โตแล้วต้องโต๋ (2535/1992) หนุ่มโสดมาดเซอร์อย่าง กิ๊ก กลับต้องกลายเป็นพ่อคนกระทันหันเมื่อพี่สาวและสามีมาเสียชีวิตที่เมืองไทย ทิ้งให้กิ๊กดูแล คาเรน หลานสาวไปแบบลิ้นกับฟัน เพราะหลานสาวก็ช่างเอาแต่ใจและไม่แคร์ใครพอ ๆ กับผู้เป็นน้า ถึงแม้จะปรับตัวเข้าหากันได้อย่างดีแล้ว คาเรนก็ยังคงหวงน้าชายของเธอ ถึงขนาดไม่ยอมให้คบหากับเหมียว สาวผู้พิการทางการได้ยิน แต่ด้วยความดีของเหมียว เธอจึงสามารถเอาชนะใจคาเรนได้ในท้ายที่สุด
ผู้ชายชื่อต้น ผู้หญิงชื่อนุช (2535/1992) ต้น นักศึกษาปีที่ 4 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่เชียงใหม่ ต้นเป็นชายหนุ่มตาบอดแต่เต็มไปด้วยความสดใสร่าเริง ต้นมีพรสวรรค์ด้านดนตรี ในงานฉลองประจำปีต้นได้แสดงความสามารถของตน จนทำให้นุชเด็กสาวหูหนวก น้องสาวของสิทธิ์เพื่อนสนิทของต้นเกิดความประทับใจ แม้ว่านุชจะไม่ได้รับรู้ท่วงทำนองอันไพเราะก็ตาม ต้นกับนุชมีโอกาสได้รู้จักกันมากขึ้น ทำให้นุชสัมผัสถึงความอ่อนโยนและหัวใจที่งดงามของต้น นุชจึงวานให้พริมช่วยอ่านข้อความที่ตนบรรยายความรู้สึกที่มีต่อต้นลงในเทปคาสเซ็ทแล้วส่งให้ต้นพร้อมกับผ้าเช็ดหน้าที่ตนเองปัก เมื่อต้นได้รับ รู้สึกประทับใจและผูกพันกับเสียงผู้หญิงในเทป ข้อความในเทปนั้นให้กำลังใจและดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นเข้าใจความรู้สึกลึกๆ ของตนอย่างไม่มีใครรู้สึกมาก่อน ในที่สุดต้นก็หลงรักผู้หญิงคนนี้เข้าเสียแล้ว ส่วนนุชนั้น เป็นเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง แต่ในที่สุดต้นได้รู้ความจริงว่านุชกับผู้หญิงในเทปเป็นคนเดียวกัน ความรักของทั้งสองคนดำเนินไปด้วยดี แต่แล้วก็มีปัญหาเมื่อครอบครัวรู้ถึงความสัมพันธ์ของทั้งสอง จึงให้หยุดความ สัมพันธ์นั้นทันที เพราะมองว่าต้นและนุชไม่พร้อมที่จะมีรักร่วมกัน เมื่อต้นเรียนจบจึงออกหางานทำ ทั้งสองต้องพบกับความลำเอียงของคนในสังคมที่ปิดโอกาสคนพิการ ต้นรู้สึกท้อแท้มาก แต่ในที่สุดต้นก็ได้เป็นครูสอนดนตรีให้คนปกติ และได้เข้าแข่งขันเปียโน ทุกคนในสถานที่ประกวดได้เห็นถึงความสามารถ และประทับใจกับความรักของเขาทั้งสอง ด้วยเหตุนั้นครอบครัวของทั้งสองจึงยอมรับ และให้โอกาสแก่เขา ในที่สุดต้นและนุชก็ฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหมดได้อย่างงดงาม
ครูจันทร์แรม (2535/1992) เรื่องของหญิงสาวที่จบการศึกษาเพียงประถมศึกษาปีที่ 4 ได้อุทิศชีวิตเพื่อการเป็นครูให้กับนักเรียนยากจน และชาวเขาที่ไม่รู้หนังสือ สร้างโอกาสแก่ผู้ที่ด้อยกว่า จากชีวิตจริงของครูจันทร์แรม ศิริคำฟู จันทร์แรมเติบโตขึ้นท่ามกลางค่านิยมของคนในหมู่บ้านถ้ำผาจม ที่มักส่งลูกสาวไปทำงานกรุงเทพฯ เพื่อแลกกับความสะดวกสบายของพ่อแม่ เธอเรียนจบชั้นป. 4 เพราะไม่มีเงิน แต่เธอเปิดโรงเรียนเล็กๆ ขึ้นมาเพื่อสอนชาวเขาและคนในหมู่บ้านให้รู้หนังสือ โดยได้รับความช่วยเหลือจากพ่อและแม่ของเธอ เวลาผ่านไปจนเธอโตเป็นผู้ใหญ่ ศิวะพงษ์ เพื่อนสมัยเรียนกลับมาที่หมู่บ้านและคอยช่วยเหลือเธอ คำแก้ เพื่อนที่เธอคอยเตือนไม่ให้ไปขายตัวกลับมาพร้อมโรคเอดส์และตายในที่สุด จันทร์แรมและทุกคนในหมู่บ้านช่วยกันเปลี่ยนค่านิยมในการส่งลูกสาวไปขายตัวที่กรุงเทพฯได้สำเร็จ จันทร์แรมตกเป็นข่าวใหญ่ในหน้าหนังสือพิมพ์และได้รับการช่วยเหลือ อีกทั้งได้รับการยกย่องทางสังคม
Placeholder
เก่งจริงนะตัวแค่เนี้ยะ (2535/1992) ลูกเศรษฐีคนหนึ่งหนีออกจากบ้าน เพราะครอบครัวไร้ความอบอุ่น มีแต่เงินและความสุขที่ต้องซื้อหา แต่ขาดความรักความเอาใจใส่ หนูน้อยจึงหนีออกไปเผชิญโลก และได้เรียนรู้ร่วมกับเพื่อนต่างวัยที่มีอาชีพเป็นนักมวย เรื่องของคนสองคนที่แตกต่างทั้งพื้นฐาน ฐานะ ความคิดและวัย ที่ได้แลกเปลี่ยนความรัก ความเข้าใจต่อกัน
Placeholder
จันทร์แรม (2535/1992) เรื่องของผีสาวที่ไม่ยอมไปเกิดใหม่ หากแต่วนเวียนอยู่กับบ้านที่ถูกไฟไหม้ ซึ่งคนทั่วไปเชื่อว่าเป็นบ้านผีสิง และคอยหลอกหลอน แถมมีความสัมพันธ์กับชายหนุ่ม ในความรักที่เป็นไปไม่ได้
สมศรี 422 อาร์ (2535/1992) คุณเต๋อ นักประดิษฐ์ ได้พบกับความเป็นอัจริยะของตนเอง เมื่อเขาได้สร้างหุ่นยนต์ผู้หญิงเหมือนของจริง แม้ว่าจะไร้ชีวิต ไร้หัวใจ แต่ก็ทำงานได้สารพัด เธอชื่อ สมศรี 422 อาร์ อุดมกับอี๊ด ผัวเมียจอมซ่าส์ข้างบ้าน ชอบวุ่นวายกับเรื่องชาวบ้าน สมศรีช่วยงานบ้านจนภรรยาและลูกรักสมศรี รวมไปถึงหนุ่มมอเตอร์ไซด์ชื่อกริช ได้รู้จักสมศรีและคำพูดแปลกๆ ของเธอ หุ่นยนต์สมศรีชอบเลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์ก่อให้เกิดความโกลาหล โดยมีเพื่อนบ้านเฝ้าสังเกตและสรุปว่าเธอต้องเป็นหุ่นยนต์ จึงหลอกสมศรีเข้าไปอยู่ในตู้โทรศัพท์ใช้กระบองไฟฟ้าจี้ ทำให้วงจรของสมศรีไหม้ หุ่นยนต์สมศรีผู้เคราะห์ร้ายเดินเตลิดพุ่งชนไปข้างหน้าอย่างเดียว ทุกคนก็พากันออกตามหาสมศรี อุดมกับอิ๊ดไม่หยุดความแสบทั้งคู่ตามไปดูจุดจบของสมศรี..
อนึ่งคิดถึงพอสังเขป (2535/1992) อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ เมื่อนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายสายวิทย์และสายศิลป์ไม่ถูกกัน มักจะหาเรื่องแกล้งกันเสมอ จนครูในโรงเรียนต่างพากันเอือมระอา นอกจากนี้ โรงเรียนได้รับครูฝึกสอนเข้ามาใหม่ หนึ่งในนั้นคือทองเอก (จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์) ซึ่ง แต้ว (สายธาร นิยมการณ์) นักเรียนสาวสายศิลป์แอบชื่นชม ความสัมพันธ์ระหว่างครูฝึกสอนกับนักเรียน กลายเป็นบทเรียนชีวิตสำคัญให้นักเรียนทั้งรุ่นได้เติบโตขึ้น ภาพยนตร์วัยรุ่นที่ประสบความสำเร็จทั้งในแง่รายได้ เสียงวิจารณ์ และรางวัล เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายสายวิทย์และสายศิลป์ที่ไม่ถูกกัน นับเป็นหนึ่งในผลงานที่น่าจดจำของ บัณฑิต ฤทธิ์ถกล ที่ยังได้รับการพูดถึงมาจนปัจจุบัน รวมทั้งเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดการสร้างภาพยนตร์ที่มีจุดศูนย์กลางเป็นชีวิตของเด็กมัธยมฯ อีกมากมาย
Placeholder
ปลุกผีมาจี้ปอบ (2535/1992) หนังผีวิ่ง่ไล่กับมุขตลกของการวิ่งหนีผี งานแนวทางเดียวกับบ้านผีปอบที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว
ทายาทไอ้ผาง ร.ฟ.ท.(2535/1992) ข้อความบนใบปิด ศรีไพร ร่วมกับ เขียวสด อินเตอร์กรุ๊พ สร้าง ทายาทไอ้ผาง ร.ฟ.ท. บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ พันนา ฤทธิไกร วรารัตน์ พัฒนแพทย์, ศรีไพร ข่มอารมณ์, แสงแข พิฆเนศร์, ฉัตร มงคลชัย, ไวท์, คำตัน, โอดา, กุ่ย, ตุ๋ย, โทนี่, เมจิก, จ่าโทน, ลุงเชย “ศักดิ์มรกต” กำกับการแสดง ศรีไพร ข่มอารมณ์ อำนวยการสร้าง ลิขิต กฤษณะมิตร ถ่ายภาพ (ที่มา :Thai Movie Posters)
ตามล่าแต่หาไม่เจอ (2535/1992) การตามล่าลายแทงขุมสมบัติที่พ่อทิ้งไว้ให้ ต้องค้นหาส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ที่ก้นของน้องชายๆแท้ ที่ไม่เคยได้เจอกันมาก่อน ความวุ่นวายอลหม่าน จึงได้เกิดขึ้น มากมาย การตามล่าลายแทงขุมสมบัติ ที่นำมาซึ่งความวุ่นวายกับการตามล่าตามล้างระหว่างผู้ที่อยากจะรวยทางลัด เป็นหนังตลกที่เน้นมุขตลกกับการวิ่งไล่ โดยเฉพาะการค้นหาลายแทงที่อยู่กับตัวละครซึ่งเหนือความคาดหมาย
รองต๊ะแล่บแปล๊บ (2535/1992) ทัช (ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง) เด็กหนุ่มที่รักการเต้นเป็นชีวิตจิตใจ ทั้งปู่และพ่อของเขาต่างก็เป็นนักเต้นเช่นเดียวกัน ซึ่งปู่เคยบอกเขาว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเต้น คือ รองเท้า ดังนั้น เขาจึงออกตามหารองเท้าคู่ที่ถูกใจ จนไปสะดุดตารองเท้าคู่หนึ่ง แต่ราคาแพงแสนแพงเกินกว่าที่เขาจะสามารถซื้อได้ แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เมื่อในคืนหนึ่งได้มีฟ้าผ่าลงมาหลายแสนโวลต์ลงมาที่รองเท้าคู่นั้น เมื่อทัชเดินผ่านร้านรองเท้าอีกครั้งหนึ่ง แล้วพบว่า เจ้าของเอารองเท้าคู่นั้นลงจากตู้โชว์ เนื่องจากรองเท้าอยู่ในสภาพที่ยับเยินจนแทบดูไม่ได้ เจ้าของร้านถามว่าเขายังต้องการรองเท้าคู่นี้อยู่อีกหรือไม่ เมื่อเขาตอบว่า ต้องการ เจ้าของร้านจึงขายรองเท้าให้ในราคาที่ถูกแสนถูก กระทั่งเขานำรองเท้ากลับมาทำความสะอาดที่บ้าน เขากลับพบว่ารองเท้ากลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิต และจะขยับเต้นเมื่อเสียงเพลงดังขึ้น หลังจากสวมใส่รองเท้าคู่ใหม่ การเต้นของทัชพัฒนาขึ้น จนทัชและเพื่อนร่วมทีมต่างมั่นใจว่า จะได้รับชัยชนะในการแข่งขันประกวดเต้น ซึ่งต้องแข่งขันกับทีมที่เป็นแชมป์เมื่อปีก่อน ต่อมา ทัชได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่ง (วาสนา พูนผล) เป็นครั้งแรก หลังจากนั้นทั้งคู่ก็สนิทสนมกัน จนเธอตั้งชื่อรองเท้าของทัชว่า “ดุ๊กดิ๊ก” ความสัมพันธ์ของทั้งคู่คงจะไม่มีอุปสรรคอันใด ถ้าหากหญิงสาวที่เขาหลงรักไม่มีคนรัก (ภาณุเดช วัฒนสุชาติ) อยู่แล้ว คนรักของเธอก็คือ พี่ชายของคู่แข่งในการเต้นของเขานั่นเอง ก่อนวันแข่งขัน “ดุ๊กดิ๊ก” ถูกทำลายจนพัง ไม่สามารถใช้ใส่เต้นในวันที่จะแข่งขันได้ เมื่อวันแข่งขันมาถึง ในขณะที่ทัชรู้สึกถอดใจ ยอมแพ้ เนื่องจากไม่มีเจ้าดุ๊กดิ๊ก และไม่มีผู้หญิงที่คอยเป็นกำลังใจเขาตลอดมา แต่ในที่สุดทัชก็ติดสินใจลงแข่งขันในวินาทีสุดท้าย ผลการแข่งขันปรากฏว่าทีม “เท้าไฟ” ของทัชได้ที่ 2 แพ้ทีม “แม็กม่า” ของเอ็กซ์ (จตุรงค์ โกลิมาศ) ไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น แต่แล้วความจริงก็ปรากฏเมื่อ ตั๊ก (บริบูรณ์ จันทร์เรือง) น้องชายของทัช ได้ออกมาบอกว่า ทีมของเอ็กซ์ข่มขู่กรรมการให้ตัดสินให้ทีมตนเองชนะ ในที่สุดทีมของทัชก็ได้รับชัยชนะในการแข่งขัน แม้ว่าในการแข่งขันทัชจะไม่ได้ใส่ “ดุ๊กดิ๊ก” ลงแข่งเลยก็ตาม
ลิงลากหาง ไอ้ช้างถีบ (2535/1992) ข้อความบนใบปิด KS กรุ๊พเสนอ ลิงล่อ ช้างต้องลากแน่ๆ แต่ถ้าช้างล่อกับลิง แบนติดดินแน่ๆพี่ ลิงลากหาง ไอ้ช้างถีบ พันนา ฤทธิไกร ทอง ชาตรี, ธัญญารักษ์ ราชธา, ลี หนองบัว, เล็ก สายทิพย์, น้อย น้ำพอง, อาจารย์เจริญ, เจ๊จู ค๊อกเทล เปี๊ยก ค๊อกเทล, โหน่ง, ทอง ลำดับภาพ อรนุช ลาดพันนา กำกับการแสดง (ที่มา :Thai Movie Posters)
ดอกไม้ร่วงที่สันทราย (2535/1992) ข้อความบนใบปิด เมขลาภาพยนตร์ ลูกน้ำ-ลูกโป่ง ดำเนินงาน เสถียร สุมานโสร์ ที่ปรึกษา น้อย เกตุงาม กำกับการแสดง ดอกไม้ร่วงที่สันทราย ของ ตูมตาม เกตุงาม หิรันย์ บทประพันธ์-บทภาพยนตร์ นำโดย ยุรนันท์ ภมรมนตรี ธิดา ธีระรัตน์ พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ จามจุรี เชิดโฉม ขอแนะนำนางเอกใหม่ อรุณรัตน์ อินแก้ว มนตรี, กันทิมา, แดน ดัสกร, สิงหา สุริยง, โขมพัสตร์ อรรถยา, เสกสิทธิ์, พิศ, เผอิญ, จเร, ภายุ รังศรี, นาฏตยา, ไตเติล ขนิษฐา เกตุงาม, วาสนา, วนิดา เกตุงาม, ด.ญ.สุวรา, ด.ช.เอ็ม, มานะ เกิดจงรักษ์ น้อย เกตุงาม-จริน พรหมรังษี-ปิยะวุฒิ กำกับฯ หมี พรานนก-จุฑามาศ ธุรกิจ ก้องเกียรติ ถ่ายภาพ (ที่มา :Thai Movie Posters)
Placeholder
Placeholder