ตลก
แหยม ยโสธร 3 (2556/2013) เวลาแห่งความสุขก็ได้ล่วงเลยผ่านฝน ผ่านหนาว ผ่านร้อนมาอีกหลายฤดู บักแหยม (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) ผู้มีรักจริงกับ เจ้ย (กัญญ์ชัญญ์ เธียรวิชญ์) สาวผู้รักมั่นคงมิเคยเสื่อมคลาย ลูก ๆ ก็โตจนเรียนจบหรือไม่ก็ออกเรือนกันไปหมด เหลือแค่เพียง คำผาน (เพทาย วงษ์คำเหลา) ที่ยังเรียนไม่จบ ซ้ำชั้น ม.ศ.5 มาสามปี สร้างความระทึกใจให้กับ กำนันแหยม และ เจ้ย เรื่อยมา จนกระทั่ง คฑาเทพ (กฤตฤทธิ์ บุตรพรม) ลูกชายอีกคนของ กำนันแหยม กำลังจะเรียนจบกฎหมาย กลับมาเยี่ยมบ้านช่วงปิดเทอม ในระหว่างเดินทางกลับบ้านนั้น คฑาเทพ ก็ได้พบกับ รำพัน (อิงฟ้า เกตุคำ) หญิงสาวที่เดินทางกลับมาพร้อมกันโดยบังเอิญ และทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกเห็น ความรักของทั้งคู่คงจะผลิบานอย่างที่ควรจะเป็น หากแต่ว่า รำพัน ดันเป็นลูกสาวคนโตของ กำนันปอย (เฉิน เชิญยิ้ม) เพื่อนรักเพื่อนแค้นในอดีตที่ไปแย่งแฟนเก่าของ แหยม มา นั่นคือ รำพึง (เอ็นดู วงษ์คำเหลา) ซึ่งยังมี รำเพย (รัตติยาภรณ์ ภักดีล้น) ลูกสาวอีกคนที่เป็นถึงดาวประจำโรงเรียนที่ คำผาน ดันตกหลุมรักเข้าให้อีก แล้วมีหรือที่ คำผาน จะพลาดการชิงชัยรักนี้ โอ้ละหนอ ความรักของรุ่นลูกที่พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายกีดกันไม่เห็นด้วย มันจะลงเอยแบบไหนกันล่ะเนี่ย แถมยังมีเรื่องราวความรักสุดแสบ หักเหลี่ยมเฉือนคม รักซ้อนซ่อนเงื่อนของรุ่นพ่อแม่ให้ต้องติดตามกันต่ออีก ได้อลวนครื้นเครงอลเวงม่วนฮักจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูกกันแบบยกกำลังสามล่ะคราวนี้
ฤดูที่ฉันเหงา (Love in the Rain) (2556/2013) เป็นไปไม่ได้เลยที่คนคนหนึ่งจะตัดผมได้ทุกวัน แต่สำหรับ นารา (นารา เทพนุภา) สาวมัธยมวัยใสที่หัวใจกำลังเป็นสีชมพู เธอสามารถเดินเข้าออกร้านตัดผมได้เป็นว่าเล่น เพียงเพราะกำลังตกหลุมรัก เดซี่ (ธีรชัย วิมลชัยฤกษ์) หนุ่มหล่อมาดนิ่งเจ้าของร้านตัดผมใกล้บ้าน ผู้ซึ่งทำอะไรก็ดูดีไปหมด เช่นเดียวกับ คุง (เฉลิมพล ทิฆัมพรธีระวงศ์) หนุ่มน้อยร่างใหญ่นิสัยมึน ๆ ที่ทำตัวเป็นเงาตามตัว นารา แทบจะเรียกได้ว่ามี นารา ที่ไหนก็ต้องมีเงาของ คุง ที่นั่น ไม่ผิดเป็นแน่! เงาก็คือเงา เพราะ คุง เองก็ไม่เคยจะคิดเสนอหน้าให้ นารา ได้ตกใจเล่น คุง จึงไม่เคยมีตัวตนในสายตาของ นารา เลย มันคงเดาได้ง่ายดายถ้าให้ นารา เลือกระหว่าง คุง กับ เดซี่ แต่ความรักมันไม่ได้ยอมให้ใครมีสิทธิ์เลือก เมื่อ เดซี่ เองก็ยังคงมีสาวลึกลับ แจน (จินตนัดดา ลัมะกานนท์) สาวเซอร์มาดนิ่งที่แอบมาวิ่งเล่นให้ป่วนหัวใจ แจน มักใช้ร้านตัดผมของ เดซี่ เป็นที่หลบหนาวจากสายฝนเสมอ การที่ได้พูดคุยถกเถียงปัญหาต่าง ๆ กันขณะตัดผมก็ทำให้ทั้งคู่เกิดความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อกัน แต่เหมือนว่า เดซี่ จะเป็นฝ่ายหยิบยื่นความรู้สึกดี ๆ ให้ แจน อยู่ฝ่ายเดียว ส่วน คุง ก็เริ่มหันไปสร้างความสนิทสนมกับ นักดนตรีอิสระ (วรเวช ดานุวงศ์) เจ้าของบ้านที่อยู่ตรงข้ามบ้าน นารา ที่มักจะออกมาเล่นดนตรีเปิดหมวกให้คุงได้พบเจอแค่ตอนฝนตก เพราะเป็นเวลาเดียวที่เขาจะออกจากบ้านเพื่อมารอคอยใครบางคนที่เขาเคยเจอแค่เพียงครั้งเดียว และยังแอบหวังว่าเธอคนนั้นจะย้อนกลับมาหลบฝนตรงหน้าเขาอีกสักครั้ง เมื่อการที่ได้สนิทสนมกับ แดน ทำให้ คุง มีโอกาสเสนอหน้าให้ นารา ได้ตกใจเล่นอยู่บ่อย ๆ โดยที่ แดน เองก็เหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไร คุง แต่อย่างใด หรือว่าช่วยทางอ้อม! เพราะตำแหน่งของบ้าน แดน สามารถมองเห็นบ้าน นารา ได้อย่างชัดเจน เลยเหมาะอย่างยิ่งที่จะเอาไว้ให้ คุง แอบส่อง นารา นั่นก็คือเหตุผลที่ คุง เลือกที่จะตีซี้กับ แดน แต่ แดน อยากจะซี้ด้วยไหม นั่นก็อีกเรื่อง บทสรุปความรักของพวกเขาจะเป็นยังไง ฝนที่ตกลงในใจพวกเขาจะพาความชุ่มฉ่ำหรือความเศร้ามาให้ รักครั้งแรกของ นารา จะมีน้ำตาไหม รักแอบ ๆ ที่แทบจะไม่เหลือเปอร์เซ็นต์ให้สมหวังของ คุง รักที่รู้จักกันผ่านบทสนทนาระหว่างตัดผมของ เดซี่ และ แจน จะพัฒนาต่อไปได้ไกลแค่ไหน และการรอคอยความรักของหนุ่มนักดนตรีจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่