เงาะป่า (2523)

เงาะป่า (2523/1980) เรื่องราวของหนึ่งหญิงสองชายชาวป่า ตอนเริ่มต้นกล่าวว่าได้เค้าเรื่องจากคำบอกเล่าของยายลมุด หญิงเฒ่าชาวเงาะ เมืองพัทลุง แล้วดำเนินเรื่องว่า คนัง (ปู จินดานุช) เงาะชาวพัทลุงกำพร้าพ่อแม่ อยู่กับพี่ชายชื่อ แค วันหนึ่งคนังชวนเพื่อนชื่อ ไม้ไผ่ ไปเที่ยวป่าพบ ซมพลา (จตุพล ภูอภิรมย์) เงาะหนุ่ม ล่ำสันแข็งแรง เก่งในทางใช้ลูกดอก ซมพลาหลงรัก ลำหับ (ศศิธร ปิยะกาญจน์) พี่สาวไม่ไผ่ ลำหับ เป็นคู่หมั้นของ ฮเนา (ภิญโญ ปานนุ้ย) ซมพลาได้พบไม้ไผ่ก็ดีใจ สอบวิธีเป่าลูกดอกให้ไม้ไผ่และคนัง ซมพลาเผยความในใจที่มีต่อลำหับให้ไม้ไผ่ฟัง ไม้ไผ่เต็มใจช่วย ออกอุบายให้ซมพลาได้พบกับลำหับ ลำหับยินดีรับรักซมพลา พอถึงวันแต่งงานของฮเนากับลำหับ ไม้ไผ่กับคนังได้ช่วยซมพลาพาลำหับหนี ฮเนากับรำแก้ว พี่ชายออกติดตาม ซมพลานำลำหับไปซ่อนไว้ในถ้ำแล้วออกไปหาอาหาร พบฮเนาเข้าเกิดต่อสู้กัน รำแก้วเข้าช่วยน้องชาย ใช้ลูกดอกเป่าถูกซมพลา ลำหับเห็นซมพลาหายไป จึงออกตามหา พบซมพลาขาดใจตายไปต่อหน้าต่อตา ก็เสียใจฆ่าตัวตายตาม ฮเนาได้เห็นความรักอันเด็ดเดี่ยวของซมพลากับลำหับ รู้ตัวว่าเป็นเหตุให้ทั้งสองต้องเสียชีวิต จึงตัดสินใจฆ่าตัวตายตามไปด้วย

คนมีคาว (2521)
คนมีคาว (2521/1978) หากฉันมี คาว เพราะความใคร่ ก็ขอให้ฉันเป็น คน เพราะความรัก"ศาสตรา" (สรพงศ์ ชาตรี) ชายหนุ่มที่ตกเป็นทาสยาเสพติดทำให้ผู้เป็นลุงอย่าง "พรต" (คธา อภัยวงศ์) ต้องพาเขามาดูแลที่บ้าน แต่ศาตรากลับไม่ลงรอยกับลูกสาวทั้งสองของลุงคือ "ศีตลา" (นัยนา ชีวานันท์) ลูกสาวคนโต และ "มธุลีย์" (เนาวรัตน์ ยุกตะนันทน์) ลูกสาวคนเล็ก ศาสตรารักษาอาการติดยาที่คลีนิคแห่งหนึ่งทำให้ได้พบกับคนรักเก่าอย่าง "มนทิรา" (จีราวัจน์ จารุวิจิตร) ทว่าเธอได้แต่งงานมีสามีไปแล้วแม้ศาสตราจะพยายามหว่านล้อมให้เธอเปลี่ยนใจอย่างไรก็ตาม ทำให้เขาเกิดความคิดที่จะหลอกล่อให้ศีตลาเปิดตู้เซพของพรตเพื่อหวังบางอย่างในตู้เซพนั้น และแผนการนี้นำพาไปสู่ความลับโสมมที่ผู้เป็นลุงของเขาได้ก่อเอาไว้
ยมบาลจ๋า (2521)

ยมบาลจ๋า (2521/1978) ที่ นรกภูมิ เมื่อท่านพญายมสอบถามวิญญาณผีตนหนึ่งชื่อออมว่าเป็นอะไรตาย ออมก็เล่าเรื่องให้ฟังและบอกพญายมว่า เมื่อตอนที่เขาเป็นมนุษย์นั้น เขาได้หลงรักผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ กรอง และยังมีปรารถนาจะกลับไปใช้ชีวิตกับกรองอีกครั้งหนึ่ง พญายมก็ทนการอ้อนวอนไม่ไหว จึงยอมให้ออมกลับไปสู่โลกมนุษย์อีกครั้งแบบมีเงื่อนไข เมื่อออมยอมรับเงื่อนไข รูปร่างหน้าตาของออมก็เปลี่ยนจากคนขี้ริ้วขี้เหร่เป็นหนุ่มหล่อเหลา

เมื่อกลับสู่โลกมนุษย์ได้ ออมก็ไปหากรอง แต่กรองจำออมไม่ได้เพราะรูปร่างเปลี่ยนไป ขณะนั้นกรองก็ทำงานเป็นผู้หญิงหากินตอนกลางคืน มีแมงดาชื่อ ธาดา เป็นคนคุ้มครอง

แม่เล้าเห็นว่า ออมเป็นเศรษฐีหนุ่ม มีเงินก็หวังจะเกาะกิน จึงยุให้แรมฤดีแต่งงานกับออม ในวันแต่งงานพญายมก็ปรากฏกายขึ้นและสอบถามออมว่า ยังจะอยากมีชีวิตในโลกมนุษย์แบบนี้ต่อไปอีกหรือไม่เพราะตามเงื่อนไขแล้ว ถ้าออมแต่งงานมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนใดแล้ว คาถาต่างๆ ก็จะสิ้นมนต์ขลัง ออมจะอธิษฐานอะไรอีกไม่ได้แล้วและชีวิตของออมหลังแต่งงานก็จะไม่มีวันตายจนกว่าออมจะพบคนผู้ที่ไม่มีความทุกข์อะไรเลย ออมจึงจะได้กลับสู่ยมโลก ออมก็ยอมเพราะต้องการลิ้มรสข้าวใหม่ปลามัน

การได้อยู่ร่วมกันกับแรมฤดีอย่างคนธรรมดา ทำให้ชีวิตของออมต้องพบกับเรื่องชั่วร้ายต่างๆ ถูกหลอกลวง ถูกหักหลัง ต้องต่อสู้กับภัยต่างๆ แรมฤดีก็หนีไปจนทำให้ออมรู้สึกว่า ชีวิตนี้ไม่มีความสุข ออมนึกถึงคำพูดของพญายมว่า โลกนี้ไม่มีอะไรน่าอยู่ ออมจึงอยากตาย เรียกหาพญายมให้มารับตัวออมกลับไปนรกภูมิ แต่ก็ไม่เป็นผล ออมพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้ง เช่น ยิงตัวตาย กระโดดน้ำตาย แต่ก็ไม่ตาย ออมคลุ้มคลั่งเหมือนคนเสียสติและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโรคจิต ณ ที่นี้เอง ออมได้พบกับคนบ้าคนหนึ่งที่เขาบอกว่า ชีวิตเขาไม่เคยมีความทุกข์ มีแต่ความสุข ออมจึงนึกถึงคำพูดของพญายมที่บอกว่า เมื่อเจ้าพบคนที่ไม่มีความทุกข์ เจ้าจึงจะพ้นบ่วงกรรม จากนั้นร่างของออมก็ค่อยๆ กลายเป็นธุลีดิน วิญญาณก็ล่องลอยสู่นรกภูมิท่ามกลางความแปลกใจของหมอและผู้คนที่พบเห็น

กบฏหัวใจ (2519)
กบฎหัวใจ (2519/1976) ข้อความบนใบปิด อุทัยภาพยนตร์ โดย สมชาย แสงพลสิทธิ์ สร้าง กบฎหัวใจ ของ สุมนทิพย์ “ลืมเสมอ ทุกครั้งที่ฉันจะลืม อดที่จะรักเธอไม่ได้ รักแท้แค่ไหน ก้ไม่วายกบฎ” (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์) (ไพโรจน์ ใจสิงห์) วันทนา บุญบันเทิง (มานพ อัศวเทพ), (สายัณห์ จันทรวิบูลย์), สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์, พันคำ, วิไลวรรณ วัฒนพานิช, วิน วิษณุรักษ์, (เมตตา รุ่งรัตน์), (รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง ณ ราชสีมา), มารศรี ณ บางช้าง, โขน หมอผี, มารศรี อิศรางกูร, จรินทร์, เพชร, และด.ช.แอ๋ สมชาติ (แมน ธีระพล) ขอเอาเกียรติเป็นเดิมพันกำกับอย่างสุดฝีมือ สมศักดิ์ โตประทีป ถ่ายภาพ ส.อาสนจินดา สร้างบทภาพยนตร์ อารีย์ ศรทอง กำกับบท อัศวินภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
ทะเลฤาอิ่ม (2519)

ทะเลฤาอิ่ม (2519/1976) ข้อความบนใบปิด อัศวินภาพยนตร์ เสนอ ทะเลฤาอิ่ม ของ สุวรรณี สุคนธา ภาพยนตร์ที่กระเทาะเปลือกวัยรุ่นถึงเม็ดใน สรพงศ์ ชาตรี วิยะดา อุมารินทร์ หรรษา จริยาพร ต่อลาภ กำพุศิริ ผกาแก้ว วงศ์ยุบล, เอนก คุ้มประวัติ, นพดล เทพอัศว พร้อมด้วย สุทิศา พัฒนุช, (อดุลย์ ดุลยรัตน์), จำรูญ หนวดจิ๋ม, พงษ์ลดา พิมลพรรณ, บู๊ วิบูลย์นันท์, เฉลา ประสพศาสตร์, ดุษฎี ภาณุพันธุ์ กำกับการแสดง (อดุลย์ ดุลยรัตน์) ผู้ช่วยผู้กำกับ โชน บุนนาค-พูนสวัสดิ์ ธีมากร ถ่ายภาพ ภาณุพันธ์ สร้างบทภาพยนตร์

 
เพชรมหาภัย (2519)
เพชรมหาภัย (2519/1976) ข้อความบนใบปิด เหมือนในใบปิด “เพชรมหาภัย” *หนังเรื่องนี้สร้างจากนิยายเรื่อง ลาวคำหอม ของลมูล อติพยัคฆ์ เจ้าของนิตยสารโลกดารา ซึ่งได้นำเรื่องนี้ลงตีพิมพ์เป็นตอนๆในโลกดาราด้วย ไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลใด ตอนออกฉายจึงเปลี่ยนมาใช้ชื่อ เพชรมหาภัย หรืออาจจะอยากให้ดูเป็นหนังบู๊มากขึ้น สมัยนั้นการขายสายต่างจังหวัด หนังบู๊จะได้รับความนิยมมากกว่า หนังกลางแปลง คนจะแน่นก็ต่อเมื่อเป็นหนังบู๊ ถ้าเป็นหนังชีวิต คนกลับบ้านหมด! ดาราชายท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่าหนังเรื่องหนึ่งที่เขาร่วมแสดงด้วย ที่เขาถ่ายไปไม่มีฉากบู๊เลย ตัวเขาก็ไม่ได้ยิงใครในเรื่องด้วย และเท่าที่เขารู้ก็ไม่มีฉากยิงกันเลยทั้งเรื่อง แต่บนใบปิดมีดาราถือปืนเต็มไปหมด! คือทำใบปิดเพื่อเรียกแขกจริงๆ!
อัศวิน 19 (2519)
อัศวิน 19 (2519/1976) ข้อความบนใบปิด ภาพยนตร์รบยิ่งใหญ่ เทิดทูนวีรกรรมของวีรชน ฟังเพลง “หนักแผ่นดิน” ของ พ.ต.บุญส่ง หักฤทธิ์ศึก ที่ระบือลือลั่นจากวิทยุยานเกราะ ความเป็นไทยเรารัก และไม่ยอมให้ใครย่ำยี เราจะรักษาแผ่นดินไทยไว้ ด้วยหัวใจ และสายเลือดของนักสู้ “ลูกแม่ไทย” อัศวิน 19 (กรุง ศรีวิไล) (เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์) นิรุตติ์ ศิริจรรยา เรวดี ปัตตะพงษ์ (มานพ อัศวเทพ), (สายัณห์ จันทรวิบูลย์), หรรษา จริยาพร, กุลนที วรารักษ์, ศรีไพร ใจพระ, เทวฤทธิ์ ลอยชาย, จำนงค์ บำเพ็ญทรัพย์, เทียนชัย, เมฆ, สุรชาติ, สิงห์ มิลินทราศัย, สินีนาฏ โพธิเวส, ชานีย์ ยอดชัย ภาณุพันธุ์ ยุคล อำนวยการสร้าง จรี อมาตยกุล ดำเนินงาน ส.อาสนจินดา ประพันธ์เรื่อง-สร้าง-กำกับ วิเชียร วีระโชติ-ปรีชา ทรัพย์พระวงศ์ ถ่ายภาพ อัศวินภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
หนุมานผจญเห้งเจีย (2518)
หนุมานผจญเห้งเจีย (2518/1975) ข้อความบนใบปิด สตาร์ฟิล์มบางกอก โดย ไพฑูรย์ รตานนท์ ขอมอบผลงานยอดมหาสนุก ดารานำ (อุเทน บุญยงค์) (ไพโรจน์ ใจสิงห์) พบรองนางสาวไทย ปริศนา โลหะนันท์ ร่วมด้วย (ชุมพร เทพพิทักษ์), สิงห์ มิลินทราศัย, เทิ่ง สติเฟื่อง, รุจิรา อิศรางกูร, พิภพ ภู่ภิญโญ, สีเผือก, ศรีสุริยา, เทพ เทียนชัย, จุ่น, ก.เก่งทุกทาง, เพ็ญพิมพ์, พัชรา, ก๊กเฮง และขบวนดารานาฏศิลป์ หนุมานผจญเห้งเจีย บรรเจิด ทวี สร้างเรื่อง อัจฉรินทร์ ดารา สร้างบท โชน บุนนาค ถ่ายภาพ ไพฑูรย์ รตานนท์ กำกับการแสดง เจริญ พูนวรลักษณ์ อุปการะ อัศวินภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
คุณครูที่รัก (2517)
คุณครูที่รัก (2517/1974) ข้อความบนใบปิด ประสพสุขภาพยนตร์ เสนอ พระคุณครูนั้นล้ำเลิศ เราจึงเทอดให้โลกรู้... คุณครูที่รัก จากบทประพันธ์ของ พร น้ำเพชร (นาท ภูวนัย) (เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์) (สายัณห์ จันทรวิบูลย์), ดวงใจ หทัยกาญจน์, ภูษิต อภิมัน, จิระศักดิ์ ปิ่นสุวรรณ, สุริยา ชินพันธ์, ธานินทร์ อินทรเทพ, ส.อาสนจินดา, พงษ์ลดา พิมลพรรณ, วงศ์ ศรีสวัสดิ์, มารศรี อิศรางกูร “พันคำ” กำกับการแสดง โชน บุนนาค ถ่ายภาพ สุกิจ ชุตินันต์ สร้างฉาก กิตติ ประสพสุข อำนวยการสร้าง อัศวินภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
น้ำผึ้งขม (2517)

น้ำผึ้งขม (2517/1974) กังสดาล (นฤมล นิลวรรณ) ถูกซื้อด้วยสัญญาทาสที่ ปุริม พิษณุการ (สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์) หนุ่มใหญ่เจ้าของโรงแรมดังทำไว้กับ โรส (อมรา อัศวนนท์) แม่ของเธอที่หวังปลดหนี้สินด้วยการขายลูกให้อดีตคนรักเก่าที่เธอเคยทอดทิ้งไป โดยไม่รู้ว่าลูกสาวจะต้องเจอนรกจากแรงแค้นของปุริมที่มีต่อเธอมากเพียงใด ทั้งยังมี จวงจันทร์ (ภัทราวดี ศรีไตรรัตน์) สาวใหญ่ผู้มีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้ของปุริมคอยกลั่นแกล้งสารพัด หญิงสาวถูกทารุณทั้งกายใจ จนชิงชังปุริมสุดขั้วหัวใจและไม่มีวันให้อภัยเขาเด็ดขาด

ปุริม นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ ที่ฝังใจเจ็บกับความรักครั้งก่อน ที่ทำให้ชีวิตแทบพังทลายเพราะ โรส ทำให้ ปุริมจึงกลายเป็นคนที่มองผู้หญิงเพียงของเล่นเท่านั้น โรสกลับมาพบกับปุริมอีกครั้ง เธอกลายเป็นแม่หม้ายลูกติด และกำลังขัดสนถึงขนาดยอมขาย กังสดาล ลูกสาวให้เป็นเมียของปุริม กังสดาลมาอาศัยกับปุริม โดยที่ จวงจันทร์ แม่หม้ายสาวใหญ่ ไม่เห็นด้วย และตอกย้ำว่ากังสดาลเป็นแค่นางบำเรอของปุริมเท่านั้น กังสดาลไม่มีทางเลือกจึงจำต้องทนอยู่ เวลาผ่านไป ปุริมพบว่ากังสดาลไม่มีอะไรเหมือนโรสแม่ของเธอเลย ความพยาบาทจึงเริ่มเสื่อมคลายลง

จวงจันทร์ใช้ข้ออ้างที่เธอป่วยเป็นโรคหัวใจ ขอร้องให้กังสดาลยอมไปจากชีวิตของปุริม กังสดาลจึงหลบไปพักอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัด ปุริมแอบมาดักพบกังสดาล และเข้าใจผิดว่าเธอกำลังมีรักใหม่กับ กรกิต ผู้เป็นอา เขายังได้พบกับ แสงดาว หญิงสาวผู้เชื่อมั่นในความรัก ผู้เปรียบเสมือน อาของกังสดาล ทั้งสองคบกันอย่างเปิดเผย แต่ปุริมยังหาโอกาสพบกับกังสดาล จนเธอไม่อาจห้ามใจตัวเองได้อีกและยอมอยู่กับปุริม อย่างหลบๆ ซ่อนๆ เรื่องราวรักในรอยแค้นของปุริมกับโรส มารดาของกังสดาล สาวน้อยที่ถูกขายปลดหนี้ โดยหารู้ไม่ว่าลูกสาวจะต้องเจอฤทธิ์รักจากแรงแค้นของปุริม จุดจบความรักครั้งนี้จะลงเอยอย่างไร

รอยมลทิน (2517)
รอยมลทิน (2517/1974) ข้อความบนใบปิด บริษัท กรุงสยามภาพยนตร์ จำกัด เสนอภาพยนตร์ชีวิตเยี่ยมยอด สะเทือนใจ! ซีเนมาสโคป ระบบ 35 ม.ม. สีอิสต์แมน เสียงในฟิล์ม รอยมลทิน บทประพันธ์สุดรัก ของ ทมยันตี นำแสดงโดย (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) รุ้งลาวัลย์ ศรีปฏิมากูล วิไลวรรณ วัฒนพานิช, (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี), สุวัจชัย สุทธิมา, กฤษณ์, โดม สิงห์โมฬี, สมจิตต์ ทรัพย์สำรวย, พิภพ ภู่ภิญโญ ร่วมด้วย โขมพัสตร์ อรรถยา, โฉมฉาย ฉัตรวิไล, จอมใจ จรินทร์ จำรูญ หนวดจิ๋ม, (ล้อต๊อก), บาหยัน พันธุ์โสภา “ดาวโป๊ใจถึง” และดารารับเชิญ ประเดิม เขมะศรีสุวรรณ เนรมิต กำกับการแสดง ถาวร สุวรรณ สร้างบทภาพยนตร์ อนันต์ อินละออ ถ่ายภาพ สะอาด คุปตารักษ์ ฝ่ายศิลป์ อัศวิน ภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
ทุ่งใหญ่อินทนนท์ (2517)
ทุ่งใหญ่อินทนนท์ (2517/1974) ข้อความบนใบปิด อุทัยภาพยนตร์ เสนอ สมชาย แสงพลสิทธิ์ อำนวยการสร้าง ส.อาสนจินดา ขอเอาเกียรติเป็นเดิมพัน กำกับสุดฝีมือ ถ้าจะดูชีวิต! ก็สุดที่จะประทับใจ ถ้าจะดูความยิ่งใหญ่! ก้ไม่มีใครเกิน... ทุ่งใหญ่อินทนนท์ 35 ม.ม.สโคป มาตรฐานโลก สี เสียงรอบทิศ (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์) (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี), (แมน ธีระพล), สอาด เปี่ยมพงษ์สานต์, (เมตตา รุ่งรัตน์), วิน วิษณุรักษ์, โดม สิงห์โมฬี, ชิต, มารศรี, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ศรีสละ ทองธารา, โขน หมอผี, รอง, กำเจ, และ ส.อาสนจินดา อุทัย แสงพลสิทธิ์, สมชัย วงศ์ศิริกุล, จิรวัฒน์ ดุลย์ฐิตนันท์, สนั่น นาคสู่สุข ประสานงาน ปง อัศวินิกุล บันทึกเสียง (แมน ธีระพล) ที่ปรึกษา สมศักดิ์ โตประทีป, ละเอียด พลายแก้ว ถ่ายภาพ สมศักดิ์ แสงบรรเจิดกุล, วิชิต ไทรงาม ฝ่ายศิลป์ อัศวินภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
ซำเหมา (2516)
ซำเหมา (2516/1973) ข้อความบนใบปิด บางกอกสโคป เสนอ ซำเหมา ของ เพียรพร พลาดิสัย “35 ม.ม.” นำโดย (ยอดชาย เมฆสุวรรณ) (พิศมัย วิไลศักดิ์) สุคนธ์ทิพย์ เสนะวงศ์ (มานพ อัศวเทพ) พร้อมด้วย ด.ช.สุทธิศักดิ์, พิภพ ภู่ภิญโญ, มารศรี อิศรางกูร, พฤหัส บุญ-หลง, (ชูศรี มีสมมนต์), (มนัส บุณยเกียรติ), ลุงโกร่ง กางเกงแดง และผู้แสดงอีกมาก ประเสริฐ สาครเสถียร อำนวยการสร้าง ชาญณรงค์ ดำหริสกุล ดำเนินงาน “ดริน ดารากร” กำกับการแสดง โชน บุนนาค-พูลสวัสดิ์ ธีมากร ถ่ายภาพ อนุมาศ บุนนาค สร้างบท เศร้า...สุข...สนุกแน่! สุรินทร์ ต.ตระกูล ประสานงาน พลรักษ์ ดำหริสกุล ประชาสัมพันธ์ อัศวินภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
อำนาจเงิน (2516)
อำนาจเงิน (2516/1973) ข้อความบนใบปิด ศรีไพรภาพยนตร์ เสนอ... ระบบมาตรฐาน 35 ม.ม.คิงส์สโคป มีเงินแสนก็ซื้อหัวเราะไม่ได้ แต่ท่านจะสบายใจเมื่อได้ฮา.. ฮาที่สุด หยุดบ๊องสส์ ต้องไม่พลาด.. อำนาจเงิน สร้างเรื่องโดย จารุวรรณ นำแสดงโดย (ยอดชาย เมฆสุวรรณ) บุปผา สายชล ดรุณี ชื่นสกุล ศรีไพร ใจพระ (มนัส บุณยเกียรติ), สมควร กระจ่างศาสตร์, พฤหัส บุญหลง, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), (ชูศรี มีสมมนต์), โกร่ง กางเกงแดง, ขุนแผน, ถนอม นวลอนันต์, (เมืองเริง ปัทมินทร์), พิภพ ภู่ภิญโญ, ทองแป๊ะ, ตลกยุคจรวด 4 สี สีเผือก/ศรีสุริยา/สีหมึก/สีเทพ, ปะทะ 4 ดาวโป๊ วาสนา ชลากร, จอมใจ จรินทร์, ไฉไล ไชยทา, บาหยัน พันธุ์โสภา พร้อมดาราทีมเด็ก เปี๊ยก/เปีย/จุก/เยี่ยม พบกับนักร้องดัง สาริกา กิ่งทอง ภาคใต้ ประชัน ก้องเพชร แก่นนคร ขวัญใจอีสาน พร้อมลูกกรุง สามารถ บริบูรณ์เวช ศรีไพร ใจพระ สร้างสุดแรง-กำกับสุดฤทธิ์ ทินกร ตรีนุมิตร ถ่ายสุดฝีมือ มนัส โตเพาะญาติ ที่ปรึกษา อัศวินภาพยนตร์ จัดจำหน่ายสุดประเทศ
2 ชาติสมิง (2516)
2 ชาติสมิง (2516/1973) ข้อความบนใบปิด ก้าวหน้าภาพยนตร์ เสนอ 2 ชาติสมิง TRI-OPERATION 35 ม.ม. “แม่กลอง” ประพันธ์เรื่อง (กรุง ศรีวิไล)-(ไพโรจน์ ใจสิงห์) สองพระเอกเงินล้านแสดงนำร่วมกัน (ภาวนา ชนะจิต) อรสา พรหมประทาน ร่วมด้วย ชิต ไทรงาม, ขบวน มุกดา, ชินดิษฐ์ บุนนาค สุวรรณ จึงสวัสดิ์ อำนวยการสร้าง สมศักดิ์ กล่ำสมบัติ กำกับการแสดง โสภณ เจนพานิช ถ่ายภาพ อัศวินภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
ธนูสวาท (2516)

ธนูสวาท (2516/1973) ข้อความบนใบปิด อาทิตย์ฟิล์ม เสนอ ภาพยนตร์ชีวิต รัก ต่อสู้ เสียสละ เคล้าน้ำตา พิศวาสแทรกซ่านกายา เสียวอุรา ปิดหน้ามืดทรวง ธนูสวาท (ไชยา สุริยัน) ประชันกับสองนางเอก ชีวัน จันทรายุ ทาริกา ธิดาทิตย์ เชาว์ แคล่วคล่อง, สุมาลี ทองหล่อ, จอมใจ จรินทร์, มาลี เวชประเสริฐ, สินีนาฏ โพธิเวส, ธนาชัย ชิโนทัย, ราม มารุต, สุดา, เทิดไท, ไศล พูนชัย, เทียนชัย, ศักดา, จรูญ, เสริมพันธ์ สุทธิเนตร อาทิตย์ สร้างเรื่อง ชิโนทัย สร้างบท วิชาญ กำกับบท ปง อัศวินิกุล บันทึกเสียง พินิจ อินทาปัจ ธุรกิจ ก้องเกียรติ ถ่ายภาพ เทียมแข จรูญโรจน์ อำนวยการสร้าง จุฑามณี กำกับการแสดง อัศวินภาพยนตร์ จัดจำหน่าย

 
เจ้าสาวเรือพ่วง (2516)
เจ้าสาวเรือพ่วง (2516/1973) ข้อความบนใบปิด พงศ์ไทยภาพยนตร์ เสนอ ภาพยนตร์รักสดชื่น ครื้นเครงเฮฮา ระบบ 35 ม.ม. สีสโคป สีสวยสด MADE IN HONG KONG เจ้าสาวเรือพ่วง ของ ชูวงศ์ ฉายะจินดา นำโดย (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) เป็นแม่หม้ายสาวลูกติดทรงเสน่ห์ (ครรชิต ขวัญประชา) ทม วิศวชาติ, (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี), (เมตตา รุ่งรัตน์), อรสา อิศรางกูร, (อดุลย์ ดุลยรัตน์), อภิญญา วีระขจร, (มนัส บุณยเกียรติ), (ชุมพร เทพพิทักษ์), 3 ดาราเด็กน่ารัก และ ฤทธี นฤบาล จิตติน กำกับการแสดง อดิสรณ์ ที่ปรึกษาฝ่ายสร้าง ศุภกิตติ์ สงวนไทย อำนวยการสร้าง โชน บุนนาค กำกับฝ่ายเทคนิค พูนสวัสดิ์ ธีมากร ถ่ายภาพ ประกอบ ใหญ่ศิริ สร้างฉาก ลัดดา ประทัปสิงห์ ดำเนินงาน อัศวินภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
ชู้ (2515)

ชู้ (2515/1972) เหตุเรืออับปางทำให้หญิงเคราะห์ร้ายอย่าง เรียม (วันดี ศรีตรัง) ถูกพัดมาติดหาดที่เกาะแห่งหนึ่ง ที่ซึ่ง นายเชิง (มานพ อัศวเทพ) ชาวประมงใช้เป็นที่อาศัยอยู่แต่เพียงคนเดียว จึงได้ช่วยเหลือเรียมไว้ให้มีชีวิตรอด จนร่างกายเรียมดีขึ้น เชิงก็ถูกตัณหาเข้าครอบงำจับเธอเป็นเมียกระทั่งมีลูกด้วยกัน วันหนึ่งเชิงลงไปดำน้ำหาไข่มุกและถูกปะการังพิษเข้าตาจนตาแทบมองไม่เห็น เรียมต้องเดินทางออกจากเกาะไปตามหมอในตัวเมืองมาช่วยรักษา แต่ปรากฏว่าหมอที่เธอพบคือ นายเทพ (กรุง ศรีวิไล) คนรักเก่าของเธอ เทพมาช่วยรักษาเชิง และเกิดสงสัยในเหตุที่เชิงหลบมาอยู่เกาะร้างลำพังว่าน่าจะมีไข่มุกมูลค่ามหาศาลซ่อนอยู่ จึงวางแผนให้ยารักษาที่ยิ่งทำให้ตาบอด เทพหว่านเสน่ห์ปั่นหัวเรียมเพื่อให้เธอมีใจกับเขามากกว่าคนพิการ และให้ช่วยสืบถามหาที่ซ่อนของไข่มุก แต่ที่ร้ายไปกว่านั้นคือทั้งสองลักลอบเป็นชู้กันถึงขั้นต้องการกำจัดเชิงเสียให้พ้นในเร็ววัน โดยมิได้คาดการณ์ไว้เลยว่าเชิงจะรู้แกว ไม่ใช้ยาของเทพ และแกล้งทำเป็นตาบอด ทั้งที่ความจริงเขาหายจากอาการมานานแล้ว เรื่องราวชั่วๆ ของทั้งสองจึงมิอาจรอดพ้นไปจากสายตา กระทั่งเรี่ยวแรงของเชิงกลับฟื้นคืน เขาจึงวางแผนหลอกให้เทพและเรียมช่วยพาไปหาไข่มุกที่ซ่อนไว้ เพื่อที่จะพาทั้งคู่ไปยังเกาะเล็กๆ ที่น้ำท่วมถึงแห่งหนึ่ง เมื่อสบจังหวะเชิงชักปืนออกมาหมายฆ่าชายชู้และนังเมียแพศยาให้ตายเสียทั้งคู่ เรียมจึงยอมรับการกระทำนอกใจผัว แต่เปิดปากบอกความจริงมากไปกว่านั้นว่า เธอกับเทพนั้นเคยเป็นผัวเมียกันมาก่อนที่เรือจะอับปางและร่างเธอลอยไปติดเกาะ ชู้ในความหมายของเธอนั้นจึงไม่ใช่เทพแต่เป็นเชิงนั่นเอง เมื่อเชิงรู้ดังนั้นจึงคิดหนัก แต่เมื่อคิดตกก็ประกาศว่า ขอให้เรียมเป็นคนเลือกแล้วกันว่าจะอยู่กับใคร แต่ด้วยความชั่วช้า เทพได้โอกาสหยิบปืนขึ้นมาจะฆ่าเชิง แต่เชิงรู้ตัวจึงเกิดการต่อสู้กับเทพอย่างดุเดือด แล้วเกิดปืนลั่นไปถูกเรียม และเทพถูกเชิงตีจนสลบไป เชิงนำเรียมขึ้นเรือออกไปจากเกาะ ทิ้งให้เทพซึ่งฟื้นขึ้นมารับรู้ว่ากำลังถูกทิ้งให้รอความตายอยู่บนเกาะน้ำท่วมถึงนั้นโดยลำพัง

วิวาห์ลูกทุ่ง (2515)
วิวาห์ลูกทุ่ง (2515/1972) ข้อความบนใบปิด รามาภาพยนตร์ โดย โรม บุนนาค ผู้สร้าง “16 ปีแห่งความหลัง” เสนอ วิวาห์ลูกทุ่ง 35 ม.ม.ซีเนมาสโคป 11 เพลงเอก นำโดย (ไชยา สุริยัน) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี), (เมตตา รุ่งรัตน์), (สายัณห์ จันทรวิบูลย์), โขมพัสตร์ อรรถยา, ม.ล.รุจิรา-มารศรี อิศรางกูร, จุรี โอศิริ, พฤหัส บุญหลง, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), อบ บุญติด, พูนสวัสดิ์ ธีมากร, (ทานทัต วิภาตะโยธิน), (ล้อต๊อก), (ชูศรี มีสมมนต์), ดาวน้อย ดวงใหญ่ พร้อมด้วย 2 ดาวเพลงลูกทุ่ง สังข์ทอง สีใส, ขวัญจิต ศรีประจันต์ โรม บุนนาค อำนวยการสร้าง สะอาด คุปาลักษณ์ สร้างฉาก แสวง ดิษยวรรธนะ ถ่ายภาพ ถาวร สุวรรณ ประพันธ์เรื่อง อนุมาศ บุนนาค สร้างบทและกำกับการแสดง ไพบูลย์ บุตรขัน, จิ๋ว พิจิตร, พยงค์ มกดา, กานต์ การุณวงศ์, วิเชียร คำเจริญ สร้าง 11 เพลงเอก อัศวินภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
ดวง (2514)
ดวง (2514/1971) ข้อความบนใบปิด เปี๊ยกโปสเตอร์ เสนอผลงานครั้งที่ 2 ดวง นำโดย (ไพโรจน์ ใจสิงห์) วนิดา อมาตยกุล นงลักษณ์ โรจนพรรณ, จิระศักดิ์ ปิ่นสุวรรณ, สังข์ทอง สีใส และวงดนตรี ดิ อิมพอสสิเบิล อาทร ติวะสุรเดช อำนวยการสร้าง โสภณ เจนพานิช ถ่ายภาพ เปี๊ยกโปสเตอร์ กำกับการแสดง ธนาคารไทยพัฒนา อุปการะ อัศวินภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
สะใภ้หัวนอก (2514)
สะใภ้หัวนอก (2514/1971) ข้อความบนใบปิด ปราจีนภาพยนตร์ โดย อุดม โอภาศรี หนักสมอง คิดไม่ออก ดู สะใภ้หัวนอก สะบ๊าย สะบาย สะใภ้หัวนอก บทประพันธ์ของ เพ็ญแข วงศ์สง่า (ไชยา สุริยัน) (พิศมัย วิไลศักดิ์) โสภา สถาพร, (เมตตา รุ่งรัตน์), (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี), (สายัณห์ จันทรวิบูลย์), (รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง ณ ราชสีมา), ทัต เอกทัต, มาลี เวชประเสริฐ, (เมืองเริง ปัทมินทร์), (ล้อต๊อก), ชูศรี โรจนประดิษฐ์, ดาวน้อย ดวงใหญ่, (ทานทัต วิภาตะโยธิน) และผู้แสดงประกอบมากมาย ดาราเกียรติยศ น.พ.รุจิ รุจิรัตน์ และดาวยั่วดวงใหม่ ปัทมา ธาราทิพย์ ดู ดิอิมพอสสิเบิ้ล ปะทะกับ ขบวนการดนตรี อุดม โอภาศรี อำนวยการสร้าง อนุมาศ บุนนาค กำกับการแสดง แสวง ดิษยะวรรณ ถ่ายภาพ วิโรจน์ อูนากูล อุปการะ 35 ม.ม.สโคปสี อัศวินภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
เพชรพระอุมา (2514)

เพชรพระอุมา (2514/1971) วิทยาภาพยนตร์ เสนอ ภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ยกกอง ไปถ่ายทำถึง “ซาฟารี อัฟริกา” 25 ม.ม.ซีเนมาสโคป เพชรพระอุมา จากบทประพันธ์ของ พนมเทียน นำโดย รพินทร์ ไพรวัลย์ สุทิศา พัฒนุช (อดุลย์ ดุลยรัตน์), (ชนะ ศรีอุบล), (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี), มานี มณีวรรณ, (ล้อต๊อก), (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, และพ.ต.ต.ประชา พูนวิวัฒน์ ฟังเพลงเอก 2 เพลง วิทยา เวสสวัฒน์ อำนวยการสร้าง พูนสวัสดิ์ ธีมากร ถ่ายภาพ ส.อาสนจินดา กำกับการแสดง อัศวินภาพยนตร์ จัดจำหน่าย

 
โทน (2513)
โทน (2513/1970) โทน (ไชยา สุริยัน) หนุ่มกำพร้า อาศัยอยู่กับหลวงตาในชนบท โทนเป็นคนหน้าตาดี ฉลาด เรียนจบช่างยนต์ มีน้ำใจและชอบช่วยเหลือผู้อื่น สังข์ทอง (สังข์ทอง สีใส) เพื่อนรักของโทนเป็นลูกศิษย์วัดด้วยกัน ชอบร้องเพลง ทั้งสองสาบานว่าจะเป็นเพื่อนตายจนกว่าชีวิตจะหาไม่ โทนไม่สมหวังในเรื่องรักเช่นเดียวกับกุหลาบ (จารุวรรณ ปัญโญภาส) สาวผู้ที่มีอันจะกิน มีแต่สังข์ที่ใช้เพลงเป็นเพื่อนปลอบใจ แต่ไม่นานสงข์ก็ถูกยิงตกเขาตายในขณะที่โทนได้เข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพที่มหาวิทยาลัยศิลปากร โดยการช่วยเหลือของอ๊อด ((สายัณห์ จันทรวิบูลย์)) จึงได้พบกับแดง (อรัญญา นามวงศ์) สาวสังคมที่มีนิสัยเย่อยิ่งและเกลียดขี้หน้าโทนอย่างไม่มีเหตุผล แต่เมื่อแดงถูกอิทธิพล (สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์) ฉุดไปแต่โทนช่วยแตงออกมาได้ ทำให้แตงเริ่มมองเห็นความดีของโทนที่คอยช่วยเหลือแต่เกิดเหตุร้ายขึ้นเมื่อแดงกับกุหลาบ ถูกคนร้ายจับตัวไป โทนและอ๊อดจึงตามไปช่วย
เรารักกันไม่ได้ (2513)
เรารักกันไม่ได้ (2513/1970) ข้อความบนใบปิด อัศวินภาพยนตร์ ขอเสนอภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ ซูเปอร์ซีเนสโคป 35 ม.ม.สีอิสต์แมน เขาห้ามไม่ให้เรารักกัน แต่เราก็รักกันจนได้ ใน... เรารักกันไม่ได้ (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (มานพ อัศวเทพ) พบ สุทิศา พัฒนุช ร่วมด้วย (เมตตา รุ่งรัตน์), วิไลวรรณ วัฒนพานิช, (สายัณห์ จันทรวิบูลย์), (แมน ธีระพล), พฤหัส บุญหลง, รุจิรา-มารศรี อิศรางกูร, พูนสวัสดิ์ ธีมากร, (ล้อต๊อก), เยาวเรศ นิสากร, (ชฎาพร วชิรปราณี), อุไรวรรณ จันทร์ทิพย์, แป๊ะอ้วน, จุมพล ปริม บุนนาค อำนวยการสร้าง ภาณุพันธ์ กำกับการแสดง โชน บุนนาค ถ่ายภาพ อัศวินภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
ละครเร่ (2512)
ละครเร่ (2512/1969) คณะละครรำครูทัพ (พฤหัส บุญ-หลง) มีบุญเอก (มานพ อัศวเทพ) เป็นตัวชูโรงและขวัญใจแม่ยกคู่กับ กะถิน (สุทิศา พัฒนุช) ลูกสาวพ่อครู เป็นนางเอกตลอดมา ค่ำวันหนึ่ง แววนภา (จารุวรรณ ปัญโญภาส) ลูกสาวเจ้าของโรงภาพยนตร์ พบเขาโดยบังเอิญที่ตลาดและแอบชอบจึงพยายามสนับสนุนให้เป็นนักร้องในไนท์คลับที่กรุงเทพโดยอาสาพารับส่งจนมีชื่อเสียง ทำให้การแสดงละครมีปัญหาเกิดเรื่องถึงขั้นบุญเอกต้องลาออกจากคณะ เมื่อขาดพระเอกยอดนิยมคณะละครซบเซา แม้ว่าพ่อครูจะพยายามผลักดันให้ ทองพูน ((สายัณห์ จันทรวิบูลย์)) ขึ้นมาเป็นพระเอกแทนก็ไม่เป็นผล นายทองดำ (ดอกดิน กัญญามาลย์) ผู้จัดการต้องเอาสมบัติส่วนตัวไปขายเป็นเงินเดือนจ่ายชาวคณะ และใส่ทองเก๊โดยไม่มีใครรู้ นายทองดำเข้าไปขอร้องครูชรินทร์ (ชรินทร์ นันทนาคร) คู่หมั้นของแววนภา ให้เห็นใจคณะละครและทำให้บุญเอกหยุดร้องเพลงเพื่อเกลับไปอยู่คณะละครตามเดิม แต่ครูชรินทร์ไม่สามารถจะทำเช่นนั้นได้เพราะถือว่าตนเองเป็นครูเพลงของบุญเอก มีแต่จะสร้างให้ศิษย์ได้รับความสำเร็จ แม้ว่าขณะนั้นแววนภาจะหลงใหลบุญเอกมากจนขอถอนหมั้นครูชรินทร์ ทองดำตัดสินใจครั้งสุดท้ายแลกชีวิตกับเงินประกันก้อนใหญ่เพื่อพ่อครูและความอยู่รอดของทุกคนที่ยังต้องมีชีวิตต่อไป ขณะที่ครูชรินทร์แต่งเพลงให้บุญเอกร้องและหวนคิดถึงชีวิตตนเองที่ผ่านมาจนทำให้เขาสะเทือนใจมากและตัดสินใจกลับไปอยู่กับคณะละครตามเดิม
เป็ดน้อย (2511)
เป็ดน้อย (2511/1968) ศักดิ์ชัย (ไชยา สุริยัน) ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่สำรวจพื้นที่ทำทางหลวง เข้ามาขอพักชั่วคราวในบ้านสุดชายทุ่งของเป็ดน้อย (สุทิศา พัฒนุช) และทั้งสองบังเกิดความรักต่อกัน แม้ว่าบุญ (ธานินทร์ อินทรเทพ) จะหมายปองเป็ดน้อยอยู่ก่อนแล้ว ศักดิ์ชัยสัญญาว่าจะมารับเป็ดน้อยไปอยู่กรุงเทพ แต่เมื่อศักดิ์ชัยมาบอกเรื่องของเขากับเป็ดน้อยแม่และพี่น้องของเขาต่างรังเกียจเมื่อทราบว่าจะได้สะใภ้ชาวนาเข้ามาอยู่ร่วมด้วย ขณะที่ตระกูลนี้กำลังอยู่ในฐานะลำบาก ทางเดียวที่จะกู้สถานการณ์ได้คือ มรดกของเจ้าคุณปู่ (ม.ล.รุจิรา อิศรางกูร) แต่คุณปู่มีเงื่อนไขว่าศักดิ์ชัยต้องหาเจ้าสาวที่ท่านพอใจเท่านั้นในงานเลี้ยงต้อนรับ ศักดิ์ศรี (จินฟง) น้องชายคนสุดท้องที่เพิ่งเรียนจบจากเมืองนอก เป้ดน้อยในชื่อใหม่ว่า วรรณวิไล ต้องขายหน้าโดยไม่รู้ตัวที่ทำกิริยาเปิ่นๆจากแผนของหญิงเล็ก (เมตตา รุ่งรัตน์) ผู้ตั้งชื่อให้และแสร้งทำดีเพื่อหาโอกาสกำจัดเธอ ศักดิ์ชัยโกรธเป็ดน้อยที่ทำให้ได้รับความอับอาย เป็ดน้อยเสียใจมากจนหนีกลับบ้านเดิม แต่บุญและศักดิ์ศรีช่วยกันให้กำลังใจให้เป็ดน้อยกู้ศักดิ์ศรีของตนเองคืนมาทั้งสองวางแผนให้เป็ดน้อยปรากฏตัวใหม่เป็นที่ประทับใจของทุกคน ด้วยความร่วมมือของครูพูน (พูนสวัสดิ์ ธีมากร) ครูสอนมารยาท เจ้าคุณปู่พอใจเป็ดน้อยมากประกาศยกมรดกให้ศักดิ์ชัยและเป็ดน้อย พร้อมทั้งจัดการแต่งงานให้ทั้งสอง
จำปูน (2507)
จำปูน (2507/1964) จำปูน (จูลี่ ซีเหย่น) ลูกสาวเถ้าแก่สุ่น (ฑัต เอกฑัต) พ่อค้าผู้มีฐานะร่ำรวยของชุมพร รักอยู่กับอำนวย (แมน ธีระพล) บุตรชายของท่านข้าหลวง แต่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายไม่เห็นด้วย เนื่องจากเถ้าแก่สุ่นต้องการให้จำปูนแต่งงานกับลูกชายของเพื่อนพ่อค้าด้วยกัน และท่านข้าหลวงก็ต้องการให้อำนวยแต่งงานกับบุตรสาวของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง วันหนึ่งเถ้าแก่สุ่นจับได้ว่าจำปูนแอบไปพลอดรักกับอำนวย ด้วยความโกรธจึงจับจำปูนเปลือยกายและล่ามโซ่ที่ขาขังไว้ในห้อง แต่ด้วยการช่วยเหลือของน้องชายจำปูนใช้ตะไบเลื่อยโซ่จนขาด แล้วหนีออกจากบ้านโดยมีโซ่ส่วนที่เหลือติดขามาด้วย แต่เมื่อจำปูนเดินทางมาถึงบ้านพักของอำนวย กลับพบว่าอำนวยนอนอยู่กับหญิงสาวคนหนึ่ง จำปูนหัวใจแตกสลายจีงซมซานออกมาถึงแม่น้ำซึ่งขึ้นชื่อเรื่องจระเข้ดุร้าย แต่จำปูนซึ่งหมดอาลัยในชีวิตกลับว่ายน้ำออกไปถึงกลางแม่น้ำ วันต่อมาที่ท่าน้ำบ้านเถ้าแก่สุ่น ขาขาดข้างหนึ่งลอยมาติดที่ท่าน้ำ เถ้าแก่สุ่นจับโซ่ที่ติดมากับขาขาดข้างนั้นขึ้นมาดูก็เหมือนกับโดนฟ้าผ่าลงกลางศรีษะ เพราะจำได้ว่าโซ่เส้นนั้นเป็นเส้นที่ล่ามไว้ที่ขาของจำปูนลูกสาวของตนเอง
เรือนแพ (2504)
เรือนแพ (2504/1961) เจน (ส. อาสนจินดา) แก้ว (ไชยา สุริยัน) และ ริน (จินฟง) เป็นสามคนเพื่อนรักซึ่งหลงรัก เพ็ญ (มาเรีย จาง) ผู้หญิงคนเดียวกัน ทั้งหมดอาศัยอยู่ด้วยกันที่เรือนแพริมน้ำ ซึ่งเช่ามาจากเตี่ยของเพ็ญ ซึ่งมั่นหมายจะให้เพ็ญแต่งงานกับเจน ต่อมาทั้งสามต่างต้องแยกย้ายจากกัน โดยเจนซึ่งเรียนจบปริญญาด้วยคะแนนเกียรตินิยม ไปสมัครเป็นตำรวจ, ริน ไปเป็นนักร้อง ส่วนแก้ว ไปเป็นนักมวย ในคืนฝนตกหนัก เพ็ญก็ตกเป็นเมียของแก้ว ทั้งคู่สัญญาจะเป็นผัวเมียกันตลอดไป แก้วตกลงใจจะล้มมวยในการชกที่ลพบุรี เพื่อหาเงินมาแต่งงานกับเพ็ญ แต่เมื่อถึงเวลาชกจริงเขากลับชกอย่างสุดฝีมือเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของตัวเอง ฝ่ายที่เสียพนันกลับจะมาเอาเรื่องกับแก้ว และถูกแก้วพลั้งมือฆ่าตาย แก้วกลายเป็นฆาตกรมีรางวัลนำจับ หลบหนีและไปเข้าร่วมกับแก๊งโจรจนได้เป็นหัวหน้าแก๊งแทนเสือหาญ โดยทางการมีคำสั่งให้จับตายหัวหน้าแก๊งโจร นายตำรวจใหม่เจน ซึ่งได้รับคำสั่งให้ตามจับแก้ว ได้รับขอร้องจากเพ็ญให้ไว้ชีวิตแก้ว เจนจะตัดสินใจอย่างไร ระหว่างการปฏิบัติตามหน้าที่ หรือทำเพื่อหญิงอันเป็นที่รัก
สุดชีวิต (2503)
สุดชีวิต (2503/1960) สุดชีวิต เป็นภาพยนตร์สีธรรมชาติ 16 มม.ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2503 พากย์สด สร้างโดย อัศวินภาพยนตร์ กำกับการแสดงโดย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล และถ่ายภาพโดย พูนสวัสดิ์ ธีมากร
สองพี่น้อง (2501)
นเรศวรมหาราช (2500)
นเรศวรมหาราช (2500/1957) นเรศวรมหาราช เป็นภาพยนตร์สี 16 มม.ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2500 สร้างโดย อัศวินภาพยนตร์ โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล ทรงกำกับการแสดง ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงจากตำนานกู้เอกราชของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นภาพยนตร์สงครามอิงประวัติศาสตร์เรื่องยิ่งใหญ่อีกเรื่องที่อัศวินภาพยนตร์ตั้งใจสร้างฉลอง 25 ศตวรรษในปี 2500
ถ่านไฟเก่า (2500)
ถ่านไฟเก่า (2500/1957) พระยาอุปถัมภ์ เป็นคนหวงสมบัติมาก ด้วยความที่กลัวเงินทองของตนจะรั่วไหล จึงบังคับให้ อดุลย์ ลูกชายคนโตแต่งงานกับ สมนึก ลูกสาวของลำไย น้องสาวของตน แต่อดุลย์แอบมีเมียลับๆ อยู่แล้วชื่อ จินตนา ซึ่งมีฐานะยากจน พระยาอุปถัมภ์ยื่นคำขาดว่าจะตัดพ่อตัดลูกหากอดุลย์ไม่เลิกกับเมียเก็บ อดุลย์จึงบากหน้าไปขอเลิกกับจินตนาและมอบเงินให้จำนวนหนึ่งจินตนาผู้ยึดมั่นในศักดิ์ศรี ไม่ขอรับเงินและออกจากชีวิตของอดุลย์ไปอย่างเด็ดเดี่ยว แล้วไปอยู่กับป้าที่นครสวรรค์ผ่านไปปีเศษ เถ้าแก่เอี้ยหลง ปู่ของจินตนาเสียชีวิต ก่อนตายได้ทำพินัยกรรมยกมรดกให้จินตนา เธอจึงเดินทางไปรับมรดกและอยู่กับป้าที่สงขลา เถกิง น้องชายของอดุลย์ต้องไปรับราชการที่สงขลา ก่อนเดินทาง พระยาอุปถัมภ์ได้กำชับให้เถกิงไปทำความรู้จักกับหลานสาวเถ้าแก่เอี้ยหลง เพราะได้ยินกิตติศัพท์ว่าร่ำรวย และละโมบอยากได้สมบัติคนอื่นมาสมทบสมบัติของตน จึงทำให้เถกิงได้พบจินตนาโดยไม่รู้ว่าเธอคืออดีตเมียเก็บของพี่ชาย จินตนาจำนามสกุลของเถกิงได้ จึงคิดแก้เผ็ดพระยาอุปถัมภ์และอดุลย์ด้วยการแกล้งทำเป็นสนิทสนมกับเถกิงต่อหน้าคนทั้งหลาย ถ่านไฟเก่าจึงปะทุ อดุลย์เกิดความหึงหวงจินตนา เมื่อถูกอดุลย์ละเลยบ่อยครั้งเข้าสมนึกจึงหันไปรักกับเถกิง วันหนึ่ง สมนึกบังเอิญได้รู้ความจริงว่าจินตนาเคยเป็นเมียเก็บของอดุลย์ จึงไปหารือกับอดุลย์เพื่อซ้อนกลจินตนา ด้วยการประกาศหมั้นต่อหน้าธารกำนัล พระยาอุปถัมภ์สมปรารถนา แต่จินตนาเกิดความเศร้าขึ้นในจิตใจ พระยาอุปถัมภ์เกิดความสงสัยในพฤติกรรมอันแปลกประหลาดของทั้งสี่ ก็ปีนไปแอบฟังบนต้นไม้ที่ทุกคนหลบมาคุยกัน แล้วความจริงก็กระจ่างว่าจินตนาและอดุลย์ยังมีใจให้แก่กัน ก่อนจะร่วงหล่นลงมากลางวงสนทนา พระยาอุปถัมภ์ก็หยุดเจ้ากี้เจ้าการ เพราะยังไงแกก็ได้หลานสาวเศรษฐีเป็นลูกสะใภ้อยู่ดี