ระฆังผี (2511)
ระฆังผี (2511/1968) หมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีผู้ใหญ่คล้าย (อบ บุญติด) เป็นผู้ปกครองหมู่บ้าน ส่วนเมียผู้ใหญ่คล้ายนั้นเสียชีวิตไปแล้ว ผู้ใหญ่คล้ายจึงมีเมียใหม่เป็นสาวรุ่นๆ ชื่อว่า ลำดวน (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์) แต่ลำดวนกลับคิดไม่ซื่อกับผู้ใหญ่คล้าย หวังจะครอบครองทรัพย์สมบัติของผู้ใหญ่จึงลอบเป็นชู้กับนายอั๋น (ชนะ ศรีอุบล) หลานแท้ๆ ของผู้ใหญ่คล้ายเพื่อหวังจะให้นายอั๋นช่วยหาทางกำจัดผู้ใหญ่คล้ายไปโดยเร็ว ต่อมาผู้ใหญ่คล้ายเป็นประธานหล่อระฆังวัดประจำหมู่บ้าน จึงเรียกตัวลูกสาว 2 คน คนโตชื่อ เพ็ญ (พิศมัย วิไลศักดิ์) คนเล็กชื่อ พร (ด.ญ.ปนัดดา กัลย์จาฤก) กลับจากกรุงเทพฯ เพื่อมาทำบุญร่วมกันซึ่งลำดวนก็ไม่ค่อยสบายใจนักเกรงว่าสองพี่น้องจะมาแย่งทรัพย์สมบัติจากตนไป นายอั๋นกับลำดวนจึงสบโอกาสที่จะฆ่าผู้ใหญ่คล้ายโดยวางแผนอย่างแยบยลให้ดูเหมือนว่าผู้ใหญ่คล้ายเดินพลาดตกไปตายในเต้าหลอมระฆังเอง ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์นั้นจริง ก็ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นเรื่องของการฆาตกรรมแต่อย่างไรเพราะคิดว่าเป็นอุบัติเหตุ หลังการตายของผู้ใหญ่คล้าย ทางการก็แต่งตั้งนายอั๋นขึ้นเป็นผู้ใหญ่บ้านแทน นายอั๋นหวังจะเคลมเพ็ญเป็นเมียอีกคน ทั้งๆ ที่นายอั๋นมีเมียลับๆ อยู่อีกคนคือ ดอกไม้ (ปรียา รุ่งเรือง) ซึ่งกำลังตั้งท้องใกล้จะคลอด ต่อมาทางการก็ส่ง โชค ชนะชล (สมบัติ เมทะนี) นายตำรวจปลอมตัวมาสืบจับคนร้าย โชคเข้าไปตีสนิทจนได้เป็นมือปืนของผู้ใหญ่อั๋น ช่วงนี้ ผีผู้ใหญ่คล้ายเริ่มออกอาละวาดชาวบ้านที่หากินไม่สุจริตจนผู้ใหญ่อั๋นต้องหาพระดีๆ มาห้อยคอ ฝ่ายผีผู้ใหญ่คล้ายรู้ว่านายอั๋นกำลังคิดร้ายกับเพ็ญจึงมาบอกเพ็ญให้รู้ตัว ขณะที่โชคเองก็เริ่มได้เบาะแสความชั่วของผู้ใหญ่อั๋นบ้างแล้วและโชคยังได้ช่วยปกป้องเพ็ญกับน้องสาวให้พ้นมือผู้ใหญ่อั๋นด้วย ฝ่ายดอกไม้เมื่อท้องแก่มากๆ ก็ตื้อให้ผู้ใหญ่อั๋นรับผิดชอบแต่งงาน ผู้ใหญ่รำคาญจึงสั่งลูกน้องไปฆ่าดอกไม้และเผากระท่อมทิ้ง ส่วนลำดวนก็หาทางกำจัดเพ็ญกับน้องสาวเพื่อหวังได้ทรัพย์สมบัติ แต่โชคก็มาช่วยเหลือได้ทัน ขณะที่ผีผู้ใหญ่คล้ายกับผีนางดอกไม้ก็ออกอาละวาดหนักขึ้นแต่ทำอะไรผู้ใหญ่อั๋นไม่ได้เพราะมีพระดีห้อยคอ ชาวบ้านหาหมอผีมาปราบผี แต่ก็สู้ผีสองผีนี้ไม่ได้ ต่อมาเมื่อได้ความแน่ชัดว่า ผู้ใหญ่อั๋นทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ตำรวจจึงลงมือปราบปราม เกิดการยิงต่อสู้กันและในระหว่างที่ผู้ใหญ่อั๋นหลบหนีนั้น พระที่ห้อยคอก็หลุดหายไป ผีผู้ใหญ่คล้ายซึ่งรอเวลาอยู่แล้ว ก็ปรากฏตัวขึ้นมาฆ่าผู้ใหญ่อั๋นตาย ส่วนลำดวนก็โดนผีนางดอกไม้ฆ่าตายเช่นกัน
ป่าช้าแตก (2511/1968) ข้อความบนใบปิด สุริยนโปรดั๊กชั่น ผู้สร้าง 7 ป่าช้า ขอเสนอ 40 ดาราพาเหรดใน... ป่าช้าแตก ขอเสนอ พระเอกขวัญใจวัยรุ่น ชัยยุทธ เวชชยันต์ พบ ใจดาว บุษยา พร้อมด้วย วิน วิษณุรักษ์, เมืองเริง ปัทมินทร์, ถวัลย์ คีรีวัตร, ประมินทร์ จารุจารีต และสองดาวยั่ว อุไรวรรณ จันทร์ทิพย์, หยาดรุ้ง ระพี ติดตามด้วยดาวตลก ดาวน้อย ดวงใหญ่, สีเทา, หม่อมชั้น พวงวัน, ทองฮะ, ขวัญ, แป๊ะอ้วน, ยรรยงค์ พยงค์ มุกดาพันธ์, ยอดลักษณ์ กรรณสูต ให้เกียรติร่วมแสดง เกรียงศักดิ์ ฤกษ์ชนะ กำกับการแสดง สุริยน ดวงทองดี อำนวยการสร้าง กวี เกียรตินันท์ ถ่ายภาพ สว่าง บุญกาญจน์ ฝ่ายธุระกิจ สบายใจฟิล์ม จัดจำหน่าย *ใบปิดวาดโดย ชวนะ (ที่มา :Thai Movie Posters)
ปราสาทรัก (2511)
ปราสาทรัก (2511/1968) หม่อมเจ้าหญิงอุมารังษี (พิศมัย วิไลศักดิ์) ทะเลาะกับหม่อมอร ผู้เป็นมารดา จึงออกจากบ้านเพื่อเดินทางไปเป็นครูที่จ.เชียงใหม่ บนรถไฟนายแพทย์ภะรต (สมบัติ เมทะนี) เอ่ยชวนเธอไปทำงานเป็นครูพี่เลี้ยงให้น้องสาวพิการ คืนหนึ่งที่ปราสาทอุมารังษีนอนไม่หลับ ได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้หญิง เธอเห็นภะรตจึงสะกดรอยตาม วันต่อมาอุมารังษีฝันว่ามีผู้หญิงถูกล่ามข้อเท้า ยื่นมือขอความช่วยเหลือ อุมารังษีสะดุ้งตื่นก็พบป้าแช่ม (สะอาด อรรถจินดา) ป้าแช่มตกใจรีบแก้ตัวว่ามาตรวจดูความเรียบร้อย ภะรตไปงานเต้นรำกับวาสิณ ได้พบเด็กผู้หญิงชื่อพิมพ์ทิพก็ตะลึง เพราะพิมพ์ทิพหน้าตาคล้ายคุณแจ๋วมาก ส่วนอุมารังษีนอนไม่หลับ ออกไปเดินเล่นที่เฉลียง พบกับชายลึกลับที่ปีนขึ้นมาพร้อมเรียกหาประวิญ เมื่อเห็นอุมารังษีก็ตกใจและหนีไป ภะรตไปรักษาคนไข้จนเย็นก็ยังไม่กลับ นายชดขี่ม้ากลับมา บอกอุมารังษีว่าภะรตถูกยิงบาดเจ็บสาหัส อุมารังษีเป็นห่วงจึงขอตามนายชดไปด้วย ระหว่างทางนายชดจะขืนใจอุมารังษีแต่ภะรตตามไปช่วยได้ทัน อุมารังษีเป็นไข้และเพ้อจนภะรตรู้ว่าเธอคือหม่อมเจ้าหญิงอุมารังษี ป้าแช่มบอกอุมารังษีว่าภะรตเป็นผู้ร้ายฆ่าคน เกลี้ยกล่อมให้เธอไปจากที่นี่ ทั้งวางแผนจะให้กัญญาเข้าไปนอนกับภะรต แต่ถูกคุณแจ๋วขวางไว้ ป้าแช่มจึงเป่าหูแม่ทิพ (สมจิตต์ ทรัพย์สำรวย) หญิงสติไม่ดีว่าภะรตจะส่งคุณแจ๋วไปอยู่สถานเด็กพิการ ทำให้แม่ทิพแอบมาอุ้มคุณแจ๋วไป ภะรตออกตามหาคุณแจ๋วกับแม่ทิพไปจนถึงหน้าผา แม่ทิพกำลังจะตกหน้าผา ภะรตกระโดดคว้าตัวคุณแจ๋วได้ทัน ลุงเทพ (ม.ล.รุจิรา อิศรางกูร) ฝากฝังคุณแจ๋วกับพิมพ์ทิพ ทำให้ภะรตรู้ว่ามีน้องสาวอีกคน ภะรตขอร้องให้อุมารังษีไปหาคุณแจ๋ว อุมารังษีคิดถึงคุณแจ๋วจึงตัดสินใจกลับปราสาททันที ระหว่างแวะพักโรงแรม ทั้งคู่มีโอกาสพูดคุยกัน แต่ด้วยทิฐิบวกกับความหึงหวง ทำให้ทั้งคู่ไม่เข้าใจกันเสียที พอถึงปราสาทคุณแจ๋วได้เห็นหน้าครูอุมาของเธออีกครั้งก็ยิ้มและสิ้นใจอย่างสงบ ต่อมาความจริงจึงปรากฎว่าแม่ทิพคืออาของภะรต และเป็นแม่ของคุณแจ๋วกับพิมพ์ทิพ ส่วนป้าแช่มคือผู้อยู่เบื้องหลังของเหตุร้ายทั้งหลายที่เกิดขึ้นในบ้าน ภะรตและอุมารังสีก็ทำความเข้าใจกันได้และได้ครองรักกัน
แก้วกาหลง (2510)
แก้วกาหลง (2510/1967) เสน่ห์ โกมารชุน สร้าง แม่นาคพระโขนง เจ้าแม่ตะเคียนทอง ลบสถิติและลือลั่นมาแล้ว ครั้งนี้ขอเสนอ... แก้วกาหลง ดูหนังผี ต้อง "เสน่ห์ โกมารชุน" สร้าง ดูหนังผี ต้อง "รังสี ทัศนพยัคฆ์" กำกับ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ไอ้แก้ว (มิตร ชัยบัญชา) ทาสในเรือนเบี้ย แต่เพราะไอ้แก้วมีความขยันมากกว่าทาสคนอื่นๆ จึงได้สิทธิพิเศษให้เรียนหนังสือ ไอ้แก้วมีความสามารถในการเล่นดนตรีสีซออู้ได้อย่างไพเราะ จึงได้รับความไว้วางใจท่านเจ้าคุณมหิทธ์ศักดิ์ ให้เป็นผู้สอนสีซออู้แก่กาหลง (ปรียา รุ่งเรือง) ผู้เป็นลูกสาวท่านเจ้าคุณฯ ก็เรียกว่า สอนไป สอนมา เกิดใกล้สนิทสนมและลักลอบได้เสียกัน ซึ่งเป็นความผิดมีโทษมหันต์ ยังความโกรธแค้นแก่ท่านเจ้าคุณฯ เป็นอย่างยิ่งเพราะทั้งอายที่ลูกสาวลดตัวไปเป็นเมียทาสหนุ่ม ท่านเจ้าคุณฯ จึงสั่งลงโทษโบยเฆี่ยนหลังไอ้แก้วและจับขังคุกทาสไว้ กะว่าจะให้ตาย ส่วนกาหลงผู้เป็นลูกสาวนั้น ท่านเจ้าคุณส่งตัวไปกักขังอยู่ที่กระท่อมกลางสวน เพื่อให้คลอดลูกก่อน โดยจัดเวรยามเฝ้าดูแลไว้ แต่เมื่อคนเฝ้ากินเหล้าเมายา แล้วก็เกิดอารมณ์เข้าปลุกปล้ำหมายข่มขืนกาหลง กาหลงไม่ยอม ก็ต่อสู้ดิ้นรนสุดชีวิตกระทั่งตัวเองถูกบีบคอตายคากระท่อม.. ท่านเจ้าคุณฯ รู้ข่าว ก็เสียใจและรีบจัดการฝังศพกาหลงไว้และตัวเองก็ป่วยจนตรอมใจตายในเวลาต่อมา ซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกันกับในหลวงรัชกาลที่ 5 โปรดให้เลิกทาส ไอ้แก้วจึงได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระ แต่ไม่มีใครบอกว่า กาหลงเสียชีวิตไปแล้ว ต่อมาหมอผีก็ไปขุดศพนางกาหลงขึ้นมา หมายจะเอาน้ำมันพรายไปทำเสน่ห์ยาแฝด แต่เพราะกาหลงเป็นผีตายโหงที่ถูกสะกดวิญญาณไว้ เมื่อยันต์สะกดหลุดออก ผีนางกาหลงก็เลยเฮี้ยนและจัดการฆ่าหมอผีตายเป็นศพแรก จากนั้นผีนางกาหลงก็ออกอาละวาดทุกค่ำคืน ชาวบ้านชาวช่องก็ไม่กล้าออกจากบ้านไปไหน ผีนางกาหลงออกตามหาไอ้แก้วผัวรัก เมื่อหาไม่เจอ ก็มานั่งสีซอคร่ำครวญทุกคืนจนชาวบ้านกลัว ย้ายหนีกันไปหลายคน ส่วนไอ้แก้ว เมื่อพ้นจากทาสมาเป็นไท ก็กลับไปอาศัยญาติๆ ทำนา แล้วก็ได้พบกับซ่อนกลิ่น (เพชรา เชาวราษฎร์) เกิดรักใคร่ชอบพอกัน กระทั่งเกลอเก่าที่เคยเป็นทาสหนีจากบ้านท่านเจ้าคุณฯ มาหาไอ้แก้วและขออาศัยอยู่ด้วย ซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกับที่ผีนางกาหลงติดตามเกลอไอ้แก้วมาด้วยเช่นกัน ตกกลางคืน ผีนางกาหลงก็ปรากฏตัวและไปขออยู่กับไอ้แก้วที่บ้าน โดยที่ไม่มีใครรู้ว่า กาหลงตายไปแล้ว กระทั่งเกลอเก่าไอ้แก้วมาเห็นเข้า จึงบอกซ่อนกลิ่นว่า กาหลงตายไปแล้ว ซ่อนกลิ่นก็ไปบอกไอ้แก้ว แต่ไอ้แก้วกลับไม่เชื่อ หาว่า ซ่อนกลิ่นหึงหวงกาหลง เหตุการณ์เริ่มไม่ค่อยจะสู้ดีเพราะไอ้แก้วกับผีนางกาหลงยังคงอยู่ร่วมบ้านกัน ซ่อนกลิ่นจึงไปหาอาจารย์ หาผ้ายันต์มาให้ไอ้แก้วพิสูจน์ความจริงว่า กาหลงตายไปแล้ว แก้วจึงยอมเอาผ้ายันต์ใส่ไว้ใต้หมอนที่กาหลงนอน พอตกกลางคืนร่างของกาหลงก็กลายเป็นซากศพเน่าเฟะนอนอยู่แทน แก้วจึงรู้ว่า กาหลงตายแล้ว ก็หนีไป สร้างความโกรธแค้นให้ผีนางกาหลงเป็นอย่างมาก จึงออกอาละวาดฆ่าคนเป็นว่าเล่น หมอผีหลายคนที่หาปราบ ก็สู้ผีนางกาหลงไม่ได้ กระทั่งหมอผีคนล่าสุดก็กำลังจะถูกผีกาหลงหักคอ ไอ้แก้วทนไม่ได้ที่ผีนางกาหลงฆ่าคนเป็นว่าเล่น จึงออกมาพบและบอกให้กาหลงฆ่าไอ้แก้วแทนเพราะจะได้ตายและไปอยู่ด้วยกัน เมื่อผีนางกาหลงได้ยินเช่นนั้น ก็รู้ว่าแท้จริงแล้ว ไอ้แก้วยังรักกาหลงอยู่ เพียงแต่เพราะอยู่กันคนละชาติคนละภพ ไอ้แก้วจึงแสดงออกแบบนั้น ผีนางกาหลงรู้สำนึกผิดชอบชั่วดีแล้ว จึงยอมปล่อยหมอผีไป และรู้ว่า ซ่อนกลิ่นก็รับไอ้แก้วเช่นกัน เมื่อชาตินี้ไม่สามารถอยู่กับพี่แก้วได้อย่างคนทั่วไป ก้เอ่ยปากฝากพี่แก้วกับซ่อนกลิ่นให้ครองคู่อยู่ร่วมกัน ส่วนตัวกาหลงเองก็จะกลับไปชดใช้กรรมในนรกภูมิ เพื่อชาติหน้าจะได้เกิดมาเป็นเมียพีแก้วอีกครั้ง
เจ้าแม่ปานทอง (2510)
เจ้าแม่ปานทอง (2510/1967) ข้อความบนใบปิด ว.พ.ส.บ. ภาพยนตร์ สร้าง ยอดหนังผีตื่นเต้นสุดยอด ยิ่งกว่าผีเรื่องใดใดคือ... เจ้าแม่ปานทอง บทประพันธ์ของ “ดุสิตา” นำโดย ลือชัย นฤนาท โสภา สถาพร บุษกร สาครรัตน์, โยธิน เทวราช, แก่นใจ มีนะกนิษฐ์, ทศ, สุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต, เสริมพันธ์ สุทธิเนตร, ศิริพงษ์ อิศรางกูร, แววตา อาสาสุข, บู๊ วิบูลย์นันท์, สมพงษ์ พงษ์มิตร, ล้อต๊อก, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม, สีเทา และสองดาวตลกจอแก้ว ขุนแผน ภุมรักษ์ ถนอม นวลอนันต์
บุญเพ็งหีบเหล็ก (2510)
บุญเพ็งหีบเหล็ก (2510/1967) เรื่องจริงอิงมายาศาสตร์ เรื่องจริงที่ตื่นเต้นสยองขวัญจนแทบไม่น่าเชื่อ เรื่องของการชิงรักหักสวาทบาดอารมณ์ เหนือความรักประทับใจทั้งมวล! บุญเพ็งหีบเหล็ก เป็นฉายาของนายบุญเพ็ง ซึ่งเป็นฆาตกรที่เหี้ยมโหดในสมัยรัชกาลที่ 6 เดิมทีนายบุญเพ็งเป็นพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในเมืองนนทบุรี และมีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมาก โดยเฉพาะลูกศิษย์ที่เป็นผู้หญิงร่ำรวย ซึ่งบุญเพ็งได้ใช้วิชาอาคมด้วยการทำเมตตามหานิยมให้กับผู้หญิงที่หลงเชื่อ ด้วยการหลอกล่อเอาเงินและมีเพศสัมพันธ์กับสีกาที่มาให้บุญเพ็งทำเสน่ห์ นานวันเข้าก็เป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้หญิงที่ไปติดพันบุญเพ็งค่อยๆ หายตัวไปอย่างลึกลับ พร้อมหีบเหล็กที่หายไปทีละใบ..ทีละใบ..
กู่การะเวก (2510)
กู่การะเวก (2510/1967) สมบัติ-ภาวนา ข้อความบนใบปิด สะท้านภาพยนตร์ ขอเสนอ หนังดัง หนังดี แสนประทับใจ คือ... กู่การเวก ของ ชลอ สรนันท์ นำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี ภาวนา ชนะจิต สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์, อาคม มกรานนท์, เยาวเรศ นิศากร, สมควร กระจ่างศาสตร์, ชฎาพร วชิรปราณี, ถวัลย์ คีรีวัตร, ไสล พูนชัย, สัมพันธ์, รุ่งฟ้า, นวลศรี, ประณีต คุ้มเดช, ล้อต๊อก, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม, พูนสวัสดิ์ ธีมากร, หม่อมชั้น พวงวัน, สีเทา, ดาวน้อย ดวงใหญ่, เดือนนิด สมชาย จันทวังโส ถ่ายภาพ สะท้าน เทพปัญญา อำนวยการสร้าง ประทีป โกมลภิส กำกับการแสดง
ลูกกรอก (2510)
ลูกกรอก (2510/1967) ข้อความบนใบปิด กันตนาภาพยนตร์ ภูมิใจเสนอ รวมดาราละครวิทยุที่ยิ่งใหญ่ 9 คณะ เป็นประวัติการณ์ ประชันบทกันอย่างสุดเหวี่ยง ถนอม อัครเศรณี, แก้วฟ้า, ประดิษฐ์ กัลย์จาฤก, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม, สุพรรณ บูรณะพิมพ์, ชลอ สรนันท์, ผาสุข วัฒนารมย์, อุทัยวุฒิ วงศาโรจน์, นพดล กุณฑลจินดา, ชวนพิศ เผ่าศิลปิน, ชูศักดิ์ สุธีรธรรม, สุนี สินีกลม, กุสุมา สินสุข, เพลินพิศ พิมพ์สดใส ลูกกรอก นิยายมายาศาสตร์อันลือลั่นของคณะกันตนา ประดิษฐ์ กัลย์จาฤก ประพันธ์บท สุพรรณ บูรณะพิมพ์ กำกับการแสดง สมสุข กัลย์จาฤก อำนวยการสร้าง เนื่องเนตร์ แผลงจันทึก ถ่ายภาพ นำโดย พัลลภ พรพิษณุ ดุจเดือน ดาราราย สุพรรณ บูรณพิมพ์, ชฎาพร วชิรปราณี, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม และเด็กหญิงปนัดดา กัลย์จาฤก กล้าท้าให้พิสูจน์ กล้าพูดอย่างเต็มปาก กล้าสร้างอย่างไม่กระดาก กล้าฝากฝีมือ นั่นคือ ลูกกรอก ของ กันตนา (ที่มา :Thai Movie Posters)
ปีศาจเมียน้อย (2509)
ปีศาจเมียน้อย (2509/1966) ข้อความบนใบปิด แสงเพชรภาพยนตร์ ปีศาจเมียน้อย ของ จ.สุวรรณฤทธิ์ ขอเสนอพระเอกใหม่ ภูมิ เพชรพนม พร้อมด้วย เมตตา รุ่งรัตน์ ปรียา รุ่งเรือง สาหัส บุญหลง, พูนสวัสด์ ธีมากร, สมจิตร ทรัพย์สำรวย, ล้อต๊อก, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม, จุ๋มจิ๋ม เข็มเล็ก, ด.ญ.วัชราภรณ์ พึ่งสังข์ วิชัย ทรงศิริวิชัย-นิวัฒน์ ศิลปสมศักดิ์ ถ่ายภาพ มานิตย์ ทวีเพชร อำนวยการสร้าง เจริญ สุวรรณฤทธิ์ กำกับการแสดง
งูผี (2509)
งูผี (2509/1966) เรื่องราวพญางูขาวที่เข้าไปสิงทารกในครรภ์ของหญิงนางหนึ่ง ซึ่งเมื่อคลอดออกมาถูกชาวบ้านนำไปเลี้ยงและตั้งชื่อว่า บุญเหลือ โดยเลี้ยงคู่กับ แว่นฟ้า ลูกสาวแท้ ๆ ของพวกเขาเอง วันหนึ่ง ได้เกิดคดีลึกลับขึ้นในหมู่บ้านแห่งนี้ จนทางการต้องส่ง ประกิต ตำรวจหนุ่มปลอมตัวเข้ามาสืบหาความจริง นำมาซึ่งความรักสามเส้าระหว่างสองสาว และนายตำรวจหนุ่มผู้นี้
วังไพร (2509)
วังไพร (2509/1966) เรื่องราวลึกลับของตำหนักวังไพร บนผืนดินกว่า 2,500 ไร่ ที่เจ้าคุณเอกกรินทร์และเจ้าคุณจามรต่างมีส่วนร่วมในมรดกผืนนี้ แต่ด้วยความที่มีเรื่องบาดหมางกันมาช้านาน ทั้งคู่จึงปล่อยให้วังไพรรกร้างจนกลายเป็นตำนานที่ใคร ๆ ต่างกล่าวขานในความน่ากลัว ในขณะที่ลูก ๆ ของพวกเขาต่างพยายามช่วยกันสมานรอยแผลในใจนี้
ลมกรด (2509)
ลมกรด (2509/1966) ข้อความบนใบปิด โดมฤดีโปรดัคชั่น เสนอยอดดาราคู่ขวัญตุ๊กตาทองพระราชทาน 2508 ที่แสดงสุดฝีมือเป็นประเดิม สมบัติ เมทะนี เนาวรัตน์ วัชรา ในภาพยนตร์ประเภทอาชญนิยาย ลึกลับ ตื่นเต้น โลดโผน... ลมกรด ของ อรวรรณ ร่วมด้วย ประจวบ ฤกษ์ยามดี, เอื้อมเดือน อัษฎา, จุรีรัตน์, แก่นใจ มีนะกนิษฐ์, อาคม มกรานนท์, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม, ปราณีต คุ้มเดช, สิงห์ มิลินทราศัย, สุเทพ เหมือนประสิทธิเวช, ถวัลย์ คีรีวัต, ชนินทร์, ทานทัต วิภาตะโยธิน, ทวนทอง ในเดือนร้าว “เนาวรัตน์ วัชรา” สวมบทบาทสาวสวยลูกกำพร้าทั้งแม่และความรัก... ในลมกรด เนาวรัตน์ วัชรา สวมบทบาทสาวแก่นแก้ว ผู้ว่องไวปานลมกรด โดม แดนไทย อำนวยการสร้าง วิน วันชัย กำกับการแสดง ส.อาสนจินดาภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
เจ้าแม่ตะเคียนทอง (2509)

เจ้าแม่ตะเคียนทอง (2509/1966) ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ช่วงเวลาสุดท้ายก่อนการเลิกทาส ยอด (ไชยา สุริยัน) และพิกุล (ปรียา รุ่งเรือง) เป็นทาสในเรือนของท่านเจ้าคุณวิเศษสรไกร (สาหัส บุญ-หลง) ทั้งสองรักใคร่กัน ทำให้บัวเผื่อน (ชฎาพร วชิรปราณี) เมียน้อยท่านเจ้าคุณไม่พอใจเนื่องจากหลงรักยอดอยู่เช่นกัน ขณะเดียวกับที่ท่านเจ้าคุณก็ต้องการพิกุลเป็นเมีย วันหนึ่งบัวเผื่อนก็สร้างเรื่องใส่ความว่ายอดปลุกปล้ำ เจ้าคุณสั่งลงโทษโบยยอดอย่างหนัก แม้ว่าคุณกาหลง (โสภา สถาพร) ผู้เป็นธิดาพยายามขอร้องก็ไม่เป็นผล พิกุลยอมเป็นเมียท่านเจ้าคุณเพื่อเป็นการช่วยยอดไม่ให้ถูกเฆี่ยนจนถึงชีวิต แต่ยอดกลับเข้าใจว่าพิกุลเป็นหญิงหลายใจจึงดุด่าพิกุลอย่างรุนแรง พิกุลเสียใจมากจึงผูกคอตายที่ต้นตะเคียนในสวนหลังบ้านท่านเจ้าคุณ หลังจากพิกุลตายแล้วยอดจึงได้รู้ความจริงว่าที่พิกุลต้องยอมเป็นเมียท่านเจ้าคุณก็เพื่อช่วยชีวิตของตน ยอดจึงแอบโขมยศพของพิกุลจากวัดมาฝังไว้ใต้ต้นตะเคียน ยอดหลบหนีออกจากบ้านท่านเจ้าคุณและได้ช่วยหมอฝรั่งให้พ้นมือโ่จร หมอฝรั่งจึงพายอดไปอยู่ด้วยและสอนวิชาแพทย์ให้จนเชี่ยวชาญ ขณะที่บ้านท่านเจ้าคุณก็เกิดเหตุวุ่นวายเมื่อวิญญาณของพิกุลออกมาปรากฎตัวหลอกหลอน ท่านเจ้าคุณถูกพิกุลหลอกจนป่วยจึงให้คนไปตามหมอมารักษาซึ่งก็คือยอดนั่นเอง ทำให้ยอดได้มีโอกาสใกล้ชิดก้บคุณกาหลง หลังจากท่านเจ้าคุณเสียชีวิตทั้งสองตกลงใจจะอยู่ครองรักกันทำให้วิญญาณพิกุลโกรธมาก ปรากฎตัวออกมาทวงสัญญารักที่ยอดเคยให้กับตนเองไว้ ยอดเห็นใจในความรักและความเสียสละของพิกุลจึงจะยอมไปอยู่ด้วย ขณะที่พิกุลกำลังจะนำยอดไปหมอผีที่เดินทางมาปราบวิญญาณของพิกุลก็ได้ใช้ตะปูอาคมตอกที่ต้นตะเคียนทำให้วิญญาณของพิกุลสิ้นฤทธิ์เดช ก่อนที่วิญญาณจะสลายไปพิกุลได้ฝากให้คุณกาหลงดูแลยยอด ยอดและคุณกาหลงจึงได้ครองรักกัน

เลือดรักนางพราย (2507)
เลือดรักนางพราย (2507/1964) ข้อความบนใบปิด จิตรวาณีภาพยนตร์ เสนอ ขนพองสยองเกล้า ร้อนเร่าด้วยอาถรรพ์ แทรกขบขัน คึกคัก บู๊กันหนัก ใน... เลือดรักนางพราย ของ อรวรรณ นำโดย มิตร ชัยบัญชา เอื้อมเดือน อัษฎา ทักษิณ แจ่มผล กิ่งดาว ดารณี สุดเฉลียว เกตุผล, สมพล กงสุวรรณ, สิงห์ มิลินทราศัย, อดินันท์ สิงห์หิรัญ, ศักดิ์สีห์, ล้อต๊อก, ทองแถม, สุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต, แววตา อาษาสุข, ทศ วงศ์งาม, เทียว ธารา ขุนแผน ดำเนินงาน รังสี ทัศนพยัคฆ์ กำกับ กิตติพงษ์ เวศภูญาณ อำนวยการสร้าง ธีระ แอคะรัจน์ ถ่ายภาพ วัชรภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
ภูตพิศวาส (2507)
ภูตพิศวาส (2507/1964) ความรักระหว่างคนกับวิญญาณสาวโดยผีสาวนั้นชื่อว่า ดาว (เพชรา เชาวราษฎร์) ซึ่งถูกผีดิบดูดเลือดบังคับให้ไปล่อลวงชายหนุ่มมาเป็นเหยื่อโดยเฉพาะพวกโลกและชีกอทั้งหลาย แต่ มารุต (ไชยา สุริยัน) แม้จะเสียเพื่อนรักเป็นเหยื่อผีดิบถึงสองคนแล้ว แต่ก็ยังคงอาศัยกุฏิพระหลับนอนตามเดิมเพราะรู้สึกจะถูกชะตากับผีสาวดาว ต่อมามารุตรู้เรื่องชีวิตของผีสาวดาวจากลุงอินทร์หมอผี ก็จะช่วยผีสาวดาวให้กลับมาเป็นคนอีกครั้ง มารุตจึงไปขุดศพผีสาวดาวและย้ายไปฝังที่ท้ายบ้านตัวเองเพื่อรอเวลาที่จะช่วยเหลือ การกระทำของมารุตยังความโกรธแค้นให้แก่เหล่าผีดิบเป็นยิ่งนัก จึงมีการส่งสมุนผีดิบมาอาละวาด แต่ลุงอินทร์หมอผีก็เสกควายธนูไปฆ่าผีดิบเหล่านั้นจนสิ้นฤทธิ์ ยามค่ำคืน วิญญาณของผีสาวดาวก็มักจะปรากฏตัวมาหามารุตเสมอ โดยแม่ของมารุต (มาลี เวชประเสริฐ) ไม่ว่าอะไรเพราะสงสาร คงมีเพียงบุหงา (ปรียา รุ่งเรือง) คู่หมั้นของมารุตที่แสดงอาการหึงหวงอย่างออกหน้าและยังไปจ้างหมอผีมาทำพิธีให้วิญญาณของผีสาวดาวเข้ามาในบ้านไม่ได้ มารุตจึงต้องไปหาผีสาวดาวที่หลุมศพแทน เมื่อลุงอินทร์กำจัดผีดิบผู้เป็นนายใหญ่ได้สำเร็จจึงเริ่มพิธีช่วยชุบชีวิตให้ผีสาวดาว โดยมารุตจะต้องบำเพ็ญศีลภาวนานุ่งขาวห่มขาวให้ครบ 20 วันเต็ม เมื่อครบกำหนด ผีสาวดาวก็มีร่างเป็นคนปกติ มารุตกับดาวจึงรักกัน แต่ต่อมามารุตก็ถูกบังคับให้แต่งงานกับบุหงา ทำให้ดาวซึ่งร่างกายเป็นมนุษย์เศร้าเสียใจ แต่เพราะความรักที่มีต่อกัน ทำให้ทั้งสองแอบได้เสียเป็นเมียผัวกันหลังจากมารุตแต่งงานแล้ว บุหงาก็ให้หมอผีทำเสน่ห์จนมารุตหลงใหลและลืมตัวไล่ดาวออกจากบ้าน แต่แม่ของมารุตก็ยังสงสารและรับดาวไว้เป็นลูกบุญธรรม ครั้นเมื่อแม่รู้ว่าดาวกำลังท้องกับมารุต แม่ก็ดีใจที่จะได้อุ้มหลาน จึงจ้างให้ลุงอินทร์หาทางแก้มนต์เสน่ห์ที่บุหงาทำไว้ สุดท้ายมารุตก็เลิกกับบุหงาและกลับมาอยู่กินกับดาวอย่างมีความสุข
นางสมิงพราย (2506)
นางสมิงพราย (2506/1963) แปลก..มหัศจรรย์..เป็นประวัติการณ์ของหนังไทย จากละครวิทยุที่ตรึงใจประชาชนทั่วกรุง ในเรื่อง...ชีวิตเถื่อน ของคณะ กันตนา เรื่องราวของปัญจนี เด็กสาวผู้ไปกัดเด็กในหมู่บ้านจนเสียชีวิต เป็นเหตุให้ชาวบ้านต้องการจะเผาเธอ เพราะคิดว่าเธอเป็นผีพรายสมิง แต่ภิกษุรูปหนึ่งได้มาเห็นเหตุการณ์และบอกความจริงว่า เธอเพียงถูกวิญญาณพรายสมิงเข้าสิงเท่านั้น พออายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์ก็สูญสิ้นไปเอง ปัญจนีและยายจึงหนีไปอยู่พม่า วันหนึ่ง ยายของเธออยากกลับไปใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายที่บ้านเกิด ปัญจนีจึงจำต้องกลับมา พร้อมด้วยผีพรายสมิงที่ยังสิงอยู่ในตัวเธอ