เศรษฐีอนาถา (2499)
เศรษฐีอนาถา (2499/1956) เรื่องราวเกิดขึ้นที่สถานีรถไฟหัวลำโพงวันนี้ นายจอน บางคอแหลม (เจิม ปั้นอำไพ) ก็เมาหัวราน้ำสร้างความอิดหนาระอาใจต่อเพื่อนเจ้าหน้าที่รถไฟเหมือนอย่างทุกวัน แต่วันนี้ เขาโชคดีได้มาเจอกับ ประพนธ์ ธนพิทักษ์ (เสถียร ธรรมเจริญ) หนุ่มมหาเศรษฐีที่เพิ่งอกหักจาก กันทิมา (ระเบียบ อาชนะโยธิน) ช่างตัดเสื้อสาว จึงมานั่งดื่มเหล้าคลายเครียดบนรถไฟและนึกสนุกมอบเงินให้นายจอนสิบล้านบาท หลังจากที่คุยกันถูกคอเรื่องความรวยความจน โดยมีข้อแม้ว่านายจอนจะต้องใช้เงินคืนเขาให้หมดภายในหนึ่งปีก่อนจะแยกจากกัน เรื่องดำเนินไปด้วยความครื้นเครง กระทั่งประพนธ์รู้ว่านายจอนคือพ่อของกันทิมา จึงพยายามหาทางพิชิตใจเธอ แต่ความก็ดันมาแตก กันทิมาน้อยใจคิดว่าประพนธ์วางแผนเพื่อให้ได้ตัวเธอ นายจอนจึงต้องเข้ามาช่วยประสานรอยร้าวให้ทั้งสองเข้าใจกัน ประพนธ์และกันทิมาจึงได้รักกันสมปรารถนา
สามชาติ เรื่อง นางนาคพระโขนงคืนชีพ (2499)
สามชาติ เรื่อง นางนาคพระโขนงคืนชีพ (2499/1956) 3 เรื่อง... 3 รส รวมอยู่ในภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน นางนาคพระโขนงคืนชีพ หวาดเสียว ตื่นเต้น สนุกสนานด้วยอภินิหารแบบใหม่ ระบำผี นาฏศิลปแบบใหม่ ของ... ดินแดนอาทิตย์อุทัย เทพธิดาดำ นิยายชีวิต รัก เศร้า เสทือนใจของเด็กสาวในมุมมืดแห่งนครปารีส (ที่มา: นิตยสารผดุงศิลป์ กรกฎาคม พ.ศ. 2499)
สามเกลอหักด่าน (2499)
สามเกลอหักด่าน (2499/1956) เรื่องราวความโกลาหลของ สมพงษ์ คนกวาดถนนที่ถึงคราวต้องไปรับใช้ชาติ สมพงษ์สังกัดอยู่ในกรมกองเดียวกับ ล้อต๊อก และ หมู่จุมพล อริเก่า และเพิ่งจะรู้ว่า ซูหยิน หญิงสาวที่เขาหลงรักเป็นน้องสาวของล้อต๊อก ส่วน สารภี คนรักของล้อต๊อกก็บังเอิญเป็นน้องสาวของสมพงษ์ ทั้งสามเกลอจึงลืมเรื่องบาดหมางในอดีตและปรองดองกัน ขณะนั้น ศัตรูประกาศรุกรานประเทศไทยทหารสามเกลอถูกส่งตัวไปทำหน้าที่พลลาดตระเวนสอดแนมข้าศึก ภายใต้ความรับผิดชอบของ ร.ต.อธึกระหว่างนั้น พลประสาน ปัทมเวณูได้หายตัวไป ทุกคนจึงออกตามหา สามเกลอซึ่งกำลังลอบเข้าไปค่ายข้าศึก แอบได้ยินแผนการโจมตีประเทศไทย และได้เห็นพลประสานกำลังถูกข้าศึกทรมานเสียชีวิต สามเกลอใช้ความพยายามขโมยแผนการโจมตีลับได้สำเร็จ ล้อต๊อกกลับไปแจ้งข่าวกับผู้บัญชาการ กองทัพไทยจึงยกทัพเข้าโจมตีจนเกิดการรบขึ้น ล้อต๊อกตรึงกำลังอยู่และได้เห็นว่าข้าศึกมีกำลังเยอะกว่า จึงยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อมายับยั้งการบุกโจมตีของกองทัพไทย เมื่อรวบรวมกำลังคนได้เท่าเทียมกับข้าศึก กองทัพไทยจึงเข้าต่อสู้อีกครั้ง พลทหารสมพงษ์ได้เสียสละชีวิตกระโดดเข้ารับลูกระเบิดเพื่อไม่ให้ผู้อื่นเป็นอันตราย ประเทศไทยจึงรอดพ้นจากการรุกรานของข้าศึกมาได้
Placeholder
เหยื่อกามเทพ (2498)
เหยื่อกามเทพ (2498/1955) พวงเพ็ญ ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ นายเพียน คหบดีผู้มั่งคั่งซึ่งกำลังลงสมัครผู้แทนราษฎร ถูกพ่อซึ่งเป็นคนหัวโบราณนำไปกักตัวไว้ในที่ห่างไกลผู้คน เพราะห่วงว่าลูกสาวจะตกเป็นทาสสังคมสมัยใหม่ แต่เมื่อถึงวัยกำลังอยากรู้อยากเห็น พวงเพ็ญจึงคบคิดกับพี่เลี้ยงปลอมตัวไปคลุกคลีกับชาวไร่ จนพบรักกับหนุ่มชาวไร่ซึ่งเข้าใจว่าพวงเพ็ญเป็นสาวใช้ และตกลงปลงใจปลูกเรือนอยู่ด้วยกันฉันท์สามีภรรยา นายเพียนได้รับเลือกให้เป็นผู้แทนราษฎร โดยความช่วยเหลือเป็นอย่างดีของเพื่อนเก่า จึงคิดตอบแทนบุญคุณเพื่อนด้วยการประกาศยกลูกสาวกลางงานเลี้ยงหนุ่มชาวไร่ซึ่งบังเอิญเข้ามาในงานเลี้ยงได้ยินเข้า คิดว่าพวงเพ็ญเห็นชาวไร่เป็นของเล่น มิหนำซ้ำคนในงานยังดูถูกเหยียดหยาม หนุ่มชาวไร่จึงประจานพวงเพ็ญด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ เป็นเหตุให้เกิดการทะเลาะวิวาทหนุ่มชาวไร่เอาชนะลูกผู้ดีได้ แล้วจากไปอย่างไม่แยแส พวงเพ็ญซึ่งไม่อยากแต่งงานกับคนแก่คราวพ่อ จึงประกาศต่อหน้าสาธารณชนว่าหนุ่มชาวไร่เป็นสามีของตน นายเพียนจึงใจอ่อนยกพวงเพ็ญให้หนุ่มชาวไร่ในที่สุด
โอเคสังข์ทอง (2497)
โอเคสังข์ทอง (2497/1954) ท้าวสามล เป็นกษัตริย์ ณ สามลพระนคร มีเอกอัครชายาชื่อ มณฑาเทวี มีพระราชธิดา 7 พระองค์ องค์สุดท้องชื่อ รจนา วันหนึ่งท้าวสามลและนางมณฑาเทวีใช้ให้ ขุนหมื่น ไปเชิญหน่อกษัตริย์ร้อยเอ็ดหัวเมืองมาชุมนุมให้ธิดาทั้งเจ็ดพระองค์เลือกเป็นคู่ครอง ธิดาทั้ง 6 เลือกหน่อกษัตริย์ที่ตนพึงใจ เว้นเสียแต่รจนาที่เลือกเอาเจ้าเงาะหน้าตาอัปลักษณ์เป็นคู่ แม้เสด็จพ่อเสด็จแม่จะห้ามปรามยังไงก็ไม่ฟัง รจนาและเจ้าเงาะครองสุขได้ไม่นานก็ถูกกลั่นแกล้งให้ไปหาปลา นายเงาะหรือพระสังข์ก็ไปหามาได้ซ้ำยังแกล้งตัดจมูกหกเขยเสียด้วย ต่อมานายเงาะก็ถูกเกณฑ์ให้ไปหาเนื้ออีกนายเงาะจึงแกล้งตัดหูหกเขย เวลาผ่านไปเจ้าเงาะไม่ยอมถอดรูปออกจึงร้อนไปถึงสวรรค์พระอินทร์ออกอุบายแปลงตนมาชิงเมืองท้าวสามล ท้าวสามลส่งใครไปรบก็แพ้ ส่ง 6 เขยไปต่อสู้ก็แพ้ มองไม่เห็นทางออกใดจึงจำยอมเชิญเจ้าเงาะมาช่วยรบ เจ้าเงาะยอมไปรบโดยถอดรูปเงาะและรบได้ชัยชนะกลับมา ขับไล่พระอินทร์เหาะขึ้นฟ้าไป เมื่อท้าวสามลและนางมณฑาเห็นเจ้าเงาะถอดรูปก็หลงใหล ยิ่งรู้ว่าเจ้าเงาะคือ พระสังข์ราชบุตรท้าวยศวิมลกับนางจันทร์เทวี ก็ยิ่งปลาบปลื้มยกสมบัติพัสถานให้สังข์ทอง
สาวสมัยใหม่ (2498)
สาวสมัยใหม่ (2498/1955) ดู! วิธีการหาผัวแบบใหม่ของสาวยุคปรมาณู ดู! บทบาทของเศรษฐีสมพงษ์รับจ้างไปติดสาว ดู! แล้วท่านจะต้องหัวเราะและร้องไห้สงสารเศรษฐีไม่มีจะกิน ดู! ดาวตลกแสดงเรื่องชีวิตแนวประหลาด (ที่มา: นิตยสารภาพยนตร์ กรกฎาคม พ.ศ. 2498)
สองเกลอเจอลอตเตอรี่ (2498)

สองเกลอเจอลอตเตอรี่ (2498/1955) ใหม่ยิ่งกว่า อาโตมิคบอม ! ภาพยนตร์ตลก แหวกแนว ใหม่เอี่ยม ของ ศิลปภาพยนตร์

สามเกลอแผลงฤทธิ์ (2497)
สามเกลอแผลงฤทธิ์ (2497/1954) หลังจากเกษียณราชการ ขุนรักษาพยายามคิดค้นยาชุบชีวิตคนตายให้กลายเป็นคนเป็นเพราะหวังจะร่ำรวยมีเงินทอง แต่ยังขาดตัวยาอยู่สองขนาน บังเอิญ เสน่ห์ แป๊ะ และ ฮะ มาติดพัน นารี ลูกสาวสุดที่รักของขุนรักษา แกจึงออกอุบายให้สามเกลอไปหาตัวยาวิเศษกับเจ้าทองคำที่เชียงใหม่ โดยสัญญาว่าจะยกลูกสาวให้ถ้าทำสำเร็จ สามเกลอไม่รอช้า มุ่งหน้าสู่เชียงใหม่ แม้เจ้าทองคำจะขายตัวยาให้ธนาคารที่ลำปางไปแล้วก็ตามไปซื้อจนสำเร็จ และเดินทางต่อไปยังปราสาทหินพิมายซึ่งเป็นจุดหมายของตัวยาขนานสุดท้าย เมื่อหาตัวยาได้ครบก็รีบเดินทางกลับมารับรางวัลที่กรุงเทพ โดยไม่รู้ตัวว่ากำลังถูก สมพล วายร้ายสะกดรอยตามหวังชิงยาวิเศษ ขุนรักษาลงมือปรุงยาทันควัน แล้วสั่งให้สามเกลอไปขุดศพ เสือโพล้ง ที่ป่าช้ามาทำการทดลองชุบชีวิตเสือโพล้งฟื้นคืนชีพมาอาละวาดบีบคอเสน่ห์แล้วจับตัวนารีไป สามเกลอรีบตามไปชิงตัวนารีคืน แล้วฉีดยาพิษใส่เสือโพล้งให้ตายดังเดิม ส่วนขุนรักษาที่รออยู่ที่บ้าน ถูกสมพลจับตัวไปขู่จะเอายาวิเศษ โชคดีที่ เฉย คนใช้ช่วยขุนรักษาไว้ได้ ขุนรักษากลับมาปรุงยาอีกครั้งและประสบผลสำเร็จ ทั้งนี้เป็นเพราะสามเกลอแผลงฤทธิ์นำพาความปรกติสุขกลับมา
แม่ศรีเรือน (2497)
แม่ศรีเรือน (2497/1954) เพราะทนถูกนายจ้างเอาเปรียบเรื่องเงินเดือนไม่ได้ โดม จึงตัดสินใจลาออกจากงานมาเป็นพ่อบ้าน ชไมพร ภรรยาที่ทำหน้าที่เป็นแม่บ้านจึงจำต้องออกไปหางานทำแทนสามี กระทั่งได้งานที่บริษัทสตรีไทยของ คุณนายแช่มช้อย บริษัทที่ออกกฎห้ามพนักงานหญิงมีสามี ชไมพรจึงต้องปิดบังเรื่องโดมไว้เป็นความลับ ความสามารถของชไมพรเป็นที่ปลาบปลื้มของคุณนายแช่มช้อย จึงพยายามจับคู่ชไมพรให้ ชวลิตลูกชาย ฟากโดมก็ได้รู้จักกับ วัทณีย์ ลูกสาวเจ้าของบ้านเช่าที่ตนอาศัยอยู่ ความรักระหว่างโดมกับชไมพรจึงส่อแววเข้าใจผิดเป็นเหตุให้เกิดเรื่องยุ่งๆ ตามมา กระทั่งความลับถูกเปิดเผย ในจังหวะเดียวกับที่ชวลิตและวัทณีย์ดันมาชอบกันโดยบังเอิญ ด้วยความเมตตาชไมพร คุณนายแช่มช้อยจึงยกเลิกกฎ และให้ชไมพรได้ทำงานต่อไป ฝ่ายโดมหลังจากว่างงานมานานก็ได้กลับมาทำงานอีกครั้ง ด้วยความช่วยเหลือจากวัทณีย์ เรื่องจึงจบลงด้วยความสุขสมหวังทุกประการ
เจ้าสาวชาวไร่ (2497)
เจ้าสาวชาวไร่ (2497/1954) ภาพยนตร์ประเภทตลกขบขัน แนวใหม่อีกเรื่องหนึ่งที่จะทำให้ท่านท้องคัดท้องแข็งตลอดเวลาที่นั่งชม (ที่มา: นิตยสารผดุงศิลป์ กรกฎาคม พ.ศ. 2497)
สามเกลอปราบวายร้าย (2497)
สามเกลอปราบวายร้าย (2497/1954) สามเกลอปราบวายร้าย เป็นภาพยนตร์ไทย ฟิล์ม 16 มม.ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2497
หนูจ๋า (2497)
หนูจ๋า (2497/1954) นิยายชีวิตที่ท่านจะหัวเราะและร้องไห้... เราพากภูมิใจที่เสนอท่านด้วย.. เรื่องที่ซาบซึ้งตรึงใจที่สุด พร้อมทั้งบทบาทที่ดีที่สุด.. ดู... บทบาทของ อรสา เด็กสาวสวยคนเดียวในเมืองไทย ที่ได้รับรางวัลถ้วยเกียรติยศจาก อัศวินภาพยนตร์ และสนั่นศิลป์ภาพยนตร์ ว่าแสดงบทบาทเย้ยดาราฝรั่งใน "ตุ๊กตาจ๋า" คอยดู..หนูจ๋า-หนูจ๋า (ที่มา: นิตยสารข่าวภาพยนตร์ เมษายน พ.ศ. 2497)
สามเกลอเจอผี (2496)
สามเกลอเจอผี (2496/1953) สามเกลอเจอผี เป็นภาพยนตร์ไทย ฟิล์ม 16 มม.ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2496 กำกับการแสดงโดย ดอกดิน กัญญามาลย์ ภาพยนตร์เรื่องนี้มีคำโปรยว่า ภาพยนตร์ตลก-แปลก และใหม่ที่สุด ไม่ซ้ำแบบใคร
จอมหิว (2496)
จอมหิว (2496/1953) เรื่องราวของสองพี่น้อง องอาจ ซึ่งเป็นพวกชอบคิดแต่ไม่ชอบทำ กับ อัศวิน ซึ่งเป็นจอมหิว ด้วยความระอาความไม่เอาไหนของลูกชายทั้งสอง นายอ้น ซึ่งเป็นพ่อจึงไล่ตะเพิดอัศวินกับองอาจออกจากบ้าน หลายวันผ่านไป องอาจกับอัศวินเร่ร่อนไปตามยถากรรมจนมาเจอเกวียนตกหล่ม อัศวิน จอมหิว ซึ่งมีนิสัยประหลาด คือเมื่อโมโหหิวจะมีพละกำลังมหาศาล จึงไปช่วยชาวบ้านยกเกวียน จึงได้อาหารเป็นการตอบแทน สองพี่น้องยังคงระหกระเหร่อนเร่หาวิธีประทังความหิวไปวันๆ แม้บางครั้งอับจนขนาดต้องกินหินแทนข้าว องอาจพยายามคิดหาวิธีต่างๆ เช่น ให้อัศวินปลอมตัวเป็นคนพิการขอทานประทังชีวิต แต่ความก็แตกทุกครั้งเพราะอัศวิน จนวันหนึ่ง ทั้งสองมาจนถึงสวนสัตว์และพบ จันทรา กำลังถูกนักเลงรังเก อัศวินซึ่งกำลังโมโหหิวจึงเข้าไปช่วย จันทราตอบแทนบุญคุณทั้งสองด้วยการให้กล้วยหอมซึ่งทีแรกกะจะนำมาให้ลิง วันต่อมา องอาจพาอัศวินมาสมัครเป็นนักมวย และต่อยชนะเพราะโมโหหิวนั่นเอง โชคชะตาพาให้สองพี่น้องได้พบกับจันทราอีกครั้งที่บาร์เหล้าซึ่งบิดาของจันทราเป็นเจ้าของ จันทราเล่าให้บิดาฟังว่าองอาจกับอัศวินเคยช่วยชีวิตจันทราไว้ บิดาของจันทราจึงรับทั้งสองเข้าทำงาน อัศวินใช้พลังให้เป็นประโยชน์ในการจัดการนักเลงซึ่งมาเบ่งกินฟรีที่บาร์ ส่วนองอาจก็ได้ใช้ความคิดพิชิตใจจันทรา
สามเกลอกระยาจก (2496)
สามเกลอกระยาจก (2496/1953) คอยชม! ภาพยนตร์ตลก ชั้นแนวหน้า ไม่ซ้ำแบบใคร