รัก-ยม (2512)
รัก-ยม (2512/1969) ณ หมู่บ้านสะแกลาย สีดา (จุฑารัตน์ จินรัตน์) อดีตนางเอกละครชื่อดัง อาศัยอยู่กับลูกสาวชื่อแสงดาว (เพชรา เชาวราษฏร์) ที่สนใจอยากเป็นศิลปินนักแสดงอย่างแม่สีดา แสงดาวรบเร้าแม่ให้ช่วยสนันสนุนแต่สีดาทัดทาน สีดามี รัก-ยม คอยช่วยเหลือตลอดมา แต่ต่อมาสีดาผิดคำสาบานที่ให้ไว้กับรัก-ยม สีดาจึงตกต่ำและยากจนลง คืนวันหนึ่งแสงดาวได้อธิษฐานต่อ รัก-ยม ให้รัก-ยมช่วยเหลือเธอ แล้วได้นำเอา รัก-ยม ติดตัวหนีออกจากบ้านมุ่งเข้ากรุงเทพฯ ที่สำนักงานสร้างภาพยนตร์ในกรุงเทพฯ จักรา ((มิตร ชัยบัญชา)) ผู้อำนวยการสร้างหนุ่ม ที่กำลังต้องการหานางเอกใหม่ เพราะวงเดือน (ศศิธร เพชรรุ่ง) นางเอกดาวรุ่งแม้มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่จักราเห็นว่าวงเดือน แสดงภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเขาได้ไม่ถึงบทบาท วันหนึ่ง แสงดาวเดินไปด้วยความหิวโหย ประกอบกับความร้อน ทำให้เธอเป็นลมล้มฟุบลงหน้าบ้านหลวงวิเศษสรรพการ (วงศ์ ศรีสวัสดิ์) คนทำสวนได้ช่วยจนฟื้น สอบถามจนได้ความ บังเกิดความสงสารจึงพาเข้าไปกินข้าวที่เรือนครัวในบ้านหลวงวิเศษ แสงดาวกับรัก-ยม จึงช่วยกันกินข้าวปลาจนหมด ทั้งครัว คุณนายละออ (ศรินทิพย์ ศิริวรรณ) ภรรยาหลวงวิเศษ มาพบ จึงสอบถาม คุณนายละออเห็นใจจึงรับไว้ แสงดาวได้ขอให้วงเดือนลูกสาวหลวงวิเศษฯที่เป็นดาราช่วยสนับสนุนเธอ แต่สิ่งที่ได้รับคือเสียงหัวเราะ เยาะเย้ย ด้วยความสวยของแสดงดาว ทำให้วงเดือนอิจฉาคิดกับคุณนายละออทรมานแสงดาวให้ทำงานหนัก แต่แสดงดาวก็อดทน เพราะได้ รัก-ยมช่วย ต่อมา เชนย์ ((อดุลย์ ดุลยรัตน์)) พระเอกเนื้อหอมได้มาบ้านหลวงวิเศษฯ พบแสงดาว ความสวยและมีแววของดาว เชนย์จึงเอ่ยปากชวนแสดง แสงดาวดีใจ วงเดือนรู้ก็เกิดความริษยา วงเดือนไล่แสงดาวออกจากบ้าน ราชสีห์ได้ขับรถชนแสงดาว ราชสีห์นำแสงดาวไปโรงพยาบาล หลังฟ้นราชสีห์แมวมองของจักราได้นำความไปบอกจักรา ผู้อำนวยการสร้าง จักราได้เห็นดีใจสั่งให้ทำการฝึกซ้อมบทบาทให้กับแสงดาว แสงดาวอธิษฐานให้ รัก-ยมช่วย ผลภาพยนตร์เรื่องแรกที่เธอแสดงได้รับการต้อนรับ หลังเป็นดาราแสดงดาวอยู่สุขสบาย ในทางส่วนตัวจักราผู้อำนวยการสร้างหน่มกับแสงดาวนั้นมีใจให้แก่กัน แสดงดาวลืมตัว รัก-ผม เห็นว่าเป็ฯการกระทำผิดคำมั่นสัญญา จึงลงโทษแสงดาวให้ตกต่ำลง สุดท้านงานแสดงของแสงดาวหยุดชะงัก แสงดาวต้องกลับมาอยู่กับสีดา ขณะที่ราชสีห์ ได้บอกคุณหลวงว่าแสงดาวเป็นลูกของสีดา อดีตภรรยาคุณหลวง คุณหลวงจึงรู้ว่าแสงดาวคือลูก คุณหลวงไปพร้อมกับจักรา ไปพบกับสีดา และแสงดาว แล้วทุกคนก็ปรับความเข้าใจกัน อยู่กินกันอย่างมีความสุข
เกาะสวาท หาดสวรรค์ (2512)
เกาะสวาท หาดสวรรค์ (2512/1969) เกาะสวาท หาดสวรรค์ เป็นภาพยนตร์สีอิสต์แมน 35 มม.ซูเปอร์ซีเนสโคป ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2512 พากย์เสียงในฟิล์ม สร้างโดย ละโว้ภาพยนตร์ โดยมี หม่อมอุบล ยุคล ณ อยุธยา เป็นผู้อำนวยการสร้าง อำนวยการแสดงโดย พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรณ์มงคลการ ภาพยนตร์เรื่องนี้มีภาคต่อคือภาพยนตร์เรื่อง วิวาห์พาฝัน (2514)
ลมเหนือ (2512)
ลมเหนือ (2512/1969) ข้อความบนใบปิด กัญญามาลย์ภาพยนตร์ บริษัทสร้างภาพยนตร์มาตรฐานของเมืองไทย ดอกดิน ศิลปินของท่าน สร้างเสนอ ภาพยนตร์ชีวิตรักแนวประหลาด... เปิดศักราชปี 2512 ด้วยความสนุก.. ลมเหนือ จากเค้าโครงเรื่อง ทนอีกนิดเถอะน่า ของ พ.ต.ต.ประชา พูนวิวัฒน์ นำโดย (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) (อดุลย์ ดุลยรัตน์), (ชฎาพร วชิรปราณี), (เมตตา รุ่งรัตน์), (แมน ธีระพล), พัลลภ พรพิษณุ, ธัญญา ธัญญารักษ์, ชาย, อุไรวรรณ จันทร์ทิพย์, ปักกิ่ง, น้อย, จุมพล และ อรสา ตัวขาวๆ ดอกดิน ตัวดำๆ คณะแก้วฟ้า จัดแสดงละครวิทยุ เป็นเรื่องสนุกประเดิมต้นปี..มีทั้งบู๊ ผจญภัย รัก เศร้า สะเทือนใจ ตลกฮาแสบไส้.. ฉายต้อนรับโปรแกรมตรุษจีน ที่คาเธ่ย์ ฟัง 4 เพลงเอกในระบบ 35 ม.ม.เสียงในฟิล์ม ฉากพิสดาร.. บรรจง กัญญามาลย์ อำนวยการสร้าง สมาน ทองทรัพย์สิน ถ่ายภาพ ดอกดิน กัญญามาลย์ กำกับการแสดง กัญญามาลย์ภาพยนตร์ จัดจำหน่าย ทั่วประเทศไทย
คฤหาสน์รัก (2512)

คฤหาสน์รัก (2512/1969) ลือชัย-เพชรา ข้อความบนใบปิด โชติมาภาพยนตร์ เสนอภาพยนตร์ ใหม่-แปลก-รัก-หฤหรรษ์-ตื่นเต้น เลือกเฟ้นให้เป็นเรื่องเยี่ยม ไม่เหมือนใคร..ใน... คฤหาสน์รัก จากบทประพันธ์ ของ สองชัย (ลือชัย นฤนาท) พบ (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) ศศิธร เพชรรุ่ง ร่วมด้วย (ปรียา รุ่งเรือง), ถวัลย์ คีรีว้ต, (เทียว ธารา), หยาดรุ้ง ระพี, ทูล ทองใจ, ประณีต คุ้มเดช, บู๊ วิบูลย์นันท์, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ขุนแผน ภุมรักษ์, ถนอม นวลอนันต์ และ ฯลฯ ประกอบ แก้วประเสริฐ กำกับการแสดง ศานิต รุจิรัตน์ตระกูล ถ่ายภาพ เครือมาศ สร้อยคีรี อำนวยการสร้าง มานพ น้อยวิจารณ์ สร้างบท

 
เจ้าแพร (2512)

เจ้าแพร (2512/1969) ข้อความบนใบปิด “วรเวสฟิล์ม” ภูมิใจเสนอ ยอดภาพยนตร์ที่กล่าวขวัญกันว่าชื่นที่สุด! จากบทบาทยิ่งใหญ่ไม่มีในเรื่องไหน! เจ้าแพร จากนิยายของ พจนารถ เกศจินดา (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) พบ (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์) พบ เนาวรัตน์ วัชรา พร้อมด้วย (เมตตา รุ่งรัตน์), (อดุลย์ ดุลยรัตน์), (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), ฤทธี นฤบาล, (บุษกร สาครรัตน์), (ชุมพร เทพพิทักษ์), อภิญญา วีระขจร, กรองทอง, มาลี เวชประเสริฐ, (รุจน์ รณภพ), (ทานทัต วิภาตะโยธิน), สุระ นานา, บู๊ วิบูลย์นันท์, จรุญ สินธุเศรษฐ์, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), (หม่อมชั้น พวงวัน) “เนรมิต” กำกับการแสดง พร้อม รุ่งรังษี สร้างบทภาพยนตร์ อนันต์ อินลออ ถ่ายภาพ สมพร มคธเพศ อำนวยการสร้าง เสรีภาพยนตร์ จัดจำหน่าย

 
ภูตแห่งความรัก (2512)
ภูตแห่งความรัก (2512/1969) ข้อความบนใบปิด กรุงเกษมภาพยนตร์ ผู้สร้าง แว่วเสียงยูงทอง-น้ำค้าง-มือนาง-จันทร์เจ้า-โนรี-ที่รักจ๋า ภูตแห่งความรัก จากบทประพันธ์ของ ชุติมา สุวรรณรัต (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์) (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), จุฑารัตน์ จินรัตน์, ศรีสละ ทองธารา, โขน หมอผี, (ทานทัต วิภาตะโยธิน), โกร่ง กางเกงแดง, เถร ทรนง, ปราณีต คุ้มเดช, ชื้นแฉะ, ผาสุข, ทองถม, อุดม สุนทรจามร และ ด.ญ.ชลธิชา สุวรรณรัต แสดงนำ... ชุติมา สุวรรณรัต กำกับการแสดง เฉลิม บุตรบุรุษ ถ่ายภาพ ทวีวรรณ สร้างบท ชุดา เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา อำนวยการสร้าง เสรีภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
แสงเดือน (2512)
แสงเดือน (2512/1969) ข้อความบนใบปิด กรนิมิตภาพยนตร์ โชว์ผลงานพิเศษสุด สามยอดดาราเอกพบกันเป็นครั้งสุดท้าย คนหนุ่มหัวสมัยใหม่ ร่วมน้ำใจสร้างสรรค์ให้เป็นภาพยนตร์เหนือชั้น.. จากเรื่องที่คัดแล้วว่ายอดเยี่ยม ลือลั่นทั่วเมือง ลือเลื่องทั่วกรุง ขอเชิญท่าน ชื่นสุข สนุกใจ ไปกับ... แสงเดือน บทประพันธ์ของ พจนาถ เกศจินดา นำโดย 3 ดาราเอก (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์) พบ สุทิศา พัฒนุช ขอแนะนำพระเอกบัณฑิตจากญี่ปุ่น สายัณห์ พันธุ์ไพศาล และดาวรุ่งดวงใหม่ พุทธชาติ รัตนา ร่วมด้วย (อดุลย์ ดุลยรัตน์), ศศิธร เพชรรุ่ง, เยาวลักษณ์, (รุจน์ รณภพ), อนุชา รัตนมาลย์, (ชุมพร เทพพิทักษ์), มารศรี อิศรางกูร, เชาว์ แคล่วคล่อง, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ปราณีต คุ้มเดช, ก๊กเฮง, ด.ญ.น้อยหน่า, ด.ช.ปรีชา เกิดกำแพง พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ, อุทธรณ์ พลกุล, วิมล พลกุล, สุรัฐ พุกกะเวส ให้เกียรติคัดเลือกบทประพันธ์, ดาราแสดงนำ, และผู้กำกับการแสดง ชาย นิมิตโชตินัย อำนวยการสร้าง วินิจ ภักดีวิจิตร สร้างบทภาพยนตร์ สันทัด ศรีสัมพันธ์ ถ่ายภาพ (รุจน์ รณภพ) กำกับการแสดง
ทางชีวิต (2512/1969) ภูษิต-วราภรณ์ ข้อความบนใบปิด เทพนมภาพยนตร์ เสนอ... ภาพยนตร์ไทย ชีวิต/รัก/บู๊ ต่อสู้ ของลูกผู้ชาย ตลก/เศร้า/เคล้าคติ ทางชีวิต ในระบบ 35 ม.ม. เสียงในฟิล์ม สีอิสต์แมน วราภรณ์ ลีลากร ภูษิต อภิมัน นำแสดง ร่วมด้วย ม.ร.ว. ประสิทธิศักดิ์ สิงหรา, ปฐมชัย ชมศรีเมฆ, พรเพ็ญ เลาหะวาทิน และตัวแสดงประกอบอีกมากมาย *เกร็ด “ทางชีวิต” เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับการพัฒนาชุมชน สร้างโดย สำนักข่าวสารอเมริกันหรือยูซิสในระบบ 35 มม.ที่มีการบันทึกเสียงพูดสด ๆ ขณะถ่ายทำด้วยเครื่องเสียงอัดยี่ห้อนาก้าซึ่งแตกต่างจากการสร้างภาพยนตร์ไทยในยุคนั้น จึงใช้เวลาถ่ายทำนานหลายปี #ThaiMoviePosters
วังกาเหว่า (2512)
วังกาเหว่า (2512/1969) ข้อความบนใบปิด อังคณาภาพยนตร์ ขอเสนอ ภาพยนตร์แนวแปลก ไม่ใช่เรื่องของผีที่น่ากลัว แต่เป็นเรื่องของนกกาเหว่าสีทองที่น่ารัก วันดีคืนดีจะกลายเป็นหญิงสาวที่แสนสวย ซึ่งผู้ชายต้องหลงรักใน... วังกาเหว่า บทประพันธ์ ของ วิจิตร สุวรรณสันติ์ (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (ภาวนา ชนะจิต) ศศิธร เพ็ชรรุ่ง, อนุชา รัตนมาลย์, สมชาย, (สุวิน สว่างรัตน์), ถวัลย์ คีรีวัต, พีระพล, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ดาวน้อย ดวงใหญ่, สีเทา, ศรีสละ ทองธารา, ชื้นแฉะ, ทองถม ขอแนะนำ ด.ญ.อังคณา วิรัตน์, ด.ช.อิทธิพล สว่างรัตน์ ประทีป โกมลภิส สร้างบท กวี เกียรตินันท์ ถ่ายภาพ อังคณา กำกับการแสดง นงเยาว์ วิรัตน์ อำนวยการสร้าง
ไก่แก้ว (2512)

ไก่แก้ว (2512/1969) ข้อความบนใบปิด บุศรินทร์ภาพยนตร์ ในความอำนวยการสร้างของ...(บุษกร สาครรัตน์) ไก่แก้ว จากบทประพันธ์ของ ณรงค์ ภูมินทร์ (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) นำ (อดุลย์ ดุลยรัตน์), (เมตตา รุ่งรัตน์), (รุจน์ รณภพ), อนุชา รัตนมาลย์, (สมจิตร ทรัพย์สำรวย), (บุษกร สาครรัตน์), (ปรียา รุ่งเรือง), (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), นุสรา แสงรัตน์, (อดินันท์ สิงห์หิรัญ), ฤทธี นฤบาล, โยธิน เทวราช, (ชุมพร เทพพิทักษ์), สุระ นานา, (สุวิน สว่างรัตน์), สมศรี, (มนัส บุณยเกียรติ), ปราณีต คุ้มเดช, ชาย, เชาว์ แคล่วคล่อง, สมสกุล, ด.ญ.ชลธิชา, ด.ช.จิ้งหรีดทอง.. สมทบด้วย 5 ยอดตลก (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), สมพงษ์ พงษ์มิตร, สีเทา, ดาวน้อย ดวงใหญ่ และ (ล้อต๊อก) พร้อมด้วยยอดดาวเสียงละครวิทยุคณะ ‘’แก้วฟ้า” ชัยวิชิต อติศัพท์, ละออ นพพรรค์ ครั้งแรกครั้งสำคัญ ของยอดแชมป์ 7 เหรียญทอง ปรีดา จุลละมณฑล ผู้ไม่รู้จักคำว่าแพ้...รับบทดาราเกียรติยศ... ณรงค์ ภูมินทร์ ดำเนินงานสร้าง วินิจ ภักดีวิจิตร ถ่ายภาพ “แก้วฟ้า” สร้างบท-กำกับการแสดง วัชรภาพยนตร์ จัดจำหน่าย

 

ทรามวัยใจเพชร (2511)
ทรามวัยใจเพชร (2511/1968) สืบและคม สองนักสืบราชการลับจอมกะล่อน ได้ปลอมเป็นหญิงสาวเพื่อเข้าไปอารักขา คือ ม.ร.ว.หญิง รสสุคนธ์ จนกระทั่ง วันหนึ่งเพชรชมพู สาวสวยสุดเซ็กซี่ได้เข้ามาอารักขาหม่อมอีกคน โดยอ้างว่ามีอีกบริษัทส่งเธอมา พร้อมด้วยตัวผู้ต้องสงสัยที่สุดว่าจะน่าเป็นคนปองร้ายเศรษฐินีผู้นี้
สาปสวาท (2511)
สาปสวาท (2511/1968) ข้อความบนใบปิด นพรัตน์ภาพยนตร์... ผู้สร้าง...ปิ่นรัก-รักเอย-น้ำอ้อย เป็นภาพยนตร์ชีวิตรัก คาดแค้นด้วยน้ำตา ของหญิงสาวคนหนึ่งที่อาภัพด้วย...แรงสวาท สาปสวาท บทประพันธ์ ของ กัญญ์ชลา นำโดย 3 ดาราใหญ่ (พิศมัย วิไลศักดิ์) (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) อมรา อัศวนนท์ ร่วมด้วย (อดุลย์ ดุลยรัตน์), บุศรา นฤมิต, ฤทธี นฤบาล, เยาวเรศ นิสากร, (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี), (บุษกร สาครรัตน์), (ชุมพร เทพพิทักษ์), (ชฎาพร วชิรปราณี), (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), มาลี เวชประเสริฐ, (ชูศรี มีสมมนต์) และ (หม่อมชั้น พวงวัน) เนรมิต กำกับการแสดง อนันต์ อินละออ ถ่ายภาพ นพรัตน์ ศศิวิมลรักษ์ อำนวยการสร้าง แก้วฟ้า แสดงเป็นละครวิทยุ จินตนาฟิล์ม จัดจำหน่าย
พิศวาสไม่วาย (2511)
พิศวาสไม่วาย (2511/1968) ข้อความบนใบปิด ทวนทองภาพยนตร์ เสนอ พิศวาสไม่วาย ของ พรหมกฤษณ์ นำโดย (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (ภาวนา ชนะจิต) (เมตตา รุ่งรัตน์), (เมืองเริง ปัทมินทร์), (ไสล พูนชัย), (ทานทัต วิภาตะโยธิน), ดุษฎี เถาเสถียร, พูลสวัสดิ์ ธีมากร, อุทัส, ทองฮะ, ทองแถม, (ล้อต๊อก), พิมพร, ชื้นแฉะ, ลุงโกร่ง กางเกงแดง, (หม่อมชั้น พวงวัน) ทวนทอง พรหมกฤษณ์ อำนวยการสร้าง-กำกับการแสดง เฉลิม บุตรบุรุษ ถ่ายภาพ รัตนงามภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
วังสีทอง (2511)
วังสีทอง (2511/1968) ข้อความบนใบปิด พรสุรีย์ภาพยนตร์ เสนอ ภาพยนตร์ชีวิต ประทับใจ ดีเยี่ยม มอบให้ (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) โสภา สถาพร รับบทใน... วังสีทอง ของ เยี่ยม พลอยบุศย์ ร่วมด้วย (เมตตา รุ่งรัตน์), (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), สุพรรณ บูรณะพิมพ์, พงษ์ลดา พิมลพรรณ, สมควร กระจ่างศาสตร์, (ชุมพร เทพพิทักษ์), จำรูญ หนวดจิ๋ม, วลิต สนธิรัตน์, ชูศรี โรจนประดิษฐ์, หมี หมัดแม่น, ปราณีต คุ้มเดช และ (ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา) เฉลิม บุตรบุรุษ ถ่ายภาพ สุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต อำนวยการสร้าง-กำกับการแสดง พรสุรีย์ภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
ที่รักจ๋า (2511)
ที่รักจ๋า (2511/1968) ข้อความบนใบปิด กรุงเกษมภาพยนตร์ ภูมิใจเสนอภาพยนตร์...ที่เหนือกว่า และ ประทับใจกว่า มือนาง-โนรี-น้ำค้าง และ จันทร์เจ้า คือ... ที่รักจ๋า จากบทประพันธ์ ของ...ชุติมา สุวรรณรัต นำแสดงโดย (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (พิศมัย วิไลศักดิ์) (ภาวนา ชนะจิต) ร่วมด้วย (เมตตา รุ่งรัตน์), ฤทธี นฤบาล, ชฎาพร วชิรปรานี, (ทานทัต วิภาตะโยธิน), ทัต เอกทัต, พูนสวัสดิ์ ธีมากร, ปราณีต คุ้มเดช, นวลศิริ, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ชื้นแฉะ, บังเละ, ลุงโกร่ง กางเกงแดง, ทศ วงศ์งาม ฯลฯ ส.อาสนจินดา กำกับการแสดง วิเชียร วีระโชติ ถ่ายภาพ พิมพร สร้างบทภาพยนตร์ แก้วฟ้า จัดแสดงเป็นละครวิทยุ ชุดา เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา อำนวยการสร้าง ศิวาพรฟิล์ม จัดจำหน่าย
สาวบ้านแต้ (2511)
สาวบ้านแต้ (2511/1968) นาวิน เจ้าหน้าที่หน่วยพัฒนาถูกส่งตัวมาเพื่อพัฒนาตำบลบ้านแต้ในภาคเหนือ เขาได้พบกับคำภูและเกิดสัมพันธ์รักกัน จนกระทั่งวันหนึ่ง นาวินได้รับจดหมายจากทางราชการให้เดินทางกลับไปยังกรุงเทพฯ และถูกบังคับให้แต่งงานกับอรพิน ผู้หญิงที่แม่เลือกให้ เวลาผ่านไปคำภูและสหายชาวบ้านแต้ตัดสินใจออกเดินทางไปตามหานาวินที่เมืองกรุง
น้ำอ้อย (2511)
น้ำอ้อย (2511/1968) ข้อความบนใบปิด นพรัตน์ภาพยนตร์ เสนอ น้ำอ้อย จากบทประพันธ์ ของ สุมนทิพย์.. นำแสดงโดย (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) (อดุลย์ ดุลยรัตน์), (เมตตา รุ่งรัตน์), บุศรา นฤมิต, (ชฎาพร วชิรปราณี), (มนัส บุณยเกียรติ), (สมพล กงสุวรรณ), มานี มณีวรรณ, (อดินันท์ สิงห์หิรัญ), ธัญญา ธัญญารักษ์, อรสา อิศรางกูร และ ดอกดิน กัญญามาลย์ เชิญชมฉากเพลงเอก 3 เพลง 35 ม.ม.เสียงในฟิล์ม สีสวยสด เพลง “น้ำอ้อย” “ผีเสื้อ” และเพลง “แพรัก” พร้อม รุ่งรังสี สร้างบทภาพยนตร์ ดอกดิน กำกับการแสดง นพรัตน์ ศศิวิมลรักษ์ อำนวยการสร้าง สมาน ทองทรัพย์สิน ถ่ายภาพ กัญญามาลย์ภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
คุณหนู (2511)
คุณหนู (2511/1968) ข้อความบนใบปิด มีชัยภาพยนตร์ เสนอ ยอดภาพยนตร์ประทับจิต จากชีวิตจริงที่แสนประทับใจ คุณหนู ของ จำลักษณ์ นำโดย (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) โสภา สถาพร (ชนะ ศรีอุบล), (เมตตา รุ่งรัตน์), (ชุมพร เทพพิทักษ์), น้ำเงิน บุญหนัก, (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ปราณีต คุ้มเดช, สมาน, สีเทา สมควร กระจ่างศาสตร์ กำกับการแสดง เทวินทร์ สุขศิลา ถ่ายภาพ ชัช อักษร สร้างบท สนั่น จรัสศิลป์ ลำดับภาพ มีชัย จักราช ดำเนินงานสร้าง สุวรรณา สีจันทรางกูร อำนวยการสร้าง
สันกำแพง (2511)
สันกำแพง (2511/1968) กาญจน์ (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) กับ ตะวัน (เสกสรร สัตยา) เป็นเพื่อนรักกัน เรียนแม่โจ้ที่เดียวกัน กาญจน์รักใคร่ชอบพอกับสายไหม (เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์) โดยมีตะวันเป็นพ่อสื่อให้ ขณะเดียวกันเคลีย (ปริม ประภาพร) ซึ่งเป็นเพื่อนรักของสายไหมก็แอบชอบกาญจน์ แต่กาญจน์ไม่เล่นด้วย ส่วนตะวันก็ชอบเคลีย แต่เคลียไม่ชอบตะวัน เมื่อเคลียรู้ว่า กาญจน์จะกลับกรุงเทพฯเพื่อไปเรียนต่อ เคลียซึ่งต้องการหนีความเจ้าชู้ของบุญทัณฑ์ (เมืองเริง ปัทมินทร์) สามีใหม่ของแม่จึงแอบขึ้นรถไฟไปพร้อมกับกาญจน์โดยกาญจน์ไม่รู้ตัว ทำให้ตะวันเข้าใจผิดในตัวกาญจน์ ความเป็นสุภาพบุรุษของกาญจน์ ทำให้กาญจน์ต้องพาเคลียไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านของตน แต่ก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกันในเชิงชู้สาวแม้เคลียจะพยายามอ่อยเหยื่อแล้วก็ตาม ฝ่ายตะวันเข้าใจผิดว่า กาญจน์พาเคลียหนีไปทั้งๆ ที่รู้ว่าตะวันนั้นชอบเคลีย แม้สายไหมจะพยายามอธิบายว่า กาญจน์ไม่ได้รักเคลีย แต่ตะวันก็ไม่ฟัง แล้วต่อมาจู่ๆ เคลียก็เกิดตั้งท้องขึ้นมา กาญจน์เดินทางมาเชียงใหม่เพื่ออธิบายเรื่องเคลียตั้งท้องให้ตะวันฟัง ตะวันเชื่อว่า เคลียไม่ได้ท้องกับกาญจน์เพราะก่อนหน้านั้น ตะวันก็เคยได้เสียกับเคลียมาก่อน ตะวันจึงนัดให้กาญจน์ไปปรับความเข้าใจกับสายไหมที่กระท่อมสายน้ำผึ้ง คืนนั้นทั้งคู่ได้เสียกัน สายไหมตัดเปียไหมให้กาญจน์ไว้เป็นพยานรัก จากนั้นกาญจน์ก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ ต่อมาสายไหมตั้งท้องจึงไปหากาญจน์ที่กรุงเทพฯ แต่ไม่พบกาญจน์ พบแต่เคลียซึ่งกำลังท้องแก่อยู่ในบ้าน ทำให้สายไหมสงสัยว่าที่กาญจน์หายเงียบไปเพราะทำเคลียท้องหรือเปล่า ส่วนเคลียเองก็แสร้งทำเป็นว่า ตนเองเป็นเมียของกาญจน์ สายไหมหลงเชื่อจึงเดินทางกลับเชียงใหม่ด้วยความชอกช้ำโดยลืมเปียไหมทิ้งไว้ที่บ้านกาญจน์ เมื่อสายไหมกลับถึงบ้านที่เชียงใหม่ก็พบว่าแม่เสียชีวิตแล้ว ก็ยิ่งทำให้เศร้าใจ สายไหมวิ่งไปน้ำตกวังบัวบานหมายจะฆ่าตัวตาย แต่ตะวันก็มาช่วยไว้ได้ทัน ตะวันรู้ว่า สายไหมตั้งท้องกับกาญจน์ แต่เมื่อกาญจน์ไม่ยอมรับเป็นพ่อเด็ก ตะวันซึ่งรักสายไหมอยู่แล้วจึงรับที่จะแต่งงานกับสายไหมเพื่อช่วยแก้หน้าโดยสัญญาว่า จะแต่งงานแต่ในนาม จะไม่ล่วงเกินสายไหม สายไหมจึงยอมแต่งงานกับตะวัน เมื่อกาญจน์กลับมาบ้านก็เห็นเปียไหมตกอยู่ จำได้ว่าเป็นของสายไหม จึงรีบตามไปเชียงใหม่ เมื่อไปถึงก็เป็นวันแต่งงานของสายไหมกับตะวันแล้ว กาญจน์เข้าใจว่า สายไหมหมดรักตนจึงเกิดการชกต่อยกับตะวัน จากนั้นกาญจน์ก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ ส่วนเคลียเมื่อรู้ว่าตนทำผิดมหันต์ หลังคลอดลูกแล้วก็ทิ้งลูกชายไว้ให้กาญจน์เลี้ยง ส่วนตนเองก็หนีออกจากบ้านไปหมายจะกระโดดน้ำตาย แต่คุณชาย (ชนะ ศรีอุบล) ก็มาช่วยเคลียไว้ได้ทัน กาญจน์ตามมาหาเคลียก็พบแต่ร่มตกอยู่บนสะพาน ก็คิดว่า เคลียฆ่าตัวตายไปแล้ว จึงรับเลี้ยงลูกชายของเคลียไว้ ส่วนเคลียนั้นก็ได้รับชีวิตใหม่กับคุณชาย เวลาผ่านไป 20 ปี ลูกของเคลียที่กาญจน์รับเลี้ยงไว้ก็โตเป็นหนุ่มชื่อว่า สุริยน (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) ส่วนลูกของสายไหมก็โตเป็นสาวชื่อ สายน้ำผึ้ง (สุทิศา พัฒนุช) สุริยนทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เชียงใหม่และได้รู้จักกับสายน้ำผึ้งซึ่งดูแลปางไม้ของพ่อเลี้ยงตะวัน ฝ่ายพ่อเลี้ยงตะวันก็มีความสัมพันธ์กับรัญจวน (หยาดรุ้ง ระพี) โดยไม่รู้ว่ารัญจวนเป็นสายของศัตรู วันหนึ่งขณะที่สุริยนกำลังจะเข้าไปพบพ่อเลี้ยงตะวันในปางไม้ รัญจวนเห็นสุริยนก่อนก็แกล้งทำเป็นจมน้ำให้สุริยนช่วย สุริยนหลงเชื่อก็เข้าไปช่วย แต่พอจับได้ว่าเป็นมารยาหญิง สุริยนก็ผละจากรัญจวนไปซึ่งเป็นเวลาเดียวกับเมฆ (สุวิน สว่างรัตน์) ที่แอบดูรัญจวนอาบน้ำอยู่ก่อน ก็เข้าสวมรอยข่มขืนและฆ่ารัญจวนตาย พ่อเลี้ยงตะวันก็เข้าใจผิดว่า สุริยนเป็นคนฆ่ารัญจวนจึงให้ลูกน้องไปจับตัวสุริยนมาทรมาน สายน้ำผึ้งเข้าช่วยสุริยน แต่ก็ถูกพ่อเลี้ยงตะวันตบสั่งสอน สายไหมก็ส่งข่าวร้ายนี้ให้กาญจน์รู้ว่า สุริยนถูกพ่อเลี้ยงตะวันจับตัวไปหมายจะฆ่าให้ตาย กาญจน์จึงเดินทางมาเชียงใหม่เพื่อจะมาบอกว่า สุริยนนั้นเป็นลูกของตะวันเอง แต่ยังไม่ทันได้บอกอะไร ก็เกิดการดวลมีดกับพ่อเลี้ยงตะวันก่อน สายไหมพาคนงานมาช่วยสุริยนและสายน้ำผึ้ง เมื่อสุริยนเห็นกาญจน์กำลังเพลี่ยงพล้ำก็ขว้างมีดไปหมายจะให้ถูกพ่อเลี้ยงตะวัน แต่กาญจน์ก็ผลักพ่อเลี้ยงตะวันออกไปและโดดมีดปักหลังแทน กาญจน์จึงบอกความจริงว่า พ่อเลี้ยงตะวันนั่นแหละเป็นพ่อของสุริยน สุริยนเป็นลูกที่เกิดจากเคลีย ขณะนั้นพ่อเลี้ยง (ชุมพร เทพพิทักษ์) ซึ่งเป็นอริทางการค้าไม้กับพ่อเลี้ยงตะวันก็พาพวกมาบุกยิงถูกพ่อเลี้ยงตะวัน ก่อนที่พ่อเลี้ยงจะสิ้นใจได้บอกความจริงว่า สายไหมก็ไม่ใช่ลูกของตน แต่เป็นลูกของกาญจน์ เมื่อทุกฝ่ายเข้าใจกันดีแล้ว สุริยนก็ได้แต่งงานกับสายน้ำผึ้งท่ามกลางความรัก ความอบอุ่นของผู้ที่เป็นพ่อแม่
กำพร้า (2511)
กำพร้า (2511/1968) ข้อความบนใบปิด เสรีภาพยนตร์ เสนอ ยอดภาพยนตร์ที่สะท้อนชีวิตจริง ของเด็กสาวซึ่งเกิดมาเพื่อต่อสู้ชะตากรรม ทั้งระทมขมขื่น ทั้งสดชื่นซาบซึ้ง ทั้งขบขันหรรษาฮากันตึง... กำพร้า ของ ป.พิมล นำโดย (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) ร่วมด้วย (เมตตา รุ่งรัตน์), วิไลวรรณ วัฒนพานิช, กิ่งดาว ดารณี, ฑัต เอกฑัต, (ปรียา รุ่งเรือง), (แมน ธีระพล), (ชุมพร เทพพิทักษ์), (อดินันท์ สิงห์หิรัญ), (ชฎาพร วชิรปราณี), สมควร กระจ่างศาสตร์, (สุวิน สว่างรัตน์), (เทียว ธารา), มาลี เวชประเสริฐ, ชูศรี โรจนประดิษฐ์, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), สมพงษ์ พงษ์มิตร, (ล้อต๊อก), ก๊กเฮง (รังสี ทัศนพยัคฆ์) กำกับการแสดง กิตติ ประสพสุข อำนวยการสร้าง ธีระ แอคะรัจน์ ถ่ายภาพ
ไอ้หนึ่ง (2511)

ไอ้หนึ่ง (2511/1968) ชีวิตของเด็กน้อยผู้บริสุทธิ์ดุจหยาดน้ำค้างกลางกลีบมะลิ ซึ่งกว่าพายุฝนแห่งชะตากรรมนำพาเธอจากคฤหาสน์อันโอ่อ่า มาสู่กระท่อมเซซังหลังคาโหว่ เติบโตสู่ความเป็นสาวที่ทุ่งนา จนใครๆเรียกเธอว่า...ไอ้หนึ่ง

ดอกบัว (2511)
ดอกบัว (2511/1968) ข้อความบนใบปิด กรนิมิตรภาพยนตร์ เสนอ อื้อฉาว เกรียวกราวที่สุดแห่งยุค ชิงชื่อ แย่งชื่อ ชิงโรง เพราะสูงด้วยคุณภาพ ยิ่งใหญ่ด้วยการรวมน้ำใจ นั่นคือ ดอกบัว ของ วิจิตร สุวรรณสันต์ ละครวิทยุคณะ รุ่งฤดี ตั้งแต่เกิดมา ท่านก็เทิดทูน “ดอกบัว” นำโดย (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) (อดุลย์ ดุลยรัตน์), (เมตตา รุ่งรัตน์), อภิญญา วีระขจร, อนุชา รัตนมาลย์, (ชุมพร เทพพิทักษ์), ฤทธี นฤบาล, (บุษกร สาครรัตน์), พงษ์ลดา พิมลพรรณ, โยธิน เทวราช, ใจดาว บุษยา, เชาว์ แคล่วคล่อง, (มนัส บุณยเกียรติ), วงศ์ ศรีสวัสดิ์, สิงห์ มิลินทราศัย, จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, (เทียว ธารา), แป้น ปลื้มสระไชย, เชาว์ มีคุณสุต, สีเทา, ดาวน้อย ดวงใหญ่, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), (ชูศรี มีสมมนต์), ด.ญ.น้อยหน่า, ด.ช.วโรดม ร่วมแสดง (มิตร ชัยบัญชา) ที่ปรึกษา ชาย นิมิตโชตินัย อำนวยการสร้าง วินิจ ภักดีวิจิตร ถ่ายภาพ จิตติน กำกับการแสดง สมโภชน์ ล้ำพงษ์ สร้างเพลง วัชรภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
เงินจ๋าเงิน (2511)

เงินจ๋าเงิน (2511/1968) เนื้อเรื่องสนุกสนานเล่าเรื่องพระเอกและนางเอกที่ต่างก็ยากจนทั้งคู่ แต่คิดจะรวยทางลัดด้วยการหาคู่ครองที่ร่ำรวย เลยปลอมตัวเป็นคนรวย แล้วประกาศหาคู่ จึงได้พบกันโดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายก็จนเหมือนกัน แต่สุดท้ายฝ่ายหนึ่งก็กลายเป็นทายาทเศรษฐีขึ้นมาจริงๆ

ดอกอ้อ (2511)
ดอกอ้อ (2511/1968) ดอกอ้อ เมื่อตอนยังเล็กๆ อาศัยอยู่และหนีตายข้ามโขงมายังฝั่งไทยกับแม่และป้าแหวน (มนัส บุญยเกียรติ) ซึ่งเป็นแม่นม ระหว่างหลบหนีมานั้น แม่ก็ถูกฆ่าตาย ส่วนป้าแหวนก็ถูกยิงได้รับบาดเจ็บและพลัดหลงกัน แม่ครูพร (ศรินทิพย์ ศิริวรรณ) ซึ่งเป็นเจ้าของโรงเรียนพรพิทยา เห็นเหตุการณ์จึงช่วยนางเอกซึ่งมีชื่อว่า อ๋อ มาเลี้ยงไว้แทน แต่เพราะเห็นว่าชื่อ อ๋อ นั้นไม่ค่อยจะเพราะ แม่ครูพรจึงเปลี่ยนชื่อให้ใหม่ว่า ดอกอ้อ (เพชรา เชาวราษฏร์) ส่วนชื่อจริงๆ ของดอกอ้อ ก็คือ กมลมาศ สิทธิกร ซึ่งสลักไว้ในเหรียญห้อยคอที่ติดตัวดอกอ้อมานั่นเอง 15 ปีต่อมา ดอกอ้อก็โตเป็นสาวและเป็นครูสอนที่โรงเรียนของแม่ครูพร โดยมีเพื่อนซี้อยู่สองคนซึ่งแม่ครูพรเลี้ยงมาพร้อมๆ กันคือ เมี่ยง (ดอกดิน กัญญามาลย์) ทำหน้าที่เป็นภารโรง ส่วน เอื้องคำ (อรสา อิศรางกูร ณ อยุธยา) นั้นเป็นแม่ครัว นอกจากนี้ยังมี ภาณี (ชฎาพร วชิรปราณี) ซึ่งแม่ครูพรเลี้ยงมาแต่เด็กๆ แต่ภาณีไม่ค่อยจะถูกชะตากับดอกอ้อ วันหนึ่ง พิทักษ์ (แมน ธีระพล) ซึ่งได้รับมรดกที่ดินโรงเรียนที่แม่ครูพรเช่าก็ขอขึ้นค่าเช่าที่ดิน ภาณีจึงได้รู้จักสนิทสนมกับพิทักษ์ ต่อมาแม่ครูพรก็มอบสายสร้อยและเหรียญสลักชื่อสกุลให้ดอกอ้อ ทำให้ภาณีไม่พอใจ ดอกอ้อจึงตัดความรำคาญยกสายสร้อยของตนเองให้ภาณีไปโดยไม่รู้ว่านั่นเป็นสร้อยนามสกุลของตนเอง ดอกอ้อ เมี่ยงและเอื้องคำ พานักเรียนไปเที่ยวป่าและหลงป่าจึงได้พบกับผู้การวิคุณ ((อดุลย์ ดุลยรัตน์)) ที่ไล่ยิงพวกคนร้ายผ่านมา วิคุณสนใจในตัวดอกอ้อ ส่วนภาณีนั้นก็ขโมยเงินแม่ครูหนีเข้ากรุงเทพฯ ดอกอ้อจะไปตามภาณี แต่เกิดการยิงกันและมีชายคนหนึ่งถูกยิงบาดเจ็บมาซ่อนตัวในโรงเรียน เขาบอกแต่ชื่อว่า นายอ่อน ((มิตร ชัยบัญชา)) ดอกอ้อสงสารจึงช่วยเหลือนายอ่อนจนอาการดีขึ้น แท้จริงแล้ว นายอ่อนก็คือ เจ้าตรีทศวงศ์ นายพลทหารบกลาว ซึ่งหนีภัยการเมืองและกำลังถูกนายพิทักษ์กับพวกที่รับจ้างทหารลาวตามฆ่า ผู้การวิคุณจึงวางแผนให้เจ้าตรีทศวงศ์ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านของพี่สุทธิ (สุวิน สว่างรัตน์) ในกรุงเทพฯ โดยวางแผนให้เห็นว่า นายอ่อนถูกยิงตายและทหารไทยนำศพไป ทำให้ดอกอ้อซึ่งไม่รู้แผนนี้เสียใจเพราะเริ่มมีใจให้นายอ่อนแล้ว ต่อมาพิทักษ์พูดสู่ขอดอกอ้อกับแม่ครู แต่ครูไม่ชอบนิสัยนักเลงของพิทักษ์ จึงให้ดอกอ้อหนีไปเรียนต่อในกรุงเทพฯ ฝ่ายนายอ่อนเมื่อมาอยู่กรุงเทพฯ ก็ปลอมตัวเป็นคนตาบอดชื่อนายนิ่มและสนิทสนมกับลูกสาวพี่สุทธิซึ่งตาบอดเช่นกันชื่อว่า อ้อย (ด.ญ.จิระวดี อิศรางกูร ณ อยุธยา) ส่วนนายทักษ์เมื่อรู้ว่า แม่ครูกีดกันไม่ให้แต่งงานกับดอกอ้อ ก็ลอบเผาโรงเรียนทิ้ง ครูพรจึงต้องเข้ากรุงเทพฯไปอยู่กับดอกอ้อ
ลูกแมว (2511)
ลูกแมว (2511/1968) ลูกแมว เป็นภาพยนตร์สี 16 มม.ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2511 ให้เสียงพากย์สด สร้างและกำกับการแสดงโดย พันคำ
ชาตินักสู้ (2511)
ชาตินักสู้ (2511/1968) ข้อความบนใบปิด นฤาชาภาพยนตร์ ไม่ยอมขายศรัทธาที่ประชาชนมีต่อผลงาน และการแสดงของ (ลือชัย นฤนาท) ตลอดมา ขอให้ท่านพิสูจน์ว่า (ลือชัย นฤนาท) จะเสียโฉมหรือไม่ เพราะประสบอุบัติเหตุในการถ่ายทำ ชาตินักสู้ ของ รังษี เทพวรสิน (ลือชัย นฤนาท) พบ (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) เรื่องเดียวในพ.ศ.2511 ดาราสมทบ ถวัลย์ คีรีวัต, (สมพล กงสุวรรณ), (เมตตา รุ่งรัตน์), (ชฎาพร วชิรปราณี), ขุนแผน, ถนอม นวลอนันต์, ท้วม ทรนง, นฤาชา สานิต รุจิรัตนกุล ถ่ายภาพ ประกอบ แก้วประเสริฐ กำกับ เครือมาศ สร้อยคีรี อำนวยการสร้าง
เรือจ้าง (2511)
เรือจ้าง (2511/1968) *โบราณเปรียบอาชีพ “ครู” เหมือน “เรือจ้าง” ส่งถึงฝั่งแล้ว ก็หมดความหมาย! ข้อความบนใบปิด พัฒนาการ ผู้สร้าง อรัญญิก เสนอ ชีวิตเทอดทูนพระคุณของครู ต้องดู! เรือจ้าง ของ ป.พิมล นำโดย (มิตร ชัยบัญชา) (พิศมัย วิไลศักดิ์) ร่วมด้วย (ขวัญใจ สะอาดรักษ์), เชาว์ แคล่วคล่อง, อนุชา รัตนมาลย์, มาลี เวชประเสริฐ, (สุวิน สว่างรัตน์), มารศรี อิศรางกูร, ชาย, แก้วตา, สมพงษ์ พงษ์มิตร, ชูศรี โรจนประดิษฐ์, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ดาวน้อย ดวงใหญ่, ขุนแผน ภุมรักษ์, ถนอม นวลอนันต์ และนักเรียนชั้นประถม มัธยม เตรียมอุดม สมาคมครูโรงเรียนราษฎร์แห่งประเทศไทย ให้ความร่วมมือ ศิริ ศิริจินดา กำกับการแสดง สนั่น นาคสู่สุข-จินดา พันธ์ทองดี อำนวยการสร้าง วิเชียร วีระโชติ-วินิจ ภักดีวิจิตร ถ่ายภาพ ทัศนะ ทัศนพล ประชาสัมพันธ์ อนันต์ ชลวานิช สร้างบท เอวันฟิล์ม จัดจำหน่าย
สกุลกา (2511)
สกุลกา (2511/1968) รัตน์ ((อดุลย์ ดุลยรัตน์)) และเดือน (บุศรา นฤมิตร) ลักลอบได้เสียกันจนเดือนตั้งท้อง แต่พ่อแม่ของรัตน์ไม่ต้องการให้เดือนเป็นสะใภ้ จึงบังคับรัตน์ให้แต่งงานกับหญิงที่มีวงศ์ตระกูลดี เดือนต้องตกระกำลำบาก เมื่อคลอดลูกสาวออกมาให้ชื่อว่า ดาว (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) โดยบอกกับดาวว่าตนเองเป็นน้า และส่งเสียเลี้ยงดูดาวด้วยการเป็นพาร์ทเนอร์แต่ไม่ยอมขายตัว จนกระทั่งดาวโตเป็นสาวได้ขึ้นแสดงละครของโรงเรียน รัตน์ซึงเจริญก้าวหน้าในการงานเป็นอธิบดี และคุณวลัย ภรรยาซึ่งเป็นผู้อุปถัมป์โรงเรียน รู้สึกเมตตาดาวเป็นอย่างมากโดยไม่รู้ว่าดาวคือลูกสาวที่แท้จริงของรัตน์ ทั้งสองให้ขอดาวไปเป็นบุตรบุญธรรม ต่อมาดาวได้พบกับพงศกร ((มิตร ชัยบัญชา)) ทั้งสองมีความรักต่อกัน แต่รักมีอุปสรรค์มากมายด้วยทั้งสองมีพันธะสัญญากับคนอื่นอยู่แล้ว อีกทั้งเสี่ยซ้งมีผู้มีอิทธิพลก็ต้องการตัวดาวไปเป็นภรรยา แต่ในที่สุดความจริงทั้งหลายก็ปรากฎ อธิบดีรัตน์ได้ค้นพบความจริงและบอกให้ทุกคนรู้ว่า ดาวคือลูกสาวของตนเองกับเดือน แต่ทั้งดาวและเดือนเกือบเอาตัวไม่รอดเมื่อถูกเสี่ยซ้งฉุดไปหวังจะข่มขืน แต่ติณห์ (อนุชา รัตนมาลย์) ชายหนุ่มผู้แอบรักดาวอยู่ได้สละชีวิตตนเองช่วยดาวและเดือนออกมาได้ ต่อมาดาวได้แต่งงานกับพงศกรและคุณวลัยผู้มีจิตใจงดงามได้ขอให้เดือนมาอยู่ด้วยกัน
ใจแก้ว (2511)
ใจแก้ว (2511/1968) ข้อความบนใบปิด เทพกรภาพยนตร์ ผู้สร้างภาพยนตร์ได้มาตรฐานเสมอ เสนอ ใจแก้ว ของ จำลักษณ์ นำโดยดารายอดนิยม (มิตร ชัยบัญชา) (พิศมัย วิไลศักดิ์) โสภา สภาพร (ชุมพร เทพพิทักษ์), วรรณา แสงจันทร์ทิพย์, (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), สมควร กระจ่างศาสตร์, ทัต เอกทัต, วงทอง ผลานุสนธิ์, สีเทา และดาวเสียง วิเชียร นีลิกานนท์ ดารารับเชิญ ไสว-ประเสริฐ ชีวิตนี้คือละคร บทบาทบางตอน ยอกย้อนยับเยิน อดุลย์ เศรษฐภักดี ถ่ายภาพ กิติมา เศรษฐภักดี อำนวยการสร้าง รัตน์ เศรษฐภักดี กำกับการแสดง เอวันฟิล์ม จัดจำหน่าย
เนื้อคู่ (2511)
เนื้อคู่ (2511/1968) ครูอาทิตย์ ครูประชาบาล รักกับ ปิ่นแก้ว รณรงค์ราชกิจ ลูกสาวคุณพระรณรงค์ราชกิจ แต่ถูกกีดกัน ทั้งคู่ก็เลยพากันหนีไปอยู่ด้วยกันจนมีลูกชายหนึ่งคนชื่อ ทรงกลด แต่ความแค้นของคุณพระยังไม่หมดสิ้นเพราะต้องการจับลูกสาวใส่ตะกร้าล้างน้ำให้แต่งงานกับ อาวุธ นายทหารม้าผู้มีอิทธิพลคนหนึ่ง อาวุธ ออกสืบจนพบว่าครูอาทิตย์ไปหลบอยู่ไหน แต่เมื่อพบตัวเองก็กลับกำลังเป็นไข้ป่า พอครูอาทิตย์เห็นหน้าอาวุธ ก็รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่เพราะมีจิตใจดี จึงยอมพาอาวุธไปรักษาตัวในเมืองก่อน พอเดินทางกลับมาถึงกระท่อมก็พบว่าคุณพระและพรรคพวกของอาวุธอยู่ที่กระท่อมแล้ว กำลังจะเอาตัวปิ่นแก้วเมียรักไปจากกระท่อม ครูอาทิตย์เข้าขัดขวาง แต่สู้หมาหมู่ไม่ได้ ถูกตีสลบ ฝ่ายเมียรัก ทนเห็นผัวเจ็บตัวไม่ไหว ก็เลยยอมหอบลูกน้อยติดตามพ่อตัวกลับไป ทิ้งครูอาทิตย์ให้อยู่คนเดียวในกระท่อมรักแห่งนั้น เมื่อกลับมาถึงกรุงเทพฯ คุณพระก็สั่งกักขังปิ่นแก้วลูกสาวทันที เพื่อกดดันให้แต่งงานกับอาวุธที่ไม่แสดงท่าทีรังเกียจอดีตของเธอเลย ปิ่นแก้ว มีน้องสาวอีกคนชื่อ ปิ่นเพชร แต่ว่านิสัยไม่ค่อยดี แอบได้เสียกับนักเลงหัวไม้น้องชายของอาวุธที่ชื่อ ทวนทอง ทั้งคู่กลัวว่า หากปิ่นแก้วพี่สาวได้แต่งงานกับอาวุธจริงๆ ตัวเองจะเดือดร้อน ก็เลยวางแผนให้ปิ่นแก้วเปิดห้องไว้ พออาวุธเข้าไปหา เรื่องกลับตาลปัตรเพราะอาวุธเมามายและไปได้เสียกับ ขาบ หญิงที่ดูแลปิ่นแก้วที่ถูกกักขังนั้นแทน ต่อมาทวนทองเงินหมด ก็คิดจะขโมยเงินของคุณพระ จึงขอให้ปิ่นเพชร คอยเปิดประตูห้องไว้ ก็พอดีกับครูอาทิตย์ที่ติดตามหาลูกเมียมาถึงและกำลังเอาตะไบตัดโซ่เพื่อช่วยเมียรักแต่ยังไม่ทันตัดเสร็จ เผอิญคุณพระได้ยินเสียงผิดปกติก่อน ครูอาทิตย์จึงทิ้งตะไบและหลบไปก่อน ทวนทองซึ่งกำลังขโมยเงินก็เลยเก็บตะไบนั้นไว้และคุณพระเข้ามาพอดี ก็เลยใช้ตะไบแทงคุณพระตายและหนีไป
สองฟากฟ้า (2511)
สองฟากฟ้า (2511/1968) ข้อความบนใบปิด พลสัณห์ภาพยนตร์ จากผลงานเรื่อง ใกล้รุ่ง ที่เกรียวกราวมาแล้ว ทุกมุมเมือง มาสู่ภาพยนตร์ชีวิต แนวแปลก ใน สองฟากฟ้า ของ เทพากร (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) กิ่งดาว ดารณี, (อดุลย์ ดุลยรัตน์), ทัต เอกทัต, (สมจิตร ทรัพย์สำรวย), เชาว์ แคล่วคล่อง, (สุวิน สว่างรัตน์), (อดินันท์ สิงห์หิรัญ), (เทียว ธารา), (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), (ล้อต๊อก) ดาราเกียรติยศ เดชา ปราการนันทน์ และขอแนะนำดาวยั่วดวงใหม่ อุไรวรรณ จันทร์ทิพย์ (รังสี ทัศนพยัคฆ์) กำกับการแสดง ธีระ แอคะรัจน์ ถ่ายภาพ พลสัณห์ ศรีหาผล อำนวยการสร้าง เกรียงศักดิ์ ศรีหาผล ผู้จัดการธุรกิจ ภาพยนตร์เรื่องเดียวที่โรงภาพยนตร์เอ็มไพร์ ยอมรับว่า เป็นภาพยนตร์ไทยยอดเยี่ยม ประจำปี 2511 ศิวาพร จัดจำหน่าย
มรกตแดง (2511)
มรกตแดง (2511/1968) ข้อความบนใบปิด สหวุฒิฟิล์ม เสนอ มรกตแดง ของ สุภัทร สวัสดิรักษ์ ละครวิทยุคณะ ทานตะวัน เยี่ยมจริง! ยอดจัง! ละครดัง! หนังเด็ด! นำแสดงโดย (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) สมทบด้วยดาราดังอีกคับคั่ง ทักษิณ แจ่มผล, (เมตตา รุ่งรัตน์), (สมจิตร ทรัพย์สำรวย), (ศรินทิพย์ ศิริวรรณ), ฑัต เอกฑัต, ถวัลย์ คีรีวัต, (ชุมพร เทพพิทักษ์), พิภพ ภู่ภิญโญ, ทศ วงศ์งาม, เชาว์ แคล่วคล่อง, ชนินทร์ นฤปกรณ์, ปราณีต คุ้มเดช, วันทนา, แคหลอ, (ล้อต๊อก)น้อย, สนั่น, ทองฮะ, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ก๊กเอง และดารารับเชิญ ชาลี อินทรวิจิตร, ประดิษฐ์ กัลย์จาฤก เรียม วัธนเวคิน อำนวยการสร้าง ฉลอง กลิ่นพิกุล ถ่ายภาพ อนุมาศ บุนนาค สร้างบท-กำกับการแสดง