In the Name Of the Tiger เสือภูเขา (2548/2005) บนยอดเขาสูง มีรูปสลักหัวเสือขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านครอบคลุมศาลเจ้าพ่อเสือดำ ซึ่งมีอายุมากกว่า 100 ปี เสมือนเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนในเมืองหลัก ศูนย์กลางแห่งหุบเขาปกครองโดย 2 ผู้มีอิทธิพล คือ นายหัวจเย และ ท้าวไลข่าน ซึ่งแก่งแย่งต้องการ เป็นใหญ่เพียงหนึ่งเดียว ขณะที่ 2 ฝ่ายยกพวกปะทะกัน จู่ๆภูเขาที่รายล้อมเมืองได้ถล่มลงมา เมื่อภูเขาสงบลง นายหัวจเยได้พาร่างกายสะบักสะบอมไปไหว้ ศาลเจ้าพ่อเสือดำ เพื่อขอบคุณที่ช่วยให้รอดตาย ทันใดนั้นได้ปรากฏร่างชายคนหนึ่งชื่อ เล่าทง ซึ่งอยู่สภาพหิวโซ เข้ามากินของเซ่นไหว้ นายหัวจเยสั่งให้ลูกน้องจัดการ แต่กลายเป็นว่าถูกเล่าทงเล่นงานกลับอย่างรวดเร็ว ด่างลี ชายตัวสั้นจอมกะล่อน ผู้มีหน้าที่เฝ้าศาลจึงได้อุปโลกว่า เล่าทง คือ คนที่เจ้าพ่อเสือดำส่งมาช่วยนายหัวจเยตามคำขอ เพราะท่าทางของเล่าทงที่นั่งคร่อมบนหัวเสือ ไปสอดคล้องกับภาพวาดโบราณในผนังถ้ำ เล่าทง ยอมเข้าไปพวกนายหัวจเยเพื่อแลกกับทองคำ ขณะเดียวกันก็แอบรับทองจากพวกไลข่าน โดยยอมเข้าเป็นพวกเช่นเดียวกัน แผนการดำเนินไปอย่างราบรื่น จนกระทั่งเล่าทงได้พบกับ ไหมท้อ สาวกะเหรี่ยงคอยาว ซึ่งถูกพวกของท้าวไลข่านรังแก อีกทั้งยังมี แฝดนรก ยอดฝีมือจอมโหด และ 7 เทพบุตรแดนใต้ ผู้มีใบหน้าราวกับผี กำลังเดินทางมา กำจัดเล่าทง ด้วยเช่นกัน ภารกิจของเล่าทงเพื่อ ช่วยเหลือชนเผ่าคอยาว ไม่ให้ล่มสลายจากการถูกล้างเผ่าพันธุ์ กับการเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของ แฝดนรก และ 7 เทพบุตรแดนใต้ จึงเริ่มต้น
The Tiger Blade เสือคาบดาบ (2548/2005) "...เขาไม่ใช่ตำรวจแต่...มีหน้าที่เก็บกวาดวายร้ายของสังคม..ก่อนส่งต่อให้ตำรวจ ปืน..ดาบ คือ อาวุธประจำกายรายล้อมด้วยสาว ๆ ..ที่เสมือนอาวุธประจำใจ..." ยศธนา (อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร) เจ้าหน้าที่ของหน่วยปฎิบัติการณ์ลับแห่งชาติในมาดหนุ่มเพลย์บอยที่รายล้อมไปด้วยสาว ๆ เคราแดง (อนันต์ บุนนาค), เคราดำ ( ยอดนิยม นิยมสุข) คู่แสบต่างวัยเพื่อนร่วมก๊วนของยศธนา เป้าหมายสำคัญของพวกเขาคือการเก็บกวาดวายร้ายทางสังคม ผู้พันเก้ายอด (พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง) ผู้นำชนกลุ่มน้อยคนร้ายระดับพิสดารซึ่งเป็นทีต้องการของทางการเกิดเสียท่าให้กับ ยศธนา จนถูกกักขังในเรือนจำ ปฎิบัติการณ์บุกชิงคนร้ายอย่างอุกอาจได้เริ่มขึ้นท่ามกลาง การคุมกันของตำรวจอย่างแน่นหนา โดยไม่มีใครทราบว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังคือใคร เพียงแต่รู้ว่าเขาต้องการได้คนมากความสามารถอย่างผู้พันเก้ายอดมาร่วมงานกับ 3 สุดยอดคนร้าย อย่า มเหศักดิ์ (อมรฤทธิ์ สีผึ้ง) ร่างหนังเหนียว ผู้ที่ไม่รู้จักความเจ็บปวดไม่มีอาวุธใดทำร้ายได้ จอมโจร 5 นัด (ชลัฎ ณ สงขลา) ผู้ทีปลิดชีพเหยื่อลงอย่างช้าๆทีละนัดเพื่อความทรมาน และ จี ไอ เจนจิรา (สรวงสุดา ลาวัลย์ประเสริฐ) ความสวยที่มาคู่กับความอันตราย เพื่องานชิ้นสำคัญที่จะส่งผลถึงสถานะของประเทศ พวกเขาต้องการ ผู้พันเก้ายอดร่วมแก๊งด้วยจึงฝ่าวงล้อมตำรวจช่วยเหลือในครั้งนี้ ขณะที่ตำรวจยังไม่มีวี่แววในการควานหาตัวคนร้าย........ แต่ที่นี่หน่วยปฎิบัติการณ์ลับแห่งชาติกำลังได้เบาะแสที่กบดานแรกของพวกมัน หัวหน้าหน่วยระดมยอดฝีมือของหน่วยฯเพื่องานนี้ โดยมี ดวงดาว (พิมลรัตน์ พิศลยบุตร) ช่วยวางแผนในการจับกุมเพราะคนร้ายกลุ่มนี้เป็นที่รู้ดีถึงความไม่ธรรมดาของพวกมัน สมร (ฐิติมา มะลิวัลย์) ค้นพบอาวุธโบราณชนิดหนึ่ง จากคอมพิวเตอร์ที่เขาเจาะข้อมูลเข้าไป และนี่คือหนทางเดียวที่จะกำจัด มเหศักดิ์ มนุษย์หนังเหนียวนี่ได้ ดาบชนิดนี้นอกจากเจ้าของที่แท้จริงของมันแล้วไม่มีผู้ใดที่จะมีพละกำลังยกมันขึ้นมาได้เกิดอาเพศขึ้นในขณะที่พวกเขาค้นพบดาบเจอยศธนา คือผู้ที่ยก "ดาบทาสเหล็กไหล" นี้ได้ เขาได้ฉายาว่า "เสือคาบดาบ" การเผชิญหน้าได้เริ่มขึ้นมันไม่ใช่เพียง ตำรวจ ตามจับผู้ร้ายเท่านั้นหากแต่กลวิธีการไล่ล่าที่ต้องปรับกระบวนการให้เหมาะกับคนร้ายแต่ละคนการตอบโต้ที่พลิกแพลงตลอดเวลาแผนการณ์เพื่องานชิ้น สำคัญเทคโนโลยีล้ำยุคไสยศาสตร์อันถาวรสาวสวยไม่ซ้ำหน้ามิตรภาพต่างขั้วและ ดาบทาสเหล็กไหลพบกับจุดจบที่คาดไม่ถึง
The King Maker กบฏ ท้าวศรีสุดาจัน (2548/2005) “เฟอร์นานโด เดอ กัมมา” (แกรี สเตร็ช) ทหารรับจ้างหนุ่มจากประเทศโปรตุเกส ออกเดินทางมายังดินแดนในซีกโลกตะวันออกใน ค.ศ 1547 เพื่อแสวงหาความร่ำรวยเฉกเช่นเดียวกับเพื่อนร่วมชาติอีกหลายคนไปพร้อมกับการติดตามร่องรอยของบุคคลในอดีตที่เคยสังหารพ่อของเขาต่อหน้าต่อตาในขณะที่เขามีอายุเพียง 8 ขวบ ภาพความทรงจำดังกล่าวเป็นที่ติดตาและฝังใจแก่เขาเสมอมา แต่ในระหว่างการเดินเรือเขาพร้อมกับพวกพ้องกลับต้องเผชิญกับเคราะห์ร้ายเมื่อพายุทะเลคลั่งโหมซัดจนทำให้เรือจมลงใต้พื้นมหาสมุทรอินเดียอันกว้างใหญ่ เหลือเพียงเขาคนเดียวที่รอดชีวิตมาได้จากเหตุการณ์ครั้งนั้น แต่กลับกลายเป็นว่าเขาถูกพ่อค้าทาสชาวอาหรับจับตัวไปยังดินแดนอยุธยาเพื่อขายเป็นทาส กรุงศรีอยุธยาเมื่อราว 458 ปีที่แล้วกล่าวได้ว่าเป็นดินแดนแห่งการค้าขายที่เหล่าอาณาประเทศและผู้คนหลากหลายเชื้อชาติต่างหลั่งไหล่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นชาวตะวันตกไปจนถึงตะวันออกที่ใกล้เคียง แต่ใช่ว่าโชคชะตาของเฟอร์นานโดจะอับโชตเสียทีเดียว เมื่อเขาได้รับการไถ่ตัวให้มีอิสรภาพจาก “มาเรีย” (สิรินยา เบอร์บริดจ์) หญิงสาวชาวโปรตุเกสผู้มีจิตใจงดงามที่เดินทางติดตาม “ฟิลลิปป์” (จอห์น รีส-เดวีส์) บิดาผู้ที่ทำหน้าที่ควบคุมการก่อสร้างกำแพงเมืองให้กับ “พระชัยราชา” (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) กษัตริยแห่งอยุธยา ต่อมาเมื่อกษัตริย์แห่งลานนาคิดแข็งข้อต่ออยุธยาโดยการส่งศีรษะของผู้ส่งสารมาให้ พระชัยราชาทรงกริ้วเป็นอย่างยิ่งจึงตัดสินใจยกทัพเข้าสู่ศึกสงครามพร้อมกับ “พระมหาจักรพรรดิ” (โอลิเวอร์ พูพาร์ท) พระเชษฐาของพระชัยราชา ส่งผลให้เหล่าพันธมิตรของอยุธยา ไม่ว่าจะเป็นชุมชนโปรตุเกส, ญี่ปุ่นต่างเข้าร่วมทำศึกในครั้งนี้ เฟอร์นานโดเองก็เข้าร่วมรบในฐานะทหารที่มีประสบการณ์ จึงไม่น่าแปลกใจที่ความห้าวหาญในฐานะนักรบของเขาจะสร้างความพึงพอพระทัยแก่องค์กษัตริย์จนพระองค์แต่งตั้งเขาให้เป็นหนึ่งในราชองครักษ์พร้อมกันกับเพื่อนใหม่ชาวไทยผู้อาจหาญนาม “ทอง” (ดอม เหตระกูล) ที่เขาได้มีโอกาสช่วยชีวิตไว้ในสมรภูมิรบ ขณะเดียวกัน “มเหสีสุดาจัน” (ยศวดี หัสดีวิจิตร) ผู้เลอโฉมแต่ร้ายกาจได้วางแผนลอบปลงพระชนม์พระชัยราชาและ “พระยอดฟ้า” (ชาลี ไตรรัตน์) พระโอรสที่เกิดกับตนขึ้น เพื่อที่จะจะปูทางให้ “พันบุตรศรีเทพ” (อัครา อมาตยกุล) ชู้รักของนางขึ้นครองราชย์ โดยมีมือสังหารจากต่างชาติร่วมมือในแผนการร้าย นายทองและเฟอร์นานโดราชองครักษ์ปกป้องกษัตริย์ชนิดถวายหัว และพยายามสืบหาผู้อยู่เบื้องหลังแผนการร้ายในครั้งนี้ ก่อนที่จะพบว่ามีเงื่อนงำบางอย่างเชื่อมโยงมายังฟิลลิปป์พ่อของมาเรีย แต่แล้วโดยที่ไม่มีใครคาดคิด ทั้งสองพบว่าพระมเหสีมีส่วนสำคัญในแผนการครั้งนี้ แต่ก็สายเกินกว่าจะช่วยพระมหากษัตริย์ให้รอดพ้นจากการถูกพระมเหสีวางยาได้ เช่นเดียวกันกับที่พระโอรสซึ่งถูกเหล่าองครักษ์ผู้ของมเหสีปลงพระชนม์ เมื่อกษัตริย์ทรงสวรรคต เฟอร์นานโดกับทองกลายเป็นผู้ถูกกล่าวโทษว่าเป็นผู้เกี่ยวข้อง โดยมาเรียและครอบครัวของทองเองก็ถูกทหารจับตัวไป เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป เตรียมพบกับอีกหนึ่งมุมมองของเรื่องราวจากประวัติศาสตร์ที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องยิ่งใหญ่ระดับฮอลลีวูด “กบฏท้าวศรีสุดาจัน” 20 ต.ค.นี้ ในโรงภาพยนตร์
Dek Dehn เด็กเดน (2548/2005) เด็กเดน เรื่องราวของ แจ็ค (แจ๊คแฟนฉัน) นักเรียนมัธยมที่พยายามจีบหญิงจนเป็นเหตุของนักเรียนสองสถาบัน ก่อเหตุยกพวกตีกันกลางเมือง จนทำให้มีผู้บาดเจ็บ หนึ่งในนั้น คือวิว (แพททริค ชานนท์) กับน้องอิ๋ว (ณัฐกุล พิชยะพงษ์ไพบูลย์) น้องสาวสุดที่รักของชาญ(ธนากร โปษยานนท์) ได้รับบาดเจ็บจนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา เหตุการณ์ครั้งนี้ ชาญหัวใจแทบสลาย เจ้าหน้าที่รวบตัวนักเรียนได้จำนวนหนึ่ง หนึ่งในนั้นมี แจ็ค อาจารย์ดุสิต(ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง) และวณิพก(ใหม่ วงไอน้ำ) ติดร่างแหไปด้วย ทุกคนจึงโดนส่งไปฝึกอบรมในโครงการบุรุษอาชีวะ ในค่ายทหารแห่งหนึ่งในภาคใต้ ซึ่งมีผู้กองอภิวัฒน์( ปั๋ง ประกาศิต) จ่าสมหมาย (ฐิติ พุ่มอ่อน) จ่าชะเอม (ทวีศักดิ์ นกเทศ) จ่าสมร (อุบลวรรณ บุญรอด) เป็นครูฝึก แต่แจ็ค อาจารย์ดุสิตและวณิพก และหัวโจกสองสถาบันนำโดย ขิง (หลุยส์ สก๊อตต์)และแว่น (นันทศัย พิศยบุตร)กับพวกแว่น (นันทศัย พิศยบุตร)วางแผนหนีออกจากค่ายแม้จะพ้นออกมาได้แต่ต้องไปอยู่ในเหตุการณ์สมรภูมินองเลือดอีก และจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาอีก
ต้มยำกุ้ง (2548)

The Protector ต้มยำกุ้ง (2548/2005) การเดินทางข้ามโลกของ “ขาม” (จา พนม ยีรัมย์) เด็กหนุ่มบ้านป่าที่ชีวิตต้องพลิกผันโดยเงื้อมมือของผู้มีอิทธิพลระดับประเทศที่ลักพาช้างพลายสองพ่อลูก ซึ่งเด็กหนุ่มและ “พ่อของขาม” (โสรธร รุ่งเรือง) เขารักดั่งชีวิต และมีความมุ่งหมายอันสูงสุดที่จะมอบเป็นคชบาทแด่ในหลวง ไปขาย ณ ประเทศออสเตรเลีย ทางเดียวที่จะช่วยเหลือและรักษาชีวิตของช้างอันเป็นที่รักของเขาได้ นั่นก็คือ การบุกตะลุยถึงถิ่นเสือ โดยการเดินทางข้ามโลก เรื่องไม่ง่ายอย่างใจคิด แม้เขาจะได้รับความช่วยเหลือจาก “จ่ามาร์ค” (หม่ำ จ๊กมก) นายตำรวจไทยและ “ปลา” (บงกช คงมาลัย) สาวไทยที่ถูกหลอกมาขายตัวในซิดนีย์ก็ตาม แต่ที่นั่น เขากลับต้องไปพัวพันกับการไล่ล่าของแก๊งมาเฟียที่นำโดย “มาดามโรส” (จิน ซิง) ที่มีลูกสมุนต่างชาติที่เต็มไปด้วยฝีมือทางการต่อสู้อย่าง “จอห์นนี่” (จอห์นนี่ เหงียน) และ “ทีเค” (นาธาน โจนส์) พร้อมลูกสมุนย่อยที่มีฝีไม้ลายมือทางการต่อสู้เหลือรับอย่าง “คาโปเอร่า” (ลาธีฟ คราวเดอร์) และ “วูซู” (จอน ฟู) อย่างไม่ได้ตั้งใจ ณ วินาทีนี้ การต่อสู้ข้ามชาติเพื่อเอาชีวิตรอดของเด็กหนุ่มและเพื่อนพ้อง ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เพื่อตามหาและช่วยเหลือ พ่อใหญ่ และ ขอน ช้างพ่อลูก ที่เปรียบได้กับญาติพี่น้องของเขา นำไปสู่บททดสอบและการต่อสู้ครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตของเขาให้โลกได้ล่วงรู้ถึง อานุภาพของ "ไม้มวยไทยโบราณ" ที่หนักหน่วง รุนแรง และยังไม่เคยได้รับการเปิดเผยมาก่อน โดยเฉพาะ "ตำนานมวยคชสาร"

ชาละวัน – ไกรทอง 2 (2548/2005) จากตำนานแห่งความรักของคนกับจระเข้ ระหว่างชาละวันกับตะเพาแก้วในอดีต ทำให้ชาละวันเฝ้าฝึกบำเพ็ญเพียรจนทำให้พญาจระเข้กลายเป็นมนุษย์ขึ้นมาใหม่และออกตามกระแสจิตของแพร ดีไซน์เนอร์สาว ผู้ที่ครั้งหนึ่งคือตะเพาแก้ว แต่ก็ต้องเจอกับไกรทองนักสารคดีที่กำลังออกตามล่าชาละวัน ไกรนำพรรคพวกและอาวุธที่ทันสมัย ตามรอยชาละวัน จึงรู้ความจริงจากคัมภีร์โบราณ ความรักครั้งนี้ แม้จะเป็นรักใหม่ที่ชาละวันพยายามจะฝืนลิขิตธรรมชาติแต่กลับสร้างความรุนแรงด้วยไฟราคะที่สุมอยู่ในอกจระเข้ยักษ์ ซึ่งครั้งนี้เป็นหายนะที่นำไปสู่การสูญสิ้นตำนาน ชาละวัน ไกรทองอย่างแท้จริง..
มือปืนเก๋าเจ๋ง (2548/2005) ท่ามกลางบรรยากาศความวุ่นวายจากสถานการณ์นองเลือดระหว่างผู้มีอิทธิพล 3 กลุ่มในเมืองหลวง เรื่องราวเริ่มต้นที่สองหนุ่มเพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำ "สง" นักฆ่ามือเก๋าตัวจริงเสียงจริงมาดดุดันเด็ดขาด ฆ่ามาแล้วเกือบร้อยศพ พ้นกำแพงคุกไม่ทันข้ามวันก็รับงานใหม่สุดหินหมายสังหาร "ป๋าปื๊ด" หนึ่งในผู้มีอิทธิพลคนดังของนครหลวง แต่ด้วยเหตุศัตรูเก่าตามมาล้างแค้นกระหน่ำสงซะเดี้ยงปางตายเลยต้องโยนภาระหนักอึ้งให้กับอีกหนุ่มที่พ้นโทษมาด้วยกัน "เคี๊ยบ" หนุ่มหน้โหดแต่ใจไม่เหี้ยมผู้ที่ใคร ๆ ต่างเข้าใจว่าเป็นคนดับ "เฮียเก๊า" ดาวดังของวงการเมื่อหลายปีก่อทั้งที่เรื่องจริงเป็นเหตุบังเอิญสุด ๆ เคี๊ยบจำต้องรับงานฆ่าเจ้าพ่อชื่อดังอย่างตกกระไดพลอยโจน เพราะต้องแบกภาระในการหาเงินค่าเทอมโคตรเแพงให้ลูกที่เรียนโรงเรียนนานาชาติ แล้วไหนจะค่ารักษาสงที่นอนเดี้ยงอยู่ในโรงพยาบาลเอกชนหน้าเลือดอีก โดยเคี๊ยบได้ "แปะยิ้ง" ไอ้ตี๋วัยโจ๋ที่ฝันอยากจะเป็นผู้กำกับหนังฮอลลีวูดในวันข้างหน้า แต่วันนี้ขอเริ่มเข้าวงการด้วยการผลิตหนังประเภทแอบถ่ายใต้สะดือ แถมยังหนักไปทางพูดมากกว่าลงมือทำได้จริงมาเป็นผู้ช่วย ปฏิบัติการ "เก๋า+เจ๋ง" จึงเริ่มต้นด้วยเงื่อนไขกำหนดเวลา 5 วัน ก่อนจะถึงเที่ยงคืนวันเพ็ญเดือน 12 อันเป็นฤกษ์ที่ถูกย้ำนักย้ำหนาจาก "อาจารย์คง" เกจิชื่อดังว่าเหมาะแก่การปาณาติบาตอย่างยิ่ง 5 วันจะชี้ชะตาว่าจะรอดหรือม้วย ทั้งหมดต้องทำทุกทางวางแผนทุกอย่างเพื่อฝ่าด่านสมุนหน้าเหี้ยมฝีมือโหดไปเก็บป๋าปื้ดให้ได้ งานนี้ถึงเคี๊ยบจะปอดแหกหัวจะหด ก็มีแต่ต้องใส่เกียร์เดินหน้าไม่มีถอยหลังถอดใจ เพื่อลูก เพื่อเมีย เพื่อเพื่อน เพราะฉะนั้น "มันไม่มอดก็เราม้วย"
โคตรเพชฌฆาต (2548/2005) นรินทร์ นายตำรวจหนุ่มประจำ สภอ. บางมุด อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ออกตามหาชายคนหนึ่งที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย โดยชาวบ้านต่างพากันโจษขานและเชื่อกันว่าเป็นฝีมือจระเข้ ที่อาศัยอยู่ในคลองบางมุด คลองซึ่งเป็นสายน้ำหลักและเปรียบเสมือนวิถีชีวิตชาวบางมุด ซึ่งนรินทร์ยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นฝีมือของจระเข้ หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดเหตุการณ์ซ้ำๆ สร้างความหวาดกลัวไปทั่วทั้งจังหวัด จน พิกุล และ กระเกด อนามัยตำบล ต้องสั่งให้ชาวบ้านระวังตัว จนวันหนึ่ง ณ คลองบางมุด มีชาวบ้านก็ได้พบเห็นจระเข้จริงๆ และสิ่งที่ทำให้ชาวบ้านสะพรึงกลัว และร่ำลือกันมากยิ่งขึ้น คือ ความใหญ่โตของมัน รวมไปถึงลำตัวเจ้าจระเข้ที่มีรอยด่าง และที่สำคัญมันยังอาศัยอยู่ในลำคลอง ดังนั้น ทั้งนายอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน จึงเกณท์ลูกบ้านเพื่อออกจัดการกับเจ้าจระเข้ตัวนี้ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครสามารถจัดการกับมันได้ จนเมื่อ จำนง นายทหารประจำหน่วยรบชุมพร กลับมาจากราชการ ถูกผู้ใหญ่ขอร้องให้ทางทหารช่วยจัดการปราบจระเข้ตัวนี้ เขาจึงร่วมมือกับนรินทร์และชาวบ้าน ออกตามล่าเพื่อปราบเจ้าจระเข้ยักษ์ ในระหว่างนั้นเองเขาและทีมนักล่าได้พบอุปสรรคต่างๆมากมาย ทั้งความขัดแย้งทางราชการและความยากลำบากในการปราบเจ้าจระเข้ และในที่สุดพวกเขา ก็ทำสำเร็จ และหลังจากที่จัดการกับจระเข้ได้สำเร็จ จำนงและนรินทร์ ต้องตกอยู่ในสภาพตะลึงอีกครั้ง เมื่อพวกเขาเพิ่งได้รู้ว่า จระเข้ไม่ได้มีเพียงแค่ตัวเดียว และ ไอ้ด่างยังไม่ตาย ชาวบ้านก็เลยสร้างป้อมกันไอ้ด่างเอาไว้ แต่รุ่งขึ้นป้อมก็เกือบจะพัง ชาวบ้านและทหารต่างพากันจับจระเข้ ไอ้ด่างก็อาละวาดหนักขึ้น จนนรินทร์ ปราบไอ้ด่าง ด้วยลูกระเบิด ตายทั้งคู่
7 ประจัญบาน 2 (2548/2005) ในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อกองทัพญี่ปุ่นแพร่ขยายอำนาจและอิทธิพล ไปทั่วเอเชียอาคเนย์ ทำให้ทางการไทยมอบหมายงานชิ้นสำคัญผ่านมายัง ผู้กององอาจ (ประกาศิต โบสุวรรณ) ให้เหล่า 7 ประจัญบาน ปฏิบัติภารกิจลับ สำคัญระดับสุดยอดของประเทศ ตรวจสอบพฤติกรรมอันน่าสงสัยของ สุริยะ เอบาต้า (ฮิโระ ซะโนะ) ที่คาดว่าอาจจะเป็นสายลับของทางการญี่ปุ่น ที่มาในคราบของนักธุรกิจที่เดินทางเข้ามาในเมืองไทย แต่กลับกลายเป็นว่า ภารกิจดังกล่าวหาได้สำเร็จลุล่วงง่ายดายอย่างที่คิดไม่ เมื่อผู้นำของ 7 ประจัญบาน อย่าง จ่าดับ จำเปาะ (พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง) กลับพลาดพลั้งทำให้ ผู้พันทีเคดะ (โยโกสุกะ ชิโอยะ) พ่อของสุริยะเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุ ทำให้เหล่า 7 ประจัญบานกลายเป็นบุคคลต้องห้าม ที่ นายพลนากามูระ (Masayuk Todoroki) ผู้นำทัพของญี่ปุ่นโกรธแค้น และยื่นคำขาดให้ทางการไทย ส่งตัวจ่าดับและพรรคพวกทั้ง 7 มาสำเร็จโทษประหารชีวิต เป็นเหตุให้ประจัญบานทั้ง 7 ต้องรับมือกับทั้งทางการไทย และเหล่าทหารญี่ปุ่น รวมทั้งกลุ่มมือสังหารที่ถูกส่งตรงมาจากดินแดนอาทิตย์อุทัย ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามของ 7 เซียนซามูไร จนต้องระหกระเหินไปร่วมกับกลุ่มพี่น้องไทยจีน ที่ร่วมกันต่อต้านญี่ปุ่น ซึ่งมีหน้าฉากคือคณะนักแสดงงิ้วที่มีชื่อเสียงของเตี่ยตังกวย เกิดเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยครั้งใหม่ของ 7 ประจัญบาน ที่ครั้งนี้ต้องทาหน้าขาวแต่งชุดงิ้ว รำพลองตะลุยกองทัพญี่ปุ่น เหินขึ้นฟ้าเผชิญหน้ากับกองบินกามิกาเซ่ของญี่ปุ่น ภายใต้ฉากไฮไลท์สุดอลังการ กับการเนรมิตสะพานข้ามแม่น้ำแควขึ้นมาอีกครั้ง ในฉากไคลแม็กซ์สำคัญ พร้อมทั้งเปิดเผยที่มา ของกางเกงแดงเชือกกล้วยอันลือลั่นของจ่าดับ รวมถึงเรื่องราวความรักครั้งก่อนของจ่าดับที่มีต่อ นางโฉม (อภิรดี ภวภูตานนท์) และตัวละครสุดคลาสสิก ที่เกิดมาแล้วย่อมไม่แคล้วที่อาจจะกลายเป็น 'คู่กรรม' ของกันอย่าง อังศุมาลย์ (มินท์ - อาทิตยา ดิถีเพ็ญ) และ โกโบต้า (ก้อง - อรรฆรัตน์ นิติพน)
The Bullet Wives เดอะ เมีย (2548/2005) ปัจจุบัน ณ กองบัญชาการศูนย์พิทักษ์เมียหลวง หรือ FCWI (First Class Wife International) องค์การที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อปกป้องและรักษาความปลอดภัยจากเมียน้อย แต่ฝ่ายเมียน้อยก็ไม่น้อยหน้า พวกเธอได้ก่อตั้งสมาคมลับ ในนามของ พรรคเมียน้อย หรือ EMWI (Economy Wife International) ขึ้นมาเช่นกัน ภารกิจเร่งด่วนคือสังหารเมียหลวง เพื่อเปลี่ยนสถานภาพจากเมียน้อยให้เป็นเมียหลวงอย่างถาวร ฝ่ายเมียหลวง จิตตรา สาวสวยสดใสที่ชีวิตเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังตีน เพราะแต่งงานได้ปีเดียวสามีก็ไปมีเมียน้อย สิ่งเดียวที่เหลืออยู่คือ ความแค้นในตัว มายา เมียน้อยผู้เพียบพร้อมด้วยวัยสาว ความสวย การศึกษาและร่ำรวย มายา จึงเป็นคู่ต่อสู้ที่สมศักดิ์ศรีกับ จิตตรา ที่สุด ณ ตรอกเมียน้อย ดินแดนแห่งการเสวยสุข แหล่งกบดานเร้นลับของพรรคเมียน้อย ที่นี่เต็มไปด้วยร้านทำผม ห้องเช่าสุดหรู ตรอกซอกซอยเหมาะเป็นทีและหลบหนีการไล่ล่าที่สุด พลพรรคเมียน้อยวัยใส เอวบาง ขาเรียวยาว มีอยู่มหาศาล พวกหล่อนทำให้ตรอกเมียน้อยเป็นปราการยิ่งใหญ่เกินกว่าใครจะหักลงได้ ช่วงเวลาแห่งการช่วงชิงความเป็นหนึ่งใกล้เข้ามา พรรคเมียน้อยเริ่มยุทธการ กลายพันธุ์ เปลี่ยนเมียน้อยให้เป็นเมียหลวงอย่างถาวร ภารกิจเร่งด่วน คือ สังหารฝ่ายเมียหลวง จิตตราล่วงรู้ถึงภัยที่กำลังคุกคามเธอ แต่จิตตราก็ยังนิ่งสงบ ไม่เคลื่อนไหวใดๆ ทุกคนรู้ว่า สงครามนี้จวนเจียนจะระเบิดศึกแล้ว แสงแดด เมียหลวงและน้องสาวของจิตตรา สาวแสนดี อ่อนแอ เปราะบางเสียเหลือเกิน เหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นเป้าให้เมียน้อยดอดเข้าตีท้ายครัว แต่แล้วฝ่ายเมียน้อยเอง กลับสืบพบความลับที่แม้แต่ตัวแสงแดดเองก็ไม่รู้ ความลับที่จะเป็นชนวนให้อภิมหาสงครามเปิดฉากขึ้น ความลับที่สั่นคลอนวงการเมียทั่วประเทศนี้คืออะไร? ตรอกเมียน้อยจะซ่อนตัว เสวยสุขได้ต่อไปได้หรือ? ภารกิจกลายพันธุ์ของเหล่าเมียน้อยบรรลุเป็นจริงได้หรือ? ทั้งหมดนี้เป็นกดระเบิดของศึกอันใหญ่หลวง เมื่อ เมียหลวง VS เมียน้อย อมตะวาจา เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร ยังใช้ได้เสมอ ภารกิจนี้ต้องสู้จนตัวตาย ไว้ลายเมียหลวง
จอมขมังเวทย์ (2548/2005) ปี 2547 ระหว่างการเคลื่อนย้ายนักโทษพิเศษจากเรือนจำเก่า...ประตูคุกเคลื่อนเปิดออกพราหมณ์ร่ายมนต์พิธีเดินนำขบวนผู้คุมขยับปืน ขยับตัว แววตาหวาดกลัวกึ่งระแวดระวังทุกสายตาจับจ้องไปยังที่ร่างของนักโทษพิเศษที่เดินออกมาเสียงร่ายมนต์ดังกึกก้องสายลมกระโชกพัดกรู เกรียวร่างของนักโทษพิเศษผู้นั้นถูกจองจำด้วยพันธนาการที่แน่นหนาผิดธรรมดาสองเท้าตีตรวนสองมือมัดตรึงกับขื่อไม้ดวงตามีผ้าคาดไว้แน่นหนา กระทั่งปากก็มีผ้ามัดปิดไว้ท่ามกลางเสียงร่ายมนต์ดังกึกก้องสายลมกระโชกพัดกรูเกรียวหากสังเกตสักนิดนักโทษพิเศษที่ถูกปิดตาไว้นั้นเดินตรงทางมั่นคงราวกับตาเห็น !! อิทธิ อดีตนายตำรวจหน่วยพิเศษเคยจับคนร้ายที่แก่กล้าทางอาคมหนังเหนียวฟันแทงไม่เข้ามานับไม่ถ้วน แต่ตัวเองกลับต้องโทษคดีวิสามัญคนร้ายจนกลายเป็นนักโทษถูกขังลืมอยู่ในคุกมืดแดนจองจำพิเศษ 10 ปีผ่านไป อิทธิ หายตัวอันตรธานไปจากห้องขังที่ปิดทึบราวกับล่องหนร้อนถึง พ.ท.ทศพล อดีตเพื่อนนายตำรวจได้ออกคำสั่งจับตายอิทธิ ร้อยตรี สันตินายตำรวจเจ้าของพื้นที่ออกติดตามสืบสาวหาตัวอิทธิแต่กลับพบเจอเหตุประหลาดลี้ลับอิทธิฤทธิ์เหนือมนุษย์ที่ล้วนแต่เคยได้ยินแต่คำร่ำลือ ไม่ว่าจะการเสกตะปูเข้าตัวคนหรือคนร้ายที่คงกระพันหนังเหนียว ฯลฯเส้นทางแห่งอาคมอันน่าสะพรึงกลัวอำนาจเหนือธรรมชาติของอิทธิไม่ได้ทำให้สันติหวาดกลัว กลับเพิ่มความมุ่งมั่นจะจับกุมอิทธิให้จงได้โดยไม่สนใจว่าจะต้องใช้วิธีการใดวิถีทางใด ไม่ว่าจะต้องเปลี่ยนตัวเองขนาดไหน สันติรู้ว่ากำลังเผชิญหน้ากับจอมขมังเวทย์ผู้ครองครอบอาคมเวทย์ทางเดียวที่จะสยบอิทธิคือต้องเป็นให้เหนือกว่าจอมขมังเวทย์
ซุ้มมือปืน (2548/2005) “ซุ้มมือปืน” คือเรื่องราวที่สะท้อนตัวละครที่เกี่ยวข้องในโลกอาชญากร ธุรกิจผิดกฎหมาย อำนาจและอิทธิพลมืด ตัวหนังเองไม่ได้เน้นเรื่องราวไปที่ตัวของมือปืนอย่างเดียว แต่โยงใยไปถึงระบบหรือตัวคนที่เกี่ยวข้องซึ่งล้วนหลากสีสันอาชีพไม่ว่าจะเป็นมือปืนรับจ้าง เจ้าพ่อหรือผู้มีอิทธิพล นักการเมือง และพวกในเครื่องแบบนอกรีตและแตกแถวในสังคมไทย หนังเล่าเรื่องผ่าน “สหายแทนไท” (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) มือปืนรับจ้างอดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ที่ผ่านสมรภูมิรบมานักต่อนักจนว่ากันว่าเป็นมือปืนระดับพระกาฬที่หาตัวจับยาก เป้าหมายของเขาแต่ละรายล้วนเป็นผู้มีอิทธิพลในสังคม โดยที่หลายคนอาจไม่เคยคาดขึ้นว่าบ่อยครั้งที่จุดเริ่มต้นของความสูญเสียเลือดเนื้ออาจเกิดจากปมความขัดแย้งเพียงจุดเล็กๆ ที่ขยายผลไปสู่วงกว้างของผู้คนหลากรายระดับชั้นในสังคม ดังเช่นที่กำลังเกิดขึ้นในครั้งนี้ที่เริ่มต้นจากการไม่ลงรอยในเส้นทางธุรกิจระหว่าง “กำนันเบิ้ม” (ธนิตย์ จิตนุกูล) และ “หลีเม้ง” (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) เจ้าพ่อยาเสพติดรายใหญ่ โดยมีตัวกลางคือ “ชบา” (บงกช คงมาลัย) อดีตคนรักกำนันเบิ้ม แม่ม่ายสาวที่หน้าฉากคือเจ้าของบาร์ แต่แท้จริงแล้วเบื้องหลังคือคนจัดหามือปืนให้กับผู้มีอิทธิพล ได้รับว่าจ้างให้ส่งมือปืนชั้นดีไปเก็บขาใหญ่แห่งเยาวราชอย่างหลีเม้ง อันนำไปสู่ปมแห่งความขัดแย้งระหว่างผู้มีอิทธิพลทั้งในและนอกเครื่องแบบ ซึ่งเกี่ยวพันและโยงใยไปสู่ “เสธ.สุพงศ์” (สมภพ เบญจาธิกูล) อีกหนึ่งตัวหมากสำคัญในโลกแห่งอำนาจและอิทธิพลมืด โดยมี “อิฐ อัมพวา” (ศรัณยู วงษ์กระจ่าง) อดีตทหารหนุ่มอนาคตไกลผู้ผันตัวเข้าสู่วงจรอุบาทว์ และเป็นศัตรูต่างขั้วอุดมการณ์ของสหายแทนไทมาก่อนหน้า ทุกความเคลื่อนไหวของบรรดาเจ้าพ่อทั้งหลายล้วนตกอยู่ในสายตาของ “สารวัตรชาติ” (สันติสุข พรหมศิริ) ตำรวจฝีมือดีที่มีภารกิจในการกวาดล้างงานนอกระบบทุกรูปแบบ ซึ่งเขาจะเป็นผู้ที่จัดการให้วงจรอุบาทว์เหล่านี้หมดสิ้นไปหรือเลือกที่จะให้โลกของอาชญากรรมที่เต็มไปด้วยอำนาจและเงินตราดังกล่าวคงอยู่ และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของ “ซุ้มมือปืน” ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นใครหรืออยู่ชนชั้นใดของสังคมก็ไม่มีสิทธิ์หลีกเลี่ยงวงจรดังกล่าวที่ค่อยๆ คืบคลานเข้าสู่วิธีแห่งการดำรงอยู่ของคุณโดยไม่รู้ตัวดังเช่นที่เกิดขึ้นกับ “ไอ้น้อย” (ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์) เด็กหนุ่มนักดนตรีที่ชะตากรรมต้องกับเลือดและความตาย…

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 12 รายการ