Macabre Case of Prompiram คืนบาป พรหมพิราม (2546/2003)  “พรหมพิราม” เป็นชื่ออำเภอเล็กๆ ในจังหวัดพิษณุโลก ศพของหญิงสาวคนหนึ่งถูกพบที่ริมทางรถไฟในอำเภอแห่งนี้ การตายของเธอคล้ายกับว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่ท้ายที่สุดจากการสืบสวนของตำรวจถึงเหตุการณ์สืบเนืองอันน่าขยะแขยงที่ไปไกลเกินความคาดหมายก็ได้เปิดเผยออกมา พบว่าเธอชื่อ “สำเนียน” หญิงสาวชาวบ้าน ผู้ซึ่งตกเป็นเหยื่อของความหื่นของพวกผู้ชายเกือบทั้งตำบล ตอนมีชีวิตเธอเป็นคนมีสติไม่ค่อยสมประกอบ และได้ดั้นด้นออกจากภูมิลำเนาเพื่อไปหาสามีที่จังหวัดอุตรดิตถ์โดยรถไฟ แต่ถูกไล่ลงจากขบวนรถที่สถานีรถไฟ อ.พรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก เนื่องจากไม่มีเงินตีตั๋วรถไฟ แต่ไม่รู้เลยว่าจะเป็นการลงรถไฟเที่ยวสุดท้ายในชีวิต เมื่อมีคนพบศพของหญิงสาวดังกล่าวเสียชีวิตโดยปริศนาที่รางรถไฟในเวลาต่อมา เรื่องราวในภาพยนตร์จับความในวันท้ายๆ ของ “สำเนียน” เปิดเผยการตกเป็นเหยื่อที่ถูกรุมโทรมอย่างโหดร้าย เหตุการณ์สืบเนื่องที่ทำให้เธอเหมือนตกลงไปหลุมขวาก ตลอดจนการตายของเธอสะท้อนให้เห็นถึงความความเลือดเย็นที่มนุษย์กระทำต่อมนุษย์ด้วยกัน ความเสื่อมทรามในก้นบึ้งของจิตใจมนุษย์ถูกตอกย้ำให้เห็นในภาพยนตร์เรื่องนี้จะรบกวนและแม้กระทั่งท้าทายผู้ชมให้ตระหนักถึงมหันตภัยที่ผู้หญิงถูกคุกคาม เรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องหนัก แต่วิธีการนำเสนอในภาพยนตร์ได้ดำเนินไปโดยอาศัยกลเม็ดที่ชวนให้ติดตามอย่างเร้าใจ การเคลือบด้วยอารมณ์ขันทำให้การชมเป็นไปด้วยความราบรื่นโดยไม่เสียประเด็นนั้นเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ ผู้กำกับ “มานพ อุดมเดช” เลือกใช้องค์ประกอบทางด้านเทคนิคพื้นฐานของภาพยนตร์ทั้งในด้านการตัดต่อ, เทคนิคทางด้านภาพ, ดนตรีประกอบ ฯลฯ บอกเล่าเหตุการณ์อย่างมีชั้นเชิงคล้ายกับการปลอกหัวหอมที่จะนำไปสู่ใจกลางของหัวหอม ภายใต้การโปรดิวซ์โดย “ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล” ยกทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์แห่งสยามประเทศอย่าง “สุริโยไท” มาผลิตเป็นผลงานที่น่าจับตา ซึ่งรวมถึง “ริชาร์ด ฮาร์วีย์” คอมโพสเซอร์ระดับโลก (Animal Farm, สุริโยไท) มาถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครและบรรยากาศที่น่าสะเทือนใจลงบนตัวโน้ตในภาพยนตร์แนวอาชญกรรมชีวิตระทึกขวัญเรื่องนี้ “สารวัตรหนุ่มใหญ่” (สมภพ เบญจาธิกุล) ที่มากด้วยไหวพริบ และ “ผู้หมวดหนุ่มหน้าใหม่” (กมล ศิริธรานนท์) ที่เพิ่งย้ายราชการมาใหม่ต้องรับผิดชอบคดีการเสียชีวิตของ “หญิงสาวไม่ทราบชื่อ” (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) เมื่อเข้าไปรับผิดชอบคดีที่ดูเหมือนเป็นการเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ แต่พอเข้าไปใกล้รูปคดีมากยิ่งขึ้นกลับพบเงื่อนงำบางอย่างที่บ่งบอกว่านี่คือคดีฆาตกรรมที่อื้อฉาวที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งดึงเอาผู้คนหลากอาชีพหลายวัยจากชนชั้นต่างๆ ในอำเภอนั้นถึง 30 ชีวิตเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของหญิงสาวรายดังกล่าวภายใต้คดีฆาตกรรมข่มขืนกระทำชำเราหาใช่อุบัติเหตุอย่างที่บางคนคิด ภายใต้แรงกดดันที่ถูกเร่งเร้าจากทุกทิศทางทำให้สารวัตรต้องเร่งคลี่คลายประเด็นและสรุปรูปคดีให้เร็วที่สุด ภายใต้เส้นตายที่ถูกกำหนดและเร่งรัดจากเบื้องบน…
เขาชื่อกานต์ (2531/1988) กานต์ นายแพทย์ที่ยึดอุดมคติ เข้าฝึกงานที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เขาคิดที่จะสู้เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม แต่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้เตือนเขา ให้ทำงานตามที่เรียนมาอย่างเดียว วันหนึ่งเขาได้พบรักกับ หฤทัย แต่เธอมีแฟนอยู่แล้วชื่อโตมร โตมรได้มอบแหวนแทนรักก่อนเดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศ ในระหว่างนี้ หฤทัยป่วยเป็นไส้ติ่งอักเสบกะทันหัน เธอได้รับการรักษาจากหมอกานต์ และได้รับการดูแลด้วยใจของหมอกานต์จนเกิดเป็นความรัก หมอกานต์บอกหฤทัยว่าเขาไม่ใช่คนรวย หลังจากแม่ตาย พ่อก็ขายที่นาให้เขาเรียนต่อ จากนั้นพ่อก็บวช และตอนนี้เขาต้องไปเป็นหมอที่บ้านชนบท ในที่สุดทั้งสองก็หมั้นกัน และแต่งงานไปอยู่ที่ชนบทด้วยกัน เมื่อโตมรทราบก็โกรธอย่างมาก และได้บอกหฤทัยว่า หากหมอกานต์ไม่รักแล้วให้บอกเขา เขาจะไปรับทันที หมอกานต์ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ยึดมั่นอุดมการณ์ จนทำให้เป็นที่ขัดแย้งกับข้าราชการฉ้อราชบังหลวงหลายฝ่าย โดยเฉพาะนายอำเภอ วันหนึ่งหมอกานต์กับหฤทัยทะเลาะกันอย่างแรง ด้วยเรื่องที่ว่าหฤทัย ชวนกลับกรุงเทพฯด้วยเหตุผลที่ว่าปัญหาเกิดกับหมอมากมายเหลือเกิน หมอคนเดียวไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทั้งอำเภอได้ แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ จากหมอกานต์ เพราะหมอทิ้งคนไข้ไปไม่ได้ สร้างความน้อยใจให้หฤทัยอย่างมาก เธอจึงหนีไปกรุงเทพฯ โดยที่โตมรได้ทราบข่าวจึงขอร้องให้หฤทัยไปทานข้าวด้วย จากนั้นก็เกิดการทะเลาะกันขึ้น เพราะหฤทัยไม่อยากยุ่งกับโตมร ทำให้โตมร ขับรถเสียหลัก หฤทัยหมดสติไป และจำความไม่ได้ จนหมอกานต์มาฟื้นความจำให้เธอ และทั้งสองก็กอดกันด้วยความอบอุ่น สร้างความอิจฉาให้โตมรอย่างมาก โตมรจึงให้ผู้อำนวยการ ภักดี ให้ทุนเรียนต่อต่างประเทศกับหมอกานต์ หวังเพื่อจะกำจัดหมอกานต์ไป แต่หมอกานต์ไม่ไป เช้าวันรุ่งขึ้นหมอกานต์ไปรับ กำลังจะลงเรือไปรับหฤทัยกลับ ขณะที่กำลังจะลงเรือ ผดุงครรภ์ให้คนมาตามหมอให้ไปทำคลอดคนไข้ หมอจึงขอให้คนเรือรอ จากนั้นเสียงปืนแผดก้องทั่วคุ้งน้ำ ลมหนาวกระโชกสะท้านหัวใจ ฝูงนกแตกฮือ เหมือนมีภัยเกิดขึ้น

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ