เจน เป็นคนหน้าตาดีระดับดาวมหาวิทยาลัย จึงถูกพวกหนุ่ม ๆ รุมจีบรวมทั้ง นัท ที่เป็นหนึ่งในนั้นด้วย แต่ เจน เคยมีความหลังที่ไม่ดีกับผู้ชาย และแฟนคนล่าสุดของ เจน ก็เป็นทอมบอย นัท เลยมีโอกาสใกล้ชิดกับ เจน เป็นพิเศษ จนทั้งคู่คบหากัน เจน เป็นคนเรียบร้อย มีเสน่ห์ ไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่ นัท เคยรู้จัก ทำให้ นัท รู้สึกรักและหลงใหล เจน มาก โด๋ เองก็รู้สึกถึงความจริงจังที่ นัท มีต่อ เจน และก็ไม่อยากเห็นเพื่อนต้องผิดหวังอีกเพราะความรักของ นัท ทุกครั้งมักจะไม่ยืนยาว จนวันหนึ่ง โด๋ ได้รู้ความจริงเกี่ยวกับ นัท ถึงสาเหตุของการเป็นทอม นัท ยอมรับว่าเคยผิดหวังกับผู้ชาย ก็เลยเปลี่ยนเป็นทอมเพราะเพียงแต่อยากจะเป็นผู้ชายดี ๆ คนหนึ่ง ด้วยความที่ โด๋ เป็นเพื่อนสนิทแล้วก็เป็นผู้ชาย 100% จึงเข้าใจธรรมชาติของผู้ชายได้มากกว่า นัท ก็เลยเป็นพี่เลี้ยงคอยสอนกลเม็ดของชายเอาไว้เด็ดใจหญิงให้กับ นัท ทำให้ความรักของ นัท กับ เจน ดูราบรื่น และรักผูกพันกันมากขึ้นเรื่อย ๆ โด๋ เองก็ได้สุขใจที่ช่วยเพื่อน ที่จริงแล้ว โด๋ เองก็มีความลับบางอย่างที่จะบอก นัท แต่ โด๋ สัญญากับตัวเองว่าเมื่อถึงเวลาเมื่อไหร่ก็จะบอก จนกระทั่งคืนหนึ่งในงานรับน้องบนดอย หลังจากทุกคนแยกย้ายกันหลับนอน นัท กับ เจน มีโอกาสได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองในเตนท์ท่ามกลางอากาศที่เยือกเย็นและหมู่ดาว บรรยากาศมันช่างเป็นใจเหลือเกิน โด๋ ก็ดีใจที่ช่วยให้ความรักของคนทั้งสองสำเร็จเสียที หลังจากงานรับน้องบนดอยคืนนั้น ความสัมพันธ์ของ นัท กับ เจน ก็ดูจะเปลี่ยน ๆ ไป จนเกือบจะเป็นความห่างเหิน มันเป็นความลับระหว่างคนสองคนที่คนอื่นไม่อาจไปล่วงรู้ได้ แม้แต่ โด๋ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทก็ไม่เข้าใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่งความสัมพันธ์ของ นัท กับ เจน ก็สิ้นสุดลง เมื่อ เจน ตัดสินใจไปเรียนต่อต่างประเทศ และ นัท ก็ได้เปิดเผยความจริงให้ โด๋ ได้รับรู้ เกิดอะไรขึ้นในเตนท์คืนนั้นกับความสัมพันธ์ของ นัท กับ เจน? ความลับของ โด๋ ที่ปกปิด นัท ไว้คืออะไร? เส้นทางชีวิตของ โด๋ นัท เจน จะจบลงอย่างไร? แบบไหน?
เพื่อนไม่เก่า (2554/2011) 698 กิโลเมตร จากกรุงเทพฯ สู่ลำปาง การเดินทางของผองเพื่อน…จากจุดเริ่มต้นภายในใจที่แตกต่าง สู่จุดหมายปลายทางแห่งมิตรภาพเดียวกัน กับประสบการณ์ชีวิตครั้งใหญ่ที่พวกเขาจะได้เรียนรู้ว่า “จุดหมายไม่สำคัญเท่าระหว่างทาง” “เพื่อนไม่เก่า” ครั้งแรกของหนุ่มๆ “วงออกัส” ในผลงานภาพยนตร์เต็มตัว “พิช, อ๋อง, นน, นายน์, แวน, ต่อ” กับการพลิกภาพลักษณ์ครั้งใหม่ ประกบนางเอกใหม่หน้าใสวิ้ง “อลิส ทอย, ครีม นภัสสร, จิ๊บ จรินยา” กับทริปสุดหฤหรรษ์ที่หลายคนเคยใฝ่ฝันจะไปให้ถึง นำทางโดยไกด์รุ่นใหม่ “ปิง-เกรียงไกร วชิรธรรมพร” ควบคุมขบวนโดย “มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล” 26 พฤษภาคมนี้ พร้อมออกเดินทาง การรวมตัวครั้งสำคัญของเหล่าผองเพื่อนที่กาลเวลาไม่สามารถเลือนคุณค่าแห่งมิตรภาพลงได้ เส้นทางแห่งมิตรภาพที่จะพิสูจน์ความเป็นเพื่อนแท้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ “นัท, ต๋อย, ข้าว, โป้, และ กี” กลุ่มเพื่อนสนิทสมัยมัธยมปลายที่ได้ไปบนบานกับพระธาตุลำปางด้วยความคึกคะนองว่า ถ้านัทสามารถสอบเอ็นทรานซ์ติดที่นี่ พวกเขาทั้ง 5 คนจะปั่นจักรยานจากกรุงเทพฯ ขึ้นมาที่ลำปางเพื่อเป็นการแก้บน จนกระทั่งเวลาผ่านไป 2 ปี นัทซึ่งได้ซิ่ว-ย้ายคณะมาติดที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในลำปาง กลุ่มเพื่อนทั้ง 5 คน พร้อมด้วย “บาส” เพื่อนเก่าสมัยมัธยมอีกคนของนัท จึงต้องกลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อแก้บนให้สำเร็จ การเดินทางแบบไม่ทันตั้งตัวภายใต้อีกหลากหลายเหตุผลที่ต่างกันไปของแต่ละคน คนหนึ่งเดินทางเพื่อแก้บน, อีกคนต้องมนต์การผจญภัย, คนหนึ่งตามไปแค่อยากพักผ่อน, อีกคนตะลอนหนีรักอันวุ่นวาย, คนหนึ่งโดนท้าทายให้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย, คนสุดท้ายต้องการค้นหาตัวเอง ท่ามกลางเพื่อนร่วม(ผ่าน)ทาง, เหตุการณ์ และอุปสรรคนานัปการที่โจนทะยานเข้าใส่ไม่ยั้ง แก๊งจักรยาน, สาวหมวย, หมอนวด, พยาบาลฝึกหัด, แว้นบอย, สก๊อยเกิร์ล, หลักกิโลเมตร, งานวัด, สวนนก, วัวหาย, บีบี, ไอโฟน และโบร๊คแบ๊ค เมาน์เท่น…มันใหญ่(กว่า)มาก ทริปอลเวงสุดหฤหรรษ์จะพันผูกมิตรภาพที่สั่งสมมานานของพวกเขาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นไปอีก จุดหมายไม่สำคัญเท่าระหว่างทาง… บททดสอบครั้งใหญ่ที่จะทำให้ความหมายของคำว่า “เพื่อนไม่เก่า” ยังคงงดงามในใจของกันและกันไปอีก…นานเท่านาน อีกหนึ่งบันทึกการเดินทางที่จะปักหมุดความทรงจำตลอดไป
Pure Love เธอกับเราและรักของเขา (2554/2011) รักใดๆ จะบริสุทธิ์เท่ารักครั้งนี้ ฝนสาวน้อยต้องผิดหวังกับความรัก ทำให้โชคชะตาได้มาพบกับ แก้ว จึงก่อให้เกิดเป็นความรัก ที่บริสุทธ์ และ ผูกพันธ์ แต่ในขณะที่ทุกอย่างกำลังดำเนินไปด้วยดี ชายคนรักเก่าก็กลับมาขอคืน ดี จึงทำให้ฝนต้องเลือกระหว่างแก้ว ผู้ให้ชีวิตใหม่หรือชายคนรักเก่าคนที่เธอเคยทุ่มเทใจให้
ขอบคุณที่รักกัน (2554/2011) ภาพยนตร์แห่งความรักและความเข้าใจที่พูดถึงความรักของคนหลากหลายวัย เล่าถึงเหตุการณ์ของ 3 ครอบครัวไปพร้อม ๆ กัน จ่อย (พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข) กับ เป๋อ (อภิญญา สกุลเจริญสุข) พี่ชายที่คอยดูแลน้องสาวที่เป็นออทิสติกซึ่งต้องร่วมเดินทางไปกับ อาจารย์เสนาะ (สมชาย ศักดิกุล) อาจารย์ดนตรีที่กำลังจะหูหนวก พร้อม ๆ กับที่ได้รับรู้เรื่องของ ขวัญ (ลลิตา ปัญโญภาส) ภรรยาที่ต้องละทิ้งความสุขความสบาย ความเคยชินของตัวเองเพื่อทำตามความฝันของสามี (ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) และอีกด้านหนึ่งในเมืองหลวงเราได้เห็น เถ้าแก่ (ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว) โรงงานใหญ่ที่ไม่เคยเชื่อฟังคำของ เตี่ย (อุดม ทรงแสง) จนเมื่อ หมวย (ณภัทร บรรจงจิตไพศาล) หลานสาวที่ติดคุย BB กลายเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ของทุกคนในครอบครัว
อีนางเอ๊ย เขยฝรั่ง (2554/2011) เรื่องราวความรักของหนุ่มสาวอีสานยุคใหม่ (ที่เกิดขึ้นแล้วจริง ๆ นะ!) พร้อมกับคำถามคำโตฝากไปให้หนุ่มไทยทั้งหลายเอากลับไปคิดว่า หนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าวมีดีจั๋งได๋แท้น้อ? อีนางทั้งหลายถึงปันใจจะไปมีผัวฝรั่งกันเมิ้ด? ผ่านมุมมองของ บักมาร์ค (ภัทรภณ โตอุ่น) หนุ่มอีสานที่เฝ้าฝันจะมีอนาคตที่ดีเพื่อกลับมาพัฒนาหมู่บ้านโดยมีพ่อที่เป็น ผู้ใหญ่บ้าน (ปิยะ ตระกูลราษฎร์) เห็นดีเห็นงามด้วยตัดสินใจขายควายส่งลูกชายเข้าเรียนนิติศาสตร์รามฯ หวังว่าจบมาจะได้เป็นปลัดหรือทนาย แต่หลังจากใช้ชีวิตในรั้วมหาลัยในกรุงมา 6 ปีเต็ม ก็ยังสอบไม่ผ่านสักที เพราะติดอยู่ที่วิชาอังกฤษ วิชาเดียวที่นอกจากจะไม่ถนัดแล้วยังไม่ใช่ภาษาประจำชาติอีกต่างหาก จนเกิดอาการท้อ และตัดสินใจกลับมาตั้งหลักที่บ้านเกิด ก่อนที่จะพบว่าหมู่บ้านกำลังถูกรุกรานทางวัฒนธรรม เมื่อผู้สาวที่ทั้งสาวและไม่สาวต่างมีค่านิยมใหม่ขึ้นมากันเป็นแถวนั่นคือ การนิยมมีเขยฝรั่ง Love Farang แม้แต่ แต๋วแหล่ (รุ้งลาวัลย์ โทนะหงษา) ที่เกลียดฝรั่งขนาดหนักก็ยังเปลี่ยนใจไปรับฮักพ่อบักสีดา เอาละซิ! ความสงบสุขที่เคยมีกำลังจะสูญหาย สถานการณ์รอบตัวย่ำแย่อย่างหนัก
จั๊กกะแหล๋น (2554)

จั๊กกะแหล๋น (2554/2011) เรื่องราวของ จั๊กกะแหล๋น สาวน้อยผู้หลงใหลการขี่จักรยานฟิกเกียร์ และพรรคพวกซึ่งได้รับจ้างส่งของเถื่อนให้แก่พวกมาเฟียจนเกิดเป็นเรื่องราวบานปลายอย่างไม่คาดคิด ร้อนไปถึง ลุงแสวง ที่แสนจะปากร้ายแต่ใจดีของเธอ ที่ต้องมารับภารกิจบู๊ล้างผลาญ อีกทั้ง จั๊กกะแหล๋น ยังต้องพบกับปัญหารักสามเส้าที่คอยรุมเร้าหัวใจอีกด้วย "ลุงแสวง" (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) อาสาร่วมปฏิบัติการภารกิจต่อสู้ ภายหลังจากที่หลานสาวของตนที่มีชื่อว่า "จั๊กกะแหล๋น" (ญาณิน วิสมิตะนันทน์) ได้ขี่จักรยานฟิกซ์เกียร์ออกไปสู่โลกภายนอกพร้อมกับเพื่อนของเธออยู่เสมอ แล้วพวกเขาก็ได้รับจ้างส่งของเถื่อนให้แก่พวกมาเฟียจนเกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โตอย่างไม่คาดคิด ทั้งยังมีปัญหารักสามเส้ามารุมเร้าหัวใจ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ทั้งลุงแสวงและจั๊กกะแหล๋นต้องลำบากใจ

ลัดดาแลนด์ (2554/2011) บ้าน หนึ่งในปัจจัย 4 ในฝันที่ทุกคนอยากเป็นเจ้าของ ธีร์ (สหรัถ สังคปรีชา) ก็เช่นกัน เขาก็เหมือนหนุ่มสาวอีกนับแสนนับล้านคนในกรุงเทพฯ ที่ไม่มีปัญญาซื้อบ้าน ลำพังเงินเดือนพนักงานออฟฟิศธรรมดา ๆ ของ ธีร์ การเก็บหอมรอมริบหาเงินมาดาวน์บ้านเป็นภาระสาหัสเกินไป ทุกวันนี้ ธีร์ เช่าอพาร์ตเมนต์เป็นที่อยู่ มันเป็นปมด้อยที่ทำให้เขารู้สึกผิดต่อทุกคนในครอบครัว ป่าน (ปิยธิดา มิตรธีรโรจน์) ภรรยาที่แม่ยายพร่ำกรอกหูอยู่ตลอดเวลาว่าเขากระจอกเกินไปสำหรับเธอ แนน (สุทัตตา อุดมศิลป์) ลูกสาววัยรุ่น ที่ ธีร์ ไม่เคยได้อยู่ร่วมชายคาเพราะส่งไปให้แม่ยายช่วยเลี้ยงดู นัท (อธิพิชญ์ ชุติวัฒน์ขจรชัย) ลูกชายวัย 5 ขวบ ที่ยังเดียงสาพอจะเห็นพ่ออย่างเขาเป็นฮีโร่ ในวัยย่าง 40 ธีร์ คิด ว่าตัวเองคงเป็นสามี เป็นพ่อ เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ไม่เอาไหนหากไม่สามารถมีบ้านสักหลังไว้เป็นหลัก ประกันความสุขของครอบครัว โอกาสมาถึงเมื่อ ธีร์ ได้รับข้อเสนอ เป็นตำแหน่งผู้ช่วยฝ่ายการตลาดที่บริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยเงินเดือนที่มากขึ้นและค่าที่ดินที่ถูกลง บ้านเดี่ยวหลังใหญ่แบบในหนังโฆษณาก็ไม่ใช่ฝันที่เกินเอื้อมอีกต่อไป ธีร์ ตัดสินใจทิ้งชีวิตเก่าเพื่อไปตั้งรกรากในบ้านที่เขาเฟ้นแล้วเฟ้นอีกว่าดีที่สุดโดยไม่ฟังคำทัดทานของทั้งเมียและลูก ธีร์ เชื่อว่าครอบครัวของเขาจะมีความสุขมากกว่าที่ หมู่บ้านลัดดาแลนด์ บนโต๊ะอาหารในบ้านหลังใหม่ที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่น ธีร์ ยิ้ม อย่างภาคภูมิ ที่ในที่สุดครอบครัวของเขาก็ได้มาอยู่กันพร้อมหน้าโดยไม่รู้ว่าในค่ำคืน เดียวกันนั้นเอง มีเด็กรับใช้ชาวพม่าของบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านถูกฆาตกรรมอย่างทารุณ คนร้ายสาดเธอด้วยน้ำกรดจนใบหน้าแหลกเหลวแล้วทุบตีเธอจนตายก่อนนำศพไปยัดไว้ ในตู้เย็น หมู่บ้านไหน ๆ ก็มีคนตาย แต่ไม่ใช่ทุกหมู่บ้านจะได้ประสบกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นใน "ลัดดาแลนด์"
หอแห๋วแหก (2554/2011) เมื่อเจ้พลอยเจ้าของหอแห่งหนึ่งถูกฆ่าตาย และความเฮี้ยนของเธอทำให้ผู้ที่มาพักต้องย้ายออกไปเกือบหมดเดือดร้อนถึง เจ๊พิ๊งค์กี้ พี่ที่เป็นกระเทยต้องเข้ามาดูกิจการแทน ต้องหาทุกวิถีทางที่จะทำให้มีคนเข้ามาอยู่ใหม่ อีกทั้งยังต้องหาวิธีสยบความเฮี้ยนของน้องสาวตัวเอง ด้วยวิธีการที่ทำให้ ความน่ากลัวจะหายไป ความฮาจะมาแทนที่
หนังผี (2554/2011) เรื่องราวเกิดขึ้นในกองถ่ายภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ที่มี ราเชน (ศรัณยู ประชากริช) ซูเปอร์สตาร์ ดาราหนุ่มเจ้าอารมณ์ เกิดการทะเลาะวิวาทกับทีมงานในกองถ่ายภาพยนตร์ จนทำให้ ราเชน เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตกลางกองถ่ายอย่างไม่คาดคิด ทำให้ แม่ของราเชน ซึ่งมีความหลงใหลในพิธีกรรม และอำนาจเหนือธรรมชาติ ที่ไม่เชื่อว่าการตายของ ราเชน เป็นเพราะอุบัติเหตุ รู้สึกโกรธแค้นคนในกองถ่ายที่ทำให้ ราเชน ต้องมาจบชีวิตลงระหว่างการถ่ายทำอย่างมาก จึงได้แอบทำพิธีปลุกร่าง ราเชน ขึ้นมาจากหลุมศพโดยไม่มีใครได้ล่วงรู้ เพื่อตามฆ่าล้างแค้นคนในกองถ่าย เรื่องราวการตายอย่างสยองขวัญของคนในกองถ่ายภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเริ่มต้นขึ้น คนในกองถ่าย ค่อย ๆ ตายไปทีละคนอย่างน่าพิศวง แม้แต่เหล่านักแสดงนำ โอ๋ (ภัทรนันท์ ดีรัศมี) เอม (นีรนาท วิคตอเรีย โคทส์) และ วรุต (วศิษฏ์ ผ่องโสภา) ก็ต้องพากันหนีการตามฆ่าล้างแค้นของผีราเชนด้วยเช่นกัน แล้วทุกคนก็ได้ร่วมมือกันค้นหาต้นตอ เพื่อหยุดยั้งการตายสยองของคนในกองถ่าย แต่ในที่สุดทุกคนที่รอดตายมาอย่างหวุดหวิด ก็ต้องช็อคสุดขีดกับความจริงที่ไม่นึกฝันมาก่อน