ครูไหวใจร้าย (2532/1989) ครูไหวเป็นคุณครูที่มีใจรักเด็กและอาสา มาอยู่โรงเรียนชนบท ในอำเภอสะเมิง ที่ไม่ค่อยมีความเจริญ ครูไหวสอนหนังสือที่นี่ ตั้งแต่สาวจนแก่ วันหนึ่งขณะที่ครูไหวลงโทษลูกศิษย์อยู่ เกิดไม่สบายอย่างมาก ลูกศิษย์คนนั้น ต้องไปตามจ่าช่วง จ่าช่วงและหมออารีย์ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของครูต้องนำครูไปที่ โรงพยาบาล หมออารีย์ตรวจร่างกาย ครูไหวรู้ว่าคุณครูป่วยหนักต้องผ่าตัด และนำตัวไปโรงพยาบาลที่กรุงเทพ โดยเรียกอาจารย์หมอกำแหงซึ่ง เป็นเพื่อนครูมาดูแลรักษาระหว่างที่ ครูไปรักษาตัวอยู่ชาวบ้านและลูกศิษย์ ต่างเป็นห่วงครูอย่างมาก สุดท้ายคุณครูหายดี กลับมาเห็นชาวบ้าน และลูกศิษย์คอยต้อนรับจึงทราบซึ้งใจ กับทุกคนและภูมิใจในความเป็นครู
น้ำเซาะทราย (2529)

เรื่องย่อ : น้ำเซาะทราย (2529/1986) ต่างคนต่างมีสิ่งประเสริฐที่สุดในโลก..อยู่ในใจ..ความรัก ความรักของเรา..เราแบ่งกันไม่ได้น้ำเซาะทราย (ยอมเสียผัวรัก...เพื่อศักดิ์ศรี)

เรื่องราวของ "ภีม" ชายหนุ่มที่มีภรรยาอย่าง "วรรณรี" อยู่แล้วแต่เมื่อ "พุดกรอง" เพื่อนสาวคนสนิทของภรรยาที่ภีมเคยรักมาก่อน ได้เข้ามาเกี่ยวข้อง ก่อให้เกิดความแตกแยกในครอบครัวของภีมอย่างรุนแรง

ภีม และ วรรณรี คู่รักที่ใช้ชีวิตอยู่กับลูกน้อยสองคนที่กำลังเติบใหญ่ จนเมื่อ พุดกรอง ม่ายสาวผู้เป็นเพื่อนรักของวรรณรีได้เข้ามาใกล้ชิดกับพวกเขา และเกิดมีสัมพันธ์กับภีม ครอบครัวที่เคยสงบสุขก็มีถึงคราวต้องแตกสลาย

ผีเสื้อและดอกไม้ (2528)

ผีเสื้อและดอกไม้ (2528/1985) ไฟว์สตาร์โปรดักชั่น โดยความร่วมมือของ สำนักงานส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ เสนอ ภาพยนตร์เสียงในฟิล์ม เพื่อร่วมฉลองปีเยาวชนสากลใต้สุดเขตประเทศไทย ยังมีความรัก การผจญภัยและความใฝ่ฝันของชีวิตเล็กๆ

ฮูยัน เด็กหนุ่มที่ตัดสินใจออกจากการเรียนเพื่อไปทำงานหารายได้ช่วยครอบครัว จนได้ไปเข้าร่วมขบวนการกองทัพมดของเด็กหนุ่มจำนวนมากที่ทำงานขนข้าวขึ้นรถไฟไปขายยังชายแดนมาเลเซีย เป็นผลให้เขาได้เรียนรู้ถึงเรื่องราวของชีวิตและมิตรภาพ

ฮูยัน เป็นเด็กมุสลิมเกิดในครอบครัวที่ฐานะยากจน มีพ่อเป็นกรรมกรรถไฟซึ่งกำลังจะตกงาน มีน้องๆอีก 2 คนในความดูแล ฮูยันต้องออกจากโรงเรียนเพราะไม่มีเงินจ่ายค่ากระดาษสอบทั้งที่เป็นเด็กที่เรียนเก่ง จากนั้นก็ต้องดิ้นรนหาเงินมาจุนเจือครอบครัวด้วยวิธีต่างๆ เริ่มแรกจากเดินขายไอติมก็ไปไม่รอด จนกระทั่งเข้าไปอยู่ในขบวนการกองทัพมดลอบขนข้าวสารข้ามประเทศ ในวัยที่เปรียบเสมือนดอกไม้แรกผลิ ฮูยันกลับต้องเผชิญภยันตรายเสี่ยงภัยต่างๆ ท่ามกลางความขัดแย้ง อาชญากรรมและควันปืนคุกรุ่นในชุมชนที่ยากจนซ้ำซาก

เขยใหม่ปึ๋งปั๋ง (2522)
เขยใหม่ปึ๋งปั๋ง (2522/1979) เรื่องราวของ "กิมธง แซ่เบ้" หนุ่มเชื้อสายจีนพูดไทยไม่ชัด ได้พบรักกับ "วรรัตน์" สาวสวยนักเรียนนอก แม้ทั้งคู่จะรักกันมาก แต่แม่ของวรรัตน์กลับรังเกียจลูกเขยคนจีนคนนี้มาก ทำให้เกิดศึกประทะคารมและประสาทระหว่างลูกเขยและแม่ยายเป็นประจำ ด้านแม่ของวรรัตน์ก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อทำลายความรักของคนทั้งสอง
น้ำค้างหยดเดียว (2521)

น้ำค้างหยดเดียว (2521/1978) ข้อความบนใบปิด บริษัทเอแพ็กซ์โปรดักชั่นจำกัด มิใช่เป็นเพียงภาพยนตร์ แต่มันเป็นชีวิต... “น้ำค้างหยดเดียว” สร้างสรรค์ “ความใหม่” เพื่อหนีความจำเจ นิจ อลิษา สุรเดช ชุ่มสิน ด.ช.กริช วงศ์ไทย นันทา ตันสัจจา อำนวยการสร้าง ชูชาติ โตประทีป ถ่ายภาพ สุชาติ วุฒิวิชัย กำกับการแสดง

 
วัยตกกระ (2521)
วัยตกกระ (2521/1978) ความสมบูรณ์พร้อมด้วยเกียรติและทรัพย์สินของครอบครัว ส่งผลให้ นิสา วัฒน์ และ เล็ก สามพี่น้องไม่ได้นึกถึงความกตัญญูต่อมารดาเลยแม้แต่น้อย ทั้งหมดต่างไม่ไยดีต่อแม่ผู้ให้กำเนิด และทำตัวหมางเมินจนเหมือนเป็นเพียงคนแก่ที่เดินผ่านไปผ่านมาภายในบ้าน วันหนึ่งหญิงชราก็มิอาจทนการถูกดูแคลนจากลูกบังเกิดเกล้าได้ จึงตัดสินหนีออกจากบ้านไปโดยไม่บอกกล่าว ความสมบูรณ์พร้อมด้วยเกียรติและทรัพย์สินของครอบครัว มิได้ทำให้ นิสา, วัฒน์ และ เล็ก สามพี่น้องได้คำนึงถึงความกตัญญูต่อมารดาเลยแม้แต่นิด นิสา เอาแต่เป็นสาวสังคมปล่อยให้สามีซึ่งเป็นคนรวยคอยว่าร้ายมารดาเธอ วัฒน์ซึ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ก็มีท่าทีจะคอรัปชั่นโดยไม่ใส่ใจคำสอนของมารดา ในขณะที่เล็กก็หลงผู้ชายจนโงหัวไม่ขึ้นไม่แยแสแม้กระทั่งคำตักเตือน ซ้ำยังเกรี้ยวกราดใส่มารดาหาว่าเข้ามายุ่งยากกับชีวิต ทั้งหลายทั้งปวงทำให้หญิงชราที่เคยให้กำเนิดเลี้ยงดูลูกรักทั้งสาม ถูกมองข้ามและถูกทอดทิ้งให้กลายเป็นคนแก่ที่เดินผ่านไปผ่านมาภายในบ้าน ดีที่ได้ทรงพลเด็กหนุ่มบ้านใกล้เรือนเคียงคอยเติมเต็มความรู้สึกที่ดีราวกับหลานรัก แต่กระนั้นนางก็มิอาจทนถูกดูแคลนจากลูกบังเกิดเกล้าจึงตัดสินหนีออกจากบ้านไปโดยไม่บอกกล่าว  เหตุนี้จึงทำให้ บุตรและธิดาทั้งสามกลับมาทบทวนตัวเองอีกครั้ง นิสาออกตามหามารดาอย่างสุดกำลัง วัฒน์ตัดสินใจเลิกสมคบกันคอรัปชั่นกับนายทุนอย่างเด็ดขาด ในขณะที่เล็กก็รู้ซึ้งถึงคำเตือนของมารดาเมื่อผู้ชายของเธอนั้นเป็นเพียงคนหลอกลวงที่ทิ้งเธอไป ทั้งสามออกตามหามารดาพร้อมด้วยการช่วยเหลือจากทรงพล เด็กหนุ่มซึ่งดูจะห่างเหินจากคนบ้านนี้แต่กลับกลายเป็นคนที่เข้าใจมารดาของคนบ้านหลังนี้ที่สุด กระทั่งได้มาพบกับมารดาที่บ้านพักคนชรา ทั้งสามจึงขออโหสิกรรมและวิงวอนให้มารดากลับไปอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง โดยสัญญาว่าเรื่องที่เคยผ่านมาจะไม่มีทางเกิดขึ้นต่อมารดาผู้เป็นที่รักยิ่งอีกแล้ว
7 ซุปเปอร์เปี๊ยก (2521)

7 ซุปเปอร์เปี๊ยก (2521/1978)สักกะ จารุจินดา จงใจสร้างเป็นของขวัญสำหรับเด็ก สุดสนุก ซึ้งซาบประทับใจ "เมตตา" จากนางอิจฉา กลายเป็น ซินเดอเรลล่า โรแมนติค เข้าท่า

ครูระบำพานักเรียนไปเข้าค่ายพักแรมที่หาดยาว ครูระบำปล่อยเด็กๆ ไปเดินเล่น ธงชัยและเพื่อนอีก 6 คน เดินเล่นและไปพบกับบ้านหลังหนึ่ง จึงแอบเข้าไปดูด้วยความซุกซน และได้รู้ว่าเป็นที่หลบซ่อนตัวของพวกโจรขโมยทอง ธงชัยและเพื่อนๆ ช่วยกันวางแผนจนสามารถนำทองกลับมามอบให้ตำรวจสำเร็จ

เมื่อโรงเรียนปิดเทอม ครูระบำ (เมตตา รุ่งรัตน์) กับครูโป้ง (ปัญญา นิ่มเจริญพงษ์) ก็พานักเรียนประมาณ 40 คนไปเที่ยวชายทะเลที่จังหวัดระยอง โดยไปตั้งแค้มป์พักกันเองเพราะต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ต่อมาเด็กกลุ่มหนึ่ง 7 คนซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่องก็พากันไปเที่ยวตกปลาหาหอยไกลจากที่พักและไปพบบ้านร้างหลังหนึ่งซึ่งสมัยก่อนเคยเป็นที่พักของทหารอเมริกัน มีป้ายปักหน้าบ้านว่า ห้ามเข้า ผีดุ เด็กๆ ก็เห็นว่าเป็นเรื่องตลกเพราะครูสอนว่า ผีไม่มีในโลก จึงจะพากันเข้าไปพิสูจน์ในบ้านหลังนั้น แต่ก็ถูกชายคนหนึ่งไล่ออกมาก่อน เด็กๆ ก็คิดกันว่า บ้านร้าง แต่มีคนเฝ้า มันต้องมีอะไรสักอย่างที่เป็นเรื่องไม่ดีเหมือนอย่างที่เคยเห็นในหนังทีวี จึงจะแอบเข้าไปดูให้รู้ความจริง แม้ว่าจะมีเด็กๆ บางคนคัดค้าน แต่สุดท้ายก็ตามไปด้วย

พอแอบเข้าไปในบ้านร้าง เด็กๆ ก็ได้ยินฝรั่งคนร้ายพูดถึงเรื่องการนำทองคำแท่งซึ่งปล้นมาจากธนาคารไปแลกกับอาวุธสงคราม ก็รีบไปบอกครูโป้ง แต่ครูโป้งกลับเตือนไม่ให้เข้าไปยุ่งกับที่นั่นเอง พอดีจ่าหงอยผ่านมาเยี่ยมแค้มป์ เด็กๆ ก็เล่าเรื่องให้จ่าหงอยฟัง จ่าหงอยฟังแล้วกลับคิดว่าเด็กๆ เล่าเรื่องจากหนังทีวีให้ฟัง ทำให้เด็กๆ ก็พากันน้อยใจที่ไม่มีใครเชื่อคำพูดตน จึงตกลงกันว่า จะต้องไปเอาทองคำแท่งมาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เด็กๆ อย่างเราพูดจริง จากนั้นก็พากันกลับไปที่บ้านร้างและลอบเข้าไปในห้องใต้ดินและก็นำทองคำแท่งมาใส่ไว้ในเสื้อของจุ๋มจิ๋มเด็กตัวอ้วนๆ แต่ขณะกำลังจะหนีออกมา คนร้ายก็รู้ตัวและจับจุ๋มจิ๋มไว้ เด็กๆ ก็รีบกลับไปบอกครูและตำรวจมาช่วยจุ๋มจิ๋ม คนร้ายรู้ว่า ความลับรั่วไหลและตำรวจกำลังจะมาจึงหลบหนีไป เด็กๆ ก็รอดปลอดภัยกลับมา

อุดมเด็กดี (2505)
อุดมเด็กดี (2505/1962) อุดม มั่นสุจริต เด็กยากจนแต่มีความขยันหมั่นเพียร มีมานะในการทำงานเพื่อเลี้ยงแม่และค่าเช่าที่ดิน ซึ่งหากไม่มีเงินมาจ่ายก็อาจจะเสียม้าที่ชื่อ เจ้าลอยลม มรดกที่พ่อทิ้งไว้ให้ การหาเงินเป็นเรื่องยากลำบากรวมถึงต้องพบกับอุปสรรค และชะลอ รักการค้า เพื่อนขี้เกียจที่ชวนอุดมให้เกียจคร้าน แต่ท้ายสุดด้วยความซื่อสัตย์และขยัน อุดมจึงช่วยแม่ จ่ายค่าเช่าที่ดิน และช่วยให้ชะลอให้หายหลังยาวได้สำเร็จ
แม่ศรีเรือน (2497)
แม่ศรีเรือน (2497/1954) เพราะทนถูกนายจ้างเอาเปรียบเรื่องเงินเดือนไม่ได้ โดม จึงตัดสินใจลาออกจากงานมาเป็นพ่อบ้าน ชไมพร ภรรยาที่ทำหน้าที่เป็นแม่บ้านจึงจำต้องออกไปหางานทำแทนสามี กระทั่งได้งานที่บริษัทสตรีไทยของ คุณนายแช่มช้อย บริษัทที่ออกกฎห้ามพนักงานหญิงมีสามี ชไมพรจึงต้องปิดบังเรื่องโดมไว้เป็นความลับ ความสามารถของชไมพรเป็นที่ปลาบปลื้มของคุณนายแช่มช้อย จึงพยายามจับคู่ชไมพรให้ ชวลิตลูกชาย ฟากโดมก็ได้รู้จักกับ วัทณีย์ ลูกสาวเจ้าของบ้านเช่าที่ตนอาศัยอยู่ ความรักระหว่างโดมกับชไมพรจึงส่อแววเข้าใจผิดเป็นเหตุให้เกิดเรื่องยุ่งๆ ตามมา กระทั่งความลับถูกเปิดเผย ในจังหวะเดียวกับที่ชวลิตและวัทณีย์ดันมาชอบกันโดยบังเอิญ ด้วยความเมตตาชไมพร คุณนายแช่มช้อยจึงยกเลิกกฎ และให้ชไมพรได้ทำงานต่อไป ฝ่ายโดมหลังจากว่างงานมานานก็ได้กลับมาทำงานอีกครั้ง ด้วยความช่วยเหลือจากวัทณีย์ เรื่องจึงจบลงด้วยความสุขสมหวังทุกประการ
พลายมลิวัลย์ (2496)
พลายมลิวัลย์ (2496/1953) ม.จ. สุริยา ผู้มีชาติตระกูลฐานะนักเรียนนอกมีความรู้ ผิดหวังชีวิตในการทำงาน ทําให้เป็นผู้ติดเหล้าขนาดหนัก จนกระทั่งหลงไปอยู่ในป่าไม้ศรีราชาโดยไม่มีใครรู้ว่าเป็นใคร ได้ทํางานเป็นควาญเลี้ยงช้างชื่อ "พลายมลิวัลลิ์" มีความผูกพันกันระหว่างคนกับสัตว์และสัตว์กับคน ในเวลา 2 ปีที่อยู่ในป่าไม้ มีตัวเชื่อมคือเหล้าเถื่อน กินทั้งคนและช้าง การหายไปของ ม.จ. สุริยา ที่มีบุตรชายกับภรรยา (อรพิน) ทําาให้คิดว่าเสียชีวิตไปแล้ว จึงได้แต่งงานใหม่ กับ ม.จ.วรวัฒน์ ภายหลัง 2 ปี ได้นําครอบครัวมาเยี่ยมเยียนดูแลธุรกิจของของครอบครัวที่ศรีราชา ทําให้ลูกชาย (จิ๋ว) และสุริยาได้พบกัน แต่พลายมลิวัลลิ์ที่มีความรักให้กับสุริยา เหมือนสัตว์รักคน เกิดรัก โลภ โกรธ หลง เหมือนปุถุชน จึงดันรถไฟจะให้ทับร่างจิ๋ว ลูกชายที่กําลังเดินทางกลับ พ่อเห็นจึงโดดให้รถไฟทับเพื่อช่วยลูกชาย
ตุ๊กตาจ๋า (2494)
ตุ๊กตาจ๋า (2494/1951) เฉลิม ชลกุล ญาติสนิทปฏิเสธการช่วยเหลือเรื่องเงินทอง อุดม ชายโฉดจึงลักพาตัวตุ๊กตา ลูกสาวของเฉลิมไป แต่อุดมไม่อยากมีภาระ จึงเอาตุ๊กตาไปฝากไว้กับ ละม้าย ญาติซึ่งไม่ชอบขี้หน้าเฉลิม โดยเสนอว่าจะส่งเงินให้ ละม้ายปฏิเสธการช่วยเหลือจึงถูกอุดมฆ่าปิดปาก โจ้ กับ ธร ซึ่งนั่งเลื่อยไม้อยู่แถวนั้น ได้ยินเสียงปืนดังลั่นก็รีบวิ่งไปดูที่มาของเสียง พบศพของละม้ายนอนตายอยู่กลางทาง และมีตุ๊กตานั่งอยู่ข้างๆ ศพโจ้กับธรจึงเก็บตุ๊กตามาเลี้ยงเพราะความสงสาร ด้วยความยากมีเงินทอง โจ้กับธรจึงต้องอาศัยการลักเล็กขโมยน้อยประทังชีวิต 10 ปีผ่านไป ตุ๊กตาเริ่มโตพอจะอ่านออกเขียนได้ ธรก็ใช้ความรู้เท่าที่มีสอนหนังสือให้ตุ๊กตา แล้วโชคชะตาก็พาให้ตุ๊กตาได้พบกับแม่ที่แท้จริง เมื่อธรเกิดไปถูกใจสาวสวยคนหนึ่ง แต่ถูกสาวเจ้าสาดน้ำใส่ อารามเสียหน้าจึงตั้งใจจะไปขโมยของในบ้านของสาวเจ้าเป็นการแก้เผ็ด แต่เมื่อเข้าไปในบ้าน ธรกลับได้เห็นรูปภาพของเด็กหญิงตุ๊กตาใส่กรอบรูปไว้เป็นอย่างดี จึงได้รู้ว่าตุ๊กตาเป็นลูกสาวของบ้านนั้นที่หายตัวไปพร้อม ๆ กับที่รู้ว่าสาวที่ตนแอบชอบนั้นตาบอด เป็นพี่สาวของตุ๊กตา ชื่อว่า ไพริน เมื่อธรแน่ใจจึงเล่าความจริงให้โจ้ฟัง และชวนกันไปทำความรู้จักกับครอบครัวของไพรินในวันต่อมามณี แม่ของไพรินได้เห็นตุ๊กตาก็ถึงกับตะลึงงัน จึงต้อนรับขับสู้แขกแปลกหน้าทั้งสามอย่างไม่มีทีท่ารังเกียจ แต่แล้ววันหนึ่ง อุดมก็มาปรากฏตัวที่บ้านของธรเพื่อข่มขู่จะเอาตัวตุ๊กตา แล้วไปเรียกค่าไถ่จากมณี ธรกับโจ้ปรึกษากันเห็นว่าไม่มีทางออกอื่นนอกจากต้องคืนตุ๊กตาให้ครอบครัวที่แท้จริงเพื่อความปลอดภัยของเด็กน้อย แม้ทั้งสองจะรักตุ๊กตาประดุจลูกในไส้ก็ตาม เมื่อถึงเวลาที่อุดมนัดหมายจะมารับตุ๊กตา ธรเอาตัวเข้าสู้และยิงอุดมเสียชีวิต แม้ตัวเองจะต้องตายไปด้วยก็ตาม