เกาะสวาท หาดสวรรค์ (2512)
เกาะสวาท หาดสวรรค์ (2512/1969) เกาะสวาท หาดสวรรค์ เป็นภาพยนตร์สีอิสต์แมน 35 มม.ซูเปอร์ซีเนสโคป ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2512 พากย์เสียงในฟิล์ม สร้างโดย ละโว้ภาพยนตร์ โดยมี หม่อมอุบล ยุคล ณ อยุธยา เป็นผู้อำนวยการสร้าง อำนวยการแสดงโดย พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรณ์มงคลการ ภาพยนตร์เรื่องนี้มีภาคต่อคือภาพยนตร์เรื่อง วิวาห์พาฝัน (2514)
4 สิงห์อิสาน (2512)
4 สิงห์อิสาน (2512/1969) ข้อความบนใบปิด (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) วาสนา ชลากร ศศิธร เพชรรุ่ง ทัต เอกทัต, (สุวิน สว่างรัตน์), ประมินทร์ จารุจารีต ชาณีย์ ยอดชัย, (ชฎาพร วชิรปราณี), ไกร ครรชิต, นุสรา แสงรัตน์, อุไรวรรณ จันทร์ทิพย์, หยาดรุ้ง ระพี, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ชื้น, เถร, จุ๋มจิ๋ม, หมี, พิศ, โขน, แอ๋ และผู้แสดงประกอบนับพัน 4 สิงห์อิสาน ของ ส.อาสนจินดา ถ่ายทำในสมรภูมิ “แม้วแดง” ด้วยเดชะบารมีแห่งพระสยามเทวาธิราชเจ้า จึงดลบันดาลให้เขาทั้งสี่มีกำลังภายในไว้ ผจญมาร เอวันฟิล์ม จัดจำหน่าย
ลูกชาติเสือ (2511)
ลูกชาติเสือ (2511/1968) ชาติเสือไม่ทิ้งลาย ชาติชายไม่ทิ้งเชื้อ ลูกชาติเสือ ยิ่งใหญ่เหนือความยิ่งใหญ่ สะเทือนใจทั้งบู๊และชีวิต สร้างบทจากนวนิยายยอดฮิต ของ กรกฏ อลงกรณ์ ในเดลิเมล์วันจันทร์
เรือจ้าง (2511)
เรือจ้าง (2511/1968) *โบราณเปรียบอาชีพ “ครู” เหมือน “เรือจ้าง” ส่งถึงฝั่งแล้ว ก็หมดความหมาย! ข้อความบนใบปิด พัฒนาการ ผู้สร้าง อรัญญิก เสนอ ชีวิตเทอดทูนพระคุณของครู ต้องดู! เรือจ้าง ของ ป.พิมล นำโดย (มิตร ชัยบัญชา) (พิศมัย วิไลศักดิ์) ร่วมด้วย (ขวัญใจ สะอาดรักษ์), เชาว์ แคล่วคล่อง, อนุชา รัตนมาลย์, มาลี เวชประเสริฐ, (สุวิน สว่างรัตน์), มารศรี อิศรางกูร, ชาย, แก้วตา, สมพงษ์ พงษ์มิตร, ชูศรี โรจนประดิษฐ์, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ดาวน้อย ดวงใหญ่, ขุนแผน ภุมรักษ์, ถนอม นวลอนันต์ และนักเรียนชั้นประถม มัธยม เตรียมอุดม สมาคมครูโรงเรียนราษฎร์แห่งประเทศไทย ให้ความร่วมมือ ศิริ ศิริจินดา กำกับการแสดง สนั่น นาคสู่สุข-จินดา พันธ์ทองดี อำนวยการสร้าง วิเชียร วีระโชติ-วินิจ ภักดีวิจิตร ถ่ายภาพ ทัศนะ ทัศนพล ประชาสัมพันธ์ อนันต์ ชลวานิช สร้างบท เอวันฟิล์ม จัดจำหน่าย
ใจแก้ว (2511)
ใจแก้ว (2511/1968) ข้อความบนใบปิด เทพกรภาพยนตร์ ผู้สร้างภาพยนตร์ได้มาตรฐานเสมอ เสนอ ใจแก้ว ของ จำลักษณ์ นำโดยดารายอดนิยม (มิตร ชัยบัญชา) (พิศมัย วิไลศักดิ์) โสภา สภาพร (ชุมพร เทพพิทักษ์), วรรณา แสงจันทร์ทิพย์, (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), สมควร กระจ่างศาสตร์, ทัต เอกทัต, วงทอง ผลานุสนธิ์, สีเทา และดาวเสียง วิเชียร นีลิกานนท์ ดารารับเชิญ ไสว-ประเสริฐ ชีวิตนี้คือละคร บทบาทบางตอน ยอกย้อนยับเยิน อดุลย์ เศรษฐภักดี ถ่ายภาพ กิติมา เศรษฐภักดี อำนวยการสร้าง รัตน์ เศรษฐภักดี กำกับการแสดง เอวันฟิล์ม จัดจำหน่าย
สิงห์เหนือเสือใต้ (2511)
สิงห์เหนือเสือใต้ (2511/1968) ข้อความบนใบปิด ส.อาสนจินดาภาพยนตร์ เสนอ ผลงานยอดเยี่ยมแห่งยุค สิงห์เหนือเสือใต้ (ไชยา สุริยัน) พบ (เกชา เปลี่ยนวิถี) โสภา สถาพร พบ ชัชฎาภรณ์ รักษนาเวศ (รุจน์ รณภพ), ฑัต เอกฑัต, สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์, สถาพร มุกดาประกร, (ชุมพร เทพพิทักษ์), (ชฎาพร วชิรปราณี), (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ทองฮะ, ชาณีย์ ยอดชัย, ชนินทร์ นฤปกรณ์, ปฐมชัย, โขน, ชื้นแฉะ, ทองถม, เสริมพันธ์ สุทธิเนตร, จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, สมชาย, เมฆ และดาวยั่วดวงใหม่ จันทิรา สุภาษิต เอวันฟิล์ม จัดจำหน่าย
สายพิณ (2511)
สายพิณ (2511/1968) สมบัติ-เนาวรัตน์ วัชรา ข้อความบนใบปิด จักรวาลภาพยนตร์ ผู้สร้าง แม่ศรีเรือน รักคุณเข้าแล้ว เสนอภาพยนตร์ชีวิตรัก ครื้นเครง อลเวงแนวใหม่ ใน สายพิณ จากละครวิทยุเรื่องฮิท ของคณะ แก้วฟ้า (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) เนาวรัตน์ วัชรา สองดาราตุ๊กตาทอง (รุจน์ รณภพ), สาหัส บุญหลง, จำรูญ หนวดจิ๋ม, เชาว์ แคล่วคล่อง, เสถียร ธรรมเจริญ, (ทานทัต วิภาตะโยธิน), ปราณีต คุ้มเดช, ทองฮะ ขอแนะนำดาราใหม่ สุชาวดี มุกดาประกร เนรมิต กำกับการแสดง สุวรรณา คุณามาตย์ อำนวยการสร้าง เอกคุณ คุณามาตย์ ถ่ายภาพ เอวันฟิล์ม จัดจำหน่าย
มรกตแดง (2511)
มรกตแดง (2511/1968) ข้อความบนใบปิด สหวุฒิฟิล์ม เสนอ มรกตแดง ของ สุภัทร สวัสดิรักษ์ ละครวิทยุคณะ ทานตะวัน เยี่ยมจริง! ยอดจัง! ละครดัง! หนังเด็ด! นำแสดงโดย (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) สมทบด้วยดาราดังอีกคับคั่ง ทักษิณ แจ่มผล, (เมตตา รุ่งรัตน์), (สมจิตร ทรัพย์สำรวย), (ศรินทิพย์ ศิริวรรณ), ฑัต เอกฑัต, ถวัลย์ คีรีวัต, (ชุมพร เทพพิทักษ์), พิภพ ภู่ภิญโญ, ทศ วงศ์งาม, เชาว์ แคล่วคล่อง, ชนินทร์ นฤปกรณ์, ปราณีต คุ้มเดช, วันทนา, แคหลอ, (ล้อต๊อก)น้อย, สนั่น, ทองฮะ, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ก๊กเอง และดารารับเชิญ ชาลี อินทรวิจิตร, ประดิษฐ์ กัลย์จาฤก เรียม วัธนเวคิน อำนวยการสร้าง ฉลอง กลิ่นพิกุล ถ่ายภาพ อนุมาศ บุนนาค สร้างบท-กำกับการแสดง
รักเอย (2511)
รักเอย (2511/1968) วาณี สาวสวยผู้ยากไร้ซึ่งอาศัยอยู่ในสลัม ได้บังเอิญมาพบรักกับ ภาสกร เพลย์บอยหนุ่มนักธุรกิจ จนยอมไปอยู่กินกับเขา โดยที่ภาสกรก็พร้อมจะยอมลดละความเจ้าชู้ของตัวเองเพื่อวาณี กระทั่งเรื่องรู้ไปถึงหูคุณพ่อของภาสกร ซึ่งรู้สึกชิงชังในชาติกำเนิดของว่าที่ลูกสะใภ้ เขาจึงวางแผนจัดฉากให้ภาสกรเข้าใจผิดคิดว่าอดิเรกเพื่อนรักลอบเป็นชู้กับวาณี
เล็บครุฑ ตอน ประกาศิตจางซูเหลียง (2511)
เล็บครุฑ ตอน ประกาศิตจางซูเหลียง (2511/1968) ดร. จาง จำเป็นต้องหาหางของหุ่นนกอินทรีที่เขาคิดว่ายังคงอยู่ในประเทศไทย เพื่อไปทำการถอดรหัสลับสูตรมหาประลัย โดยอาศัยความช่วยเหลือจากสมุนเก่า ๆ ในไทย เมื่อหน่วยสืบราชการลับของไทยได้ข่าว จึงได้ส่ง เคลียว บางคล้า หนุ่มเจ้าสำอาง ออกสืบหาเรื่องราวเกี่ยวกับด็อกเตอร์เจ้าเล่ห์ผู้นี้ และหาทางปราบผู้ก่อการร้ายข้ามชาติให้หมดสิ้น
สมบัติแม่น้ำแคว (2511)
สมบัติแม่น้ำแคว (2511/1968) (แมน ธีระพล) พา (มิตร ชัยบัญชา) เพื่อนคู่หู ไปเยี่ยม ยามาโมโต นักสมุทรศาสตร์ชาวญี่ปุ่นที่เกาะแห่งหนึ่งของอ่าวไทย ในอดีตนั้น ยามาโมโต ก็คือพันโททหารญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ลำเลียงทองคำมูลค่ามหาศาลจากพม่าจะไปญี่ปุ่น แต่เรือบรรทุกทองคำถูกเรือฝ่ายสัมพันธมิตรยิงจมลงกลางอ่าวไทย จุดที่เรือจมนั้นก็มีแต่พันตรีทานากะคนเดียวที่รู้ตำแหน่ง เมื่อสงครามยุติ พันตรีทานากะก็กลับไปอยู่ฮ่องกง ขณะที่แมนกับมิตรไปหายามาโมโตนั้น มิตรก็ได้พบกับไพลินลูกสาวคนสวยของผู้ใหญ่สิน มิตรกับไพลินจึงเริ่มรักใคร่ชอบพอกันชัช เป็นหัวหน้าขบวนการใต้ดินสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้จับตาดูพฤติกรรมการเลี้ยงหอยมุขของยามาโมโต เพราะคิดว่ายามาโมโตจะต้องรู้จุดที่เรือบรรทุกทองคำจมลง จึงแกล้งมาเลี้ยงหอยมุขอยู่บนเกาะแห่งนี้เพื่อจะหาโอกาสนำทองคำกลับไปญี่ปุ่นต่อมา ยามาโมโต ก็ได้รับโทรเลขด่วนจากทานากะ บอกให้รีบเดินทางไปฮ่องกงเพื่อทานากะจะบอกจุดที่เรือบรรทุกทองคำจมลง ยามาโมโตและโชโกะจึงเดินทางไปฮ่องกง แมนรู้เรื่องก็แอบตามไปด้วย โดยแมนก็ไม่รู้ว่าชัชได้ส่งสมุนสะกดรอยตามไปด้วยเช่นกัน สมุนของชัชเข้าถึงตัวทานากะได้ก่อนและฆ่าทานากะตายก่อนที่ทานากะจะบอกความจริงว่า เรือบรรทุกทองคำจมอยู่ ณ จุดใดย้อนกลับมาที่เกาะในอ่าวไทย ก็มีนักดำน้ำขี้เมาอยู่คนหนึ่งชื่อ ตาบุญ ตาบุญรู้ว่าจุดที่เรือบรรทุกทองคำจมลงนั้นอยู่ตรงไหน ตาบุญสนิทสนมกับไพลิน มีอะไรก็จะเล่าบอกไพลิน จุดเรือจมนี้ตาบุญก็เคยเล่าบอกไพลินแล้ว แต่ไพลินไม่เชื่อ คิดว่าตาบุญพูดเรื่อยเปื่อยตามประสาคนเมา แล้วจู่ๆ วันหนึ่ง ตาบุญก็พาไพลินไปยังจุดที่เรือจม ตาบุญดำน้ำลงไปงมเอาเศษไม้ป้ายชื่อเรือมาให้ไพลินดูเมื่อรู้จุดที่เรือจม ยามาโมโตกับสินจึงพาชาวบ้านไปงมหาทองคำ เมื่อได้ทองคำขึ้นมาแล้วก็ถูกชัชกับสมุนดักปล้นเอาทองคำไป ไพลินและโชโกะถูกจับเป็นตัวประกัน มิตรกับแมนก็ขับเครื่องบินบินสกัดรถบรรทุกทองของชัช เกิดการต่อสู้กัน ชัชขับรถบรรทุกทองหนีไปได้ แต่ระหว่างทาง รถก็เกิดระเบิดขึ้นเพราะยามาโมโตได้แอบซุกระเบิดไว้ในหีบบรรจุทองคำ ทำให้ชัชกับสมุนเสียชีวิต ไม่มีใคร
ผู้ชนะสิบทิศ ภาคสมบูรณ์ บุเรงนองถล่มหงสาวดี (2510)
ปผู้ชนะสิบทิศ ตอน ถล่มหงสาวดี (2510/1967) จะเด็ด ได้รับมอบหมายให้ปราบเมืองแปร แต่กลับหนีทัพไปพาตัว กุสุมา คนรักกลับออกมาจากหงสา แม้พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้จะพิโรธจนตัดความสัมพันธ์ แต่ด้วยความปรีชาสามารถของจะเด็ด ความสัมพันธ์จึงกลับมาราบรื่นตามเดิม วันหนึ่ง เมื่อ ไขลู จากหงสาวดี กลับมากำจัดพระมหาเถร พระอาจารย์ของทั้งคู่ จะเด็ดและพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ จึงร่วมกันยกทัพเพื่อถล่มหงสาวดีให้พินาศเพื่อเป็นการล้างแค้น
ผู้ชนะสิบทิศ ภาค 2 บุเรงนองลั่นกลองรบ (2510)
ผู้ชนะสิบทิศ ตอน บุเรงนองลั่นกลองรบ (2510/1967) เรื่องราวต่อเนื่องจากเหตุการณ์ที่พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ยกทัพบุกมายังเมืองแปร ด้วยความพิโรธจากการกระทำของจะเด็ด แต่กลับต้องแตกทัพกลับไป ขณะเดียวกัน สอพินยา แห่งหงสาวดี ก็ได้ลักลอบพาตัวกุสุมา คนรักของจะเด็ด กลับมายังหงสา เมื่อเรื่องราวเริ่มบานปลาย จะเด็ดจึงตัดสินใจกลับไปตองอูอีกครั้งเพื่อพิสูจน์ตัวเองต่อพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ พระองค์จึงสั่งให้จะเด็ดเตรียมทัพเพื่อตีเมืองแปรเป็นการไถ่โทษ
โป๊ยเซียน (2510)
โป๊ยเซียน (2510/1967) ข้อความบนใบปิด ยอดหนัง...ทั้งบู๊ทั้งชีวิต ครึกครื้น สนุกตื่นเต้น ดีเด่นเหนือคำโฆษณา ศิวารมณ์ภาพยนตร์ เสนอ สองดาราสุดยอดนิยม (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) โป๊ยเซียน จากเรื่องของ อ.กลัสนิมิ พร้อมด้วย (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี), (ปรียา รุ่งเรือง), สาหัส บุญหลง, อบ บุญติด, ประมินทร์ จารุจารีต, มาลี เวชประเสริฐ, (ทานทัต วิภาตะโยธิน), (สมจิตร ทรัพย์สำรวย), (ล้อต๊อก), (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), จุ๋มจิ๋ม ศรทอง อุไร ศิริสมบัติ สร้างฉาก อนันต์ อินลออ ถ่ายภาพ รอย ฤทธิรณ สร้างบท สงวน มัทวพันธ์ อำนวยการสร้าง เนรมิต กำกับการแสดง เอวันฟิล์ม จัดจำหน่าย
เหยี่ยวสังหาร (2509)
เหยี่ยวสังหาร (2509/1966) ข้อความบนใบปิด ศิวารมณ์ภาพยนตร์ เสนอ เหนือบอนด์...แน่กว่าฟลิ้น บินผงาดฟ้ามาเหนือเมฆ เหยี่ยวราตรี ตอน เหยี่ยวสังหาร ของ ส.เนาวราช (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) (แมน ธีระพล), (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี) พร้อมด้วย ประมินทร์ จารุจารีต, ชาณีห์ ยอดชัย, (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), ธัญญา ธัญญารักษ์, จุ๋มจิ๋ม ศรทอง (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ทองแถม และผู้แสดงประกอบคับคั่ง อุไร ศิริสมบัติ สร้างฉาก-กำกับฝ่ายศิลป์ รัตน์ เศรษฐภักดี ถ่ายภาพ รอย ฤทธิรณ สร้างบท เนรมิต กำกับการแสดง สงวน มัทวพันธุ์ อำนวยการสร้าง เอวันฟิล์ม จัดจำหน่าย
จ้าวหญิงนกกระจาบ (2509)
เจ้าหญิงนกกระจาบ (2509/1966) มิตร-กรุณา ข้อความบนใบปิด มารุตฟิล์ม เจ้าหญิงนกกระจาบ จาก ชาดกนิยาย ดินแดนแห่งความมหัศจรรย์ มาเป็นภาพยนตร์... แฟนตาซี สวยสด งดงาม มิตร ชัยบบัญชา กรุณา ยุวากร ร่วมด้วย สาหัส บุญหลง, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ถวัลย์ คีรีวัต มารุต กำกับการแสดง
เพชรสีเลือด (2509)
เพชรสีเลือด (2509/1966) ข้อความบนใบปิด พิษณุภาพยนตร์ จงใจสร้างให้ใหญ่ เพชรสีเลือด ของ “แก้วฟ้า” (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) กรุณา ยุวากร (ชนะ ศรีอุบล) ทักษิณ แจ่มผล, (อดุลย์ ดุลยรัตน์), (ชุมพร เทพพิทักษ์), กิ่งดาว ดารณี, (ปรียา รุ่งเรือง), เยาวเรศ นิสากร, พูนสวัสดิ์ ธีมากร, (ล้อต๊อก) แก้วฟ้า, (เสน่ห์ โกมารชุน) ให้เกียรติร่วมแสดง เนรมิต กำกับการแสดง วิจารณ์ ภักดีวิจิตร ถ่ายภาพ-อำนวยการสร้าง เอวันฟิล์ม จัดจำหน่าย
จามเทวี (2509)
จามเทวี (2509/1966) ไชยา-เพชรา ข้อความบนใบปิด อมรินทร์ภาพยนตร์ โดย สุรัสน์ พุกกะเวส เสนอ จินตนาการประกอบอาชญนิยาย เหตุการณ์ระหว่าง 2000 ปี มาผนึกกับยุคปัจจุบัน สะเทือนขวัญ สยดสยอง สุดยอดของความตื่นเต้น จามเทวี นำโดย ไชยา-เพชรา (แมน ธีระพล), (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), มานี มณีวรรณ, เยาวเรศ นิศากร, สุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต, สัมพันธ์, สุดเขต, (อดินันท์ สิงห์หิรัญ), ปราณีต คุ้มเดช, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ทองฮะ วงศ์รักไทย, แป๊ะอ้วน, ก๊กเฮง และขอแนะนำดาวรุ่งดวงใหม่ มิส เอ.ซี.บอลล์ รังสินี รอยวิวัฒน์ ในบท “พระนางจามเทวี” อุษา บุณยรักษ์ อำนวยการสร้าง อรรถ อรรถจินดา กำกับร่วมกับผู้กำกับเกียรติยศ ส.อาสนจินดา สมชาย จันทวังโส ถ่ายภาพ เอวันฟิล์ม จัดจำหน่าย
ผู้ชนะสิบทิศ ตอน ยอดขุนพล (2509)
ผู้ชนะสิบทิศ ตอน ยอดขุนพล (2509/1966) จะเด็ด สามัญชนผู้ได้รับการเลี้ยงดูจากพระมหาเถร พระอาจารย์แห่งกษัตริย์ตองอู และต่อมา ได้รับเลือกให้เป็นผู้สืบทอด ดาบยอดขุนพล เมื่อถึงรัชสมัยพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ ผู้ซึ่งนับถือจะเด็ดเป็นพระสหายคนสนิท เขาได้รับมอบหมายให้เป็นแม่ทัพปราบเมืองแปร แต่จะเด็ดกลับไปหลงรักและอภิเษกกับ กุสุมา ธิดาพระเจ้าเมืองแปร เป็นเหตุให้พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ทรงพิโรธ และยกทัพบุกยังเมืองแปร
จอมประจัญบาน (2509)
จอมประจัญบาน (2509/1966) ข้อความบนใบปิด อมรินทร์ภาพยนตร์ ภูมิใจเสนอ ภาพยนตร์เทิดเกียรติวีรกรรมทหาร ลูกเสือ และตำรวจชายแดนด้านหาดเล็ก ในความอุปการะของพลอากาศเอกทวี จุลละทรัพย์ ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม จอมประจัญบาน (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) มานี มณีวรรณ, ทักษิณ แจ่มผล, (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), (รุจน์ รณภพ), (ล้อต๊อก), (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ชาณีย์ ยอดชัย, ทศ, ชนินทร์, ทองฮะ และ พลโท ม.ล.ขาบ กุญชร, สนิท เอกชัย, เปลวใจ หทัยทิพย์, อัญชนา, เพราพิลาศ โยธานันท์, ส.อาสนจินดา, วลิต สนธิรัตน์, ศักดิ์สมุทร, สุดเขตต์ วิเชียร วีระโชติ ถ่ายภาพ อุษา บุณยรักษ์ อำนวยการสร้าง ส.อาสนจินดา กำกับการแสดง เอวันฟิล์ม จัดจำหน่าย
โสนน้อยเรือนงาม (2509)
โสนน้อยเรือนงาม (2509/1966) กษัตริย์นครโรมวิสัย (ม.ล.ขาบ กุญชร) มีพระราชธิดาที่งดงามมาก เมื่อพระราชธิดาประสูติมีเรือนไม้เล็กๆปรากฎขึ้นข้างกาย เรือนนี้เมื่อพระธิดาเจริญวัยขึ้น เรือนไม้นี้ก็โตขึ้นด้วยและกลายเป็นของเล่นของพระราชธิดา พระบิดาจึงตั้งชื่อพระราชธิดาว่า โสนน้อยเรือนงาม (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) เมื่อโสนน้อยเรือนงามมีพระชนม์พรรษาได้สิบห้าพรรษา โหรทูลพระบิดาว่าโสนน้อยเรือนงามกำลังมีเคราะห์ ควรให้ออกไปจากเมืองเสีย เพราะจะต้องอภิเษกกับคนที่ตายแล้ว พระบิดาและพระมารดาก็จำใจให้โสนน้อยเรือนงามออกไปจากเมืองแต่ผู้เดียว โสนน้อยเรือนงามปลอมตัวเป็นชาวบ้านและเอาเครี่องทรงพระราชธิดาห่อไว้ พระอินทร์สงสารนางจึงแปลงร่างเป็นชีปะขาวมามอบยาวิเศษสำหรับรักษาคนตายให้ฟื้นได้ โสนน้อยเรือนงามเดินทางเข้าไปในป่าพบนางกุลา (ชฎาพร วชิรปราณี) หญิงใจร้ายนอนตายเพราะถูกงูกัด โสนน้อยเรือนงามจึงนำยาของชีปะขาวมารักษา นางกุลาก็ฟื้น นางจึงขอเป็นทาสติดตามโสนน้อยเรือนงาม. ที่นครนพรัตน์มีกษัตริย์ (ม.ล.รุจิรา อิศรางกูร) ครองอยู่ มีพระราชโอรสนามว่า พระวิจิตรจินดา (ไชยา สุริยัน) ซึ่งเป็นชายหนุมรูปงามและมีความสามารถ แต่วันหนึ่งพระวิจิตรจินดาถูกนาคราชกัดสิ้นพระชนม์ พระบิดาและพระมารดาเศร้าโศรกเสียใจมาก แต่โหรทูลว่า พระวิจิตรจินดาจะสิ้นพระชนม์ไปเจ็ดปีแล้วจะมีพระราชธิดาของเมื่องอื่นมารักษาได้ พระบิดาและพระมารดาจึงเก็บพระศพของพระวิจิตรจินดาไว้ และมีประกาศให้คนมารักษาให้ฟื้น โสนน้อยเรือนงามและนางกุลาเดินทางมาถึงเมืองนพรัตน์ได้ทราบจากประกาศ จึงเข้าไปในวังและอาสาทำการรักษา โดยขอให้กั้นม่านเจ็ดชั้น ไม่ให้ใครเห็นเวลารักษา โสนน้อยเรือนงามแต่งเครื่องทรงพระราชธิดาทำการรักษา โดยนางกุลาติดตามเฝ้าดู เมื่อโสนน้อยเรือนงามทายาให้พระวิจิตรจินดา พิษของนาคราชเป็นไอร้อนออกมาทำให้นางรู้สึกร้อนมาก จึงถอดเครื่องทรงพระราชธิดาออกแล้วเสด็จไปสรงน้ำ ระหว่างนั้นนางกุลาก็นำเครื่องทรงพระราชธิดาของโสนน้อยเรือนงามามแต่ง พอดีพระวิจิตรจินดาฟื้น ทุกคนก็คิดว่านางกุลาเป็นพระราชธิดาที่รักษาจึงเตรียมจะให้อภิเษก ส่วนโสนน้อยเรือนงามต้องกลายเป็นข้าทาสของนางกุลาไป พระวิจิตรจินดาและพระบิดาและพระมารดาก็ยังมีความสงสัยในนางกุลา จึงให้นางเย็บกระทงใบตองถวาย นางกุลาทำไม่ได้โยนใบตองทิ้งไป โสนน้อยเรือนงามเก็บใบตองมาเย็บเป็นกระทงสวยงาม นางกุลาก็แย่งไปถวายพระราชบิดามารดาของพระวิจิตรจินดา พระวิจิตรจินดาไม่อยากอภิเษกกับนางกุลาจึงขอลาพระบิดาพระมารดาไปเที่ยวทางทะเล พระบิดาพระมารดาให้นางกุลาย้อมผ้าผูกเรือ นางกุลาก็ทำไม่เป็น โยนผ้าและสีทิ้ง โสนน้อยเรือนงามเก็บผ้าและสีไปย้อมได้สีงดงาม นางกุลาก็แย่งนำไปถวายพระบิดาพระมารดาอีก. เมื่อพระวิจิตรจินดาจะออกเรือก็ปรากฎว่าเรือไม่เคลื่อนที่พระวิจิตรจินดาทรงคิดว่าคงมีผู้มีบุญในวังต้องการฝากซื้อของ เรือจึงไม่เคลื่อนที่จึงให้ทหารมาถามรายการของที่คนในวังจะฝากซื้อ ทุกคนก็ได้มีโอกาสฝากซื้อ แต่โสนน้อยเรือนงามอยู่ใต้ถุนถึงไม่มีใครไปถาม เรือก็ยังไม่เคลื่อนที่ พระวิจิตรจินดาจึงให้ทหารกลับไปค้นหาคนในวังที่ยังไม่ได้ฝากซื้อของ ทหารจึงได้ไปค้นหานางโสนน้อยเรือนงามได้ นางจึงฝากซื้อ "โสนน้อยเรือนงาม" เมือพระวิจิตรจินดาเดินทางไป ลมก็บันดาลให้พัดไปยังเมืองโรมวิสัยของพระบิดาของโสนน้อยเรือนงาม พระวิจิตรจินดาซื้อของฝากได้จนครบทุกคน ยกเว้นโสนน้อยเรื่อนงาม พระวิจิตรจินดาจึงสอบถามจากชาวเมือง ชาวเมืองบอกว่าโสนน้อยเรือนงามมีอยู่แต่ในวังเท่านั้น พระวิจิตรจินดาจึงเข้าไปในวังและทูลขอซื้อโสนน้อยเรือนงามไปให้นางข้าทาส พระบิดาของโสนน้อยเรือนงามทรงถามถึงรูปร่างหน้าตาของนางทาส ก็ทรงทราบว่าเป็นพระธิดา จึงมอบโสนน้อนเรือนงามให้พระวิจิตรจินดาและให้ทหารตามมาสองคน เมื่อพระวิจิตรจินดากลับถึงบ้านเมือง ทหารเมืองโรมวิสัยก็ไปทำความเคารพนางโสนน้อยเรือนงาม และเรือนวิเศษก็ขยายเป็นเรือนใหญ่มีข้าวของเครื่องใช้พระธิดาครบถ้วน โสนน้อยเรือนงามก็เข้าไปอยู่ในเรือนนั้น พระวิจิตรจินดาจึงแน่ใจว่าโสนน้อยเรือนงามเป็นพระราชธิดาที่รักษาตน จึงจะฆ่านางกุลาแต่โสนน้อยเรือนงามขอชีวิตไว้ จึงเนรเทศนางกุลาออกจากเมือง พระวิจิตรจินดาก็ได้อภิเษกกับนางโสนน้อยเรือนงาม หลังจากอภิเษกแล้วพระวิจิตรจินดาและโสนน้อยเรือนงามได้เดินทางโดยสำเภาไปยังเมืองโรมวิสัย แต่เรือถูกพายุพัดจนแตก พระวิจิตรจินดาและทหารถูกน้ำพัดไปติดที่เกาะแห่งหนึ่งเป็นที่อยู่ของฤาษีตาไฟ ซึ่งช่วยสอนวิชาอาคมให้เพื่อพระวิจิตรจินดาจะได้เดินทางกลับบ้านเมืองได้ ส่วนโสนน้อยเรือนงามซึ่งกำลังตั่งครรภ์ได้ขึ้นฝั่งไปพบนางกุลากำลังป่วยใกล้ตายจึงใช้ยาวิเศษช่วยชีวิตไว้ แต่หลังจากฟื้นมาแล้วนางกุลากลับผลักโสนน้อยเรือนงามตกลงไปในบ่อพิษทำให้ใบหน้าอัปลักษณ์ โสนน้อยซมซานไปพบกับเศรษฐีใจบุญ (พยงค์ มุกดา) และภรรยา (ศรีสละ ทองธารา) ทั้งสองสงสารจึงเลี้ยงดูเหมือนลูกและคลอดพระโอรสออกมารูปโฉมงดงาม ส่วนนางกุลาเดินทางมาพบกับกองเกวียนของมะเดื่อ (ชาย เมืองสิงห์) ซึ่งเป็นบุตรของเศรษฐีใจบุญ นางกุลาใช้เสนห์ยั่วยวนจนได้เป็นเมียของมะเดื่อ เมื่อมะเดื่อพานางกุลามาถึงบ้านก็ได้พบกับโสนน้อยเรือนงามที่หน้าตาอัปลักษณ์ แต่นางกุลาแกล้งทำเป็นไม่รู้จัก เมื่อสบโอกาสก็แอบลักพระโอรสไปโยนทิ้งน้ำ แต่พระโอรสมีบุญไม่ถึงแก่ชีวิต ลอยไปยังเกาะที่มีฤาษีผู้มีฤทธิ์แก่กล้า ฤาษีเศกให้พระโอรสโตขึ้นเป็นเจ็ดขวบและสอนวิชาให้ นางกุลาแสดงความร้ายกาจจนครอบครัวเศรษฐีใจบุญทนไม่ไหว จึงขับไล่ออกจากบ้าน นางกุลาเดินทางมาในป่าจนพบกับเหล่าโจรป่า จึงยั่วยวนจนหัวหน้าโจรลุ่มหลง วันหนึ่งนางกุลาจึงวางแผนให้โจรป่าเข้าปล้นบ้านเศรษฐีใจบุญเพื่อจะฆ่าโสนน้อยเรือนงาม ขณะเดียวกับที่พระวิจิตรจินดาและพระโอรสต่างสำเร็จวิชาที่ร่ำเรียนกับพระฤาษี อาจารย์ของทั้งสองจึงสั่งให้มาช่วยโสนน้อยเรือนงาม พระวิจตรจินดาและพระโอรสใช้วิชาปราบเหล่าโจรร้ายจนราบคาบ และได้สาปนางกุลาให้กลายเป็นวัว โสนน้อยหมดเคราะห์กรรมทำให้ใบหน้าหายจากความอัปลักษณ์ ทั่งหมดจึงได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข
ศึกบางระจัน (2509)
ศึกบางระจัน (2509/1966)เรื่องราวของ ทับ ชายหนุ่มผู้อพยพชาวบ้าน รวมทั้งนิมนต์พระครูธรรมโชติมาอยู่ที่บางระจัน เพื่อเตรียมรับมือกับทัพพม่า เมื่อได้ข่าวว่าข้าศึกกำลังมาเยือนพร้อมด้วยปืนใหญ่ ทับจึงอาสาฝ่าอันตรายเดินทางไปขอปืนใหญ่ในวังหลวงอ้ายทับ แห่งบ้านคำหยาดหัวหน้ากลุ่มโจรที่คอยโจมตีทัพพม่า ต่อมาชาวบ้านคำหยาดไปรวมตัวกับชาวบ้านแห่งค่ายบางระจัน และอ้ายทับได้เป็นหัวหน้ากองทหารแห่งบ้านบางระจัน ชาวค่ายบางระจันสามารถรบโจมตีกับทัพพม่าได้แทบทุกครั้งด้วยความสามัคคีของคนในค่าย แต่ทว่าด้วยกำลังเพียงหยิบมือกับกองทัพขนาดใหญ่ที่หมายบุกไปโจมตีกรุงศรีอยุธยา ทำให้ชาวบ้านบางระจันถูกตีแตกพ่ายเหลือเพียงตำนานเล่าขานวีรกรรมแด่คนรุ่นหลัง
หยกแดง (2509)
หยกแดง (2509/1966) ข้อความบนใบปิด พิษณุภาพยนตร์ เสนอ ภาพยนตร์ชีวิต..บู๊.. หยกแดง ของ ปพิมล (มิตร ชัยบัญชา) (พิศมัย วิไลศักดิ์) ร่วมด้วย ฑัต เอกฑัต, สมควร กระจ่างศาสตร์, ประมินทร์ จารุจารีต, เอื้อมเดือน อัษฎา, เยาวเรศ นิศากร, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, แป้น ปลื้มสระไชย วิจารณ์ ภักดีวิจิตร อำนวยการสร้าง วินิจ ภักดีวิจิตร ถ่ายภาพ พันคำ กำกับการแสดง เอวันฟิล์ม จัดจำหน่าย
เสน่ห์บางกอก (2509)
เสน่ห์บางกอก (2509/1966) แพร (พร ภิรมย์) หนุ่มบ้านศาลาเกวียนหลงใหลความเจริญของเมืองบางกอกถึงขนาดหนีการบวชทดแทนพระคุณพ่อแม่คือกำนันปลั่ง (พยงค์ มุกดา) หนีที่จะต้องแต่งงานกับ สไบ (ภาวนา ชนะจิต) สาวบ้านนาที่พ่อแม่เลือกให้ไปเมืองบางกอก แต่แล้วเมืองบางกอก ก็ทำให้แพรผิดหวังเพราะเจอแต่คนแล้งน้ำใจ ไม่ว่าจะเป็นสาวบางกอกที่แพรคิดจะรักก็ไม่ใยดี ซ้ำต้องเผชิญกับนักเลงหัวไม้แย่งชิงพระพุทธรูปที่แพรนำติดตัวมาจนแพรต้องไปเป็นนักมวย ฝ่ายพ่อแม่ก็ออกตามหาตัวแพรกันจ้าละหวั่น แต่แล้วในที่สุดแพรก็หันหลังให้กับเมืองบางกอก กลับบ้านนอกมาพร้อมๆ กับพ่อแม่และสไบที่ออกตามหาด้วยความเป็นห่วง

เงิน เงิน เงิน (2508/1965) เพลงพราว...ดาวพรู...ดูเพลิน เมื่อได้ชม เงิน เงิน เงิน ฉายแล้วจ้า...เฉลิมเขตร์ ไม่รวยก็ปิ๋ว... หนังมาตรฐาน ระบบซูเปอร์ซีเนสโคป สีอิสต์แมน เต็มจอยักษ์เฉลิมเขตร์ ฟัง 14 เพลงเพราะ จาก 15 ยอดนักเพลง เพลงพราว ดาวพรู ดูเพลิน 62 ดารา 14 เพลงเอก ทั่วโลกยอมรับแล้วว่า "เงิน เงิน เงิน" เป็นหนึ่งไม่มีสอง! 35 ม.ม.เสียงในฟิล์ม ซุปเปอร์ซีเนสโคป สีอิสต์แมน ขุนหิรัญ (อบ บุญติด) นายทุนเงินกู้ วัตโกเศรษฐกิจ มอบหมายให้หลานชาย ตุ๊ อรรคพล ((มิตร ชัยบัญชา)) เอาสัญญาเงินกู้ไปขู่บังคับชาวบางรื่นสุข ให้ย้ายออกด่วนเพื่อเอาที่ดินไปทำธุรกิจตึกแถวร่วมกับ คุณนายเม้า (สุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต) หุ้นส่วน ซึ่งอรรคพลไม่ชอบวิธีการเช่นนี้ และเมื่อได้พบกับชุมชนที่สุขสงบ เรียบง่าย รวมทั้งกลุ่มวงดนตรีแก๊งค์เด็กวัดอารามบอย ทำให้ความหวังที่จะทำธุรกิจบันเทิงอย่างที่ตนเองฝันไว้ผุดขึ้นมาอีกครั้ง จึงรวมกลุ่มกับแก๊งค์เด็กวัดเพื่อเปิดกิจการไนท์คลับ แต่ก็ถูกกลั่นแกล้งจากท่านขุน ขณะเดียวกัน ภารดี (สุมาลี ทองหล่อ) น้องสาวแอบรักชอบกับ รังสรรค์ (ชรินทร์ นันทนาคร) ครูสอนเปียโนฐานะยากจน เมื่อหลานชายกับหลานสาวไม่ได้ดังใจ เศรษฐีหน้าเลือดอย่างท่านขุน จึงไล่ทั้งคู่ออกจากบ้าน โดยยื่นเงื่อนไขให้เอาเงินมาไถ่ที่ราคาหนึ่งล้านบาท เหตุการณ์พลิกผันให้อรรคพลพบกับแม่ที่พลัดพรากกัน (วิไลวรรณ วัฒนพานิช) และได้ กิ่งแก้ว (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) เด็กขอทานผู้เป็นเสมือนพลังใจ จนทำให้ความสัมพันธ์พัฒนาเป็นความรัก และช่วยกันหาทางนำเงินมาไถ่ถอนที่ได้สำเร็จ เป็นตัวอย่างของภาพยนตร์ที่สามารถเป็นตัวแทนภาพยนตร์ไทยในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ชัดเจน ทำหน้าที่ปลอบประโลมใจคนยากคนจนให้มีความหวัง ที่จะฝันว่า จะมีพระเอกในฝัน หนุ่มหล่อ ลูกมหาเศรษฐีมาช่วย มาหลงรัก และครองรักกับเราอย่างชื่นมื่นสุขใจ

เดือนร้าว (2508/1965) ข้อความบนใบปิด ส.ค.ส.2509 โดมฤดีโปรดัคชั่น ขอส่งความสุขปีใหม่ด้วยภาพยนตร์ รัก สดชื่น ระทึกใจ (มิตร ชัยบัญชา) พบกับรองนางสาวไทย เนาวรัตน์ วัชรา วิไลวรรณ วัฒนพานิช, (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี), เอื้อมเดือน อัษฎา, (อดุลย์ ดุลยรัตน์), จุรีรัตน์, สุเทพ เหมือนประสิทธิเวช และ 4 ดาวเปลือยชื่ออื้อฉาว มณทิชา ณ เชียงดาว, มานี มณีวรรณ, บุษบา นภารักษ์, เปลวใจ หทัยทิพย์ เดือนร้าว จากบทประพันธ์ ของ รพีพร โดม แดนไทย อำนวยการสร้าง ไพรัช สังวริบุตร ถ่ายภาพ คุณาวุฒิ กำกับการแสดง เอวันฟิล์ม จัดจำหน่าย

 
รัดใจ (2508)
รัดใจ (2508/1965) ข้อความบนใบปิด เพชรรัตน์ภาพยนตร์ โดย “ศักดา ธงชัย” ภูมิใจเสนอ สุดชีวิต ของ พิศมัย สุดหัวใจ ของ สมบัติ รัดใจ ของ บุษยมาส จากนิยายวิทยุก้องอาณาจักรไทยของคณะ แก้วฟ้า ร่วมด้วย (รุจน์ รณภพ), (ปรียา รุ่งเรือง), กิ่งดาว ดารณี, ม.ร.ว.ประสิทธิศักดิ์ สิงหรา, วรรณา แสงจันทร์ทิพย์, รจิต ภิญโญวนิช, จุฑารัตน์ จินรัตน์, สมศรี, จรูญ สินธุเศรษฐ์, จำรูญ หนวดจิ๋ม, เทียมจันทร์, จรัสศรี สายะศิลปี, สุเทพ เหมือนประสิทธิเวช ขอแนะนำ เด็กหญิงรุ้ง บรรณกร เนรมิต กำกับการแสดง อนันต์ อินละออ ถ่ายภาพ สุธี มีศีลสัตย์ สร้างบท ศักดา ธงชัย อำนวยการสร้าง เอวันฟิล์ม จัดจำหน่าย
ใจฟ้า (2508)
ใจฟ้า (2508/1965) ข้อความบนใบปิด อินทรวิจิตรภาพยนตร์ เสนอ เมื่อสวรรค์มีตา ฟ้าย่อมมีใจ ใครๆก็อวยชัยให้ ใจฟ้า ของ รพีพร นำโดย (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) ร่วมด้วย พันคำ, ชรินทร์ นันทนาคร, บุศรา นฤมิต, เยาวเรศ นิสากร, พงษ์ลดา พิมลพรรณ, (ศรินทิพย์ ศิริวรรณ), (ปรียา รุ่งเรือง), (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), (บุษกร สาครรัตน์), (เมืองเริง ปัทมินทร์), จรูญ สินธุเศรษฐ์, (ชุมพร เทพพิทักษ์), ชนินทร์ พร้อมด้วยดาราดาวร้ายครบชุด และขอฝากฝังเด็กสาวคนใหม่ แพร ไพลิน ชาลี อินทรวิจิตร อำนวยการสร้าง อนันต์ อินละออ ถ่ายภาพ พันคำ กำกับการแสดง เอวันฟิล์ม จัดจำหน่าย
นางพรายคะนอง (2508)
นางพรายคะนอง (2508/1965) ข้อความบนใบปิด พรสุรีย์ภาพยนตร์ เสนอ นางพรายคะนอง ของ ป.พิมล ภาพยนตร์ผีที่ประทับจิต ภาพยนตร์ชีวิตที่ประทับใจ นำแสดงโดย (ไชยา สุริยัน) (ภาวนา ชนะจิต) ร่วมด้วย (ชฎาพร วชิรปราณี), (พร ไพโรจน์), ศลักษณ์ ปรีชา, มาลี เวชประเสริฐ, โยธิน เทวราช, พูนสวัสดิ์ ธีมากร, (ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา), (ไสล พูนชัย), ถวิล, จรูญ สินธุเศรษฐ์, ปราณีต คุ้มเดช, (หม่อมชั้น พวงวัน) และดาราอันดับ 1 อีกคับคั่ง สุลาลีวัลย์ สุวรรทัต อำนวยการสร้าง เฉลิม บุตรบุรุษ ถ่ายภาพ ประทีป โกมลภิส กำกับการแสดง เอวันฟิล์ม จัดจำหน่าย
ศึกเสือไทย (2508)
ศึกเสือไทย (2508/1965) ข้อความบนใบปิด ฉัตรชัยภาพยนตร์ วรุณ ฉัตรกุล ณ อยุธยา นำสุภาพบุรุษเสือไทยกลับมา กลางพายุสงกรานต์ควันปืน และความรักเป็นคาวเลือด ศึกเสือไทย ของเสนีย์ บุษปะเกศ (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) โสภา สถาพร สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ วิไลวรรณ วัฒนพานิช ทักษิณ แจ่มผล แสดงนำ พร้อมด้วย (ปรียา รุ่งเรือง), ถวัลย์ คีรีวัต, ชาณีย์ ยอดชัย, จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, (สุวิน สว่างรัตน์), (ทานทัต วิภาตะโยธิน), เมศร์, ไกร ครรชิต, สุเทพ เหมือนประสิทธิเวช, เปลวใจ หทัยทิพย์ และสองดาวเพลงลูกทุ่งยอดนิยม ชาย เมืองสิงห์, ผ่องศรี วรนุช กับดาวตลกเงินล้าน ดอกดิน กัญญามาลย์, ชูศรี โรจนประดิษฐ์, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), แคหลอ ฯลฯ อุไร ศิริสมบัติ สร้างฉาก ปานเทพ กุยโกมุท ถ่ายภาพ พาณี ฉัตรกุล ณ อยุธยา อำนวยการสร้าง วรุณ ฉัตรกุล ณ อยุธยา กำกับการแสดง เอวันฟิล์ม จัดจำหน่าย
สาวเครือฟ้า (2508)
สาวเครือฟ้า (2508/1965) สร้างใหม่ สร้างให้เหนือกว่า มโหฬารกว่า ใหม่ด้วยฉาก ตื่นตาวิจิตรตระการตา ใหม่ด้วยดาราสุดยอดนิยม ร้อยตรีพร้อม ((มิตร ชัยบัญชา)) นายทหารหนุ่มชาวใต้ ย้ายมารับราชการที่เชียงใหม่ เกิดรักใคร่กับ เครือฟ้า (พิศมัย วิไลศักดิ์) หญิงช่างฟ้อนชาวเชียงใหม่ เป็นลูกของคนเลี้ยงช้าง แล้วก็ได้ผูกสมัครรักใคร่กันขึ้น เพราะร้อยตรีพร้อมชอบให้เครือฟ้าพาไปเที่ยวป่า จากนั้นทั้งคู่อยู่กินฉันได้เป็นสามีภรรยากันชั่วระยะสั้น ๆ จนให้กำเนิดบุตรชื่อ เครือณรงค์ ต่อมาจนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ไทยเข้าร่วมรบกับฝ่ายพันธมิตรและมีการระดมทหารอาสาไปรบที่ยุโรป ข่าวมาถึงเชียงใหม่ ร้อยตรีพร้อมได้คำสั่งย้ายกลับกรุงเทพฯ ร้อยตรีพร้อมเลยอาสาไปรบ ก่อนจากได้ร่ำลากันด้วยความรักและอาลัย เครือฟ้าร้องไห้ปิ่มว่า น้ำตาจะเป็นสายเลือด แต่ร้อยตรีพร้อมก็สัญญาว่าจะกลับมาเชียงใหม่อีก ร้อยตรีพร้อมจากไปแล้ว เครือฟ้าก็ตั้งท้อง ร้อยตรีพร้อมไปรบที่ยุโรป ยิงเครื่องบินเยอรมันตกไปหลายลำ แต่ตัวเองก็ประสบเคราะห์กรรมเครื่องบินตกได้รับบาดเจ็บเช่นกัน พอกลับเมืองไทยก็ได้รับพระราชทานเลื่อนยศเป็นพันตรีหลวงณรงรักษ์ศักดิ์สงคราม แต่ก็ไม่สามารถจำอะไรในอดีตแม้แต่เครือฟ้าและเชียงใหม่ ร้อยตรีพร้อมได้ถูกทางญาติบังคับให้แต่งงานกับจำปา (เนตร์นภา ดารารัตน์) เป็นลูกผู้ดีมีสกุล จนเกิดรักใคร่ชอบพอกันแล้วก็แต่งงานกันถูกต้องตามกฎหมาย จนถึงวันที่คุณหลวงพร้อมต้องเอาเครื่องบินไปแสดงบินที่เชียงใหม่ และพอไปก็คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเคยมาอยู่ที่นี่ แต่ก็โดนคอยขัดขวาง ฝ่ายเครือฟ้าเฝ้ารอสามี เมื่อได้ข่าวว่าสามีเดินทางมาเชียงใหม่ ก็ไปคอยต้อนรับด้วยความดีใจ เมื่อพบว่าร้อยตรีพร้อมแต่งงานแล้ว พร้อมกับพาภรรยามาด้วย แต่คุณหลวงจำไม่ได้และยังโดนจำปาไล่กลับและดูหมิ่นดูแคลนต่างๆ นานา เครือฟ้าเสียใจมาก จึงใช้มีดแทงตัวตาย ด้วยหัวใจที่แตกสลาย แต่คุณหลวงจำได้ก็สายเกินไปเสียแล้ว
ชุมทางเขาชุมทอง (2508)
ชุมทางเขาชุมทอง (2508/1965) 44 ปีที่ภาพยนตร์ไทยกำเนิดมา ไม่เคยมีเรื่องใด ยิ่งใหญ่ เกรียงไกรเท่า เรื่องราวของชายหนุ่มซึ่งถูกใส่ร้ายว่ายิงพ่อตาตนเองจากข้างหลัง เขาต้องสูญเสียทั้งเกียรติ และความเชื่อใจจากคนรอบข้างและภรรยา หลังจากพ้นโทษเขาเดินทางกลับบ้านที่เขาชุมทอง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้เป็นคนยิงพ่อตาของเขา และสืบหาคนร้ายตัวจริง ท่ามกลางการไม่ต้อนรับทั้งจากครอบครัวเขาเอง และคนในชุมชน อีกทั้งยังถูกหมายหัวจากเหล่ากลุ่มอิทธิพลที่ต้องการกำจัดเขาให้พ้นจากพื้นที่แห่งนี้อีกด้วย