สยองขวัญ

เรื่องย่อ : เหมรย (2567/2024) หลังจากหย่าร้างกับสามี อลิส (เจนนี่ รัชชนก) ต้องรับหน้าที่แม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างเต็มรูปแบบ ในการดูแลลูกชายที่เธอรักมากสุดหัวใจอย่าง ออกัส (มังกร ฟาบริซโช่) เด็กหนุ่มวัยอยากรู้ อยากเห็น เขาเติบโตมาพร้อมกับคำถามที่อยู่ในใจตลอดมาเกี่ยวกับ เอ ( ซี ศิวัฒน์) พ่อของตนและเรื่องราวของตนเอง แม้แต่แม่ของเขาเองก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับพ่อของเขาเลย...เมื่อออกัสอายุครบ 15 ปี เรื่องราวลึกลับบางอย่างเริ่มติดตามตัวเขาทีละน้อย คำสั่งเสียของพ่อก่อนตาย กลายเป็นชนวนเหตุให้ออกัสพบกับความน่าสะพรึงกลัว จากอาถรรพ์ของมโนราห์ ที่พยายามดึงให้เขากลับไปรับรู้วิบากกรรมของตัวเอง ในขณะเดียวกัน อลิส ผู้เป็นแม่ที่เชื่อในเหตุผลและความถูกต้อง อลิส พยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาลูกชายที่เธอรักเอาไว้ แต่ยิ่งเธอต่อต้านและพาออกัสหนีห่างจากความเป็นจริงมากเท่าไหร่ เรื่องราวและเหตุการณ์เลวร้ายยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นจนทำให้ออกัสต้องตกอยู่ในอันตราย การตัดสินใจกลับไปค้นหาความจริงในอดีตจึงเริ่มต้นขึ้น โดยมีชีวิตและความกลัวเป็นเดิมพัน เมื่อประตูเรือนลำปำที่ตั้งเสาเข็มตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเปิดขึ้น ลุงเชิด ( สน สนธยา ) ผู้ดูแลเรือนลำปำคนเก่าแก่ที่กุมเรื่องราวทั้งหมดไว้ วิบากกรรมและคำสัตย์สาบานที่ติดค้างได้เริ่มทวงคืนความชอบธรรม ดวงวิญญาณอาถรรพ์ของมโนราห์ที่เรือนแห่งนี้ ได้พาทั้งสองชีวิตไปพบกับความกลัวและความรับผิดชอบที่ต้องแลกด้วยชีวิต ก่อนที่พิธีกรรมแก้เหมรยจะเริ่มขึ้น พิธีกรรมโบราณเพื่อตัดคำสาบานและบนบานที่ฝังอยู่ในจิตวิญญาณ ความจริงอันเจ็บปวดที่ตามหลอกหลอนอลิสค่อยๆเปิดเผยขึ้นทีละน้อย และในวินาทีสุดท้ายของชีวิต ออกัส ลูกชายอันเป็นที่รัก ความรักของเธอจะสามารถเอาชนะอาถรรพ์แห่งคำสัตย์สาบานที่กำลังจะพรากเขาไปได้หรือไม่ หรือสุดท้ายแล้วพิธีกรรมตัดเหมรย พิธีแก้บนอันศักดิ์สิทธิ์จะกลายเป็นกุญแจสำคัญไปสู่ความจริงที่ถูกปิดไว้ และรอวันทวงคืนอย่างสาสม

กุมาร (2566/2023) กุมาร ภาพยนตร์ดราม่าสยองขวัญ เล่าเรื่องราวของกิ่งที่พาลูกชายไปพักร้อนที่บ้านกลางป่า โชคร้ายมีชายแปลกหน้าบุกเข้าบ้านแล้วลักพาตัวลูกชายเธอไปพอกิ่งไปแจ้งความจึงจับได้ว่าชายคนนั้นชื่ออินเป็น สัปเหร่อที่วัด แต่สัปเหร่อคนนั้นบอกไม่ได้บุกเข้าบ้าน กิ่งหาหลักฐานเพื่อเอาผิดสัปเหร่อไม่ได้จึงตามหาพระธุดงค์ในป่าเพื่อขอความช่วยเหลือแต่กลับหลงป่าแล้วไปเห็นอินทำพิธีกรรมผ่าศพตายท้องกลมเพื่อเอาศพเด็กมาทำกุมาร อินไล่ล่ากิ่งจนทำให้เธอเสียสติ เมื่อนพแฟนของกิ่งมาหาที่บ้านพร้อมกับแพมพยาบาลที่ช่วยงานเขาอยู่ พบว่ากิ่งเสียสติเหมือนคนบ้า กิ่งหวงแหนกุมารที่ถือแน่นไว้ในมือและเชื่อว่าเป็นลูกของเธอที่หายตัวไป นพกับแพมจึงพยายามจับกิ่งส่งโรงพยาบาลบ้า และเกิดการต่อสู้กันภายในบ้านจนกลายเป็นโศกนาฏกรรม (ที่มา : sfcinemacity)

Waning Moon คนทรงผี (2563/2020) "ความน่าสะพรึงกลัวของหนังผีบรรยากาศไทย ๆ กำลังจะกลับมา" ณ หมู่บ้านเล็ก ๆ ในชนบทอันห่างไกลความเจริญ ที่ซึ่งความเชื่อเรื่องภูติผียังครอบงำ และมีอิทธิพลต่อชาวบ้าน คนทรงประจำหมู่บ้านอย่ำง นวลจันทร์ จึงมีอิทธิพลต่อความศรัทธาและเป็นที่เคารพกราบไหว้สูงสุดของชาวบ้านที่นั่น ด้วยประเพณีที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบรุุษ ลูกสาวคนโตของบ้านต้องถูกเลือกให้เป็นผู้สืบทอดหน้าที่คนทรง เธอจึงหมายมั่นและเลือก พลอย หลานสาววัยแรกรุ่นเพียงคนเดียวที่เธอมีอยู่ ให้ ทำหน้าที่ต่อจากเธอ นวลจันทร์จึงบังคับกดดันพลอยด้วยวิถีอันเคร่งครัด โดยเฉพาะการรักษาความบริสุทธิ์ ตลอดชีวิตไว้เพื่อหน้าที่นี้ แบบเดียวกับที่เธอเคยถูกเลือก ขณะที่พลอยได้เก็บซ่อนความต้องการอิสระของ ตัวเองมาตลอดชีวิต มีเพียงบัวเพื่อนสนิทในวัยเด็กที่เข้าใจและเป็นเหมือนความสขุเดียวที่ยังพอมีอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ จนกระทั่ง ตลุย์ เด็กหนุ่มหน้าตาดีที่จากหมู่บ้านนี้ ไปพบความเจริญของ โลกใหม่ภายนอกได้กลับมาอีกครั้ง ความผูกพันและมิตรภาพในวันเก่า ๆ ได้ก่อตัวขึ้น จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการท้าทายความน่าสะพรึงกลัวที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดของพิธีกรรมในคืนเดือนดับ ที่กำลังจะพาพวกเขาไปพบกับความลับของคนทรงและโลกของคนตายอันผิดบาปที่ถูกเก็บซ่อนไว้ภายใต้แววตาอำมหิตของป้าจันทร์ โดยมีชีวิตและวัยหนุ่มสาวของพวกเขาเป็นเดิมพัน

คนตายทำบุญ THE STORY OF THE DEATH (2562/2019) หมวดอ๊อด ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ลาดตระเวนชายแดนส่งลูกน้องปราบขบวนการยาเสพติด อยู่ทำภารกิจชายแดนหลายปี ห่างพ่อแม่มานาน จึงขอย้ายกลับเข้ากรุงเทพฯ หลายปีต่อมาย้ายตำแหน่งเป็นจเรตำรวจ พ่อกับแม่ก็เป็นกำลังใจให้ลูกชายตลอด ส่วนลูกสาว อี๊ด ไม่ค่อยจะถูกกับหมวดอ๊อดนัก หมวดอ๊อดเป็นคนที่โผงผาง ไม่ชอบใส่เครื่องแบบตำรวจ วันหนึ่งมุมานะสอบเป็นทนายความสำเร็จ พ่อแม่มาเป็นกำลังใจให้ พ่อกับแม่อยากอุ้มหลาน หมวดอ๊อดบอกกับพ่อแม่ว่าขออยู่ดูแลพ่อแม่ดีกว่า ไม่อยากให้มีปัญหากับลูกสะใภ้ พ่อกับแม่เป็นคนชอบทำบุญ หลายปีต่อมาพ่อกับแม่ก็ตายจากโรคภัย หมวดอ๊อดใช้ชีวิตอยู่บ้านคนเดียวไม่สมาคมกับคนข้างบ้าน วันหนึ่งหมวดอ๊อดถูกฆ่าตายในบ้าน ญาติไม่รู้เลยเป็นเวลา 6 เดือน และทางญาติรู้เข้าทำให้ทุกคนเสียใจ โดยเฉพาะพี่สาว ส้ม ปรึกษากับแม่แล้วว่าบ้านของน้าหลังนี้เอาไปถวายให้กับหลวงพ่ออนงค์ ส้มเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อในการปฏิบัติธรรม หลวงพ่ออนงค์บอกให้นัดแนะเครือญาติให้ไปนั่งสมาธิที่บ้านผู้ตายกันก่อน ทุกคนปฏิบัติตาม หลวงพ่ออนงค์พาทุกคนนั่งสมาธิสื่อสารจิตกับผู้ตายว่าต้องการถวายที่ดินให้กับวัด ส้มบอกว่าตอนนี้ที่ขายยาก จิตผู้ตายสื่อบอกให้ส้มไปจัดแจงขึ้นศาลเป็นผู้จัดการมรดกก่อน ส่วนที่ดินผีจะเป็นคนขายเอง การนั่งสมาธิของหลวงพ่อล่วงรู้ในนิมิตว่า หมวดอ๊อดถูกฆ่าปาดคอตาย แล้วใช้มนตร์ดำปกปิดเอาไว้ เพื่อกักขังวิญญาณ และไม่ให้ใครได้กลิ่นซากศพเลยทั้ง ๆ ที่อยู่ในชุมชน ผู้กองมณฑปมีสีหน้าตกใจ เพราะภาพที่เห็นช่วงที่ผู้กองไปพบศพนั้นเปิดประตูเข้าไปหัวกะโหลกก็หลุดมาจากคอ เนื่องจากทางตำรวจพิสูจน์การตายไม่ได้ ส้ม พร้อมครอบครัว ได้ตกลงกันเงินที่ได้จากการขายที่ 3 ล้าน ทำเป็นกฐิน 70 ผ้าป่า 30 เปอร์เซ็นต์ มอบให้กับวัด หลายเดือนต่อมาวิญญาณของผู้ตายอยากทำบุญโดยสื่อสารมากับหลวงพ่ออนงค์ บอกให้ญาติจัดพิธีบวชนาคหมู่ให้แด่ตนที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่ดวงวิญญาณยังอยู่ต้องการทำบุญต่อไป คดีของหมวดอ๊อดก็ต้องถูกปกปิดจากการตายแบบปริศนาต่อไป เพราะหลวงพ่ออนงค์บอกอย่าไปจองเวรกัน ให้เรื่องมันจบเพียงนี้ ผู้ตายก็ตายไปแล้ว