อีเห็ดสด เผด็จศึก (2553/2010) ผู้กองเมืองแมน (อัมรินทร์ นิติพน) นายทหารหนุ่มหล่อ เขาเป็นที่อิจฉาของคนทั่วไป เพราะกำลังจะได้แต่งงานกับ สาวสวยระดับนางฟ้า อย่าง ฮันนี่ (อัฐมา ชีวนิชพันธ์) เมื่อเข้าหอแล้ว เมืองแมน ก็หวังจะเผด็จศึกเจ้าสาวให้สมใจ แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นไปตามนั้น เขากลับถูกเจ้าสาวของเขาเผด็จศึกเสียเอง และการเสียความบริสุทธิ์ของเขาในคืนนั้น ก็เป็นตราบาปในใจเขาตลอดมา จนเขาได้รับภารกิจให้ไปปราบปรามผู้ก่อการร้าย แต่มีข้อแม้ว่าเขาและทีมต้องปลอมตัวเป็นกระเทยโดยมี งามระยับ (มนัสวิน นันทเสน) ผู้กำกับการแสดง ที่รู้ดีเรื่องกระเทยเป็นที่สุด มาฝึกฝนให้ เหตุที่พวกเขาต้องปลอมตัวเพราะผู้ก่อการร้ายนี้เป็นแกงค์กระเทยทั้งหมด โดยการนำของ โกลเด้น ฟลาวเวอร์ (วัลลภ มณีคุ้ม) สาว 2 หน้าที่มีความแค้นฝังใจกับผู้ชาย เมื่อเขาฝึกเสร็จ ภารกิจของเขาก็เริ่มต้นขึ้น เมืองแมนก็ได้พบกับ ฮันนี่ อีกครั้ง และ ยอดหญิง (อัฐมา ชีวนิชพันธ์) ที่มีใบหน้าคล้ายกับ ฮันนี่ ทุกอย่าง แต่คราวนี้เป็นของแท้ ผู้กองเมืองแมน จะเผด็จศึกของเขาได้หรือไม่
อินทรีแดง (2553/2010) ปี 2016 กรุงเทพมหานคร เต็มไปด้วยความวุ่นวาย โจรผู้ร้ายชุกชุม เกิดการคอรัปชั่นของนักการเมืองและกระจายวงกว้างเกินกว่าจะควบคุมได้ โครงการอาวุธนิวเคลียร์ร้ายแรงกำลังจะเกิดขึ้น ท่ามกลางสภาพความเสื่อมโทรมของสังคม ประเทศชาติ ได้เกิด วีรบุรุษลึกลับ ที่ตามล่ากวาดล้างคนชั่ว เขาไม่เคยเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง ทุกครั้งที่ฆ่าคนชั่วสำเร็จ มีเพียงนามบัตรใบเดียวที่ทิ้งไว้ ภายใต้ชื่อ “อินทรีแดง” เท่านั้น อินทรีแดงไม่ได้เป็นผู้ล่าเพียงฝ่ายเดียว เขายังต้องเผชิญหน้ากับ “ปีศาจดำ” นักฆ่ามือหนึ่ง ที่เหล่าคนชั่ว ส่งมาตามล่าเขา เช่นกัน
ภูเก็ต PHUKET (2553/2010) จิน (อิม ซูจอง) เป็นดาราสาวชื่อดังของเกาหลี เธอเบื่อหน่ายกับชื่อเสียงและมายาภาพในวงการบันเทิง จึงเดินทางมาพักผ่อนยังจังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย ที่นั่น เธอได้พบกับ พงษ์ (สรพงษ์ ชาตรี) คนขับรถลีมูซีนของโรงแรม วัยกลางคน ซึ่งได้พาเธอไปรู้จักกับภูเก็ตในแง่มุมที่ต่างออกไป พร้อมกับมิตรภาพอันงดงามของคนต่างเพศ ต่างวัย และต่างวัฒนธรรม ของทั้งคู่ก็บังเกิดและพัฒนาขึ้น
มือปืน/ดาว/พระ/เสาร์ SATURDAY KILLER (2553/2010) ตี๋ ไรเฟิล (โหน่ง ชะชะช่า) นกเพลิงบางปลาม้า มือปืนแห่งซุ้มสะพานเหล็ก มือปืนรับจ้างผู้มีปัญหาสมรรถภาพทางเพศที่ล้มเหลวนกกระจอกไม่กินน้ำ ตี๋ต้องฆ่าคนมากมายเพื่อหาเงินมาบำบัดอาการนกเขาไม่ขัน จนในวันหนึ่งตี๋ก็ได้พบกับ คริส สไตย์เออร์ (คริส หอวัง) ผู้หญิงลึกลับที่ทำให้เขาตกหลุมรักด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่คริสกลับไม่ต้องการความรักแบบนั้น จากประสบการณ์รักที่หลอกลวงทำให้คริสปฏิเสธความรักก่อนจะบัญญัตินิยามใหม่ให้ตัวเองว่า รักไม่ต้องเพราะน้องแค่วันไนท์แสตนด์
Unforgotten Love แฟนใหม่ กิ๊กเก่า (2553/2010) ความลึกลับ ที่รอการพิสูจน์ หลายปีแล้วที่เธอรอคนรัก หวังว่าวันหนึ่งเขาจะมาพบเธอที่นี่ ที่ชั้น 13 ชั้นที่ทุกคนหวาดกลัว เพราะไม่มีใครอยากพบสิ่งแปลกปลอมที่ไม่ใช่คน แล้ววันหนึ่งเขาก็มา “พี่จำหนูได้มั้ย” ทำไมเขาจะจำเธอไม่ได้ เธอเป็นอย่างเดียวที่อยู่ในความทรงจำตลอดเวลาหลังถูกทำร้ายจนสมองกระทบกระเทือน เธอรอวันนนี้อย่างมุ่งมั่นและมีความหวัง ความหวังที่จะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขชั่วนิรันดร ไม่ใช่ในภพนี้แต่เป็นอีกภพที่ไม่มีใครมาพรากเขาและเธอได้....
ตายทั้งกลม THE SNOW WHITE (2553/2010) ผีตายทั้งกลม คือคำเรียกขานของผีหญิงสาวที่เสียชีวิตพร้อมลูกในท้อง กล่าวกันว่าผีตายทั้งกลมเป็นผีที่โหดเหี้ยมที่สุดในตำนานผีไทย แต่ก็ยังมีผู้คนมากมายที่ยอมเสี่ยงชีวิตไปล่วงเกินศพผีตายทั้งกลม ด้วยความเชื่อที่ว่าน้ำมันจากศพสามารถทำให้หญิงสาวหลงรัก และศพของทารกในครรภ์ก็สามารถช่วยบันดาลให้ประสบความสำเร็จในชีวิตได้ ย้ง (ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์) นักศึกษาหนุ่มผู้ปรารถนาประสบความสำเร็จด้านการเรียน และ โต้ง (ปริญญา งามวงศ์วาน) หนุ่มผู้โหยหาความรักจากหญิงสาว ได้ลักลอบผ่าศพหญิงตายทั้งกลมผู้หนึ่ง เพราะต้องการศพทารกและน้ำมันจากศพ โดยได้รับความร่วมมือจาก กอล์ฟ (อธิวัฒน์ ธีรนิทิศนันท์) และ สิน (กพล ทองพลับ) พนักงานห้องเก็บศพของโรงพยาบาล แต่แทนที่ย้งและโต้งจะสมหวังในสิ่งที่ต้องการ ทั้งสองกลับถูกผีตายทั้งกลมตามเอาชีวิต ด้วยความคลั่งแค้นที่ได้ล่วงเกินศพ แม้แต่กอล์ฟที่ไม่ได้นำสิ่งใดไปจากศพก็ยังไม่พ้นคำสาป ต้องเผชิญกับการถูกตามหลอกหลอน อย่างโหดร้ายทารุณเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด โอ๋ (ภัทรนันท์ ดีรัศมี) พยาบาลสาวจิตใจงาม ซึ่งเป็นคู่หมั้นของกอล์ฟ ตัดสินใจรวบรวมความกล้า สืบเสาะหาวิธีการหยุดยั้งความแค้นของผีร้ายตนนี้ เพื่อช่วยชีวิตคนรักเอาไว้ แต่หญิงสาวธรรมดาเพียงลำพังอย่างโอ๋ จะสามารถปกป้องคู่หมั้นของเธอได้อย่างไร
ชั่วฟ้าดินสลาย (2553/2010) ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายของกระแสการเมืองใหม่ซึ่งชาวสยามยังไม่คุ้นชินนัก เพียงหนึ่งปีหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 นั้น ยุพดี (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ม่ายสาวพราวเสน่ห์หัวสมัยใหม่จากพระนครได้สมรสกับ พะโป้ (ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์) คหบดีม่ายชาวพม่าอายุคราวพ่อ เจ้าของกิจการป่าไม้อันมั่งคั่งแห่งกำแพงเพชร ทั้งคู่ได้เดินทางไปใช้ชีวิตฉันท์สามีภรรยาที่ปางไม้เขาท่ากระดาน ซึ่ง ยุพดี คิดว่าชีวิตของเธอได้ถูกเติมเต็มแล้วในทุก ๆ ด้านจาก พะโป้ สามีที่เธอรัก แต่ ณ ที่นั้นเอง ท่ามกลางพลังอำนาจแห่งไพรพฤกษ์และขุนเขา เมื่อยุพดีได้มาพบเจอกับ ส่างหม่อง (อนันดา เอเวอริงแฮม) หนุ่มพม่าผู้หล่อเหลาปานเทพบุตรแต่แสนบริสุทธิ์ในกามโลกีย์ผู้เป็นหลานชายของ พะโป้ ต่างก็เกิดความสเน่หาต่อกัน ยิ่งทั้งคู่ได้ชิดใกล้กันมากเท่าไร ก็ยิ่งเกิดอาการหวั่นไหวและอยากอยู่ด้วยกันมากขึ้นเท่านั้นตามสัญชาตญาณหนุ่มสาวที่ถูกกิเลสตัณหาครอบงำ โดยหารู้ไม่ว่า นี่คือ "จุดเริ่มต้นแห่งโศกนาฏกรรมรัก" ในที่สุดทั้ง ส่างหม่อง และ ยุพดี ก็มิอาจต้านทานความปรารถนาของตน และยอมตกอยู่ภายใต้อำนาจของกิเลสตัณหาอย่างถึงที่สุด ทั้งคู่ก้าวล้ำเส้นของการเป็นหลานและอาสะใภ้โดยลอบเป็น "ชู้" กัน และแล้วเมื่อ พะโป้ ได้ล่วงรู้ความจริงอันน่าอัปยศเช่นนี้ เขาดูเหมือนจะสงบนิ่งอย่างผู้ผ่านประสบการณ์และเข้าใจโลกยิ่งนัก แต่จริง ๆ แล้วในใจเขากลับร้อนรุ่มด้วยโทสะจริต ติดกับดักแห่งเสน่หาอาฆาตแบบถอนตัวไม่ขึ้น อย่างไม่คาดฝัน พะโป้ ตัดสินให้ ยุพดี เมียสุดที่รักได้อยู่กินกับ ส่างหม่อง หลานรักอย่างเปิดเผย ภายใต้เงื่อนไขอันแสนเย็นยะเยือกด้วยการล่าม "โซ่ตรวน" คล้องแขนติดกัน เพื่อพันธนาการว่าทั้งคู่จะได้ครองรักกัน...ชั่วนิจนิรันดร์ ถึงเวลาแล้วที่ พะโป้ จะได้ทำในสิ่งที่เขาวางแผนไว้อย่างแยบคาย เพื่อสอนบทเรียนให้กับทั้งหลานและภรรยาอันเป็นที่รักให้รู้จักความหมายของ "ความรักชั่วนิรันดร์ การลงทัณฑ์ชั่วชีวิต" ใครเลยจะหยั่งรู้ว่า วิถีชีวิตของ 3 ชายหญิงที่ต้องโคจรมาทาบทับกันในวังวนแห่งกิเลสตัณหานี้ จะนำพามาซึ่งโศกนาฏกรรมรักอันยิ่งใหญ่ที่ต้องพิสูจน์ด้วยเลือดเนื้อ จิตวิญญาณ และกาลเวลาตราบ "ชั่วฟ้าดินสลาย"
มือปืนดาวลูกไก่ (2553/2010) เต๋าได้รับมอบหมายงานจากเสี่ยโหวงให้ไปฆ่าลูกไก่สายลับจากหน่วยงานของรัฐบาล ที่มาเจรจาข้อมูลการทำผิดกฎหมายของบริษัทเสี่ยโหวง เต๋าเฝ้าติดตามลูกไก่เพื่อที่จะฆ่าแต่ แล้วด้วยความสวยและความน่ารักของลูกไก่ทำให้เต๋าฆ่าไม่ลงแถมยังหลงรักอีกต่างหาก เสี่ยโหวงรู้เรื่องจึงลงมือเองโดยมีโจอี้กับกบสองลูกสมุนตัวแสบคอยเป็นลูกมือ เสี่ยโหวง จับตัวดาวพี่เลี้ยงของลูกไก่ไปเป็นตัวประกันเพื่อแลกกับข้อมูลที่ลูกไก่ได้ขโมยไป เต๋าและ ลูกไก่จำเป็นต้องไปช่วยดาว เพราะดาวมีความลับของลูกไก่อยู่กับตัว ลูกไก่จะช่วยดาวได้ มัยและเสี่ยโหวงจะได้ข้อมูลคืนหรือไม่ต้องติดตาม...
สมาน ฉัน คัลเลอร์เลิฟ (2553/2010) ในวันวาเลนไทน์ วันที่ดอกรักแบ่งบาน สว่างไสวไปทุกที่ รวมทั้งที่นี้ ที่ว่าการเขตสมรัก ซึ่งมีคู่รักหลากวัย มายืนยันความรักต่อกันด้วยการจดทะเบียนสมรสในวันนี้ แต่คู่นี้ สมาน (ธัชพล ชุมดวง) และ ฉันทนา (ปกฉัตร เทียมชัย) นี้ซิ ที่เลือกวันนี้เพื่อสะบั้นรัก ที่เคยมีต่อกัน แม้ทั้งคู่จะยังจดจำเมื่อแรกสบพบรักเมื่อสมัยวัยรุ่นวุ่นเรียนมหาวิทยาลัย แต่ความรักของทั้งคู่ก็ยังแตกยอด ผลิดอกออกใบ เป็นคู่รักหวานใส เป็นที่อิจฉาตาร้อนแก่เพื่อน ๆ ทั้งหลาย จริง ๆ นะ และแล้วเมื่อรักมันจุกอกทนไม่ได้อีกต่อไป สมาน ก็ได้แต่งงานกับ ฉันทนา และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขพร้อมทั้งมี เด็กชายจัมป์ เป็นดังโซ่ทองคล้องใจของทั้งคู่ แต่ชีวิตจริงมันไม่ใช่นิทานที่จะจบด้วยความสุขจากนี้และตลอดไป ความรักและผูกพันเท่านั้นคงไม่พอที่จะทำให้รักเรายืนนาน ยิ่งคิดต่างกัน มองโลกต่างกันก็ยิ่งแล้วใหญ่ ก็ดู สมาน ของเราซิทำงานเป็นเซลล์ขายปุ๋ย มีความมุ่งมั่นในการดำเนินชีวิตเจริญรอยตามแนวคิดเศรษฐกิจพอของในหลวง และหน้าที่การงานยังทำให้เขาต้องเดินทางไปต่างจังหวัดแล้วด้วยความมีน้ำใจกับทุกคน ก็ยิ่งทำให้ สมาน มีเวลาให้กับครอบครัวอย่างลูกจัมป์และสุดที่รักอย่าง ฉันทนา น้อยลง แล้วส่วน ฉันทนา ก็อยากจะเป็นสาวยุคใหม่มั่นเกินร้อยที่รักก็ยุ่ง และก็ยังมุ่งกับงานอีกด้วย กับอาชีพมัณฑนากรในบริษัทขนาดใหญ่ และโลกก็กลมจนน่าหมั่นไส้ มีอย่างที่ไหนทำเอาเธอ เจอะรุ่นพี่หนุ่มหล่อสมัยเรียนที่เคยแอบหลงรักเธอ อย่าง เนฑิต (บรรเจิด สันธนะพานิช) ที่ทำงานบริษัทเดียวกันในตำแหน่งเจ้านายของเธอ แล้วด้วยงานในหน้าที่รับผิดชอบทำให้เวลาที่เธอควรจะมีให้ สมาน และลูกชายอย่าง จัมป์ กลับกลายเป็นเธอต้องใกล้ชิดกับกิ๊กเก่า อย่าง เนฑิต เพิ่มขึ้น เมื่อเวลาที่มีให้กันน้อยลง ความเข้าใจและไว้ใจที่เคยมีให้กันมันก็ดูจะน้อยลงตามไปด้วย ยิ่งเมื่อมีมือที่สามอย่าง เนฑิต ด้วยแล้วยิ่งทำให้ความรักที่มีต่อกันยิ่งน้อย น้อยลงไปอีก ดูเหมือนไม่ว่า สมาน จะทำอะไร ก็ขวางหูขวางตาไปซะหมด แล้วความขัดแย้งในชีวิตคู่ของคนทั้งสอง ดูจะรุนแรงขึ้นตามลำดับ ไม่ต่างไม่จากความแตกแยกทางความคิดทางการเมืองของคนในสังคม ในครั้งแรกที่ สมาน และ ฉันทนา มีปากเสียงกันนั้น ต่อหน้า จัมป์ นั้น ทำให้ลูกชายที่รักมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง หลังจากได้รับการรักษาที่โรงพยาบาล ทั้งคู่จึงพบว่า จัมป์ มีกรุ๊ปเลือดพิเศษต่างจากเด็กทั่วไป ดังนั้นเมื่อได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจจึงมีอาการเช่นนี้ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ สมาน และ ฉันทนา จึงสัญญากันว่าจะไม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูกอีก และหันหน้าเข้าหากัน เพื่อร่วมกันกอบกู้ครอบครัวของตนขึ้นมาอีกครั้ง โดย ฉันทนา ตัดสินใจลาออกจากงานมาดูแลลูกและครอบครัวอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งตัดขาดกับ เนฑิต เมื่อคิดได้แล้วว่า เธอยังคงรัก สมาน อยู่ไม่เสื่อมคลาย ถึงแม้ สมาน และ ฉันทนา จะมีเวลาให้กันมากขึ้น พยายามให้ความเข้าใจกันมากขึ้น แต่ว่าช่องว่างที่มีอยู่นั้น ความหวาดระแวงที่ยังคงเกาะกินอยู่ในใจนั้น ก็ยังคงมีอยู่และพร้อมจะปะทุขึ้นมาสร้างความร้าวฉานได้อย่างง่ายดาย แล้วความอดทนก็มาถึงจุดสิ้นสุด เหมือนกับความขัดแย้งในสังคมที่รุนแรงขึ้นจนถึงขั้นแตกหักและมีการเผชิญหน้ากันด้วยความรุนแรง เช่นเดียวกับชีวิตคู่ของ สมาน และ ฉันทนา ที่จบลงด้วยการ หย่าร้าง ที่สำนักงานเขตสมรัก ในวันแห่งความรักนี้ แต่ก่อนที่ สมาน และ ฉันทนา จะเซนต์ชื่อลงบนหนังสือหย่า ทั้งสองได้เห็นข่าวในโทรทัศน์รายงานว่า เกิดเหตุคนเมายาบ้าขับรถบรรทุกแก๊สฝ่าด่านตำรวจมา และหักหลบรถมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งตัดหน้ากะทันหัน ทำให้รถบรรทุกแก๊สพลิกคว่ำลื่นไถลไปจอดขวางกลางรางรถไฟ จนเมื่อขบวนรถไฟคันที่ จัมป์ โดยสารแล่นผ่านมา คนขับรถไฟต้องรีบเบรกกะทันหัน ทำให้ถังแก๊สที่กลิ้งมาใกล้รางเกิดระเบิดขึ้นทันที เป็นเหตุให้ขบวนรถไฟเสียหลักพลิกคว่ำตกจากราง เหตุการณ์เริ่มวุ่นวาย เมื่อการขนย้ายผู้บาดเจ็บเป็นไปด้วยความทุลักทุเล เพราะต้องฝ่าทั้งกลุ่มม็อบที่กำลังเผชิญหน้ากันปิดเส้นทางการจราจร ท่ามกลางความหวาดกลัวของผู้ได้รับบาดเจ็บ และเหล่าญาติผู้รอคอยด้วยความหวังว่า ลูกหลาน พ่อแม่ หรือ พี่น้องของเขาเหล่านั้นที่ได้รับบาดเจ็บให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที รวมทั้ง สมาน และ ฉันทนา ที่พบแล้วว่าสุดท้ายความรักของทั้งคู่ยังคงอยู่ที่ จัมป์ ได้รีบมาโรงพยาบาลด้วยความหวังว่าจะมีปาฏิหารย์ เกิดขึ้นกับชีวิตของลูกชาย ซึ่งเป็นตัวแทนของความรักของทั้งคู่ ชีวิตที่ยังแขวนอยู่ระหว่างความเป็นและความตายในการรักษา เช่นเดียวกับทุกคนในโรงพยาบาลแห่งนี้ หวังเพียงจะมีปาฏิหารย์เกิดขึ้นกับทุกชีวิตอันเป็นที่รัก
สะบายดี 2 ไม่มีคำตอบจาก..ปากเซ (2553/2010) ปอ (เร แมคโดนัลด์) ผู้กำกับหนุ่มที่ล้มเหลวทั้งเรื่องความรักและการงานกำลังอยู่ในช่วงตกอับ เขาจำใจเดินทางไปเมืองปากเซ เพื่อรับจ้างถ่ายภาพงานแต่งงาน ในงานนั้น เขาได้รู้จักกับหญิงสาวชื่อ สอน ไพรวัลย์ (คำลี่ พิลาวง) สาวลาวที่ดูใสซื่อน่ารัก แรงบันดาลใจทำให้หนุ่มเขียนบทหนังเรื่องใหม่ เล่าเรื่องของช่างภาพหนุ่มที่เข้าไปเมืองปากเซ แล้วหลงรักสาวลาว ในหนังนั้นดูโรแมนติกชวนฝัน แต่ในความจริง ดูเหมือนชายหนุ่มทำอะไรก็ยิ่งล้มเหลว และสาวก็มักจะเข้าใจผิดกับความหวังดีของเขาอยู่ตลอด ความรักและความฝันมาถึงบทสุดท้าย เมื่อ ปอ พบความจริงว่า แฟนของสาวเจ้าที่อยู่ฝรั่งเศสกำลังเข้ามาเที่ยวที่เมืองนี้ ก่อนวันจะกลับ ปอ จึงหาโอกาส ในการที่จะบอกให้เธอเข้าใจในความรักของเขา แต่ทว่า จะทำยังไงดี ก็ความรักจริง ๆ มันไม่เหมือนบทหนังที่เขียนจากจินตนาการน่ะสิ
สวรรค์บ้านนา AGRARIAN UTOPIA (2553/2010) ชาวนา 2 ครอบครัวซึ่งถูกยึดที่นาได้ร่วมทำนาบนผืนดินเดียวกัน หวังว่าจะผ่านชีวิต 1 ปีของการทำนาไปดังเช่นที่เคยเป็นมา แต่ดูเหมือนว่า ไม่ว่าโลกจะพัฒนาไปเท่าใด เศรษฐกิจ การเมือง และสังคมของประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน พวกเขาก็ยังไม่อาจไขว่คว้าหนทางแห่งชีวิตที่ไร้ซึ่งความทุกข์ยากได้ เราจะฝันถึงโลกในอุดมคติได้อย่างไร ถ้าท้องของเรายังคงหิวอยู่
น้ำตาลแดง (2553/2010) ความอีโรติกคือหัวใจสำคัญของภาพยนตร์ทั้ง 6 เรื่องที่ถูกหลอมรวมเข้ากับแต่ละห้วงอารมณ์ที่เต็มไปด้วยหลากหลายของมนุษย์ ซึ่งถูกตีแผ่ออกมาเป็นความรัก โลภ โกรธ หลง บนพื้นฐานของการแสดงที่เน้นในความเรียลลิสติกสมจริงที่สุด รักต้องลุ้น - อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อหญิงสาวต้องอยู่บ้านเพียงลำพังจึงเอ่ยปากชวนให้เด็กหนุ่มเพื่อนสนิทอยู่เป็นเพื่อนในค่ำคืนหนึ่ง ภาพยนตร์อีโรติกคอเมดี้ที่สะท้อนถึงขีดระดับความสัมพันธ์ของวัยรุ่นที่มาพร้อมกับการตั้งคำถามถึงความเหมาะสม ในเรื่องเซ็กส์ ขอบเขตของศีลธรรม และความต้องการของวัยหนุ่มสาวที่มักคิดว่าผู้ใหญ่ไม่เคยเข้าใจ โสบนเตียง - ความสัมพันธ์เกินห้ามใจของสาวมั่นสุดเฉี่ยวไฟแรงสูงกับเสี่ยใหญ่วัยกลางคนที่ต่างมีจินตนาการถึงสิ่งที่เรียกว่า เซ็กส์ ได้อย่างสอดคล้องและลงตัว ทำให้แต่ละครั้งที่กงล้อแห่งชีวิตของทั้งคู่หมุนเวียนมาบรรจบกันก่อเกิดความร้อนแรงจนคนรอบข้างต่างอิจฉาไปตาม ๆ กัน อารมณ์ขันเชิงเสียดสีในรูปแบบภาพยนตร์คอเมดี้ ที่ได้นักร้องพิธีกรนักแสดงหนุ่มมากความสามารถอย่าง ปั๋ง - ประกาศิต โบสุวรรณ แท็คทีมคู่ ครี - พัสวีพิชญ์ ศรณ์อัครภา ปรารถนา - ความสัมพันธ์ของหนุ่มช่างสัก และพนักงานสาวนวดแผนโบราณไม่ต่างอะไรกับเส้นขนานที่ไม่เคยถูกลากให้มาบรรจบกัน ถึงแม้ว่าจะทำงานบนตึกเดียวกัน แต่ทั้งคู่ก็ไม่เคยแม้สักครั้งที่จะเอ่ยปากทักทายหรือพูดคุย จนกระทั่ง แรงปรารถนา ได้ย่นย่อระยะห่างแห่งสัมพันธภาพของคนสองคนให้เขยิบเข้ามาชิดใกล้กว่าที่คาดคิดและเคยเป็น เมื่อชายหนุ่มตัดสินใจเลือกใช้บริการจากหญิงสาว ภาพความเหงาของผู้คนท่ามกลางแสงสีและความสับสนวุ่นวายในเมืองใหญ่ ถูกนำเสนอและถ่ายทอดผ่านมุมมองความอีโรติกดราม่า กับบทบาทที่ท้าทายที่สุดในชีวิตของ อุ้ม - ลักขณา วัธนวงส์ศิริ นักแสดงนางแบบสาวที่ฮอตที่สุดแห่งปี ควงคู่มากับ บลูม - วรินทร ญารุจนนทน์
เงา กรรมใครกรรมมัน (2553/2010) เรื่องของกรรมที่เกิดจากการกระทำและเวรกรรม ที่เกิดขึ้น "คุณเคยมีใครเรียกหาไหม" เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผลกรรมของการชิงสุกก่อนห่าม ของนักศึกษาในระดับมหาลัย บางทีสิ่งที่เราคิดว่าเป็นแค่เรื่องระหว่างคนสองคน แต่บางทีอาจไม่เป็นเช่นนั้นก็ได้ "คุณเคยมีเพื่อนแท้สักคนไหม" เป็นเรื่องของวัยรุ่นที่ขาดการยั้งคิด ในวัยคึกคะนอง บางทีเพื่อนของคุณบางคน อาจต้องการมากกว่าคำว่า เพื่อนร่วมทาง "คุณเคยสัมผัสกับมันไหม" ความเชื่อโบราณเกี่ยวกับคนตาย แต่มีใครบางคนเห็นว่าเป็นเรื่องไร้สาระ นั่นอาจนำมาซึ่งความน่าสะพรึงกลัวอย่างที่คุณคาดไม่ถึง
สามมิติ Behind The Scene (2553/2010) “กูเบื่อที่จะถูกใครๆ เรียกไอ้ขี้แพ้แล้วว่ะ” บู้ (ว่าน-รัชชุ สุระจรัส) เด็กภาพยนตร์ปี 3 ประกาศลั่นต่อหน้า “บ๊วย” (สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข) ว่าเขาจะลุกขึ้นมาทำหนังสั้นส่งประกวดให้เพื่อนทั้งคณะและ “ป๊า” (อรุณ วชิรปิลันธน์-พ่อเหมยลี่ รถไฟฟ้ามาหานะเธอ) ได้เห็น ในขณะที่เวลาส่งงานประกวดงวดเข้ามาทุกที การเดินทางไปถ่ายหนังสั้นจากกรุงเทพฯ ยันหัวหินของบู้ก็ยิ่งวุ่นวายขึ้นทุกที ทั้งเขา, บ๊วย, พี่ป้า นางเอกจำเป็น (ไอรดา ศิริวุฒิ) และเจ้าแว่น เนิร์ดตัวห้าวประจำทีม (ภูดิท ปฐมทัศน์) ต้องเจอเรื่องวายป่วงมากมาย โดยที่ไม่มีใครรู้สึกตัวเลยว่า ระหว่างทาง ความรักสามเส้ากำลังค่อยๆ ก่อตัวขึ้นแล้ว
กวน มึน โฮ (2553/2010) ชายหนุ่ม (ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) ผู้ชายที่จะไปประเทศเกาหลี ด้วยรองเท้าแตะคีบ และเสื้อยืดย้วยๆบวกกางเกงขาสั้น เขาเป็นคนเดียวในกรุ๊ปทัวร์ที่ไม่มีครอบครัวหรือคนรักมาด้วย บางทีที่นั่งว่างเปล่าข้างๆ อาจเป็นสาเหตุให้เขาเมามายขนาดนี้ในวันเดินทาง หลังล้อเครื่องแตะพื้นผิวท่าอากาศยานกรุงโซลโปรแกรมเที่ยวตามรหัส 6-7-8 คือ ตื่นนอน 6 โมงเช้า - กินข้าว 7 โมงเช้า – ล้อหมุน 8 โมงเช้า คืนนั้นชายหนุ่มเลยต้องพึ่งเหล้าโซจู ซึ่งเขามาเมาสลบอยู่หน้าเกสท์เฮาส์แห่งหนึ่งในชุดคลุมอาบน้ำโรงแรม เช้าวันรุ่งขึ้น ชายหนุ่มลุกพรวดขึ้นมาหมิ่นเหม่เวลาล้อหมุน หญิงสาว (หนึ่งธิดา โสภณ) ที่ยืนอยู่ตรงนั้นร้องโวยวาย เพราะต้องการทวงเสื้อหนาวที่เธอเสียสละให้เขาใช้คลุมกายคืน ชายหนุ่มผู้หลงทางจึงบังคับแกมตีมึนให้หญิงสาวพาไปส่งที่โรงแรม แต่เพราะหลงทางเสียเวลา หลงเสพสุราเสียอนาคต ชายหนุ่มตกรถพลาดทัวร์สุดเนิร์ด จนต้องตามหญิงสาวที่ตั้งใจมาทัวร์เดี่ยวตะลุยโลเกชั่นซีรีส์สสุดฮิตของเกาหลีแทน ชายหนุ่มอดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมหญิงสาวถึงมาเที่ยวคนเดียว เธอตอบง่ายๆว่า เที่ยวคนเดียวไม่ต้องเกรงใจใคร อยากไปไหนก็ไป ไม่ต้องทะเลาะกับใครด้วย อาจเพราะความคะนอง หรือ ความเหงาทำงานเต็มที่ก็สุดจะเดา อยู่ๆ ชายหนุ่มก็ยื่นข้อเสนอว่า "งั้นเรามาเที่ยวด้วยกันมั้ย ถ้าเธอไม่ชอบเที่ยวกับคนรู้จัก เราก็ไม่ต้องรู้จักกัน ไม่รู้ชื่อ ไม่รู้ข้อมูลส่วนตัว" เขายิ้มร่าพลางสรุป "เราจะเป็นแค่คนแปลกหน้าสองคนที่ไปเที่ยวด้วยกัน"
หลวงพี่เท่ง ๓ รุ่นฮา เขย่าโลก (2553/2010) เรื่องราวของ น้อย (กฤษดา สุโกศล แคลปป์) นักร้องหนุ่มมาดเซอร์ ที่พยายามจะหลีกหนีจากโลกที่วุ่นวาย และความจริงที่ตนเองได้รับ โดยหนทางที่เค้าเลือก เพื่อหวังจะพบกับความสงบนั้น คือการเปลี่ยนแปลง จากนักร้องหนุ่มเป็น พระน้อย ผู้ซึ่งยังคงมีความเป็นตัวของตัวเอง เป็นพระขวางโลก รักความยุติธรรม พูดจากำปั้นทุบดิน เป็นคนตรงเหมือนไม่บรรทัดที่มาบวชเพราะเบื่อสังคม เบื่อคนไทยไม่รักกัน เบื่อความแตกแยก แต่เส้นทางในชีวิตเส้นนี้ของเค้าไม่เป็นไปดังหวัง เพราะในวัดที่เค้าบวช ยังมี พระประเสริฐ (นที เอกวิจิตร์), พระโยกเยก (อัครเดช รอดพินิจ), ตาส่ง (บำเรอ ผ่องอินทรีย์) มัคทายกประจำวัด และเด็กวัดตัวแสบอีก 2 คน (กิตติพงษ์ คำสาตร์ และ เฉลิมพล ทิฆัมพรธีระวงศ์) ที่คอยสร้างความวุ่นวายให้วัดอยู่เสมอ ไม่เพียงเท่านั้นเค้ายังต้องพบกับเหตุการณ์อลม่านป่วนจิตจนต้องเข้าไปมีส่วนร่วม การบวชครั้งนี้จะสามารถทำให้เค้าสงบลงได้หรือไม่ และเรื่องราวจะดำเนินไปอย่างไร สุดท้ายแล้ว ศาสนาจะนำทางให้เค้าค้นพบอะไร ต้องรอติดตามชมใน "หลวงพี่เท่ง 3 รุ่นฮา เขย่าโลก"