แจ๋ว (2547/2004) ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของบ้านเมือง ที่ดูเหมือนจะเติบโตอย่างรวดเร็วแต่ไร้การควบคุม เปิดโอกาสให้มีการหาประโยชน์โดยมิชอบได้ง่ายดาย ประเสริฐ (สมชาย ศักดิกุล) อดีตผู้กำกับการกองปราบ ผู้ขึ้นชื่อในเรื่องของความตรง ที่ลาออกจากราชการตำรวจก่อนเวลาเกษียณไม่นาน ได้รับการแต่งตั้งอย่างลับๆ โดยตรงจากนายกรัฐมนตรี ให้มาจัดตั้งและควบคุมหน่วยงานพิเศษ คอยสืบสวนและรวบรวมหลักฐานการสมคบหรือสมรู้ร่วมคิด ในการหาผลประโยชน์จากรัฐบาลโดยมิชอบ ซึ่งหลายกรณี มักจะเกิดจากคนระดับสูงในรัฐบาลนั่นเอง ซึ่งสองปีที่ผ่านมา ประเสริฐได้ช่วยป้องกันและแก้ปัญหาให้บ้านเมือง โดยไม่ออกหน้าได้หลายครั้ง แต่ปฏิบัติการครั้งล่าสุดนี้ ซับซ้อนกว่าที่ใครคาดคิดไว้นัก ระหว่างการดักฟังการพบกันของ สง่า นักการเมืองระดับสูง, โสภณ (เกษียร จารุสมบูรณ์) นักธุรกิจระดับเจ้าสัวและ ชัยสิทธิ์ (พงศนาถ วินศิริ) เจ้าของเครือข่ายสถานบันเทิงที่ใหญ่ที่สุด ที่มีข่าวลือหนาหูถึงสายสัมพันธ์ ที่ก่อให้เกิดการผลักดันการเปิดบ่อนเสรี เกิดความผิดพลาด ทำให้ประเสริฐต้องสูญเสียสายลับมือดีไป เพราะรถกำลังเสริมเกิดอุบัติเหตุชนคน ทำให้เข้าไปช่วยคนของเขาไม่ทันเวลา ประเสริฐต้องรับภาระอุปการะ แวว (เบนซ์ - พรชิตา ณ สงขลา) ที่โดนรถหน่วยงานของเขาชนด้วยความสงสาร เนื่องจากเธอเป็นสาวชาวอีสานที่เข้ากรุงเทพฯ มาทำงานตามบ้าน แต่เพิ่งถูกไล่ออกกำลังจะไปหาพี่สาว แต่ยังไม่ทันถึงไหนก็ถูกรถชนเสียก่อน ประเสริฐซึ่งอาศัยอยู่กับภรรยาสาวนามว่า สิริขวัญ (รัศมี ทองสิริไพรศรี) ไม่รู้ว่าจะช่วยยังไง ก็เลยรับไว้ทำงานบ้านเสียเอง ในงานโชว์เครื่องเพชรคอลเล็คชั่นใหม่ ที่บ้านคุณหญิงไฮโซคนหนึ่ง ดูเหมือนว่า คุณสิริขวัญจะเป็นหญิงสาวที่วงการไฮโซ และนักธุรกิจรุ่นใหม่จับตามอง ด้วยรูปกายและความสามารถ และพากันซุบซิบสงสัยว่า เธอเห็นอะไรดีในตัวประเสริฐ ซึ่งเป็นอดีตตำรวจแก่ๆ คนหนึ่ง ที่งานนี้เองประเสริฐได้เห็นความสามารถอีกด้านหนึ่ง ของบรรดาคนรับใช้ซึ่งติดตามนายของตนมา แล้วพากันมาชุมนุมเม้าท์แตกกัน โดยเฉพาะจากแวว และ จิ๋ม (จารุภัส ปัทมะศิริ) พี่สาวของแวว นั่นคือความช่างสังเกต สอดรู้สอดเห็น และการได้รับความไว้วางใจให้ถือกุญแจ และเข้านอกออกในได้ทุกพื้นที่ของบ้าน ประเสริฐจึงเกิดพุทธิปัญญา และนั่นคือที่มาของเหล่า แจ๋ว ขบวนการคนใช้พยัคฆ์ร้าย แววและจิ๋มถูกทาบทามจากประเสริฐให้ทำงานเพื่อชาติ ซึ่งสองพี่น้องก็ยินดีเนื่องจากผลตอบแทนสูง และเข้าใจว่ามันคงสนุกเหมือนกับที่เห็นในละคร อีกทั้งแววยังรู้สึกรับผิดชอบต่อสายลับที่จากไปเพราะตน และที่สำคัญที่สุด แววและจิ๋มรู้ดีว่า บ่อนมันสร้างหายนะให้กับชาวบ้านตาดำๆ แค่ไหน ทั้งคู่ถูกส่งไปเป็นคนใช้ที่บ้านโสภณ โดยที่ต้องฝังตัวจนได้รับความไว้ใจ จากนั้นประเสริฐจึงจะส่งคำสั่งต่อไปมาให้ โดยผ่าน สมร พ่อค้าส้มตำที่เป็นสายให้ประเสริฐเหมือนกัน ที่บ้านของโสภณ แววและจิ๋มใหญ่ใช้ความเป็นแจ๋วมืออาชีพ ปรนนิบัติ ดูแลบ้านช่องจนเป็นที่พอใจของโสภณและ มาดามเอ็มม่า (บอนนี่ เซลเลอร์แบ็ค) แม้ว่าจะต้องมีเรื่องปีนเกลียวอยู่กับ จิ๋มดำ (ปาณิสรา พิมพ์ปรุ) และ ปุ๊กกี้ (ปวีณ์นุช แพ่งนคร) อีกหนึ่งสาวใช้ที่อยู่มาก่อนก็ตาม การทำงานเพื่อชาติกำลังจะเริ่มต้น แววและจิ๋มต้องเข้าไปขโมยข้อมูลหลักฐานการติดสินบนให้รัฐมนตรี เพื่อผลักดันเสนออนุญาตให้เปิดบ่อนเสรีจากตู้เซฟ แต่แล้วทั้งสองก็ถูกจับได้เสียก่อน โดย เอ๋ (พนาลักษณ์ ณ ลำปาง) คนใช้สาวเหนือ ผู้หลบหนีการตกเขียวมาจากบ้านเกิด และ แคท (จารุณี บุญเสก) สาวใช้ชาวพม่า เมื่อทั้งสองรู้ว่าแววและจิ๋มทำงานลับอยู่ ก็ขอเข้าร่วมขบวนการด้วย เพื่อแลกกับการที่เอ๋จะได้เอาเงินไปช่วยพ่อแม่ และแคทจะได้โอนสัญชาติเป็นไทย จะได้ไม่ต้องวิ่งหนีระเบิดอีก แต่ปฏิบัติการนี้มันง่ายๆ อย่างที่สี่แจ๋ววาดฝันเอาไว้หรือ การหาหลักฐานที่บ้านโสภณเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น ทั้งสี่ยังต้องผจญภัยกับสิ่งที่ไม่คาดฝันอีกมากมาย พร้อมกับเวลาที่มีอยู่ก็เหลือน้อยลงไปทุกที การเผชิญหน้ากันระหว่างนายจ้างและสาวใช้ โดยมีอนาคตของประเทศชาติเป็นเดิมพัน เพิ่งเริ่มต้นยกที่ 1 เท่านั้น
อุกกาบาต (2547/2004) เกิดเหตุอาเพทขึ้นบริเวณชายแดนทางภาคเหนือเมื่อท้องฟ้าปั่นป่วนเกิดฝนดาวตกอยู่ทั่วไป ก่อนที่อุกกาบาตอาถรรพณ์ลูกหนึ่งจะตกกระทบซากสุสานโบราณกลางดงไม้ใหญ่แห่งหนึ่ง ในจังหวะทารกชายสองคนเกิดขึ้นแทบจะพร้อมกันพอดี แต่พวกเค้านั้นไม่ใช่เด็กชายธรรมดาทั่วไป เพราะทั้งสองมีพลังจิตเหนือธรรมชาติ จนเมื่อคนไข้ประหลาดคนหนึ่งซึ่งเอาแต่นั่งนิ่งซึมไม่พูดไม่จาถูกส่งตัวมาจากบ้านเกิดโอมเพื่อขอรับการรักษา จึงเกิดเรื่องวุ่น พลังอำนาจอันชั่วร้ายบางอย่างที่แฝงมากับตัวคนไข้นั้น โรคประหลาดแพร่ระบาดไปทั่วอำเภอชายแดนแห่งนั้น ชาวบ้านในหลายๆหมู่บ้านเอาแต่นั่งซึมไม่พูดไม่จาไปตามๆกัน แม้ว่าเด็กชายทั้งสองจะเกิดในวันและเวลาใกล้เคียงกัน แต่ชะตาชีวิตของพวกเค้านั้นต่างกันคนละขั้ว คนนึงใช้พลังจิตเหนือธรรมชาติในการรักษาชีวิตคน ส่วนอีกคน ใช้พลังในการฆ่าล้างแค้น ธรรมะจะชนะอธรรมหรือไม่ เอาใจช่วยได้ใน “อุกกาบาต”
สุริยะฆาต (2547/2004) ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เปลี่ยนเขาให้เป็นมนุษย์อำมหิต เมื่อ ทศภาคย์ ทราบข่าวการโดนยิงของแฟนสาวชื่อ จิรัตติกาล จึงรีบขับรถไปหา ระหว่างทางนั้นเกิดมีรถบรรทุกพ่วงกำลังเลี้ยวออกมาสู่ถนนใหญ่ ทำให้ทศภาคย์เสียหลักพุ่งชนสะพานพลิกคว่ำเสียชีวิตทันที ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับการเกิดสุริยะคราส หลังจากนั้น หมอผัน ผู้มีอาคมแก่กล้า ได้ทำพิธีปลุกวิญญาณควบคุมร่าง ทศภาคย์ ให้ฟื้นคืนชีพขึ้นเพื่อให้ช่วยกำจัดศัตรู โดยที่ ทศภาคย์ ไม่ว่าศัตรูที่ตัวเองตามฆ่านั้น คือ จิรัตติกาล เหตุการณ์จะเป็นเช่นไร เมื่อ จิรัตติกาล รู้ความจริง ทศภาคย์ ตายแล้ว
เกิดมาลุย (2547)

เกิดมาลุย (2547/2004) โดยเรื่องราวพูดถึงการเผชิญหน้า กับเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดในชีวิต ที่อยู่นอกเหนือจากความควบคุม อันนำมาซึ่งความเป็นความตายของผู้คนจำนวนมาก เมื่อตกอยู่ภายใต้การจับกลุ่มของผู้ก่อการร้าย ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย ที่ตั้งใจสร้างความปั่นป่วนให้กับประเทศไทย พร้อมกับชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมชายแดน ที่พวกเขาและเธอตั้งใจนำข้าวของมาบริจาค และช่วยพัฒนาหมู่บ้าน วิธีเดียวที่จะรักษาชีวิตของพวกพ้องและชาวบ้าน คือต้องนำเอาความสามารถเฉพาะตัวทางด้านกีฬาในแต่ละประเภท มาผสมผสานในการต่อสู้ด้วยมือเปล่า โดยมีเงื่อนไขของเวลา ในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นให้ได้

พันธุ์ X เด็กสุดขั้ว (2547/2004) หลังจากที่ชีวิตต้องเผชิญกับการสูญเสียน้องชายคนเดียวที่จมน้ำตาย โดยที่เขาไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปช่วย แบงค์ ชายหนุ่มเลือดร้อนวัย 20 ตัดสินใจค้นหาความท้าทายที่กล้าบ้าบิ่น เพื่อขจัดปมขลาดกลัวของตัวเองออกไป เขาได้พบกับกลุ่มของ หนุ่ม ซันนี่ และ เหลียง ทำให้ แบงค์ ได้เข้าร่วมกิจกรรมเสี่ยงตายครั้งแล้วครั้งเล่ากับทุกคนในกลุ่ม เมื่อเวลาผ่านไป ยิ่งความเสี่ยงสูงมากเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนทุกคนยิ่งพึงพอใจขึ้นเท่านั้น หลังจากการใช้ปืนป้องกันตนเองที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นการปล้น ทุกคนก็ได้ลิ้มลองความสะใจจากการใช้ปืน บวกกับความบ้าบิ่นของวัยทำให้ไม่มีอะไรหยุดยั้งพวกเขาได้อีกต่อไป ขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์กับเพื่อนในกลุ่มก็เริ่มคลอนแคลน เมื่อซันนี่ ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มเริ่มมีใจให้แบงค์ เมื่อความท้าทายของกีฬาที่เคยสะใจและสนุกสนานเกิดพลาดจนมีการตายเกิดขึ้น เมื่อเพื่อนเริ่มไม่ไว้ใจในเพื่อน เมื่อเพื่อนคิดต่างกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดใจ แบงค์ จึงตัดสินใจที่จะแยกทางเดินออกจากกลุ่ม ทั้งที่ปมในใจเขายังไม่คลี่คลาย ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป เขาก็ตัดสินใจเลือกมิตรภาพและใช้ความกล้าที่แท้จริง โดยการย้อนกลับไปยับยั้งเพื่อนที่ทำเรื่องเสี่ยงจนเกินขอบเขต เป็นครั้งสุดท้าย ในที่สุด แบงค์ จึงได้เรียนรู้ว่าการใช้ชีวิตคือการเสี่ยงอันตรายที่สุด และสนามแห่งชีวิตมีค่าเกินกว่าที่จะท้าทายเพื่อความสะใจเพียงชั่วครู่ หากแต่ต้องอาศัยกติกาที่ประกอบไปด้วยมิตรภาพอันยิ่งใหญ่ ที่จะรักษาไว้ได้ด้วยความกล้าหาญและความเสียสละจากเพื่อนเท่านั้น
102 ปิดกรุงเทพปล้น (2547/2004) รัฐบาลออกมาประกาศอิสรภาพให้ชาวไทยทั้งประเทศโดยการประกาศชำระหนี้คืนให้กับ IMF ทั้งหมด สร้างความไม่พอใจให้กับองค์กรลึกลับภายใต้การนำของผู้มีอำนาจและอิทธิพลทางเศรษฐกิจ ทางองค์กรจึงคิดแผนปฏิบัติการปล้นครั้งนี้ขึ้นภายใต้ชื่อว่า “แผนปฏิบัติการปล้น 102 นาที” เพื่อจะขโมยทองหรือเงินทุนสำรองของคนทั้งประเทศ ภายใต้การนำของ “นาวิน” (อำพล ลำพูน) อดีตนายทหารฝีมือดีซึ่งเคยผ่านสมรภูมิรบกับกองโจรพม่าตามแนวตะเข็บชายแดน นาวินถูกเรียกตัวให้เข้ามารับผิดชอบปฏิบัติการนี้จากนายพลอนุสรณ์ผู้ซึ่งนาวินมีหนี้ชีวิตที่ติดค้างอยู่ แผนปฏิบัติการ 102 นาทีเริ่มดำเนินขึ้น พร้อมกับการสืบหาข้อมูลของหัวหน้ากลุ่มองค์กรลับของนายตำรวจฝีมือดี “ปกรณ์” (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) เรียกได้ว่าเป็นตำรวจที่ความรับผิดชอบต้องมาเป็นที่หนึ่ง ปกรณ์มีหน้าที่สืบหาข้อมูลลับของแผนปฏิบัติการนี้ทั้งหมดเพื่อยับยั้งไม่ให้แผนปล้นแบงค์ชาติลุล่วงไปได้ เขาได้เข้ามารับผิดชอบคดีนี้กับเวลาที่หลงเหลืออยู่แค่เพียง 102 นาที หากปฏิบัติการ 102 นาทีสำเร็จเมื่อไร ชาวไทยทั้งประเทศต้องตกอยู่ในภาวะอันตราย ถือเป็นการทำงานภายใต้ความกดดันของปกรณ์เป็นอย่างยิ่งทั้งยังมีความขัดแย้งระหว่างทหารที่ความคิดไม่ค่อยจะลงรอยกัน แต่อย่างไรก็ตาม “เงินต้องถูกโอนให้ IMF เพื่อปลดหนี้ของคนทั้งประเทศให้ได้” นั่นเป็นคำขาดจากรัฐบาล ระเบิดปริมาณมหาศาลถูกวางไว้ทั่วกรุงเทพฯ ปกรณ์จำต้องสืบให้รู้แผนการทั้งหมดในการปฏิบัติการของนาวินครั้งนี้ ในขณะที่แผนปฎิบัติการ 102 นาทีดำเนินไป จุดหมายสูงสุดของแผนก็ค่อยๆ ปรากฏชัดขึ้น ทองคำจำนวน 75 ตันในห้องมั่นคงของแบงค์ชาติคือจุดประสงค์ของปฏิบัติการครั้งนี้ ปกรณ์และทีมกับปฏิบัติการ 102 นาทีของนาวิน ทั้งสองจำต้องขับเคี่ยวกันเพื่อแข่งกับเวลาที่กำลังจะหมดลง รวมทั้งมีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นพร้อมๆ กับแผนปฏิบัติการ 102 นาที ปกรณ์กับนาวินใครจะถึงจุดหมายก่อนกันซึ่งเป็นปลายทางที่คนทั้งสองรู้อยู่ในใจ…
อมนุษย์ (2547/2004) เหตุการณ์แห่งคืนขวัญผวา กับการมาเยือนบางอย่าง เกิดขึ้นแบบไม่มีใครคาดคิด ฝนดาวตกลูกใหญ่มหึมา ได้ตกลงมายังหมู่บ้านอำเภอพนมดงรัก ต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่ป่าไม้อุทยานชาติพนมดงรัก สวรรค์ (ป๊อบ - สุรชัย แสงอากาศ) ที่เกิดนึกครึ้มอกครึ้มใจ อยากจะเจอเกลอเพื่อนเก่าสมัยเรียนตอนมัธยมปลาย จึงชักชวนกันมาตั้งแคมป์ดูฝนดาวตกกันที่นี่ โดยมี สุจินต์ (บอม - ภูพาน คัญทัพ) นักโบราณคดีข้อมูลใหม่ไฟแรง พร้อมด้วยอายุรแพทย์สาวสวย ฟ้ารุ่ง (มด - ณัฐชา ทรงสุวรรณ) และ รงค์ (ต้น - พิทักษ์ ศัลย์วิวรรธน์) นักเขียนสารคดีผู้ชำนาญด้านการถ่ายภาพ เกิดถ่ายภาพเหตุการณ์ประหลาดไว้ และทั้งหมดจึงยังไม่เดินทางกลับกรุงเทพฯ แต่กลับจะหาชนวนเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น พวกเขาต้องพบกับเหตุการณ์ ที่ชาวบ้าน 2 คนถูกฆ่าตายอย่างไม่ทราบสาเหตุ โดยหนึ่งในนั้น ทำงานภายในสถานีวิจัยของ ดร.มั่น (โกวิท วัฒนกุล) และ ดร.วิลาสิณี (อุ้ย - สุธิตา เกตานนท์) นักวิทยาศาสตร์คู่หู ที่ทำการวิจัยอวัยวะคน เพื่อปลูกถ่ายขายให้มหาเศรษฐีทั่วโลก ร่วมกันปกปิดอะไรบ้างอย่าง กับเหตุการณ์ร้ายที่กำลังจะเกิด เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่เคารพ ยายทอง (พิมพรรณ บูรณพิมพ์) หมอผีชาวเขมรประจำหมู่บ้าน ซึ่งเมื่อถูกขับไล่ออกไปก็เกิดความเคียดแค้น และยายทองใช้อำนาจวิเศษ เข้าครอบงำอมนุษย์สัตว์นรกสายพันธ์ใหม่ทั้งหมด เพื่อการแก้แค้น เมื่อเหตุการณ์ยุ่งเหยิง จนทำให้ทางราชการต้องส่ง รตอ.พิชิต (ใหญ่ - ศิระ แพทย์รัตน์) ตำรวจมือดีรุ่นใหม่ มาคลายปมปริศนาพร้อมกับ ดร.นริสรา (เก๋ - ชลลดา เมฆราตรี) ผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุ์กรรมโดยเฉพาะ มาร่วมสืบคดีให้จบสิ้น แต่เรื่องราวทั้งหมดไม่จบแค่นี้ เมื่อวันหนึ่ง มะยม (หญิง - นราวัลย์ นิรัตศัย) สาวชาวบ้านที่ผูกคอตายอย่างปริศนาจบชีวิตลง จนทำให้ รตอ.พิชิต, ดร.นริสรา, สรรค์, ฟ้ารุ่ง, รงค์ และสุจินต์ กลุ่มเพื่อนตายกลุ่มใหม่ ต้องคลี่คลายปัญหาทั้งหมด ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และจะสามารถป้องกันอันตราย ที่กำลังจะเกิดกับมวลมนุษยชาติได้หรือไม่ ?
2508 ปิดกรมจับตาย (2547/2004) ปี พ.ศ.2508 ที่ตลาดอำเภอท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดเหตุการณ์ปล้นครั้งยิ่งใหญ่ โดยการรวมตัวกันของโจรถึง 17 คน โจรกลุ่มนี้บุกเข้าปิดล้อมตลาดและสถานีตำรวจ กวาดเงินทองและทรัพย์สินไปมากมาย รวมทั้งยิงถล่มสถานีตำรวจอำเภอท่าเรือ อย่างไม่เกรงอาญาแผ่นดิน ก่อนจะพากันหลบหนีการจับกุมไปอย่างไร้ร่องรอย การยิงถล่มสถานีตำรวจที่เกิดขึ้น ถือเป็นการกระทำที่ตบหน้าตำรวจฉากใหญ่ สารวัตรพิชิต ถูกเรียกตัวมาจากกองปราบ เพื่อรับผิดชอบในคดีนี้โดยเฉพาะ และเริ่มงานไล่ล่าโจรกลุ่มนี้กันอย่างเอาจริงเอาจัง ทางด้านเสื้อร้ายทั้ง 17 คนก็เกิดความขัดแย้งเมื่อต่างก็ต้องการสมบัติที่ปล้นมาได้เป็นของตนแต่เพียงผู้เดียว สัมผัสการปะทะกันอย่างดุเดือด เมื่อตำรวจออกล่าโจร และโจรตามล่ากันเอง
ปักษาวายุ (2547/2004) ลีน่า นักโบราณคดีสาวชาวครึ่งไทย-ฝรั่งเศส เป็นลูกสาวของนักโบราณคดีชาวฝรั่งเศสที่เคยค้นพบ โครงกระดูกสัตว์โบราณยุคเดียวกับไดโนเสาร์ ที่มีโครงร่างคล้ายกับสัตว์ในเทพปกรณัมของภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ลีน่าได้สูญเสียพ่อไปพร้อมกับซากดังกล่าว หลังจากพ่อของเธอถูกกล่าวหาว่าเหลวไหล นั่นทำให้ลีน่าฝังใจในเรื่องนี้และมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่า สิ่งที่พ่อเธอค้นพบนั้นไม่ใช่เรื่องเหลวไหล ในปี พ.ศ. 2548 ในระหว่างที่ลีน่าและทิม เพื่อนนักโบราณคดีชาวฝรั่งเศส กำลังขุดค้นนั้น ไม่ทราบมาก่อนเลยว่าจะเป็นที่เดียวกับที่ทางการได้ทำรถไฟใต้ดินเฟส 2 และพบกับนายทหารลึกลับกลุ่มหนึ่ง ที่นำโดย แทน ซึ่งไม่เป็นมิตรเลย และพยายามไล่เธอกลับไป โดยพยายามบอกว่า สิ่งที่เธอตามหานั้นอาจจะไม่ใช่แค่สัตว์ธรรมดา ๆ หากแต่เป็นสัตว์ประหลาดที่น่าสะพรึงกลัว มีพลานุภาพในการทำลายล้างสูง ก่อนที่มันจะปรากฏตัวออกมาใจกลางกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย และมันไล่ล่าพวกเขา
พันธุกรรมอำมหิต (2547/2004) ดร.ไดอาน่า ลูกสาวคนสวยของ ดร.รุ่ง ผู้เชี่ยวชาญทางด้านพันธุวิศวกรรม และด้วยความสามารถ ในฐานะสาวนักวิทยาศาสตร์ดีเด่นขององค์การเพื่อสิทธิมนุษยชน ทั้งสองได้ร่วมกันศึกษางาน วิจัยค้นคว้าเซรุ่มต้านพิษงูนานาชนิดและยารักษาโรคภูมิแพ้ แต่เกิดความผิดพลาดทางการทดลอง เมื่อ “งูปีศาจ” ที่มีพิษร้ายแรงแพร่เชื้อเข้าสู่ตัวดร.รุ่ง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมอย่าง รวดเร็วจนกลายเป็นอสูรกายงูพิษกระหายเลือดที่ฆ่าชีวิตคนรอบข้างตายอย่างสยดสยอง จนเหลือ เพียงดร.ไดอาน่ากับ อเล็กซ์ คู่หมั้นคู่หมายที่ต้องร่วมชะตากรรมเดียวกัน เธอจะทำอย่างไร ? เมื่อ เธอต้องเลือกระหว่างการละเว้นชีวิตพ่อ หรือการกำจัดสายพันธุ์อำมหิตที่อาศัยร่างของพ่อล้าง ผลาญชีวิตมนุษย์
คู่เสี่ยวหมัดสั่ง (2547/2004) ทอน เนี้ยว และ หลอ เป็นเพื่อนสนิทกัน เมื่อความมุ่งหมายเดิมที่ต้องการเดินทางมาหางาน ทำในเมือง แต่โชคร้ายที่ถูกโจรปล้นทรัพย์ระหว่างเดินทาง พร้อมทั้งเกิดเรื่องเลวร้ายตลอด ทอนตัดสินใจเดินแยกทางจากเพื่อน และทำตามวิถีชีวิตตนเอง ความบังเอิญที่เขาพบกลุ่ม โจรที่ขโมยเงินไป ด้วยความโกรธแค้นจึงใช้หมัดซ้ายสังหารคนร้าย และทุกคนที่ก่อความ เดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น โชคชะตานำพาให้เขากลับมาพบกับเพื่อนอีกครั้ง รวมทั้งการอาสา ช่วยเหลือ ก้าน เจ้านายผู้ให้ชีวิตใหม่แก่เขา บทพิสูจน์แห่งความจงรักภักดี และการต่อสู้ แห่งศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย
ทิม มวยไทยหัวใจติดเพลง (2547/2004) ทิม ลูกชายเจ้าของค่ายมวย ซึ่งพ่อของเขาตั้งใจที่จะฝึกซ้อมเขาให้เป็นนักมวยระดับฝีมือ เพื่อไปต่อยกับลูกชายของคู่อริ โดยมีค่ายมวยเป็นเดิมพัน แต่ทิมมีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักร้อง จึงหนีพ่อของเขาเพื่อไปตามหาฝัน จนทำให้เขาได้พบรักกับจินตหรา สาวผู้รักในเสียงเพลง แต่สุดท้ายพ่อของเขาก็ตามหาเขาจนเจอและขอร้องให้เขากลับไปต่อยมวยเพื่อรักษาค่ายมวยไว้ เขาจึงต้องตัดสินใจเลือกระหว่างความฝันและความกตัญญู.....
บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม (2547/2004) ปฏิบัติการพิสูจน์ศักดิ์ศรีความเป็น “บอดี้การ์ดมือ 1” แห่งยุคเริ่มต้นขึ้นเมื่อ “วงศ์คม” (หม่ำ จ๊กม๊ก) บอดี้การ์ดหนุ่มผู้เคร่งขรึมซึ่งสืบทอดสายเลือดมาจากตระกูลบอดี้การ์ดอันเลื่องชื่อ แน่นอนว่าความยำเกรงในระดับฝีมือและความสามารถเฉพาะตัวได้รับการยอมรับผ่านภารกิจและหน้าที่ในการปกป้องและอารักขา “เพชรพันธการ” ตระกูลอภิอัครมหาเศรษฐีอันดับ 1 แห่งเอเชียมาหลายชั่วอายุคน จนกระทั่งบทบาทและหน้าที่การเป็นบอดี้การ์ดมือ 1 ของเขาได้ถูกท้าทายขึ้นในระหว่างภารกิจอารักขา “ท่านโชติ เพชรพันธการ” (หงา คาราวาน) อภิอัครมหาเศรษฐีอันดับ 1 แห่งเอเชียที่กำลังอยู่ในระหว่างพิธีเซ็นสัญญาธุรกิจหมื่นล้านกับบริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านธุรกิจไอทีของอเมริกา เมื่อกลุ่มบุคคลลึกลับซึ่งนำโดย “อาทิตย์” (ยิ่งยง ยอดบัวงาม) พร้อมเหล่ามือสังหารระดับพระกาฬ (ซึ่งประกอบไปด้วย “เอ๋ จารชน, เต๋อ เชิญยิ้ม, อาแปะ เถิดเทิง และ จเร เชิญยิ้ม” เหล่านักแสดงตลกชื่อดังของเมืองไทยกับการพลิกบทบาทสุดเข้มครั้งสำคัญ) ได้ก่อปฏิบัติการลอบสังหารที่แสนอุกอาจและเต็มไปด้วยความแยบยลหมายปลิดชีวิตท่านโชติ เพชรพันธการ แต่ก็ไม่ได้เล็ดรอดสายตาบอดี้การ์ดมือ 1 อย่างวงศ์คม กลับกันได้นำเอาปฏิภาณไหวพริบและความสามารถเฉพาะตัวที่มีอยู่อย่างเต็มพิกัดช่วยเหลือและปกป้องเจ้านายของตนได้สำเร็จ พร้อมเสนอให้ยกเลิกการเซ็นสัญญาธุรกิจหมื่นล้านออกไป เพราะอาจะจะเผชิญกับอันตรายถึงชีวิตจากสิ่งที่ดักรออยู่ข้างหน้า เพียงทว่ามีอยู่สิ่งหนึ่งที่อยู่นอกเหนือจากความสามารถของเขาโดยสิ้นเชิง นั่นคือความดื้อดึงในการยืนยันที่จะเซ็นสัญญาต่อไปจากเจ้านายของตนนั่นเอง โดยที่ไม่มีใครคาดคิดภารกิจสำคัญที่สมาชิกในตระกูลบอดี้การ์ดต่างสืบทอดต่อเนื่องกันมากำลังจะจบลงในเงื้อมมือของวงศ์คมนั่นเอง เมื่อเขาไม่สามารถปกปักอารักขาชีวิตเจ้านายของเขา ท่านโชติอภิอัครมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งเอเชียถูกลอบสังหารในที่สุด โดยศัตรูที่เขาไม่อาจลืมได้ตลอดชีวิต เป็นความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ที่ผู้ภักดีอย่างวงศ์คมไม่อาจยกโทษและให้อภัยในสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ได้ เขาจำยอมต้องถอนตัวจากการเป็นบอดี้การ์ดประจำตระกูลเพชรพันธการ แต่ทว่าถูก “คุณหญิงรัตนา” (อรัญญา นามวงศ์) ภรรยาของท่านโชติห้ามเอาไว้ ด้าน “ชายชล เพชรพันธการ” (ท็อป-พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร) ทายาทคนเดียวของท่านโชติ คุณหญิงรัตนาและตระกูลเพชรพันธการโกรธแค้นและหมดความเชื่อถือในตัววงศ์คม ปฏิเสธความห่วงใยที่แสนซื่อสัตย์จากบอดี้การ์ดประจำตระกูลอีกต่อไป โดยหันไปพึ่งบอดี้การ์ดรองบ่อนที่ไม่เพียงไร้น้ำยาและเต็มไปด้วยความฉ้อฉล จนเกือบเสียชีวิตจากแผนการเด็ดชีพทายาทเพชรพันธการระลอกสองของเหล่ามือสังหารที่เด็ดชีพบิดาของตน เมื่อไม่มีคนคุ้มครอง เรื่องราวทุกอย่างกลับพลิกผัน ชายชลลืมนึกไปว่าเป้าหมายต่อไปของพวกมันก็คือตนนั่นเอง แผนการโค่นอัครมหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจมหาศาลเพื่อผลประโยชน์ที่ไม่อาจประมาณค่าได้จึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสิ่งที่เขาต้องเผชิญล้วนเต็มไปด้วยภยันตรายล้อมอยู่รอบด้านเกินกว่าเด็กหนุ่มธรรมดาๆ อย่างเขาจะรับมือไหว ชายชลรอดชีวิตและหลบหนีจากการถูกตามล่าอย่างหวุดหวิดโดยบอดี้การ์ดทุกคนที่ปกป้องชีวิตของตนต่างเสียชีวิตหมด โดยได้ครอบครัวของ “ป๊อก” (แอร์-ภุมวารี ยอดกมล) เด็กสาวจิตใจงามให้ความช่วยเหลือและให้ที่พัก โดยที่ไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มที่น่าสงสารที่เธอช่วยเหลือนั้นคือทายาทของอัครมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดแห่งเอเชีย ถึงแม้ว่าชีวิตของป๊อกจะแวดล้อมไปด้วยภาพที่ไม่น่าประทับใจเท่าไรนักสำหรับชายชล โดยเฉพาะ “แม่แจ่ม” (อาภาพร นครสวรรค์) ของป๊อกที่ไม่ต่างอะไรจากมิจฉาชีพในคราบของนักร้องคาเฟ่ที่มีเทคนิคในการหลอกสั่งอาหารจากบรรดานักเที่ยวไปวันๆ แต่จริง ๆ แล้วก็เพื่อเลี้ยงปากท้องครอบครัวของตน แต่ชายชลกลับมองป๊อกและสมาชิกในครอบครัวอย่างเข้าใจซึ่งทำให้ชายชลได้รู้จักกับชีวิตอีกด้านหนึ่งที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน ชายหนุ่มแทบลืมเรื่องเลวร้ายที่ผ่านมาถ้าเผอิญว่าเหล่าศัตรูตัวฉกาจ บรรดามือสังหาร และเหล่านักฆ่าระดับพระกาฬที่ถูกส่งตรงมาเด็ดชีพเขาโดยเฉพาะไม่ออกตามล่าสังหารเขาอีกครั้ง ด้วยความสามารถและไหวพริบอันเฉียบแหลม มีเพียงคนเดียวที่จะแก้ไขสถานการณ์อันเลวร้ายและช่วยชีวิตทายาทที่เหลืออยู่ของตระกูลเพชรพันธการ จะเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจากเขาคนนี้ คนที่กลับมาเพื่อไถ่บาปและแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในชีวิตซึ่งไม่มีวันลืมเลือน เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีความเป็นที่สุดแห่งบอดี้การ์ดอันดับ 1 นาม “วงศ์คม” เจ้าของฉายา “บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม”

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ