ตังเก (2498)
ตังเก (2498/1955) ในเขตจังหวัดสมุทรปราการมีชาวประมงสองกลุ่มเป็นคู่แข่งกันในการจับปลา กลุ่มแรกนำโดย กังวาล เจ้าของเรือสิงห์สมุทรซึ่งให้ ทองหล่อ ลูกชายทำหน้าที่ควบคุมเรือ และให้ ผา เป็นไต้ก๋งเรือ อีกกลุ่มควบคุมโดย เม้ง มีลูกชายชื่อ ยี่ปลิว เป็นผู้ดูแลกิจการและมี จ่าย เป็นไต้ก๋ง ทองหล่อคบหาอยู่กับ หงษ์ฟ้าลูกสาวของเม้ง ส่วนยี่ปลิวหลงรักสร้อยแต่สร้อยกลับไปชอบผา เป็นเหตุให้ยี่ปลิวหาเรื่องทองหล่อกับผาอยู่เนืองๆ วันหนึ่งผาโดนสร้อยปฏิเสธจึงหนีกลับไปชุมพรบ้านเกิดเพราะเข้าใจผิดคิดว่าสร้อยไม่สนใจตน เมื่อถึงฤดูมรสุม ชาวตังเกต้องย้ายไปหาปลาในเขตปากน้ำชุมพร ยี่ปลิวกับจ่ายวางแผนกำจัดทองหล่อโดยให้ฉายไปสมัครเป็นไต้ก๋งเรือสิงห์สมุทร ในขณะที่ออกเรือฉายก็แอบตีศีรษะทองหล่อตกทะเล กัลปังหา ชาวเกาะพบทองหล่อโดยบังเอิญจึงช่วยชีวิตไว้ ผารู้ข่าวว่าทองหล่อพยายามสืบหาคนร้าย ฉายกลัวจะถูกจับได้จึงไปขอเงินค่าแรงกับยี่ปลิวแต่กลับโดนฆ่าปิดปาก ยี่ปลิววางแผนกับจ่ายจะฉุดสร้อย จ่ายยอมร่วมมือแต่มีข้อแม้ว่าขอหงษ์ฟ้าเป็นสิ่งตอบแทน ยี่ปลิวรับคำด้วยความไม่เต็มใจ คืนนั้น ทองหล่อมองเห็นสำเภาใหญ่ทอดสมออยู่จึงไปขอให้กัลปังหาพายเรือไปส่ง ส่วนยี่ปลิวหลังจากฉุดสร้อยมาได้ก็หักหลังฆ่าจ่ายทิ้ง เมื่อทองหล่อมาถึงเรือสำเภาจึงได้รู้ว่าเป็นเรือของเม้ง และถูกลูกน้องของเม้งทำร้าย ขณะนั้นเอง ผาพร้อมพวกชาวเกาะมาช่วยทองหล่อเม้งเห็นท่าไม่ดีคว้าดาบจะมาแทงทองหล่อแต่หงษ์ฟ้าเอาตัวมาขวางถึงแก่ความตาย เม้งเสียใจจึงฆ่าตัวตายตามทำให้เหตุร้ายสงบลง สร้อยปรับความเข้าใจกับผาทองหล่อกลับไปหากัลปังหา ซึ่งก็คือน้องสาวของผานั่นเอง
สิงห์ท่าเรือ (2498/1955) เมื่อสิงห์ กับเสือ ต้องมาเจอกัน มันก็หมายถึง เลือด เท่านั้น แต่ว่า สิงห์จะล้างเสือ หรือ เสือจะล้างสิงห์ นิยายรักที่ร้อนแรง เต็มไปด้วยการต่อสู้ เยี่ยงนักเลง ทั้งหมัด และกระสุนปืน ดุเดือด
ยอดคน (2498)
ยอดคน (2498/1955) ภูมิ สีหราช ขุนโจรนักแม่นปืนยอมมอบตัวกับตำรวจเพราะอยากจะเลิกเป็นโจร แต่ถูกกำนันอุ่น พ่อของ เกษรา คนรักล้อมยิง จึงหนีออกจากสามร้อยยอดและได้พบกับ หมอชวลิต ซึ่งชวนภูมิมาทำงานด้วย หมอชวลิตมอบหมายให้ภูมิช่วยดูแลงานแทนระหว่างที่ตนเดินทางไปกรุงเทพ ไม่กี่วันหลังจากนั้นปฐมสุข กับ เชิดชาย เพื่อนของ สุมาลย์ ภรรยาของหมอชวลิตก็เดินทางมาเพื่อขอซื้อที่ดิน แต่ภูมิไม่ยอมเพราะเห็นความไม่ชอบมาพากล หลังจากที่ภูมิหายตัวไป ก้าน รุ่งดี ก็ร่วมมือกับกำนันอุ่นเข้ายึดครองสามร้อยยอด เกษรารวบรวมคนเก่าแก่ของภูมิเพื่อจะต่อสู้แต่ถูกก้านจับตัวไป เกิด พลายแก้วสมุนเก่าซึ่งจงรักภักดีต่อภูมินำกำลังบุกรังของก้าน และเข้าไปช่วยเกษราไว้ได้ เกษรากับเกิดจึงเริ่มออกตามหาภูมิและได้พบกันในที่สุด ปฐมสุขวางแผนฆ่าหมอชวลิตแต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาของภูมิ เมื่อช่วยหมอชวลิตได้แล้ว ภูมิจึงกลับไปชำระแค้นและได้ครองรักกับเกษราในที่สุด
สิงห์ สาว เสือ (2498)
สิงห์สาวเสือ (2498/1955) หนึ่ง รักระหว่างพี่กับน้อง สอง รักระหว่างชายกับหญิง กว่าจะรู้ว่ารักแท้ตกอยู่กับฝ่ายไหน ก็ต้องละเลงกันด้วยเลือด รักระหว่างกระสุนเหล็ก ตื่นเต้น เร้าใจ
สามเสือ (2498)
สามเสือ (2498/1955) ล้างอ้ายเสือครั้งใหญ่ ยิงกันสนั่นกรุง ตะลุมบอนกันบนบกและในน้ำ หมัดต่อหมัด ปืนต่อปืน
เสือน้อย (2498)
เสือน้อย (2498/1955) ดู.. ลูกหม่อมเจ้า ตกอยู่ในเงื้อมมือขุนโจรเจ้าสมุทร ต้องกลายเป็นสลัดใจเหี้ยมชื่อชั่วก้องท้องน้ำ เป็นพรานทะเลล่าสมบัติและชีวิตมนุษย์.. พรานพร่าผู้หญิงแม้ที่สุดน้องสาวร่วมสายโลหิต ดู.. พ่อ-เจ้า พบลูกสลัดเชื้อเจ้า ผลัดกันพบและพลัดกันซบสะอื้นเมื่อสายเสียแล้วที่บุญพ่อสิ้นทางจะอุปถัมภ์อุ้มชูสายเลือดตนไว้ได้ ดู.. กองเรือสลัดปะทะกองเรือตำรวจน้ำดุเดือดสะท้านชล ที่เกาะนางคำ อันเป็นที่ที่ เสือใหญ่และ เสือน้อย สองโจรสลัดพ่อลูกใช้เป็นที่ปล้นทรัพย์เรือสำราญที่เดินทางมาท่องเที่ยวยังแถบนี้ ไม้เว้นแม้แต่เรือของ ม.ร.ว.ศิรินิรันดร์ ลูกสาว กับ ม.ร.ว.นเรนทร์ หลานชายของ พลเรือโท ม.จ.นิรันดร์ฤทธิ์ ธำรง ก็ตกเป็นเหยื่อด้วยเช่นกัน นเรนทร์พยายามใช้ไหวพริบพูดจาหว่านล้อมให้เสือน้อยเปลี่ยนใจ แต่ กัปตันเมือง กลับหักหลัง กำจัดเสือน้อยลงทะเล ทว่ากัปตันเมืองก็ไม่สามารถลอยนวลต่อไปได้ เมื่อเสือน้อยพาสมุนมาแก้แค้นแล้วจับทุกคนบนเรือเป็นตัวประกัน ปล่อยให้นเรนทร์กลับกรุงเทพเพียงคนเดียว นเรนทร์เก็บความแค้นไว้ในใจ แล้วตั้งหน้าตั้งตาร่ำเรียนเป็นตำรวจเพื่อจะกลับมาแก้แค้นเสือน้อยท่ามกลางโจรสลัดที่โหดเหี้ยม ศิรินิรันดร์ หญิงสาวเพียงคนเดียวจึงตกเป็นเป้าสายตาของบรรดาโจรสลัดอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ในที่สุด คืนหนึ่ง ศิรินิรันดร์ก็ถูก เสือเมฆ เข้าบุกปล้ำ เคราะห์ดีที่เสือน้อยมาช่วยไว้ทัน เสือเมฆเจ็บใจไปชักชวนกัปตันเมืองและชวน เทิ้ม หัวหน้าเกาะ จับตัวศิรินิรันดร์เรียกค่าไถ่ 100,000 บาทจาก ม.จ.นิรันดร์ฤทธิ์ โดยอ้างชื่อเสือน้อย เรื่องราวกลับตาลปัตรเพราะเสือน้อยเป็นลูกของ ม.จ.นิรันดร์ฤทธิ์ ที่เกิดจากดรรชนี สาวชาวเกาะเมื่อหลายปีก่อน ม.จ.นิรันดร์ฤทธิ์ รีบเดินทางไปเกาะนางคำโดยมีเสือเมฆและกำนันเทิ้มนำทาง เสือใหญ่และเสือน้อยนำสมุนมาคอยดักจัดการกับเสือเมฆได้ทัน แล้วยังปล่อยตัวศิรินิรันดร์โดยไม่เรียกร้องค่าตอบแทนใดๆ แต่แล้ว ม.จ.นิรันดร์ฤทธิ์ กลับขอซื้อตัวเสือน้อย ความจริงจึงถูกเปิดเผยขึ้น เสือใหญ่ยืนกรานไม่รับข้อเสนอ ส่วนเสือน้อยด่าทอ ม.จ.นิรันดร์ฤทธิ์ ที่ทิ้งแม่อย่างไม่เหลียวแล ทันใดนั้นเอง นเรนทร์ได้นำกำลังตำรวจน้ำมาบุกทำลายซ่องโจรสลัดเกาะนางคำ เสือน้อยจึงฉวยโอกาสจับตัวศิริ-นิรันดร์แล้วหนีไปซ่อนตัวในกระท่อมซึ่งเคยเป็นที่อยู่ของดรรชนี แต่พอรุ่งสาง นเรนทร์ก็ตามมาพบและเกิดการดวลปืนขึ้น แม้นเรนทร์จะเป็นฝ่ายได้เปรียบแต่ก็ไม่ยอมยิงเสือน้อย เสือน้อยชิงปืนมาได้ แทนที่จะยิงนเรนทร์กลับใช้ปืนจบชีวิตอันอาภัพของตน
คนจริง (2498)
คนจริง (2498/1955) อัมพร ประทีปเสน มาในบทบาท "มือปืน" เป็นภาพยนตร์สีธรรมชาติ บู๊ ดุเดือด ถึงใจ ดูคนจริงพบกับคนจริง บุกกันแค่แหลก ตลุยกันเสมอตาย (ที่มา: นิตยสารข่าวภาพยนตร์ มกราคม พ.ศ. 2498)
สามเสือสมุทร (2497)
สามเสือสมุทร (2497/1954) เนื้อเรื่อง หนักไปในเรื่องชาติเหมาะสมกับเหตุการณ์อนาคต ซึ่งไทยประเทศอาจจะต้องประสบก็อาจเปนได้ แสดงให้เห็นถึงความรักชาติไทยของเหล่าลูกนาวี เน้นให้เห็นถึงความรักระหว่างอากับหลานระหว่างชาติไทยอันเปนสุดที่รักของเขา แสดงให้ซึ้งถึงชีวิตของลูกดอกประดู่ซึ่งจะไม่รู้วันโรย การยกพลขึ้นบุก ยุทธวิธีการโจมตี ฯลฯ (ที่มา: นิตยสารข่าวภาพยนตร์ พฤษภาคม พ.ศ. 2497)
มงกุฏไพร (2496)
มงกุฏไพร (2496/1953) ชม! การต่อสู้บนหลังม้าทั้งกองทัพฟันดาบอย่างถึงใจ พร้อมบท รัก-ริษยา ของสองหญิง (ที่มา: นิตยสารผดุงศิลป์ กันยายน พ.ศ. 2496)
สมิงเหล็ก (2496)
สมิงเหล็ก (2496/1953) นาทีสุดท้ายอยู่ที่ดาบ! พอกลแตก วายร้ายก็เตรียมบุก แต่ในที่สุด...พ่ายราบเป็นหน้ากอง! ฟันดาบ-หมัดมวย-รักแซกขบขัน-ครบทุกรส
สองเสือสาว (2496)
สองเสือสาว (2496/1953) สองสาวร่วมซ่องเสือ (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน สยามรัฐ 30 เมษายน พ.ศ. 2496)
เกาะเทพบุตร (2496)
เกาะเทพบุตร (2496/1953) อยู่เกาะต้องสู้ สาวนักสู้ จึงรักชาวเกาะ (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน สยามรัฐ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2496)
พรานนาวี (2496)
พรานนาวี (2496/1953) หลังเสร็จสิ้นการรบ นาวิน และเชิดชัย สองนักเรียนนายเรือเพื่อนรัก ก็ขึ้นฝั่ง ณ หาดหัวหินเพื่อพักผ่อนกันตามประสา ทว่าทั้งสองกลับต้องมามีเรื่องกินแหนงแคลงใจกัน เมื่อทั้งนาวินและเชิดชัยเกิดไปตกหลุมรักผู้หญิงคนเดียวกัน เธอคนนั้นคือ วันเพ็ญลูกสาว นายบุญลือ พ่อค้าของเถื่อน แต่แล้วนาวินก็เป็นฝ่ายพิชิตใจของวันเพ็ญไปพร้อมกับการได้รับกระบี่เป็นนายเรือ สวนทางกับเชิดชัยที่ช้ำรักจนสอบตกและต้องสอบใหม่จนได้ยศที่ต่ำกว่านาวิน แต่ก็ใช่ว่านาวินจะสมหวังไปทุกอย่าง เมื่อนายบุญลือหมายจะยกวันเพ็ญให้ เสี่ยเส็ง คู่ค้าของตน ด้วยกลัวว่านาวินจะมารู้เห็นการค้าผิดกฎหมายของตน จึงพาวันเพ็ญหนีมาอยู่หมู่บ้านชายทะเลแห่งหนึ่ง เมื่อนาวินกับเชิดชัยเวียนมาพบกันอีกครั้ง แม้ทั้งสองจะเคยบาดหมางใจกัน ก็ยอมร่วมมือเพื่อช่วยวันเพ็ญให้พ้นจากเงื้อมมือของนายบุญลือและเสี่ยเส็ง จนนาวินต้องถูกเหล่าร้ายจับเป็นตัวประกัน การต่อสู้จึงเกิดขึ้น
อวสานขุนโจร (2495/1952) ภาพยนตร์ประเภทดุเดือด เรื่องบู๊ที่ไม่อยู่แนวหลังเรื่องบู๊อื่น (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน สยามรัฐ 19 กันยายน พ.ศ. 2495)
ขุนศึก (2495)
ขุนศึก (2495/1952) เรื่องราวของ เสมา ช่างตีดาบที่อยากเป็นทหารรับใช้ชาติ ในสมัยพระนเรศวรมหาราช เสมามีฝีดาบในการต่อสู้เป็นเลิศ พันอินทราช พบเข้าก็ถูกชะตา และฝากให้เป็นทหารกับ ขุนราม แต่กลับต้องเป็นไม้เบื่อไม้เมากับ หมู่ขัน ทั้งเรื่องงานและเรื่องความรัก ทั้งสองหลงรัก เรไร ลูกสาวของขุนราม แต่เรไรนั้นมีใจเอนเอียงให้เสมา หมู่ขันจึงหาเรื่องใส่ร้ายจนเสมาถูกขุนรามลงโทษหลายครั้งหลายครา แม้ว่าเสมาจะเป็นกำลังสำคัญในการสู้รบกับหงสาวดี แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้ขุนรามนั้นเห็นใจเสมาได้เลย ครั้งหนึ่งในการสู้รบกับฝ่ายหงสา เสมาได้ปราบหงสาจนแตกทัพและล่าถอยไป จึงได้ความดีความชอบเป็นหมื่นศึก และตั้งใจกลับมาหาเรไร แต่ก็โดนหมู่ขันกล่าวหาให้ร้ายทั้งคู่ จนขุนรามเกิดความอับอายอย่างมากจึงจับตัวเรไรไปขัง เมื่อเสมาทราบเรื่องก็ตามไปช่วยเรไรออกมาแม้ต้องต่อสู้กับทัพของขุนรามก็ตาม
ล่าทรชน (2495)
ฤกษ์โจร (2495)
ฤกษ์โจร (2495/1952) หลังจากที่ วันชัย, ธาตรี, ขวาน และ ชู ได้รับการปล่อยตัว สี่นักโทษต่างแยกย้ายกันไปใช้ชีวิต วันชัยกลับตัวเป็นพลเมืองดี ตั้งใจจะทำไร่หากินอย่างสุจริต ธาตรีซึ่งรักสันโดษขอไปล่าสัตว์หาของป่าขาย ส่วนชูไม่มีเป้าหมายใดๆ ขอให้กินอิ่มทุกมื้อเป็นพอ และขวานขอกลับไปใช้ชีวิตเยี่ยงเสือตามเดิม วันหนึ่ง ลุงผัน มาขอความช่วยเหลือจากวันชัย เพราะถูก เสือขวาน ปล้นทรัพย์แล้วฉุดคร่าลูกสาวของลุงผันไปอีกด้วย วันชัยสั่งลูกน้องไปตามเสือขวานมาเจรจา แต่กลับโดนเสือขวานยั่วโมโห มิหนำซ้ำยังพูดจาลวนลาม เต็มรัก ที่เผอิญแวะมาเยี่ยมวันชัย วันหนึ่ง วันชัยได้พบกับ พรทิพย์ เจ้าของที่ดินที่วันชัยเช่าอยู่โดยบังเอิญ วันชัยอาสาพาพรทิพย์ไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ความใกล้ชิดสนิทสนมของทั้งสองทำร้ายจิตใจเต็มรักที่แอบรักวันชัยยิ่งนัก ธาตรีเห็นหญิงสาวที่ตนเองหลงรักต้องทุกข์ใจก็แค้นแทน จึงชวนชูไปปล้นบ้านวันชัย ชูพยายามห้ามปรามธาตรีแต่ก็ไม่เป็นผล จึงรีบไปบอกให้วันชัยรู้ตัว อีกฟากหนึ่ง เต็มรักมาขอให้เสือขวานไปปล้นบ้านไร่ของวันชัยแม้ต้องเอาตัวเองเข้าแลกก็ตาม ค่ำวันนั้น วันชัยสั่งให้ลูกน้องรับมือกับธาตรี แต่กลายเป็นว่าผู้ที่มาเยือนคือเสือขวาน มันได้อาศัยช่วงชุลมุนจับตัวพรทิพย์กลับไปยังรังโจรหมายจะเอาเป็นเมีย เต็มรักเกิดความหึงหวงจึงส่งข่าวให้วันชัยบุกรังเสือขวานในตอนค่ำ เสือขวานและพรรคพวกทำพิธีเอาฤกษ์ก่อนออกปล้น แต่ปรากฏเป็นเค้าร้าย เสือขวานซึ่งระแวงเต็มรักอยู่แล้วจึงฆ่าเต็มรักทิ้ง วันชัยบุกเข้ามาพอดี จึงเกิดการต่อสู้กัน และสังหารเสือขวานได้สำเร็จ
เปนชายต้องสู้ (2495) เป็นชายต้องสู้
เป็นชายต้องสู้ (2495/1952) ภาพยนตร์ไทย ตื่นเต้น ดุเดือด ที่ท่านอยากทราบว่าต้องสู้กับอะไร? ข้าพเจ้าขอเผยว่าต้องสู้กับ "คนตัวผู้" "คนตัวผู้" เป็นอย่างไรท่านจะทราบต่อไป (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน สยามรัฐ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2495)
ขุนโจรใจเพ็ชร์ (2495)
ขุนโจรใจเพ็ชร์ (2495/1952) ความแค้นฝังลึกเกินจะให้อภัย อ้ายธง สมุนมือขวาของกำนันบ้านนาแค ต้องลุกขึ้นมาชำระแค้นเพราะถูกกำนันที่เคารพรักหักหลังและถูกพรากคนรักไปต่อหน้า เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ พ่อขุน กำนันบ้านนาแค ใช้ให้ธงไปทวงเงินค่าที่นากับตาเพชร พ่อของ แวว คนรัก แต่ตาเพชรไม่มีเงิน จึงตัดสินใจขายแววให้พ่อขุน เป็นการชำระหนี้ แววเข้ามาอยู่ในบ้านพ่อขุนในฐานะคนรับใช้ ดวง ลูกสาวของพ่อขุน ความสวยของแววทำให้ มิ่ง ลูกชายของพ่อขุนหลงใหลและพูดจาเกี้ยวพาราสี จนเป็นเหตุให้มิ่งกับธงวางมวยกัน พ่อขุนลงโทษธงด้วยการขังแววเป็นเวลา 7 วัน และสั่งห้ามไม่ให้ธงพบแววเด็ดขาด ต่อมาไม่นาน พ่อขุนใช้ให้ธงไปปล้นควาย ธงต่อรองว่าถ้าทำสำเร็จขอให้ปล่อยตัวแวว พ่อขุนจึงตกลง แต่แล้ว คล้อยหลังธง มิ่งก็ตระเตรียมจัดพิธีแต่งงานระหว่างตนและแวว ธงซึ่งทำงานเสร็จเร็วกว่ากำหนดจึงได้รู้ว่าตนหลงกลสองพ่อลูกเข้าเต็มเปา ธงฝ่าวงล้อมไปชิงตัวแววพาไปรักษาตัวที่เวียงคอย พ่อขุนออกหมายจับธงและพรรคพวก เมื่อทราบที่ซ่อนตัวของธงจึงนำสมุนบุกไปที่เวียงคอย พ่อขุนกับมิ่งตลบหลังธงด้วยการจับตัวตาเพชรมาขู่ ธงจึงจำใจปล่อยแววให้ตกเป็นเมียอ้ายมิ่ง
สาวน้ำเค็ม (2494)

สาวน้ำเค็ม (2494/1951) เปนนิทานชีวิตรักของลูกสาวแดนน้ำเค็ม บู๊ ตื่นเต้น ผจญภัย (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน พิมพ์ไทย 26 มีนาคม พ.ศ. 2494)

อ้ายมหาวายร้าย (2494)
อ้ายมหาวายร้าย (2494/1951) เพียงแต่ชื่อ "อ้ายมหาวายร้าย" บางทีจะไม่ต้องเสนอดอกกะมังว่า เนื้อเรื่องดำเนินไปในลักษณะใด หากท่านนิยมชมชอบภาพยนตร์ประเภท แสดงเหลี่ยมนักเลงทั้งชนิดยียวนและไม่ยียวน การต่อสู้กันอย่างดุเดือดทารุณ และแทรกด้วยความรักอย่างหยาดเยิ้มอ่อนหวานแล้ว "อ้ายมหาวายร้าย" ก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ท่านไม่ควรปล่อยให้ผ่านไปเสีย (ที่มา: นิตยสารภาพยนตร์สาร มิถุนายน พ.ศ. 2494)
สิงห์สังหาร (2494/1951) ชื่อเรื่องบอกท่านอยู่แล้วว่าจะไปในทำนองใดและเป็นอย่างไร? คอยดู! "สิงห์สังหาร" - "สิงห์สังหาร" หนักไปในทางบู๊ และขบขัน (ที่มา: นิตยสารภาพยนตร์สาร พฤศจิกายน พ.ศ. 2494)
ชายสะไบ (2493)

ชายสะไบ (2493/1950) เรื่องของลูกทุ่งและการล้างทุ่งเพื่อแก้แค้นกัน ด้วยหมัดต่อหมัด ดาบต่อดาบ สุรสิทธิ์เป็นเจ้าหนุ่มเลือดไพร่ ผู้เผยอพิศมัยในลูกสาวของนายทุน จนกระทั่งพบกับความทารุณกลั่นแกล้งอย่างเจ็บแสบจากทัต เอกทัต หัวแก้วหัวแหวนของนายทุน ผู้ซึ่งปองสาวงามนั้นอยู่เหมือนกัน พรรณี สำเร็จประสงค์ แม่สาวผู้นี้ เปนตัวการที่ความงามของหล่อนสร้างความเกลียดให้เกิดแก่ชีวิตของคนหลายคนเชื่อมโยงกันไป ดีที่สุดที่สุรสิทธิ์แสดงได้ ก็คือบทบาทเมื่อเขารู้ตัวว่าเมียของเขากำลังจะมีลูกถึงกับตื่นเต้นโลดถลาจะไปตามหมอตำแยทั้งที่เมียเพิ่งตั้งไข่ได้ 1 เดือน ดีที่สุดของทัต เอกทัต ก็คือบททารุณทั้งอย่างเลือดร้อนและเลือดเย็นของเขา ดีที่สุดในบรรดาตัวประกอบ ก็คือ ม.ล. เตาะ โกมารชุน ซึ่งแสดงบทบาทเป็นแม่เฒ่า ของสุรสิทธิ์ได้อย่างมีชีวิตชีวา และดีที่สุดในกะบวนจี้เส้นด้วยหน้าตายและหนวดจิ๋มคือจำรูญ หนวดจิ๋ม (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน สยามนิกร 11 กันยายน พ.ศ. 2493)

เสือไทยอาละวาด (2493)
เสือไทยอาละวาด (สุภาพบุรุษเสือไทยภาคสมบูรณ์) (2493/1950) เริ่มตั้งแต่สุภาพบุรุษเสือไทยของเรา พร้อมด้วยอ้ายแม่น และ อีกรอง หนีตำรวจกองปราบซึ่ง อ้ายเดชเพื่อนเกลอร่วมตายเป็นผู้นำมาล่า อ้ายคง ตรงไปยังวัดร้างท้ายเมือง และได้แต่งงานอ้ายแม่นกับอีกรองต่อหน้าองค์พระประธาน และวิ่งเตลิดเข้าป่าเยี่ยงเสือลำบากนั้น การก็ปรากฏว่า อีกรองหาได้ทำตามคำสั่งของ เสือไทยแต่ประการใด อีกรองยึดสัจจะตนเองมั่นอยู่ว่า "รักแท้ของมันอยู่ที่เสือไทย" หาใช่อ้ายแม่น ถึงเสือไทย จะปล้นเขากิน ชิงเขากิน มันก็ต้องปล้นเขากินชิงเขากินไปด้วย ดังนั้น ด้วยระยะเวลาไล่ๆ กัน อีกรอง โจนหนี จากอ้ายแม่นตามเสือไทยไปติดๆ และไปทันกันที่กระท่อมร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งภายในกระท่อมมี เสือไทย ซึ่งถูกจองจำครบ ผู้ใหญ่ยิ่ง และผู้ใหญ่แคล้ว ผู้ใหญ่บ้านทั้งสองตกลงเป็นเอกฉันท์ว่า จะตัดหัวเสือไทยไป เพราะว่าตายหรือเป็น สินบนมันก็ ๕๐๐๐ เท่ากัน อีกรอง กลับเป็นแม่เสืออีกครั้งหนึ่ง ด้วยการเดินลูกไม้แบบรุกเงียบ ลูกไม้ของอีกรอง ทำให้เสือไทยรอดชีวิตได้แทบไม่น่าเชื่อ (ลูกไม้อีกรองเด็ดขาดอย่างไร? เชิญไปชมเอาเอง) และในขณะที่ อีกรองจะนำเสือไทยหนีต่อไปนั้น คนทั้งสองก็ได้ประจันหน้ากับเสือนรกแห่งเมืองสวรรค์ ซึ่งหนีหลวงกล้ากลางสมรมาจากเพ็ชรบุรี เสือนรกแห่งเมืองสวรรค์ จะทำความเข้าใจกับ เสือไทยได้อย่างไร? นี่เป็นปัญหาหนึ่งละ แต่อย่างไรก็ตามใน "แกงค์" ของเสือนรกอีกรองได้เผชิญกับคู่ปรับตัวสำคัญนั่นคือ "อีโฉม" ซึ่งมีความเก่งกล้าปานเสือ และไม่เคยกลัวมนุษย์ตนใดมิหนำซ้ำยังฉมังพกมีดคู่เสียด้วย อีกรองเป็นคนที่ไม่ยอมมนุษย์อยู่แล้ว และเมื่อ ได้พบกับอีโฉม ซึ่งไม่ยอมมนุษย์เช่นเดียวกัน ลำหักลำโค่น ก็เกิดขึ้นแต่จะถึงพริกถึงขิงเพียงไรนั้น เชิญไปชมเอาเอง ขอกระซิบเสียหน่อยว่า สนุกกว่าที่เล่ามานี้ตั้งร้อยเท่า.... (ที่มา: ใบปิดภาพยนตร์เรื่อง เสือไทยอาละวาด)
แดนดาวโจร (2493)
แดนดาวโจร (2493/1950) โลดโผน ตื่นเต้น รักอย่างยั่วยวน! (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน สยามนิกร 8 สิงหาคม พ.ศ. 2493)
ดาบทหารเสือ (2493)
ดาบทหารเสือ (2493/1950) ครอบครัวของ รุ่ง และ จัน ชาวบ้านด่าน จังหวัดสุโขทัย เคยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขตามประสาพ่อแม่ลูก จนกระทั่งวันหนึ่ง สอน เพื่อนบ้านชักชวนให้รุ่งไปประดาบกับนักเลงบ้านหนองดินแดง แต่รุ่งไม่อยากมีเรื่องตีรันฟันแทงกับใครจึงไม่ขอร่วมด้วยปรากฏว่าสอนเสียชีวิตในการประดาบ ชาวบ้านพากันรุมประณามรุ่ง ซ้ำร้ายยังพาลรังเกียจครอบครัวของรุ่งไปด้วย จนเป็นเหตุให้ เรือง ลูกสาวเพียงคนเดียวของรุ่งต้องตายเพราะไม่มีหมอคนไหนยอมรักษาเรืองซึ่งกำลังป่วยการสูญเสียเรืองทำให้รุ่งบันดาลโทสะฆ่าหมอตายและหนีหายไปตั้งแต่วันนั้น 5 ปีผ่านไป สุโขทัยถูกรุกรานจากศัตรู สาเหตุมาจาก โต พ่อของจัน เป็นไส้ศึกให้ฝ่ายเขมร และยังคิดจะยกลูกสาวให้แม่ทัพเขมรเพื่อแลกกับตำแหน่งผู้ครองอาณาจักรสุโขทัย รุ่ง ซึ่งบัดนี้กลายเป็นเสือออกปล้นชาวบ้าน ได้พบอาจารย์เฒ่าผู้หนึ่งเตือนสติว่า ควรจะเอากำลังไปต่อสู้ศัตรูที่กำลังทำร้ายสุโขทัย เสือรุ่งจึงจับดาบทหารเสือขึ้นปกป้องบ้านเกิดจากน้ำมือศัตรู
สองเสือ (2492)
สองเสือ (2492/1949) ภาพยนตร์ไทย ชะนิดชก ตื่นเต้น ดุเดือด (ที่มา: นิตยสารภาพยนตร์สาร ธันวาคม พ.ศ. 2492)
สุภาพบุรุษเสือไทย (2492)

สุภาพบุรุษเสือไทย (2492/1949) เมื่อคนดีต้องกลายเป็นเสือ ชีวิตของกำนันไทยที่ดูจะราบรื่นต้องมาพังทลาย เมื่อรับ แฉล้ม มาเป็นเมียน้อยเพื่อชดใช้หนี้ แต่เมื่อ คง ชู้รักเก่าของแฉล้มกลับมาปรากฏตัว แฉล้มจึงหลอกกำนันไทยว่าคงเป็นญาติ กำนันไทยผู้มีน้ำใจเชื้อเชิญให้คงมาอาศัยด้วยกัน หารู้ไม่ว่านั่นเป็นการต้อนรับโจรให้เขามาอยู่ในบ้าน ไม่นานนัก คงก็เริ่มเผยธาตุแท้เมื่อ กระถิน เมียรักของกำนันไทยล่วงรู้ความสัมพันธ์ของคงกับแฉล้ม คงจึงล่อให้กระถินตกเป็นของตนซ้ำยังข่มขู่และรีดไถทรัพย์กระถินตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สร้างความทุกข์ระทมแก่กระถินจนคิดฆ่าตัวตาย กำนันไทยรู้ความจริงเข้าก็ตรงดิ่งมาจัดการคง แต่ระหว่างที่กำลังชุลมุน อ้ายคงยิงพลาดไปโดนกระถินเสียชีวิต แถม กับ จ่าหอม เผอิญเดินผ่านแถวนั้นได้ยินเสียงปืนจึงรีบมายังที่เกิดเหตุ คงรีบหนีเอาตัวรอดทิ้งให้กำนันไทยซึ่งกำลังตะลึงงันตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าเมียตัวเองเคราะห์ดีที่ได้สติรีบไหวตัวหนีกระเซอะกระเซิงมาถึงภูเขาลูกหนึ่ง ที่นั่น กำนันไทยได้พบพระธุดงค์ซึ่งได้เตือนสติว่าเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ไฟแค้นที่สุมอกกำนันไทยจึงสงบลง และอาศัยอยู่กับพระธุดงค์ตั้งแต่นั้นมา แต่แล้ววันหนึ่ง ก็มีเสียงของชาวบ้านร่ำลือว่าเสือไทยกำลังออกอาละวาดที่ตำบลเกาะพลับพลาอย่างหนักได้ยินดังนั้น กำนันไทยก็สุดที่จะระงับโทสะ มุ่งหน้าหมายจะชำระแค้นอ้ายคงให้ตายคามือ ที่ริอาจสวมรอยใช้ชื่อของกำนันไทยออกปล้น ระหว่างทางกำนันไทยได้ช่วย กรอง หญิงกำพร้าซึ่งกำลังถูกเจ้าบิ๋นรังแก กรองขอติดตามกำนันไทยไปด้วย เมื่อได้ฟังเรื่องราวของกำนันไทย กรองก็อาสาจะพาจ่าหอมมาพบเพื่อเล่าความจริง ที่ตำบลเกาะพลับพลา แถมได้ขึ้นเป็นกำนัน กรองพาจ่าหอมมาพบกำนันไทยได้สำเร็จ แต่วันรุ่งขึ้นจ่าหอมกลับกลายเป็นศพ มิหนำซ้ำกำนันไทยยังถูกใส่ร้ายว่าเป็นคนฆ่าจ่าหอม คงเริ่มย่ามใจออกปล้นโดยใช้ชื่อเสือไทยหนักข้อขึ้น กำนันไทยทนเห็นชาวบ้านเดือดร้อนไม่ได้ จึงยอมเป็นเสือไปปล้นเสือ เพื่อชิงทรัพย์มาคืนชาวบ้านดังเดิม โดยได้รับความช่วยเหลือจาก เดช และ แม่น คงไหวตัวทันจับกรองและแม่นเป็นตัวประกัน ถึงเวลาที่กำนันไทยจะชำระแค้น นำพรรคพวกบุกเข้าไปปลิดชีพคง

บางขวาง (2491)
บางขวาง (2491/1948) เผชิญ มหาโยธิน ถูกจำคุกในเรือนจำบางขวางกว่าสองปีเต็ม ระหว่างที่อยู่ในคุก เผชิญหมกมุ่นอยู่กับการคิดหาทางแก้แค้น เสี่ยเภา เพื่อนทรยศซึ่งทำให้ เผชิญต้องโทษ เมื่อได้รับการปล่อยตัวเผชิญจึงมุ่งหน้าไป ชำระแค้นเสี่ยเภาที่บ่อนการพนัน และยิงเสี่ยเภาตายคา ที่ก่อนรวบเงินหลบหนีไป ระหว่างหลบหนีเผชิญโดดขึ้น รถของหญิงสาวคนหนึ่ง ก่อนจะจูบหญิงสาวแทนคำขอบคุณ เมื่อแก้แค้นสำเร็จ เผชิญจึงเดินทางกลับไปหา แม่ แม่ของเผชิญขอร้องให้เผชิญกลับตัวเป็นคนดีและขอ ให้เผชิญบวช เผชิญได้แต่ตอบตกลงอย่างขอไปที แต่ในใจของเขาต้องการหาเงินเพื่อความสุขสบาย เผชิญร่วมมือกับเจิดเพื่อขายฝิ่น วันหนึ่งเขานัดลูกค้าไปรับฝิ่นที่โรงแรม ห้องหมายเลข 19 และได้พบกับ วลัยพร สาวที่เผชิญเคยขโมยจูบ ความสัมพันธ์ของทั้งสองพัฒนาไป อย่างรวดเร็ว วันหนึ่งเผชิญวางแผนพาวลัยพรไปเที่ยวที่ปีนัง แต่ ร.ต.ท.วสันต์ ซึ่งจับตาดูพฤติกรรมของเผชิญ มาโดยตลอดได้บุกจับกุมเผชิญ เผชิญพยายามยิงปืนตอบโต้ แต่ถูกตำรวจยิงเสียชีวิตต่อหน้าแม่ของเผชิญ
เลือดทหารไทย 2478

เลือดทหารไทย (2478/1935) นาวาตรี หลวงสหะนาวิน ผู้บังคับหมวดหน่วยรบประจำเรือรบหลวงสุโขทัย นำทัพประลองยุทธใหญ่ทางทะเลจึงได้รับคำสั่งเลื่อนยศพร้อมกับคนอื่นๆ คืนวันรุ่งขึ้น ได้มีงานเลี้ยงบนเรือรบหลวงสุโขทัย หลวงสหะนาวินได้พบ พาณี นรกุล น้องสาวของ เรือเอกปรีชา นรกุล ก็รู้สึกหลงรัก เช่นเดียวกับ พันตรีหลวงกฤษณะสงคราม เพื่อนสนิท หลวงสหะนาวินจึงหลีกทางให้ จนกระทั่งประเทศไทยเข้าสู่ภาวะสงครามรัฐบาลได้อนุมัติให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการตามยุทธศาสตร์ตามแผนป้องกันพระราชอาณาจักร ที่ พลโทพระยานรกุล ร่างขึ้น แต่ขณะนั้นเองมีกลุ่มคนคิดขายชาตินำโดย วิญญู เป็นหัวหน้า ต้องการขโมยร่างแผนป้องกันพระราชอาณาจักร จึงให้อุดมกับเฉลิมลอบไปขโมยในงานวันเกิดพระยานรกุลที่จะจัดขึ้นในอีกไม่กี่วันต่อมา เมื่อถึงวันงาน อุดมลอบเข้าไปขโมยร่างแผนป้องกันพระราชอาณาจักรในบ้านพระยานรกุลสำเร็จ แต่ขณะที่กำลังปีนลงมาจากตึก หลวงกฤษณะมาเห็นเข้าจึงยิงอุดมเสียชีวิต เฉลิมซึ่งคอยดูต้นทางอยู่รีบวิ่งไปฉวยแผนป้องกันพระราชอาณาจักรและหลบหนีไปได้ หลวงกฤษณะถูกเรียกเข้าประจำกรมด่วน เนื่องจากรัฐบาลประกาศสงครามแล้ว นายเรือเอกปรีชาจึงเสียสละออกรับแทนว่าตนเป็นผู้ยิงอุดมเสียชีวิต หลวงกฤษณะจึงได้ไปปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติ หลังจากนั้นตำรวจก็ได้รับแจ้งว่าร่างแผนป้องกันพระราชอาณาจักรหายไป เมื่อสอบปากคำ นงลักษณ์ ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ ตำรวจจึงรีบไปดักรอผู้ต้องสงสัยที่สถานเบียร์ฮอลล์ "โอดี" และจับวิญญูและเฉลิมพร้อมของกลางได้ นายเรือเอกปรีชาจึงได้รับการปล่อยตัวไปเป็นผู้บังคับหมู่เรือยามฝั่ง กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศไทยเคลื่อนทัพสู่สนามรบ และได้ชัยชนะกลับมา

Placeholder

หมัดพ่อค้า (2474/1931) เป็นเรื่องเกี่ยวแก่การชิงรักระหว่างพ่อค้าชาวกองเกวียน มีการยกพวกปล้นกองเกวียน การต่อสู้กันด้วยอาวุธปืนและหมัดมวยอย่างโลดโผน (ที่มา: หนังสือพิมพ์ศรีกรุง ธันวาคม พ.ศ. 2474)

เลือดแค้น 2471

เรื่องย่อ : เลือดแค้น (2471/1928) เป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรก ที่มีความลึกลับ เกี่ยวกับการผจญภัยและการต่อสู้ในเชิงหมัดมวยอย่างน่าตื่นเต้น ถ้าว่าถึงตลกคะนอง ก็เป็นตลกที่ไม่ได้แกล้งให้ตลก เป็นตลกที่อาศัยเกิดจากลักษณะเดิมของตัวผู้แสดงเอง มีตาเชยเตี้ยเป็นต้น ลักษณะของตาเชย ผู้ดูโดยมากที่ไปเที่ยวตำบลบางลำพู คงจะได้เคยเห็น แกเดินชมอากาศอยู่ตามแถวนั้นบ่อยๆ หรือมิฉะนั้นก็แถวหน้าโรงปีนัง ผู้ทำเรื่อง เลือดแค้น ได้ใช้ความระวังหลายประการที่จะไม่ให้เลือดแค้นกลายเป็นเลือดไม่แค้นหรือเลือดจืด มีเหตุผลกินกลืนกันสมเรื่อง ตลอดจนภูมิฐานฐานะของบุคคลและการแต่งตัว ที่จัดให้เหมาะแก่ลักษณะ เหมาะแก่เวลาที่ควรไม่ควร ถ้าจะกล่าวแล้วเรื่อง เลือดแค้น ถึงจะมีข้อที่น่าติอยู่บ้าง แต่ก็เชื่อว่าน้อยที่สุด ท้องเรื่อง เลือดแค้น แสดงถึงน้ำใจของน้องเมียนายทองใบ ที่พยายามแก้แค้นแทนพี่สาวอันเนื่องจากนายทองใบทิ้งพี่สาวและทำทารุณโหดร้ายเมื่อ 20 ปีก่อน จึงตามมาแก้แค้นโดยปลอมตัวเป็นคนลึกลับ ท่านจะได้เห็นการต่อสู้กันบนเรือใบกลางทะเล การต่อสู้ในบ้าน และการต่อสู้ชิงนางกลางทุ่ง การต่อสู้นี้ล้วนไปด้วยหมัดมวยและอาวุธปืน ทุกตอนจะทำให้ท่านรู้สึกพอใจ ในที่สุดท่านจะต้องออกปากว่า "หนังไทยเรื่องนี้ของเขาควรผูกโบว์แดงให้ได้" พูดถึงผู้แสดง มีโดยมากนับว่าใช้บทบาทได้สนิท ผู้ที่ควรได้รับความชมเชยชั้นเยี่ยมของการแสดงในเรื่องก็คือ จรวย วีละเวีย ลีละชาติ นางเอกผู้เป็นตัว "สุลักษณ์" บุตรี เลี้ยงของนายทองใบ จรวยได้วางบทบาทสมแก่เป็นตัวภาพยนตร์ได้ดีจริงๆ ดีจนควรนับได้ว่าอยู่เหนือนางเอกภาพยนตร์ไทยที่ท่านเคยเห็นมา เช่น ยามโกรธ ยามตกใจ ดีใจ ยามออเซาะ เหล่านี้ ชวนให้รู้สึกว่าจรวยไม่มีการเก้อเขินแต่อย่างใดเลย ถัดจากนี้ก็ตัวพระเอกพระรองและตัวประกอบอีก ซึ่งมีบทดีไม่แพ้แม่จรวย นอกจากนั้นยังแสดงการชกต่อยและการขี่ม้าขี่ฬาคล่องแคล่วอย่างน่าชม บางคนสังเกตว่าพยายามเลียนจากบท ฮูด กิ๊บสัน หรือ เคน เมย์นาดไม่ผิดเลย ยังมีผู้แสดงที่ควรได้รับความชมเชยเป็นพิเศษอีกคนหนึ่ง คือ นายไกวัลย์ ซึ่งแสดงเป็นตัวบ้าหรือใบ้ นายคนนี้ เมื่อแสดง "ไม่คิดเลย" ยังมีอาการขวางๆ รีๆ อยู่มาก ครั้น มาแสดงเรื่องนี้กลับมีสภาพเป็นคนละคน การแสดงของนาย ไกวัลย์ในเรื่อง "เลือดแค้น" สกปรกโสมมเหลือกำลัง เสื้อผ้า ขาดกะรุ่งกะริ่งผมเผ้ายาวเหมือนบ้าหอบฟาง เพราะถูกเกณฑ์ให้เป็นคนใบ้เนื่องจากในเรื่องถูกน้องชายโกงสมบัติ ตามสังเกตดูเหมือนนายไกวัลย์จะเลียนแบบ "ลอน ชานีย์" เอา เสียจริงๆ ถึงหากบทจะด้อยกว่าลอน ชานีย์ ก็ยังนับว่าเป็น ลอน ชานีย์ ไทยได้ ไม่อายคนดูทีเดียว ตัวนี้คู่หูกับตาเชยเตี้ย นับว่าเป็นผู้ทำให้เรื่องครึกครื้นมากอยู่ (ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวภาพยนตร์ กรกฎาคม พ.ศ. 2471)