ชุมทางหาดใหญ่ (2509)
ชุมทางหาดใหญ่ (2509/1966) พ.ต.ต. ทนนัก เสนาประจักษ์ ผู้ปลอมตัวมายังหาดใหญ่เพื่อสืบคดีของจอมโจร มะเซ็งกะ ที่ถูกกล่าวหาว่ายิงตำรวจตาย และไปอาศัยอยู่กับ ลีกิมซัว หัวหน้าผู้ก่อการร้ายไร้ชาติ แต่ทันทีที่ทนนักไปถึง เขากลับถูกลูกน้องของลีกิมซัวจับตัว จึงต้องแสร้งเป็นบ้า เหตุการณ์บานปลายจน จ่าดับ จำเปาะ กับเหล่า 7 ประจัญบาน ต้องออกโรงมาช่วยปราบปรามเหล่าร้าย
ลมหนาว (2509)
ลมหนาว (2509/1966) นันทนาครภาพยนตร์ ขอมอบของขวัญอันเป็นมิ่งมงคล แก่ชีวิตทุกชีวิตที่อยู่ใต้พระบรมโพธิสมภาร โปรดเกล้าพระราชทานเพลงพระราชนิพนธ์ "ลมหนาว" เป็นเพลงเอก ฟัง! เพลงพระราชนิพนธ์ "ลมหนาว" บรรเลงด้วยดนตรี 101 ชิ้น ยิ่งใหญ่ที่สุด จากนวนิยายชีวิตในนิตยสาร เดลิเมล์วันจันทร์ โดยนักประพันธ์ตุ๊กตาทองพระราชทาน รพีพร นำโดยดาราที่ปวงประชาทุกครัวเรือนถือเสมือนญาติสนิท...
พระอภัยมณี (2509)
พระอภัยมณี (2509/1966) พระอภัยมณี (มิตร ชัยบัญชา) ที่ถูกนางยักษ์ผีเสื้อสมุทร (เพชรา เชาวราษฎร์) ลักพาตัวมาไว้ในถ้ำ แม้จะไม่ยินยอม แต่พระอภัยมณีกับนางยักษ์ก็มีสัมพันธ์กันจนเกิดบุตรชายชื่อว่า สินสมุทร วันหนึ่ง เมื่อสินสมุทรพบครอบครัวเงือกโดยบังเอิญ แผนการหลบหนีนางยักษ์ของพระอภัยมณีจึงเริ่มต้นขึ้น
อรุณเบิกฟ้า (2509)
อรุณเบิกฟ้า (2509/1966) ข้อความบนใบปิด จินดาวรรณภาพยนตร์ เสนอ จากละครวิทยุแสนดีของคณะ “แก้วฟ้า” บทประพันธ์ของ...”นราวดี” อรุณเบิกฟ้า พิศมัย วิไลศักดิ์ สมบัติ เมทะนี ขวัญใจ สะอาดรักษ์, วิไลวรรณ วัฒนพานิช, วงทอง ผลานุสนธิ์, สุวิน สว่างรัตน์, ไฉน, เยาวเรศ นิสากร, ขวัญตา บัวเปลี่ยนสี ร่วมด้วย แก่นใจ มีนะกนิษฐ์, เมืองเริง ปัทมินมร์, สมพล กงสุวรรณ, วนิดา, ทรงวุฒิ, เสน่ห์ โกมารชุน, ชูเตี้ย, ดาวน้อย ดวงใหญ่, ชาย, แอ๋ นุชเล็ก, ประยูร, พรชัย พร้อมด้วยทีมนักร้องแผ่นเสียงทองคำ จินตนา สุขสถิตย์, มีศักดิ์ นาคนัตน์, สักรินทร์ ปุญญฤทธิ์, อรสา อิศรางกูร, ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา ขอเสนอยอดชายคนใหม่ เพชร พิษณุ สมาน ทองทรัพย์สิน ถ่ายภาพ วงทอง ผลานุสนธิ์ อำนวยการสร้าง ศิริ ศิริจินดา กำกับการแสดง สุระสา สร้างบทภาพยนตร์ อนันต์ ชลวนิช ดำเนินงาน วัชรภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
น้อยไจยา (2509)
น้อยใจยา (2509/1966) ฉ่ำชื่น แช่มช้อย ต้องชม น้อยไจยา น้อยไจยา (ไชยา สุริยัน) ชายหนุ่มรูปงามแต่ฐานะยากจน รักใคร่อยู่กับแว่นแก้ว (เพชรา เชาวราษฎร์) ลูกสาวของเศรษฐี แต่แว่นแก้วมีคู่หมั้นหมายอยู่แล้วคือส่างนันตา (ทักษิณ แจ่มผล) พ่อค้าชาวพม่า ส่างนันตารู้ว่าแว่นแก้วผู้เป็นคู่หมั้นของตนผูกสมัครรักใคร่อยู่กับน้อยไจยาก็ไม่พอใจ และหาทางกลั่นแกล้งน้อยไจยาอยู่เสมอ ยิ่งทำให้แว่นแก้วรู้สึกสงสารน้อยไจยายิ่งขึ้น เมื่อใกล้ถึงกำหนดวันแต่งงานของส่างนันตากับแว่นแก้ว น้อยไจยากับแว่นแก้วตกลงใจพากันหนีแต่ถูกจับได้ระหว่างทาง เศรษฐีผู้เป็นพ่อของแว่นแก้วจับตัวน้อยไจยาส่งให้เจ้าเมืองตัดสินโทษในข้อหาลักพาตัวลูกสาวของตน เจ้าเมืองไต่สวนข้อเท็จเจริงจากน้อยไจยา แว่นแก้ว ส่างนันตา และตัดสินให้น้อยไจยาพ้นความผิด และให้น้อยไจยากับแว่นแก้วแต่งงานกันได้ แต่ต้องเสียค่าทำขวัญให้กับส่างนันตา ทำให้น้อยไจยาและแว่นแก้วได้ครองรักกันสืบต่อมา กลายเป็นตำนานรักอมตะ
โสนน้อยเรือนงาม (2509)
โสนน้อยเรือนงาม (2509/1966) กษัตริย์นครโรมวิสัย (ม.ล.ขาบ กุญชร) มีพระราชธิดาที่งดงามมาก เมื่อพระราชธิดาประสูติมีเรือนไม้เล็กๆปรากฎขึ้นข้างกาย เรือนนี้เมื่อพระธิดาเจริญวัยขึ้น เรือนไม้นี้ก็โตขึ้นด้วยและกลายเป็นของเล่นของพระราชธิดา พระบิดาจึงตั้งชื่อพระราชธิดาว่า โสนน้อยเรือนงาม (เพชรา เชาวราษฎร์) เมื่อโสนน้อยเรือนงามมีพระชนม์พรรษาได้สิบห้าพรรษา โหรทูลพระบิดาว่าโสนน้อยเรือนงามกำลังมีเคราะห์ ควรให้ออกไปจากเมืองเสีย เพราะจะต้องอภิเษกกับคนที่ตายแล้ว พระบิดาและพระมารดาก็จำใจให้โสนน้อยเรือนงามออกไปจากเมืองแต่ผู้เดียว โสนน้อยเรือนงามปลอมตัวเป็นชาวบ้านและเอาเครี่องทรงพระราชธิดาห่อไว้ พระอินทร์สงสารนางจึงแปลงร่างเป็นชีปะขาวมามอบยาวิเศษสำหรับรักษาคนตายให้ฟื้นได้ โสนน้อยเรือนงามเดินทางเข้าไปในป่าพบนางกุลา (ชฎาพร วชิรปราณี) หญิงใจร้ายนอนตายเพราะถูกงูกัด โสนน้อยเรือนงามจึงนำยาของชีปะขาวมารักษา นางกุลาก็ฟื้น นางจึงขอเป็นทาสติดตามโสนน้อยเรือนงาม. ที่นครนพรัตน์มีกษัตริย์ (ม.ล.รุจิรา อิศรางกูร) ครองอยู่ มีพระราชโอรสนามว่า พระวิจิตรจินดา (ไชยา สุริยัน) ซึ่งเป็นชายหนุมรูปงามและมีความสามารถ แต่วันหนึ่งพระวิจิตรจินดาถูกนาคราชกัดสิ้นพระชนม์ พระบิดาและพระมารดาเศร้าโศรกเสียใจมาก แต่โหรทูลว่า พระวิจิตรจินดาจะสิ้นพระชนม์ไปเจ็ดปีแล้วจะมีพระราชธิดาของเมื่องอื่นมารักษาได้ พระบิดาและพระมารดาจึงเก็บพระศพของพระวิจิตรจินดาไว้ และมีประกาศให้คนมารักษาให้ฟื้น โสนน้อยเรือนงามและนางกุลาเดินทางมาถึงเมืองนพรัตน์ได้ทราบจากประกาศ จึงเข้าไปในวังและอาสาทำการรักษา โดยขอให้กั้นม่านเจ็ดชั้น ไม่ให้ใครเห็นเวลารักษา โสนน้อยเรือนงามแต่งเครื่องทรงพระราชธิดาทำการรักษา โดยนางกุลาติดตามเฝ้าดู เมื่อโสนน้อยเรือนงามทายาให้พระวิจิตรจินดา พิษของนาคราชเป็นไอร้อนออกมาทำให้นางรู้สึกร้อนมาก จึงถอดเครื่องทรงพระราชธิดาออกแล้วเสด็จไปสรงน้ำ ระหว่างนั้นนางกุลาก็นำเครื่องทรงพระราชธิดาของโสนน้อยเรือนงามามแต่ง พอดีพระวิจิตรจินดาฟื้น ทุกคนก็คิดว่านางกุลาเป็นพระราชธิดาที่รักษาจึงเตรียมจะให้อภิเษก ส่วนโสนน้อยเรือนงามต้องกลายเป็นข้าทาสของนางกุลาไป พระวิจิตรจินดาและพระบิดาและพระมารดาก็ยังมีความสงสัยในนางกุลา จึงให้นางเย็บกระทงใบตองถวาย นางกุลาทำไม่ได้โยนใบตองทิ้งไป โสนน้อยเรือนงามเก็บใบตองมาเย็บเป็นกระทงสวยงาม นางกุลาก็แย่งไปถวายพระราชบิดามารดาของพระวิจิตรจินดา พระวิจิตรจินดาไม่อยากอภิเษกกับนางกุลาจึงขอลาพระบิดาพระมารดาไปเที่ยวทางทะเล พระบิดาพระมารดาให้นางกุลาย้อมผ้าผูกเรือ นางกุลาก็ทำไม่เป็น โยนผ้าและสีทิ้ง โสนน้อยเรือนงามเก็บผ้าและสีไปย้อมได้สีงดงาม นางกุลาก็แย่งนำไปถวายพระบิดาพระมารดาอีก. เมื่อพระวิจิตรจินดาจะออกเรือก็ปรากฎว่าเรือไม่เคลื่อนที่พระวิจิตรจินดาทรงคิดว่าคงมีผู้มีบุญในวังต้องการฝากซื้อของ เรือจึงไม่เคลื่อนที่จึงให้ทหารมาถามรายการของที่คนในวังจะฝากซื้อ ทุกคนก็ได้มีโอกาสฝากซื้อ แต่โสนน้อยเรือนงามอยู่ใต้ถุนถึงไม่มีใครไปถาม เรือก็ยังไม่เคลื่อนที่ พระวิจิตรจินดาจึงให้ทหารกลับไปค้นหาคนในวังที่ยังไม่ได้ฝากซื้อของ ทหารจึงได้ไปค้นหานางโสนน้อยเรือนงามได้ นางจึงฝากซื้อ "โสนน้อยเรือนงาม" เมือพระวิจิตรจินดาเดินทางไป ลมก็บันดาลให้พัดไปยังเมืองโรมวิสัยของพระบิดาของโสนน้อยเรือนงาม พระวิจิตรจินดาซื้อของฝากได้จนครบทุกคน ยกเว้นโสนน้อยเรื่อนงาม พระวิจิตรจินดาจึงสอบถามจากชาวเมือง ชาวเมืองบอกว่าโสนน้อยเรือนงามมีอยู่แต่ในวังเท่านั้น พระวิจิตรจินดาจึงเข้าไปในวังและทูลขอซื้อโสนน้อยเรือนงามไปให้นางข้าทาส พระบิดาของโสนน้อยเรือนงามทรงถามถึงรูปร่างหน้าตาของนางทาส ก็ทรงทราบว่าเป็นพระธิดา จึงมอบโสนน้อนเรือนงามให้พระวิจิตรจินดาและให้ทหารตามมาสองคน เมื่อพระวิจิตรจินดากลับถึงบ้านเมือง ทหารเมืองโรมวิสัยก็ไปทำความเคารพนางโสนน้อยเรือนงาม และเรือนวิเศษก็ขยายเป็นเรือนใหญ่มีข้าวของเครื่องใช้พระธิดาครบถ้วน โสนน้อยเรือนงามก็เข้าไปอยู่ในเรือนนั้น พระวิจิตรจินดาจึงแน่ใจว่าโสนน้อยเรือนงามเป็นพระราชธิดาที่รักษาตน จึงจะฆ่านางกุลาแต่โสนน้อยเรือนงามขอชีวิตไว้ จึงเนรเทศนางกุลาออกจากเมือง พระวิจิตรจินดาก็ได้อภิเษกกับนางโสนน้อยเรือนงาม หลังจากอภิเษกแล้วพระวิจิตรจินดาและโสนน้อยเรือนงามได้เดินทางโดยสำเภาไปยังเมืองโรมวิสัย แต่เรือถูกพายุพัดจนแตก พระวิจิตรจินดาและทหารถูกน้ำพัดไปติดที่เกาะแห่งหนึ่งเป็นที่อยู่ของฤาษีตาไฟ ซึ่งช่วยสอนวิชาอาคมให้เพื่อพระวิจิตรจินดาจะได้เดินทางกลับบ้านเมืองได้ ส่วนโสนน้อยเรือนงามซึ่งกำลังตั่งครรภ์ได้ขึ้นฝั่งไปพบนางกุลากำลังป่วยใกล้ตายจึงใช้ยาวิเศษช่วยชีวิตไว้ แต่หลังจากฟื้นมาแล้วนางกุลากลับผลักโสนน้อยเรือนงามตกลงไปในบ่อพิษทำให้ใบหน้าอัปลักษณ์ โสนน้อยซมซานไปพบกับเศรษฐีใจบุญ (พยงค์ มุกดา) และภรรยา (ศรีสละ ทองธารา) ทั้งสองสงสารจึงเลี้ยงดูเหมือนลูกและคลอดพระโอรสออกมารูปโฉมงดงาม ส่วนนางกุลาเดินทางมาพบกับกองเกวียนของมะเดื่อ (ชาย เมืองสิงห์) ซึ่งเป็นบุตรของเศรษฐีใจบุญ นางกุลาใช้เสนห์ยั่วยวนจนได้เป็นเมียของมะเดื่อ เมื่อมะเดื่อพานางกุลามาถึงบ้านก็ได้พบกับโสนน้อยเรือนงามที่หน้าตาอัปลักษณ์ แต่นางกุลาแกล้งทำเป็นไม่รู้จัก เมื่อสบโอกาสก็แอบลักพระโอรสไปโยนทิ้งน้ำ แต่พระโอรสมีบุญไม่ถึงแก่ชีวิต ลอยไปยังเกาะที่มีฤาษีผู้มีฤทธิ์แก่กล้า ฤาษีเศกให้พระโอรสโตขึ้นเป็นเจ็ดขวบและสอนวิชาให้ นางกุลาแสดงความร้ายกาจจนครอบครัวเศรษฐีใจบุญทนไม่ไหว จึงขับไล่ออกจากบ้าน นางกุลาเดินทางมาในป่าจนพบกับเหล่าโจรป่า จึงยั่วยวนจนหัวหน้าโจรลุ่มหลง วันหนึ่งนางกุลาจึงวางแผนให้โจรป่าเข้าปล้นบ้านเศรษฐีใจบุญเพื่อจะฆ่าโสนน้อยเรือนงาม ขณะเดียวกับที่พระวิจิตรจินดาและพระโอรสต่างสำเร็จวิชาที่ร่ำเรียนกับพระฤาษี อาจารย์ของทั้งสองจึงสั่งให้มาช่วยโสนน้อยเรือนงาม พระวิจตรจินดาและพระโอรสใช้วิชาปราบเหล่าโจรร้ายจนราบคาบ และได้สาปนางกุลาให้กลายเป็นวัว โสนน้อยหมดเคราะห์กรรมทำให้ใบหน้าหายจากความอัปลักษณ์ ทั่งหมดจึงได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข
หงส์เหิร (2509)
หงส์เหิร (2509/1966) ข้อความบนใบปิด ธราธรภาพยนตร์ เสนอ ผลงานที่เข้มแข็งทั้งทีมสร้าง จากละครวิทยุของคณะ “แก้วฟ้า” ครั้งแรกในชีวิตการแสดงที่หนักที่สุดการเต้นบัลเล่ต์ และ ฉุยฉายพราหมณ์ เพชรา เชาวราษฎร์ สมบัติ เมทะนี บุศรา นฤมิต, อดุลย์ ดุลยรัตน์, รุจน์ รณภพ, พงษ์ลดา พิมลพรรณ นำ หงส์เหิร ร่วมด้วย อนุชา รัตนมาลย์, กัณฑรีย์ นาคประภา, ปรียา รุ่งเรือง, มาลี เวชประเสริฐ, เยาวเรศ นิสากร, ใจดาว บุษยา, ชุมพร เทพพิทักษ์, เสน่ห์ โกมารชุน, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม, สาหัส บุญหลง, ส.อาสนจินดา และดารารุ่นจิ๋ว น่ารัก น่าเอ็นดู ส.อาสนจินดา กำกับ วินิจ ภักดีวิจิตร ถ่ายภาพ ชลลดา ภักดีวิจิตร อำนวยการสร้าง พัฒนาการภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
กาเหว่า (2509)
กาเหว่า (2509/1966) ข้อความบนใบปิด ศิรินทราภาพยนตร์ สร้าง แก้วฟ้า-ดอกดิน ภูมิใจเสนอ กาเหว่า ของ อ้อย อัจฉริยกร มิตร ชัยบัญชา โสภา สถาพร นำขบวนดาราประชันกันอย่างคับคั่ง อดุลย์ ดุลยรัตน์, ทักษิณ แจ่มผล, อรสา อิศรางกูร, ธานินทร์ อินทรเทพ, บุษกร สาครรัตน์, ชฎาพร วชิรปราณี, อภิญญา วีระขจร, น้ำเงิน บุญหนัก, สมจิตร ทรัพย์สำรวย, สุวิน สว่างรัตน์, สิงห์ มิลินทราศัย, ทานทัต วิภาตะโยธิน, เทีนว ธารา, พรชัย และ ธัญญา ธัญญารักษ์ พรั่งพร้อมด้วยสามดาวตลกชื่อดัง ล้อต๊อก, ดาวน้อย ดวงใหญ่ และ ดอกดินตัวดำๆ ครั้งแรก ครั้งสำคัญ ที่คุณจะได้พบบทบาทประทับใจ จากสองดาวเสียงชื่อดังละครวิทยุคณะ “แก้วฟ้า” วิเชียร นีลิกานนท์ จีราภา ปัญจศิลป์ สุคนธ์ มงคลฤทธิ์ อำนวยการสร้าง สมาน ทองทรัพย์สิน ถ่ายภาพ ณรงค์ ภูมินทร์ ดำเนินงาน ดอกดิน กัญญามาลย์ กำกับการแสดง เอกรัตน์ จัดจำหน่าย
คมสีหราช (2509)
คมสีหราช (2509/1966) ข้อความบนใบปิด จิตราภาพยนตร์ เสนอ แกร่งกร้าว ฉกาจฉกรรจ์ ต้อง... คมสีหราช จากบทประพันธ์สำนวนกร้าวของ ก้อง อินทรกำจร พระเอกเงินล้าน สมบัติ เมทะนี พบ สิงห์เฒ่าเจ้าบทบาท สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ โสภา สถาพร นางเอกจอมซนคนสวย ประชันบทกับสาวงามนครราชสีมา กรุณา ยุวากร ติดตามด้วย ปรียา รุ่งเรือง, สาหัส บุญหลง, เชาว์ แคล่วคล่อง, ถวัลย์ คีรีวัต, ชาห์ณี ยอดชัย, ทานทัต วิภาตะโยธิน, สุวิน สว่างรัตน์, เมศร์, ไกร ครรชิต, มาตร์ เมืองแมน, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม, แป๊ะอ้วน, แคหลอ, ปราณีต คุ้มเดช วรุณ ฉัตรกุล ณ อยุธยา กำกับการแสดง สุจิตรา เกิดทรัพย์ อำนวยการสร้าง ปานเทพ กุยโกมุท ถ่ายภาพ เกรียง ไกรสร สร้างบท กำแหง วุธานนท์ ดำเนินงาน
Placeholder
Placeholder
พิการรัก (2509)
พิการรัก (2509/1966) ข้อความบนใบปิด มาริสาฟิล์ม เสนอ... ผลงานใหม่จากลำนำเพลง...ของ “สุเทพ วงศ์กำแหง” พิการรัก สุดแสนสงสาร สุดแสนทรมาน คนพิการก็ยังมีรักเดียวใจเดียว สะท้อนสังคมชาวกรุง...ฯลฯ นำแสดงโดย สุเทพ วงศ์กำแหง ชนะ ศรีอุบล มณทิชา ณ เชียงดาว แมน ธีระพล, บุษกร สาครรัตน์, เมศร์ แมนสรวง, จรูญ สินธุเศรษฐ์, หม่อมชั้น พวงวัน, เมืองเริง ปัทมินทร์, ล้วน ควันธรรม, ภูมิ เพชรพนม, เปลวใจ หทัยทิพย์, ปราณีต คุ้มเดช, สมศรี อรรถจินดา, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม, ทองฮะ, ด.ญ.วัชราภรณ์ พึ่งสังข์ และขอแนะนำเด็กสาวคนใหม่ แก้วตา นภารัตน์ มาริสา มังคลากูร อำนวยการสร้าง วิชัย ทรงเยาว์ศรี ถ่ายภาพ อัจฉราพันธ์ กำกับการแสดง พัฒนาการ จัดจำหน่าย
เพชรชมพู (2509)
เพชรชมพู (2509/1966) ข้อความบนใบปิด เทพนิมิตภาพยนตร์ โดย พยุง พยกุล ภูมิใจเสนอ ฉกาจเยี่ยงพยัคฆ์ร้ายกระหายเหยื่อ สวยสง่าราวเทพธิดาในสวรรค์ นางเอกผู้มีฉายายิ้มพิมพ์ใจ ปริศนา ชบาไพร พบกับ พระเอกนักรักนักสู้ สมบัติ เมทะนี เพชรชมพู ของ โชค ชาติพยัคฆ์ พร้อมด้วยไฟฟ้าพลังสูง เปลวไฟ หทัยทิพย์, มานี มณีวรรณ, นาฏ นดา ร่วมด้วย สมชาย ศรีภูมิ, พร ไพโรจน์, แป้น, เชษฐ์, ศักดิ์ สุริยา, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม , หม่อมชั้น พวงวัน, บังเละ, ลุงโกร่ง กางเกงแดง พยุง พยกุล อำนวยการสร้าง-กำกับการแสดง ปานเทพ กุยโกมุท ถ่ายภาพ
Placeholder
หมอชนินทร์ผู้วิเศษ (2509)
หมอชนินทร์ผู้วิเศษ (2509/1966) ข้อความบนใบปิด ดาราทองภาพยนตร์ สนั่น จรัสศิลป และ สะท้าน เทพบัญชา ขอเสนอผลงานอันวิเศษ ใน หมอชนินทร์ผู้วิเศษ ของ ไพร วิษณุ นำโดย สมบัติ เมทะนี ภาวนา ชนะจิต รุ้งลาวัลย์ วิบูลย์สันติ, น้ำเงิน บุญหนัก, เยาวเรศ นิสากร, วารุณี นาคะนาวี, พร ไพโรจน์, อัมพร, ใจดาว บุษยา, มาลี เวชประเสริฐ, โยธิน เทวราช, สัมพันธ์, พูนสวัสดิ์ ธีมากร, ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา, สิงห์ มิลินทราศัย, ถวัลย์ คีรีวัต แปลก...มหัศจรรย์...ไม่ซ้ำใคร วิเศษ...วิเศษจริงๆ สนั่น จรัสศิลปะ และ สะท้าน เทพบัญชา สร้าง เฉลิม บุตรบุรุษ ถ่ายภาพ กาย บางขุนนนท์ สร้างบท ประทีป โกมลภิส กำกับการแสดง