กะเหรี่ยงไทรโยค 2479

กะเหรี่ยงไทรโยค (2479/1936) ณ หมู่บ้านลิ่นถิ่น ยังมีความรักของหนุ่มสาวชาวกะเหรี่ยงเกิดขึ้นระหว่าง มาลู แอมพะเวียและ เคอะแปง มาลูนั้นเป็นคนมีฐานะดีในหมู่บ้านเนื่องจากเป็นคนผูกขาดในการทำป่าไม้ เมื่อเห็นความงามของแอมพะเวีย ลูกสาวของ พะโป้ พ่อค้าไม้ก็เกิดความหลงใหล แต่ติดตรงแอมพะเวียนั้นรักอยู่กับเคอะแปงหนุ่มในบ้านของพะโป้ แม้มาลูจะพยายามหาทางเอาชนะใจหรือทำตามประเพณีเท่าไหร่ก็ไม่สามารถพิชิตใจแอม-พะเวียได้ จึงคิดจะกำจัดเคอะแปงด้วยการท้าฟันดาบแต่สุดท้ายก็ยังพ่ายเคอะแปง มาลูจึงยอมรับแต่โดยดีว่าเขามิอาจได้ตัวแอมพะเวียไป หลังจากนั้นพะโป้จึงยกแอมพะเวียให้เคอะแปงได้ครองรักและแต่งงานกันตามประเพณี

เลือดชาวนา
เลือดชาวนา (2479/1936) เปรม ปลอดภัย เป็นลูกชาวนาเมืองอยุธยา อาศัยอยู่กับ ปลั่ง มารดาซึ่งเป็นอัมพาต เปรมคบหาอยู่กับ น้อย นาสวน ลูกสาวของ เนย เศรษฐีประจำตำบล แต่ด้วยความยากจนข้นแค้นของเปรม จึงถูกเนยกีดกัน บ่ายวันหนึ่ง เนยและน้อยไปปรึกษากำนันอ่วมในการประกอบพิธีสมโภชแม่โพธิ์สพ เป็นเวลาเดียวกับที่เจือ จิตต์อารี หนุ่มชาวกรุงหลานกำนันอ่วมมาเยี่ยมน้าของตน เจือประทับใจในความงามของน้อยจึงหาโอกาสใกล้ชิดน้อยด้วยการร้องเพลง ถึงแม้เปรมจะแสดงตัวว่าเป็นคนรักของน้อยก็ตาม ทั้งสองจึงทะเลาะกัน เจือเป็นฝ่ายแพ้ วันหนึ่งเปรมออกจากบ้านเพื่อไปซื้อยาให้แม่ที่ตลาด ผ่านร้านสุรา มุ้ยหลี ซึ่งเพื่อนของเปรมกับพรรคพวกของเจือกำลังต่อยตีกันอยู่ เปรมเข้าไประงับเหตุการณ์แต่กลับถูกตำรวจจับกุม ระหว่างถูกควบคุมตัวเปรมขอร้องตำรวจกลับไปบอกแม่ ตำรวจเห็นใจจึงพากันไปที่บ้านเปรม แต่ปรากฏว่าบ้านของเปรมถูกไฟโหมไหม้ เปรมฝ่ากองเพลิงเข้าไปช่วยแม่ไว้ได้ทัน จากนั้นจึงพาแม่ไปรักษาตัวที่กรุงเทพ เผอิญหมอที่ทำการรักษาเป็นน้องชายของปลั่ง จึงช่วยรักษาและออกเงินให้เปรมปลูกบ้านใหม่พร้อมมอบเงินให้อีกจำนวนหนึ่ง เปรมรีบกลับมาหาน้อยที่อยุธยาด้วยความดีใจ แต่ขณะนั้น น้อยกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับเจือ เปรมจึงยอมเป็นฝ่ายเสียสละ เพราะไม่อยากให้น้อยอกตัญญูต่อบิดา แต่น้อยยืนกรานว่าหัวเด็ดตีนขาดจะไม่แต่งงานกับเจือ เจือแอบฟังอยู่โดยตลอดซาบซึ้งถึงรักแท้ที่ทั้งสองมีให้กัน จึงมอบแหวนแต่งงานให้เปรมแทนที่ตน
เด็ดดวงใจ 2479
เด็ดดวงใจ (2479/1936) เปนเรื่องรักแกมโศก ของหนุ่มสาวชาวชนบท ที่ฝ่ายหญิงถูกพรากไปโดยเจ้าหนุ่มชาวกรุง เปนเรื่องยอดรักยอดโศกเจือคติจับใจ (ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพฯ วารศัพท์ มิถุนายน พ.ศ. 2479)
จันทร์เจ้าขา 2479

จันทร์เจ้าขา (2479/1936) จากเรื่องอ่านเล่นลือชื่อมาเปนลครร้องเรื่องที่ดูไม่น่าเบื่อ จากเรื่องลครที่ดูกันไม่เบื่อมาเปนภาพยนตร์พากย์ชั้นมโหฬาร คือ "จันทร์เจ้าขา" ของ "พรานบูรพ์" (ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพฯ วารศัพท์ พฤษภาคม พ.ศ. 2479)

กุหลาบนครสวรรค์ 2479

กุหลาบนครสวรรค์ (2479/1936) ณ ท้องทุ่งตำบลโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ ยังมีความรักตามประสาชายหนุ่มหญิงสาวอย่าง เฉิด และ เนียน อยู่ที่ปลายทุ่ง แต่ความรักของทั้งคู่มิได้ราบรื่นดั่งใจหวัง เพราะเฉิดนั้นเป็นคนยากจน ในขณะที่เนียนเป็นลูกสาวของ กำนันสี ผู้ใหญ่ซึ่งคอยอุปถัมภ์ให้เฉิดได้มีการศึกษา แม้เฉิดจะรักเนียนแต่ก็จำต้องเก็บงำความรู้สึกไว้กระทั่งวันหนึ่ง เฉิดเกิดเผลอใจเอ่ยรักแก่เนียนในขณะที่เนียนก็ยอมรับว่าเธอเองก็มีใจให้เฉิด หนุ่มสาวทั้งสองจึงลอบสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง จนต่างรู้ว่าทั้งคู่คงมิอาจจะพรากจากกัน แต่แล้ววันหนึ่ง นักเลงเมืองกรุงอย่างชิตก็ดันเข้ามาก่อเรื่องหมายใจจะเอาตัวเนียนไป เฉิดจึงต้องตรงเข้าไปต่อสู้ด้วยความชุลมุนชิตจึงชักปืนขึ้นยิงสู้ อนิจจากระสุนพลาดไปถูก นางช้อย มารดาของเฉิดเสียชีวิต กระนั้นก่อนตายช้อยได้บอกความจริงแก่เฉิดว่าแท้จริงเขาคือ ชาญ เป็นลูกชายของ พระยาเทพศรีสุนทร ผู้ดีเมืองกรุง เมื่อรู้ดังนั้นเฉิดจึงเดินทางบ่ายหน้าไปตามหาบิดา แม้ต้องจากกับเนียนแต่เขาก็ให้คำมั่นว่าจะกลับมาสู่ขอเธอ ครั้นเมื่อถึงบ้านของท่านเจ้าคุณ เฉิดจึงเปิดเผยตัวแก่ท่านเจ้าคุณ จนท่านเจ้าคุณถึงแก่ความปีติ จึงรับเฉิดมาดูแล เฉิดเปลี่ยนสภาพจากชายผู้ยากไร้กลายมาเป็นเศรษฐีเมืองกรุง แต่แล้วฐานะที่เปลี่ยนไปก็ทำให้ใจของเฉิดเปลี่ยนตาม เมื่อเขาดันมาหลงเสน่ห์ วิลัย สาวสวยเมืองกรุงจนถอนตัวไม่ขึ้น หลงลืมสัญญาที่ให้ไว้กับเนียน ฝ่ายเนียนที่ยังยึดมั่นในคำสัญญาก็เลิกที่จะรอและตัดสินใจหนีออกจากบ้านเพื่อมาตามหาเฉิด แม้ทางบ้านจะจัดให้เธอได้แต่งงานกับนายอำเภอหนุ่ม เมื่อเนียนเดินทางมาถึงบ้านท่านเจ้าคุณจึงได้พบกับเฉิดอีกครั้ง แต่เฉิดกลับไม่ยอมรับเนียนดังที่เคยให้สัญญา ซ้ำร้ายยังบอกเนียนว่าเขากำลังจะแต่งงานกับวิลัย หารู้ไม่ว่าแท้จริงวิลัยคือหญิงร้ายที่หมายจะฮุบสมบัติของเฉิด เมื่อท่านเจ้าคุณทราบเรื่องจึงโกรธเฉิดที่ไม่มีความรับผิดชอบ และตัดเฉิดออกจากกองมรดก เมื่อนั้นเอง วิลัยจึงได้เผยธาตุแท้ให้เฉิดเห็นว่าเธอเพียงต้องการแค่สมบัติของเฉิด เฉิดจึงต้องซมซานกลับมาหาท่านเจ้าคุณและเนียน เพื่อขอให้ทั้งสองให้อภัย ด้วยความรักของคนเป็นพ่อ ท่านเจ้าคุณก็พร้อมจะให้อภัย ในขณะที่เนียนก็ไม่ปฏิเสธรักเดียวของเธอ ทั้งคู่จึงได้ครองรักกันอย่างมีความสุข

เลือดสุพรรณ 2479
เลือดสุพรรณ (2479/1936) ในสมัยอยุธยา พม่ายกทัพเข้ามารุกรานไทย จนถึงจังหวัดสุพรรณบุรี โดยการนำทัพของมังระโธ กับ มังราย ชาวสุพรรณบุรีตกเป็นเชลยของพม่า รวมทั้งครอบครัวของดวงจันทร์ ผู้ชายถูกเกณฑ์ไปใช้แรงงาน ดวง พ่อของดวงจันทร์ และ มิ่ง เพื่อนบ้าน เริ่มทำงานไม่ไหวจึงคิดหนี แต่ถูกจับได้ มังรายเดินผ่านมาจึงช่วยทั้งสองไม่ให้ถูกทำโทษเป็นชนวนให้มังระโธกับมังรายไม่ลงรอยกัน จนกระทั่งวันหนึ่งมังระโธทนไม่ไหวที่ถูกมังรายขัดขวางหลายต่อหลายครั้ง จึงปราดเข้าไปใช้ดาบฟันมังราย แต่กลับเป็นฝ่ายถูกฟัน กลายเป็นความเคียดแค้นแก่มังระโธ มังรายสารภาพรักกับดวงจันทร์ เธอจึงขอร้องให้เขาปล่อยชาวบ้าน มังรายตอบตกลง มังระโธได้ทีนำความไปบอกแม่ทัพมังมหาสุรนาท แต่มังรายเดินทางมาขอรับโทษเอง นายทหารคนอื่นๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์พยายามช่วยเหลือมังราย เล่าต้นสายปลายเหตุว่าเป็นเพราะมังระโธบีบคอผู้หญิงเพื่อชิงทรัพย์ และแย่งน้ำที่คนจะดื่มเอามาล้างเท้า แต่กระนั้นก็ตาม มังมหาสุรนาทก็ยังสั่งประหารมังราย แม้มังรายจะเป็นลูกในไส้ของตนก็ตาม แล้วสั่งให้ประหารมังระโธข้อหากระทำทารุณต่อชาวบ้าน ขณะนั้นเอง ดวงจันทร์มาขอพบมังมหสุรนาทและร้องขอชีวิตมังรายโดยจะยอมรับโทษแทน แต่ทหารกำลังนำตัวมังรายไปป่าเพื่อจะประหาร ดวงจันทร์รุดหน้าเข้าไปในป่าหวังจะไปขัดขวางการประหารชีวิต กลับพบศพพ่อและแม่ถูกทหารพม่าฆ่าทิ้งเพราะโกรธแค้นที่ดวงจันทร์เป็นต้นเหตุให้มังรายต้องโดนประหารชีวิต ดวงจันทร์พยายามพูดโน้มน้าวปลุกใจชาวสุพรรณให้ลุกขึ้นมาจับดาบขึ้นสู้ และบุกค่ายพม่ายามดึก แม่ทัพพม่าพยายามเกลี้ยกล่อมให้ดวงจันทร์กลับไปและจะยอมไว้ชีวิตแต่ดวงจันทร์ยืนกรานที่จะสละชีพเพื่อชาติ จึงเสียชีวิตพร้อมชาวสุพรรณบุรี

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ