พยัคฆ์ยี่เก
พยัคฆ์ยี่เก (2526/1983) เรื่องยุ่งๆ ในโรงลิเกคณะลุงพรหม เมื่อต้องเข้าไปพัวพันกับการขโมยเพชรครั้งใหญ่ เมื่อมีคนแอบเอาเพชรที่ขโมยมาเอามาแอบซ่อนที่คณะลิเก ทำให้ผู้ใหญ่เปียงเจ้าพ่อทรงอิทธิพลเจ้าของเพชรตามมาถล่มโรงลิเกเพื่อเอาเพชรคืน ฝั่งตัวการขโมยเพชรก็ดันจับเอานางเอกประจำคณะไปเพื่อจะรีดเอาเพชรคืน ร้อนถึงเหล่าคณะลิเกต้องออกตามไปช่วยทั้งชุดลิเก ที่โรงลิเกคณะลุงพรหม (ส.อาสนจินดา) ซึ่งมีทวนทอง สะท้านพรหม (สรพงศ์ ชาตรี) พระเอกเนื้อหอมกำลังร่ายรำต่อหน้าเหล่าแม่ยก แต่ผู้ใหญ่เปียง (มานพ อัศวเทพ) ก็ยิงปืนขึ้นไปบนโรงลิเกเพราะหมั่นไส้ที่ แสงดี (เปียทิพย์ คุ้มวงศ์) เมียน้อยตนไปติดพันทวนทอง จากนั้นผู้ใหญ่เปียงก็สั่งให้สมุนคอยตามรังควานคณะลิเกจนเกิดเรื่องชกต่อยกัน ทวนทองหนีไปพบรถจิ๊ปของเริงรณ (เดวิด เจียง) จอดอยู่จึงขโมยขับไป แต่ต่อมาเริงรณซึ่งแท้จริงเป็นพี่ชายของไพลิน (ม.ล.สุรีย์วัล สุริยง) ก็ตามไปจนพบรถจอดอยู่ที่โรงลิเกและได้พบรักกับบัวชมพู (ชลิดา เสาวดี) นางเอกคณะลิเก ต่อมาเพชรซึ่งผู้ใหญ่เปียงให้นำไปแลกกับสินค้าเถื่อนถูกเฉียบ (โสธร รุ่งเรือง) คนของท่านขุนขโมยเอาไว้ ผู้ใหญ่เปียงจึงออกตามล่าเฉียบ แต่เฉียบก็แอบเอาเพชรซุกไว้กับลุงพรหมที่โรงลิเกก่อนที่เฉียบจะถูกเฉินฟู่ซาน (ฉีเส้าเฉียน) คนของท่านขุนฆ่าปิดปาก ผู้ใหญ่เปียงสั่งเผาโรงลิเกเพื่อหาเพชร ลุงพรหมจึงเอาเพชรออกมาขายผ่านหมอทองดี (ชาลี อินทรวิจิตร) โดยไม่รู้ว่า แท้จริงหมอทองดีก็คือ ท่านขุนเจ้าของเพชรนั่นเอง และแล้วในวันเปิดโรงลิเกใหม่ ท่านคุณก็จับตัวบัวชมพูไปเพื่อรีดเอาเพชรคืน ทำให้ทวนทอง เริงรณ ไพลินและชาวคณะต้องตามไปช่วยบัวชมพูทั้งๆ ที่ยังใส่ชุดลิเก
นักแสดงและทีมงาน
เอก สรพงศ์ ชาตรี
ฉีเส้าเฉียน
เดวิด เจียง
ม.ล.สุรีวัลย์ สุริยง
แอม ชลิดา เสาวดี
สมชาย อาสนจินดา (ส. อาสนจินดา)
ชาลี อินทรวิจิตร
มานพ อัศวเทพ
น้อย โสธรณ์ รุ่งเรือง
กํากับการแสดง
คมน์ อรรฆเดช
นักเขียน
ชาติ อินทรีย์
อำนวยการสร้าง
พรพิมล มั่นฤทัย
คุณต้อง เข้าสู่ระบบ จึงจะสามารถรีวิวได้
ยังไม่มีรีวิว