ป่ากามเทพ (2519)

ป่ากามเทพ (2519/1976) เรื่องราวของชายหญิงที่หลงเข้าไปในห้วงแห่งรัก แล้วต่างพากันเดินวนเวียนอยู่ในนั้นอย่างทุกข์ทรมานใจ โดยไม่มีผู้ใดคิดหาหนทางออกมาจากป่าแห่งกามเทพได้ จนกว่าเขาเหล่านั้นจะมองความรักด้วยสติและปัญญา เมื่อหญิงสาวที่หย่าขาดจากสามีเพราะเขาไปมีชู้รัก กลับมาหลงรักชายหนุ่มที่อายุอ่อนกว่าเธออุปการะให้ทุนการศึกษาแก่เขา และหวังว่าเขาจะให้ความรักกลับมาให้เธอบ้าง แต่เหตุการณ์กลับซับซ้อนเมื่อลูกเลี้ยงของหญิงสาวก็มีใจให้กับชายหนุ่มเช่นกัน ตัวละครเหล่านี้จึงต้องใช้ชีวิตวนเวียนอยู่ในป่ากามเทพ

รำพร เศรษฐินีสาวที่หย่าร้างกับสามีเพราะเขาไปมีชู้ ต่อมารำพรได้ตกหลุมรักกับ อาชา ชายหนุ่มรุ่นน้องที่เธออุปการะช่วยเหลือให้เงินทุนการศึกษาเพื่อแลกกับความรักของอาชาเป็นการตอบแทน แต่ปัญหาก็เกิดขึ้น เมื่อลูกเลี้ยงของเธอเองก็แอบมีใจให้กับอาชาเช่นกัน

น้ำเซาะทราย (2516)
น้ำเซาะทราย (2516/1973) ข้อความบนใบปิด แหลมทองภาพยนตร์ โดย “คุณาวุฒิ” เสนอ บทประพันธ์ของ กฤษณา อโศกสิน ระวังจะ พ.พ.ร. (พัง เพราะ รัก) ถ้าท่านมีรักสอง ซ่อนรักแอบอยู่ข้างอก น้ำเซาะทราย 35 ม.ม.สโคป เสียงในฟิล์ม นาท ภูวนัย วันดี ศรีตรัง มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช สายัณห์ จันทรวิบูลย์ ด.ช.สยม สังวริบุตร, ด.ญ.มลฤดี ยมาภัย และ...คธา อภัยวงศ์ พยงค์ มุกดาพันธ์ สร้างเพลง 2 เพลงเอก ทองปอนด์ คุณาวุมิ อำนวยการสร้าง คุณาวุฒิ กำกับการแสดง ปรีชา ทรัพย์พระวงศ์ ถ่ายภาพ
หัวใจป่า (2515)
หัวใจป่า (2515/1972) แสงนภา ถูกเสี่ยสุรเดช หลอกไปปลุกปล้ำไม่สำเร็จ ซ้ำยังถูกเธอยิงตาย แสงนภา หลบหนีมาปรึกษากับสุดา สุดาออกความคิดเห็นให้เธอหนีไปอยู่ที่ราชกระทิง โดยเธอไปส่งถึงจุดขึ้นรถ ซึ่งมีหมอจิระกับบุคคลอื่นร่วมเดินทางไปด้วย ระหว่างทางถูกเสือหาญ กับลูกน้องปล้นทรัพย์สิน เมื่อเสือหาญทราบว่าจิระคือหมอ ได้จับตัวหมอกับแสงนภาไป เพื่อต้องการให้หมอได้รักษาพยอมที่ป่วยอยู่ เมื่อหายเป็นปกติคนทั้งสองจะได้รับอิสระภาพ แต่เหตุการณ์ไม่เป็นเช่นนั้น หมอจิระรักษาพยอมหายแล้ว เสือหาญยังบังคับให้อยู่รักษาแผลที่ขาที่ถูกยิงบาดเจ็บเพราะลูกน้องหักหลัง ทั้งสองอึดอัดหมดความอดทนจะอยู่ต่อไป จึงหาทางหนีโดยมีพยอมที่เบื่อหน่ายการใช้ชีวิตอยู่ในป่ากับเสือหาญอีกต่อไปร่วมหนีไปด้วย
แม่ศรีไพร (2514)
แม่ศรีไพร (2514/1971) ข้อความบนใบปิด แหลมทองภาพยนตร์โดย คุณาวุฒิ ขอเสนอภาพยนตร์ในระบบ 35 ม.ม. ซีเนมาสโคป เรื่องของความรักที่ไม่เคยปรานีใคร ไม่ว่าจะเป็นท้าวพระยามหากษัตริย์หรือไอ้มหาโจร! แม่ศรีไพร ของ เรียมเอง เพชรา พบพระเอกบัณฑิตคนใหม่ นาท ภูวนัย สอาด เปี่ยมพงษ์สานต์, เมตตา รุ่งรัตน์, จีราภา ปัญจศิลป์, สมัย อ่อนวงศ์, กิ่งดาว จันทร์สวัสดิ์, พนม นพพร, ชูศรี มีสมมนต์, สีเทา, เทอด ดาวไท, กฤษณะ อำนวยพร และดาวยั่ว เนตรดาว นภาพรรณ ดาราเกียรติยศรับเชิญ ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ เป็นเรื่องแรกที่สังข์ทอง สีใส มนุษย์หน้าผี พบสุเทพ สีใส น้องชายหน้าผีๆ แสวง ดิษยวรรธนะ-สมาน ทองทรัพย์สิน ถ่ายภาพ ปง อัศวินิกุล กำกับเสียง ทองปอนด์ คุณาวุฒิ อำนวยการสร้าง คุณาวุฒิ กำกับการแสดง 11 เพลงเอกจากไพบูลย์ บุตรขัน, เบญจมินทร์,สรวง สันติ นวฤทธิ์ฟิล์ม จัดจำหน่าย
น้องรัก (2512)
น้องรัก (2512/1969) เมื่อพ่อแม่ต้องตายจากไปเพราะพายุตะลุมพุก ทำให้พี่น้องสองสาวคือ เกษทิพย์ (บุศรา นฤมิตร) และกวางดาว (สุทิศา พัฒนุช) ต้องปลอมตัวเป็นผู้ชายเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปตามหาคุณปู่คือ พระยาศราพิพัฒน์ (สาหัส บุญหลง) แต่เมื่อถึงกรุงเทพฯ ก็ถูกโจรจี้ชิงเงินไปจนหมดตัว ต้องไปอาศัยวัดนอน แต่พอออกจากวัดมา กวางดาวก็ถูกรถแท็กซี่เชี่ยวชนจึงไปหาหมอให้รักษาและได้พบกับหมอวุฒิ วรเวทย์ (มิตร ชัยบัญชา) ซึ่งหมอวุฒิก็เข้าใจว่าเธอเป็นผู้ชาย บังเอิญเนรมิตรซึ่งเป็นเพื่อนของหมอวุฒิอยู่ด้วยและได้เห็นแหวนศราพิพัฒน์ที่กวางดาวสวมอยู่ ก็รู้ว่าเป็นหลานปู่เหมือนกับตนเอง แต่เพราะความโลภของแม่เนรมิต จึงช่วยกันปิดบัง ไม่ยอมบอกเจ้าคุณปู่ให้ทราบ ทำให้สองพี่น้องต้องพบกับชีวิตที่ลำบากเกษทิพย์ต้องเช่าบ้านในสลัมอยู่กับพวกหมอนวดและในที่สุดก็ถูกลวงให้เป็นหญิงขายบริการ แต่เธอก็จำใจทำเพื่อหาเงินส่งให้กวางดาวได้เรียนต่อ โดยกวางดาวเปลี่ยนชื่อเป็น ดาวริน ต่อมาได้พบกับหมอวุฒิอีก หมอวุฒิจึงช่วยให้กวางดาวได้พบคุณปู่ ส่วนเกษทิพย์ก็ป่วยและทุกข์ทรมานจนเสียชีวิตไป ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของกวางดาวผู้เป็นน้อง
ดาวรุ่ง (2512)
ดาวรุ่ง (2512/1969) ข้อความบนใบปิด แหลมทองภาพยนตร์ ผู้สร้าง นางสาวโพระดก และ ไทรโศก โดย “คุณาวุฒิ” ผู้กำกับ 14 ตุ๊กตาทอง ดาวรุ่ง จากบทประพันธ์ของ ดวงดาว ในน.ส.พ.เดลิเมล์วันจันทร์ และละครวิทยุโดยคณะ แก้วฟ้า มิตร ชัยบัญชา พบสองนางเอก อรัญญา นามวงษ์ โสภา สถาพร รุจน์ รณภพ, อดุลย์ ดุลยรัตน์, บุษกร สาครรัตน์, ชุมพร เทพพิทักษ์, มาลี เวชประเสริฐ, มารศรี อิศรางกูร, พูนสวัสดิ์ ธีมากร, สิน, อดินันท์ สิงห์หิรัญ, ศิริ ศิริจินดา และดาวรุ่ง เยาวลักษณ์ พนมกร คุณาวุมิ กำกับการแสดง ทองปอนด์ คุณาวุฒิ อำนวยการสร้าง แสวง ดิษยวรรธนะ ถ่ายภาพ สง่า อารัมภีร สร้างเพลง แหลมทองภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
ไทรโศก (2510)
ไทรโศก (2510/1967) สะเทือนหัวอก สะทกหัวใจ กับ... ไทรโศก บทประพันธ์ของ จำลักษณ์ จากน.ส.พ.บางกอก จากละครฮิตทั่วเมืองของคณะ แก้วฟ้า เรื่องของโลก และชีวิตที่สวรรค์ไม่ปราณี เจ้าคุณธีรรัตน์เจ้าของไร่ไทรโศกเสียชีวิตโดยทำพินัยกรรมให้กิตติ (อดุลย์ ดุลยรัตน์) ลูกชายคนเดียวของเขาจะมีกรรมสิทธิ์ในไร่ไทรโศกที่ อ.บางพระ จ.ศรีราชา ก็ต่อเมื่อแต่งงานและมีลูกกับบานเย็น (บุศรา นฤมิตร) หญิงสาวในอุปการะของท่านเจ้าคุณที่ท่านรักเหมือนลูก ทำให้คุณหญิงธีรรัตน์ (น้ำเงิน บุญหนัก) ไม่พอใจมาก จึงวางแผนให้กิตติยอมแต่งงานด้วย แต่ในเวลาส่งตัวเข้าห้องหอ คุณหญิงธีรรัตน์ รวมทั้งกิตติและอุษา (บุษกร สาครรัตน์) คนรักของกิตติหลอกให้นายใบ้ (มิตร ชัยบัญชา) เด็กวัดที่เป็นใบ้เข้าไปแทน แม้จะเป็นแค่คืนเดียวแต่บานเย็นก็ตั้งท้องเมื่อคลอดออกมาเป็นผู้ชายคุณหญิงธีรรัตน์ก็รับเอาไปเลี้ยงที่กรุงเทพ และให้ชื่อว่า อู๊ดหรือยิ่งยงส่วนบานเย็นกลับได้เลี้ยงเด็กหญิงกำพร้าที่พ่อแม่ถูกฆ่าตายไว้แทนตั้งชื่อให้ว่าไทรงาม เวลาผ่านไป 20 ปี ยิ่งยง (มิตร ชัยบัญชา) โตเป็นหนุ่มและได้รู้จักกับเด่นดาว (โสภา สถาพร) หลานสาวเจ้าคุณยงยศแต่อ๊อดหรือเกียรติกร (ธวัชชัย สุทธิมา) ลูกชายแท้ของกิตติและอุษาก็ชอบเด่นดาวเช่นกัน ยิ่งยงและเด่นดาวเดินทางไปไร่ไทรโศกได้พบกับไทรงาม (รักชนก จินดาวรรณ) ที่เรียนจบหมอและอยู่ที่นั่น เด่นดาวมาเล่าเรื่องให้เจ้าคุณยงยศฟังเพราะสงสัยว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอเนื่องจากมีสร้อยคอเหมือนกัน พอครอบครัวของคุณหญิงธีรรัตน์จะไปพักผ่อนที่ไทรโศก เด่นดาวและเจ้าคุณยงยศก็ตามไปด้วย คุณหญิงธีรรัตน์รู้สึกผิดที่ทำกับบานเย็นไว้ เธอจึงให้ยิ่งยงหมั้นกับไทรงามเพราะเห็นว่าคนทั้งสองรักกัน สร้างความไม่พอใจให้กับเกียรติกรเป็นอย่างมาก เขาจึงไปร่วมมือกับธน (ประมินทร์ จารุจารีต) และเทพ (ชุมพร เทพพิทักษ์) สองพ่อลูกที่มีความแค้นกับเจ้าคุณยงยศบุกปล้อนไร่ไทรโศก แต่เพิ่ม (อดินันท์ สิงห์หิรัญ) ผู้จัดการไร่สามารถป้องกันไว้ได้ทว่านายใบ้ต้องเสียชีวิตจากการต่อสู้ เช่นเดียวกับกิตติที่ถูกยิง คุณหญิงธีรรัตน์เปิดเผยชาติกำเนิดที่แท้จริงให้ยิ่งยงได้รู้ ส่วนเจ้าคุณยงยศก็ได้รู้ว่าไทรงามคือหลานของตน ส่วนเด่นดาวนั้นเสียสติจากการฆ่าเกียรติกรที่จับตัวเธอไป
เกิดเป็นหงส์ (2509)
เกิดเป็นหงส์ (2509/1966) ทิว บรรณา (มิตร ชัยบัญชา) เป็นผู้ดูแลไร่บรรณาในศรีราชา เขาเป็นแค่ผู้จัดการทั้งที่ไร่นี้แต่เดิมเป็นของพ่อของเขาแต่ถูก เทพ บรรณา (อดุลย์ ดุลยรัตน์) ผู้เป็นอาโกงเอาไป เท่านั้นยังไม่พอเทพยังได้ พวงทอง (บุษกร สาครรัตน์) และผ่องศรี (ปริม ประภาพร) พี่สาวของทิวไปเป็นภรรยาอีกด้วย จากนั้นเทพก็ได้ ขวัญตา (เอื้อมเดือน อัษฎา) คนรักของทิวไปเป็นภรรยาอีกคน ทิวจึงต้องเก็บความแค้นนี้ไว้ในใจ ทิวได้พบกับ มจ.มารศรีโสรัจ กฤตยา (เพชรา เชาวราษฎร์) โดยบังเอิญที่ศรีราชา จากนั้นทั้งคู่ก็สนิทสนมกัน โดยที่ทิวไม่รู้เลยว่าเทพอาของเขาก็หมายปอง มจ.หญิง ผู้นี้มาเป็นภรรยาคนใหม่ แม้ว่าจะมีชาติตระกูลสูง แต่ฐานะทางการเงินของ มจ.หญิงกลับไม่ดีนัก พระบิดาของเธอเป็นหนี้อยู่จำนวนมาก เมื่อพระบิดาสิ้นลงด้วยอุบัติเหตุ มจ.หญิงจึงต้องยอมไปทำงานในไร่ของเทพ และเทพก็ประกาศให้ทุกคนในไร่รู้ว่า มจ.หญิงผู้นี้จะมาเป็นภรรยาคนใหม่ของเขาโดยที่เจ้าตัวเองก็ยังไม่ทราบเรื่อง ขวัญตาแอบลักลอบเป็นชู้กับวิวัฒน์ (ประจวบ ฤกษ์ยามดี) ลูกน้องของทิวจนตั้งท้อง เมื่อความแตกวิวัฒน์หนีไปขวัญตาจึงอ้างว่าทิวเป็นพ่อของเด็กในท้อง ทิวเองก็ไม่ปฏิเสธ เมื่อ มจ.หญิงมาถึงไร่และพบว่าทิวเองมีภรรยาอยู่แล้วคือขวัญตาจึงไม่พอใจ ในขณะที่ทิวเองก็มองว่า มจ.หญิงนั้นเป็นผู้หญิงที่เห็นแก่เงินจึงยอมแต่งงานกับเทพ ทิวลักพาตัว มจ.หญิงไปเพื่อพูดคุยและรู้ความจริงว่า มจ.หญิงไม่ได้รักเทพเช่นเดียวกับเธอก็พบว่าทิวไม่เคยมีอะไรกับขวัญตา แม้ทั้งสองจะปรับความเข้าใจกันได้ เทพก็กำลังเดินทางมาเพื่อจัดการกับทิว แต่ขณะที่เทพกำลังจะทำร้ายทิว พวงทองซึ่งเก็บความคับแค้นอยู่ในใจตลอดมาจึงยิงเทพเสียเอง ก่อนที่เทพจะสิ้นใจก็สำนึกผิดขออโหสิกรรมต่อทุกคน
เสน่ห์บางกอก (2509)
เสน่ห์บางกอก (2509/1966) แพร (พร ภิรมย์) หนุ่มบ้านศาลาเกวียนหลงใหลความเจริญของเมืองบางกอกถึงขนาดหนีการบวชทดแทนพระคุณพ่อแม่คือกำนันปลั่ง (พยงค์ มุกดา) หนีที่จะต้องแต่งงานกับ สไบ (ภาวนา ชนะจิต) สาวบ้านนาที่พ่อแม่เลือกให้ไปเมืองบางกอก แต่แล้วเมืองบางกอก ก็ทำให้แพรผิดหวังเพราะเจอแต่คนแล้งน้ำใจ ไม่ว่าจะเป็นสาวบางกอกที่แพรคิดจะรักก็ไม่ใยดี ซ้ำต้องเผชิญกับนักเลงหัวไม้แย่งชิงพระพุทธรูปที่แพรนำติดตัวมาจนแพรต้องไปเป็นนักมวย ฝ่ายพ่อแม่ก็ออกตามหาตัวแพรกันจ้าละหวั่น แต่แล้วในที่สุดแพรก็หันหลังให้กับเมืองบางกอก กลับบ้านนอกมาพร้อมๆ กับพ่อแม่และสไบที่ออกตามหาด้วยความเป็นห่วง
นางสาวโพระดก (2508)
นางสาวโพระดก (2508/1965) ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม 4 ตุ๊กตาทอง 2508 มิตร ชัยบัญชา ดารายอดนิยมของประชาชน พบกับ พิศมัย วิไลศักดิ์ ในบทบาทของ... นางสาวโพระดก บทประพันธ์ของ รพีพร โพระดก สกุณา (พิศมัย วิไลศักดิ์) สาวน้อยเกิดในตระกูลอันสูงศักดิ์มีชีวิตที่เพียบพร้อม หลังจากบิดาถึงแก่กรรม คุณหญิงพิณ (วิไลวรรณ วัฒนพานิช) มารดาแต่งงานใหม่กับนายอาทร เฮงกุล นักธุรกิจหนุ่มลูกติด ผู้รักและเลี้ยงมิตรชัยบัญชาดูโพระดกเสมอลูกสาวตน กระทั่งวันหนึ่งก็ต้องมีอันจากไปอีกคน อาบจิต (น้ำเงิน บุญหนัก) น้องสาวนายอาทรไม่เห็นควรในสมบัติที่โพระดกจะได้รับ ด้วยความริษยาเธอจึงคบคิดกับอรรถลูกชายคนรองของอาทร (อดุลย์ ดุลยรัตน์) หวังรวบหัวรวบหางเอาโพระดกมาทำเมีย แต่เธอกลับระหกระเหินไปยังไร่กระต่ายเต้นของเพื่อนสาวสายสมร (โสภา สถาพร) ที่นี่ทำให้ได้พบเจอตกหลุมรักกับ ศล ทองปราย (มิตร ชัยบัญชา) ทนายความชาวไร่รูปงาม สาวน้อยลูกติดของแม่ที่หลงเข้าไปในตระกูลของเศรษฐีมีเงิน ทำให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย ที่สนุก เข้มข้น
มือโจร (2504)
มือโจร (2504/1961) สาวสวยจากเมืองกรุงหนีความผิดไปยังดินแดนไกลปืนเที่ยง ด้วยตั้งใจมาพึ่งใบบุญคุณอา ระหว่างทางเธอกลับถูกโจรป่าจับไปพร้อมหมอหนุ่มซึ่งโดยสารรถมาด้วยกัน ความจริงมาเปิดเผยว่าหัวหน้าโจรนั้นมุ่งจับหมอหนุ่มมาเพื่อให้ช่วยรักษาเมียรักที่กำลังป่วยหนัก ระหว่างนั้นทั้งสาวเมืองกรุงและหมอหนุ่มก็ช่วยกันหาลู่ทางหลบหนี โดยมีเมียขุนโจรที่อยากหนีเช่นกันคอยช่วยอีกแรง เมื่อสบโอกาสทั้งสามจึงพากันหนีไป ทิ้งให้ขุนโจรเดือดดาลและออกตามหาแทบพลิกแผ่นดิน

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 11 รายการ