สมบัติแม่น้ำแคว (2511)
สมบัติแม่น้ำแคว (2511/1968) (แมน ธีระพล) พา (มิตร ชัยบัญชา) เพื่อนคู่หู ไปเยี่ยม ยามาโมโต นักสมุทรศาสตร์ชาวญี่ปุ่นที่เกาะแห่งหนึ่งของอ่าวไทย ในอดีตนั้น ยามาโมโต ก็คือพันโททหารญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ลำเลียงทองคำมูลค่ามหาศาลจากพม่าจะไปญี่ปุ่น แต่เรือบรรทุกทองคำถูกเรือฝ่ายสัมพันธมิตรยิงจมลงกลางอ่าวไทย จุดที่เรือจมนั้นก็มีแต่พันตรีทานากะคนเดียวที่รู้ตำแหน่ง เมื่อสงครามยุติ พันตรีทานากะก็กลับไปอยู่ฮ่องกง ขณะที่แมนกับมิตรไปหายามาโมโตนั้น มิตรก็ได้พบกับไพลินลูกสาวคนสวยของผู้ใหญ่สิน มิตรกับไพลินจึงเริ่มรักใคร่ชอบพอกัน ชัช เป็นหัวหน้าขบวนการใต้ดินสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้จับตาดูพฤติกรรมการเลี้ยงหอยมุขของยามาโมโต เพราะคิดว่ายามาโมโตจะต้องรู้จุดที่เรือบรรทุกทองคำจมลง จึงแกล้งมาเลี้ยงหอยมุขอยู่บนเกาะแห่งนี้เพื่อจะหาโอกาสนำทองคำกลับไปญี่ปุ่น ต่อมา ยามาโมโต ก็ได้รับโทรเลขด่วนจากทานากะ บอกให้รีบเดินทางไปฮ่องกงเพื่อทานากะจะบอกจุดที่เรือบรรทุกทองคำจมลง ยามาโมโตและโชโกะจึงเดินทางไปฮ่องกง แมนรู้เรื่องก็แอบตามไปด้วย โดยแมนก็ไม่รู้ว่าชัชได้ส่งสมุนสะกดรอยตามไปด้วยเช่นกัน สมุนของชัชเข้าถึงตัวทานากะได้ก่อนและฆ่าทานากะตายก่อนที่ทานากะจะบอกความจริงว่า เรือบรรทุกทองคำจมอยู่ ณ จุดใด ย้อนกลับมาที่เกาะในอ่าวไทย ก็มีนักดำน้ำขี้เมาอยู่คนหนึ่งชื่อ ตาบุญ ตาบุญรู้ว่าจุดที่เรือบรรทุกทองคำจมลงนั้นอยู่ตรงไหน ตาบุญสนิทสนมกับไพลิน มีอะไรก็จะเล่าบอกไพลิน จุดเรือจมนี้ตาบุญก็เคยเล่าบอกไพลินแล้ว แต่ไพลินไม่เชื่อ คิดว่าตาบุญพูดเรื่อยเปื่อยตามประสาคนเมา แล้วจู่ๆ วันหนึ่ง ตาบุญก็พาไพลินไปยังจุดที่เรือจม ตาบุญดำน้ำลงไปงมเอาเศษไม้ป้ายชื่อเรือมาให้ไพลินดู เมื่อรู้จุดที่เรือจม ยามาโมโตกับสินจึงพาชาวบ้านไปงมหาทองคำ เมื่อได้ทองคำขึ้นมาแล้วก็ถูกชัชกับสมุนดักปล้นเอาทองคำไป ไพลินและโชโกะถูกจับเป็นตัวประกัน มิตรกับแมนก็ขับเครื่องบินบินสกัดรถบรรทุกทองของชัช เกิดการต่อสู้กัน ชัชขับรถบรรทุกทองหนีไปได้ แต่ระหว่างทาง รถก็เกิดระเบิดขึ้นเพราะยามาโมโตได้แอบซุกระเบิดไว้ในหีบบรรจุทองคำ ทำให้ชัชกับสมุนเสียชีวิต ไม่มีใคร
สิงห์ล้างสิงห์ (2511)
สิงห์ล้างสิงห์ (2511/1968) ข้อความบนใบปิด ภาพยนตร์บู๊ ล้างผลาญ สุดยอด สุดเยี่ยม พจนาภิรมย์ภาพยนตร์ ผู้สร้าง “สิงห์ล่าสิงห์” ภูมิใจเสนอ สิงห์ล้างสิงห์ ของ พัชราวดี (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) นำเหล่าขบวนดารา (ชนะ ศรีอุบล), สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์, (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), (อดินันท์ สิงห์หิรัญ), (ทานทัต วิภาตะโยธิน), ชาณีย์ ยอดชัย, จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, แป้น ปลื้มสระไชย, (ล้อต๊อก), (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ทองฮะ, ทองถม, ชื้นแฉะ ร่วมด้วยวงดนตรีหญิง “ลิตเติ้ลสตาร์” ขอฝากฝัง ดอกไม้ ถิ่นไทยงาม นางเอกหน้ามนคนใหม่ โสภณ เจนพานิช ถ่ายภาพ นำดี วิตตะ อำนวยการสร้าง-กำกับการแสดง จินตนาฟิล์ม จัดจำหน่าย
แหลมหัก (2510)
แหลมหัก (2510/1967) ข้อความบนใบปิด แหลมคมดังลมเพชรหึง...!ชีวิตซึ้ง เร้าตรึงจิต ทัศนาภาพยนตร์ เสนอ แหลมหัก สุดที่รักจากจินตนาการ ของ ส.อาสนจินดา “แก้วฟ้า” สร้างบทภาพยนตร์ นำโดย (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี), (อดุลย์ ดุลยรัตน์), บุศรา นฤมิตร, กิ่งดาว ดารณี, (รุจน์ รณภพ), อรสา อิศรางกูร, สุพรรณ บูรณพิมพ์, สาหัส บุญหลง,(สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม) ดาราเกียรติยศ วงศ์ ศรีสวัสดิ์, วิน วิษณุรักษ์, ชาลี อินทรวิจิตร, เสริมพันธ์ สุทธิเนตร, (สมพล กงสุวรรณ), จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, หมี หมัดเม่น, พิศ อินคล้าย, แก้วฟ้า, สุเทพ เหมือนประสิทธิเวช, ดอกรัก, (ทานทัต วิภาตะโยธิน), สิงห์ มิลินทราศัย ดำริห์ แหลมหลวง-เสริมพันธ์ สุทธิเนตร อำนวยการสร้าง ฉลวย ศรีรัตนา กำกับการแสดง วิเชียร วีระโชติ ถ่ายภาพ จินตนาฟิล์ม จัดจำหน่าย จากละครวิทยุฮิตของคณะ “แก้วฟ้า”
เหนือนักเลง (2510)
เพชรพญายม (2510/1967) แสงสว่างภาพยนตร์ เสนอ เป็นครั้งแรกของประวัติการณ์ภาพยนตร์ไทย ในการพบ และพิสูจน์บทบาทของยอดดารา...! (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) พบ (เกชา เปลี่ยนวิถี) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) พบ (ภาวนา ชนะจิต) ใน เพชรพญายม จากบทประพันธ์และละครวิทยุของ แก้วฟ้า ทักษิณ แจ่มผล, (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี), สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์, พูนสวัสดิ์ ธีมากร, เยาวเรศ นิสากร, สีเทา, จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, ชาณีย์ ยอดชัย, (เมืองเริง ปัทมินทร์) และ ผุสดี อนัคฆมนตรี, นิภา แก้วจำบัง ให้เกียรติร่วมแสดง สมชาย จันทวังโส ถ่ายภาพ อนุชา แสงผล อำนวยการสร้าง ประทีป โกมลภิส กำกับการแสดง
คนเหนือคน (2510)
คนเหนือคน (2510/1967) โดยได้รับความร่วมมือจาก กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และ กรมตำรวจ ฟัง 4 เพลงฮิต "คนเหนือคน" "น้ำใจคนไทย" "แด่เธอผู้เดียว" "ผู้หญิงเก่ง" พันตำรวจตรีพิเชษฐ์ หรือ สารวัตรพิเชษฐ์ ((มิตร ชัยบัญชา)) ที่ได้รับภารกิจจาก ผู้บังคับการ (จรูญ สินธุเศรษฐ์) ให้จับคู่กับสายลับ XX ในการทลายองค์กรที่มีชื่อว่า องค์กรดอกจิก ซึ่งมาตั้งสาขาในประเทศไทยโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหวังทำลายประเทศไทยโดยมี อดัม ชา ((เกชา เปลี่ยนวิถี)) เป็นหัวหน้าสาขา เมื่อพิเชษฐ์เดินทางมาถึงที่อยู่ของ XX กลับถูกกลุ่มสาวลึกลับเล่นงานกระทั่งได้รู้ความจริงว่าสายลับ XX ก็คือ ร้อยตำรวจตรีชิงชิง (ออเดรย์ ชิง) แห่งกองตำรวจลับแห่งภาคตะวันออกไกล ต่อมาพิเชษฐ์บุกเข้าไปยังฐานขององค์กรดอกจิกจนได้พบกับ อดัม ชา แต่พลาดท่าเสียทีถูกจับได้ระหว่างการต่อสู้กับ เดียร์ (ชุมพร เทพพิทักษ์) และ แมน (แมน ธีระพล) มือขวาคนสนิทของอดัมทำให้ขาดการติดต่อไป ทำให้ผู้บังคับการเกิดความกังวลใจจึงได้เรียกตัว ร้อยตำรวจเอก (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) น้องชายของสารวัตรพิเชษฐ์ลงมาจากอุดรธานีให้แทรกซึมเข้าไปองค์กรเพื่อพาตัวพี่ชายออกมา โดยให้สมบัติทำทีเข้าไปตีสนิทกับ อมรา (อมรา อัศวนนท์) คนสนิทของอดัมซึ่งมี โสภา (โสภา สถาพร) ลูกสาวบุญธรรมเป็นผู้ช่วยเพื่อให้อมราพาสมบัติเข้าไปทำงานในองค์กร ขณะเดียวกันทางองค์กรได้ส่ง อดุลย์ ((อดุลย์ ดุลยรัตน์)) คนรักของอมราให้สะกดรอยตามชิงชิงแต่พลาดท่าถูกจับได้ซึ่งชิงชิงก็ได้กล่อมอดุลย์ให้ช่วยเป็นสายให้กับทางการเป็นผลสำเร็จโดยอดุลย์ได้ส่งมอบแผน c-10 ที่เขาชิงมาจาก ดร. หวาง (บู๊ วิบูลย์นันท์) ที่นายใหญ่ส่งมาแต่ชิงชิงก็ได้เฉลยว่าแผนที่เขาเอามานั้นเป็นของปลอมอดุลย์จึงได้รู้ความจริงว่าอดัมหักหลังเขาแแล้ว ต่อมาอมราได้พาสมบัติมาพบกับอดัมเพื่อฝากเข้าทำงานซึ่งอดัมได้ให้สมบัติทดสอบฝีมือกับ เดียร์ และ ประมินทร์ (ประมินทร์ จารุจารีต) อีกหนึ่งมือขวาของอดัมโดยสมบัติสามารถเอาชนะทั้งคู่ได้ทำให้อดัมไว้ใจสมบัติซึ่งสมบัติก็ได้แอบซ่อนกุญแจห้องขังที่ได้มาจากสมุนคนหนึ่งไว้ในกล่องข้าวทำให้พิเชษฐ์สามารถหนีรอดออกมาได้ จากนั้นอดัมได้เรียกประชุมแล้วฝากแผน c-10 ของจริงไว้ที่แมนทำให้อดุลย์ได้แอบแจ้งข่าวรวมถึงที่อยู่ของแมนแก่ตำรวจโดยพิเชษฐ์ได้บุกไปยังที่พักของแมนจนเกิดการต่อสู้และพิเชษฐ์สามารถฆ่ารวมถึงชิงแผน c-10 จากแมนได้สำเร็จทำให้อดัมต้องเปลี่ยนฐานบัญชาการรวมถึงแผนใหม่อย่าง z-40 ต่อมาอดุลย์ได้แอบส่งสัญญาณรายงานข่าวไปยังตำรวจระหว่างนั้นสมบัติเดินผ่านมาและแอบได้ยินก็ได้รู้ความจริงว่าอดุลย์เป็นสายให้ตำรวจแต่อดัมเกิดจับได้จึงสั่งให้ประมินทร์นำอดุลย์ไปขังไว้สมบัติจึงจุดพลุไฟเป็นสัญญาณให้พิเชษฐ์รวมถึงตำรวจและทหารบุกเข้าไปทลายฐานบัญชาการขององค์การดอกจิกแล้วไปจับตัวอดัมทำให้อดัมได้รู้ความจริงว่าโสภาเป็นสายให้กับตำรวจอีกคนทั้งคู่จึงจับอดัมไปขังไว้และปล่อยอดุลย์ออกมา ระหว่างนั้นอดุลย์เข้าไปต่อสู้กับเดียร์เพื่อเปิดทางให้สมบัติและโสภาหนีออกไปจนตกหน้าผาตายทั้งคู่ขณะเดียวกันอดัมได้หนีขึ้น ฮ. โดยทิ้งอมราให้ถูกจับเวลาเดียวกันชิงชิงได้นำตำรวจหญิงมาช่วยจนในที่สุดก็สามารถจับอดัมได้สำเร็จ
บ้าบิ่นบินเดี่ยว (2510)
บ้าบิ่นบินเดี่ยว (2510/1967) สมบัติ-ภาวนา ข้อความบนใบปิด สะท้านภาพยนตร์ ขอเสนอ บ้าบิ่นบินเดี่ยว ของ มรกต กำชัย นวนิยายชีวิตของลูกผู้ชาย ซึ่งเกิดมาไม่รู้จักคำว่า “แพ้” และลูกผู้หญิงแก่นแก้ว เกิดมาไม่กลัวใคร...! นำโดย (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (ภาวนา ชนะจิต) ทักษิณ แจ่มผล, (เมตตา รุ่งรัตน์), (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี) สมชาย จันทวังโส ถ่ายภาพ ประทีป โกมลภิส กำกับการแสดง สะท้าน เทพบัญชา อำนวยการสร้าง เอกรัตน์ จัดจำหน่าย
9 เสือ (2510)
9 เสือ (2510/1967) ข้อความบนใบปิด ภควดีภาพยนตร์ เสนอ... 9 เสือ บทประพันธ์ ของ...”อรชร” จากละครวิทยุคณะ...เสนีย์ บุษปะเกศ (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) นำ (อดุลย์ ดุลยรัตน์), (รุจน์ รณภพ), สุมาลี ทองหล่อ, (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), สมจิตต์ ทรัพย์สำรวย, (สุวิน สว่างรัตน์), ประมินทร์ จารุจารีต, (เมืองเริง ปัทมินทร์), สิงห์ มิลินทราศัย, จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, (เทียว ธารา), จรูญ สินธุเศรษฐ์, สมพงษ์ พงษ์มิตร, ชูศรี โรจนประดิษฐ์ ทรงศรี เทวคุปต์ ให้เกียรติประกอบนาฏศิลป พันคำ กำกับการแสดง กรองจิตต์ เตมียศิลปิน อำนวยการสร้าง องอาจ ดำเนินงาน แสวง ดิษยวรรธนะ ถ่ายภาพ พันคำภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
พรายพิฆาต (2510)
พรายพิฆาต (2510/1967) พรายพิฆาต เป็นภาพยนตร์สี 35 มม.ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2510 สร้างจากบทประพันธ์ของ พนมเทียน สร้างโดย กมลศิลป์ภาพยนตร์ โดยมี (รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง ณ ราชสีมา) เป็นผู้อำนวยการสร้างและนำแสดง กำกับการแสดงโดย น้อย กมลวาทิน ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกและเรื่องเดียวของ อาภัสรา หงสกุล ที่แสดงเป็นนางเอกเต็มตัว
สิงห์หนุ่ม (2510)
สิงห์หนุ่ม (2510/1967) ข้อความบนใบปิด ธงชัยภาพยนตร์ เสนอ สิงห์หนุ่ม (เสือเฒ่าภาคจบ) จากบทประพันธ์ของ..มณเฑียรทอง มิตร-เพชรา พบ (ชนะ ศรีอุบล) พร้อมด้วย (สมจิตร ทรัพย์สำรวย), (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), เยาวเรศ นิสากร, วิชิต ไวงาน, เชาว์ แคล่วคล่อง, ชานีย์ ยอดชัย, ถวัลย์ คีรีวัต, (เทียว ธารา), (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), (อดินันท์ สิงห์หิรัญ), (หม่อมชั้น พวงวัน), ทองฮะ, แป๊ะอ้วน ฯลฯ เนรมิต กำกับ ธงชัย ศรีเสรี อำนวยการสร้าง จินตนาฟิล์ม จัดจำหน่าย
พยัคฆ์ร้ายใต้สมุทร (2510)
พยัคฆ์ร้ายใต้สมุทร (2510/1967) ข้อความบนใบปิด จินดาวรรณภาพยนตร์ เสนอ.. พยัคฆ์ร้ายใต้สมุทร บทประพันธ์ของ...กมลพันธ์ สันติธาดา นำโดย (มิตร ชัยบัญชา) รักชนก จินดาวรรณ (ขวัญใจ สะอาดรักษ์) ทรงวุฒิ ติยะภูมิ ร่วมด้วย อรสา อิศรางกูร, มานี มณีวรรณ, (สุวิน สว่างรัตน์), (เมืองเริง ปัทมินทร์), ไฉน, สมผล, วนิดา, ชาย, แอ๋, ชาญ กัมปนาท, ไกร ครรชิต, จิ๋ม, ดี, เชิง, สมพงษ์ พงษ์มิตร, (หม่อมชั้น พวงวัน), ยงค์, ดาวน้อย ดวงใหญ่ ฯลฯ วงทอง ผลานุสนธิ์ อำนวยการสร้าง ศิริ ศิริจินดา กำกับการแสดง จิตต์ แจ่มรัศมีโชติ ที่ปรึกษา นิคมรัฐ, สันต์ อิ่มสอน ถ่ายภาพ วิชัย เอื้อชูเกียรติ ให้เกียรติถ่ายภาพใต้สมุทร
ผู้ชนะสิบทิศ ภาคสมบูรณ์ บุเรงนองถล่มหงสาวดี (2510)
ปผู้ชนะสิบทิศ ตอน ถล่มหงสาวดี (2510/1967) จะเด็ด ได้รับมอบหมายให้ปราบเมืองแปร แต่กลับหนีทัพไปพาตัว กุสุมา คนรักกลับออกมาจากหงสา แม้พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้จะพิโรธจนตัดความสัมพันธ์ แต่ด้วยความปรีชาสามารถของจะเด็ด ความสัมพันธ์จึงกลับมาราบรื่นตามเดิม วันหนึ่ง เมื่อ ไขลู จากหงสาวดี กลับมากำจัดพระมหาเถร พระอาจารย์ของทั้งคู่ จะเด็ดและพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ จึงร่วมกันยกทัพเพื่อถล่มหงสาวดีให้พินาศเพื่อเป็นการล้างแค้น
เหล็กเพชร (2510)

เหล็กเพชร (2510/1967) เหล็กเพชร เป็นภาพยนตร์สี 16 มม.ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2510 เป็นผลงานกำกับการแสดงของ ส.อาสนจินดา สร้างโดย ส.อาสนจินดาภาพยนตร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์อีกครั้งในปี พ.ศ. 2527

มนุษย์ทองคำ (2510)
มนุษย์ทองคำ (2510/1967) มนุษย์ทองคำ เป็นภาพยนตร์สี 16 มม.ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2510 เป็นผลงานกำกับการแสดงของ ส.อาสนจินดา สร้างโดยพันธมิตรภาพยนตร์ ถ่ายภาพโดย วิเชียร วีระโชติ-ปรีชา ทรัพย์พระวงศ์ และจัดจำหน่ายโดยจินตนาฟิล์ม
สุภาพบุรุษเที่ยงคืน (2510)
สุภาพบุรุษเที่ยงคืน (2510/1967) ข้อความบนใบปิด ร่างจะแหลก ตัวจะตาย ขอไว้ลายสิงห์ลำพอง (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) โสภา สถาพร สุภาพบุรุษเที่ยงคืน ของ กมลพันธ์ สันติธาดา ดาราสาวจากชอว์บราเดอร์ ฮ่องกง มิส จางไหว่ไหว ประมินทร์ จารุจารีต, ทักษิณ แจ่มผล, (ชุมพร เทพพิทักษ์), (อดินันท์ สิงห์หิรัญ), แป๊ะอ้วน, สิงห์ มิลินทราศัย, รัดใจ, เยาวเรศ นิศากร, สีเทา, ทองถม, ไกร ครรชิต, ชาญ ฯลฯ อำนวยการสร้างโดย ประสพ ปิ่นน้อย, สุดเขตต์ ณิยกูล กำกับโดย อนุมาศ บุนนาค สมชาย จันทวังโส ถ่ายภาพ นวฤทธิ์ฟิล์ม จัดจำหน่าย
ทรชนคนสวย (2510)
ทรชนคนสวย (2510/1967) เกิดการหักหลังกันในองค์การอาชญากรรม เมื่อฝิ่นมูลค่า 100 ล้านบาทหายสาบสูญไป ทำให้วิเชียร (สาหัส บุญ-หลง) ผู้เป็นหัวหน้าใหญ่และต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้หักหลังถูกพงษ์ (สิงห์ มิลินทราศรัย) บีบให้ลาออก จากนั้นทางองค์การจึงลงมติให้เป็งหลิน (วิชิต ไวงาม) ที่เป็นเพื่อนของวิเชียรไปฆ่าเขา วิเชียรที่กำลังจะถูกฆ่าจึงสารภาพว่าเขาแอบเอาฝิ่นไปจริงและไปซ่อนไว้ที่สุสานประจำตระกูลที่สงขลา แต่แล้ววิเชียรก็ถูกเป็งหลินฆ่าอยู่ดี เริง รื่นรส ((มิตร ชัยบัญชา)) ทนายความที่ทำงานให้กับพวกนอกกฎหมายแลกเปลี่ยนส่งมอบแผนที่ซึ่งเป็นที่ซ่อนฝิ่นให้กับลีเชงยู (แมน ธีระพล) ถึงในฮ่องกง เริงได้พลกับซูหลิน (มิสจิ้นหลู) ที่มาแอบฟังการตกลงของเขา จากนั้นเริงได้ตามไปดูซูหลินร้องเพลง ในขณะที่ลีเชงยูส่งคนมาเล่นงานเริงเพราะหักหลังเรื่องการส่งข้อมูล โดยเริงได้สุริยัน ((รุจน์ รณภพ)) มาช่วยเอาไว้ เริงเดินทางกลับเมืองไทยโดยมีซูหลินร่วมทางมาด้วย ที่กรุงเทพสมาชิกคนสำคัญขององค์การต่างแย่งกันหาฝิ่นมูลค่ามหาศาลนั้น รามซิงค์ (อดินันท์ สิงห์หิรัญ) ที่มาติดต่อกับเริงถูกฆ่าตายตำรวจซึ่งมาจับเริง แต่ภูษิต (สมควร กระจ่างศาสตร์) นายทหารหัวหน้าฝ่ายต่อต้านมาขอตัวเริงไปช่วยราชการจากนั้นก็ปล่อยเริงไป ขบวนการเดินทางลงใต้มีหลายกลุ่มซูหลินที่เป็นลูกสาวของวิเชียรเดินทางโดยรถไฟพร้อมกับเป็งหลินโดยไม่รู้ว่าเขาฆ่าพ่อของเธอ ซูหลินถูกเป็งหลินลอบวางยาพิษแต่ภูษิตมาช่วยเธอไว้ได้ทันและหลบหนีไปพร้อมกัน ส่วนเป็งหลินก็ถูกพงษ์จังตัวไปบังคับให้บอกที่ซ่อนของฝิ่นแล้วพงษ์ก็ฆ่าเป็งหลินตายเพื่อฮุบสมบัติไว้คนเดียว เริงเดินทางโดยรถยนต์และได้รับสุดา (อรสา อิศรางกูร ณ อยุธยา) หญิงสาวที่รถเสียร่วมทางไปด้วย แท้จริงแล้วสุดาคือนางนกต่อของจัง (สมพล กงสุวรรณ) ที่หวังได้ฝิ่นเช่นกัน เริงเสียท่ามารยาหญิงโดนจังจับได้ แต่ระหว่างทางจังปะทะกับคนของลีเชงยู ทำให้เริงเกลี้ยกล่อมให้สุดาพาเขาหนีออกมา ส่วนจังและลีเชงยูก็ร่วมมือกันเดินทางไปลงขลา ที่สุสานทุกกลุ่มทยอยเดินทางมาถึง ต่างก็ปะทะกันเอง หักหลังกัน และบางคนก็ต้องจบชีวิตเพราะกับดักมากมายในสุสาน ผู้ที่เหลือรอดออกมาคือเริง ซูหลิน และภูษิตก็ติดอยู่ใต้ดิน แต่สุริยันก็ช่วยพวกเขาออกมาได้ เริงและพวกตามล่าจังที่หนีไปกับเรือดำน้ำ แต่ผลสุดท้ายจังก็จมลงไปกับเรือดำน้ำที่กลางทะเล เริงและซูหลินเข้ารับโทษเพียงเล็กน้อย เพราะได้ช่วยเหลือราชการในการปราบโจรเอาไว้
ล่าพยาบาท (2510)
ล่าพยาบาท (2510/1967) วิวัฒน์ (ทักษิณ แจ่มผล) ซึ่งลักลอกทำธุรกิจค้าปืนเถื่อนรู้ข่าวว่า ร้อยตำรวจโทเคน คมราช (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) ถูกเรียกตัวเข้ามากองปราบ ก็เดาได้ทันทีว่า เคนจะต้องมาตามล่าเสือจอม (สุเทพ เหมือนประสิทธิเวช) สมุนเอกของวิวัฒน์ วิวัฒน์จึงสั่งให้ลูกน้องไปดักยิงเคนที่สถานีรถไฟบางซื่อ ในขบวนรถไฟที่เคนเดินทางมานั้น ก็มี นิดา นิลาภา (พิศมัย วิไลศักดิ์) ร่วมขบวนมาด้วย แต่ทั้งสองยังไม่รู้จักกัน นิดาเดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อจะไปทำงานกับพี่สาวคือ นวลน้อย (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์) ซึ่งเป็นเมียของวิวัฒน์ เมื่อเคนลงจากรถไฟ มือปืนก็จะยิงเคน แต่นิดาเหลือบไปเห็นก่อน จึงร้องบอกและเหวี่ยงกระเป๋าใส่มือปืน กระสุนจึงพลาดไป เคนขอบใจนิดาและก็แยกย้ายกันไป ที่ท่าเรือคลองเตย เคนกับตำรวจจับกุมเสือจอมได้สำเร็จ วิวัฒน์จึงพานวลน้อยและนิดาหลบไปอยู่ที่อื่นก่อน ฝ่ายแม่นิ่ม (มารศรี อิศรางกูร) ซึ่งเป็นแม่ของนิดาก็เป็นห่วงนิดา จึงบอกให้ นนท์ (เสกสรร สัตยา) ซึ่งเป็นน้องชายนิดาไปเยี่ยมพี่สาว แต่นนท์ก็ถูกผู้ใหญ่เฉี่ยว (ถวัลย์ คีรีวัฒน์) กุมตัวไว้ใช้แรงงานโทษฐานไปแอบดูโฉม (ปริม ประภาพร) ลูกสาวอาบน้ำ ส่วนหลังฉากของผู้ใหญ่เฉี่ยวนั้นก็คือ ผลิตปืนเถื่อนขาย เมื่อเสือจอมถูกจับก็ทำให้วิวัฒน์เงินขาดมือเพราะไม่มีคนประสานงานเรื่องขายอาวุธปืนเถื่อนให้ จึงวางแผนกับนวลน้อยหวังจะเอานิดามาเป็นเมียอีกคน ทั้งนี้ เพื่อที่จะให้นิดาหาเงินให้ใช้เพราะนิดากำลังเป็นนักร้องที่โด่งดัง แต่คืนที่วิวัฒน์ปลุกปล้ำนิดานั้น นิดาฮึดสู้สุดฤทธิ์และใช้ปืนยิงวิวัฒน์ล้มลง นิดาตกใจคิดว่า วิวัฒน์ตายแล้ว จึงวิ่งหนีออกจากบ้าน ก็พอดีพบกับเคน เคนจึงพานิดาไปมอบตัวกับตำรวจ
สิงห์สองแผ่นดิน (2510)
สิงห์สองแผ่นดิน (2510/1967) ข้อความบนใบปิด สุริยันภาพยนตร์ ภูมิใจเสนอ ใหญ่เยี่ยมดัวยฝีมือสร้าง 2 ดาราเอกเชือดกันถึงใจทั้งบู๊..ชีวิต สิงห์สองแผ่นดิน (ไชยา สุริยัน) พบ (เสกสรร สัตยา) (ภาวนา ชนะจิต) พร้อมด้วย (เมตตา รุ่งรัตน์), (แมน ธีระพล), ชาณีย์ ยอดชัย, อบ บุญติด, (สุวิน สว่างรัตน์), ประกอบ, โยธิน เทวราช, (ไสล พูนชัย), (ทานทัต วิภาตะโยธิน), (เมืองเริง ปัทมินทร์), สัมพันธ์, (พร ไพโรจน์), รุ่ง เมืองราช, (หม่อมชั้น พวงวัน) ขอแนะนำ ขอใจ ฤทัยประชา, ก้อง กังสดาร เทียบรัตน์ คทธาคนี อำนวยการสร้าง พรรณสุริยา สร้างบท กันตัน กำกับการแสดง สว่าง บุญกาญจน์, วัลลภ สมิตวนันท์, เชษฐ์ วาทิน ฝ่ายธุรกิจ ลิขิต กฤษณมิตร, สุพงษ์, พินิจ ถ่ายภาพ พันคำภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
พยัคฆ์เดี่ยว (2510)
พยัคฆ์เดี่ยว (2510/1967) สมบัติ-กรุณา ยุวากร ข้อความบนใบปิด คีรีภาพยนตร์ เสนอ พยัคฆ์เดี่ยว ของ สุภาว์ เทวกุล (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) โชว์การควงและยิงปืนอย่างสุดฝีมือ กรุณา ยุวากร ร่วมด้วย (ประภาศรี เทพรักษา), รุ้งลาวัลย์ พิบูลย์สันติ, ถวัลย์ คีรีวัต, ไกร ครรชิต, จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ประณีต คุ้มเดช, ชาติ, กวี, รันดร, ชาญ มีศรี สุรินทร์ แก้วคีรี อำนวยการสร้าง-ถ่ายภาพ สาระวิน กำกับการแสดง
เทพบุตรปืนทอง (2510)
เทพบุตรปืนทอง (2510/1967) ข้อความบนใบปิด ฉัตรชัยภาพยนตร์ เสนอ พฤติกรรมจองล้างของ 4 สหาย รถไฟ-รถเมล์-ยี่เก-ตำรวจ เทพบุตรปืนทอง ของ 5 นักประพันธ์ (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) นำแสดงร่วมยอดดารา (อดุลย์ ดุลยรัตน์), เพชร์, ราชันย์ กาญจนมาศ, (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), ประมินทร์ จารุจารีต, วรรณา แสงจันทร์ทิพย์, (สมพล กงสุวรรณ), พิภพ ภู่ภิญโญ, เมศร์ แมนสรวง, (ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา), วัลภา, ทิว, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ปราณีต คุ้มเดช, เฉียว, เดือน, แดน ขอแนะนำหนุ่มหน้าหยก ชาญ กัมปนาท และดารารับเชิญ พยงค์ มุกดา แสวง ดิษยวรรธนะ ถ่ายภาพ พาณี ฉัตรกุล ณ อยุธยา อำนวยการสร้าง วรุณ ฉัตรกุล ณ อยุธยา กำกับ พันคำภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
ตะวันสีทอง (2510)
ตะวันสีทอง (2510/1967) มิตร-พิศมัย ข้อความบนใบปิด พิษณุภาพยนตร์ เสนอภาพยนตร์ชีวิต บู๊ ยิ่งใหญ่ ตะวันสีทอง ของ พจนาถ เกศจินดา นำแสดงโดย (มิตร ชัยบัญชา) (พิศมัย วิไลศักดิ์) โสภา สถาพร ร่วมด้วย ทัต เอกทัต, สาหัส บุญหลง, (ปรียา รุ่งเรือง), เยาวเรศ นิสากร, โยธิน เทวราช, แป้น ปลื้มสระไชย, ยนต์, (สุวิน สว่างรัตน์), จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ทองฮะ วงศ์รักไทย, ทองแถม, (เสน่ห์ โกมารชุน), ด.ช.ตุ๊ดตู่ ทัศนพยัคฆ์, ด.ญ.อรวรรณ สันทัด ศรีสัมพันธ์ ถ่ายภาพ วิจารณ์ ภักดีวิจิตร อำนวยการสร้าง อนุมาศ กำกับการแสดง จินตนาฟิล์ม จัดจำหน่าย
ผู้ชนะสิบทิศ ภาค 2 บุเรงนองลั่นกลองรบ (2510)
ผู้ชนะสิบทิศ ตอน บุเรงนองลั่นกลองรบ (2510/1967) เรื่องราวต่อเนื่องจากเหตุการณ์ที่พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ยกทัพบุกมายังเมืองแปร ด้วยความพิโรธจากการกระทำของจะเด็ด แต่กลับต้องแตกทัพกลับไป ขณะเดียวกัน สอพินยา แห่งหงสาวดี ก็ได้ลักลอบพาตัวกุสุมา คนรักของจะเด็ด กลับมายังหงสา เมื่อเรื่องราวเริ่มบานปลาย จะเด็ดจึงตัดสินใจกลับไปตองอูอีกครั้งเพื่อพิสูจน์ตัวเองต่อพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ พระองค์จึงสั่งให้จะเด็ดเตรียมทัพเพื่อตีเมืองแปรเป็นการไถ่โทษ
สาวจ้าวสมิง (2510)
สาวจ้าวสมิง (2510/1967) ข้อความบนใบปิด จากความรักที่กลายมาเป็นความหึงษาพยาบาท ด้วยแรงศักดิ์สิทธิ์ของไสยศาสตร์ และอำนาจวิญญาณเสือร้ายที่เข้าสิง เธอจึงเป็น... สาวจ้าวสมิง ของ...คิงส์ซาวน์ฟิล์ม (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) ปริม ประภาพร (แมน ธีระพล), สุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต, (สมพล กงสุวรรณ), (ล้อต๊อก), สมพงษ์ พงษ์มิตร นำแสดง และลูกทุ่งหุ่นสำอางค์ ไพรวัลย์ ลูกเพชร, วิภารัตน์ เปรื่องสุวรรณ (รังสี ทัศนพยัคฆ์) กำกับการแสดง ธีระ แอคะรัจน์ ถ่ายภาพ ชูศักดิ์ สอนอิ่มศาสตร์ อำนวยการสร้าง ขุนแผน ดำเนินงาน
1 ต่อ 7 ประจัญบาน (2510)

1 ต่อ 7 ประจัญบาน (2510/1967) หนังใหม่ ตอนใหม่! เชือกกล้วยศักดิ์สิทธิ์ กางเกงแดงแรงฤทธิ์ ตอนใหม่ ดีเด็ดกว่าทุกตอนที่เคยผ่าน สายตาท่านมาแล้ว!

 
นักเลงสี่แคว (2510)

นักเลง 4 แคว (2510/1967) มิตร-เนาวรัตน์ วัชรา ธราธรภาพยนตร์ เสนอ สี่แควมาแล้ว เข้าแถวต่อยหมู่ ดูเชิงบู๊ ชนิดจะ จะ... นักเลงสี่แคว ของ อ้อย อัจฉริยกร มิตร พบ 24 ดาราใหญ่ เนาวรัตน์ วัชรา, (ชนะ ศรีอุบล), (เมตตา รุ่งรัตน์), (อดินันท์ สิงห์หิรัญ), อนุชา รัตนมาลย์, เยาวเรศ นิศากร, ทม วิศวชาติ, (ประภาศรี เทพรักษา), ชาณีย์ ยอดชัย, จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม) ฯลฯ ธราธร กำกับการแสดง วินิจ ภักดีวิจิตร อำนวยการสร้าง สันทัด ศรีสัมพันธ์ ถ่ายภาพ วัชรภาพยนตร์ จัดจำหน่าย

 
5 พยัคฆ์สาว (2510)
5 พยัคฆ์สาว (2510/1967) นายเศรษฐา มหาเศรษฐี ผู้เป็นเจ้าของเพชรอันมีค่าเป็นร้อยล้าน เป็นที่รู้จักทั่วไปทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ซึ่งใคร ๆ ก็อยากรู้จักเพราะความมั่งคั่งของเขา เศรษฐาเป็นพ่อหม้าย มีลูกสาวอยู่คนเดียว คือ เอวบาง ซึ่งพ่อก็ตามใจ ไม่ขัด กิตติศัพท์ของความมั่งคั่งนี้ทุกคนก็อยากจะรู้จักกับเศรษฐา ในจำนวนนี้มีแววมณี อยู่ด้วยคนหนึ่ง ผู้เป็นสาวสังคม แต่การที่อยากจะได้รู้จัก นายเศรษฐา ของแววมณีก็เพื่อต้องการเพชรอันมีค่าเป็นร้อยล้านนั้นแววมณีได้พยายามติดตามเพื่อทำความรู้จักกับเศรษฐาอยู่ตลอดมา จนวันหนึ่งเธอได้มีโอกาสขับรถไปพบกับเศรษฐา และพยายามแกล้งเศรษฐาต่าง ๆ ด้วยการขับรถไล่แซงเศรษฐาแต่เศรษฐาก็ไม่สนใจ เมื่อเศรษฐาลงเล่นน้ำทะเล แววมณีก็แกล้งขับเรือชน และช่วยเศรษฐาเอาไว้ไม่ให้จมน้ำตาย พาขึ้นจากน้ำมาพยาบาล และแนะนำให้เศรษฐารู้จักว่าตนคือเจ้าแววมณี เศรษฐาก็หลงเชื่อ แต่ก็ไม่ค่อยจะสนใจนัก เมื่อเศรษฐาจะกลับก็ถูกพวกคนร้ายกลุ่มหนึ่ง มีคร้าว และลูกน้อง เข้าทำร้ายจะจับตัวไป แววมณีจึงเอาปืนยิงไล่พวก คร้าวหนีไป ช่วยเศรษฐาไว้ได้ เมื่อแววมณีได้ทำความรู้จักกับเศรษฐาได้แล้ว ก็วางแผนไว้เงียบ ๆในใจเพื่อจะขโมยเพชรค่าร้อยล้านของเศรษฐา แต่เธอทำงานคนเดียวไม่ได้ จึงไปพบกับใจเพชร ช่วยใจเพชรไว้ได้ในขณะที่ใจเพชรเข้าไปล้วงกระเป๋านักการพนันในสนามม้า และถูกตำรวจจับแววมณีพาใจเพชรไปบ้าน ขอให้ใจเพชรช่วยพาเพื่อน ๆ มาทำงานให้ตน ใจเพชรก็รับปากจะตามเพื่อน ๆซึ่งมีฝีมือในทางต่าง ๆ ทั้งหลายมาร่วมด้วย แต่ก่อนอื่นเธอขอเงินจากแววมณีเพื่อจะเอาไปรักษาพยาบาลแม่ของเธอ ซึ่งนอนเจ็บอยู่ออกไปค้าขายไม่ได้ แววมณีก็ให้เงินใจเพชรไป ใจเพชรดีใจ รีบไปหาหมอมารักษาแม่ แม่ไม่ยอมให้หมอรักษา คิดว่าใจเพชรไปขโมยเงินใครมา เธอยอมตายเสียดีกว่าที่จะยอมใช้เงินทุจริต ใจเพชรต้องบอกให้ฟังว่าเธอขอยืมเพื่อนเธอมา และเธอได้ทำงานจากเพื่อนชองเธอแล้ว แม่จึงเข้าใจ และก็ขอร้องกับใจเพชรให้เลิกทำตัวเป็นขโมยนักล้วงกระเป๋าเสีย มันทำให้แม่ไม่สบายใจ ใจเพชรยอมสาบานต่อหน้าพระว่า เธอเลิกขโมยเขาแล้วเธอยอมสาบานเพื่อให้แม่สบายใจ ทั้ง ๆที่ๆม่สบายใจเพราะยังไม่รู้แน่ว่าแววมณีเพื่อเธอจะทำงานอะไรที่เอาเธอไปร่วมด้วย แน่ละ มันต้องเป็นงานทุจริต มิฉนั้นแววมณีจะให้เธอหาเพื่อนฝีมือดี ๆ มาทำไม เมื่อจัดการธุระกับแม่เสร็จแล้ว ใจเพชรกับแววมณีก็เที่ยวออกติดตามหาแก่นจิตต์ผู้บำเพ็ญตัว เป็นอ้ายตีนแมวเที่ยวงัดแงะบ้านเข้าไปลักทรัพย์ของเจ้าบ้านที่กำลังนิทรา และบังเอิญคืนนี้เธอไปในบ้าน ที่เจ้าบ้านชอบละเมอ ขณะที่เธองัดแงะเซฟเจ้าบ้านก็ละเมอคิดว่าเธอเป็นเมียของเขา จึงเกิดชุลมุนกันขึ้นเธอต้องรีบปีนรั้วบ้านแผ่นหนีเจ้าบ้านออกมา แทบไม่ทัน ก็พบกับใจเพชรและแววมณี ทั้งสองจึงพาเธอไปติดตามหาเสียงจันทร์ ในขณะที่เสียงจันทร์กำลังถูกพวกหนุ่ม ๆ รุมรังแก แต่เสียงจันทร์ก็จัดการปราบเสีย ด้วยเชิงมวยไทยคารเต้และมวยจีน ใจเพชรมาพบเข้าจึงเอาตัวเสียงจันทร์ไป และไปรอคอยสุนิสาที่ดาราคลับเพราะสุนิสาเป็นดาราฟลอโชว์ ในขณะที่สุนิสาเต้นฟลอโชว์เสร็จ จะกลับบ้าน ก็ถูกขี้เมาฉุดจะเอาขึ้นรถไปด้วย เสียงจันทร์จึงเข้าจัดการกับพวกขี้เมาเสียหมอบไป แล้วสุนิสาไปร่วมแก๊งค์กับแววมณี เมื่อได้ตัวที่จะทำงานใหญ่ พร้อมแล้วแววมณีก็เปิดแผนของตนให้เพื่อน ๆ ฟังว่านายเศรษฐาจะจัดงานโชว์เครื่องเพชร เธอจะวางแผน ให้พวกเพื่อนเข้าไปขโมยเพชร ในบ้านเศรษฐา โดยให้พวกเพื่อน ๆเป็นฟลอโชว์เข้าไปแสดงในงาน และตัวเธอเองจะเข้าไปอยู่ในบ้านเศรษฐาก่อน เพื่อดูลาดเลาทางช่องทาง ขโมยเพชร ราคา ร้อยล้าน นั้น ให้ได้ทุกคนกระตือรือล้น ที่จะได้เข้าไป ทำการโจรกรรมในครั้งนี้มีแต่ใจเพชรคนเดียว ที่ไม่สบายใจเพราะตนได้ให้สาบาลกับแม่ไว้ว่าจะไม่ประพฤติทุจริต เธอได้พยายามคัดค้านเพื่อน ๆ ว่ามันเป็นงานใหญ่จะถูกจับ แต่เพื่อน ๆ กลับหาว่าเธอกลัว และแววมณีก็สนับสนุนว่าถ้าได้เพชรร้อยล้านนี้มาเธอจะรักษา แม่ของใจเพชรให้หาย โดยเอาหมอที่มีชื่อที่สุดมารักษา ใจเพชรก็เก็บเอาความกลัวไว้เงียบ ๆ ในใจ ทางฝ่าย ผู้บังคับ การตำรวจ ได้สั่ง ให้ พ.ต.ต. แมน ไปคอยระวังในวันโชว์เครื่องเพชรของนายเศรษฐา แมนจึงไปพบกับเศรษฐา พร้อมด้วยจ่าต๊อกที่ปลอมเป็นผู้หญิงไปอธิบายให้เศรษฐาทราบถึงการป้องกันการโจรกรรม เศรษฐากลับอ้างว่าตู้ เซฟของเขามีการป้องกันอย่างดี และพาแมนเข้าไปดูในที่เก็บเครื่องเพชรว่ามีสองชั้น และชั้นแรกก็เอาไว้เครื่องเพชรปลอม ส่วนของจริงอยู่ชั้นในไม่มีใครรู้ แต่ได้แมนมาช่วยระแวดระวังด้วยก็ดี พร้อมกันนั้น แววมณี ก็มาพบเศรษฐาและขอพักอยู่ในบ้านเศรษฐาด้วย ซึ่งทำให้เอวบางไม่พอใจเพราะกลัวว่าแววมณีจะมาเป็นแม่เลี้ยงของเธอ เมื่องานโชว์เครื่องเพชรได้กำหนดลงคร้าว และลูกน้องก็หาโอกาสจะเข้ามา ในงานเพื่อทำการโจรกรรมด้วย โดยขอบัตรผ่านเข้าชมงานมาทางเอวบาง เอวบางก็ส่งไปให้เพราะคร้าวพูดจา ยกยอ เอวบางต่าง ๆ นา ๆ เอวบางที่ขาดผู้ชายสนใจก็หลงลืม แต่มีอยู่คนหนึ่งคือเทพที่แอบหลงรักเอวบางอยู่ ก็พยายามจะเข้าไปในงานโชว์เครื่องเพชรนี้ให้ได้ แต่ไม่ใช่หวังขโมยเครื่องเพชร แต่เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ ๆ กับเอวบาง จึงหาทางปลอมตัวเป็นมหาราชแห่งอินเดียเข้าไปในงาน เมื่องานเริ่มขึ้นบรรดาแขกเหรื่อ ก็ต่างสนุกสนานกัน แววมณีได้ให้พรรคพวกของตนได้เข้าไปในงาน และเตรียมงานอยู่ในห้องชั้นบน เมื่อทั้ง ใจเพชร แก่นจิตต์ เสียงจันทร์ สุนิสา เข้าไปในงานก็ได้รับการต้อนรับจากแมนที่เศรษฐา บอกกับใคร ๆ ว่าแมน คือหลานชายของเขาที่สำเร็จวิชาแพทย์จากอเมริกา แก่นจิตต์ เสียงจันทร์ สุนิสา เห็นแมนก็พอใจความหล่อสมาร์ทของแมน ต่างก็ประจบประแจงเพื่อให้แมนสนใจ ซึ่งแววมณีเองก็ชอบแมนอยู่ ได้พยายามกันท่ากันเอง นอกใจเพชรได้พยายามสอบถามเอวบางอยู่ตลอดเวลา เทพและลูกน้องเมื่อมาเห็นเอวบาง สนิทกับคร้าวก็เข้ากันท่าเกิดทะเลาะกัน ในขณะที่การโชว์เครื่องเพชรเริ่มขึ้น แววมณีก็ให้พรรคพวกของตนเจาะพื้น เพื่อลงไปในห้องเซฟข้างล่างโดยที่เธอสืบทราบความจริงทั้งหมดของห้องเซฟมาจากเศรษฐาแล้ว หลังจากการโชว์เครื่องเพชรเสร็จแล้วเศรษฐาเอาเครื่องเพชรเข้าเก็บในเซฟเรียบร้อย คร้าวซึ่งหาโอกาสจะขโมยแต่ไม่มีโอกาสเพราะถูกเอวบางรบกวนอยู่เสมอ จึงจับเอวบางบังคับให้เอวบางเปิดเซฟให้เขา แต่เทพมาเห็นเข้าจึงต่อสู้กัน และคร้าวถูกแมนจบแจ้งเรื่องให้เศรษฐารู้ เศรษฐาจึงบอกให้ทุกคนรู้ว่าเป็นของปลอม ของจริงนั้นอยู่ข้างใน ซึ่งไม่มีใครรู้เลยว่าขณะนี้แก่นจิตต์ได้ลงไปกวาดเอา เครื่องเพชรจริงนั่นอยู่ โดยมีพรรคพวกช่วยเหลือ เศรษฐาเห็นใจเทพที่ยอมเจ็บตัวเพราะช่วยเหลือเอวบางและพยายามขัดขวางการปล้นเพชรจากคร้าว และรู้ว่าเอวบางชอบเทพก็เลยยกเอวบางให้เทพ ฝ่ายตนเองก็ชอบแววมณีพาแววมณีออกมาพรอดรักอยู่นอกบ้าน จึงถูกแววมณีทำร้ายเอาถึงสลบเพราะแผนการณ์ของเธอสำเร็จแล้ว เมื่อพรรคพวกของเธอขโมยเอาเครื่องเพชรมาได้ แมนได้เหตุการณ์ก็เข้าขัดขวาง ไม่ยอมให้แววมณีเอาเครื่องเพชรไป จึงเกิดการต่อสู้กันกับ 5 สาว ใจเพชรด้วยความกลัวจึงรีบเอาเครื่องเพชร ไปคืนไว้ที่เดิม เมื่อถูกจับก็ค้นไม่พบเครื่องเพชร เศรษฐาให้ไปตรวจในเซฟ ก็ปรากฎว่าทุกชิ้น ยังอยู่ในที่ของมันไม่ได้หายไปเลย แววมณีเข้าไปออเซาะเศรษฐา ไม่ให้เอาเรื่องกับพวกเธอเศรษฐาก็ยินดีเพราะตนรักแววมณี แมนจึงต้องปล่อยตัว 5 สาวไป ใจเพชรรีบกลับมาหาแม่สารภาพกับแม่ถึงความผิดที่ตนทำไป ด้วยความเสียใจ และว่าเธอเข็ดแล้วไม่ขอทำความทุจริตอีกต่อไป ซึ่งแมนก็ได้ติดตามมาฟังอยู่ด้วย บังเกิดความเห็นใจที่ใจเพชรทำไปเพราะอยากช่วยแม่ และเพื่อนซักจูงไปในทางผิด จึงบอกเธอขอเป็นผู้อุปการะครอบครัวของเธอ ทำให้สี่สาวซึ่งหวังปองแมนได้รับความผิดหวังไปตาม ๆ กัน
7 พระกาฬ (2510)

7 พระกาฬ (2510/1967) รถบรรทุกผู้ต้องหาฉกรรจ์จากหล่มสักจะไปพิษณุโลก เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำบนไหล่เขา แรงกระแทกของตัวรถกับฟื้นทำให้ประตูรถตู้หลุดออดเป็นกระบิ สารวัตรชาญชัยผู้คุมมากับรถได้รับบาดเจ็บจนสงบ ส่วน 7 ผู้ต้องหาถือโอกาสหลบหนีเข้าป่าจนหมดสิ้นนี่คือที่มาของ 7 พระกาฬ เมื่อขบวนรถไฟ จากพิษณุโลกเข้าเทียบสถานีลำปาง หาญ เมืองทอง ผู้ช่อนตัวมากับตู้รถสินค้าก็กระโดดลง พระกาฬคนแรกเกิดที่อำเภอวังเหนือในจังหวัดนี้ หาญแวะไปหาอาหารกินที่ร้าน อาหารใต้โรงแรมอนุโรจน์ที่นั่น หาญเกิดเรื่องขึ้นกับนักเลง 3 คน มีคร้ามนักเลงมืดเป็นหัวหน้า เขากล่อมสมุนของคร้ามสองคน เงียบในชั่วครู่ คร้ามเองถูกหาญกด หัวลงกับเตาไฟจนหน้าตา พองไหม้ไปหมด และคืนนั้นหาญก็ประกาศศักดาพระกาฬด้วยการพักที่โรงแรมนั่นเอง บุญมี แม่นฉมวก อาศัยรถโกดังมาลำปาง มือปืนจากแพร่เข้ารายงานให้พ่อเลี้ยงแสน ผู้เป็นเจ้านายทราบ เรื่องที่ถูกจับ พ่อเลี้ยงแสนจึงแนะนำให้บุญมีไปเก็บตัวอยู่เสียที่ค่ายพักป่าไม้ที่อำเภอวังเหนือ คร้ามซึ่งเป็นคนของพ่อเลี้ยงแสน กลับมาเล่าเรื่องที่พลาดท่าหาญมา พ่อเลี้ยงจำหาญได้ สมัยหนึ่งพระกาฬคนนั้นเคยรับจ้างพ่อเลี้ยง คุมคาราวาน ฝิ่น ล่องใต้ เหิมพ่อของหาญนำกำลังตำรวจเข้าสกัดจับ ฝิ่นที่หาญคุมมา หาญไม่รู้ผู้นำจับคนนั้นคือพ่อของเขา เขาสู้และยิงผู้ใหญ่เหิมบาดเจ็บจากนั้นหาญก็หายไปจากลำปาง ก่อนจากไปหาญยิงอินตาน้องชายของพ่อเลี้ยงแสนตายจึงทำให้พ่อเลี้ยงพยาบาทหาญนัก แต่หาญหายไปเกือบสิบปี การกลับมาของหาญทำให้พ่อเลี้ยงแสนวางแผน จะเก็บเงียบหาญให้ได้บุญมีช่วยพ่อเลี้ยงวางแผนพิฆาตหาญอย่างรัดกุม โดยให้ดาวร้าย พร ศรีชุม เป็นคนไปจัดการตามแผนเก็บหาญที่โรงแรม แต่แผนของบุญมี พลาด เพราะทองใบ บางเบิด ทองใบ บางเบิด ซึ่งมาจากคณะลิเกได้ยินสมุนของพ่อเลี้ยงพูดถึงแผนการฆ่าหาญ ทองใบซ้อนแผนของบุญมี ช่วยหาญออกมาจากความตายได้อย่างหวุดหวิด หาญจึงชวนอดีตพระเอกลิเกไปเที่ยวบ้านของตนที่วังเหนือด้วยลิเกผู้หาวิเล่นไม่ได้กำลังถังแตกก็ตกลง ดามพ์ ดัสกร ขโมยรถเก๋งของผู้พิพากษาพิษณุโลกขึ้นเหนือ ที่ด่านตำรวจอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง รถของเสี่ยมังกรซึ่งกลับจากกรุงเทพฯ ถูกกักที่ด่าน เนื่องจากตำรวจกำลังปิดถนนเพื่อสกัดจับรถขโมย ดามพ์มาถึงและใช้ความบ้าบิ่นขับรถพุ่งเข้าชนเครื่อง กีด ขวาง พังทลาย พระกาฬฝ่าตำรวจออกไปได้ และทิ้งรถหนีเตลิดเปิดเปิงเข้าป่าไปจนรุ่งเช้าดามพ์จึงขออาศัยรถลากไม้ในป่า เข้ามาในเมืองปรากฎว่ารถลากไม้เป็นของเสี่ยมังกร ผู้ทรงอิทธิพลในทางค้าไม้เถื่อน เสี่ยมังกรจำได้ว่าดามพ์เป็นผู้ร้ายที่ขับรถหนีตำรวจตอนที่ตนติดด่าน เขาพอใจในความบ้าบิ่นและความฉลาดมีไหวพริบของดามพ์มาก จึงชวนไปทำงานด้วย ดามพ์ตกลง เสี่ยมังกรจึงชวนไปวังเหนือด้วยกัน ที่วังเหนือ หาญเมืองทอง ไปหาพ่อที่บ้าน เขาพบแต่คำหอมน้องสาวคนเดียวส่วนผู้ใหญ่เหิน ซึ่งบัดนี้เป็น กำนัน แล้วไปที่ตลาด กำนันเหินถูกพวกป่าไม้ของพ่อเลี้ยงแสนห้าหกคน รวนที่ร้านเหล้า จนเกิดเรื่องขึ้นเสือเก่าพ่อของหาญถูกรุมซ้อมจนทองใบ บางเบิด ซึ่งนั่งดูเหตุการณ์ดูไม่ได้ พระเอกลิเกเข้าช่วยกำนันเหิน แต่พวกนักเลงป่าไม้มีมากกว่า ทองใบจึงตึกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ขณะนั้นรถของเสี่ยมังกรพาดามพ์มาถึงวังเหนือพอดี ดามพ์จำสหายในห้องขังได้ก็เข้าช่วย หาญมาทันเหตุการณ์ พอดีจึงเข้าตลุมบอนศัตรูของพ่อสามเสือ หมอบนักเลงป่าลงอย่างราบคราบและเริ่มมีจิตเป็นมิตรกันมาแต่นั้นมา กำนันเหินไม่ยอม ให้อภัยหาญในเรื่องอดีตเมื่อครั้งถูกยิง และประกาศไม่ให้หาญเข้าบ้าน แม้ว่าคำหอมลูกสาวจะขอร้องสักเท่าไหร่ก็ตาม เสี่ยมังกรขอบใจฝีมือหาญกับทองใบ เขาชวนทั้งสองไปเที่ยวที่ค่ายพักป่าไม้บนเขา แต่เมื่อหาญกับทองใบไปถึงทั้งสองกับถูกพ่อเลี้ยงล้อมยิงจนหาญได้รับบาดเจ็บทองใบพาหาญหนีออกจากเขามาได้ สองเสือไปพักที่บ้านของพลอยและแพรสองแม่ลูกที่อยู่ในดงสาวแพรเอาใจใส่ดูแลแผลของ หาญอย่างดีพร้อมกับเด็กสาวก็แอบรักหาญเข้าหัวใจ มืด ธรณีมาลำปางวันแรกก็ทำตัวเป็นพ่อเลี้ยงใหญ่ สั่งอาหารอย่างดีมากินจนอิ่มแล้วก็เผ่นหนี เพราะไม่มีเงินจ่ายเขา พบกับบุญมีที่วังเหนือจึงชวนยักษ์มีดไปอยู่กับพ่อเลี้ยงแสนด้วย คม คันศร เผ่นจากรถตู้ หนีเข้าป่ามาพิษณุโลก คืนนั้นคมเล่นไพ่ในบ่อนจนเกิดเรื่องกับเจ้าเมือง เพราะต่างคนต่างโกง คมเกือบถูกล้อมกรอบพอดีตำรวจมา คมอาศัยความว่องไวหนีเข้าไปในบ้านของสร้อย ซึ่งเป็นลูกสาวของพ่อเลี้ยงแสน สร้อยพอใจคมจึงชวนคมไปวังเหนือเพื่อร่วมงานกับพ่อ ของสร้อย หาญเก็บตัวเป็นเสือลำปางอยู่พักหนึ่งเมื่อหายดี ก็คิดล้างแค้นโดยมีทองใบเคียงข้างคืนนั้นที่วังเหนือ ภายในบ่อนการพนันของพ่อเลี้ยงแสน จึงเป็นที่รวมของ 6 พระกาฬอย่างบังเอิญ บ่อนแตกพระกาฬทั้ง 6 คุมเชิงกัน ดาม ดัสกร ยิงไฟดับจึงทำให้พระกาฬทั้งหลายแหวกวงล้อมไปได้ พยัคฆ์ ศักดิ์นารายณ์ พระกาฬคนที่ 7 มาวังเหนือเป็นคนสุดท้ายตามแผนนายอนันต์นายใหญ่ของพ่อเลี้ยงแสน เปิดฉากปล้นบ้านกำนันเหินและฉุกคำหอมไป เพื่อล่อตัวหาญเข้าไปเป็นพวก เพราะนายอนันต์ต้องการให้เจ็ดพระกาฬทำงานให้ หาญยอมจำนนรับทำงานให้กับนายอนันต์ 7 พระกาฬถูกนำตัวไปเชียงราย ขณะเดียวกันทางการได้ส่งสารวัตรชาญมาภาคเหนือ เพื่อทำงานประสานกับคนของกรมสืบราชการลับ ที่ถูกส่งมาก่อนแล้วชาญชัยมาถึงเชียงราย ไปดักพบพยัคฆ์ที่ช่องนางโลม เมื่อพยัคฆ์มาก็เกิดยิงกับชาญชัยขึ้นพยัคฆ์เป็นฝ่ายถอย ชาญชัยจับนักเลงปืนชื่อดังได้ ชื่อฝัง ฝังเป็นคนของสิงห์ ไกรศร สิงห์เป็นมือขวาของนายอนันต์ ชาญชัยรู้ว่าฝังทำงานกับพวกก่อการร้าย เขาต้องการให้ฝังสารภาพ แต่เมื่อเขาพาฝังออกมาถึงถนน สิงห์นักฆ่าผู้เหี้ยมโหด ก็ขับรถเข้าชนฝังตายก่อนที่มันจะเปิดปากบอกความจริงกับตำรวจ ดามพ์ ดัสกรแท้จริงเป็นของกรมสืบราชการลับ ใช้รหัสติดต่อกับชาญชัยในไนท์คลับแห่งหนึ่ง ดามพ์ส่งข่าวให้ชาญชัยรู้ว่าจะมีการขนอาวุธเถื่อนครั้งใหญ่ จากลำปางมาเชียงรายโดยรถขนอาวุธ 4 คันผ่านสะพานข้ามแม่น้ำตอนดึกวันรุ่งขึ้น ชาญชัยนำตำรวจออกสกัดจับรถขนอาวุธ ทั้งหมดถูกล้อมบนสพานคมกับสิงห์นำขบวนฝ่าวงล้อมตำรวจคันที่คมขับฝ่าได้ คันต่อมาเป็นรถอาวุธที่มีพยัคฆ์นั่งคุมเดชเป็นคนขับถูกรถตำรวจกั้นพยัคฆ์ใช้ปืนยิงตำรวจก่อน ตำรวจยิงตอบถูกคนขับอาวุธจึงพุ่งชนปั้มน้ำมันข้างทางแหลกละเอียดไม่มีชิ้นดี พระกาฬคนที่ 7 สิ้นเสียแล้ว พระกาฬที่เหลือเผ่นหนีกันไปคนละทางดามพ์ กับ สร้อยพุ่งหลาวลงแม่น้ำไปตามกระแสเชี่ยวหายไปในความมืดความล้มเหลวครั้งนี้ทำให้นายใหญ่เดือดแค้นมาก พระกาฬสบักสบอมกลับมาถูกส่งไปค่ายชายแดนแม่สายทันทีที่นั่นดามพ์ สังเกตเห็นนายใหญ่ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปชายแดนเสมอ และขณะเดียวกันนั้นชาญชัยก็ถูกนางนกต่อของนายใหญ่ชื่อ รสริน รมยาสลบเมื่อได้สติเขาก็ถูกเคียว ครคาราเต้ชาวญี่ปุ่นซ้อมก่อนจะนำตัวมาค่ายใหญ่ คืนหนึ่งดามพ์ลอบเข้าไปในกองบัญชาการเพื่อค้นหาความลับเขากลับได้พบว่ามีบุรุษลึกลับผู้หนึ่งลอบเข้าไปทำงานเช่นเดียวกับเขาหมอนั่นถ่ายภาพเอกสารสำคัญในเซฟ ดามพ์มารู้ภายหลังว่าบุรุษผู้นั้นคือ คม คันศรนั่นเอง  

นางนวล (2510)
นางนวล (2510/1967) ข้อความบนใบปิด กฤษดาภาพยนตร์ เสนอ ยอดวีรบุรุษแห่งราชนาวี ที่ใคร-ใครเรียกว่า “สิงห์หัวเห็ด” ผู้เผด็จทั่วเจ็ดย่านน้ำ นางนวล ของ อ้อย อัจฉริยกร (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) ร่วมด้วย ทักษิณ แจ่มผล, อรสา อิศรากูร, (อดุลย์ ดุลยรัตน์), อนุชา รัตนมาลย์, (ชุมพร เทพพิทักษ์), (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), ชนินทร์ นฤปกรณ์, ถวัลย์ คีรีวัต, ปิ่นนเรศ ศรีนาคาร, จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, ประเสริฐ, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), สีเทา, วาที, ชูศักดิ์ และขอแนะนำดาวรุ่งดวงใหม่ ระวิวรรณ พรรณราย ธีระ แอคะรัจน์ ถ่ายภาพ จันทร์รอน กฤษฎา อำนวยการสร้าง (รังสี ทัศนพยัคฆ์) กำกับการแสดง สีเทา ดำเนินงานสร้าง เอกรัตน์ จัดจำหน่าย
นักเลงพันเหลี่ยม (2510)
นักเลงพันเหลี่ยม (2510/1967) นักเลงพันเหลี่ยม เป็นภาพยนตร์สี 16 มม.ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2510 ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกของ (ครรชิต ขวัญประชา) และมีเพลงประกอบในชื่อเดียวกัน ที่ขับร้องโดย ธานินทร์ อินทรเทพ
เหนือเพชฌฆาต (2510)
เหนือเพชฌฆาต (2510/1967) ข้อความบนใบปิด เมฆขลาภาพยนตร์ เสนอ (มิตร ชัยบัญชา) โสภา สถาพร บทประพันธ์ของ สงัด บรรจงศิลป์ จากพฤติการณ์ตอนหนึ่งของ พ.อ.เกียรติกำแหง ตอน... เหนือเพชฌฆาต ห้าวหาญ หักเหลี่ยม บู๊เด็ด เผ็ดเหลือ เหนือกว่าสมิง ยิ่งกว่าพยัคฆ์ ร่วมด้วย (อดุลย์ ดุลยรัตน์), (ปรียา รุ่งเรือง), ทัต เอกทัต, ประมินทร์ จารุจารีต, สังเวียน หาญบุญตรง, (สมพล กงสุวรรณ), วลิต สนธิรัตน์, มานี มณีวรรณ, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม) ฯลฯ ส.อาสนจินดา อำนวยการแสดง ฉลวย ศรีรัตนา กำกับการแสดง วิเชียร วีระโชติ ถ่ายภาพ วรุตม์ วงศ์สมเพชร อำนวยการสร้าง ส.อาสนจินดาภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
ชาติกระทิง (2509)
ชาติกระทิง (2509/1966) ข้อความบนใบปิด พันคำภาพยนตร์ รักฉกรรจ์ บู๊ฉกาจ ต้อง... ชาติกระทิง บทประพันธ์ของ...โศจิรัตน์ บุญเรือง ครั้งแรก ครั้งเดียว ที่สุดยอดดาราพบกัน! (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) พบ (ลือชัย นฤนาท) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) พบ โสภา สถาพร ร่วมด้วย... (ปรียา รุ่งเรือง), อนุชา รัตนมาลย์, ขวัญตา บัวเปลี่ยนสี, เชาว์ แคล่วคล่อง, ชาลี อินทรวิจิตร, วิชิต ไวงาน, (ล้อต๊อก), (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ทองถม, จุ๋มจิ๋ม, ชาห์ณีย์ ยอดชัย, (เทียว ธารา), ทศ, (ทานทัต วิภาตะโยธิน), แป้น ปลื้มสระไชย, พิศ, ชาย, บู๊ วิบูลย์นันท์ และ (ชุมพร เทพพิทักษ์) ไพรัช สังวริบุตร ถ่ายภาพ พันคำ อำนวยการสร้าง-กำกับการแสดง พันคำภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
ซัมเซ็ง (2509)
ซัมเซ็ง (2509/1966) สมบัติ-ภาวนา ข้อความบนใบปิด แสงชัยภาพยนตร์ เสนอ “ลอยด์ นิรันดร์” ผู้รุนแรงยิ่งกว่าไฟกรด ทำยังไงได้ เขาเกิดมาไม่กลัวใคร! ซัมเซ็ง ของ กฤษดา (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (ภาวนา ชนะจิต) ทักษิณ แจ่มผล, เยาวเรศ นิสากร, กรองแก้ว, ขวัญตา บัวเปลี่ยนสี, (พร ไพโรจน์), โยธิน เทวราช, พูนสวัสดิ์ ธีมากร, (ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา), สิงห์ มิลินทราศัย, (ไสล พูนชัย), สุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต, ถวัลย์ คีรีวัต, ทรงวุฒิ, วิจิตร นำ รอย ฤทธิรณ-กมล รุ่งประจักษ์ สร้างบท เฉลิม บุตรบุรุษ ถ่ายภาพ รุ่ง เปลวทอง อำนวยการสร้าง วิน วันชัย กำกับการแสดง วัชรภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
4 สมิง (2509)
4 สมิง (2509/1966) มิตร-เพชรา ข้อความบนใบปิด ชม! ภาพยนตร์หลั่งเลือดโลมรัก ของนักสู้เหนือกว่านักเลง ครื้นเครงประทับใจ บูรพาศิลปภาพยนตร์ เสนอ 4 สมิง บทประพันธ์ของ ป.พิมล จากละครวิทยุฮิตของคณะ “แก้วฟ้า” มิตร-เพชรา พบ สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์, ทักษิณ แจ่มผล, (อดุลย์ ดุลยรัตน์), ฤทธี นฤบาล, (ชุมพร เทพพิทักษ์), จุ๋มจิ๋ม ศรทอง และ 4 ดาวยั่ว (ประภาศรี เทพรักษา), มานี มณีวรรณ, นาฏ นดา, เพราพิลาศ โยธานันท์ ร่วมด้วย สุเทพ เหมือนประสิทธิเวช ส.อาสนจินดา กำกับการแสดง สำเภา ประสงค์ผล อำนวยการสร้าง วินิจ ภักดีวิจิตร ถ่ายภาพ ส.อาสนจินดาภาพยนตร์ จัดจำหน่าย