นางอาย (2533/1990) เรื่องราวชีวิตในวัยเรียนในโรงเรียนคอนแวนต์ในสิงคโปร์ อภิรดีหรือนาง ได้ถูกส่งตัวมาเรียน เธอต้องพบเพื่อนใหม่ที่มีทั้งเป็นมิตร และไม่เป็นมิตรรวมทั้งการเข็มงวดของบรรดาเหล่าแม่ชีด้วยความซุกซนของนางทำให้เกิดความวุ่นวายอยู่เสมอ นอกจากนี้นางยังถูกคัมพล เพื่อนชายและธนาธิปทูตหนุ่ม แย่งกันพิชิตหัวใจของนางให้ได้ นางอายเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นของเด็กสาวชื่อนาง ซึ่งเรียนประจำอยู่ที่โรงเรียนประจำ นางเป็นเด็กที่มีความร่าเริง สนุกสนาน ซุกซน แก่นแก้ว นางมีเพื่อนรักอยู่คนหนึ่ง ในโรงเรียนคอนแวนแห่งนี้ คือ สินีนาฎ สินีนาฎประสบปัญหาทางบ้าน ไม่สามารถเรียนต่อได้ แต่นางไปขอความช่วยเหลือจากคุณธนาธิป ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ประจำสถานฑูตไทย และเป็นพี่ชายของสายสุดา ในระหว่างที่ นาง สินีนาฎและ สายสุดา เรียนอยู่ในคอนแวน เกิดเรื่องราวต่างๆ มากมายจากความไม่ลงเอยกับสายสุดา คัมพลเป็นลูกชายของเพื่อนพ่อนางที่มาคลุกคลีใกล้ชิดกับนางและหลงรักในตัวนางอยู่ลึกๆ เมื่อนางเรียนจบ พ่อของนางต้องการให้นางแต่งงานกับพี่ชายของคัมพล แต่นางไม่ยอม เพราะนางชอบกับธนาธิปอยู่ก่อนล้ว เมื่อกำพลรู้เรื่องแต่งงานเข้าไม่พอใจอย่างมาก และได้รู้ความจริงจากนางว่ารักกับธนาธิป และนางไม่ได้คิดอะไรกับกำพลนอกจากพี่ชาย ธนาธิปเมื่อรู้เรื่องแต่งงานจึงไปสู่ขอและก็ได้แต่งงานกัน
ต้องปล้น (2533/1990) เรื่องราวของเด็กหนุ่มสามคนที่วางแผนปล้นธนาคาร เพื่อชีวิตที่ดีกว่าในปัจจุบัน แต่แผนการล้มเหลว ทั้งสามถูกตำรวจตามล่า จนหนีมาซ่อนตัวที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ตัวประกันหลายคนต้องมาอยู่รวมกัน แต่ละคนมีชีวิตที่แตกต่างกันออกไป ในที่สุดทั้งสองคนก็ต้องประสบกับชะตากรรมที่เกิดขึ้น ปัจจุบันเรื่องนี้ทางบีเคพีนำมารีมาสเตอร์ใหม่ภายใต้โปรเจกต์ The Legend Collection ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นภาพยนตร์ในตำนานอีกเรื่องหนึ่งที่ควรค่าแก่การเก็บสะสมเช่นกัน... ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างขึ้นจากเค้าโครงเรื่องจริง จากเหตุการณ์ชายหนุ่มบุกเข้าปล้นร้านทอง แล้วหนีตำรวจขึ้นไปบนแฟลต โดยบุกเข้าไปในห้องแล้วจับผู้หญิงหากินคนหนึ่งเป็นตัวประกัน แต่นำมาดัดแปลงโดยเปลี่ยนเป็นการปล้นธนาคารแทน เรื่องนี้ยังได้นักแสดงชื่อดังอีกคน คือ เกรียงไกร อุณหะนันทน์ มารับหน้าที่ออกแบบฉากภายในให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย... เรื่องราวของก้องกับจ้อนสองเด็กอู่ซ่อมมอเตอร์ไซค์ ร่วมมือกับเบิ้มจับกังแบกข้าวสาร ปล้นธนาคารเพื่อหวังชีวิตที่สุขสบาย แต่แทนที่ทั้งสามจะสามารถหลบหนีลอยนวลไปอย่างสบายๆ แต่กลับต้องพบกับอุปสรรคมากมาย พร้อมกับจุดจบที่ต้องตายทั้งสามคน...
ทวิภพ (2533/1990) มณีจันทร์ ลูกสาวของท่านทูตที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ วันหนึ่งเธอซื้อกระจกเงาโบราณบานใหญ่มาไว้ที่บ้าน แล้วพบว่ากระจกบานนี้สามารถพาเธอย้อนอดีตไปสู่แผ่นดินสยามสมัยรัชกาลที่ 5 ได้ ที่นั่นมณีจันทร์ได้พบกับ หลวงอัครเทพวรากร จนเกิดเป็นความรักความผูกพันของคนต่างภพ ท่ามกลางวิกฤติการณ์ของสยามในช่วงที่ชาติตะวันตกกำลังออกล่าอาณานิคม
ส.อ.ว.ห้อง 2 รุ่น 44 (2533/1990) ภาพยนตร์แห่งการทวงถามถึงคุณค่าและศักดิ์ศรีของผู้หญิงยุคปัจจุบัน โดยที่เด็กนักเรียนกลุ่มหนึ่งจบการศึกษาชั้นมัธยม และชีวิตของคนในกลุ่มแต่ละคนก็แตกต่างกันไป ลัดดาเธอแต่งงานกับเสี่ยร้านก๋วยเตี๋ยวและใช้ชีวิตตามสมถะ ขันทองถูกจับแต่งงานกับหนุ่มหล่อเจ้าสำอางค์ ลินดาเรียนต่อด้านบริหาร เพลินพรรณเธอเป็นเซลล์ขายสินค้าทุกอย่าง รำยงเรียนต่อมหาวิทยาลัย ระหว่างที่เรียนต่อ เธอได้เข้าประกวดนางงาม และสุนทรีก็เข้าประกวดด้วยเหมือนกัน วันตัดสินสุนทรีได้ตำแหน่งไป ทันทีที่ลงจากเวทีนายธนาคาร คนหนึ่งต้องการซื้อตัวรำยง ทำให้เธอไม่พอใจอย่างมาก วันต่อมารำยงเห็นสุนทรีเพื่อนรักไปกับเสี่ยนายธนาคารคนนั้น เธอผิดหวังมากที่เพื่อนยอมขายตัว ส่วนขันทองสามีก็เจ้าชู้และตบตีเธอ รำยงเฝ้ามองดูเพื่อนอย่างเศร้าใจ และได้ตัดสินใจทำรายการข่าวเพื่อเรียกร้องศักดิ์ศรีให้ผู้หญิงทุกคน
หลงไฟ (2533/1990) ก้านแก้วนักศึกษาปีสุดท้ายที่ต้องดิ้นรนเพราะพ่อแม่ยากจนและยังถูกลุงที่อาศัยอยู่ปล้ำ จึงตัดสินใจเป็นสาว เอสคอร์ท โดยที่กุญชรแฟนหนุ่มผู้แสนดีไปรับราชการที่ต่างจังหวัดเก็บเงินเพื่อรอวันแต่งงาน กิจการของก้านแก้วไปได้ดี เธอเพลิดเพลินกับการรับรองแขก กุญชรยังพาซื่อส่งเงินมาให้ก้านแก้วเก็บไว้เพื่อแต่งงาน แต่เธอกลับไม่ใส่ใจ เธอได้รู้จักชลลูกเศรษฐี ทั้งคู่พึงพอใจกัน ชลถูกทางบ้านให้เลิกกับก้านแก้วแต่เขาไม่ยอม อีกทั้งชลยังไม่ได้ทำงานและติดการพนัน กุญชรและชลมาหาก้านแก้ว จึงรู้ว่าก้านแก้วมีสามี กุญชรเสียใจมากขอให้ชลอย่าทิ้งเขาอีกคน ก้านแก้วหมดคนที่เลี้ยงไปอีกคนอีกทั้งเงินก็หมด ทำให้มีปากเสียงกับชลและเลิกกัน ก้านแก้วถลำลึกลงไปอีก และเจอแมงดาที่หาแขกให้และยังถูกซ้อม ก้านแก้วจึงส่งจดหมายเพื่อไปทำงานที่เยอรมัน แต่ก็ไม่ต่างไปจากหญิงไทยที่ถูกหลอกให้ไปเมืองนอก เธอถูกหลอกไปขายตัว และท้ายสุด ชีวิตก้านแก้วก็ต้องจบลงด้วยความเศร้า ที่หลงผิดไปชั่วชีวิต
กระท่อมใหม่ทะเลเดิม (2533/1990) ชาติชาย (สันติสุข พรหมศิริ) หนีมาอยู่กับเพื่อนที่ระยอง เขาได้ร่วมกันทำความฝันของครอบครัวเพื่อนของเขาให้เป็นจริงขึ้นมา ทั้งหมดได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมาทำให้ความสัมพันธ์ของทุกคนเริ่มก่อตัวจนกลายเป็นความผูกผันกันอย่างแยกไม่ได้จนกระทั่งวันที่เขาจะต้องจากไปก็มาถึง ชาติชายหนีคดียิงคน ลงใต้มาหาสุดเขตซึ่งเป็นเพื่อนรักและขอบฟ้าน้องสาวซึ่งเป็นตำรวจหญิง แม่ของสุดเขตเปิดร้านอาหารอยู่ในเมือง แต่รายได้ไม่ค่อยดี สุดเขตปรึกษากับชาติชายและขอบฟ้าว่าจะเปิดร้านอาหารริมทะเลซึ่งเป็นที่ของแม่สุดเขต การเปิดร้านอาหารที่เริ่มขึ้น ทุกคนช่วยกันสร้างกระท่อมริมทะเล แต่โชคของทุกคนไม่ดี เกิดพายุใหญ่พัดเอากระท่อมที่เป็นทั้งที่อาศัยและร้านอาหารพังเสียหาย แม่มาให้กำลังใจและสร้างร้านขึ้นมาใหม่ เชอร์รี่และลมุนสองพี่น้องที่เปิดร้านอาหารอยู่ก่อน ได้รับความกระทบกระเทือนมากจึงหาเรื่องก่อกวนที่ร้านให้เกิดความวุ่นวาย เมื่อไม่ได้ผลก็มาขอซื้อร้านจากสุตเขตแต่สุดเขตก็ไม่ยอมขาย เชอร์รี่ให้สมุนมาจับแม่สุดเขต ชาติชายพาพรรคพวกไปช่วยแม่สุดเขตไว้ได้ ตำรวจมาจับชาติชาย ทุกคนเสียใจแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ วันรุ่งขึ้น ชาติชายได้กลับมาหาทุกคน เขาพ้นข้อหา เนื่องจากปืนที่ยิงไม่โดนใคร เขากลับมาฉลองวันเกิดกับฉลองร้านอาหารกระท่อมใหม่ทะเลเดิมพร้อมกับขอบฟ้า
พันธุ์หมาบ้า (2533/1990) เรื่องราวของมิตรภาพความผูกพัน และวีรกรรมแห่งชีวิตวัยรุ่นของกลุ่มผองเพื่อนผู้ชายที่รักอิสระ นำโดย อ๊อตโต้ (พงพัฒน์ วชิระบรรจง) เด็กหนุ่มที่ต้องหนีคดียิงคนตาย ไปใช้ชีวิตอย่างเสรีชน ร่วมกับกลุ่มเพื่อนอย่าง ชวนชั่ว, ล้าน, เล็กฮิป, สำลี และ ทัย (อำพล ลำพูน) หนุ่มจริงจังในชีวิตผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นนักดนตรี สานสายใยมิตรภาพอย่างเหนียวแน่น ผ่านงานศิลปะ ของมึนเมา วีรกรรมไร้ขีดจำกัด บทเรียนชีวิตจริงพิเศษที่ไม่มีสอนในสถานศึกษาที่เต็มไปด้วยความสุขสม เจ็บปวด และทำให้พวกเขาเติบโตขึ้นโดยไม่เคยคิดทอดทิ้งกันไปไหน
ปุกปุย (2533/1990) ว่าว (ณพัชร สุพัฒนกุล) เด็กน้อยที่มีพ่อติดการพนันอย่างหนัก เขามักจะถูกพ่อหาว่าเป็นตัวซวยอยู่เสมอ ในขณะที่แม่ (ธิติมา สังขพิทักษ์) เท่านั้นที่เข้าใจในตัวว่าว ว่าวต้องเดินทางไปอาศัยอยู่กับน้าที่ต่างจังหวัด โดยน้าสาว (ญานี จงวิสุทธิ์) ไม่ค่อยชอบว่าวเท่าใดนัก ว่าวมีเพื่อนใหม่ที่ชื่อ ชิชา (ปรางใส ณ นคร) แล้ววันแห่งการจากลาก็มาถึงเมื่อว่าวต้องเดินทางกลับบ้านเก่าอีกครั้งหนึ่ง เรื่องราวของ เด็กชายเสนา หรือ ว่าว มีพ่อซึ่งถูกผีพนันเข้าสิงมองเขาเป็นตัวซวย ชีวิตในแต่ละวันของว่าวผ่านไปอย่างกระท่อนกระแท่น ทั้งยังต้องเลี้ยงน้องชายวัยกำลังซนแทนแม่ที่หาเลี้ยงครอบครัวด้วยการเย็บผ้า แต่ว่าวก็ยังมีความฝันที่จะเป็นนักบินอวกาศไปเหยียบดวงจันทร์ แม้จะเป็นฝันที่ห่างไกลเหลือเกิน สิ่งที่ว่าวพอจะทำได้ในวัยเท่านี้คือไปทำงานเป็นเด็กเชิดสิงโตเก็บเงินซื้อจักรเย็บผ้าคันใหม่ให้แม่ ความสุขเพียงน้อยนิดดับวูบลงไปต่อหน้า เมื่อพ่อเสียพนันจนหมดตัว เจ้าหนี้ทยอยมายกของใช้ในบ้านรวมทั้งจักรเย็บผ้าของแม่ พ่อกล่าวโทษว่าเป็นเพราะว่าว ลูกซึ่งนำความซวยมาให้ และยื่นคำขาดให้แม่ส่งว่าวไปอยู่กับน้าชาย ว่าวได้พบกับ ชิชา เด็กน้อยผู้น่ารักซึ่งกลายมาเป็นกำลังใจให้ว่าว น้าชายและตาช่วยเติมเต็มสิ่งที่ว่าวขาดหายไป ว่าวเฝ้ารอคอยวันที่แม่จะมาเยี่ยมแต่ก็ไร้วี่แววใด วันหนึ่งครอบครัวของชิชากำลังจะเดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อไปงานรับปริญญา ว่าวจึงได้ติดตามมาด้วย เมื่อพ่อเห็นหน้าว่าว ก็ยื่นคำขาดให้แม่ไล่ว่าวกลับไปอยู่กับน้าอย่างไม่แยแส พร้อมสำทับคำขู่ว่าไม่อย่างนั้นจะออกจากบ้าน แต่คราวนี้แม่ทำใจแข็งเพื่อปกป้องลูกชายทำให้พ่อต้องตัดสินใจออกจากบ้านตามคำประกาศของตัวเอง แต่ก็ต้องไปตกระกำลำบาก จนยอมกลับมาหาครอบครัวอีกครั้งพร้อมกับคำมั่นสัญญาว่าจะปรับปรุงตัวเสียใหม่ จะรักและเข้าใจลูก โดยจะไม่คิดว่าว่าวเป็นตัวนำความโชคร้ายมาสู่ครอบครัวอีก
เล่นกับไฟ (2533/1990) "ศากุน" (ลลิตา ปัญโญภาส) หญิงสาวที่ผิดหวังในตัว "ธงทอง" (ธานินทร์ ทัพมงคล) แฟนหนุ่มที่นอกใจเธอไปกับ "สีดา" พี่สาวของเธอเองจนพี่สาวของเธอตั้งท้อง แต่ธงทองกลับไม่รับผิดชอบใดๆ ด้วยความเสียใจประกอบกับได้รับแรงกดดันจากคุณปู่จอมบงการ ทำให้สีดาตัดสินใจจบชีวิตตนเองและทิ้งลูกน้อยไว้กับศากุน ศากุนจึงโกรธแค้นธงทองอย่างมาก ขณะเดียวกันธงทองกลับพยายามกลับเข้ามาในชีวิตศากุน ศากุนจึงแสร้งทำเป็นคบกับหนุ่มเจ้าชู้อย่าง "ปราย" (ศรัณยู วงษ์กระจ่าง) เพื่อกันท่าธงทองเท่านั้น ยังความโกรธแค้นกับธงทองอย่างมากและเขาพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ศากุนกลับมา สีดาตัดสินใจยิงตัวตาย เมื่อเธอได้เสียกับธงทอง (ธานินทร์ ทัพมงคล) แฟนของศากุน (ลลิตา ปัญโญภาส) ศากุนทราบข่าวจึงเอาตัวลูกของสีดามาเลี้ยงโดยให้ทุกคนเข้าใจว่าเป็นลูกของตนเอง ศากุนถูกปราย (ศรัณยู วงศ์กระจ่าง) หนุ่มเจ้าชู้แอบหลงรัก โดยศากุนเข้าใจว่าปรายเป็นไอ้ตัวธงทองกลับมาหาศากุนอีกรวมทั้งทิพย์วารีน้องสาวธงทองยังเป็นคู่ขาปรายอีกด้วยปรายถูกคนลอบทำร้ายจนตาบอดทำให้ศากุนกับปรายเข้าใจกัน แต่ธงทองไม่ยอมเลิกรา ตุลา (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) เพื่อนสนิท ศากุนเอาไว้ได้ทั้งๆที่ตัวเองตาบอดเมื่อเรื่องร้ายผ่านไปชีวิตของทั้งคู่จึงมีความสุข
คนเลี้ยงช้าง (2533/1990) เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างป่าไม้ คำรณ (รณ ฤทธิชัย) กับบุญส่ง (สรพงษ์ ชาตรี) คนเลี้ยงช้าง กับช้างที่ชื่อแตงอ่อน ที่ต้องเผชิญหน้ากับพวกตัดไม้ทำลายป่า ที่มีเจ้าหน้าที่บางคนร่วมมือกับบรรดาผู้มีอิทธิพล จนในที่สุดชีวิตของทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต่างก็ได้รับชะตากรรมที่แตกต่างกันออกไป ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศไทยยังคงสภาพผืนป่าที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่เป็นเพราะความเจริญระลอกใหญ่ที่ไล่หลังมาทำให้ปัจจุบันเหลือป่าไม้ไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ตำนานคนเลี้ยงช้างแห่งป่าพนาไพร ป่าสักขนาดใหญ่เริ่มต้นด้วยความมุ่งมั่นที่จะปราบปรามพวกลักลอบตัดไม้ผิดกฎหมายของหัวหน้าเขตป่าไม้เลือดร้อน ท่ามกลางวิกฤตที่ต้องเผชิญหน้ากับนายทุนและชาวบ้านที่ไม่สามารถสลัดวิถีชีวิตดั้งเดิม เขาได้รู้จักชายหนุ่มใจซื่อกับช้างแสนรู้เชือกหนึ่ง นับแต่นั้นชะตาของทั้ง 3 ชีวิตถูกร้อยเรียงเข้าด้วยกันจนไม่อาจแยก บุญส่ง ชาวบ้านป่าที่ครอบครัวยึดอาชีพเป็นควาญช้างมาตั้งแต่บรรพบุรุษ กับ คำรณ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ผู้เคร่งครัดต่อหน้าที่ วันหนึ่ง บุญส่ง กับ แตงอ่อน ช้างคู่ชีวิต ได้ช่วยให้ คำรณ รอดพ้นจากการถูกลอบยิงจากพวกลักลอบตัดไม้ แต่ขณะเดียวกัน ตัวเขาเองกลับไม่อาจเอาตัวรอดจากการถูกกดดันเรื่องหนี้สินก้อนโตโดย เสี่ยฮก เจ้าของธุรกิจค้าไม้เถื่อนรายใหญ่ไปได้ ส่งผลให้ต่อมาเขาต้องกลายไปเป็นแรงงานรับจ้างในขบวนการเถื่อนของเสี่ยฮกเสียเอง เมื่อคำรณรู้ข่าวจึงพยายามหยุดยั้งการกระทำของบุญส่ง เป็นเหตุให้ทั้งคู่ถูกคุกคามเอาชีวิตจากเหล่าผู้ที่กลัวจะเสียผลประโยชน์จากการกระทำนี้
น้องเมีย (2533/1990) "แสง" (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) พ่อค้าเรือดูดทรายจากปากน้ำโพ ล่องเรือมากรุงเทพเพื่อขายทราย ขณะที่จอดเรืออยู่นั้น "ปราง" (ภัสสร บุณยเกียรติ) เมียสาวของเขาซึ่งเบื่อหน่ายชีวิตชาวเรือหนีขึ้นฝั่งเพื่อแสวงหาชีวิตใหม่ ทิ้งลูกชายที่เกิดกับแสงที่ยังเป็นทารกไว้ให้ "ทับทิม" (ปัทมวรรณ เค้ามูลคดี) น้องสาวที่อายุเพียงสิบห้าปีดูแลแทน แสงตระเวนตามหาปรางไปทั่วเมือง ในขณะทีเขาหมดหวังกับชีวิตเขากลับพบคุณค่าของคนที่อยู่เคียงข้างเขาตลอด มากกว่าคนในอดีตที่หลุดลอยไป แสง ล่องเรือมากรุงเทพฯ เพื่อขายทราย ขณะที่จอดเรืออยู่นั้น ปราง เมียสาวของเขาซึ่งเบื่อหน่ายชีวิตชาวเรือได้หนีขึ้นฝั่งไป ทิ้งลูกแบเบาะไว้ให้ ทับทิม น้องสาวอายุ 15 คอยดูแล แสงจึงออกตระเวนตามหาปรางแทบพลิกแผ่นดินกรุงเทพฯ ขณะเดียวกัน เขาก็พยายามปลุกปล้ำทับทิมอยู่เป็นประจำ เพราะเมามายจนหลงคิดว่าเป็นเมียของตน แต่ทับทิมก็เอาตัวรอดได้เสมอ และไม่เคยทิ้งเขากับลูกไว้เพียงลำพัง
ก้อนหินในดินทราย (2533/1990) อาม (ลิขิต เอกมงคล) นักร้องหนุ่มได้หลบหนีความวุ่นวายไปยังเกาะสมุย เพราะถูกพอม (ประภัสรา ชุตานุพงษ์) แฟนสาวทิ้งไป ที่เกาะสมุยอามได้พบรักกับวาปี (ชุดาภา จันทเขตต์) และตกลงใช้ชีวิตร่วมกัน แต่แล้วหมอก็ตรวจพบว่าวาปีป่วยเป็นโรคร้ายไม่สามารถมีลูกได้ แต่วาปีต้องยอมสละชีวิตของเธอเองเพื่ออาม ส่วนพอมนั้นได้กลับมาหาอาม แต่ในใจอามมีเพียงวาปีเท่านั้นแม้ว่าเธอจะไม่อยู่แล้วก็ตาม
ดอกฟ้าในมือมาร (2533/1990) น้อง (ดาริน กรสกุล) นักเรียนนอกลูกสาวฮกเกี้ยง (สมยศ เปรมอนันต์) ถูกชาคริต (ลิขิต เอกมงคล) จับตัวไปเพื่อแก้แค้นที่พ่อของตนถูกฮกเกี้ยงฆ่าตายผู้กองอานนท์ (ศราวุฒิ มีคุณสุต) คนรักของน้องจึงออกตามล่าชาคริต อานนท์ได้รับการช่วยเหลือจากชาคริตโดยไม่รู้ว่าชาคริตคือคนที่เขาตามหาอยู่ ด้วยความใกล้ชิดน้องจึงเข้าใจชาคริตพร้อมกับเกิดความรักขึ้นตำรวจบุกมาหาชาคริต ฮกเกี้ยงถูกจับอานนท์ตัดสินใจปล่อยตัวน้องกับชาคริตไป
คือฉัน (2533/1990) ชด การัน บุรี เรณู วิฑูรย์ พากันไปเที่ยวบนดอย และได้พบกับลำเนาเพื่อนของการัน ลำเนาเป็นคนรักธรรมชาติ พัฒนาหมู่บ้านและเป็นครูที่ดอย ชดได้รู้จักและใกล้ชิดกับลำเนา ก่อนกลับกรุงเทพฯ ชดได้มอบหนังสือ ที่ตนชอบให้ลำเนาไว้ ลำเนามาหาชดที่กรุงเทพฯ ทั้งคู่ไปเที่ยวด้วยกัน และได้บอกความในใจว่าชดรักลำเนาและขอแต่งงาน แต่ลำเนาคิดว่ามันเร็วเกินไป สุดท้ายลำเนาก็กลับมาหาชดและจะอยู่ด้วยโดยไม่ต้องแต่งงาน ชดจึงพาลำเนาไปหาพี่ พร้อมกับบอกเรื่องราวของตน พี่ไม่พอใจมาก และนำป้าและน้าไปหาลำเนาที่บ้านตอนชดไม่อยู่ พูดคุยกับลำเนาและต้องการให้มีพิธีแต่งงานแต่สำหรับเธอแล้ว เธอไม่ต้องการ เธอรักชดเธอต้องการแค่ความรู้สึก ชดรู้เรื่องโมโหมากและต่อว่าป้าและน้า แล้วกลับบ้านไปเจอลำเนากำลังเก็บของ และได้ปรับความเข้าใจกัน ลำเนาขอบคุณที่ชดมอบความรักให้เธอ แต่เธอรักหมู่บ้านบนดอยและต้องการกลับไปใช้ชีวิตที่นั่น ลำเนาจึงกลับไปบนดอย ใช้ชีวิตอย่างเดิม
บุญชู 5 เนื้อหอม
บุญชู 5 เนื้อหอม (2533/1990) บุญชู 3 จำจากแม่ ชาวบ้านอำเภอบ้านโค่ง จังหวัดสุพรรณบุรี พากันเฉลิมฉลองให้กับบุญชูซึ่งสอบติดมหาวิทยาลัยเป็นคนแรกของอำเภอ โดยร่วมกันเดินขบวนไปส่งยังท่ารถสองแถว ก่อนจะขึ้นรถแม่ของบุญชูได้ฝากฝังให้ตั้งใจเรียน อย่าออกนอกลู่นอกทาง แต่สั่งสอนนานไปหน่อยจนรถสองแถวออกจากท่าไปแล้ว ทั้งคู่จึงเดินกลับบ้านเพื่อรอรถเที่ยวถัดไป โดยแก้ตัวกับคนที่เจอว่า รถเต็มแล้ว ไปไม่ได้ (บุญชู 3 มีความยาวเพียง4นาทีครึ่ง) บุญชู 4 ปีหนึ่ง ไวยกรณ์พาบุญชูเที่ยวชมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยสอนบุญชูว่าอย่าทำอะไรเปิ่นๆจนเกิดเรื่อง แต่ระหว่างที่จอดจักรยานบริเวณที่จอดนั้น บุญชูเกิดทำจักรยานล้มไปชนจักรยานคันอื่น ทำให้จักรยานล้มต่อกันไปเป็นแถวยาว ไวยกรณ์และบุญชูจึงรีบขี่จักรยานหนีออกมา (บุญชู 4 มีความยาว1นาทีเท่านั้น) บุญชู 5 เนื้อหอม บุญชูเข้าเรียนในคณะเกษตรได้ 3 ปีแล้ว ด้วยความเป็นคนซื่อนิสัยดี เจ้าคารม และสำเนียงเหน่อแบบสุพรรณที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้บุญชูเป็นที่รู้จักของเพื่อนๆทั้งในและนอกคณะ บุญชูได้พบน้องปีหนึ่งชื่อ อำภาวรรณ ซึ่งมีปัญหาเรื่องการเงิน เนื่องจากหลักฐานทางฐานะบ่งบอกว่าเป็นคนมีเงิน แต่อันที่จริงทางบ้านมีปัญหาเรื่องทรัพย์สินอยู่ ทำให้อำภาวรรณไม่ได้รับทุนการศึกษาจากบริษัทที่คอยสนับสนุนอยู่ ตรงกันข้าม ทุนกลับไปอยู่ที่ สายัณห์ ซึ่งนำทุนที่ได้ไปเลี้ยงเหล้าเบียร์เพื่อนๆ เมื่อการเข้าพบอาจารย์ที่รับผิดชอบเรื่องทุนการศึกษาไม่เป็นผลสำเร็จ บุญชูจึงตัดสินใจลงสมัครเลือกตั้งเป็นประธานนิสิต โดยต้องแข่งกับเพื่อนสนิทอีกสองคนคือ เรวัติ และ จันทร์เพ็ญ โดยมีเพื่อนๆชาวก๊วนคอยช่วยเหลือ

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 16 รายการ