คนไท ทิ้งแผ่นดิน มหาสงครามเพื่อแผ่นดินสุดท้าย (2553/2010) ภาพยนตร์ไทยอิงแนวประวัติศาสตร์กล่าวถึงกลุ่มบรรพบุรุษไทย ที่รวมตัวกันกอบกู้และต่อสู้จากการรุกรานของกลุ่มชนฮาน เพื่ออิสรภาพและเพื่อความเป็นไท แม้นจะแลกมาด้วยการเสียสละทุกอย่างก็ตาม เมื่อกว่าหนึ่งพันปีก่อน ตอนใต้ประเทศมองโกเลียมีชนกลุ่มน้อยที่เรียกตนเองว่า ไท ที่ตกอยู่ภายใต้กฏระเบียบและการปกครองของเมืองฮานมหาอำนาจ ชาวไท เป็นผู้ซึ่งรักความสงบ ความสุข ไม่คิดร้ายกับผู้อื่นมีความเมตตาและเอื้อเฟื้อต่อเพื่อนร่วมโลกสิ่งเหล่านี้คือวิถีชีวิตที่ชาว ไท ยึดถือเป็นแบบอย่างมาช้านาน แต่ก็ยังไม่วายที่จะถูกกดขี่ข่มเหงต่างๆนาๆ จากผู้ปกครองและทหารฮานเมืองมหาอำนาจในยุคนั้น กลุ่มคนไทถูกกดขี่ข่มเหงมาช้านานถึงเวลาแล้วที่พวกเหล่าไทต้องผนึกรวมตัวกันขับไล่ปราบปรามเหล่าทหารและผู้นำฮานเพื่ออิสรภาพสู่มวลชนชาวไท สมัครสมานสามัคคี รักชาติ รักแผ่นดิน รวมพลังให้เป็นปึกแผ่นขับไล่อธรรม เพื่อได้มาซึ่งความเป็นไท อิสรภาพและความยุติธรรม
หนูกันภัย ศึกมหายันต์ ยิงกันสนั่นจอ (2553/2010) วันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2506 เด็กชายคนหนึ่งถือกำเนิดขึ้นท่ามกลางเส้นทางชีวิตที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและวิบากกรรม ด้วยบิดาเป็นเสือร้ายถูกหมายหัวจับตายทำให้แม่ต้องหอบหิ้วเขาหนีไปอย่างยากลำบาก หลังพ้นพยันตรายทารกน้อยคนนั้นก็เติบโตขึ้นในจังหวัดนนทบุรีที่รู้จักกันดีในนาม หนูโต เมื่อย่างอายุเข้า 6 ขวบเขาก็ค้นพบเส้นทางชีวิตของตัวเองทันทีที่ได้ครองพระตำรามหายันต์ของบรรพบุรุษ ต่อมาทั้งชีวิตและลมหายใจของ หนูโต ก็เต็มไปด้วยความหลงใหลในการร่ำเรียนคาถาอาคม อีกทั้งวิชาเวชมนต์สักเสกเลขยันต์ต่าง ๆ ซึ่งนับวัน หนูโต ก็แก่กร้าขึ้นเรื่อย ๆ และความร้อนวิชาก็เริ่มนำพาปัญหามาเรื่อย ๆ ราวกับถูกสวรรค์ส่งมาลองวิชา ไม่ว่าเด็กเกเรหรือนักเลงบ้านใกล้ในละแวกนั้นจึงไม่เคยมีใครหลีกเลี่ยงการมีเรื่องกับ หนูโต ไปได้ทั้ง ๆ ที่ตัวเขาพยายามหลบเลี่ยงอย่างดีแล้วก็ตาม ข่าวคราวของเขาดังกระฉ่อนมากขึ้นในวีรกรรมต่าง ๆ ซึ่งทำให้แม่กับพ่อเลี้ยงของ หนูโต เริ่มหนักใจ จึงให้เขาบวชเณร แต่มันกลับทำให้เขาร่ำเรียนวิชาต่าง ๆ มากขึ้นกว่าเดิม การอยู่ในศีลธรรมคือพลังผลักดันให้เขาก้าวเข้าไปอย่างลึกซึ้ง แล้ว เณรหนู ก็มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วในด้านการสักยันต์ให้ผู้คนแคล้วคลาดปลอดภัยจากเหตุร้ายได้อย่างไม่น่าเชื่อ จนกระทั่งเขาเติบโตขึ้นด้วยวัย 14 ปี วันนี้ หนูโต ก็ยังมีเรื่องกับเหล่านักเลงอยู่เรื่อย ๆ จนเริ่มมีคนพูดถึงเขาไปยังนักเลงทั่วฟ้าเมืองไทยในด้านวิชาอาคมอันแก่กร้าเกินกว่าเด็กอายุ 14 ธรรมดา ๆ จะทำได้ แม้หลายคนจะแปลกใจในสิ่งนั้นแต่ หนูโต คือคนที่ตอบได้ชัดเจนที่สุดว่าตัวเขากับวิชามนต์คาถานั้นคือสิ่งที่เกิดมาคู่กัน ความฮึกเหิมในวิชารวมทั้งวิถีชีวิตที่เต็มไปด้วยศัตรูก็กลายเป็นดาบสองคมทำลายความสุขรอบตัวไปจนหมด เรื่องความรักและความอบอุ่นในบ้านที่เคยมีจึงค่อย ๆ หมดไป แถมกลายเป็นความบาดหมางระหว่าง หนูโต กับพ่อเลี้ยงที่เขาเข้าใจว่ามาแย่งความรักจากแม่ไป หนูโต จึงดำเนินหนทางชีวิตด้วยตนเองตั้งแต่บัดนั้น แม้กระทั่งแม่ของเขาก็ไม่สามารถบงการได้อีกแล้ว และชีวิตนักเลงของ หนูโต ก็ค่อย ๆ เด่นชัดมากขึ้นทุกทีจนไม่รู้ตัวเองว่าถูกเพ่งเล็งทำให้เขาต้องเดินเข้าออกคุกตารางอย่างบ่อยครั้ง หลังจากนั้น หนูโต ก็ไม่ค่อยกลับบ้านเอาแต่สร้างอำนาจให้ตนด้วยวิชาเพื่อคุมวงการนักเลงจนเริ่มมีเงินทองและฐานะแต่ศัตรูก็ยังอยู่เท่าเดิม และเวลาที่ล่วงเลยไปในแต่วันนั้นกำลังเผยให้เห็นว่า หนูโต เดินตามรอยของพ่อมาจนถอนตัวไม่ขึ้น การเป็นหนุ่มใหญ่ของเขาจึงกลายเป็นความมืดมนจากฐานะของตนที่เป็นเพียงโจรฆ่าคนในสายตาทุกคน แต่ก็ไม่มีใครหรือตำรวจหน้าไหนจัดการกับความร้ายกาจของมนต์คาถาได้เลย ส่วนแม่กับพ่อของหนูโตก็ได้แค่หาทางช่วยดึงเขากลับมาอยู่ห่าง ๆ แม่เล็กจึงวางอุบายให้หนูโตบวชพระแก้บนจนได้
บางระจัน ๒ (2553/2010) ภายหลังวีรกรรมของกลุ่มนักรบบ้านระจัน ที่ร่วมกันต่อสู้กับกองทัพพม่าจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต แม้จะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ แต่เรื่องราวของพวกเขากลับกลายเป็นตำนานแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วเหมือนไฟลามทุ่ง ปลุกให้ชาวบ้านผู้กล้าอีกหลายคนทิ้งจอบ เสียม มาจับดาบสู้กับพม่า หลายหมู่บ้านลุกขึ้นต่อต้านการรุกรานจากพม่าด้วยกำลังอันน้อยนิด แม้ว่าอยุธยาเมืองหลวงจะอ่อนแอจากความแตกแยก แต่ชาวบ้านตัวเล็กๆกลับพยายามยืนหยัดต่อสู้เพื่อผืนแผ่นดินบ้านเกิด ทำให้การเคลื่อนทัพของพม่าเต็มไปด้วยอุปสรรค โดยการนำของพระอาจารย์ธรรมโชติกลุ่มผู้กล้าชุมเขานางบวชรวมตัวกันขึ้นมาเป็นนักรบผ้าประเจียด คอยซุ่มโจมตี และปล้นสะดมกองทัพพม่าเพื่อปลดปล่อยเชลยคนไทยหลายร้อยคน จากที่เคยเป็นเสี้ยนหนามเล็กๆ นอกสายตา สุกี้แม่ทัพพม่าประกาศล่าหัวกลุ่มนักรบผ้าประเจียด แม้ว่าต้องฆ่าคนไทยจนหมดทุกหมู่บ้านก็ตาม ทหารพม่าเริ่มไล่ฆ่าชาวบ้านทุกคนเพื่อบีบให้นักรบผ้าประเจียดยอมมอบตัว แม้ว่าชาวบ้านบางคนจะยอมสละแม้กระทั่งชีวิตก็ไม่ยอมเผยความลับ แต่ก็มีบางคนเพียงแค่เงินทอง และลาภยศก็เปิดปากมันได้ สุกี้นำทัพเข้าปิดล้อมที่ซ่อนของกองทัพนักรบผ้าประเจียดได้ในที่สุด หากไม่มีความช่วยเหลือจากอยุธยา และไม่มีปาฏิหาริย์จากฟ้า เลือดของคนไทยจะไหลนองพื้นแผ่นดินเกิดอีกครั้ง กลุ่มกำลังนักรบผ้าประเจียดเพียงไม่กี่ร้อย ยกดาบขึ้นโห่ร้องก่อนเข้าประจันบานกองทัพนับพันของพม่า วันนี้ตำนานบ้านระจันกำลังจะถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยวิญญาณและเลือดเนื้อของคนไทย เสียงประดาบและเสียงโห่ร้องดังกึกก้อง นี้คืออีกตำนานการต่อสู้เพื่อจะบอกคนไทยทุกคนว่า “ดินทุกก้อน ต้นไม้ทุกต้น สายน้ำทุกสาย หล่อหลอมขึ้นมาจากเลือดและเนื้อของคนไทย จงรักษามันไว้ให้ดี”

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ