เหยื่ออารมณ์
เรื่องย่อ : เหยื่ออารมณ์ (2531/1988) รักของใคร ใครก็หวง รักร้าว ขอทวงหัวใจคืน
ภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดปัญหาความสัมพันธ์อันซับซ้อนของคนในครอบครัว เรื่องราวของ เทียนทอง หญิงม่ายผู้คบหากับ ทรงฤทธิ์ หนุ่มอายุรุ่นราวคราวลูก โดยที่ลูกทั้งสองของเธอต่างกลัวว่าเขาจะมาหลอกเอาเงินแม่ ในขณะที่อีกครอบครัวหนึ่ง ลพ นักธุรกิจผู้ยังไปมาหาสู่อดีตภรรยาและลูกสาว กำลังประสบปัญหาเมื่อลูกติดภรรยาคนปัจจุบันของเขาคอยตามหึงหวง
กษิต (ลิขิต เอกมงคล) หนุ่มนักธุรกิจได้เกิดทะเลาะกับ บุษยา (จารุณี สุขสวัสดิ์) ซึ่งเป็นภรรยาอย่างรุนแรงจนถึงขั้นขอหย่าขาดจากกัน โดยการยุแหย่ของแม่ยายคือ คุณนายนงนารถ (รุ่งกานดา เบญจมาภรณ์) ซึ่งเป็นแม่ของบุษยา เพราะกษิตผู้เป็นลูกเขยที่ไม่ยอมลงรอยให้กับแม่ยาย
ในขณะเดียวกัน อีกครอบครัวหนึ่ง คำรบ (สุเชาว์ พงษ์วิไล) ได้มาขอหย่ากับ คุณแววตา (ทัศนีย์ ลาวัลย์) ผู้เป็นภรรยา เพราะคํารบได้ไปติดพันกับสาวใหญ่คือ คุณนายเอมอร (มารศรี ณ บางช้าง) ซึ่งเป็นนักธุรกิจมีบริษัทกิจการค้ามากมาย และมีลูกสาวซึ่งเกิดจากสามีเก่าที่ตายไปแล้ว ชื่อ สุดาพิมพ์ (ปัทมา ปานทอง) แววตาซึ่งเป็นภรรยาของครบมีอาชีพเป็นครู ไม่อยากขัดสามีจึงยอมตกลงหย่าให้คํารบ และคํารบได้รู้เรื่องเดี๋ยวนั้นเองว่า แววตากําเนิดบุตรสาวให้เขาคนหนึ่งชื่อ ฤกษ์วดี (จอย จินดานุช) แต่เพื่ออนาคตที่ก้าวหน้าของตนเอง เขาจึงหักใจเป็นไปและจําเป็นต้องขอหย่ากับแววตา
เหตุการณ์ได้ผ่านพ้นมา 10 ปี กษิตได้เขยิบฐานะตนเองขึ้นมาเป็นผู้จัดการบริษัทใหญ่จนมีฐานะมั่นคง และได้ย้ายตัวเองเข้ามาอยู่บ้านแม่ คือคุณนายเทียนทอง (พิศมัย วิไลศักดิ์) กับ พราวตา (ดวงตา ตุงคะมณี) ซึ่งเป็นพี่สาวของกษิต แต่กษิตและพราวตา ก็ต้องช้ำใจ เมื่อคุณแม่ไปทําศัลยกรรมตกแต่งผ่าตัดหน้าและดึงหน้าให้เต่งตึงเป็นสาวขึ้น ไปคว้าเอาหนุ่มรุ่นลูกคือ ทรงฤทธิ์ (อภิชาติ หาลําเจียก) ซึ่งเป็นจิ้งจอกสังคมมาเป็นสามี
ดังนั้น เหตุการณ์ระหองระแหงระหว่างแม่ ลูกสาว ลูกชาย กับสามีคราวลูก จึงกระทบกระทั่งกันมาตลอด เพราะพราวตากับกษิต เป็นคนที่สังคมยอมรับอย่างมีหน้ามีตา แต่แม่ดันไปรักสามีคราวลูก เขาทั้งสองจึงต้องอับอายต่อสังคมอย่างรุนแรง
ส่วนทรงฤทธิ์เมื่อวางแผนได้เข้ามาอยู่ในบ้าน โดยไม่แคร์ต่อสายตาของกษิตและพราวตา เพราะมันเป็นข้อตกลงระหว่างเขากับคุณนายเทียนทองที่อนุญาตให้ออกเที่ยวได้ โดยไม่มีการห้าม และจากการออกเที่ยวบ่อยนี้เอง ทรงฤทธิ์ได้รู้จักกับบุษยาภรรยาเก่าของกษิต และได้เกิดหลงรักเข้าเต็มที่ ซึ่งบุษยาเองก็เริ่มชอบทรงฤทธิ์เหมือนกัน แต่การพบกันในครั้งนี้ หาได้รอดพ้นสายตาของพราวตาไม่
ดังนั้นพราวตาจึงนําเรื่องมาบอกคุณนายเทียนทองผู้เป็นแม่ แต่คุณนายเทียนทองไม่เชื่อ กลับเข้าข้างทรงฤทธิ์ หาว่าพราวตาจะยุให้แม่ทะเลาะกับทรงฤทธิ์ เพื่อตัวเองจะได้คว้าทรงฤทธิ์ไปเป็นตัวของตนเอง ทําให้พราวตาเสียใจ ที่แม่หลงรักผัวรุ่นคราวลูกที่ยังหนุ่มจนขึ้นสมอง
เธอจึงนําเรื่องนี้มาปรึกษากับกษิต เพื่อให้กษิตไปบอกบุษยาว่าทรงฤทธิ์เป็นสามีของแม่ เพื่อให้บุษยาเลิก ติดต่อกับทรงฤทธิ์ แต่บุษยาไม่ฟังกษิต เข้าใจไปว่า กษิตหึงหวงหล่อน ทําให้กษิตกลัดกลุ้มเป็นอันมากในเรื่องนี้
ส่วนคำรบได้พาเอมอรผู้เป็นภรรยา และสดาพิมพ์ลูกสาวคุณเอมอร มาเที่ยวศูนย์การค้า และได้เจอกับ แววตา ภรรยาเก่ากับฤกษ์วดีลูกสาวซึ่งได้เป็นสาวแล้ว ทําให้คำรบนึกถึงความรับผิดชอบที่จะต้องรับเลี้ยงดูฤกษ์วดีลูกสาวซึ่งงเป็นลูกสาวเขาเอง แต่ฤกษ์วดีเจ็บใจแทนแม่ที่พ่อทิ้งแม่ไป จึงไม่ยอมพูดกับคำรบทําให้คำรบเสียใจที่ลูกสาวทําตัวเหินห่าง และเอมอรก็ได้รู้จากปากของคำรบว่าแววตาคือภรรยาเก่าที่เลิกกันไปแล้ว
หลังจากนั้น คำรบก็ได้ใช้เวลาว่างมาหาแววตาและฤกษ์วดีที่บ้าน และได้อธิบายให้ฤกษ์วดีเข้าใจในเหตุผลจนฤกษ์วดีใจอ่อน ยอมเรียกคำรบว่า พ่อ ทําให้คำรบมีความสบายใจ ที่ลูกสาวเข้าใจในตัวเขา จึงพาออกไปทานข้าวนอกบ้าน และเหตุการณ์นี้เอง สุดาพิมพ์ซึ่งหลงรักครบฉันชู้สาวมิได้อย่างพ่อเลี้ยง ได้พบเข้าด้วยความหึงหวงตัวคำรบ จึงนําเรื่องนี้ไปฟ้องคุณเอมอรผู้เป็นแม่ เมื่อคำรบกลับมาจึงเกิดเป็นปากเป็นเสียงกับเอมอร ทําให้คำรบเกิดความไม่สบายใจ สุดาพิมพ์ได้โอกาส ซึ่งเข้าปลอบใจคำรบ และใช้มารยาหญิงเพื่อให้คำรบสนใจ แต่คำรบไม่เล่นด้วย เพราะเขารักสุดาพิมพ์อย่างลูกสาว ทําให้สุดาพิมพ์น้อยเนื้อต่ำใจ และกับความแค้นในใจยังมีอยู่ และได้เก็บเอาไว้ในใจ และในที่สุดได้สะสมเพิ่มขึ้นเป็นเพลิงริษยา
ฝ่าย ทรงฤทธิ์ เมื่อเริ่มติดพันกับบุษยามากขึ้น จึงเริ่มแผนขั้นต่อไป เพราะต้องการสร้างฐานะของตนเองขึ้นมา จึงขอทุนจากคุณนายเทียนทองตั้งบริษัทส่งของออกนอก คุณนายเทียนทองตกลง แต่ถูกกษิตและพวกพราวตาห้ามเอาไว้ เพราะกลัวทรงฤทธิ์จะหลอกเงินไปหมด และทรงฤทธิ์ ไม่ได้มีความจริงใจต่อคุณแม่่ ต่อเมื่อคุณแม่เงินหมดแล้วนั่นแหละ มันก็จะตีตัวออกห่างไป
แต่คุณนายเทียนทองไม่สนใจคําเตือนของลูก ๆ จึงเปิดบริษัทให้กับทรงฤทธิ์ และลงประกาศตามหนังสือพิมพ์ เป็นรูปคุณนายเทียนทองกําลังประคองทรงฤทธิ์อย่างสนิทสนม และเป็นผู้สนับสนุนเรื่องเงินทองให้กับทรงฤทธิ์ จากภาพนี้เองได้ไปปรากฎต่อสายตาของคุณนายนงนารถและบุษยา คุณนงนารถจึงเตือนบุษยาว่าให้เลิกคบกับทรงฤทธิ์เสีย เพราะเขาไปมีสัมพันธ์สวาทกับอดีตแม่ผัว คือแม่ของกษิตผัวเก่าของบุษยานั่นเอง
แต่บุษยาไม่เชื่อ เพราะคุณทรงฤทธิ์ เคยเล่าให้บุษยาฟังว่า คณนายเทียนทอง แค่ลงทุนให้เขา และเขาเป็นผู้บริหารงาน ไม่มีสัมพันธ์ทางชู้สาวกับคุณนายเทียนทอง ทําให้คุณนายนงนารถ หมั่นไส้ลูกสาวขึ้นมา เพราะกลัวจะไปเหมือนอดีต ที่ต้องแยกทางกับกษิตในครั้งนั้น
ส่วนกษิตได้มาขอร้องทรงฤทธิ์ให้เลิกติดต่อกับบุษยา เพราะจะทําให้คุณแม่ต้องช้ำใจ ถ้าอยากจะอยู่ในบ้านนี้ต่อไป ก็ควรจะทําตัวให้ซื่อตรงต่อคุณแม่ แต่ทรงฤทธิ์ไม่แคร์เพราะคุณนายเทียนทองมาหลงรักเขาเอง และเขาเที่ยวเตร่กับบุษยากเพื่อความสนุกสนาน ไม่ได้คิดจะรับเลี้ยงดูบุษยาอย่างจริงจัง ถ้าเผื่อเกิดสมพันธ์สวาทกันขึ้นมา
คำพูดขอทรงฤทธิ์นี้เอง ที่ทําให้กษิตถึงกับโมโห ที่ถูกเหยียดหยามกับผู้หญิงผู้เป็นแม่ และภรรยาเก่าของเขา แต่เขาก็ไม่สามารถทําอะไรทรงฤทธิ์ได้ เพราะกลัวคุณแม่จะเกิดความไม่สบายใจ เมื่อรู้ว่าเขาเกิดเรื่องกับทรงฤทธิ์ เพราะความเกรงใจนี่เอง จึงทําให้ทรงฤทธิ์เกิดผยองในตัวเองจนลืมตัว และเขาเองยังมีความคิดที่เลยยิ่งไปกว่าอีก เพราะพราวตาเป็นผู้หญิงสวยมีเสน่ห์ เขาจึงแอบหมายปองที่จะรวบพราวตามาเป็นเมียของเขาอีกคน แต่พราวตาก็รู้ทัน จึงด่าทรงฤทธิ์อย่างเสีย ๆ หาย ๆ หาว่าทรงฤทธิ์เป็นผู้ชายจําพวกต้นไม้หลายดอก เป็นแมงดาปีกทองที่เที่ยวเกาะตามชายกระโปรงผู้หญิง ทําตัวเป็นกะหรี่ชั้นต่ำ
คําด่าของพราวตาเหล่านี้ได้ถูกทรงฤทธิ์นําไปฟ้องคุณเทียนทองทําให้คุณเทียนทองโกรธพวกพราวตาจนเนื้อตัวสั่น ถึงกับด่าพวกพราวตาผู้เป็นลูกสาวอย่างรุนแรงจนพราวตาก็ตกตะลึง นึกไม่ถึงว่าคุณแม่จะหลงทรงฤทธิ์จนโงหัวไม่ขึ้น
ฝ่ายทรงฤทธิ์เมื่อก่อเรื่องให้ทั้งสองทะเลาะกันแล้ว ก็เลี่ยงตัวเองไปหาบุษยา และได้พากันไปเที่ยวพัทยาอย่างสนุกสนาน ทิ้งปัญหาวุ่นวายที่ตัวเองก่อขึ้นไว้ให้ครอบครัวคุณเทียนทองแก้กันเอง
ทางด้านคํารบได้ปรึกษากับคุณเอมอร ผู้เป็นภรรยาว่า เขาไม่อยากอยู่ใกล้ชิดกับสุดาพิมพ์มากเกินไป เพราะจะทําให้เกิดครหานินทาไปในทางไม่ดี แต่คุณเอมอรมีจิตใจที่ละเอียดอ่อนเป็นผู้ดีอย่างแท้จริง ขอร้องให้คำรบอย่าไปแคร์กับคําพูดของคนเหล่านั้น พยายามอยู่ใกล้ชิดกับสุดาพิมพ์บ่อย ๆ สุดาพิมพ์จะได้เกิดความอบอุ่น เพราะแกขาดพ่อมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นคํารบจึงจําเป็นต้องพาสุดาพิมพ์ออกเที่ยวด้วยกันสองต่อสองบ่อยๆ จากความใกล้ชิดกันมากขึ้นนี้เอง ได้ทําให้สุดาพิมพ์หลงเข้าใจผิด คิดว่าคํารบรักตัวเองอย่างชู้สาวจึงพยายามยั่วยวนทอดสะพานให้คำรบอยู่ตลอดเวลา จนคำรบก็เกือบจะขาดสติความยั้งคิด ถลําเสียตัวกับสุดาพิมพ์ หลายต่อหลายครั้ง
แต่เพราะความเป็นคนที่มีความคิดสูง ซื่อสัตย์ต่อคุณเอมอร เขาจึงรอดตัวมาได้ทุกครา ถึงกับไปอาละวาดฤกษ์วดีให้ไปให้พ้นตัวคำรบ เพราะคำรบไม่ต้องการตัวฤกษ์วดีต่อไปอีกแล้ว เพราะการพบกันของฤกษ์วดีกับคำรบ ทําให้ครอบครัวของเธอต้องทะเลาะกันอย่างรุนแรง
ดังนั้นฤกษ์วดี จึงพาหัวใจที่สลายไปพบแม่ และเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้แม่ฟัง คุณแววตาก็พอจะรู้ว่าสักวันหนึ่งจะต้องมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น จึงได้แต่ปลอบใจลูกสาว ส่วนคุณนายเทียนทองเริ่มระแคะระคายเรื่องทรงฤทธิ์กับบุษยาที่แอบเที่ยวกัน ดังนั้นเธอจึงมาบอกกษิตให้จัดการไปบอกบุษยาว่าอย่ามายุ่งกับทรงฤทธิ์ผัวของฉัน ไม่อย่างงั้นต้องมีเรื่องแน่...
เหตุการณ์จะเป็นยังไงต่อไป กษิตจะสามารถแยกบุษยาให้ห่างจากทรงฤทธิ์ผู้เป็นผัวของแม่ตัวเองได้หรือไม่ พราวตาจะตกเป็นเมียของทรงฤทธิ์ จิ้งจอกสังคมหรือเปล่า กษิตและบุษยา จะกลับมาคืนดีเหมือนเก่าหรือไม่ และปัญหาของสุดาพิมพ์และฤกษ์วดีลูกสาวในสายเลือดกับนอกสายเลือด จะลงเอยกันได้อย่างไร ในเมื่อทุกคนกําลังตกอยู่ใน เหยื่อ...อารมณ์
นักแสดงและทีมงาน
ลิขิต เอกมงคล
เปิ้ล จารุณี สุขสวัสดิ์
อภิชาติ หาลำเจียก
ตุ๊ก ดวงตา ตุงคะมณี
สุเชาว์ พงษ์วิไล
พิศมัย วิไลศักดิ์
แมว รุ้งกานดา เบญจมาภรณ์
มารศรี ณ บางช้าง
ยุพิน โฆษิต (ทัศนีย์ ลาวัลย์)
จอย จินดานุช
ข้อมูลเพิ่มเติม
ชื่อ : เหยื่ออารมณ์
Name : –
ผลิตโดย : สุขเมฆโปรดักชั่น
จัดจำหน่าย : –
นำแสดงโดย : ลิขิต เอกมงคล, จารุณี สุขสวัสดิ์
วันที่เข้าฉาย : 15 ตุลาคม 2531
*ที่มา :Thai Movie Posters
คุณต้อง เข้าสู่ระบบ จึงจะสามารถรีวิวได้
ยังไม่มีรีวิว