เดอะ เลตเตอร์ จดหมายรัก (The Letter)

เดอะ เลตเตอร์ จดหมายรัก (The Letter) (2547/2004) หนังรักที่ “ดวงกมล ลิ่มเจริญ” (โปรดิวเซอร์) ทุ่มเทหัวใจและถ่ายเทจิตวิญญาณตราบจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต โดยมี “นนทรีย์ นิมิบุตร” รับหน้าที่โปรดิวเซอร์อย่างเต็มตัวให้กับ “ผอูน จันทรศิริ” ผู้หญิงเก่งที่เป็นทั้งนักแสดง คนเขียนบท และผู้กำกับละครแถวหน้าของเมืองไทยรับหน้าที่ “กำกับภาพยนตร์เป็นครั้งแรก” กับภาพยนตร์ดราม่า-โรแมนติกที่มาพร้อมความประทับใจที่จะทำให้ทุกคนเข้าใจแก่นแท้และนิยามใน “ความรัก” ที่ไม่ได้เริ่มต้นหรือจบลงตรงที่เราได้ค้นพบและเติมเต็มแง่มุมความรักที่เฝ้าค้นหามาตลอดชีวิต แต่เป็นการทำความเข้าใจ “ความหมาย” และ “เรียนรู้วิธีที่จะรักษาคุณค่าของรักแท้ให้คงอยู่” ภายหลังจากคนที่เรารักจากไป พร้อมการตั้งคำถามกับทุกคู่รักว่า “นานเท่าไหร่แล้วที่เราไม่เคยหลั่งน้ำตาอย่างอิ่มเอมให้กับหนังรักดีๆ สักเรื่อง” และเป็นการประกบบทบาทกันครั้งแรกในชีวิตของ “แอน ทองประสม” และ “หนุ่ม-อรรถพร ธีมากร” 2 นักแสดงระดับแถวหน้าของเมืองไทย โดยเป็นการหวนคืนจอภาพยนตร์ครั้งแรกในรอบทศวรรษของ “แอน ทองประสม” หลังจากที่หลั่งน้ำตาถึง 4 ครั้งจากการอ่านบทภาพยนตร์ไป 4 รอบ และเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของ “หนุ่ม อรรถพร” โดยมีโลเคชันหลักคือ “ดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่” ที่ที่ความรักของคนทั้งคู่เริ่มต้นขึ้น ว่ากันว่ารักแท้ที่เป็นรักแรกและรักเดียวในชีวิตหากเกิดขึ้นกับใครสักคน แน่นอนว่ารักนั้นจะไม่เลือนหายไปจากใจ ตราบแม้คนที่เรารักจะไม่ได้อยู่เคียงข้างอีกต่อไปแล้วก็ตาม… สำหรับ “ดิว” (แอน ทองประสม) โปรแกรมเมอร์สาวในเมืองใหญ่ที่ชีวิตมีเพียงจอมอนิเตอร์คอมพิวเตอร์เขียนโปรแกรมของบริษัทเว็บไซต์ดึงเวลาส่วนใหญ่ในชีวิตไปเกือบหมด ยังดีที่มี “เกด” (สุพิชญา จุลวัฒฑะกะ) เพื่อนรักเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ จนกระทั่งจุดเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิตได้เกิดขึ้นกับดิวหลังจากได้รับจดหมายแจ้งข่าวการเสียชีวิตของยายเล็ก ญาติห่างๆ ที่ทิ้งบ้านหลังเล็กและไร่กระเทียมที่เชียงใหม่ไว้ให้ ที่นั่นเกดได้พบกับ “ต้น” (อรรถพร ธีมากร) นักวิจัยหนุ่มประจำสถานีเกษตรที่เชียงใหม่ที่ให้ความช่วยเหลือดิวและเกดที่ต้องพบกับอุบัติเหตุโดยไม่ได้ตั้งใจในระหว่างการเดินทางทำให้พลาดรถเที่ยวสุดท้ายที่จะกลับกรุงเทพฯ ทำให้เกดและดิวมีโอกาสได้แวะศูนย์วิจัยซึ่งเป็นที่ทำงานของต้น นอกจากความอบอุ่นและอ่อนโยนในตัวต้นที่ดิวสัมผัสได้ ดิวยังได้รู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาในชีวิตของชายหนุ่มที่แสนบอบบางคนนี้ไม่ได้ต่างอะไรไปกับเธอเลย “ต้นบ๊วย” สูงใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในพื้นที่ของศูนย์วิจัยเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเดียวที่ไม่ต่างจากญาติของต้น ทันทีที่ลืมตามองดูโลกได้ไม่นานเขาสูญเสียแม่ที่ให้กำเนิดหลังจากคลอดไม่นาน และสูญเสียพ่อที่รักไปอีกคน ต้นเรียนรู้การต้องเติบโตมาท่ามกลางความเหงาและโดดเดี่ยวอย่างคุ้นเคยมีเพียงรุ่นพี่ รุ่นน้อง และเพื่อนๆ ที่ศูนย์วิจัยเท่านั้น ความเรียบง่ายที่แสนอบอุ่นของดอยอ่างขางและเชียงใหม่ยังคงอยู่ในความรู้สึกในใจของดิว ถึงแม้ว่าตอนนี้ตนเองได้กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบและการแข่งขันสูงอีกครั้ง ในขณะที่ยังมีเกดเพื่อนรักที่ยังคงตื่นเต้นและวูบวาบใจไปกับการนัดพบชายหนุ่มที่แชตและติดต่อทางอินเทอร์เน็ตเหมือนอย่างเคย วันเวลาผ่านไปทั้งปีใหม่และวาเลนไทน์ แต่สิ่งพิเศษเล็กๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของดิวคือการได้มีเพื่อนใหม่อย่างต้นที่ติดต่อกันหลังจากที่กลับมาจากเชียงใหม่ในครั้งนั้น โดยมีโทรศัพท์เป็นสื่อกลางที่ทั้งคู่ได้บอกเล่าความเป็นไปที่เกิดขึ้นในกันและกัน จนกระทั่งดิวต้องพบกับเซอร์ไพรส์เมื่อได้พบกับต้นที่กรุงเทพฯ และความสูญเสียครั้งสำคัญในชีวิตเมื่อเกดเสียชีวิตจากการนัดบอดกับชายหนุ่มทางอินเทอร์เน็ต สิ่งที่เกิดขึ้นร้ายแรงเกินที่หัวใจอันบอบบางของดิวจะรับได้ในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยความแห้งแล้ง ดิวตัดสินใจเดินทางสู่เชียงใหม่เพื่อพบกับความอบอุ่นเดียวในชีวิตที่เหลืออยู่ ดูเหมือนว่าสิ่งที่ต้นและดิวต่างเฝ้าตามหามาตลอดชีวิตได้รับการเติมเต็มในกันและกันในที่สุด เมื่อพรหมลิขิตกำหนดให้คน 2 คนที่อาจจะอยู่ที่ใดก็ตามในโลกได้มาพบกัน รักกัน ชีวิตคู่ที่มีความสุขจนหลายคนนึกอิจฉา มันคือรักแท้ ที่เป็นทั้งรักแรกและรักเดียวในชีวิตของทั้งคู่ หลังจากที่แต่งงาน ต้นย้ายมาอยู่กับดิวในบ้านที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นในเรื่องราวและความรักของยายเล็ก ต้นได้พบกับข้าวของที่ถูกเก็บไว้ของยายเล็ก ในนั้นมีจดหมายที่บอกเรื่องราวในอดีตฉบับหนึ่ง ซึ่งถ่ายทอดความรู้สึกในรักที่มีอยู่อย่างเหลือล้นของชายคนหนึ่งที่มีต่อยายเล็ก ต้นประทับใจในข้อความและสิ่งที่ปรากฏอยู่ในจดหมายมาก จนมีความคิดว่าวันหนึ่งอยากจะเขียนจดหมายแบบนี้บ้าง ความรักมีความหมายและมีคุณค่าสำคัญที่เติมเต็มชีวิตให้กับหลายๆ คนรวมทั้งดิว แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างถูกกำหนดไว้และยากที่จะเปลี่ยนแปลง เหมือนการที่สวรรค์กำหนดให้ต้นมาพบกับดิว และพรากต้นไปจากดิว ไม่นานนักหลังจากที่ต้นเกิดไม่สบายอย่างหนัก จนในท้ายที่สุดพบว่าตนเองเป็นโรคร้าย และเหลือเวลาอยู่เพียงน้อยนิด เมื่อดิวต้องพบกับความสูญเสียครั้งร้ายแรงที่สุดในชีวิตคือสูญเสียต้นไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ ดูเหมือนหัวใจที่บอบช้ำของดิวมันอ่อนแอเกิดที่จะเยียวยาได้อีกครั้ง เมื่อเหลือดิวเพียงลำพังในโลกใบนี้ แต่แล้วบางสิ่งบางอย่างที่ดิวไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น การมาถึงของจดหมายด้วยลายมือที่คุ้นเคยจากคนเดียวในดวงใจ จากรักแรกและรักเดียว เป็น “จดหมายรัก” ที่ต้นเขียนถึงดิว…

นักแสดงและทีมงาน

เป็นคนแรกที่รีวิว “เดอะ เลตเตอร์ จดหมายรัก (The Letter)”

ยังไม่มีรีวิว