สมิงบ้านไร่

สมิงบ้านไร่ (2507/1964) ในละแวกตำบลบ้านไร่ คนที่ใหญ่ยิ่งด้วยอิทธิพลที่สุด มั่งมีที่สุด เหี้ยมโหดที่สุดและดุร้ายที่สุด สามารถคุมนักเลงฝีมือดีไว้ได้มากมายหลายคนคือ โมกขศักดิ์ ผาณิตเวส (พันคำ) โมกขศักดิ์มาสู่บ้านไร่อย่างไมมีอะไรเลย แต่ด้วยความสามารถในเชิงนักเลงและเล่ห์เหลี่ยมของเขา ในที่สุดเขาก็ได้ครองตำหน่งผู้จัดการโรงงานน้ำตาล ที่ใหญ่ที่สุดของตำบล ปรากฎว่าเมื่อโมกขศักดิ์ขึ้นครองตำหน่งอำนาจนั้น โรงงานน้ำตาลจนจะล้มอยู่แล้ว เพราะว่าไม่มีชาวไร่คนใดให้ความร่วมมือ ปลูกอ้อยส่งโรงงาน และพากันหันไปปลูกพืชอื่นกันเสียหมด โมกขศักดิ์ต้องใช้วิธีแก้สถานการณ์อันน่าวิตกนี้ ด้วยการแผ่อิทธิพล ปล่อยนักเลงอันธพาลในสังกัด ให้ออกไปบังคับกดขี้ให้ชาวไร่หันกลับมาร่วมมือปลูอกอ้อยส่งโรงงาน ชาวไร่ทนต่อความบีบคั้นไม่ได้ ก็จำต้องยอมและโรงงานก็เจริญรุ่งเรืองสืบมา ในจำนวนชาวไร่ของบ้านไร่ ที่ขัดขืนไม่ยอมปลูกอ้อยส่งโรงงานนั้นมี ที่สำคัญอยู่คนหนึ่งคือ สมิง บ้านไร่ (มิตร ชัยบัญชา) เด็กหนุ่มคนนี้มีไร่กว้างขวางมากมาย และได้พยายามจะสลงส้มในไร่แทนพีชอย่างอื่น จึงเป็นการขัดกับจุดประสงค์ของโมกขศักดิ์นักเลงใหญ่ อย่างรุนแรง โดยธรรมดาโมกขศักดิ์จะต้องใช้อิทธิพลเล่นงานสมิง ก็ฌพราะว่าประการแรก สมิงเป็นนักสู้อย่างไม่ยอมแพ้ใคร และมีฝีมือในการต่อสู้ ไม่ว่าด้วยหมัด ปืน หรืออาวุธใด ๆ ได้อย่างดียิ่ง อีกประการหนึ่งเป็นเรื่องที่มีเบื้องหลังอยู่อย่างสำคัญ โมกขศักดิ์พาลูกเมียมาอยู่ ที่บ้านไร่ได้หน่อยเดียว ภริยาที่แสนรักของเขาก็ตายจากไป คงทิ้งลูกสาวแสนสวย และดื้อไว้ให้ชมเพียงคนเดียวชื่อว่า สัตวา ผาณิตเวส หรือที่ใคร ๆ เรียกกันว่า นกเขียว (เพชรา เชาวราษฏร์) ธิดาสาวคนเดียว ที่เป็นดวงใจของโมกศักดิ์ ผู้พ่อคนในบ้านไร่รู้กันว่า นกเขียว ธิดาสาวคนเดียวนี้ คือดวงใจของโมกขศักดิ์ ผู้พ่อคนในบ้านไร่รู้กันว่า ไม่มีใครกล้าขัดใจหรือว่าสู้รบปรบมือกับโมกขศักดิ์ได้ นอกจากคนเดียวคือนกเขียว ธิดาของเขานั่นเอง และเป็นการบังเอิญอย่างยิ่ง ที่ในตำบลบ้านไร่นั้นไม่มีใครถูกกับนกเขียวเท่ากับสมิง ทั้งสองคบกันเป็นเพื่อนที่ดี จนเป็นที่สงสัยกันว่าสองหนุ่มสาวจะรักกัน ด้วยเหตุนี้เอง เป็นเหตุให้โฒกขศักดิ์ไม่กล้ารุกราน สมิงบ้านไร่ เพราะเก่งว่าหากสมิงต้องเป็นอะไร เพราะเขา มันอาจจะกลายเป็นการทำลายหัวใจของลกสาวที่เปรียบด้วยชีวิตของเขาเอาก็ได้ สองฝ่ายจึงได้คุมเชิงกันเรื่อยมา วันหนึ่ง มีชายฉกรรจ์คนหนึ่งเดินผ่านมาที่บ้านไร่ และได้เข้าไปหาอะไรดื่มที่ในร้ายอาหรของน้ำผึ้ง (บุศรา นฤมิตร) หญิงสาวเจ้าของร้านที่สวยอย่างยิ่งอีกคนหนึ่ง ชายคนนั้นชื่อว่า สมัย บ้านดอน (ประจวบ ฤกษ์ยามดี) ได้เกิดเรื่องกับ เดช ไช และทองก้อนสมุนเอกง 3 นายของโมกขศักดิ์ ในร้านของน้ำผึ้ง เพราะน้ำผึ้งเป็นต้นเหตุ ในตอนแรกสมัยใช้ขวานขว้างขู่ให้นักเลงสามคนนั้นกลัว แต่พอเผลอก็ถูกรุมจากนักเลงสามคนนั้น บังเอิญสมิง บ้านไร่ มาพบเข้า และได้ช่วยเหลือสมัยไว้ทันท่งทีก่อนที่จะถูกรุมถึงตายสมัย - นักพนเจรก็ตกลงใจอยู่ที่บ้านไร่กับสมิงเพื่อช่วยสมิงทำสงครามล้างอิทธิพลโมกขศักดิ์ต่อไป ระหว่างที่พักอยู่กับสมิงที่บ้านไร่นั้น สมัยไออกเดินทางไดบริเวณไร่อันกว่างขวางของสมิงและที่ชายไร่ เขาได้พบกับหญิงงามอีกคนหนึ่งชื่อว่า ทองกร (อัมพิกา ดาราวรรณ) ขณะที่เธอกำลังเปลือยกายว่ายน้ำเล่นอยู่ในลำธารพอดี สมัยได้พยายาถามชื่อจนได้ความ และทั้งสองก็รู้สึกขอบพอกันตั้งแต่นั้นมา ต่อมาอีกวันหนึ่งสมัยได้ไปดื่มเหล้าอยู่ที่ร้านของน้ำผึ้ง นกเขียว ลูกสาวของโมกขศักดิ์ได้มาหาน้ำผึ้งซื้อแป้งสักอับหนึ่ง และได้มาพบสมัยที่กำลังเมาอย่างหนัก สมัยึงได้เอ่ยปากกับเขียวด้วยถ้อยคำที่สนุกสนานต่าง ๆ นา ๆ นกเขียวโกรธ จึงรีบกลับเข้าบ้าน นกเขียวพบแม่วอน (วิไลวรรณ วัฒนพานิช) แม่บ้านและอยู่ในฐานะที่เป็นภรรยาและฐานะ มารดาเลี้ยง ของนกเขียว เธออาละวาดแม่วอนเสียจนร้องไห้ แม่วอนก็ไม่เคยว่าอะไร เพราะเธอรักนกเขียวเหมือนลูกในไส้ของเธอ โมกขศักดิ์ทราบเรื่อง จึงบอกให้เดชไช และทองก้อนออกไปเล่นงานคนที่ก้าวร้าวกับนกเขียว แต่เมื่อไปถึงสมัยได้กลับไปไร่แล้ว มีแต่ชายแปลกหน้าคนหนึ่งนั่งอยู่ เขามีชื่อว่า สมาน บ้านนา (อดุลย์ ดุลยรัตน์) มีฝีมือในทางยิ่งปืนอย่างมาก ทั้งสองปะทะกันเพราะความเข้าใจผิด สมัยกลับมาที่ร้านเห็นก็เข้าช่วยสมาน ทั้งสองสาบานเป็นเพื่อนกัน นกเขียวนั้นรักสมิงอย่างจับใจ หากแต่ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามรรถบอกความในใจแก่กันได้ เพราะความขัดแย้งระหว่างโมกขศักดิ์กับสมิง มันมีมากเกินกว่าจะประณีประณอมได้ นกเขียวพยายามเป็นสือกลางแต่ไม่สำเร็จ สมิงได้พรรคพวกมาสมทบมากขึ้น นกเขียวแอบไปพบสมิง โมกขศักดิ์โกรธมากสั่งให้ลูกน้องพานกเขียวไปกักขังไว้ที่บ้านพักในป่า โดยมีแม่วอนไปคอยดูแล สมิงกลุ้มใจที่นกเขียวถูกนำตัวไปกักขัง ทำให้สมิงประกาศจะล้างอิทธิพลของโมกขศักดิ์ แล้วสมิงก็ได้เจอกับสมร บ้านด่าน (ฤทธิ์ นฤบาล) นักมวยพเนจร สมิงได้เพื่อนร่วมล้างอิทธิพลโมกขศักดิ์ 3 คน มี สมัย บ้านดอน สมร บ้านด่าน สมาน บ้านนาและเขาสมิง บ้านไร่ ศึกการล้างอิทธิพลจึงเริ่มขึ้น สุดท้ายโมกขศักดิ์ก็ถูกล้มอำนาจลงได้ โมกขศักดิ์ได้ชดใช้กรรมที่ตนเองกระทำ นกเขียวกลับมาอยู่ในอ้อมกอดของสมิง บ้านไร่ อย่างเต็มใจ

นักแสดงและทีมงาน

ข้อมูลเพิ่มเติม

ชื่อ : สมิงบ้านไร่
Name :
วันที่เข้าฉาย : 13 มีนาคม 2507 (ฉายที่โรงภาพยนตร์คาเธ่ย์)
เป็นคนแรกที่รีวิว “สมิงบ้านไร่”

ยังไม่มีรีวิว

สมิงบ้านไร่ (2507)