คนึงหา (2514)
คนึงหา (2514/1971) ภูมิ รัตนบดินท์ (มิตร ชัยบัญชา) ถูกแม่บังคับให้แต่งงานกับ ประกายฟ้า (โขมพัสตร์ อรรถยา) ซึ่งยังศึกษาอยู่ที่ต่างประเทศ แต่ภูมิไม่ได้รักประกายฟ้า จึงคิดหาวิธีที่จะยกเลิกการแต่งงานเพราะภูมิมีคนรักอยู่แล้ว แต่อีก 8 เดือนคนรักถึงจะกลับเมืองไทย ภูมิจึงได้ร่วมกับ ไผท (ประจวบ ฤกษ์ยามดี) เปิดรับสมัครหญิงสาวมาเป็นภรรยาแต่ในนาม ยาย ม่านแก้ว (พิศมัย วิไลศักดิ์) จึงมาสมัครเป็นภรรยากำมะลอ เรื่องราวสนุกสุดหรรษาจึงเกิดขึ้น
ไอ้หนุ่มบ้านนา (2514)
ไอ้หนุ่มบ้านนา (2514/1971) ข้อความบนใบปิด อัมพรภาพยนตร์ ผู้สร้าง แม่ย่านาง เสนอ ไอ้หนุ่มบ้านนา นำโดย ไชยา สุริยัน เพชรา เชาวราษฎร์ จารุวรรณ ปัญโญภาส, สังข์ทอง สีใส และดาวรุ่งวัยรุ่น จิระศักดิ์ ปิ่นสุวรรณ, รอง เค้ามูลคดี, พนาไพร ลูกราชบุรี ฟังเพลงบ้านนา 35 ม.ม. 9 เพลงไพเราะ ร่วมด้วย จิ๋ว พิจิตร, ล้อต๊อก, จำรูญ หนวดจิ๋ม, หวังเต๊ะ สมาน ทองทรัพย์สิน ถ่ายภาพ อัมพร ประทีปเสน ดำเนินงานสร้าง ชุนห์ รัตนะวิเชียร อำนวยการสร้าง พลรบ กำกับการแสดง นวฤทธิ์ฟิล์ม จัดจำหน่าย
จงอางผยอง (2514)
จงอางผยอง (2514/1971) เหตุการณ์ในสมัยปลายอยุธยา เรื่องราวของ เพชร แข หลินหลิน และเจียงไฮ่ เพื่อนร่วมสาบานสี่คนที่ต้องกำพร้าพ่อแม่จากน้ำมือของ อิน และบรรดาลูกสมุน ทั้งหมดตั้งสัตย์ปฏิญาณไว้ว่า เมื่อเติบโตขึ้นจะกลับมาชำระแค้นให้ครอบครัว เวลาผ่านไปเมื่อกรุงศรีอยุธยาแตกพ่าย เพชรสืบทราบว่าอินกำลังเป็นไส้ศึกให้แก่พม่า เขาตัดสินใจรวบรวมคนไทยและบรรดาเพื่อนร่วมสาบาน เพื่อหวังล้างแค้นและปกป้องแผ่นดินเกิด ในปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่หมู่บ้านบางปลาสร้อยซึ่งตั้งอยู่ริมทะเล เป็นที่อยู่ของเด็กไทยและจีน 4 คน คือ เพชร เจียงไฮ แข และหลินหลิน ขณะที่ชาวบ้านไทยจีนที่กำลังฉลองตรุษจีนร่วมกันอย่างสนุกสนาน ก็มีกลุ่มโจรนำโดย อิน เอิบ ดวง และ เอี้ยง เข้ามาปล้นหมู่บ้าน และได้เข่นฆ่าทำร้ายผู้ที่ต่อสู้ขัดขืนไปหลายราย รวมถึงบิดามารดาของเด็กทั้ง 4 ถูกสังหารหมด นอกจากแม่เจิดมารดาของแขที่ถูกฟันแขนขาด และเด็กทั้ง 4 ซึ่งรอดชีวิตมาได้ ต่างสาบานว่าอีก 15 ปีจะกลับมาล้างแค้น ก่อนที่เจียงไฮและหลินหลินจะตามก๋งไปฝึกวิชาการต่อสู้ที่เมืองจีน 15 ปีผ่านไป ที่สำนักดาบโพธิ์ทองคำ แขซึ่งโตเป็นสาว ได้พยายามขอร้องไม่ให้แฟนหนุ่มชื่อเสือไปเป็นทหารที่คลองพลู ค่ายทหารของขุนอินทเดชะ แต่ไม่เป็นผล มิหนำซ้ำแขและแม่เจิดยังได้ทราบว่าแท้ที่จริง เขาเป็นลูกชายของเอิบน้องชายของขุนอินทเดชะหรืออินหัวหน้าโจรที่เข้าปล้นบ้านบางปลาสร้อยในครั้งนั้น โดยเอิบเป็นผู้ฟันแขนแม่เจิดขาดนั่นเอง แม้ว่าสองแม่ลูกจะรู้สึกเคืองแค้น แต่ก็ไม่ได้บอกความจริงกับเสือ คงปล่อยให้แขไปพบกับเสือเพื่อร่ำลากัน แต่เมื่อแขกลับมาที่พักก็พบว่าแม่ถูกฆ่าตาย ขณะที่แขกำลังร่ำไห้ที่หลุมศพแม่ที่นำมาฝังเคียงข้างพ่อ ก็ได้พบกับเจียงไฮกับหลินที่พึ่งกลับจากเมืองจีนมาตามคำสาบาน แขเล่าให้เพื่อนจากเมืองจีนทราบว่าขณะนี้อินได้เป็นขุนอินทเดชะก่อนที่กรุงจะแตก และซ่องสุมผู้คนอยู่ที่คลองพลูอ้างว่าจะร่วมกู้ชาติกับพระยาตาก ทีแรกทั้งสามตั้งใจจะรอปรึกษาเพชรก่อน โดยไม่ทราบว่าเพชรได้แฝงตัวเข้าไปอยู่ในค่ายคลองพลูในชื่อว่าเปลว เพื่อสืบข่าวให้กับพระยาตากอยู่ เมื่อทั้งสามรอเพชรไม่ไหว จึงปลอมตัวเป็นพ่อค้าเข้าไปหวังจะทำร้ายขุนอินกับพวก แต่ไม่สำเร็จเนื่องจาก "เปลว" และเสือเข้ามาขัดขวาง ทำให้แขกับหลินหลินถูกจับตัว เจียงไฮหนีรอดไปได้โดยเข้าใจว่าเพชรทรยศเพื่อน ขุนอินออกเดินทางไปธุระอ้างว่าไปพบพระยาตาก อีกด้านหนึ่ง ทหารของขุนอินได้ตามจับและสังหารม้าด่วนของพระยาตาก ยึดสาส์นลับไว้ เจียงไฮเข้ามาพบและสังหารคนของขุนอิน แล้วเกิดการต่อสู้กับเพชรซึ่งยังเข้าใจผิดกันอยู่ แต่เมื่อเจียงไฮได้ดูสาส์นลับจึงทราบความจริงว่าเพชรจำต้องปลอมตัวเป็นสายให้พระยาตาก แล้วจึงนัดหมายกันที่จะหาทางช่วยเหลือแขกับหลินหลินออกมาจากที่คุมขัง เมื่อขุนอินกลับมายังค่าย เพชรถูกจับได้ขณะพยายามช่วยเพื่อนหญิงทั้งสองเพราะที่จริงคนของขุนอินที่ตามจับม้าเร็วของพระยาตากแล้วถูกเจียงไฮทำร้ายนั้น รอดชีวิตมาได้คนหนึ่งและได้ยินที่เพชรพูดกับเจียงไฮตลอด ขุนอินจับเพชรมัดไว้กับพื้นแล้วบอกความจริงว่าที่ไปธุระมานั้นคือไปพบโปสุพลา แม่ทัพพม่าเพื่อขนปืนใหญ่และกระสุนดินดำมาใช้โจมตีกองทัพของพระยาตากในวันที่จะยกทัพผ่านค่ายคลองพลู แล้วจึงให้ลูกน้องเอาด้ามดาบกระแทกมือเพชรเพื่อให้เพชรกลายเป็นคนพิการ เจียงไฮได้ลอบเข้ามาช่วยเพื่อนทั้งสามออกมาจากค่ายคลองพลูได้ แขได้เสนอความเห็นว่าควรไปขอกำลังจากสำนักดาบโพธิ์ทองคำมาช่วยในการกำจัดขุนอิน แต่อาจารย์ของแขไม่เชื่อว่าขุนอินจะขายชาติจึงจับกุมทั้งสี่ไว้ กว่าท่านครูจะทราบความจริงจากชาวบ้านที่มาส่งข่าว ทั้งสี่ก็ได้รับบาดเจ็บไปตามๆ กัน เพชรต้องแก้ปัญหาเรื่องมือเจ็บโดยขอให้หลินหลินเอาผ้ามัดดาบไว้กับมือ แล้วทั้งสี่ก็นำท่านครูกับบรรดาศิษย์สำนักดาบโพธิ์ทองคำไปจัดการถล่มค่ายคลองพลูของขุนอิน โดยทั้งสี่สามารถสังหารผู้ที่ฆ่าพ่อแม่ของตนได้ แล้วจัดการทำลายค่ายคลองพลูตลอดจนปืนใหญ่ของขุนอินจนสิ้นซาก พระยาตากจึงสามารถเดินทัพผ่านคลองพลูมุ่งสู่จันทบุรีได้
กลัวเมีย (2514)
กลัวเมีย (2514/1971) สมบัติ-อรัญญา ข้อความบนใบปิด ศรีกรุงภาพยนตร์ ภาพยนตร์ระบบเสียงมาตรฐาน 35 ม.ม. เต็มจอยักษ์ ท่านจะได้ฟังคำพูด และความรู้สึกที่แท้จริง ในขณะถ่ายทำของเหล่าดาราคนโปรดของคุณ ในระบบ “ดับเบิลซิสเต็ม” เป็นประวัติศาสตร์ของเมืองไทย ที่ได้ประกอบเพลงแบคกราวน์ทั้งเรื่อง โดยสร้างขึ้นเองอย่างมีชีวิตชีวา เข้ากับภาพทุกตอน อย่างที่ไม่มีมาก่อน กลัวเมีย สมบัติ เมทะนี อรัญญา นามวงษ์ นงลักษณ์ โรจนพรรณ, รุจน์ รณภพ, โขมพัสตร์ อรรถยา, พฤหัส บุญหลง, มนัส บุณยเกียรติ, ดำ แดนสุพรรณ, ขวัญจิต ศรีประจันต์ , ศรีสละ ทองธารา ดารารับเชิญ ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์, พ.ต.ต.ประชา พูนวิวัฒน์, เมตตา รุ่งรัตน์ มานิต วสุวัต อำนวยการสร้าง ขุนวิจิตรมาตรา กำกับการแสดง ชายชาญ วสุวัต ผู้จัดสร้าง รัตนาชัยฟิล์ม จัดจำหน่าย
แก้วสารพัดนึก (2514)
แก้วสารพัดนึก (2514/1971) ข้อความบนใบปิด ภาพยนตร์ไทยไตรมิตร เสนอ ภาพยนตร์ 35 ม.ม.ซีนิมาสโคป เสียง..สีอิสต์แมน.. ภาพยนตร์ชีวิตรักต่อสู้..แนวแปลก... สมบัติ เมทะนี อรัญญา นามวงษ์ นำใน แก้วสารพัดนึก จากบทประพันธ์ของ สันต์ เทวรักษ์ 9 เพลงเอก พร้อมด้วย ประจวบ ฤกษ์ยามดี, เนตรนภา, รุจน์ รณภพ, พฤหัส บุญหลง, มารศรี, พูนสวัสดิ์ ธีมากร, วราภรณ์, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม, ทองฮะ, ชูศรี โรจนประดิษฐ์, สีเทา และ ชินกร ไกรลาศ, ศรีไพร ลูกราชบุรี, ละอองดาว, ชาตรี ศรีชล ผู้ให้เกียรติร่วมแสดง อดุลย์ ดุลยรัตน์, เชาว์ แคล่วคล่อง, เสน่ห์ โกมารชุน, ศรีสละ ทองธารา, หม่อมชั้น พวงวัน และ ลินจง บุนนากรินทร์, ไศลทิพย์... แท้ ประกาศวุฒิสาร กำกับการแสดง พันทิพา ประกาศวุฒิสาร อำนวยการสร้าง