เคหาสน์ดาว (2529/1986) คุณเขียว หนุ่มสถาปนิกที่มีบุคลิกซื่อๆ มองโลกในแง่ดี และไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร กับ คุณจ๋อม อาจารย์มหาวิทยาลัยที่มีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะสร้างบ้านของตนเองเพื่อแม่และน้องสาว จากความฝันของคุณจ๋อม ทำให้ได้มารู้จักกับ คุณเขียว และความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ได้ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นความรัก
ชมพู่แก้มแหม่ม
ชมพู่แก้มแหม่ม (2529/1986) ชมพู่ เป็นเด็กสาวที่เติบโตขึ้นมาท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามของชนบทออสเตรีย และมีเพื่อนสนิทคือ ชาร์ลี ซึ่งเป็นลูกครึ่งออสเตรีย-ไทย เช่นเดียวกัน ต่อมาชมพู่รับไม่ได้ที่แม่มีแฟนใหม่จึงอยากกลับเมืองไทย แต่เธอจำเป็นต้องเข้าไปหาเงินที่เวียนนาเพื่อซื้อตั๋วเครื่องบิน โดยมีชาร์ลีตามมาด้วย ที่เวียนนานี้เองที่ทำให้พวกเขาได้เรียนรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงที่ต่างมีให้กัน "แชมพู" หรือ "ชมพู่" กลับมาอยู่ประเทศออสเตรียกับคุณแม่ชาวออสเตรียตั้งแต่ยังเด็ก เพราะพ่อซึ่งเป็นคนไทยได้แยกทางกับแม่ ที่นี่เธอได้พบและสนิทสนมกับ "ชาร์ลี" ลูกครึ่งออสเตรียแม่คนไทย จนทั้งสองเติบโตขึ้นมา ชมพู่รับไม่ได้ที่แม่มีแฟนใหม่ จึงอยากกลับเมืองไทย แต่ต้องหาเงินค่าตั๋วเครื่องบิน จึงได้ออกเดินทางไปเมืองหลวงออสเตรียพร้อมกับชาร์ลี ซึ่งที่นี่เองที่ทำให้ทั้งสอง เจอเรื่องราวต่างๆมากมาย พร้อมทั้งมิตรภาพจากเพื่อนๆ รวมทั้งความรู้สึกที่มีต่อชาร์ลี รักต่างแดนที่ก่อกำเนิดขึ้นจากความใกล้ชิดและเห็นใจซึ่งกันและกัน
แรงหึง (2529/1986) เจนภพเป็นคนเจ้าชู้และเป็นพ่อหม้ายลูกติด ได้แต่งงานใหม่กับนพนภาซึ่งมีพ่อเป็นอธิบดี เจนภพได้มุตาซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในกรมของตัวเองเป็นภรรยาลับๆ เจนภพโดนนพนภาจับได้และตบหน้ามุตาต่อหน้าคนมากมาย มุตาลาออกจากงานกลับบ้านต่างจังหวัดและรู้สึกว่าตัวเองท้อง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา มุนินทร์น้องสาวฝาแฝดกลับมาจากต่างประเทศ ทั้งคู่นิสัยต่างกัน มุตาเรียบร้อยไม่มีปากเสียง มุนินทร์เป็นคนแข็งและไม่ยอมใคร มุนินทร์รู้เรื่องของมุตาจึงโกรธมากและปลอมเป็นมุตา วีกิจเป็นหลายชายของเจนภพขอร้องให้วีกิจเลิกติดต่อกับมุตาแต่วีกิจไม่ยอม และมุตาก็พยายามยั่วให้เจนภพหึง นพนภารู้ว่าเจนภพจะซื้อบ้านและรถให้มุตา จึงมาอาละวาดที่ทำงาน แต่โดนมุนินทร์ตบ เจนภพถูกอธิบดียื่นคำขาดให้เลิกกับมุตา มุนินทร์แก้แค้นได้สำเร็จจึงลาออก วีกิจต่อว่ามุนินทร์ทำให้ทั้งสองผิดใจกัน วีกิจมาหามุนินทร์ที่บ้านและปล้ำเธอเป็นเมีย เจนภพได้คุยกับวีกิจและทำให้เข้าใจว่าต้องมี 2 คน แน่นอนวีกิจตามมาที่บ้านของมุตาและพามุตาไปโรงพยาบาล นพนภาตามมาและขับรถชนทั้งคู่ เจนภพถูกส่งโรงพยาบาล นพนภาถูกจับ วีกิจได้พบกับมุนินทร์และทำความเข้าใจต่อกัน
เกิดมาลุย 1 (2529/1986) เรื่องราวของ ธง หนุ่มนักบู๊ที่มีภารกิจต้องตามหาเพื่อปกป้อง ทนายเสียนฟง ผู้หลบหนีมายังหนองคาย เพราะรู้ความลับของแก๊งมาเฟียฮ่องกง
หัวใจเดียวกัน (2529/1986) ตะวันและเอินเรียนอยู่ห้องเดียวกัน ตะวันมีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักเต้นจึงทำให้ไม่ค่อยตั้งใจเรียนและอาจารย์ตำหนิบ่อยๆ พ่อและแม่ของเอินไม่ชอบตะวันด้วยเหตุนี้ จึงให้คนมาบอกให้ตะวันเลิกคบกับเอิน ตะวันเริ่มท้อแท้กับชีวิตและเริ่มมีอาการปวดหัว ตะวันสอบตกเอินเป็นห่วงมาก ตะวันพยายามหลบหน้า อีกทั้งยังถูกพ่อของเอินกีดกันไม่ให้เจอกัน เอินป่วยเป็นโรคร้ายจนต้องผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ ส่วนตะวันก็ปวดหัวมากขึ้นจนกระทั่งเส้นเลือดในสมองแตก ตะวันรักเอินมาก ก่อนตายเขาได้บอกให้แม่เอาหัวใจของเขาให้เอิน ทั้งสองจึงอยู่ด้วยกันตลอดไป
แม่ดอกรักเร่ (2529/1986) บัวตอง กับ ดวง คู่รักบ้านนา ดวงมีความฝันอยากเป็นนักร้อง จนกระทั่งได้รับการติดต่อให้เป็นนักร้องลูกทุ่งที่เมืองหลวง ทำให้ต้องจากบัวตองไป และด้วยความแร้นแค้นประกอบกับหนี้สินมากมาย ทำให้บัวตองตัดสินใจมาที่กรุงเทพฯ แต่เมื่อมาถึงก็โดนวิ่งราวจนหมดตัว แต่ยังโชคดีได้รับความช่วยเหลือจากเทพ ที่ให้ที่พักและความช่วยเหลือจนกว่าจะมีงานทำ ทำให้บัวตองกับเทพผูกพันกันมากขึ้น เมื่อบัวตองได้เจอกับดวงอีกครั้ง ทำให้ต้องตัดสินใจเลือกระหว่างรักเก่าที่เธอตามหาอย่างดวง กับรักที่มีแต่การให้อย่างเทพ เธอจะตัดสินใจอย่างไร
พ่อจอมยวน แม่จอมยุ่ง (2529/1986) ช่อฟ้าและเฟื่องฝนเป็นลูกสาวนายอำเภอ ไววิทย์เป็นนายช่างเครื่องยนต์ ไววิทย์เป็นคนทะเล้นชอบกินเหล้าเมายาเฮฮาผู้หญิงเต็มสูตร ไววิทย์ไม่ถูกชะตากับฝนตั้งแต่แรกพบและทะเลาะกันทุกครั้ง ไววิทย์แอบชอบฟ้าและมักแวะเวียนมาหาแต่โดนฝนแกล้งตลอด พ่อแม่ของไววิทย์มาขอหมั้นฝนโดยไม่รู้ว่าผิดตัว ฝนยอมรับหมั้นเพราะไม่ต้องการให้ไววิทย์แต่งงานกับฟ้า และจะดัดนิสัยไววิทย์ให้เลิกทำตัวไม่ดี ไววิทย์ผิดหวังมากเมื่อรู้ว่าหมั้นกับฝนแต่ขัดพ่อแม่ไม่ได้ พ่อแม่และฝนรวมทั้งคณะช่างได้พากันเที่ยวป่า ไววิทย์มีเรื่องทะเลาะกับฝนตลอดเวลา ไววิทย์ขอแหวนหมั้นคืนและแย่งเอาจากมือของฝน ฝนผลักไววิทย์ตกลงไปไหล่เขาทำให้ดวงวิญญาณไววิทย์ได้ไปพบยมบาล แต่ดวงยังไม่ถึงคาดจึงถูกส่งกลับ ฝนรู้สึกผิดจึงพยาบาลไววิทย์อย่างดีและทำความเข้าใจกัน
อีกครั้ง (2529/1986) ภัทรา สาวสวยมาดเท่ ที่ชอบพอกับ พลวัฒน์ หนุ่มหล่อจอมกวนโทสะ วันหนึ่ง บริษัทที่ภัทราทำงานเป็นเลขาอยู่ ได้เข้าไปถ่ายทำหนังเรื่องหนึ่งที่มี หนิง เป็นพระเอก และ อุ้ย เพื่อนของเธอเป็นนางเอก ด้วยความเจ้าชู้ของหนิง ทำให้เขาจีบคนรอบข้างไปทั่ว รวมไปถึงภัทรา แต่อุ้ยนั้นกลับรักหนิงอย่างจริงจัง เรื่องรักสามเส้าจึงเกิดขึ้น เรื่องราวความรักของ ภัทรา หญิงสาวจิตใจดี ที่ได้พบรักกับ พลวัฒน์ เศรษฐีหนุ่มจอมเจ้าชู้ที่ไม่เคยจริงจังกับผู้หญิงคนไหน แต่ด้วยความจริงใจของภัทรา ทำให้พลวัฒน์ปรับปรุงตัวและมุ่งมั่นที่จะแต่งงานกับภัทราให้ได้ แต่อุปสรรคความรักเกิดขึ้นเมื่อภัทราได้ร่วมงานกับ สราวุฒิ นักแสดงและผู้กำกับชื่อดัง ที่หมายปองในตัวภัทราเหมือนกัน สุดท้ายบทสรุปความรักของภัทราจะเป็นเช่นไร
ราชินีดอกหญ้า (2529/1986) คณะหมอลำคณะ ส.บันเทิงศิลป์ จำต้องปิดตัวลงเพราะความนิยมเพลงหมอลำที่ลดลง จนเมื่อ ทรงวิทย์ หนุ่มนักเรียนนอก ยื่นมือเข้ามาช่วยประยุกต์ให้เข้ากับแนวดนตรีสมัยใหม่ จนกำเนิดวงดนตรีวงใหม่นามว่า คณะลำเพลินประยุกต์ ในขณะเดียวกัน เขาก็ตกหลุมรัก วรรณฉวี นางเอกหมอลำของคณะ ผู้ได้กลายเป็นราชินีดอกหญ้าที่ยิ่งใหญ่ในใจแฟนเพลง
หักเหลี่ยมแดร็กคูล่า (2529/1986) ข้อความบนใบปิด ดารากรภาพยนตร์และดนตรี ภูมิใจเสนอ ตลกเฮฮา ได้สาระตื่นเต้นสยองขวัญ มีครบครันใน “หักเหลี่ยมแดร็กคูล่า” แถมยังมีแอนตี้สงครามด้วยนะจ๊ะ... หักเหลี่ยมแดร็กคูล่า ของ “วดีวงศ์” สินจัย หงษ์ไทย ล้อต๊อก เทพ เทียนชัย ดี๋ ดอกมะดัน รัศมี เทวา, สมศักดิ์ ชัยสงคราม, บู๊ วิบูลย์นันท์, สีหมึก, สีละอ่อน, เมือง อพอลโล่, ฉกาจ และชุมนุมดาวตลกมากมาย ฯลฯ ยาฮิโกะ บาบา ที่ปรึกษาฝ่ายเท็คนิค สมควร วงศ์จำรัส ถ่ายภาพ ประไพพร เวชพิบูลย์ ดำเนินงานสร้าง สมวงศ์ ทิมบุญธรรม กำกับการแสดง แสนสุข อินทรพรหม อำนวยการสร้าง เริงชัย จารุพัฒนเดช ที่ปรึกษา ดารากรภาพยนตร์และดนตรี จัดจำหน่าย ภาพยนตร์ตลกเฮฮา มีสาระได้มาตรฐาน (ดูได้ทั้งครอบครัว) (ที่มา :Thai Movie Posters)
น้ำเซาะทราย (2529/1986) เรื่องราวของ "ภีม" ชายหนุ่มที่มีภรรยาอย่าง "วรรณรี" อยู่แล้วแต่เมื่อ "พุดกรอง" เพื่อนสาวคนสนิทของภรรยาที่ภีมเคยรักมาก่อน ได้เข้ามาเกี่ยวข้อง ก่อให้เกิดความแตกแยกในครอบครัวของภีมอย่างรุนแรง ภีม และ วรรณรี คู่รักที่ใช้ชีวิตอยู่กับลูกน้อยสองคนที่กำลังเติบใหญ่ จนเมื่อ พุดกรอง ม่ายสาวผู้เป็นเพื่อนรักของวรรณรีได้เข้ามาใกล้ชิดกับพวกเขา และเกิดมีสัมพันธ์กับภีม ครอบครัวที่เคยสงบสุขก็มีถึงคราวต้องแตกสลาย
วัยร็อกเพลงร้อน (2529/1986) ข้อความบนใบปิด UNITY FILM PRODUCTION วัยแห่งเสียงเพลง วัยแห่งความเร่าร้อน ซ่อนไว้ด้วยความทะเล้นนิดๆ วัยร็อกเพลงร้อน ฟังเพลงมันในอารมณ์ 12 เพลง ใหม่ ศิริวิมล อนันต์ บุนนาค แหลม มอริสัน สรยุทธ สังข์บัวแก้ว, สมเกียรติ คุณานิธิพงศ์, ตุ๊กตา ยลระบิล, แดง แดนนี่, โรเบิร์ต ธันวา ทิพยจันทร์ ที่ปรึกษา ศิลปชัย เที่ยงวงศ์ ดำเนินงานสร้าง อรุณ สุภัทพงศ์ ถ่ายภาพ อาร์ม บุนนาค กำกับการแสดง-อำนวยการสร้าง (ที่มา :Thai Movie Posters)
อุ้งมือมาร (2529/1986) "ดำ ชุมพร" (พิศาล อัครเศรณี) ชาวประมงหน้าตาดุดันจำต้องเข้ากรุงเทพโดยด่วน เพื่อจะเจรจากับเจ้าหนี้ที่กำลังจะยึดเรือของเขา ทว่าเขากลับเจอเพียง "อ้วน" (นาถยา แดงบุหงา) หญิงม่ายลูกสาวของเจ้าหนี้ ดำจำต้องจับตัวเธอเพื่อให้นำทางไปหาพ่อซึ่งพักผ่อนอยู่ต่างจังหวัด แม้อ้วนจะไม่ชอบกริยาป่าเถื่อนของดำและคอยหาเรื่องจิกกัดกันตลอดทาง แต่เธอกับเขาจำต้องจับมือฝ่าปัญหานับร้อยที่ถ่าโถมเข้ามาหา จนความเกลียดชังของคนทั้งคู่กลับแปรเปลี่ยนเป็นความรักอย่างที่ทั้งคู่คาดไม่ถึง หลังออกเรือหาปลานานแรมเดือน ดำ ชุมพร พบว่าเจ้าหนี้ที่เขากู้เงินมาซื้อเรือ กำลังจะยึดเรือเขาเพราะขาดส่งเงินผ่อนไปหลายวัน ดำจึงตัดสินใจเดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อคุยกับเจ้าหนี้ด้วยตัวเอง ทว่าเขากลับเจอเพียงอ้วน หญิงม่ายลูกสาวของเจ้าหนี้ ดำจำต้องจับตัวเธอเพื่อให้นำทางไปหาพ่อซึ่งพักผ่อนอยู่ต่างจังหวัด แม้อ้วนจะไม่ชอบกริยาป่าเถื่อนของดำและคอยหาเรื่องจิกกัดกันตลอดทาง แต่เธอกับเขาจำต้องจับมือฝ่าปัญหานับร้อยที่ถ่าโถมเข้ามาหาจนเกิดรักกันในที่สุด
เมียแต่ง (2529/1986) อรุณประไพ หญิงสาวที่เพียบพร้อมด้วยรูปสมบัติและคุณสมบัติ ได้ใช้ชีวิตแต่งงานกับคงไคย ชายที่เธอไม่ได้รัก เพราะหนีคำครหาการคบชู้กับภุชงค์เพื่อนที่แสนดีของเธอ เมื่อเธอแต่งงานก็พบว่าชีวิตแต่งงานไม่ได้สวยหรูอย่างที่คนทั่วไปพบเจอ เพราะคงไคยมีผู้หญิงอยู่ก่อนแล้วคือปรุงฉัตร คงไคยก็เช่นเดียวกัน จึงหาทางหย่ากับอรุณประไพ แต่เมื่อทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันนานเข้า ความใกล้ชิดจึงทำให้ทั้งคู่เข้าใจกันมากขึ้น ปัญหาในชีวิตการแต่งงานเริ่มประดังเข้ามาอีกเมื่อปรุงฉัตรมาอ้างสิทธิ์การเป็นภรรยาโดยตั้งท้อง แต่สุดท้ายคงไคยก็รู้ความจริงว่าปรุงฉัตรโกหกเรื่องลูกเพื่อจะมาผูกมัดไว้ คงไคยจึงกลับไปหาอรุณประไพที่กำลังตั้งท้องอยู่เช่นกัน ชีวิตการแต่งงานของทั้งคู่จึงจบลงด้วยความสุข
เจ้าสาวมะลิซ้อน (2529/1986) ข้อความบนใบปิด พีแอนด์วี ซีเนโปรดั๊กชั่น โดย วีระศักดิ์ (กำนันนั้ม) จุลนิพิฐวงษ์ สร้าง รื่นเริงสุขสำราญ เหมือนดอกไม้บานยามเช้า เจ้าสาวมะลิซ้อน ของ ปราศรัย กีรกะจินดา จารุณี สุขสวัสดิ์ พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ปัญญา นิรันดร์กุล พร้อมด้วย ส.อาสนจินดา, บู๊ วิบูลย์นันท์, เศรษฐา ศิระฉายา, สายัณห์ จันทรวิบูลย์, สมชาย สามิภักดิ์, ลักษณ์ อภิชาติ, ท้วม ทรนง, จุ่น, สมควร กระจ่างศาสตร์, โชติกา, พิมพ์ใจ โสภณ เจนพานิช กำกับการแสดง-ถ่ายภาพ-ลำดับภาพ ปราศรัย กีรกะจินดา เรื่อง-บทภาพยนตร์ ประเทือง จุลนิพิฐวงษ์ ดำเนินงานสร้าง (ที่มา :Thai Movie Posters)
คู่วุ่นวัยหวาน (2529/1986) ชีวิตสนุกๆ ของหนุ่มเสเพลเช่น มีน กำลังเจอปัญหา เมื่อถูกไล่ออกจากบ้านเพราะติดการพนัน จนมาพบกับ เจี๊ยบ ซึ่งคอยช่วยเหลือเขา โดยชวนให้มีนไปอยู่ที่บ้านด้วยกัน เจี๊ยบมีน้องสาวชื่อ แจง ซึ่งไม่ค่อยถูกกับมีน วันหนึ่ง เมื่อเจี๊ยบจัดการเปิดโปงเรื่องการโกงเงินทุนการศึกษาภายในโรงเรียน ทั้งที่แจงน้องสาวเขาควรจะได้รับ ทำให้เจี๊ยบถูกไล่ออกและส่งตัวไปโรงพยาบาลบ้า ในบ้านจึงเหลือเพียงมีนกับแจงที่ต้องดูแล ทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกันมากขึ้น มีนช่วยดูแลแจงให้และทั้งสองเริ่มสนิทกัน มีนตั้งใจเรียนมากขึ้นและสมัครเป็นนักมวย เพื่อชกอย่างถูกต้องบนเวที แต่เมื่อแจงรู้ว่าพวกจิ๊กโก๋ที่เคยทำร้ายเธอเป็นพวกเพื่อนของมีนจึงโกรธมาก มีนเสียใจจึงออกจากบ้าน เจี๊ยบถูกจับอีกครั้งแจงขอให้มีนช่วยตามหา เมื่อพบกันทุกคนต่างเข้าใจกัน