2508
เงิน เงิน เงิน (2508/1965) เพลงพราว...ดาวพรู...ดูเพลิน เมื่อได้ชม เงิน เงิน เงิน ฉายแล้วจ้า...เฉลิมเขตร์ ไม่รวยก็ปิ๋ว... หนังมาตรฐาน ระบบซูเปอร์ซีเนสโคป สีอิสต์แมน เต็มจอยักษ์เฉลิมเขตร์ ฟัง 14 เพลงเพราะ จาก 15 ยอดนักเพลง เพลงพราว ดาวพรู ดูเพลิน 62 ดารา 14 เพลงเอก ทั่วโลกยอมรับแล้วว่า "เงิน เงิน เงิน" เป็นหนึ่งไม่มีสอง! 35 ม.ม.เสียงในฟิล์ม ซุปเปอร์ซีเนสโคป สีอิสต์แมน ขุนหิรัญ (อบ บุญติด) นายทุนเงินกู้ วัตโกเศรษฐกิจ มอบหมายให้หลานชาย ตุ๊ อรรคพล ((มิตร ชัยบัญชา)) เอาสัญญาเงินกู้ไปขู่บังคับชาวบางรื่นสุข ให้ย้ายออกด่วนเพื่อเอาที่ดินไปทำธุรกิจตึกแถวร่วมกับ คุณนายเม้า (สุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต) หุ้นส่วน ซึ่งอรรคพลไม่ชอบวิธีการเช่นนี้ และเมื่อได้พบกับชุมชนที่สุขสงบ เรียบง่าย รวมทั้งกลุ่มวงดนตรีแก๊งค์เด็กวัดอารามบอย ทำให้ความหวังที่จะทำธุรกิจบันเทิงอย่างที่ตนเองฝันไว้ผุดขึ้นมาอีกครั้ง จึงรวมกลุ่มกับแก๊งค์เด็กวัดเพื่อเปิดกิจการไนท์คลับ แต่ก็ถูกกลั่นแกล้งจากท่านขุน ขณะเดียวกัน ภารดี (สุมาลี ทองหล่อ) น้องสาวแอบรักชอบกับ รังสรรค์ (ชรินทร์ นันทนาคร) ครูสอนเปียโนฐานะยากจน เมื่อหลานชายกับหลานสาวไม่ได้ดังใจ เศรษฐีหน้าเลือดอย่างท่านขุน จึงไล่ทั้งคู่ออกจากบ้าน โดยยื่นเงื่อนไขให้เอาเงินมาไถ่ที่ราคาหนึ่งล้านบาท เหตุการณ์พลิกผันให้อรรคพลพบกับแม่ที่พลัดพรากกัน (วิไลวรรณ วัฒนพานิช) และได้ กิ่งแก้ว (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) เด็กขอทานผู้เป็นเสมือนพลังใจ จนทำให้ความสัมพันธ์พัฒนาเป็นความรัก และช่วยกันหาทางนำเงินมาไถ่ถอนที่ได้สำเร็จ เป็นตัวอย่างของภาพยนตร์ที่สามารถเป็นตัวแทนภาพยนตร์ไทยในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ชัดเจน ทำหน้าที่ปลอบประโลมใจคนยากคนจนให้มีความหวัง ที่จะฝันว่า จะมีพระเอกในฝัน หนุ่มหล่อ ลูกมหาเศรษฐีมาช่วย มาหลงรัก และครองรักกับเราอย่างชื่นมื่นสุขใจ
พระรถ-เมรี (2508/1965) ข้อความบนใบปิด เสน่ห์ศิลป์ภาพยนตร์ สร้าง (เสน่ห์ โกมารชุน) อำนวยการสร้าง-กำกับการแสดง อนุศักดิ์ เจนจรัสสกุล ถ่ายภาพ พระรถ-เมรี หรือ นางสิบสอง จากวรรณคดีชาดกที่รู้กันทั่วไป นำโดย (ไชยา สุริยัน) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) และอีก 12 นางเอก เอื้อมเดือน อัษฎา, (ปรียา รุ่งเรือง), เยาวเรศ นิสากร, (บุษกร สาครรัตน์), อภิญญา วีระขจร, อุษา อัจฉรานิมิตร, วรรณา แสงจันทร์ทิพย์, ขวัญตา บัวเปลี่ยนสี, ใจดาว บุษยา, สุดเฉลียว เกตุผล, แพร ไพลิน, บุษบา และ...พาทีมเสน่ห์ศิลป์ครบครัน...
เดือนร้าว (2508/1965) ข้อความบนใบปิด ส.ค.ส.2509 โดมฤดีโปรดัคชั่น ขอส่งความสุขปีใหม่ด้วยภาพยนตร์ รัก สดชื่น ระทึกใจ (มิตร ชัยบัญชา) พบกับรองนางสาวไทย เนาวรัตน์ วัชรา วิไลวรรณ วัฒนพานิช, (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี), เอื้อมเดือน อัษฎา, (อดุลย์ ดุลยรัตน์), จุรีรัตน์, สุเทพ เหมือนประสิทธิเวช และ 4 ดาวเปลือยชื่ออื้อฉาว มณทิชา ณ เชียงดาว, มานี มณีวรรณ, บุษบา นภารักษ์, เปลวใจ หทัยทิพย์ เดือนร้าว จากบทประพันธ์ ของ รพีพร โดม แดนไทย อำนวยการสร้าง ไพรัช สังวริบุตร ถ่ายภาพ คุณาวุฒิ กำกับการแสดง เอวันฟิล์ม จัดจำหน่าย
ปลาบู่ทอง (2508/1965) "เศรษฐีทารกะ" ผู้มีอาชีพจับปลามีภรรยาสองคน คนแรกชื่อ "ขนิษฐา" มีลูกสาวชื่อ "เอื้อย" ส่วนคนที่สองชื่อ "ขนิษฐี" มีลูกสาวชื่อ "อ้าย" และ "อี่" วันหนึ่งทารกะพยายามจับปลาแต่จับทีไรก็ได้แต่ปลาบู่ตั้งท้องตัวหนึ่งกระทั่งพลบค่ำทารกะจึงจะนำปลาบู่กลับบ้านแต่ด้วยความสงสารขนิษฐาผู้เป็นภรรยาขอร้องให้ปล่อยไป ทำให้ทารกะเกิดบันดาลโทสะฆ่านางขนิษฐาจนตายและทิ้งศพลงคลอง และบอกกับอ้ายลูกสาวว่ามารดาได้หนีตามผู้ชายไป เอื้อยเสียใจที่สูญเสียแม่ไปอีกทั้งยังโดนแม่เลี้ยงและพี่เลี้ยงกดขี่ข่มเหง สิ่งเดียวที่ปลอบประโลมเธอได้มีเพียง "ปลาบู่ทอง" ที่คือแม่ที่กลับชาติมาเกิด แต่สองแม่ลูกหารู้ไม่ว่าเธอทั้งคู่จะต้องถูกขนิษฐีและลูกๆของเธอพรากความสุขเล็กๆของพวกเธอไปครั้งแล้วครั้งเล่า ปลายทางของสองแม่ลูกที่น่าสงสารจะลงเอยเช่นไรเมื่อหนทางแห่งความสุขในชีวิตแทบจะไม่เห็นทางสว่างเลย