โรแมนติก
รักสุดหัวใจ (2527/1984) ข้อความบนใบปิด สีบุญเรืองฟิล์ม ผู้สร้างที่ไม่เคยทำให้ท่านผิดหวัง เสนอผลงานล่าสุดด้วยทุนกว่า 10 ล้านบาท คงจะมีสักครั้งที่คุณอยากจะบอกว่า...รักสุดหัวใจ รักสุดหัวใจ 8 ดาราเอกพบกันครั้งแรกและครั้งเดียว ในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทย สรพงศ์ ชาตรี ทูน หิรัญทรัพย์ (ไกรสร แสงอนันต์) (ต้อย เศรษฐา ศิระฉายา)(สมชาย สามิภักดิ์) จารุณี สุขสวัสดิ์ (เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์) (ต่อง สาวิตรี สามิภักดิ์) ภัทรา ทิวานนท์ ปาหนัน ณ พัทลุง พันคำ กำกับการแสดง โสภณ เจนพานิช ถ่ายภาพ โศจิรัตน์ บุญเรือง บทภาพยนตร์ ดาวน้อย สีบุญเรือง อำนวยการสร้าง สีบุญเรืองฟิล์ม จัดจำหน่าย *เกร็ด -ใบปิดวาดโดย บรรหาร -หนังเรื่องนี้ชุมนุมดารามากมาย แต่บทเด่นอยู่ที่ 2 คู่คือ สรพงศ์-จารุณี และ ทูน-ภัทรา (ไกรสรและ(สมชาย สามิภักดิ์)ที่มีชื่อตัวใหญ่บนใบปิด เป็นเพียงดารารับเชิญ (สมชาย สามิภักดิ์)ไม่มีบทพูดด้วยซ้ำ) ทูนและจารุณีแสดงเป็นพี่น้องกันแต่คนละพ่อ แม่คืออรัญญา เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นในอเมริกาตลอดเรื่อง จารุณีในเรื่องนี้ฉีกบทบาทมารับบทเด็กสาวใจแตกที่นิสัยไม่น่ารัก ไม่เรียนหนังสือ ทะเลาะกับแม่ แถมสูบกัญชา ซึ่งหาได้ยากมากในช่วงที่เธอเป็นนางเอกดัง ในยูทูบยังมีหนังเรื่องนี้ให้ดูนะครับ
เรื่องย่อ : บ้านสาวโสด (2527/1984) เรื่องราววุ่นๆ ในบ้านสามสาวโสดที่อยู่ดีๆ ก็มีหนุ่มมาพักอยู่ด้วย ทั้งสามพยายามยั่วยวนชายหนุ่มสุดฤทธิ์ ทว่าชายหนุ่มกลับสนใจแต่คนใช้สาวที่เบื้องหลังของเธอไม่ธรรมดา
บ้านสุนทรพันธ์หรือที่คนทั่วไปเรียกว่าบ้านสาวโสด มีพี่น้องสามสาวคือ ประเทืองทิพย์ หยิบฤทัย วไลพร ทั้งสามพากันดีใจเมื่อรู้ว่า ติ่ง ซึ่งเป็นหลานชายจะมาอยู่ด้วยเพื่อเรียนต่อ ทั้งสามสาวจึงพยายามใช้เสน่ห์ยั่วยวนติ่ง แต่ทว่าชายหนุ่มกลับสนใจ แต๋ว ซึ่งเป็นสาวใช้ที่เบื้องหลังของเธอไม่ธรรมดา
บ้านสุนทรพันธ์หรือที่คนทั่วไปเรียกว่าบ้านสาวโสด มีพี่น้องสามสาวคือ ประเทืองทิพย์ หยิบทหัย วไลพร พากันดีใจเมื่อติ่ง ซึ่งเป็นหลานชายจะมาอยู่ด้วยเพื่อเรียนต่อ ทั้งสามสาวพยายามใช้เสน่ห์ยั่วยวนติ่ง แต่ก็ไม่ได้ผล ขณะเดียวกันหญิง สุระกานต์ ลูกสาวอธิบดีก็อ้างตัวว่าชื่อแต๋ว เข้าเป็นคนรับใช้ในบ้านสาวโสด ซึ่งสามสาวไม่ค่อยพอใจที่ติ่งหันไปสนใจแต๋วมากกว่า ประเทืองทิพย์จึงไปบอกพ่อแม่ของติ่งว่า ติ่งจะเอาคนใช้เป็นเมีย ส่วนติ่งเองก็สงสัยในพฤติกรรมของแต๋วจึงแอบไปสมัครเป็นคนสวนบ้านพ่อของแต๋วจนสืบรู้ความจริง แต่แต๋วก็ไม่พอใจที่เห็นติ่งไปสนิทสนมกับพิณ เมียนายไปล่ คนขับรถในบ้านจนเกิดเรื่องชกต่อยกัน นายไปล่ถูกไล่ออกจากบ้าน จึงได้พาพวกเข้ามาปล้นบ้านอธิบดีเพื่อแก้แค้น แต่ติ่งและเพื่อนๆ ก็มาช่วยไว้ได้ทัน เรื่องจึงลงเอยด้วยดี
เรื่องย่อ : นักร้องนักเลง (2527/1984) ภาพยนตร์ที่นำแสดงโดยขวัญใจคนเดิมของคอเพลงลูกทุ่งสายัณห์ สัญญา และราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ ทั้งยังประกอบไปด้วยบทเพลงลูกทุ่งอันไพเราะกว่าสิบเพลงสายัณห์รับบทเป็นนักร้องผู้กำลังมีชื่อเสียงและต้องผจญกับการรังควานจากเหล่าศัตรูทั้งคู่หมั้นของสาวคนรัก และเจ้าของค่ายเพลงผู้ต้องการทำลายชื่อเสียงอันโด่งดังของเขา
เรื่องของนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง "สายัณห์ สัญญา" ที่ต้องเผชิญกับอิทธิพลมืดของ "นายห้างสุริยัน" (วิทยา สุขดำรงค์) ที่หมายจะเอาชีวิตเขาหลายครั้ง แต่สุดท้ายสายัณห์กลับต้องเจ็บช้ำน้ำใจที่สุดเมื่อ "เดือน" (นันทิดา แก้วบัวสาย) สาวคนรักต้องถูกบังคับแต่งงานกับ "พินิจ" (พยัคฆ์ รามวาทิน) เขาจะทำอย่างไรกับชีวิตต่อไปเมื่อสูญเสียหญิงคนรักและยังถูกจ้องเอาชีวิตตลอดเวลา
เรื่องของนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง สายัณห์ สัญญา ที่ต้องเผชิญกับอิทธิพลมืดของนายห้างสุริยัน (วิทยา สุขดำรงค์) เมื่อสายัณห์แยกตัวออกมาตั้งวงเดินสาย นายห้างสุริยันจึงหาทางกำจัดสายัณห์ให้พ้นทาง เริ่มจากสั่งฆ่าผู้จัดการวงทิ้ง จนต้องมีหมวดคมเดช (ทวนธน คำมีศรี) มาดูแลคุ้มครอง ส่วน ผึ้ง (พุ่มพวง ดวงจันทร์) นักร้องอีกคนก็หนีมาอยู่กับวงสายัณห์เพราะทนถูกนายห้างลวนลามไม่ไหว ยิ่งทำให้นายห้างแค้นมากขึ้น เอาระเบิดใส่พวงมาลัยไปคล้องคอสายัณห์บนเวที แต่สายัณห์ก็รอดมาได้ ต่อมาเดือน (นันทิดา แก้วบัวสาย) คนรักของสายัณห์ถูกบังคับแต่งงานกับพินิจ (พยัคฆ์ รามวาทิน) ทำให้สายัณห์กินเหล้าเมามาย ไม่ไปร้องเพลงอัดแผ่นเสียง ผึ้งจึงพูดของร้อง สายัณห์จึงยอมไปร้องเพลง คนชื่อเดือน ด้วยน้ำตานองหน้า แต่ชีวิตคู่ของเดือนก็ไม่เป็นสุข ถูกพินิจตบดีจึงหนีมาอยู่กับสายัณห์ สุระ (ภิญโญ ปานนุ้ย) พี่ชายของเดือนและพินิจร่วมมือกับนายห้างสุริยันเพื่อกำจัดสายัณห์โดยวางแผนถล่มเวทีการแสดง หมวดคมเดชทราบเรื่องก่อน จึงขอร้องให้สายัณห์งดการแสดง แต่สายัณห์ไม่ยอมเพราะเห็นใจคนดู พวกนายห้างสุริยันมาถึงก่อนเวลาแสดงก็สั่งให้ลูกน้องยิงถล่ม เกิดการยิงต่อสู้กัน พินิจถูกเดือนยิงตาย สุระจะยิงสายัณห์ เดือนก็วิ่งเข้ามาขวาง จึงถูกกระสุนปืนแทน ตำรวจยิงสุระตายอีกคน นักร้องนักเลง จึงจบลงด้วยความเศร้าของสายัณห์ที่สูญเสียเดือนหญิงคนรักไป
เรื่องย่อ : คาดเชือก (2527/1984) เรื่องราวของหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอโพธิ์ทอง ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ถูกคุกคามด้วยอิทธิพลมืดของ นายทองคำ จนกระทั่งวันหนึ่ง บุญสม อดีตนักมวยคาดเชือกกลับมารับหน้าที่เป็นปลัดอำเภอคนใหม่ หลังติดคุกถึง 10 ปีจากคดีฆ่าคนตาย เมื่อเขามาเห็นความเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับชาวบ้าน บุญสมจึงตั้งตนเป็นศัตรูเพื่อหมายกวาดล้างอิทธิพลของเจ้าพ่อผู้นี้
เมื่อบุญสม (สรพงษ์ ชาตรี) นักเลงเก่าและเป็นนักมวยคาดเชือก ที่เคยชกคนจนตายออกจากคุกก็กลับมา เป็นปลัดที่บ้านเกิดตัวเองแต่ไม่ได้รับการยอมรับจากชาวบ้านเพราะเขาเคยทำไม่ดีไว้เยอะ แต่การกลับมาครั้งนี้เขาพยายามทำทุกอย่าง เพื่อความสงบสุขของคนในหมู่บ้านพยายามปราบปรามยาเสพติด โดยมีปลัดธนู (นิรุตต์ ศิริจรรยา) คอยให้ความช่วยเหลือ จนได้รับการยอมรับจากชาวบ้านและตำรวจที่เคยดูถูกปลัดบุญสมไว้
เรื่องย่อ : รักกันวันละนิด (2526/1983) ขอคารวะแด่ยอดศิลปิน "อโนเชาว์ ยอดบุตร" ผู้ได้รับอุบัติเหตุจากการแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้
หนึ่ง ต้อ อังคาร และเหมียว ถูกส่งตัวเข้าไปรับการอบรมที่โรงเรียนสอนมารยาท โดยมี วิไล เป็นคุณครู ป้าของวิได้หมายตา ชีวิน หนุ่มนักธุรกิจอนาคตไกลไว้ให้กับเธอ โดยที่ไม่รู้ว่าเธอกำลังคบกับเอก หนุ่มนักโฆษณา วิต้องไปทำงานกับชีวินตามคำสั่งของป้า ทำให้เอกรู้สึกห่างเหินกับวิมากขึ้น ส่วนวิเองก็เข้าใจว่า เอกกำลังจีบประพักสร ลูกสาวของเจ้านาย แล้วเอกหรือวิจะกลับมารักกันได้หรือไม่
เรื่องย่อ : สามอนงค์ (2526/1983) ศริน และ ฟองแก้ว ภรรยาและลูกสาวทั้งสองคือ สา กับ สุ ไปอยู่เชียงใหม่ โดยทิ้งลูกสาวคนเล็กไว้กับย่า ศรินป่วยและเสียชีวิต สาเป็นผู้ดูแลแม่กับน้อง ย่าให้ ภูมิ กับ ศิวะ มารับทั้งสอง และให้ศิวะแต่งงานกับสุ ทั้งที่ศิวะมีอ้อยอบเป็นภรรยาอยู่แล้ว ศิวะไม่ใส่ใจดูแลสุ ภูมิต้องคอยดูแลแทนเสมอ ศิวะถูกภูมิต่อว่า ในความคิดของศิวะ คิดว่าสุว่าเป็นนางบำเรอเท่านั้น สุเสียใจมาก เธอหนีไปเชียงใหม่ แต่ศิวะถึงรู้ว่าสุท้องจึงให้ย่าไปช่วยพูดให้ รวมถึงภูมิที่พอใจสา ทุกคนอภัยให้กัน และเริ่มชีวิตใหม่
เรื่องย่อ : เงิน เงิน เงิน (2526/1983) เรื่องราวของลูกชายนายทุนเงินกู้หน้าเลือดที่ได้รับมอบหมายให้ไปเก็บค่าเช่าที่จากชาวบ้านในชุมชนแออัด แต่เขากลับไปตกหลุมรัก แก้ว สาวสลัมจอมแก่น และเลือกที่จะอยู่ข้างชาวบ้าน เมื่อพ่อของเขาประกาศจะสร้างคอนโดมิเนียมและไล่พวกชาวบ้านไปจากพื้นที่แห่งนี้ ท่านขุนทองหิรัญโภคากิจ มีกิจการออกดอกเบี้ยรีดชาวบ้าน โดยให้ลูกชายคือ เกรียงไกรไปเก็บเงิน แต่กลับไปชอบสาวแก้ว และฉีกสัญญาทิ้ง ท่านขุนโมโหมาก เกรียงไกรย้ายไปอยู่กับชาวบ้าน และเดินขบวนเพื่อให้เลิกสร้างคอนโดมิเนียมในที่ของชาวบ้าน ท่านขุนยื่นเงื่อนไข ถ้าเกรียงไกรเข้าแข่งขันวงดนตรีชนะ จะยกหนี้ให้ทั้งหมด และจะไม่สร้างคอนโดมมิเนียมในที่ชาวบ้าน เกรียงไกรกับคณะก็ชนะการประกวดวงดนตรี
หลงเสียงนาง (2526/1983) ข้อความบนใบปิด พูนทรัพย์โปรดักชั่น โดย วิสิษฐ์ มิ่งวัฒนบุญ โอ้แม่เขียวใบเตย เจ้ามักลำเต้ย หรือว่าลำลง โอ้ยอ้ายซิ “หลงเสียงนาง” รักทะเล้น เพลงสนุก เพลงประทับใจ (รังสี ทัศนพยัคฆ์) กำกับการแสดง หลงเสียงนาง โชคชัย โชคอนันต์ พระเอกนักร้องลูกทุ่งเสียงใสหุ่นบาดใจสาว พบ มนฤดี ยมาภัย นางเอกวัยรุ่น พยัคฆ์ รามวาทิน, นิรุตติ์ ศิริจรรยา, (ธิติมา สังขพิทักษ์), (หมู สมภพ เบญจาธิกุล), (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี), สมควร กระจ่างศาสตร์, บู๊ วิบูลย์นันท์, จิรศักดิ์ อิศรางกูร, ราม, (สุวิน สว่างรัตน์), จันตรี สาริกบุตร, จุ่น, ติ่ง, รัตนาวดี, ด.ช.หนึ่งและเดอะ เซ้นท์ มหศักดิ์ สารากร สร้างบท นันทวัฒน์ กำกับบท ธีระ แอคะรัตน์ ถ่ายภาพ เพิ่มทรัพย์ มิ่งวัฒนบุญ อำนวยการสร้าง
เรื่องย่อ : สงครามปาก (2526/1983) อรรถวุฒิ และ พิมพิลา เป็นสามีภรรยาที่ทะเลาะเบาะแว้งกันตลอด อรรถวุฒิไม่พอใจภรรยาที่วิ่งเต้นให้เขาได้เบ็นสส. ด้วยความตั้งใจที่จะเป็นนักการเมืองมือสะอาด แต่พิมพิลาก็ไม่พอใจสามีด้วยเรื่องความเจ้าชู้ อีกทั้งหนึ่งในสาวๆ ของเขาอย่าง นาฎนรี ก็หมายมั่นปั้นมือที่จะครอบครองอรรถวุฒิให้ได้ เธอจึงวางแผนให้ทั้งสองได้มีปากเสียงกันจนถึงขั้นที่พิมพิลาจะขอฟ้องหย่า จะมีอะไรที่จะมาทำให้สงครามในครอบครัวครั้งนี้สงบลงได้
อรรถวุฒิ ได้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. โดยพิมพิลา ภรรยาเป็นผู้วิ่งเต้น เขาไม่ค่อยพอใจ เพราะต้องการชนะอย่างใสสะอาด อรรถวุฒิเป็นคนเจ้าชู้มีผู้หญิงหลายคน ทำให้มีเรื่องกับพิมพิลาบ่อยๆ นาฎนรี เป็นหญิงคนหนึ่งที่หมายมั่นจะจับอรรถวุฒิให้ได้ จึงประกาศต่อหน้าหลายๆ คนว่าจะเป็นเมียน้อยของอรรถวุฒิ
วันหนึ่งพิมพิลาจะเซ็นต์สัญญาเรื่องคอนโดจึงไปทานข้าวกับหุ้นส่วน อรรถวุฒิเห็นเข้าใจผิดเพราะความหึงหวงทำให้ ยิงหุ้นส่วน แต่พิมพิลาแย่งปืน จึงลั่นใส่เธอ พิมพิลาโกรธมาก เธอจึงฟ้องหย่า นาฎนรีได้โอกาสประกาศแก่พวกนักข่าว แต่อรรถวุฒิกลับไม่ใส่ใจต่อเธอ และไล่เธอไป พิมพิลาได้ลูกเป็นสื่อให้เธอกลับมาดีกับอรรถวุฒิอีกครั้ง