ราชสีห์กรุง (2507)
ราชสีห์กรุง (2507/1964) ข้อความบนใบปิด โยคีสถานสี่พระยา แผนกภาพยนตร์ เสนอ ยอดภาพยนตร์ครบทุกรส ประชันดาราชั้นนำ... ทั้งรัก ทั้งบู๊ สู้สะบัด ราชสีห์กรุง บทประพันธ์ของ เกรียงไกรสร นำโดย สมบัติ เมทะนี รสริน วิลาวัลย์ ชนะ ศรีอุบล ประจวบ ฤกษ์ยามดี รุจน์ รณภพ กิ่งดาว ดารณี วิรัช พึ่งสุนทร อำนวยการสร้าง-กำกับการแสดง เสรีภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
พาฝัน (2505)
พาฝัน (2505/1962) พาฝัน เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2505 สร้างโดย โยคีสถานสี่พระยา แผนกภาพยนตร์
อุดมเด็กดี (2505)
อุดมเด็กดี (2505/1962) อุดม มั่นสุจริต เด็กยากจนแต่มีความขยันหมั่นเพียร มีมานะในการทำงานเพื่อเลี้ยงแม่และค่าเช่าที่ดิน ซึ่งหากไม่มีเงินมาจ่ายก็อาจจะเสียม้าที่ชื่อ เจ้าลอยลม มรดกที่พ่อทิ้งไว้ให้ การหาเงินเป็นเรื่องยากลำบากรวมถึงต้องพบกับอุปสรรค และชะลอ รักการค้า เพื่อนขี้เกียจที่ชวนอุดมให้เกียจคร้าน แต่ท้ายสุดด้วยความซื่อสัตย์และขยัน อุดมจึงช่วยแม่ จ่ายค่าเช่าที่ดิน และช่วยให้ชะลอให้หายหลังยาวได้สำเร็จ
ปัทมานางแก้ว (2505)

ปัทมานางแก้ว (2505/1962) เรื่องราวของ ปัทมา บุตรสาวของเจ้าพระยาศักดิ์ เมื่อมารดาของปัทมาสิ้นลง บิดาของเธอกลับนำ พวงผกา เด็กสาวคราวลูกมาเป็นภรรยาใหม่ พวงผกาพยายามทำทุกวิถีทางที่จะครอบครองสมบัติทั้งหมด และผลักใสปัทมาให้พ้นทางจากเส้นทางของเธอ

เยี่ยมวิมานรัก (2504)
เยี่ยมวิมานรัก (2504/1961) เยี่ยมวิมานรัก เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2504 สร้างจากบทประพันธ์ของ แขไข เทวิณ สร้างโดย โยคีสถานสี่พระยา แผนกภาพยนตร์ โดยมี วิรัช พึ่งสุนทร เป็นผู้อำนวยการสร้างและกำกับการแสดง
สลักจิต 2504

สลักจิต (2504/1961) หลังพ่อเสียชีวิตในต่างประเทศ จอย สลักจิต จึงตัดสินใจกลับยังบ้านภักดีบดินทร์ที่พ่อเธอได้หนีจากไป ท่ามกลางความไม่พอใจของญาติพี่น้องรวมทั้งคุณปู่ เว้นก็แต่เพียง ชายเดียว ลูกพี่ลูกน้องของพ่อเธอที่เอ็นดูและให้กำลังใจจอยมาโดยตลอด จอยเองก็ประทับใจในตัวชายเดียว แต่เมื่อชายเดียวไปเรียนต่อเมืองนอก จอยก็มีหนุ่มเข้ามาติดพัน ยังให้เกิดความเข้าใจผิดต่อกันมากแม้ชายเดียวจะกลับมาก็ตาม ถึงขั้นจอยตัดสินใจหมั้นกับคนอื่นเพื่อประชดชายเดียว

ค่าแห่งความรัก (2504)
ค่าแห่งความรัก (2504/1961) ค่าแห่งความรัก เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2504 สร้างโดย โยคีสถานสี่พระยา แผนกภาพยนตร์ และกำกับการแสดงโดย วิรัช พึ่งสุนทร ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากบทประพันธ์ของ สุกัญญา และถูกนำกลับมาสร้างใหม่อีกครั้งในปี พ.ศ. 2524
สายสวาทยังไม่สิ้น (2503)
สายสวาทยังไม่สิ้น (2503/1960) ชายหนุ่มลูกเลี้ยงถูกเรียกกลับมาเพื่อดูแลธุรกิจของเศรษฐี สร้างความไม่พอใจให้บุตรชายคนโตที่นิสัยไม่เอาถ่านอย่างมาก เขายังเป็นที่หมายปองของบุตรีเศรษฐี ที่คอยให้กำลังใจเขา
พล นิกร กิมหงวน ตะลุยฮาเร็ม (2502)
พล นิกร กิมหงวน ตะลุยฮาเร็ม (2502/1959) พล นิกร กิมหงวน ตะลุยฮาเร็ม เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2502 สร้างจากนิยายชุดเรื่องดังของ ป.อินทรปาลิต สร้างโดย โยคีสถาน สี่พระยา แผนกภาพยนตร์ โดยมี วิรัช พึ่งสุนทร สร้างบทและกำกับการแสดง
ชาติสมิง (2502)
ชาติสมิง (2502/1959) สุรสิทธิ์-แมน-อาคม-อมรา ข้อความบนรูปโฆษณา โยคีสถาน สี่พระยา แผนกภาพยนตร์ วิธีการที่ชาญฉลาดของ ดาวแดง! บุกจับพ่อที่มีลูกสาวสวยไปเป็นตัวประกัน บังคับให้ใช้ความสวยดำเนินงานทำอาชญากรรม ใครขัดขืนพ่อตาย ลูกสาวถูกทรมาน รัฐบาลไทย ซ้อนกลใช้แผนปราบอย่างเฉียบขาด จัดส่งหัวกะทิ กล้าหาญ สัตย์ซื่อ เดนตาย เป็นผู้แทนทั้งสี่กองทัพบก เรือ อากาศ และตำรวจ รัฐบาลจีน ร่วมมือแข็งขันส่ง “มนุษย์ลมกรด” สันติบาลลับหนุ่มมาร่วมด้วย ทั้งห้าเสือร้าย ไทย-จีน ตลุยเข้าถึงรังดาวแดงอย่างไม่ซ้ำแบบกัน รวมกำลังเป็นผลึกเดียวกัน คือ... ชาติสมิง อมรา อัศวนนท์ พงษ์ลดา พิมลพรรณ จันทร์ฉาย พูลสวัสดิ์ สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ อาคม มกรานนท์ พันคำ แมน ธีระพล วิชิต ไวงาน, พีระพล เมธากร, สุวิน สว่างรัตน์ วิรัช พึ่งสุนทร สร้างบท-กำกับการแสดง ด้วยความประณีต ละเอียดละออยื่ง เราไม่ดูถูกท่านผู้ชม จึงสร้างให้สมเหตุผล เห็นจริงจัง ฉายที่ เฉลิมกรุง-เฉลิมบุรี เร็วๆนี้ ต่อจาก “เชลยศักดิ์” (ที่มา :Thai Movie Posters)
ยูงรำแพน (2501)
ยูงรำแพน (2501/1958) ภาพยนตร์ไทยสีวิจิตร ที่ได้ลือลั่นมาแล้วทั่วราชอาณาจักรไทย ทั้งวิทยุ-โทรทัศน์ โยคีสถานสี่พระยา แผนกภาพยนตร์ ขอเสนอภาพยนตร์ชีวิตรัก หวานกระจุ๋มกระจิ๋ม ปนตลก มีคติ เพลินอารมณ์ เบาสมอง วิรัช พึ่งสุนทร ยิ่งใหญ่เยี่ยมยอดที่สุดเท่าที่โยคีสถานสี่พระยา แผนกภาพยนตร์เคยสร้างมาแล้ว เธอได้รับสมญาว่า แม่ยูงรำแพน หยิ่งผยอง รักเกียรติ หวุดหวิดจะติดแร้วและต้องศร ของนายพรานหนุ่ม แต่ด้วยความฉลาดและ รักเกียรติของเธอ กลับทำให้นายพรานผู้ปองรัก ต้องคลานเข้ามาคุกเข่า กราบแทบเท้า
พล นิกร กิมหงวน ตอน เวทีถล่มและพิชิตเมีย (2501)
พล นิกร กิมหงวน ตอน เวทีถล่มและพิชิตเมีย (2501/1958) พล นิกร กิมหงวน ตอน เวทีถล่มและพิชิตเมีย เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2501 สร้างจากนิยายชุดเรื่องดังของ ป.อินทรปาลิต สร้างโดย โยคีสถาน สี่พระยา แผนกภาพยนตร์ โดยมี วิรัช พึ่งสุนทร สร้างบทและกำกับการแสดง
กลิ่นยี่โถแดง (2500)
กลิ่นยี่โถแดง (2500/1957) กลิ่นยี่โถแดง เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2500 สร้างโดย โยคีสถาน สี่พระยา แผนกภาพยนตร์ โดยมี วิรัช พึ่งสุนทร เป็นผู้อำนวยการสร้าง-กำกับการแสดง และให้เสียงพากย์โดย เทพา-อาภรณ์ ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากบทประพันธ์ของ อิงอร (ศักดิ์เกษม หุตาคม) เคยถูกนำมาสร้างเป็นละครเวทีในปี พ.ศ. 2496
เคหาสน์สีแดง (2499)
เคหาสน์สีแดง (2499/1956) เพราะถูกอ้ายคนชั่วพรากความบริสุทธิ์ไปเมื่อหลายปีก่อน อัมภา จึงตั้งท้องกับ ชิต ด้วยความไม่ตั้งใจอัมภาคลอดลูกเป็นบุตรชายและทิ้งให้ชิตดูแล ส่วนตัวเองหนีไปมีครอบครัวใหม่และให้กำเนิด อารยา ชีวิตที่ดูจะราบรื่นกลับมลายลงอีกครั้งเมื่อพ่อของอารยาเสียชีวิต โชคดีที่ พลตรีพระยาพลแสน รับอุปการะอัมภาและลูกให้มาอยู่ที่เคหาศน์รุจิโรจน์ หรือที่คนรู้จักในนาม เคหาสน์สีแดง การปรากฏตัวของสองแม่ลูกสร้างความไม่พอใจแก่ รุจ รุจิโรจน์ ลูกชายของพระยาพลแสนเป็นอันมาก เพราะกลัวจะโดนแย่งความรักไปจากพ่อ พระยาพลแสนเข้าใจเรื่องนี้ดีจึงส่งรุจไปเรียนหมอที่อังกฤษ ไม่นานพระยาพลแสนก็ถึงแก่กรรมโดยทำพินัยกรรมมอบมรดกทั้งหมดแก่รุจ ส่วนอารยาให้รับรายได้จากกองมรดกเดือนละพันบาทตราบใดที่ยังอาศัยที่เคหาสน์สีแดง 8 ปีผ่านไป รุจเรียนจบจากอังกฤษ แต่ไม่ยอมกลับมาอยู่ที่เคหาสน์สีแดง เพราะยังรังเกียจอัมภา จนกระทั่งอัมภาเสียชีวิตด้วยน้ำมือของชิต รุจจึงกลับมาอยู่ที่เคหาสน์สีแดง อารยาในวัย 17 กลายเป็นสาวงามทำให้รุจจิตใจหวั่นไหวแต่ต่อหน้ากลับแสดงท่าทีหมางเมินกลบเกลื่อนความในใจ วันหนึ่งรุจบังเอิญได้รักษา ชาญ ลูกชายของอัมภาที่เกิดกับชิต จึงได้รู้เรื่องราวในอดีตก็คลายทิฐิลง อารยาไม่สบายใจที่จะอาศัยในเคหาสน์สีแดงจึงไปปรึกษา ชาลี ลูกชายคุณนายพนาเวศเพื่อนบ้าน ชาลีแนะนำให้อารยาไปอยู่ที่ไร่รวงผึ้ง ของ ภาคินัย ซึ่งกำลังต้องการคนมาดูแล ภาคินี น้องสาวซึ่งพิการ รุ่งเช้า เมื่อรุจรู้ว่าอารยาหนีออกจากบ้านก็รีบชวน ขุนผจญคดี ทนายความประจำตระกูลออกตามหา ภาคินัยตกหลุมรักอารยาตั้งแต่แรกเห็น ทำให้เสาวรสซึ่งหมายปองภาคินัยอยู่หึงหวง หมอรุจถูกตามตัวมาจากกรุงเทพเพื่อรักษาภาคินี เมื่อเจอหน้าอารยาจึงได้โอกาสกล่าวขอโทษและขออารยาแต่งงาน แต่อารยาเล่าว่าภาคินัยก็เพิ่งจะขอเธอแต่งงานเหมือนกัน หมอรุจคิดว่าตัวเองหมดหวังกำลังจะขับรถกลับกรุงเทพ แต่อารยามาขวางไว้เพราะเพิ่งรู้ใจตนเอง
บ้านทรายทอง (2499)

บ้านทรายทอง (2499/1956) เป็นภาพยนตร์ชีวิตยอดเยี่ยม สีสด รักกระจุ๋มกระจิ๋ม หวานชื่น ซึ้งใจยิ่งกว่า สลักจิต ที่ เสรีภาพยนตร์ กล้ารับรองว่าดีจริง เจ้าพระยาราชาพิพิธ ต้นตระกูลพินิตนันท์ เจ้าของคฤหาสน์บ้านทรายทอง มีลูกชายสองคน คนโตคือ พระยาราชาพิพิธ เจริญรอยตามพ่อ ส่วน สุรพล ลูกชายคนรอง ไม่ยอมทำงานราชการจึงถูกตัดออกจากกองมรดก ภริยาของเจ้าพระยาฯ เป็นห่วงลูกชายคนเล็กจึงทำพินัยกรรมยกบ้านทรายทองให้เป็นสมบัติแก่สุรพล แต่พระยาราชาพิพิธไม่ยอมปฏิบัติตาม ยึดเอาบ้านทรายทองเป็นของตน สุรพลมีลูกชายชื่อ พนา นิสัยคล้ายตนเอง ขยันทำงานจนได้เป็น พระยาดุลยธรรมพินิจ พนาแต่งงานกับหญิงชาวบ้านและมีลูกสามคนคือ พจมาน พจนา และพจนีย์ ก่อนตายได้สั่งเสียให้พจมานไปอยู่กับ หม่อมพรรณราย ลูกสาวของพระยาราชาพิพิธที่บ้านทรายทอง หม่อมพรรณรายเป็นคนเห็นแก่ตัว มีบุตรกับหม่อมเจ้าสว่างวงศ์สี่คนคือ ม.ร.ว.ภารดี หรือ หญิงใหญ่ ม.ร.ว.ภราดา หรือ ชายกลาง ม.ร.ว. ภาวินี หรือ หญิงเล็ก และ ม.ร.ว. ภาณุทัต หรือ ชายน้อย หม่อมพรรณรายไม่อยากรับอุปการะพจมาน จึงร่วมกับหญิงเล็กกลั่นแกล้งพจมานมีเพียงหญิงใหญ่กับชายกลางที่คอยช่วยเหลือ แต่เมื่อชายกลางต้องไปทำงานต่างประเทศ หม่อมพรรณรายกับหญิงเล็กก็รวมหัวกันวางแผนทำร้ายพจมาน แต่กรรมตามสนอง เพราะทำให้ หม่อมเจ้าเอนก คู่หมั้นของหญิงเล็กเห็นธาตุแท้จึงขอถอนหมั้น พระยาราชาพิพิธซึ่งกำลังอยู่ในบั้นปลายชีวิตเริ่มรู้สึกผิดในสิ่งที่ตนเองทำไว้ จึงคิดจะคืนบ้านทรายทองแต่พจมานปฏิเสธและกลับไปหาแม่ที่อยุธยา เมื่อชายกลางกลับจากต่างประเทศจึงรีบลงเรือไปตามพจมาน และขอร้องให้พจมานเลือกว่าจะแต่งงานกับใครระหว่างเศรษฐีอยุธยาหรือหม่อมเจ้าอเนก แต่พจมานไม่ขอเลือกทั้งสองคนเพราะได้มอบหัวใจให้ชายกลางซึ่งคอยช่วยเหลือเธอมาโดยตลอด

ดอกฟ้าและโดมผู้จองหอง (2499)
ดอกฟ้าและโดมผู้จองหอง (2499/1956) เมื่อหมดตัว โดม จึงถูก สารภี คนรักเก่าทอดทิ้ง เป็นเหตุให้โดมเกลียดชังผู้หญิงนับแต่นั้นมาแต่มีหรือที่โดมจะหนีพ้น เพราะถูกจับคู่กับ ม.ร.ว.แสงระวี ทิวากร หญิงสูงศักดิ์ผู้เย่อหยิ่ง เมื่อต้องมาเจอโดมผู้จองหอง ทั้งสองจึงต่อปากต่อคำกันทุกครั้งที่เจอหน้าอย่างไม่ลดราวาศอกกัน แต่ในที่สุด ทั้งสองก็แต่งงานกัน ความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยาก็เกิดขึ้น เมื่อ ม.ร.ว.แสงระวี เริ่มเห็นความดีในการหยิ่งในศักดิ์ศรีของโดม ส่วนโดมนั้นแอบชอบ ม.ร.ว.แสงระวี เป็นทุนเดิม ความรักจึงเกิดขึ้นโดยง่าย แต่ไม่วายก็มีเรื่องให้ทั้งสองขุ่นข้องหมองใจ เมื่อสารภีมาแสดงตัวว่าเป็นเมียเก่าของโดม และแล้ว วันที่โดมเลิกจองหองก็มาถึง เมื่อ ม.ร.ว.แสงระวี ตั้งครรภ์ โดมยอมลดศักดิ์ศรี ไม่สนกับคำครหาที่ว่าเกาะแสงระวีกิน ย้ายเข้าไปอยู่ในวังทิวาเวศม์แต่ครั้นโดนท่านป้าของ ม.ร.ว.แสงระวี ด่ากระทบกระเทียบอยู่บ่อยๆ อาการจองหองของโดมก็กำเริบ หนีไปทำเหมืองอย่างสมถะตามเดิม โดมหักโหมทำงานจนล้มป่วยละเมอเรียกหาแต่ เมียรัก เมื่อ ม.ร.ว.แสงระวี รู้เรื่องก็รีบมุ่งไปหาโดมแม้ว่าจะเกิดอุปสรรคอย่างไรก็ตาม

หน้าที่