สุดเขต สเลดเป็ด (2553/2010) เรื่องราวของ สุดเขต (อารักษ์ อมรศุภศิริ) หนุ่มเซอร์ที่มีแนวความคิดเป็นของตัวเองซึ่งมีความฝันอยากเป็นนักร้องโดย เสน่ห์ (อาคม ปรีดากุล) พ่อของเขาเป็นดีเจและเจ้าของสถานีวิทยุชุมชนที่สนิทกับ เฮียตง (เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง) เจ้าของค่ายก๊อปปี้ที่สุดเขตพาเพื่อนสนิทชื่อ อันเดอร์ (เจริญพร อ่อนละม้าย) ไปร่วมออดิชั่นด้วย ซึ่งที่ค่ายก๊อปปี้แห่งนี้ทำให้เขาได้พบกับสาวสวยคนหนึ่งชื่อ มะยม (อริย์กันตา มหาพฤกษ์พงศ์) ซึ่งเขาถูกใจตั้งแต่แรกเห็นแล้วความรักของเขาและเธอจะเป็นอย่างไรและเขาจะได้เป็นนักร้องตามที่ตั้งใจหรือไม่
Yes or No อยากรัก ก็รักเลย... (2553/2010) พาย (สุชาร์ มานะยิ่ง) สาวน้อยแสนหวาน ดาวเด่นของมหาลัย ต้องย้ายออกจากห้องของหอพัก นศ.หญิง เพราะสุดจะทนกับเพื่อนร่วมห้องเก่าอย่าง เจน (อริสรา ทองบริสุทธิ์) สาวสวยเซ็กซี่อารมณ์สุดแปรปรวน การย้ายห้องเพื่อหนีปัญหาของเพื่อน ทำให้ พาย เองก็ต้องเจอกับรูมเมทคนใหม่อย่าง คิม (ศุภนาฎ จิตตลีลา) เด็กคณะเกษตรฯ หน้าตาน่ารักแถมเท่ห์จนเหมือนผู้ชายมาก การมาเรียนวันแรกที่นี่ของ คิม ทำให้เจนที่กำลังเฮิร์ทจากแฟนทอมคนเก่า กลับมามีชีวิตสดชื่นทันที แต่ พาย กลับตั้งแง่ใส่ คิม ตั้งแต่วันแรกที่เจอ เพราะเธอไม่ชอบทอมบอยเท่าไหร่นัก แต่ด้วยนิสัยของ คิม ที่เป็นคนชอบเทคแคร์ การใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในห้องเล็ก ๆ ทั้งคู่เริ่มเรียนรู้กัน สนิทกันมากขึ้น จนเกิดความรู้สึกพิเศษเกินเพื่อน พาย เริ่มสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นกับใจตัวเอง ส่วน คิม ก็สับสนและคิดไม่ต่างจาก พาย เท่าไหร่นัก การมาอยู่หอพักในมหาลัยของพายนั้นได้รับการดูแลเทคแคร์เป็นอย่างดีจากหนุ่ม แวน (สรณัฐ ยุปานันท์) ชายหนุ่มมาดเท่ห์ อบอุ่น โรแมนติกและใจดี ซึ่งทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ทำให้ แวน ได้รับไฟเขียวจากครอบครัวของ พาย โดยเฉพาะแม่ของ พาย ที่คาดหวังว่า พาย และ แวน จะได้เป็นแฟนกันและแน่นอน แวน นั้นแอบรัก พาย เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เรื่องราวความรักของทั้งสี่คนมันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่สังคมเข้าใจ ความวุ่นวาย สับสน ในใจของเธอและเธอบทสรุปแล้วมันจะเป็นอย่างไร? เพราะคำว่า "รัก" เกิดขึ้นกับใครก็ได้ กับเพศไหนก็ได้ เพราะสุดท้ายรักก็คือ "รัก!"
ผู้ชาย ลัลล้า (2553/2010) เมื่อ 3 หนุ่มก๊วนเคยอ๊อด แทน (ชาคริต แย้มนาม), ตู๋ (เฉลิม ปานเกิด) และ จุ้น (กิตติ เชี่ยววงศ์สกุล) ต้องมาป๊อดเพราะโดนเมียคุม แต่เหล่าผู้ชายเลือดปลาไหลก็ยังไม่ยอมหยุดเจ้าชู้ แถมยังงัดลูกเล่นแพรวพราวที่ทำเอาสาว ๆ เป็นอันต้องหลง แถมยังกลบเกลื่อนร่องราอยได้อย่างดีเยี่ยม บรรดาภรรยาสุดที่รัก โบว์ (ธรรมรส ใจชื่น), น้อยหน่า (ภัทรวดี ปิ่นทอง) และ เจ๊จุ๋ม (ภัสสร บุญยเกียรติ) จึงต้องหาทางจับให้มั่น คั้นให้ตาย จนกระทั่งทนไม่ไหวแล้ว จึงหาเรื่องสามีคืนแบบแสบทรวงจุกอกพ่อปลาไหล เรื่องราวที่ดูเหมือนจะสงบลงกลับยิ่งวุ่นวายขึ้นไปอีก เมื่อสาวสวยสุดเซ็กซี่ ซูซี่ (อุษณีย์ วัฒฐานะ) เข้ามาพัวพันในชีวิตของพ่อปลาไหล ครั้งนี้งานเข้าเลยครับพี่น้อง!
ชั่วฟ้าดินสลาย (2553/2010) ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายของกระแสการเมืองใหม่ซึ่งชาวสยามยังไม่คุ้นชินนัก เพียงหนึ่งปีหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 นั้น ยุพดี (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ม่ายสาวพราวเสน่ห์หัวสมัยใหม่จากพระนครได้สมรสกับ พะโป้ (ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์) คหบดีม่ายชาวพม่าอายุคราวพ่อ เจ้าของกิจการป่าไม้อันมั่งคั่งแห่งกำแพงเพชร ทั้งคู่ได้เดินทางไปใช้ชีวิตฉันท์สามีภรรยาที่ปางไม้เขาท่ากระดาน ซึ่ง ยุพดี คิดว่าชีวิตของเธอได้ถูกเติมเต็มแล้วในทุก ๆ ด้านจาก พะโป้ สามีที่เธอรัก แต่ ณ ที่นั้นเอง ท่ามกลางพลังอำนาจแห่งไพรพฤกษ์และขุนเขา เมื่อยุพดีได้มาพบเจอกับ ส่างหม่อง (อนันดา เอเวอริงแฮม) หนุ่มพม่าผู้หล่อเหลาปานเทพบุตรแต่แสนบริสุทธิ์ในกามโลกีย์ผู้เป็นหลานชายของ พะโป้ ต่างก็เกิดความสเน่หาต่อกัน ยิ่งทั้งคู่ได้ชิดใกล้กันมากเท่าไร ก็ยิ่งเกิดอาการหวั่นไหวและอยากอยู่ด้วยกันมากขึ้นเท่านั้นตามสัญชาตญาณหนุ่มสาวที่ถูกกิเลสตัณหาครอบงำ โดยหารู้ไม่ว่า นี่คือ "จุดเริ่มต้นแห่งโศกนาฏกรรมรัก" ในที่สุดทั้ง ส่างหม่อง และ ยุพดี ก็มิอาจต้านทานความปรารถนาของตน และยอมตกอยู่ภายใต้อำนาจของกิเลสตัณหาอย่างถึงที่สุด ทั้งคู่ก้าวล้ำเส้นของการเป็นหลานและอาสะใภ้โดยลอบเป็น "ชู้" กัน และแล้วเมื่อ พะโป้ ได้ล่วงรู้ความจริงอันน่าอัปยศเช่นนี้ เขาดูเหมือนจะสงบนิ่งอย่างผู้ผ่านประสบการณ์และเข้าใจโลกยิ่งนัก แต่จริง ๆ แล้วในใจเขากลับร้อนรุ่มด้วยโทสะจริต ติดกับดักแห่งเสน่หาอาฆาตแบบถอนตัวไม่ขึ้น อย่างไม่คาดฝัน พะโป้ ตัดสินให้ ยุพดี เมียสุดที่รักได้อยู่กินกับ ส่างหม่อง หลานรักอย่างเปิดเผย ภายใต้เงื่อนไขอันแสนเย็นยะเยือกด้วยการล่าม "โซ่ตรวน" คล้องแขนติดกัน เพื่อพันธนาการว่าทั้งคู่จะได้ครองรักกัน...ชั่วนิจนิรันดร์ ถึงเวลาแล้วที่ พะโป้ จะได้ทำในสิ่งที่เขาวางแผนไว้อย่างแยบคาย เพื่อสอนบทเรียนให้กับทั้งหลานและภรรยาอันเป็นที่รักให้รู้จักความหมายของ "ความรักชั่วนิรันดร์ การลงทัณฑ์ชั่วชีวิต" ใครเลยจะหยั่งรู้ว่า วิถีชีวิตของ 3 ชายหญิงที่ต้องโคจรมาทาบทับกันในวังวนแห่งกิเลสตัณหานี้ จะนำพามาซึ่งโศกนาฏกรรมรักอันยิ่งใหญ่ที่ต้องพิสูจน์ด้วยเลือดเนื้อ จิตวิญญาณ และกาลเวลาตราบ "ชั่วฟ้าดินสลาย"
สมาน ฉัน คัลเลอร์เลิฟ (2553/2010) ในวันวาเลนไทน์ วันที่ดอกรักแบ่งบาน สว่างไสวไปทุกที่ รวมทั้งที่นี้ ที่ว่าการเขตสมรัก ซึ่งมีคู่รักหลากวัย มายืนยันความรักต่อกันด้วยการจดทะเบียนสมรสในวันนี้ แต่คู่นี้ สมาน (ธัชพล ชุมดวง) และ ฉันทนา (ปกฉัตร เทียมชัย) นี้ซิ ที่เลือกวันนี้เพื่อสะบั้นรัก ที่เคยมีต่อกัน แม้ทั้งคู่จะยังจดจำเมื่อแรกสบพบรักเมื่อสมัยวัยรุ่นวุ่นเรียนมหาวิทยาลัย แต่ความรักของทั้งคู่ก็ยังแตกยอด ผลิดอกออกใบ เป็นคู่รักหวานใส เป็นที่อิจฉาตาร้อนแก่เพื่อน ๆ ทั้งหลาย จริง ๆ นะ และแล้วเมื่อรักมันจุกอกทนไม่ได้อีกต่อไป สมาน ก็ได้แต่งงานกับ ฉันทนา และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขพร้อมทั้งมี เด็กชายจัมป์ เป็นดังโซ่ทองคล้องใจของทั้งคู่ แต่ชีวิตจริงมันไม่ใช่นิทานที่จะจบด้วยความสุขจากนี้และตลอดไป ความรักและผูกพันเท่านั้นคงไม่พอที่จะทำให้รักเรายืนนาน ยิ่งคิดต่างกัน มองโลกต่างกันก็ยิ่งแล้วใหญ่ ก็ดู สมาน ของเราซิทำงานเป็นเซลล์ขายปุ๋ย มีความมุ่งมั่นในการดำเนินชีวิตเจริญรอยตามแนวคิดเศรษฐกิจพอของในหลวง และหน้าที่การงานยังทำให้เขาต้องเดินทางไปต่างจังหวัดแล้วด้วยความมีน้ำใจกับทุกคน ก็ยิ่งทำให้ สมาน มีเวลาให้กับครอบครัวอย่างลูกจัมป์และสุดที่รักอย่าง ฉันทนา น้อยลง แล้วส่วน ฉันทนา ก็อยากจะเป็นสาวยุคใหม่มั่นเกินร้อยที่รักก็ยุ่ง และก็ยังมุ่งกับงานอีกด้วย กับอาชีพมัณฑนากรในบริษัทขนาดใหญ่ และโลกก็กลมจนน่าหมั่นไส้ มีอย่างที่ไหนทำเอาเธอ เจอะรุ่นพี่หนุ่มหล่อสมัยเรียนที่เคยแอบหลงรักเธอ อย่าง เนฑิต (บรรเจิด สันธนะพานิช) ที่ทำงานบริษัทเดียวกันในตำแหน่งเจ้านายของเธอ แล้วด้วยงานในหน้าที่รับผิดชอบทำให้เวลาที่เธอควรจะมีให้ สมาน และลูกชายอย่าง จัมป์ กลับกลายเป็นเธอต้องใกล้ชิดกับกิ๊กเก่า อย่าง เนฑิต เพิ่มขึ้น เมื่อเวลาที่มีให้กันน้อยลง ความเข้าใจและไว้ใจที่เคยมีให้กันมันก็ดูจะน้อยลงตามไปด้วย ยิ่งเมื่อมีมือที่สามอย่าง เนฑิต ด้วยแล้วยิ่งทำให้ความรักที่มีต่อกันยิ่งน้อย น้อยลงไปอีก ดูเหมือนไม่ว่า สมาน จะทำอะไร ก็ขวางหูขวางตาไปซะหมด แล้วความขัดแย้งในชีวิตคู่ของคนทั้งสอง ดูจะรุนแรงขึ้นตามลำดับ ไม่ต่างไม่จากความแตกแยกทางความคิดทางการเมืองของคนในสังคม ในครั้งแรกที่ สมาน และ ฉันทนา มีปากเสียงกันนั้น ต่อหน้า จัมป์ นั้น ทำให้ลูกชายที่รักมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง หลังจากได้รับการรักษาที่โรงพยาบาล ทั้งคู่จึงพบว่า จัมป์ มีกรุ๊ปเลือดพิเศษต่างจากเด็กทั่วไป ดังนั้นเมื่อได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจจึงมีอาการเช่นนี้ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ สมาน และ ฉันทนา จึงสัญญากันว่าจะไม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูกอีก และหันหน้าเข้าหากัน เพื่อร่วมกันกอบกู้ครอบครัวของตนขึ้นมาอีกครั้ง โดย ฉันทนา ตัดสินใจลาออกจากงานมาดูแลลูกและครอบครัวอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งตัดขาดกับ เนฑิต เมื่อคิดได้แล้วว่า เธอยังคงรัก สมาน อยู่ไม่เสื่อมคลาย ถึงแม้ สมาน และ ฉันทนา จะมีเวลาให้กันมากขึ้น พยายามให้ความเข้าใจกันมากขึ้น แต่ว่าช่องว่างที่มีอยู่นั้น ความหวาดระแวงที่ยังคงเกาะกินอยู่ในใจนั้น ก็ยังคงมีอยู่และพร้อมจะปะทุขึ้นมาสร้างความร้าวฉานได้อย่างง่ายดาย แล้วความอดทนก็มาถึงจุดสิ้นสุด เหมือนกับความขัดแย้งในสังคมที่รุนแรงขึ้นจนถึงขั้นแตกหักและมีการเผชิญหน้ากันด้วยความรุนแรง เช่นเดียวกับชีวิตคู่ของ สมาน และ ฉันทนา ที่จบลงด้วยการ หย่าร้าง ที่สำนักงานเขตสมรัก ในวันแห่งความรักนี้ แต่ก่อนที่ สมาน และ ฉันทนา จะเซนต์ชื่อลงบนหนังสือหย่า ทั้งสองได้เห็นข่าวในโทรทัศน์รายงานว่า เกิดเหตุคนเมายาบ้าขับรถบรรทุกแก๊สฝ่าด่านตำรวจมา และหักหลบรถมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งตัดหน้ากะทันหัน ทำให้รถบรรทุกแก๊สพลิกคว่ำลื่นไถลไปจอดขวางกลางรางรถไฟ จนเมื่อขบวนรถไฟคันที่ จัมป์ โดยสารแล่นผ่านมา คนขับรถไฟต้องรีบเบรกกะทันหัน ทำให้ถังแก๊สที่กลิ้งมาใกล้รางเกิดระเบิดขึ้นทันที เป็นเหตุให้ขบวนรถไฟเสียหลักพลิกคว่ำตกจากราง เหตุการณ์เริ่มวุ่นวาย เมื่อการขนย้ายผู้บาดเจ็บเป็นไปด้วยความทุลักทุเล เพราะต้องฝ่าทั้งกลุ่มม็อบที่กำลังเผชิญหน้ากันปิดเส้นทางการจราจร ท่ามกลางความหวาดกลัวของผู้ได้รับบาดเจ็บ และเหล่าญาติผู้รอคอยด้วยความหวังว่า ลูกหลาน พ่อแม่ หรือ พี่น้องของเขาเหล่านั้นที่ได้รับบาดเจ็บให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที รวมทั้ง สมาน และ ฉันทนา ที่พบแล้วว่าสุดท้ายความรักของทั้งคู่ยังคงอยู่ที่ จัมป์ ได้รีบมาโรงพยาบาลด้วยความหวังว่าจะมีปาฏิหารย์ เกิดขึ้นกับชีวิตของลูกชาย ซึ่งเป็นตัวแทนของความรักของทั้งคู่ ชีวิตที่ยังแขวนอยู่ระหว่างความเป็นและความตายในการรักษา เช่นเดียวกับทุกคนในโรงพยาบาลแห่งนี้ หวังเพียงจะมีปาฏิหารย์เกิดขึ้นกับทุกชีวิตอันเป็นที่รัก
สะบายดี 2 ไม่มีคำตอบจาก..ปากเซ (2553/2010) ปอ (เร แมคโดนัลด์) ผู้กำกับหนุ่มที่ล้มเหลวทั้งเรื่องความรักและการงานกำลังอยู่ในช่วงตกอับ เขาจำใจเดินทางไปเมืองปากเซ เพื่อรับจ้างถ่ายภาพงานแต่งงาน ในงานนั้น เขาได้รู้จักกับหญิงสาวชื่อ สอน ไพรวัลย์ (คำลี่ พิลาวง) สาวลาวที่ดูใสซื่อน่ารัก แรงบันดาลใจทำให้หนุ่มเขียนบทหนังเรื่องใหม่ เล่าเรื่องของช่างภาพหนุ่มที่เข้าไปเมืองปากเซ แล้วหลงรักสาวลาว ในหนังนั้นดูโรแมนติกชวนฝัน แต่ในความจริง ดูเหมือนชายหนุ่มทำอะไรก็ยิ่งล้มเหลว และสาวก็มักจะเข้าใจผิดกับความหวังดีของเขาอยู่ตลอด ความรักและความฝันมาถึงบทสุดท้าย เมื่อ ปอ พบความจริงว่า แฟนของสาวเจ้าที่อยู่ฝรั่งเศสกำลังเข้ามาเที่ยวที่เมืองนี้ ก่อนวันจะกลับ ปอ จึงหาโอกาส ในการที่จะบอกให้เธอเข้าใจในความรักของเขา แต่ทว่า จะทำยังไงดี ก็ความรักจริง ๆ มันไม่เหมือนบทหนังที่เขียนจากจินตนาการน่ะสิ
กวน มึน โฮ (2553/2010) ชายหนุ่ม (ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) ผู้ชายที่จะไปประเทศเกาหลี ด้วยรองเท้าแตะคีบ และเสื้อยืดย้วยๆบวกกางเกงขาสั้น เขาเป็นคนเดียวในกรุ๊ปทัวร์ที่ไม่มีครอบครัวหรือคนรักมาด้วย บางทีที่นั่งว่างเปล่าข้างๆ อาจเป็นสาเหตุให้เขาเมามายขนาดนี้ในวันเดินทาง หลังล้อเครื่องแตะพื้นผิวท่าอากาศยานกรุงโซลโปรแกรมเที่ยวตามรหัส 6-7-8 คือ ตื่นนอน 6 โมงเช้า - กินข้าว 7 โมงเช้า – ล้อหมุน 8 โมงเช้า คืนนั้นชายหนุ่มเลยต้องพึ่งเหล้าโซจู ซึ่งเขามาเมาสลบอยู่หน้าเกสท์เฮาส์แห่งหนึ่งในชุดคลุมอาบน้ำโรงแรม เช้าวันรุ่งขึ้น ชายหนุ่มลุกพรวดขึ้นมาหมิ่นเหม่เวลาล้อหมุน หญิงสาว (หนึ่งธิดา โสภณ) ที่ยืนอยู่ตรงนั้นร้องโวยวาย เพราะต้องการทวงเสื้อหนาวที่เธอเสียสละให้เขาใช้คลุมกายคืน ชายหนุ่มผู้หลงทางจึงบังคับแกมตีมึนให้หญิงสาวพาไปส่งที่โรงแรม แต่เพราะหลงทางเสียเวลา หลงเสพสุราเสียอนาคต ชายหนุ่มตกรถพลาดทัวร์สุดเนิร์ด จนต้องตามหญิงสาวที่ตั้งใจมาทัวร์เดี่ยวตะลุยโลเกชั่นซีรีส์สสุดฮิตของเกาหลีแทน ชายหนุ่มอดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมหญิงสาวถึงมาเที่ยวคนเดียว เธอตอบง่ายๆว่า เที่ยวคนเดียวไม่ต้องเกรงใจใคร อยากไปไหนก็ไป ไม่ต้องทะเลาะกับใครด้วย อาจเพราะความคะนอง หรือ ความเหงาทำงานเต็มที่ก็สุดจะเดา อยู่ๆ ชายหนุ่มก็ยื่นข้อเสนอว่า "งั้นเรามาเที่ยวด้วยกันมั้ย ถ้าเธอไม่ชอบเที่ยวกับคนรู้จัก เราก็ไม่ต้องรู้จักกัน ไม่รู้ชื่อ ไม่รู้ข้อมูลส่วนตัว" เขายิ้มร่าพลางสรุป "เราจะเป็นแค่คนแปลกหน้าสองคนที่ไปเที่ยวด้วยกัน"
สิ่งเล็กเล็ก ที่เรียกว่า..รัก (2553/2010) น้ำ (พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) สาวน้อย ม.1 วัย 14 หน้าตาธรรมดา ๆ กระเดียดไปทางไม่สวย หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ขี้เหร่นั่นแหละ แต่เธอดันไปแอบชอบ พี่โชน (มาริโอ้ เมาเร่อ) พี่ม.4 ที่หล่อ เท่ ที่สุดในโรงเรียน แล้วแถมยังใจดีอีกตะหาก ทำให้น้ำมีคู่แข่งเป็นสาว ๆ ทั้ง ม.ต้น และ ม.ปลาย ที่มีแต่คนสวย ๆ เต็มไปหมด แต่น้ำไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เธอพยายามลุยทำทุกอย่าง สู้ทุกรูปแบบเพื่อที่จะเก่งและสวย แล้วเด่นขึ้นในโรงเรียนให้ได้ เพราะแอบหวังในใจเล็ก ๆ ว่าถ้าทำสำเร็จพี่โชนอาจจะหันมามองเธอซักครั้ง น้ำ ทำตั้งแต่เอามะขามเปียกมาขัดผิว สมัครเป็นนางรำแม้จะถูกคัดออก หัดเป่าคาริเน็ตแล้วสมัครเข้าวงโยธวาทิตเพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ ๆ พี่โชน ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อน ๆ แก๊งหน้าแย่ ในที่สุด น้ำ ก็ได้เป็นดรัมเมเยอร์มือหนึ่งของโรงเรียน จนตอนที่เรียนอยู่ ม.3 เธอได้เป็นดาวของโรงเรียน จริง ๆ! น้ำ ตกเป็นเป้าสายตาของหนุ่ม ๆ ทั้งโรงเรียน มีคนเข้ามาจีบเป็นสิบ ๆ คน ยกเว้นคนที่เธอรอคอยอยู่คนเดียว โชน แล้วเรื่องราวความรักของ น้ำ จะเป็นอย่างไร โชน จะหันมาสนใจเธอมั้ย สุดท้ายแล้วความรัก ความฝัน กับความเป็นจริง จะได้พบกันเมื่อไหร่ เวลาคงเป็นคำตอบของทุกอย่างเอง
บุญชู จะอยู่ในใจเสมอ (2553/2010) งานเลี้ยงส่งกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง เมื่อ บุญโชค (อาร์ตี้) พลาดการสอบเข้ามหาวิทยาลัยจากปีที่แล้ว ปีนี้บุญโชคก็ทำสำเร็จจนสามารถสอบเข้าเรียน “หมอ” ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้ แต่เป็น “หมอสมุนไพร” โดย พ่อบุญชู (สันติสุข พรหมศิริ) และ แม่โมลี (จินตหรา สุขพัฒน์) ต้องตัดใจส่งลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตัวเองไปเรียนไกลถึงเชียงราย กลุ่มเพื่อน นิ้ง (สายป่าน), หยอน (ว่าน), ปพาฬ (แก๊ปเปอร์) ก็เลยเลี้ยงส่งบุญโชคไปเป็นนิสิตเฟรชชี่ปี 1 แต่โมลีใจกำลังสลายเพราะทนคิดถึงลูกไม่ไหว บุญชู และโมลี จึงโทรชักชวนเดอะแก๊งค์ ไวยากรณ์ (วัชระ ปานเอี่ยม), หยอย (เกียรติ กิจเจริญ), นรา (อรุณ ภาวิไล), ประพันธ์ (เกรียงไกร อมาตยกุล), เฉื่อย (ดร.นฤพนธ์ ไชยยศ) , คำมูล (กฤษณ์ ศุกระมงคล) ไปเยี่ยมลูกชาย และความวุ่นวายต่างๆ ก็พัดเข้าสู่เมืองเหนือทันที ก้าวแรกที่เหยียบเมืองเหนือก็เป็นเรื่อง เมื่อบุญชูโดนล้วงกระเป๋าขณะเดินเที่ยวในถนนคน เดิน กลุ่มเพื่อนก็เลยต้องไล่ล่าโจรกันกลางตลาด ทำเอาวุ่นวายไปทั้งตลาด แต่โชคดีที่ จันทร์ผา (ณัฐฐาวีรนุช ทองมี) เข้ามาช่วยจับโจรและคืนกระเป๋าเงินให้แก่บุญชู เล่นเอาบุญชูทั้ง ทึ่ง ในความเก่ง และ อึ้ง ในความน่ารัก หรือว่างานนี้ จันทน์ผา จะทำให้หัวใจบุญชูหวั่นไหว?! ทางด้าน บุญโชค ก็ใช่ย่อย วันแรกที่เข้ามหาวิทยาลัยก็ได้เจอกับสาวสวยสดใส จันทร์หอม (จีน เกล้าแก้ว สินเทพดล) นิสิตเฟรชชี่เหมือนกันที่บุญโชคแอบปิ๊งตั้งแต่ครั้งแรกที่พบ โดยมี พี่หมอ (นะโม ทองกำเหนิด) รุ่นพี่ที่เรียนแล้วเรียนอีกมาเป็นพี่เลี้ยงจีบหญิง แถมยังทำตัวเป็นกูรูเรื่องสมุนไพร โดยชักชวนบุญโชคเข้าไปหาประสบการณ์แปลกๆ ในป่า แล้วความอยากรู้อยากเห็นของพี่หมอก็เป็นเรื่อง เมื่อต้องประจันหน้ากับกลุ่มอิทธิพลมืดที่กำลังตัดไม้ทำลายป่า ทั้งบุญโชคและพี่หมอก็เลยต้องหนีสุดชีวิต เมื่อถูกไล่ล่าอย่างกระชั้นชิด และก็มีวีรสตรีขี่ม้าขาวมาช่วยชีวิตของทั้งคู่ นั่นก็คือ “จันทร์ผา” โดยพาไปอาศัยอยู่ที่บ้านของตน บุญโชคจึงได้พบกับ “จันทร์หอม” ซึ่งเป็นน้องสาวของจันทร์ผาอย่างไม่คาดฝัน ด้าน บุญชู และ โมลี มาหาลูกชายที่หอพัก จนได้รู้ว่าบุญโชคเข้าป่าไปหลายวันแล้ว ทุก คนจึงพร้อมใจกันไปตามหาบุญโชคในป่า ทำให้บุญชูได้พบเจอกับจันทร์ผาอีกครั้ง และด้วยความสนิทสนมเกินกว่าเหตุ ที่ทำเอาโมลีถึงกับเกิดลมหึงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อสัญชาติญาณของตัวแม่รู้สึกว่าบุญชูกำลังจะมี “กิ๊ก” ถ้าคุณเป็น “โมลี” จะทำอย่างไร?.. เมื่อบุญชูมี “กิ๊ก” จะหันหน้าไปพึ่งบุญโชคก็คงยาก เพราะบุญโชคก็จะเริ่มมี “กิ๊ก” เหมือนกัน และที่สำคัญไปกว่านั้น กิ๊กของทั้งคู่ดันเป็นพี่น้องกัน
เการักที่เกาหลี Sorry ซารังเฮโย (2553/2010) หนึ่งคนไปตามหาความรัก หนึ่งคนไปตามหาความสวยงามให้ชีวิต หนึ่งคนไปตามหาคนที่รัก หนึ่งคนไปตามหาพรสวรรค์ ต่างคนต่างความฝัน แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน นั่นคือ เกาหลี ประเทศแห่งความโรแมนติก ความวุ่นวายและความสนุกเริ่มต้นขึ้นเมื่อ คะน้า (ฮารุ สุประกอบ) สาวน้อยผู้คลั่งไคล้ซีรี่ย์เกาหลีเกิดหลงรัก อาจู (โน อาจู) พระเอกเกาหลีในซีรี่ย์ ชักชวน มะระ (ธัญญา รัตนมาลากุล) พี่สาวที่ฝันอยากศัลยกรรมหน้าใหม่ให้แบ๊วอย่างสาวเกาหลี ตะลุยเกาหลีหวังตามหารักแท้ โดยหารู้ไม่ว่า ชาย (รัชชานนท์ สุขประกอบ) เพื่อนสนิทที่ตามไปเกาหลีด้วยนั้น แอบหลงรักเธออยู่ รวมถึง วอน (ศรัณย์ ศิริลักษณ์) ที่ทำตัวเรียนแบบเกาหลีทุกอย่างเพื่อเอาใจคะน้า และมีความฝันจะได้เป็นนักร้องเกาหลี ความรักครั้งนี้สร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และน้ำตา มิตรภาพของคำว่าเพื่อน กับหัวใจที่มีให้เฉพาะคนที่รัก ก่อให้เกิดความทรงจำสีชมพูในเมืองสีขาวที่เต็มไปด้วยหิมะ ความรักจะสมหวังหรือไม่ ความฝันจะเป็นจริงหรือไม่ สิ่งที่ตามไขว่คว้าจะได้มาหรือไม่ เอาใจลุ้นกันเขาและเธอได้ใน เการัก ที่เกาหลี Sorry ซารังเฮโย
เรา สองสาม คน (2553/2010) เมื่อ สุนทรีย์ (รัตนรัตน์ เอื้อทวีกุล) สาวหูตึงหลงรักหนุ่มออฟโรดที่ชื่อ ส้มฉุน (มณฑล จิรา) ในทริปคาราวานทัวร์ออฟโรดไปเวียดนาม ในระหว่างการเดินทาง เธอ ได้ปะติดต่อเรื่องราวความรักของ เธอ กับ ส้มฉุน ด้วยความเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างเพราะเครื่องช่วยฟังไม่ค่อยชัดนัก สุนทรีย์ กลับพบว่า เต๋อ (อริย์กันตา มหาพฤกษ์พงศ์) เพื่อนสาวสายตาสั้นจอมเฟอะฟะที่ร่วมเดินทางมาพร้อมกันในครั้งนี้คือคนที่ ส้มฉุน จีบและทั้งสองแอบใจตรงกัน แต่ความรู้สึกของ เต๋อ ละ เธอจะทำยังไงกับความรู้สึกของเธอ ตัดสินใจปล่อยให้ เพื่อนเจ็บเชื่อตามที่ สุนทรีย์ บอกว่าเธอคือคนที่ ส้มฉุน จีบในยามที่เธอมองเห็นชัดบ้างไม่ชัดบ้าง หรือทำเป็นหูดับแล้วเดินจากไป
with love ด้วยรัก (2553/2010) สายฟ้าและสายฝนเป็นพี่น้องต่างมารดา พ่อกับแม่มีธุรกิจรีสอร์ทเล็ก ๆ ริมทะเล สายฟ้า เป็นเด็กชายอ่อนแอ ขี้อาย มักโดนรังแกมาตั้งแต่เด็ก ๆ ต่างกับสายฝนจะเป็นเด็กเข้มแข็งที่คอยปกป้องคุ้มครองพี่เสมอเวลาที่โดนรังแก สายฝนต้องออกไปสู้รบปรบมือแทนพ่อกับแม่ ที่ไม่ค่อยมีเวลาใส่ใจลูกนัก สายฝน (พีชญา) มีเพื่อนซี้ที่คุยได้ทุกเรื่อง เป็นเด็กลูกครึ่ง แอริณ (อินทิรา) หน้าตาน่ารักดูขี้เล่นต่างกับสายฝน ที่นิ่ง ๆ ไม่ค่อยพูดจาเท่าไหร่ พอโตมา สายฟ้า (ตรีชฎา) ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองมากขึ้น จนกระทั้งพอเรียนจบมัธยมที่ต่างจังหวัด สายฟ้าก็รู้แท้แก่ใจ ว่าร่างกายที่ตัวเองเติบโตมานั้นเป็นผู้ชาย แต่จิตใจความรู้สึกลึก ๆ แท้จริงข้างในเป็นผู้หญิงมากกว่า จึงเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นหญิงสวยเต็มตัว ส่วนสายฝนนั้นรับและเข้าใจผู้เป็นพี่เสมอคอยอยู่เคียงข้างปกป้องดูแลพี่เสมอ แม้วันหนึ่งพี่ชายจะเปลี่ยนไปเป็นพี่สาวก็ตามที วันหนึ่งสายฟ้าไปบังเอิญหลงรักกับเพื่อนนักกีฬา ป๊อป (คณวัฒน์) ที่ดูเหมือนว่าสายฟ้าจะทุ่มมากกับรักครั้งนี้มาก สายฝนและแอริณ เข้าเรียนในกรุงเทพฯ ส่วนแอริณมีโอกาสเข้าไปถ่ายโฆษณาและเป็นนางแบบ แอริณเริ่มมีหนุ่มเข้ามาสนใจมากมาย ที่เข้าตามากที่สุดและแอริณมีใจด้วย คือ เคน (วันธงชัย) นักร้องหนุ่มชื่อดัง ป๊อบได้เจอสายฝน เขารู้สึกแอบชอบแต่ยังไม่กล้าแสดงความรู้สึกออกไป เพราะสายฝนเป็นน้องสายฟ้า ซึ่งหลงใหลในตัวป๊อบอย่างออกหน้าออกตา ป๊อบก็ไม่รู้จะอธิบายบอกยังไงดีกับสายฟ้า การที่ป๊อบมาหาสายฟ้าก็ทำให้ป๊อบได้เจอกับสายฝนอยู่เสมอ ป๊อบได้แต่เก็บงำความรู้สึกนั้นเอาไว้เงียบ ๆ ความรักของแอริณกับเคนนักร้องหนุ่มทำท่าจะไปได้ดี ถ้าหากเคนไม่ได้ไปเล่นคอนเสิร์ต ที่โรงเรียนมัธยมที่ต่างจังหวัดและได้เจอกับ จูน (ศรศิลป์) เด็กบ้าเรียน ชั้น ม.ปลาย เคนปิ๊งจูนทันทีที่ได้พบ เพราะความที่เคนเป็นนักร้องดัง เพื่อนของจูนจึงพากันยุให้จูนคุยกับเคน แต่จูนไม่เคยสนและใจอ่อนสักที จนกระทั่งวันหนึ่งจูนก็เริ่มเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม กลายเป็นคนเหมือนมีโลกความรักเล็ก ๆ ส่วนตัวไปแล้ว ต่อมาสายฟ้ามารู้ว่า ป๊อบ ที่ตัวเองนั้นชอบ เขากลับมาชอบสายฝน น้องสาวของสายฟ้า เธอจึงเสียใจ และโกรธที่ป็อบไม่แสดงออกชัดเจนตั้งแต่แรก ในขณะที่สายฝนเองแม้จะชอบป๊อบแต่ลึก ๆ สายฝนก็ไม่อยากทำให้ความรักของสายฟ้าที่ทุ่มเทให้ไปกับป๊อบนั้นพังทลายลงไป จึงหักห้ามความรู้สึกเอาไว้และพยามยามถอยห่างออกมาเพื่อให้สายฟ้ากับป็อปได้ปรับความเข้าใจกัน แอริณจับได้ว่าเคนแอบมีกิ๊กเด็กมัธยมคนหนึ่งที่ ชื่อ จูน หลังจับได้แอริณผิดหวังกับความรัก ส่วนเคนต้องเคลียร์ปัญหาหัวใจและอนาคตในวงการการเป็นนักร้องซูเปอร์สตาร์ ว่าจะทำอย่างไรดี...เรื่องราวความรักในหลากหลายรูปแบบนั้นจะลงเอยอย่างไร ร่วมค้นหาคำตอบของหัวใจ ไปด้วยกัน...
มายวาเลนไทน์ แล้วรัก...ก็หมุนรอบตัวเรา (2553/2010) เรื่องราวความรักของ มายด์ (มิ้น - มิณฑิตา วัฒนกุล) สาวหมวย ที่โชคชะตาเล่นตลกใส่ จู่ๆ ให้กลายเป็นหมวยเลือกได้ ที่มีผู้ชายมาตกหลุมรักหมวย พร้อมๆ กันทีเดียวสามคน ผู้ชายสามแบบที่มาหมุนรอบตัวเธอ มีทั้งแบบที่ตรงใจ แบบที่โดนใจ และแบบที่จริงใจ แต่ในโลกนี้ไม่มีใครหรอก ที่จะสมบูรณ์แบบเพียบพร้อมไปทั้งหมด มายด์ ต้องถามใจตัวเอง ถามเพื่อน ตามใจญาติผู้ใหญ่ หรือปล่อยให้เป็นเรื่องของพรหมลิขิต...ที่จะตัดสินให้ แบบแรก "แบบที่ตรงใจ" มิค (จิ๊บ - วสุ แสงสิงแก้ว) หนุ่มใหญ่หน้าตาดี นิสัยดี ฐานะดี การงานดี ดูไฮโซ ได้เป็นแฟนแล้วเหมือนถูกล็อตตารี่ แบบที่สอง "แบบที่โดนใจ" อาร์ท (กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์) ผู้ชายที่ดูแมนๆ ไม่โรแมนติก ไม่เสแสร้ง ดูเหมือนหยาบโลน หรือเข้าขั้นปากเสีย พอไปเจอชายแบบนี้มายด์ก็เหมือนผู้หญิงทั่วไป ที่มักชอบจะไปคบกับผู้ชายแบบนี้ เพราะเขาทำให้มายด์ได้ไปรู้เห็นสิ่งแปลกใหม่ในชีวิต ไม่เคยตามใจกัน ไม่เคยทำในสิ่งที่มายด์ชอบ ไม่ว่าก่อนหรือหลังจากที่เป็นแฟนกัน แบบที่สาม "แบบที่จริงใจ" ก้อง (เปอร์ - สุวิกรม อัมระนันทน์) ผู้ชายธรรมดาที่ดูอบอุ่นและมีอารมณ์ขัน อยู่ใกล้แล้วรู้สึกดี และเป็นเพื่อนมาตั้งแต่เด็ก ทำอะไรหลายๆอย่างเพื่อมายด์เพราะความรัก มีเวลาไปโน่นมานี่ด้วยตลอดเวลา ทั้งสามแบบ มีความรักมาให้ในรูปแบบของแต่ละคน วันวาเลนไทน์นี้ ถ้าต้องเลือก มายด์จะตกลงปลงใจไปกับใครนะ ....... ??
Secretary In Love เลขา อินเลิฟ (2553/2010) “ เรื่องรัก ๆ ที่ไม่ลับ ของสาวมาดมั่นที่มีหัวใจอ่อนไหว ” ดาว สาวสวย มาดมั่น ทำงานเก่ง และโลกส่วนตัวสูง เธอเข้าทำงานในตำแหน่งเลขาของ บริษัทแห่งหนึ่ง โดยมี บอล เป็นเจ้าของ ทันทีที่ดาวเข้ามาในบริษัทแห่งนี้ ทุกคนก็ต่างจับ จ้องมายังดาว โดยเฉพาะพวกหนุ่มๆ ที่คิดหมายปองเธอไม่เว้นแม้แต่ บอล ทุกคนพยายาม ตีสนิทกับเธอ แต่ดาวกลับมีท่าทีไม่สนใจใคร นอกจากบอล และ น๊อต จนกระทั่ง เรื่องราว ของเธอ กับผู้ชายต่างๆ ได้ถูกนำไปวิจารณ์กันอย่างสนุกปากในที่ทำงาน ทำให้ดาวรู้สึก แย่ เธอจึงต้องตัดสินใจว่า เธอจะต้องแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไร และเธอจะเลือกใคร ระหว่างคนที่แอบชอบเธอกับคนที่เธอชอบ
อยากได้ยินว่ารักกัน (2553/2010) เรื่องราวของ สอง (ทองภูมิ สิริพิพัฒน์) คนที่คุณอาจจะเคยพบเคยเจอในชีวิตประจำวัน คนที่เคยอยู่ในกลุ่มของเพื่อนๆของคุณผู้ชาย ที่ไม่มีอะไรโดดเด้ง โดดเด่น นอกจากคำว่า ธรรมดา และสิ่งที่ตอกย้ำความธรรมดาอันแสนธรรมดาของสองก็คือ การได้เกิดมาพร้อมกับ ก้าว (นวพล ลำพูน) เพื่อนสนิทของสองที่ขั้วตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง กีฬาเด่น หน้าตาดี ฝีมือเด้ง เป็นคนดัง คติประจำใจของก้าว ที่สองได้แต่ก้มหน้าก้มตารับชะตากรรมทุกทีเมื่อเดินคู่กับสองตั้งแต่เด็กยันโต จนเมื่อเวลาผันผ่าน สองในวัยรุ่น สามารถสะบัดหนีออกจากก้าวได้ รวมทั้งหนีกิจการครอบครัวนั่นก็คือวงดนตรีงานแต่งของครอบครัว เพื่อตามล่าฝันของตัวเองให้ได้ นั่นก็คือการเป็นหนึ่งในวงดนตรีที่ยิ่งใหญ่ แต่ว่าฝันก็คือฝัน วงสองเป็นได้แค่วงเล่นในร้านหมูกระทะ และที่ซ้ำร้ายยิ่งกว่าก็คือ สองต้องมาเจอกับก้าว อีกครั้ง แหม...โชคชะตาคงอยู่คณะชวนชื่น มันถึงมาเล่นตลกกับสองไม่ว่างเว้นเลย ยังดีที่ในชีวิตของสองได้มารู้จักกับ หนอ (รุจิภาส ก่อเกียรติ) หญิงสาวที่กำลังผิดหวังจากความรัก แม้อารมณ์ไม่คงที่ แต่ความน่ารักนั้นคงทน...มาก สองได้เจอกับหนอ เพราะเพลงที่หนอตามหา อยากได้ยินว่ารักกัน และเพลง ๆ เดียวกันนี้ กลับทำให้ มุมมองเรื่องความรักของทั้ง 3 เปลี่ยนไป "ก้าว" ผู้ที่รอคอยที่จะเจอคู่แท้ "สอง" ผู้ที่อยากจะได้ยินคำว่ารักจากคนที่เขารัก "หนอ" หญิงสาวที่อยากจะพิสูจน์ว่า รักแท้นั้น(ต้อง) มีอยู่จริง

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 15 รายการ