ดาวเรือง (2499)
ดาวเรือง (2499/1956) ดาวเรือง กับ สันทราย เกิดและเติบโตที่อ่าวเกล็ดแก้ว ทั้งสองเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เป็นเด็ก จนกระทั่งเพาะบ่มเป็นความรักฉันท์หนุ่มสาว วันหนึ่ง มีนักวาดภาพชื่อ จิตกร เจนจิตร มาขอให้ดาวเรืองเป็นแบบวาดภาพชื่อ "นางเงือก" และเสนอเงินค่าตอบแทนให้ ดาวเรืองรีบนำเงินกลับมาที่บ้าน แต่กลับพบเจ้าหนี้กำลังมาทวงเงิน แม้จะเอาเงินค่าจ้างเป็นแบบจ่ายหนี้ไปแล้ว แต่ก็ยังใช้หนี้ไม่หมด ดาวเรืองจึงตัดสินใจไปหางานทำที่กรุงเทพตามคำชักชวนของ หาด เพื่อนบ้าน และไปทำงานที่ร้านอาหาร ที่นั่น ดาวเรืองได้พบกับเจ้าของโรงแรมนิทราซึ่งกำลังหาคนไปทำงานด้วย ดาวเรืองจึงชวนสันทรายและวารี พี่สาว มาทำงานด้วยกัน แต่จู่ๆ ตาของสันทรายก็เกิดอาการปวดและเริ่มมองไม่เห็น ดาวเรืองยอมทำงานทุกชนิด เพราะหวังจะเก็บเงินไปใช้หนี้ เมื่อลัดดากับเฉียบ สองนักพนันมาเสนอให้ดาวเรืองเป็นนางนกต่อในบ่อนของท่านอิทธิพลดาวเรืองจึงตกปากรับคำอย่างว่าง่าย ท่านอิทธิพลเอ็นดูดาวเรืองประหนึ่งลูกสาวซื้อสิ่งของมากมายประเคนจนเธอหลงระเริงในทรัพย์สมบัติที่ได้รับ หารู้ไม่ว่าท่านอิทธิพลวางแผนจะเอาดาวเรืองเป็นเมียโดยสร้างสถานการณ์อันแยบคายจัดฉากให้ดาวเรืองเป็นผู้ร้ายฆ่าคน ดาวเรืองตกหลุมพรางจึงขอร้องให้ท่านอิทธิพลช่วยและตกเป็นของท่านอิทธิพลตามแผน จนกระทั่งวันหนึ่ง ดาวเรืองแอบเห็นชายฉกรรจ์ที่ตัวเองฆ่าในบ้านของท่านอิทธิพล จึงได้รู้ว่าตัวเองถูกหลอก ดาวเรืองเสียใจมากจึงหนีกลับไปที่อ่าวเกล็ดแก้ว ซึ่งบัดนี้ แม่บังเกิดเกล้าได้เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนสันทรายกลายเป็นคนตาบอด ท่านอิทธิพลกลัวดาวเรืองจะเปิดเผยเรื่องของตนจึงสั่งให้เฉียบไปจับดาวเรืองมาขังในซ่องลับ เฉียบขู่ให้ดาวเรืองกลับไปทำงานต้มตุ๋นเหมือนเคยไม่งั้นจะโดนสาดน้ำกรดแต่ดาวเรืองไม่ยอม เมื่อหันไปฟ้องอิทธิพลกลับถูกตบตี ขวดน้ำกรดที่วางอยู่หกราดใบหน้าดาวเรือง ดาวเรืองกระชากปืนจากอิทธิพลยิงกระหน่ำเฉียบ ลัดดา และอิทธิพลเพื่อระบายความแค้น แต่ตัวเองก็ต้องโดนจับต้องโทษประหารชีวิต ระหว่างที่ดาวเรืองถูกคุมขังอยู่ในคุก มีนักวาดภาพคนหนึ่งมาติดต่อพัสดีให้หาคนหน้าตาอัปลักษณ์มาเป็นแบบวาดภาพ “ผีเสื้อสมุทร” พัศดีจึงพาดาวเรืองออกมา บัดนี้นางเงือกได้กลายร่างเป็นผีเสื้อสมุทรเสียแล้ว จิตรกรสงสารในโชคชะตาของดาวเรือง จึงไปตามสันทรายและวารีมาร่ำลาดาวเรืองเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะไปรับโทษทัณฑ์ที่ดาวเรืองทำไว้
ริมธารรัก (2499)
ริมธารรัก (2499/1956) เพราะฐานะที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว เมื่อ วิชิต ริอาจเด็ดดอกฟ้าอย่าง อมรา จึงถูกคุณหญิงเกษรรังเกียจเดียดฉันท์ ยิ่งวิชิตย้ายเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์ของฝ่ายหญิงหลังแต่งงาน ความสัมพันธ์ของแม่ยายลูกเขยก็ดูจะรุนแรงขึ้น ไม่ไกลจากคฤหาสน์ของคุณหญิงเกษร มีกระท่อมหลังเล็กของ เง็กท้อ ม่ายสาวซึ่งกำลังพยาบาลแม่ที่กำลังป่วยหนัก เพราะความข้นแค้นอย่างสาหัสทำให้เง็กท้อไม่มีเงินไปซื้อยาให้แม่ เมื่อเห็นวิชิตทำกระเป๋าเงินตก จึงไม่อาจระงับใจ เอื้อมมือไปขโมยกระเป๋าที่ตกอยู่ แต่วิชิตหันมาเห็นทัน ซักถามจนได้ความก็เกิดเห็นใจเง็กท้อ และให้เงินช่วยเหลือแม้จะไม่สามารถช่วยแม่ของเง็กท้อได้ทันเวลาก็ตาม ฮวยเกียว เพื่อนของเง็กท้อซึ่งดำรงชีพด้วยการเป็นโสเภณี ช่วยหางานเย็บผ้าให้เง็กท้อทำประทังชีวิต ส่วนวิชิตซึ่งอยากลบคำปรามาสของแม่ยายจึงเคี่ยวกรำทำงานจนตาบอดสนิท คุณหญิงเกษรฉวยโอกาสยุแยงให้อมราเลิกกับวิชิตไม่เว้นแต่ละวัน จนกระทั่งวิชิตถูกคุณหญิงเกษรด่าว่าเป็นตัวทำลายชีวิตของอมรา เขาจึงยอมออกจากชีวิตของเมียรักด้วยความเต็มใจ จนกระทั่งมาล้มอยู่ที่หน้ากระท่อมของเง็กท้อ อมราเสาะหาวิชิตอย่างไม่ลดละ แม้จะถูกคุณหญิงเกษรทัดทานเพียงใด โดยไม่รู้ว่าวิชิตมาพักที่กระท่อมของเง็กท้อ ด้วยสำนึกในบุญคุณเป็นทุนเดิมเง็กท้อจึงทอดกายให้ชายหนุ่ม แม้จะรู้ว่าเขามีภรรยาแล้วก็ตาม เง็กท้อยังพยายามหาเงินมารักษาตาของวิชิตถึงขนาดยอมขายตัว จนหาเงินผ่าตัดดวงตาให้วิชิตได้สำเร็จ เมื่อใกล้ถึงวันที่หมอจะเปิดผ้าเปิดตา เอิบ คนสนิทของอมราสืบหาวิชิตจนพบ และเล่าว่าอมรายังคงซื่อตรงต่อวิชิต เง็กท้อได้ยินเข้าก็สะท้อนใจ เมื่อหมอเปิดตาวิชิต จึงหลอกว่าตนเป็นเพื่อนของเง็กท้อ วิชิตเห็นเง็กท้ออยู่ตัวคนเดียวจึงชวนมาอยู่ด้วย ไม่นานนักเง็กท้อก็แสดงอาการว่าตั้งครรภ์ แม้จะคาดคั้นแค่ไหนก็ไม่ยอมปริปากบอกว่าใครเป็นพ่อของลูกในท้อง จนวิชิตโมโหขับไล่เง็กท้อออกจากบ้านเพราะกลัวเสื่อมเสียชื่อเสียง เง็กท้อเดินโผเผมายังท่าน้ำใกล้กระท่อมซึ่งเคยมาพลอดรักกับวิชิตอย่างหมดเรี่ยวแรง โชคดีที่ฮวยเกียวซึ่งแวะมาเยี่ยมเง็กท้อ จึงเล่าความจริงให้วิชิตฟัง วิชิตกับอมราจึงรีบมุ่งหน้ามายังกระท่อมของเง็กท้อด้วยความร้อนใจ
เริงริษยา (2498)
เริงริษยา (2498/1955) นรา กับ นรี สองศรีพี่น้องลูกสาวของ พระยาปัจจัย ที่มีนิสัยต่างกันสุดขั้ว กล่าวคือ นรา ผู้พี่เป็นคนขี้อิจฉาริษยา ผิดกับนรีผู้น้องซึ่งเป็นคนโอบอ้อมอารีมีน้ำใจ วันหนึ่ง มนตรี กับ จ้อน คนใช้ในบ้าน เอ่ยปากขอยืมเงินนราเพื่อเป็นทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ นอกจากนราจะไม่ให้แล้วยังดูถูกเหยียดหยามเขาอีกด้วย จ้อนแนะนำให้มนตรีลองเขียนจดหมายไปขอยืมเงินจากนรี ซึ่งเธอยินดีช่วยเหลือโดยการมอบแหวนให้มนตรีเพราะไม่มีเงินสดเพียงพอ นราไม่พอใจเป็นอย่างมาก ยุแยงให้พระยาปัจจัยตัดนรีออกจากกองมรดก แม้นรีจะถูกตัดขาดก็ยังคอยพยาบาลพระยาปัจจัยที่กำลังป่วยหนัก ในขณะที่นราเอาแต่เที่ยวเตร่ หลงระเริงในความมัวเมา ไม่นานพระยาปัจจัยก็เสียชีวิต นราจึงแต่งงานกับ ปรีชา ชายหนุ่มที่พบกันในสถานบันเทิง สองปีผ่านไปมนตรีเรียนจบกลับมาหางานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง และได้ช่วยเหลือนรีที่กำลังจะถูกปรีชาปลุกปล้ำ มนตรีฉุดนรีออกจากขุมนรกไปอยู่ร่วมกันจนมีลูกด้วยกันสองคน ชื่อว่า นิรันดร์กับ นิรุทธ์ ชีวิตที่สงบสุขของนรีต้องพังทลายอีกครั้ง เมื่อนราซมซานมาขออาศัย เพราะทนพฤติกรรมของปรีชาไม่ไหวแทนที่นราจะสำนึก กลับริษยาน้องสาวที่มีสามีดี ยั่วยวนมนตรีหมายจะเอามาเป็นสามีของตน แล้วยังใส่ความว่านรีเป็นชู้กับปรีชา นรีคับแค้นใจหนีไปอยู่ที่ระยอง ปล่อยให้นิรันดร์กับนิรุทธ์ถูกนราทารุณไม่เว้นแต่ละวัน จนกระทั่งวันหนึ่ง มนตรีถูกย้ายไปทำงานที่ระยองจึงพานราและลูกไปอยู่ด้วย ปรีชาตามมาขู่กรรโชกเงินกับนราแต่ถูกนราหักหลังจ้างคนมาลอบทำร้าย จ้อนช่วยชีวิตปรีชาไว้ ปรีชาจึงสารภาพความจริงให้จ้อนฟัง แล้วร่วมมือกันเปิดโปงนราซึ่งกำลังวางยาพิษนิรันดร์นรากลัวความผิดจึงพยายามวิ่งหนี แต่พลาดตกเขาเสียชีวิต
เจ้าจอมหม่อมห้าม (2492)
เจ้าจอมหม่อมห้าม (2492/1949) ภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ทำการปฏิวัติการสร้างภาพยนตร์ไทยทั้งหมด ล้วนแต่สวยที่สุด หรูที่สุด แพงที่สุด เผยเรื่องลี้ลับสมัยรัชกาลที่ ๕

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ