เมียหลวง (2496)
Placeholder
นักเลง (2496)
Placeholder
จับตาย (2496/1953) ชายป่าลึกอันไกลโพ้นจากตัวเมืองจังหวัดยะลา อันเป็นสถานที่ที่นักโทษถูกเกณฑ์มาแผ้วถางทางเพื่อทำถนน ในป่าลึกเช่นนี้ พร หนึ่งในนักโทษได้หลงรัก หวัน หญิงสาวที่สวยราวกับดอกไม้ป่า และตั้งปณิธานไว้ว่าแม้จะหมดโทษก็จะขออยู่ที่วังไทรกับสาวนางนี้ ความหวังต้องมาพังทลายเมื่อสาวเจ้าไปรักกับ ประสิทธิ์ เจ้าพนักงานเพื่อนสนิทของ สกล ผู้คุมซึ่งสนิทกับพร แต่เลือดนักสู้ของพรทำให้เขาไม่ยอมแพ้ยิ่งเมื่อประสิทธิ์หักหน้าพรต่อหน้าหวัน สองหนุ่มจึงเกิดชกต่อยกัน พรแย่งปืนของประสิทธิ์และหนีหัวซุกหัวซุนเข้าไปในป่า สกลฝืนใจเข้าป่าเพื่อจับตัวพรโดยมีคำสั่งให้จับตาย ในขณะที่สกลออกติดตามพรไปในป่าลึก ในใจของสกลต้องเลือกว่าจะผดุงกฎหมายหรือจะช่วยเพื่อนมนุษย์ และแล้วในเย็นวันหนึ่ง ชาวบ้านก็มาแจ้งเบาะแสว่าพบพรมาแอบนอนในกระท่อมร้างในสวนยางแถวธารโต สกลไม่รอช้ารีบตามไปยังที่นั่นแต่คนที่อยู่ในนั้นไม่ใช่พรแต่เป็นหวัน มาขอยาให้พรซึ่งกำลังเจ็บหนัก สกลให้คนคอยสะกดรอยตามหวันหวังจะสาวให้ถึงตัวพรแต่ก็คลาดสายตาไปได้ 15 วันผ่านไป สกลยังตามล่าตัวพรอย่างไม่ลดละ ทุกครั้งที่ได้ข่าวว่ามีคนถูกพรขโมยอาหาร สกลจะรีบไปถึงที่ก่อเหตุอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งคืนหนึ่ง สกลได้ซ่อนตัวเพื่อคอยดักจับพร ในความมืดมิด สกลเห็นดวงตาคู่หนึ่งกำลังไหวตัวอยู่ในป่าจึงยกปืนขึ้นยิง ผลของคืนนั้นทำให้สกลจับไข้ไปหลายวัน เมื่อฟื้นไข้ลูกน้องของสกลรีบมาปลุกเขาไปดูซากศพที่เขายิงในคืนนั้น แต่กลับเจอร่างของพรนอนนิ่งแน่เน่าเฟะตายอย่างน่าอนาจเพราะพิษไข้ป่าและความอดอยาก สกลได้แต่นิ่งงันที่ไม่สามารถช่วยชีวิตพรไว้ได้
นางแมวป่า (2496)
นางแมวป่า (2496/1953) 17 ปีก่อน สาย คนใช้ในตระกูลของเจ้าคุณทรงอานุภาพ ขโมยลูกสาววัยแบเบาะของเจ้าคุณเพราะความแค้นที่ตัวเองต้องตกเป็นเมียเก็บ สายหนีมากบดานยังรังโจรของ เสือคล้อย ที่จังหวัดเพชรบุรี เสือคล้อยออกอาละวาดปล้นทรัพย์จนชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนักทางการจึงส่ง ร.ต.อ. ไชยา มาจับกุม แต่ไม่ทันจะปฏิบัติหน้าที่เขาก็กลับถูก นิด นางแมวป่าปล้นหมวกกับปืนไปหน้าตาเ ขณะนั้น ราณี คู่หมั้นได้ยกโขยงเพื่อนมาเยี่ยมไชยาถึงที่พัก แต่กลับไม่เจอไชยา แท้ที่จริงแล้ว วิศิษฐ์ สมาชิกคนหนึ่งติดตามมาเพื่อขายกระสุนให้เสือคล้อย ค่ำนั้นเองไชยานำกำลังตำรวจบุกรังเสือคล้อย นิดผู้อยู่ในเหตุการณ์ช่วยชีวิตไชยาซึ่งเกือบจะถูกเสือคล้อยแทงไว้ทัน ไชยาจึงตอบแทนบุญคุณนิดด้วยการรับอุปการะเด็กสาว และพานิดไปเที่ยวที่บังกะโลหัวหินด้วย วิศิษฐ์ฉวยโอกาสลวนลามนิดแต่ถูกนิดต่อยหงายหลัง ราณีหาเรื่องอาละวาดนิด ไชยาจึงตัดรำคาญให้ ชนินท์ น้องสาว พานิดไปฝากกับ ครูอำไพ ที่กรุงเทพเพื่ออบรมบ่มนิสัย แต่นิดต้องมาเจอเด็กในบ้านของครูอำไพกลั่นแกล้งต่างๆ นานา อยู่มาวันหนึ่ง เจ้าคุณทรงอานุภาพและ ไพฑูรย์หลานชายมาขอพบไชยา เพราะบังเอิญได้เห็นนิดที่หัวหิน และจำได้ว่าเป็นลูกสาวของตนที่ถูกลักพาตัวไป เจ้าคุณเล่าเรื่องในอดีตให้ไชยาฟัง ขณะเดียวกัน เสือคล้อยกับนางสายมารวมหัวกับวิศิษฐ์หมายจะจับตัวนิดเรียกค่าไถ่ วิศิษฐ์นึกแผนชั่วออก ตรงดิ่งไปเป่าหูราณีว่า สาเหตุที่ไชยาส่งนิดมาอบรมนิสัยเพราะต้องการแต่งงานกับนิดเป็นแน่ ราณีหน้ามืดไปด้วยโทสะตามไปแฉกำพืดของนิดถึงที่บ้านครูอำไพเพราะเข้าใจว่านิดเป็นลูกโจร นิดเก็บข้าวของตั้งใจจะกลับเพชรบุรี แต่ถูกนักเลงลวนลามแล้วหลงมายังซ่องนางโลมของ สดใส จึงขออาศัยอยู่ที่นั่น ไชยาตระเวนหาตัวนิดตามสถานนางโลมต่างๆ สดใสเห็นท่าไม่ดีจึงเสนอขายนิดให้วิศิษฐ์ วิศิษฐ์ไม่รอช้ารีบโทรไปเรียกค่าไถ่จากเจ้าคุณและคุณหญิงทรงอานุภาพ โดยนัดหมายแลกเปลี่ยนนิดบริเวณหอนาฬิกา ที่สวนลุมฯ ในเวลากลางคืน แต่เสือคล้อยกับวิศิษฐ์กลับคิดชั่วหมายจะขืนใจนิดก่อนส่งตัว สายเกิดสงสารนิดขึ้นมาจึงยุให้เสือคล้อยกับวิศิษฐ์ผิดใจกันและหาทางพานิดหนี แต่วิศิษฐ์ไหวตัวทันสั่งให้สมุนขังตัวนิด พอไชยาบุกเข้ามา เสือคล้อยใช้ปืนขู่ให้นิดยอมรับว่าตกเป็นเมียของวิศิษฐ์แล้ว สายซึ่งซ่อนตัวอยู่ตะโกนสวนออกมาว่าไม่เป็นความจริงจึงถูกยิงจนเสียชีวิต ตำรวจนำกำลังเข้าจับกุมเสือคล้อยกับวิศิษฐ์ได้สำเร็จ ไชยาจึงพานิดไปคืนให้พ่อแม่ที่แท้จริง
Placeholder
สามเกลอเจอผี (2496)
สามเกลอเจอผี (2496/1953) สามเกลอเจอผี เป็นภาพยนตร์ไทย ฟิล์ม 16 มม.ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2496 กำกับการแสดงโดย ดอกดิน กัญญามาลย์ ภาพยนตร์เรื่องนี้มีคำโปรยว่า ภาพยนตร์ตลก-แปลก และใหม่ที่สุด ไม่ซ้ำแบบใคร
Placeholder
Placeholder
จอมหิว (2496)
จอมหิว (2496/1953) เรื่องราวของสองพี่น้อง องอาจ ซึ่งเป็นพวกชอบคิดแต่ไม่ชอบทำ กับ อัศวิน ซึ่งเป็นจอมหิว ด้วยความระอาความไม่เอาไหนของลูกชายทั้งสอง นายอ้น ซึ่งเป็นพ่อจึงไล่ตะเพิดอัศวินกับองอาจออกจากบ้าน หลายวันผ่านไป องอาจกับอัศวินเร่ร่อนไปตามยถากรรมจนมาเจอเกวียนตกหล่ม อัศวิน จอมหิว ซึ่งมีนิสัยประหลาด คือเมื่อโมโหหิวจะมีพละกำลังมหาศาล จึงไปช่วยชาวบ้านยกเกวียน จึงได้อาหารเป็นการตอบแทน สองพี่น้องยังคงระหกระเหร่อนเร่หาวิธีประทังความหิวไปวันๆ แม้บางครั้งอับจนขนาดต้องกินหินแทนข้าว องอาจพยายามคิดหาวิธีต่างๆ เช่น ให้อัศวินปลอมตัวเป็นคนพิการขอทานประทังชีวิต แต่ความก็แตกทุกครั้งเพราะอัศวิน จนวันหนึ่ง ทั้งสองมาจนถึงสวนสัตว์และพบ จันทรา กำลังถูกนักเลงรังเก อัศวินซึ่งกำลังโมโหหิวจึงเข้าไปช่วย จันทราตอบแทนบุญคุณทั้งสองด้วยการให้กล้วยหอมซึ่งทีแรกกะจะนำมาให้ลิง วันต่อมา องอาจพาอัศวินมาสมัครเป็นนักมวย และต่อยชนะเพราะโมโหหิวนั่นเอง โชคชะตาพาให้สองพี่น้องได้พบกับจันทราอีกครั้งที่บาร์เหล้าซึ่งบิดาของจันทราเป็นเจ้าของ จันทราเล่าให้บิดาฟังว่าองอาจกับอัศวินเคยช่วยชีวิตจันทราไว้ บิดาของจันทราจึงรับทั้งสองเข้าทำงาน อัศวินใช้พลังให้เป็นประโยชน์ในการจัดการนักเลงซึ่งมาเบ่งกินฟรีที่บาร์ ส่วนองอาจก็ได้ใช้ความคิดพิชิตใจจันทรา
Placeholder
พลายมลิวัลย์ (2496)
พลายมลิวัลย์ (2496/1953) ม.จ. สุริยา ผู้มีชาติตระกูลฐานะนักเรียนนอกมีความรู้ ผิดหวังชีวิตในการทำงาน ทําให้เป็นผู้ติดเหล้าขนาดหนัก จนกระทั่งหลงไปอยู่ในป่าไม้ศรีราชาโดยไม่มีใครรู้ว่าเป็นใคร ได้ทํางานเป็นควาญเลี้ยงช้างชื่อ "พลายมลิวัลลิ์" มีความผูกพันกันระหว่างคนกับสัตว์และสัตว์กับคน ในเวลา 2 ปีที่อยู่ในป่าไม้ มีตัวเชื่อมคือเหล้าเถื่อน กินทั้งคนและช้าง การหายไปของ ม.จ. สุริยา ที่มีบุตรชายกับภรรยา (อรพิน) ทําาให้คิดว่าเสียชีวิตไปแล้ว จึงได้แต่งงานใหม่ กับ ม.จ.วรวัฒน์ ภายหลัง 2 ปี ได้นําครอบครัวมาเยี่ยมเยียนดูแลธุรกิจของของครอบครัวที่ศรีราชา ทําให้ลูกชาย (จิ๋ว) และสุริยาได้พบกัน แต่พลายมลิวัลลิ์ที่มีความรักให้กับสุริยา เหมือนสัตว์รักคน เกิดรัก โลภ โกรธ หลง เหมือนปุถุชน จึงดันรถไฟจะให้ทับร่างจิ๋ว ลูกชายที่กําลังเดินทางกลับ พ่อเห็นจึงโดดให้รถไฟทับเพื่อช่วยลูกชาย
น้องชาย (2496)
น้องชาย (2496/1953) เรื่องโศรก ตลก (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน สยามรัฐ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2496)
วิญญาณคนอง (2496)
วิญญาณคนอง (2496/1953) นางนากพระโขนงแผลงฤทธิ์อีก นิยายใหม่ของนางนาก (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน สยามรัฐ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2496)
เสียงสาป (2496)
เสียงสาป (2496/1953) สำเนียงนั้นแผ่วโผยมาในอากาศ เป็นสำเนียงที่พลิกชีวิตหนึ่งให้กระเจิงไป ...สำเนียงประหลาดนั้น เป็น! "เสียงสาป" (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน สยามรัฐ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2496)
เชิงทะเล (2496)
เชิงทะเล (2496/1953) เรื่องจริงที่ครึกโครมในหน้าหนังสือพิมพ์ ตอนผู้ยิ่งใหญ่เบ่งใส่ชาวประมง (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน สยามรัฐ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2496)
ทาษรัก (2496)
ทาษรัก (2496/1953) เมื่อ ดิเรก ถูก สมาน เพื่อนร่วมงานบังคับขู่เข็ญให้ช่วยกันใส่ร้ายเจ้านาย เขาจึงจำต้องปฏิเสธไปด้วยความมีมนุษยธรรม สมานจึงส่ง มัณฑนา สาวสวยมาหว่านเสน่ห์ให้ดิเรกหลงเชื่อจนก่อเกิดเป็นความรักทั้งๆ ที่ดิเรกมี อรชร น้องสาวบุญธรรมที่คอยช่วยเหลือและแอบรักเขาอยู่ นานวันเข้า ดิเรกก็ยังไม่มีทีท่าจะร่วมมือกับสมาน แถมมัณฑนาก็ดูจะมีใจเอนเอียงไปหาดิเรก สมานซึ่งเป็นเจ้าของมัณฑนามาก่อนจึงอดรนทนไม่ไหว ท้าดิเรกชกกันตัวต่อตัว แต่ดิเรกถูกมารดาห้ามไว้เขาจึงตัดสินใจหนีไปอยู่หัวหิน และได้พบกับกลุ่มโจรกลุ่มหนึ่งซึ่งเห็นใจดิเรกที่ต้องถูกหลอกลวงและคิดจะหาทางช่วยเขา แล้วโอกาสแก้แค้นก็มาถึง เมื่อสมานและมัณฑนาเดินทางมาเที่ยวหัวหิน ดิเรกและเพื่อนโจรวางอุบายหลอกสมานมาที่ไร่แห่งหนึ่งเพื่อชกให้สมแค้น แต่ดิเรกดันพลาดท่าเกือบถูกมัณฑนายิง ดีที่เธอยังมีใจให้ดิเรกจึงอ้อนวอนขอให้เรื่องต่างๆ จบลง และอวยพรให้ดิเรกสมหวังกับอรชรหญิงที่รักเขาจริงๆ สมานเริ่มรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปจึงกลับใจเลิกทำเรื่องชั่วร้าย ทุกฝ่ายจึงกลับมาคืนดีและมีความสุขด้วยกันในที่สุด
สามเกลอกระยาจก (2496)
สามเกลอกระยาจก (2496/1953) คอยชม! ภาพยนตร์ตลก ชั้นแนวหน้า ไม่ซ้ำแบบใคร
รอยบุญ (2496)
รอยบุญ (2496/1953) ภาพยนตร์ไทยลีลาชีวิตจากข้างถนน (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน สยามรัฐ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2496)
คนองแค้น (2496)
คู่สร้าง (2496)
สองเสือสาว (2496)
สองเสือสาว (2496/1953) สองสาวร่วมซ่องเสือ (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน สยามรัฐ 30 เมษายน พ.ศ. 2496)
พรหมบันดาล (2496
พรหมบันดาล (2496/1953) โจรจะกลับใจ อย่าเอาไฟไปจุด เพราะจุดไฟในหัวอก โจรใหญ่จึงแหกตรางออกอาละวาด (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน สยามรัฐ 22 เมษายน พ.ศ. 2496)
ศึกรักของดวงใจ (2496)
ศึกรักของดวงใจ (2496/1953) ภาพยนตร์ไทย เรื่องรักที่เป็นปัญหา (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน สยามรัฐ 22 เมษายน พ.ศ. 2496)
ไทรโยคแปลง (2496)
ไทรโยคแปลง (2496/1953) เชิงรัก ฉันท์ต้องหัก กันด้วยชีวิต (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน สยามรัฐ 14 เมษายน พ.ศ. 2496)
ทะเลรัก (2496)

เรื่องย่อ : ทะเลรัก (2496/1953) ทะเลรัก เป็นภาพยนตร์แนวชีวิต ที่เรื่องราวเกิดขึ้นในหมู่บ้านชาวประมงชายทะเลระยองแถบบ้านเพ โดยตัวเอกของเรื่องคือหมึก (พิชัย วาศนาส่ง) ชาวประมงหนุ่ม ที่หลงรักมุกดา (ไขศรี ชุมะศารทูล) หญิงสาวในหมู่บ้านเดียวกัน แต่มุกดา มีชายอื่นมาหมายปอง คือคุณจำแลง ชายที่มารับซื้อไข่มุกจากชาวประมง
     การเข้ามาของจำแลง ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างมุกดาและหมึกเปลี่ยนไป มุกดาหลงรักจำแลง แต่จำแลงก็กลับพาผู้หญิงคนอื่น อย่างเช่นผกาแก้วไปนั่งเรือเล่น เมื่อจำแลงสังเกตเห็นไข่มุกที่หมึกให้กับมุกดา เขาวางแผนจะนำเอาไข่มุกนั้นมาเป็นของตัวเอง จึงวางแผนที่จะสับเปลี่ยนไข่มุกด้วยการเอาไข่มุกปลอมไปเปลี่ยน เขาจึงหลอกมุกดาว่าจะเอาไข่มุกของเธอไปทำเป็นต่างหูมุก และวางแผนในการสับเปลี่ยน เพื่อนำเอาไข่มุกนั้นไปให้กับผกาแก้ว
     ต่อมาสันต์พบว่าไข่มุกที่อยู่กับมุกดาเป็นไข่มุกปลอม สันต์จึงช่วยเหลือด้วยการไปขอไข่มุกคืนจากผกาแก้ว มุกดาโกรธจำแลงมากจึงมีปากเสียงกัน จำแลงทำร้ายมุกดา หมึกพยายามมาช่วย แต่มันก็อาจจะสายเกินไป

 
ทาษวังหลัง (2496)
ทาษวังหลัง (2496/1953) ยอดเยี่ยมนิยายอิงประวัติศาสตร์ ท้าสู้ "พญากง พญาพาน" และ "ยอดนักเบ่ง" (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน สยามรัฐ 2 เมษายน พ.ศ. 2496)
ฟ้าคำรณ (2496)
ฟ้าคำรณ (2496/1953) ดู! สงครามชิงรัก ดู! ชาวป่าบุกขึ้นเป็นกษัตริย์ (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน สยามรัฐ 10 มีนาคม พ.ศ. 2496)
ยอดนักเบ่ง (2496)
ยอดนักเบ่ง (2496/1953) แม้จะเป็นเพียงคนแจวเรือจ้าง แต่ สม จิ๋ม และ อัมพร ก็ยังมีความฝัน สมฝันอยากเป็นพระเอกลิเก ส่วนจิ๋มฝันไกลอยากเป็นประธานาธิบดี ส่วนอัมพรฝันอยากเป็นนักร้อง ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของคนทั้งสามคือการแลกเปลี่ยนความฝันและร้องเพลงอย่างสำราญ ไม่มีใครคาดฝันว่าฝันนั้นจะกลายเป็นจริงวันหนึ่งทั้งสามเผอิญไปเจอชายฉกรรจ์กำลังจะปลุกปล้ำหญิงสาวทั้งสามจึงรี่เข้าไปช่วย ไม่ได้รู้เลยว่านั่นเป็นฉากหนึ่งในหนังที่กำลังถ่ายทำอยู่ ผู้กำกับเห็นความงามของอัมพรจึงชักชวนมาแสดงหนังรวมทั้งสมกับจิ๋มด้วย เหมือนเทวดาเล่นตลก สมได้รู้ว่าตนเป็นลูกชายเจ้าของบริษัทหนังที่หายตัวไป ผู้กำกับรีบเอาใจเจ้าของบริษัทด้วยการเปลี่ยนให้สมเป็นพระเอก และให้ เชาวน์ พระเอกคนก่อนไปแสดงเป็นผู้ร้าย กองถ่ายหนังเรื่อง "คดีสร้อยเพชร" เริ่มทันทีในคืนนั้นที่เวทีพัฒนากรเชาวน์แค้นใจที่ถูกปลดกลางคันจึงขอสวมบทคนร้ายตัวจริง จับตัวอัมพรไปขังไว้ที่บ้านร้าง อัมพรใช้เสน่ห์ล่อหลอกให้ผู้คุมทะเลาะกันเอง และอาศัยช่วงชุลมุนหนีออกมาที่ท่าเรือจ้าง ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจึงรอดเงื้อมมือเชาวน์มาได้อย่างหวุดหวิด ทั้งสามกลับมาตายรังที่ท่าเรือจ้างและไม่นึกอยากฝันเป็นอะไรอื่นอีกเลย
เกาะเทพบุตร (2496)
เกาะเทพบุตร (2496/1953) อยู่เกาะต้องสู้ สาวนักสู้ จึงรักชาวเกาะ (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน สยามรัฐ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2496)
ทหารเอกพระบัณฑูร (2496)
ทหารเอกพระบัณฑูร (2496/1953) ในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชแห่งกรุงศรีอยุธยา เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ พระมหาอุปราช ถูก จมื่นศรีสรลักษณ์ กับ เจ้าสามกรม ใส่ความว่าลอบคบชู้กับ เจ้าฟ้านิ่ม พระสนมเอกของพระราชบิดา จนต้องโทษประหารชีวิต มิหนำซ้ำยังสั่งให้ ขุนจิตร์สุนทร กับขุนฤทธิ์ภักดี ควบคุมตัว องค์หญิง พระขนิษฐาของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ไปคุมขัง แต่ หลวงกลาโหม ราชองครักษ์เอกผู้คุมหมู่ทหารพระบัณฑูรของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์มาขัดขวางและฆ่าขุนฤทธิ์ฯ เสียชีวิต หลวงกลาโหมพาเจ้าหญิงไปประทับที่ตำหนักของเจ้าฟ้าอุทุมพร เสด็จฯอาขององค์หญิง ก่อนจะหนีไปหลบซ่อนตัว หลังจากนั้นไม่นาน สมเด็จพระบรมราชาธิราชเสด็จสวรรคต เจ้าฟ้าอุทุมพรซึ่งตามประเพณีต้องขึ้นครองราชย์ ได้ถวายให้เจ้าฟ้าเอกทัศน์ขึ้นครองราชย์แทนพระองค์ที่ประสงค์จะทรงผนวช แต่สมเด็จพระเอกทัศน์ทรงลุ่มหลงในความมัวเมา ขุนนางที่มักใหญ่ใฝ่สูงจึงคิดคดถึงขนาดเหิมเกริมจะโค่นราชบัลลังก์ ร้อนถึงกรมหมื่นเทพพิพิธและขุนนางที่จงรักภักดีต้องร่วมมือกันวางแผนให้เจ้าฟ้าอุทุมพรกลับมาขึ้นครองราชย์ตามเดิม แต่แผนการรั่วไหลทำให้กรมหมื่นฯ และพรรคพวกรวมทั้งหลวงกลาโหมถูกจับกุม ระยะนั้นเอง ฝ่ายพม่าได้ยกกองทัพเข้ามาล้อมกรุงศรีอยุธยา เหล่านักโทษถูกเกณฑ์ออกมาสู้ศึกกับพม่ารวมทั้งหลวงกลาโหมได้เข้าร่วมในศึกครั้งนี้ด้วย ฝ่ายพม่าตีร่นมาถึงพระนคร หลวงกลาโหมจึงรีบไปช่วยองค์หญิงอย่างไม่ห่วงชีวิต องค์หญิงทรงซาบซึ้งพระทัยที่หลวงกลาโหมช่วยชีวิตพระองค์ไว้ถึงสองครา จึงทรงสละฐานันดรศักดิ์เพื่อครองรักกับหลวงกลาโหม