ลูกยอด (2514)
ลูกยอด (2514/1971) ข้อความบนใบปิด วิเศษโกมลภาพยนตร์ จัดสร้าง... เหนือกว่า! ดีกว่า! เยี่ยมกว่า! ที่กล้ายืนยันให้ท่านพิสูจน์ความดีเด่น! อย่างยอดเยี่ยม ของ (กรุง ศรีวิไล) ในบทชีวิต! รัก! บู๊! และ สรวลเสเฮฮา! ท่านจะต้องชื่นชมและประทับใจ ลูกยอด จากบทประพันธ์อันยิ่งใหญ่ ของ ‘อรวรรณ’ ในบางกอกรายสัปดาห์ (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) พบ (กรุง ศรีวิไล) พระเอกหน้ามลคนใหม่ ร่วมด้วย โสภา สถาพร, (ชุมพร เทพพิทักษ์), วาสนา ชลากร, ประมินทร์ จารุจารีต, ไกร ครรชิต, เชาว์ แคล่วคล่อง, (สมพล กงสุวรรณ), (ทานทัต วิภาตะโยธิน), ถวัลย์ คีรีวัต, บู๊ วิบูลย์นันท์, พัชนี, เนตรดาว, สุรชาติ ไตรโภค, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), โขน หมอผี, สีเทา, ชื้นแฉะ, จุ่น, ปราณีต คุ้มเดช, ขวัญจิต ฯลฯ และ 2 ดาราทีวี กับ จอมปฐพีแห่งผืนผ้าใบ.. (เปี๊ยก พิศาล อัครเศรณี) VS แดนชัย เพลินจิต 7 เพลงเอก 35 ม.ม. สมหวัง จารุวรรณ อำนวยการสร้าง “จารุกร” กำกับการแสดง ลิขิต กฤษณมิตร ถ่ายภาพ “อัษฏาวุธ” ลำดับภาพ “มณี โกมล” สร้างฉากและฝ่ายศิลป์ สมผล ไชยวรรณ-ชล ณ เมืองอินทร์ สร้างบท สังเวียน หาญบุญตรง กำกับบท ชรินทร์ ทองสิงห์ ดำเนินงาน ช.พิริยะฟิล์ม จัดจำหน่าย
ยอดต่อยอด (2514)
ยอดต่อยอด (2514/1971) ข้อความบนใบปิด พญาไทภาพยนตร์ เสนอ ยอดต่อยอด นำโดย (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) ร่วมด้วย (ชุมพร เทพพิทักษ์), ศศิธร เพชรรุ่ง, ไกร ครรชิต, (สุวิน สว่างรัตน์), (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), (อดินันท์ สิงห์หิรัญ), (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), เทียนชัย, รวงทิพย์, โกร่ง กางเกงแดง, ประมินทร์ จารุจารีต, ฤทธี นฤบาล, ไผ่ พัทลุง ฟังเพลง 35 ม.ม. 3 เพลง... โดย ชินกร ไกรลาศ, ศักดิ์ สนทยา, ปัทมา ณ เวียงฟ้า, พรม ลูกบ้านแพน จันทร์เครือ อรุณรัตน์ อำนวยการสร้าง จรัล ปุสสะ ดำเนินงาน ประสม กลีบอุบล ธุรกิจ นพรัตน์ ลำดับภาพ ฉลวย ศรีรัตนา กำกับการแสดง บุษบา เจียมบุญหยก ถ่ายภาพ จันทร จัดจำหน่าย
ไก่นา (2514)
ไก่นา (2514/1971) จันทนาหรือไก่นา (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) เด็กสาวกำพร้าพ่อ เเต่มีพ่อเลี้ยงชื่อนายหวัง ซึ่งเป็นคนสำมะเลเทเมา สร้างหนี้สินให้ครอบครัวมากมาย ไก่นาจึงต้องทำงานหาเงินด้วยการขายไข่เป็ด จนได้มาพบกับตะวัน (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) ตำรวจหนุ่มไฟเเรง ไก่นาและไก่แจ้ (ดอกดิน กัญญามาลย์) คู่ซี้ ได้พบกับชัด (สุวิน สว่างรัตน์) ที่กำลังบาดเจ็บ ไก่นาสงสารจึงช่วยเหลือไว้ เมื่อชัดหายเจ็บได้ทิ้งจดหมายไว้ ให้ไก่นาไปหาคุณวงศ์ (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี) และคุณนวล (จุรี โอศิริ) เพื่อนรักของชัดที่กรุงเทพ ข้อความในจดหมายระบุว่า ให้ข่วยอุปการะไก่นาและให้แต่งงานกับลูกชายของทั้งสอง ซึ่งก็คือ ตะวัน แต่ตะวันไม่รู้จึงปฏิเสธเพราะว่ารักไก่นา และให้ทิวา (จิระศักดิ์ ปิ่นสุวรรณ) น้องชายช่วยแต่งงานแทน เมื่อถึงวันงานทั้งคู่ต้องตกใจเมื่อได้รู้ความจริง ตะวันจึงขัดขวางงานแต่ง ไม่ให้ทิวาเข้าห้องหอได้ จากนั้นตะวันได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการลับ จึงหายตัวไป ส่วนไก่นาก็ไปเป็นพยาบาลอาสา เป็นเหตุให้ทั้งคู่ได้มาพบกันอีกครั้ง และสมหวังในรักได้ในที่สุด
ข้าชื่อจ่าแผน (2514)

ข้าชื่อจ่าแผน (2514/1971) ข้อความบนใบปิด พัฒนาการภาพยนตร์ ผู้สร้าง อรัญญิก-ขุนตาล ภาพยนตร์ชีวิตการต่อสู้ของ ชายฉกรรจ์แสนทรหดเยี่ยงเสือดุ! ข้าชื่อจ่าแผน นำแสดงโดย (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์) (แมน ธีระพล), ส.อาสนจินดา, จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, (ชฎาพร วชิรปราณี), โขน หมอผี, (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), ชาณีย์ ยอดชัย, ชนินทร์ ฯลฯ ส.อาสนจินดา กำกับการแสดง วิเชียร วีระโชติ ถ่ายภาพ 

 
เพชรพระอุมา (2514)

เพชรพระอุมา (2514/1971) วิทยาภาพยนตร์ เสนอ ภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ยกกอง ไปถ่ายทำถึง “ซาฟารี อัฟริกา” 25 ม.ม.ซีเนมาสโคป เพชรพระอุมา จากบทประพันธ์ของ พนมเทียน นำโดย รพินทร์ ไพรวัลย์ สุทิศา พัฒนุช (อดุลย์ ดุลยรัตน์), (ชนะ ศรีอุบล), (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี), มานี มณีวรรณ, (ล้อต๊อก), (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, และพ.ต.ต.ประชา พูนวิวัฒน์ ฟังเพลงเอก 2 เพลง วิทยา เวสสวัฒน์ อำนวยการสร้าง พูนสวัสดิ์ ธีมากร ถ่ายภาพ ส.อาสนจินดา กำกับการแสดง อัศวินภาพยนตร์ จัดจำหน่าย

 
นักร้องจ้าวนักเลง (2514)
นักร้องจ้าวนักเลง (2514/1971) ข้อความบนใบปิด เมืองสยามภาพยนตร์ เสนอ ฟัง 5 เพลงเอกในระบบ 35 ม.ม. ตื่นใจ...ตะลึงตา..น่าทึ่งกับเสียงเพลง และทิวทัศน์อันงดงามจากแผ่นดินไทย ตะลุยล่าจรดขอบฟ้ามาเลเซีย... เราจะไม่พบเขาอีกแล้ว... (มิตร ชัยบัญชา) พระเอกผู้จากไปอย่างยิ่งยง พบพระเอกตุ๊กตาทองปีแรก ผู้ยืนหยัดพระเอกตลอดกาล (ลือชัย นฤนาท) ประชันบทนางเอกผู้พบความสำเร็จจาก “สองสิงห์จ้าวพยัคฆ์” (ปริศนา ชบาไพร) บินเดี่ยวพบสองพระเอกด้วยสองบทบาทที่ไม่ซ้ำใคร นักร้องจ้าวนักเลง ขอแนะนำไข่มุกเม็ดงาม ชลธนี กาญจน์จุฑา ดาวยั่วดวงใหม่ พยุง พยกุล กำกับการแสดง บัญญัติ ยุธนากร อำนวยการสร้าง กวี เกียรตินันท์ ถ่ายภาพ ประศักดิ์ พยนต์ภาค กำกับบท รัตนาฟิล์ม จัดจำหน่าย
สุภาพบุรุษเสือใบ (2514)
สุภาพบุรุษเสือใบ (2514/1971) ข้อความบนใบปิด พลสัณห์ภาพยนตร์ ผู้สร้างผลงานยอดเยี่ยมจากเรื่อง “จอมโจรมเหศวร” ภูมิใจเสนอผลงานสร้างที่มีหลักประกันมาตรฐานประจำปี 2514... จากชีวประวัติของลูกผู้ชายที่วิถีชีวิตทำให้กลับกลายเป็นเสือร้าย เป็นประวัติชีวิตจริงของ “เสือใบ” อดีตเสือร้ายคนเดียว ที่นักประพันธ์ชื่อดัง ป.อินทรปาลิต บุกบั่นเข้าไปนำประวัติมา เขียนเป็นนวนิยายที่เลื่องลือไปทุกมุมเมือง ซึ่งยังมีชีวิตอยู่และร่วมแสดงในเรื่องนี้ด้วย... สุภาพบุรุษเสือใบ (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) (ครรชิต ขวัญประชา) นำแสดง ติดตามด้วย (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี), (เมตตา รุ่งรัตน์), เมือง อพอลโล, เยาวเรศ นิสากร, มารศรี อิศรางกูร, เชาว์ แคล่วคล่อง, จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, เทียนชัย, พิภพ ภู่ภิญโญ, (เมืองเริง ปัทมินทร์), เนตรดาว นภาพรรณ, สีเทา, ดาวน้อย ดวงใหญ่ ขอแนะนำและฝากฝัง 2 ดาราพระเอกใหม่ เอกชาติ ทวีชล, ศรชัย สราวุฒิ ประสิทธิ์ ศิริบรรเทิง สร้างบท วิเชียร วีระโชติ ถ่ายภาพ สง่า อารัมภีร สร้างเพลง ขจรกลิ่น บุรุษพัฒน์ ที่ปรึกษา พลสัณห์ ศรีหาผล อำนวยการสร้าง ประวิทย์ ลีลาไว กำกับการแสดง ฟัง! เพลงไพเราะระบบ 35 ม.ม. ดาราเกียรติยศจากบุคคลหลายอาชีพ กลุ่มนักประพันธ์, นักหนังสือพิมพ์ และเทศมนตรี พลสัณห์ภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
เหนือพญายม (2514)
เหนือพญายม (2514/1971) เหนือพญายม เป็นภาพยนตร์สี 16 มม.ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2514 ให้เสียงพากย์สด กำกับการแสดงโดยครูเนรมิต (อำนวย กลัสนิมิ)
เสือขาว (2514)
เสือขาว (2514/1971) ข้อความบนใบปิด เบญจรัตน์ภาพยนตร์ เสนอ ภาพยนตร์ชีวิตจริง ที่สนุกยิ่งกว่านิยาย ฟังเพลงเอก 4 เพลง จากฝีมือของประดิษฐ์ อุตตะมัง และพร ภิรมย์ เสือขาว จากละครฮิตของ เสนีย์ บุษปะเกศ นำแสดงโดย (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) (รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง ณ ราชสีมา), ถวัลย์ คีรีวัตร, (สุวิน สว่างรัตน์), (พร ไพโรจน์), ทองแถม, สีเทา ขอแนะนำดาวรุ่งดวงใหม่ เอก อัมรินทร์ บัณฑิต ศรไชย อำนวยการสร้าง-กำกับการแสดง ลิขิต กฤษณมิตร ถ่ายภาพ วิศณุโปรดักชั่น จัดจำหน่าย
จอมดาบพิชัยยุทธ (2514)
จอมดาบพิชัยยุทธ (2514/1971) ครานั้น มีสัตว์ชนิดหนึ่ง น่าทึ่งแท้ เรียกว่า “ฬ่อ” ฬ่อมันเป็นม้า แม่มันเป็น “ฬา” มันทําหน้าที่ลากรถแล่นคดเคี้ยวเลี้ยวตามถนนในป่า มีสารถีเฒ่าเอาแส้ตีหลังให้มันควบไปยังข้างหน้า แกชื่อว่า “ลุงหวาง” อีกตําแหน่งเล่า คือข้าเก่าเต่าเลี้ยงของ “ติงจวินอู่” ผู้การมือปราบชื่อเสียงโด่งดังแห่ง “ฮั่นโจว” และ “หวีโจว” ทั้งสองเมือง เนื่องจากว่าท่านส่งไปเมืองฮัน รับภรรยากับน้องสาวของเธอมาบ้านใหญ่ นางได้มากับรถพ่อที่ห้อมาคันนี้ บ่ายหน้าไปเมืองหวีโจว คนทั้งสามถูกติดตามข้ามมาสะกดรอยจากสาวน้อยชื่อ “จื๊ออุ๋นปิง” เปล่า หล่อนไม่ทําไม ได้แต่ตามเฉย ๆ ใครเลยจะรู้ว่า มาดีหรือมาร้าย รถฬ่อแล่นไป เพลาล้อชํารุด หลุดลงข้างทาง ทั้งสองนางในรถจึงเดินอย่างกระเซอะกระเซิงไปคอยลุงหวางทางน้ำตก ปล่อยลุงหวางยกล้อซ่อมเพลาของแก แต่ถึงคราวเคราะห์เธอเลาะมาพบสองโจรปล้นฆ่า มีฉายาว่า “มังกร น้ำวน” กับอีกคน “เสือหน้าเป็น” มันเล่นลวนลามตามบังคับ แม้เธอจะรบรับ กลับต้องแพ้แก่โจรทั้งสอง เพราะมันจ้องเอาโซ่ ที่ติดมือถือเข้าเข่นเป็นอาวุธ ในที่สุดมันก็บังคับขอไปกับนางแลลุงหวาง นางผู้พี่มีชื่อว่า “หลิง หลิง” หวลคิดถึงสิ่งที่ แล้ว ๆ มา เป็นภรรยาผู้การติงจวินอู่ เธออยู่ด้วยกันแสนผาสุก มามีทุกข์ตอนจากกันในวันไปปราบโจรโค่นพาล นึกเรื่องผู้การ แล้ว ตื่นจากภวังค์แห่งความหลัง เจ้า “เถียบิน” มังกรน้ำวนคนขี้หงุดหงิด ก็ตกอยู่ในความคิดตอนถูกตามติดพิชิตโดย “ติงจวินอู่ สุภาพบุรุษหน้าเหล็ก” (ผู้ไม่เห็นแก่หน้าใคร) คนชอบเก๊กมาจับ เพื่อบังคับให้ไปรบทัพจับศึกที่แนวหน้า ว่ากันในสมัยนั้น นึกถึงตอนนี้นั่งเงียบฉี่ นั่งคู่อยู่กับ “อี้ฉี” ฉายาเสือหน้าเป็น มันเคยทะเล้น เจ้าชู้ยักษ์ ถูกจวินอู่จับได้ ความเลวร้ายของอี้ฉีก็จบลง แล้วถูกส่งไปทางเดียดเกี่ยวกับเกี๊ยบินเหมือนกัน ซึ่งบัดนี้ มันฆ่าคนคุมสิ้นแล้วจึงหนีมา พอนึกถึงครานั้น รถก็พลันแล่นถึงด่านพอดี ลุงหวางคนช่างคิด แสร้งทําจริตอวดดี จะท้าที่มีเรื่องกับพวกด่านให้เคืองแค้น เพื่อวางแผนให้จับสองโจรไป แต่ที่ไหนได้ คุณนาย “หลิง หลิง” กับ “ซูซู” ผู้เป็นน้องสาว ต้องถูกบังคับ จี้หลอกเจ้าหน้าที่ หนีผ่านพวกด่านไป สองโจรคนละแนวคิด มันจึงผิดใจกันใช้กําลังยับยั้งความเจ้าชู้ของอี้ฉี สองพี่น้องกับหนึ่งบ่าวคราวพ่อ ก็ถือโอกาสหนี ส่องโจรเผ่นจี้ ใช้กําลังภายในไปจับตัวมา คราวนี้ตกอยู่ในเงื้อมมือจอมโจรโดยไม่มีใครหืออีก เมื่อหลีกลี้ไม่ได้ เป็นอันว่าคืนนั้น พักกันอยู่ในป่า สองสาวกับบ่าวพบ “บ่อกับ” “บ่วงพราน” จึงอาศัยเป็นแผนการณ์จับโจรมันโดนมัดด้วยเชือกทั้งคู่ เกินถูลู่ถูกังตามหลังรถพ่อ ถ่อร่างไป ฃ กล่าวถึง “จวินอู่” กับผู้ติดตาม ข้ามมาถึงน้ำตก เห็นศพเจ้าหน้าที่มีของโจรตกอยู่ ก็นึกรู้สงสัยว่า มิใช่อื่นไกล คงเป็นฝีมือไอ้โจรบรรลัยนั่นเอง ทันใดนั้นก็พบ กับหญิงชื่อ “จื๊ออุ๋นปิง” หล่อนเข้ามาบริภาษเย้ยหยัน จนถึงกับสู้กัน หล่อนถูกรุมจากเจ้าหน้าที่เลยหลบหนีไป กล่าวถึงสองสาวกับชายแก่แซ่หวาง ระหว่างทางมัดสองโจรให้เดินตามรถ มาจรดเอาที่ด่านตรงผ่านช่องเขา เจ้าหน้าที่จะเล่นงาน สองโจรมันพร้อมใจทําให้เชือกขาด แล้วอาละวาดเจ้าหน้าที่ (ตาย) กันหมด พอเห็นรถฬ่อว่าง ก็รู้ทันทีว่า สองนางกับตาแก่แกหนีไปแล้ว จึงเผ่นแผลวเข้าแนวป่าตามหาทันที พบลุงหวาง หวางก็น่าดู สู้จนตัวตาย สองนางอย่าหมาย จะบ่ายหน้าหนี ถูกจับได้อีกทีคราวนี้เธอกลับถูกมัด พาเลาะลัดเข้าถ้ำ “ติงจวินอู่” ตามเธออยู่ มาพบเศษผ้า จึงรู้ว่าเธอไปที่ไหน ตามไปได้ แต่พบศพลุงหวาง จึงสั่งพวกแยกทางค้นหานางทันที แต่ว่ามาช้าไป พบแต่เถ้าถ่านกองไฟที่ในถ้ำค่ําลง สองโจรกับสองสาวไปพักที่ศาลจ้าวเก่า ๆ อี้ฉีสอดส่ายสายตารอดผ่านฝา ไปที่หมู่บ้าน อี้ฉีเกี่ยงเถียบิน ไปหาอาหารด้วยแผนการณ์บ้า ๆ และหน้าด้านข่มขืน ซู่ ซู่ เถี่ยบินรู้ท่าย้อน มาขัดขวาง สองนางเลยรอดจากถูกรังแก แต่เธอกลับถูกมัดอยู่กับเสาทั้งคู่ ดูสองโจรเข้าหมู่บ้านไป “จื๊ออุ๋นปิง” เข้ามาพูดจาเสียดสี ขู่ว่าสามีของหลิง หลิง คือศัตรูคู่แค้นจริง ๆ หล่อนตามมาเพื่อจะฆ่าเธอ ซู่ ซู่ เสนอตายพร้อมกันกับพี่สาว อ้าว อุ๋นปิง กลับไม่ฆ่า มุ่งหน้าไปทางหมู่บ้านบ้าง ที่หมู่บ้านมีสาวใหญ่คนหนึ่ง ซึ่งใคร ๆ เรียกว่า “พี่ใหญ่” ได้เวลานอน เธอก็เปลี่ยนผ้าเปลี่ยนผ่อน เดินมาที่หน้าเตียง แล้วเอนเอียงลงนอน อี้ฉีเพียงเห็นเข้าเท่านั้น มันทนไม่ไหว ปล้ำสาวใหญ่หน้าง้ำ วิ่งออกไปตะโกนว่า ไอ้โจรเข้ามาทําปู้ยี่ปู้ยำ สร้างความเจ็บช้ำให้นายพรานกับชาวไร่ สู้กันไป ย้ายกันมา โดนเถี่ยบิน อี้ฉีตีด้วยโซ่ในมือโงไม่ขึ้น ตายเกือบหมด ทันทีนั้น อุ่๋นปิงวิ่งเข้ามาเกี่ยว ค่าเถี่ยบินเสียงเขียวว่า เรื่องไม่รักศักดิ์ศรี เถี่ยบินรี่เข้าใส่ สู้กันได้หลายเพลง ต่างเก่ง ไม่แพ้ไม่ชนะ อุ๋นปิงรีบผละทันที ขณะที่ไม่เห็นอี้ฉี เพราะรู้ดีว่าจะมีอะไรในศาลจ้าว ที่ศาลจ้าว แน่ละ อี้ฉีเข้าไปตะกละกรามขู่เข็ญ เค้น คลำ ปล้ำ ซู่ ซู่ อยู่ต่อหน้าหลิง หลิง อุ๋นปิงวิ่งเข้ามาขัดขวาง ทางเถี่ยบินก็ตามมาทัน ช่วยกันรุมอุ๋นปิง อุ๋นปิงไม่คิดสู้ พูดเป็นเชิงให้เถี่ยบินรู้ว่า ทีหน้าอย่ารังแกผู้หญิง แม่ฆ่าเอ็งตายจริง ๆ แล้วหลบไป เถี่ยบินหมั่นไส้ เคืองอี้ฉี เพราะ เขาไม่ชอบระบอบรังแกสตรีส่วนทาง “จวินอู่” กับ “หม่าวีย์” ยังค้นหาหลิง หลิง ซู่ ซู่ อยู่ มาถึงหมู่บ้านพรานป่า พบตาแก่กําลังแย่ บาดเจ็บใกล้จะตาย จึงรู้ว่าสองวายร้ายย้ายไปที่ภูเขา ก็รีบตามสาวเจ้ากับโจรไปทันที ยามเช้า หมอกลง แต่คงไม่ยาก เพราะจากตาแก่แกบอกทางให้ก่อนขาดใจ พอได้พบกันก็ห้ำหั่น ผกเผิน เหิน เหาะ สู้กันทั้งบนอากาศ พิฆาตกันบนพื้นดิน จวินอู่มาเสียท่า ตอนที่อี้ฉีเอาอาวุธจจ่อที่คอหลิง หลิงบังคับให้วิ่งไปในป่า และซู่ซู่ ก็ถูกเถี่ยบินฉุดคร่าไปด้วย จวินอู่จะช่วยก็ช่วยไม่ได้ นอกจากสั่งพวกให้สะกดรอย คอยหาโอกาสพิฆาตใหม่ สองโจรยังบังคับหลิง หลิง ซู่ ซู่ ไปไกลโข หิวโซ อดน้ำ ย่ำไปถึงหน้าผา พอมาเห็นบึง มันรีบวิ่งถลาลงน้ํา ปากพร่ำหัว ร่อ ว่ายปร๋อทั้งกินทั้งอาบ สองหญิงเข็ดหลาบก็จริง แต่ก็อยากหนี จึงปรึกษาระหว่างพี่น้องว่า ไอ้โจรมันมีอุดมคติไม่เหมือนกัน เถี่ยบินนั้นชอบเงิน อี้ฉีอยากเพลินโลกีย์ ต้องวางแผน มารยานารีพิชิตให้มันขวิดกันเอง อย่างว่า ซู่ ซู่ เช็ดน้ําตาแล้ว เปลื้องผ้าลงว่ายน้ำ อี้ฉีเห็นเห็นจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว ยิ่งเธอเดินแน่วมาเสนออยู่บนยอดหญ้า ว้า ไม่ไหวที่จะทน ปล้ำ ป่น ป่น จริง ๆ เพราะเถี่ยบินกินสินจ้างวิ่งเข้ามาขัดขวาง ศึกหน้านางรบ พบกันโดยโซ่ในมือถือเข้าฟาด สามารถสู้กันได้ไม่ต่ํากว่าสิบเพลง ยัง ยังไม่แพ้ไม่ชนะ จวินอู่ หม่าวี่ย์ที่ตาม ก็มาถึง ฉึ่งกันอีก สองโจรร่วมสหะหมายจะโค่นจวินอู่ ต่อสู้กันสนั่นป่า โดด ลอย ถอย เหาะ เฉาะฉะ ใช้จังหวะรบกันนาน โจรบาดเจ็บเอาการขั้นสาหัส จวินอู่จัดการสองโจรอยู่แล้ว ได้ยินเสียงแจ้ว ๆ ของแม่เสือนักสู้อุ๋นปิงหญิงลึกลับ ขยับก้องมาว่า ช้าก่อน หล่อนเข้ามาท้าวความว่าที่ตามมานี่นะ ก็เพื่อล้างแค้นแทนพ่อเมื่อสามปีก่อน ภาพย้อนหลังครั้งนั้น อุ๋นป่าเข่นฆ่ากับจวินอู่ สู้ไม่ได้ ถูกจวินอู่ฆ่าตาย จวินอู่ผู้รักษากฎหมาย แถลงแจ้งเหตุ มันช่าง อาเพทเสียจริง อุ๋นปิงเถียงแล้วรบ พบกันครั้งนี้ ต่อที่ได้สิบกว่าเพลง หล่อนเองก็ดาบหัก แต่ยังแข็งใจนั่นหนัก ๆ ด้วยดาบนั้น จวินอู่ก็สิงห์ร้ายเหมือนกัน พลันเอาอาวุธลับออกสู้หล่อน เสียท่าต่อว่าน่าดู ว่านี่แน่ะ แกทําข้ายังไม่ใช่คนเก่งหรอก แถม บอกเร่งให้เขาเข้ามาฆ่าเธอไว ๆ จวินอู่ไม่ฆ่า ปลอบว่าเธอไม่ผิด และว่าเขาเองซิควรตาย เพราะไม่ควรคิดร้ายต่อเธอ ทั้งที่เคยช่วยชีวิตหลิง หลิง ผู้เป็นภรรยา หลิง หลิง จึงรีบเข้ามาขอเป็น เพื่อน พร้อมกับเตือนว่า ผู้ยอมรับผิดควรได้รับการอภัย หล่อนได้คิด จิตหดหู่ ดูสิ้นสงสัย ก้มหน้าน้ำตาไหลยอมจํานน เหตุร้ายผ่าน เหตุการณ์พ้น ทุกคนเดินทางกลับไปหวีโจว อุ๋นปิง หญิงอาภัพสลดยืนนิ่ง ยิ่งมองเขากับเธอก็ยิ่งไกล ไกลออกไป แล้วจบ ครบบริบูรณ์
ดาบคู่สะท้านโลกันต์ (2514)
จงอางผยอง (2514)
จงอางผยอง (2514/1971) เหตุการณ์ในสมัยปลายอยุธยา เรื่องราวของ เพชร แข หลินหลิน และเจียงไฮ่ เพื่อนร่วมสาบานสี่คนที่ต้องกำพร้าพ่อแม่จากน้ำมือของ อิน และบรรดาลูกสมุน ทั้งหมดตั้งสัตย์ปฏิญาณไว้ว่า เมื่อเติบโตขึ้นจะกลับมาชำระแค้นให้ครอบครัว เวลาผ่านไปเมื่อกรุงศรีอยุธยาแตกพ่าย เพชรสืบทราบว่าอินกำลังเป็นไส้ศึกให้แก่พม่า เขาตัดสินใจรวบรวมคนไทยและบรรดาเพื่อนร่วมสาบาน เพื่อหวังล้างแค้นและปกป้องแผ่นดินเกิด ในปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่หมู่บ้านบางปลาสร้อยซึ่งตั้งอยู่ริมทะเล เป็นที่อยู่ของเด็กไทยและจีน 4 คน คือ เพชร เจียงไฮ แข และหลินหลิน ขณะที่ชาวบ้านไทยจีนที่กำลังฉลองตรุษจีนร่วมกันอย่างสนุกสนาน ก็มีกลุ่มโจรนำโดย อิน เอิบ ดวง และ เอี้ยง เข้ามาปล้นหมู่บ้าน และได้เข่นฆ่าทำร้ายผู้ที่ต่อสู้ขัดขืนไปหลายราย รวมถึงบิดามารดาของเด็กทั้ง 4 ถูกสังหารหมด นอกจากแม่เจิดมารดาของแขที่ถูกฟันแขนขาด และเด็กทั้ง 4 ซึ่งรอดชีวิตมาได้ ต่างสาบานว่าอีก 15 ปีจะกลับมาล้างแค้น ก่อนที่เจียงไฮและหลินหลินจะตามก๋งไปฝึกวิชาการต่อสู้ที่เมืองจีน 15 ปีผ่านไป ที่สำนักดาบโพธิ์ทองคำ แขซึ่งโตเป็นสาว ได้พยายามขอร้องไม่ให้แฟนหนุ่มชื่อเสือไปเป็นทหารที่คลองพลู ค่ายทหารของขุนอินทเดชะ แต่ไม่เป็นผล มิหนำซ้ำแขและแม่เจิดยังได้ทราบว่าแท้ที่จริง เขาเป็นลูกชายของเอิบน้องชายของขุนอินทเดชะหรืออินหัวหน้าโจรที่เข้าปล้นบ้านบางปลาสร้อยในครั้งนั้น โดยเอิบเป็นผู้ฟันแขนแม่เจิดขาดนั่นเอง แม้ว่าสองแม่ลูกจะรู้สึกเคืองแค้น แต่ก็ไม่ได้บอกความจริงกับเสือ คงปล่อยให้แขไปพบกับเสือเพื่อร่ำลากัน แต่เมื่อแขกลับมาที่พักก็พบว่าแม่ถูกฆ่าตาย ขณะที่แขกำลังร่ำไห้ที่หลุมศพแม่ที่นำมาฝังเคียงข้างพ่อ ก็ได้พบกับเจียงไฮกับหลินที่พึ่งกลับจากเมืองจีนมาตามคำสาบาน แขเล่าให้เพื่อนจากเมืองจีนทราบว่าขณะนี้อินได้เป็นขุนอินทเดชะก่อนที่กรุงจะแตก และซ่องสุมผู้คนอยู่ที่คลองพลูอ้างว่าจะร่วมกู้ชาติกับพระยาตาก ทีแรกทั้งสามตั้งใจจะรอปรึกษาเพชรก่อน โดยไม่ทราบว่าเพชรได้แฝงตัวเข้าไปอยู่ในค่ายคลองพลูในชื่อว่าเปลว เพื่อสืบข่าวให้กับพระยาตากอยู่ เมื่อทั้งสามรอเพชรไม่ไหว จึงปลอมตัวเป็นพ่อค้าเข้าไปหวังจะทำร้ายขุนอินกับพวก แต่ไม่สำเร็จเนื่องจาก "เปลว" และเสือเข้ามาขัดขวาง ทำให้แขกับหลินหลินถูกจับตัว เจียงไฮหนีรอดไปได้โดยเข้าใจว่าเพชรทรยศเพื่อน ขุนอินออกเดินทางไปธุระอ้างว่าไปพบพระยาตาก อีกด้านหนึ่ง ทหารของขุนอินได้ตามจับและสังหารม้าด่วนของพระยาตาก ยึดสาส์นลับไว้ เจียงไฮเข้ามาพบและสังหารคนของขุนอิน แล้วเกิดการต่อสู้กับเพชรซึ่งยังเข้าใจผิดกันอยู่ แต่เมื่อเจียงไฮได้ดูสาส์นลับจึงทราบความจริงว่าเพชรจำต้องปลอมตัวเป็นสายให้พระยาตาก แล้วจึงนัดหมายกันที่จะหาทางช่วยเหลือแขกับหลินหลินออกมาจากที่คุมขัง เมื่อขุนอินกลับมายังค่าย เพชรถูกจับได้ขณะพยายามช่วยเพื่อนหญิงทั้งสองเพราะที่จริงคนของขุนอินที่ตามจับม้าเร็วของพระยาตากแล้วถูกเจียงไฮทำร้ายนั้น รอดชีวิตมาได้คนหนึ่งและได้ยินที่เพชรพูดกับเจียงไฮตลอด ขุนอินจับเพชรมัดไว้กับพื้นแล้วบอกความจริงว่าที่ไปธุระมานั้นคือไปพบโปสุพลา แม่ทัพพม่าเพื่อขนปืนใหญ่และกระสุนดินดำมาใช้โจมตีกองทัพของพระยาตากในวันที่จะยกทัพผ่านค่ายคลองพลู แล้วจึงให้ลูกน้องเอาด้ามดาบกระแทกมือเพชรเพื่อให้เพชรกลายเป็นคนพิการ เจียงไฮได้ลอบเข้ามาช่วยเพื่อนทั้งสามออกมาจากค่ายคลองพลูได้ แขได้เสนอความเห็นว่าควรไปขอกำลังจากสำนักดาบโพธิ์ทองคำมาช่วยในการกำจัดขุนอิน แต่อาจารย์ของแขไม่เชื่อว่าขุนอินจะขายชาติจึงจับกุมทั้งสี่ไว้ กว่าท่านครูจะทราบความจริงจากชาวบ้านที่มาส่งข่าว ทั้งสี่ก็ได้รับบาดเจ็บไปตามๆ กัน เพชรต้องแก้ปัญหาเรื่องมือเจ็บโดยขอให้หลินหลินเอาผ้ามัดดาบไว้กับมือ แล้วทั้งสี่ก็นำท่านครูกับบรรดาศิษย์สำนักดาบโพธิ์ทองคำไปจัดการถล่มค่ายคลองพลูของขุนอิน โดยทั้งสี่สามารถสังหารผู้ที่ฆ่าพ่อแม่ของตนได้ แล้วจัดการทำลายค่ายคลองพลูตลอดจนปืนใหญ่ของขุนอินจนสิ้นซาก พระยาตากจึงสามารถเดินทัพผ่านคลองพลูมุ่งสู่จันทบุรีได้
สิงห์สาวเสือ (2513)
สิงห์สาวเสือ (2513/1970) ชาติชาย เกียรติกำจร (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจปีสุดท้าย แต่พอได้ข่าวว่า พ่อถูกฆ่าตาย ก็หนีออกจากโรงเรียนกลับไปบ้านที่ตำบลวังพญา จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อสืบหาตัวคนร้าย ที่ตลาดวังพญานั้นมี คุณหญิงปัทมา (เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์) เป็นเจ้าของตลาด แต่ในตลาดชอบมีนักเลงมาก่อกวน ปัทมาจึงจ้าง เสือหาญ (ไสล พูนชัย) เป็นผู้ดูแลตลาด ซึ่งเสือหาญก็ปราบพวกเกเรให้หมด แต่ชาติชายที่มาถึงใหม่ๆ ก็อยากลองของจึงแกล้งกวนเสือหาญต่อหน้าปัทมา ทั้งคู่ก็เลยเกิดเรื่องฟาดปากกัน แม้ว่าชาติชายจะเป็นคนชนะ แต่เพราะเห็นเสือหาญมีคนเชียร์เยอะกว่าและยังเป็นคนปราบนักเลงในตลาด ชาติชายก็เลยแกล้งแพ้เสือหาญ ส่วนปัทมาพอเห็นว่า เสือหาญชนะ ก็มอบสร้อยเป็นรางวัล ระหว่างนั้น นักเลงที่ถูกเสือหาญปราบไป ก็กลับมาลอบยิงเสือหาญ คราวนี้ ชาติชายก็เลยช่วยเสือหาญไว้และกลายเป็นเพื่อนกัน ต่อมาชาติชายทราบจากลุงว่า ผู้ที่บงการฆ่าพ่อตนก็คือ เสี่ยบู๊ (สิงห์ มิลินทราศัย) มีสมุนมือขวาเป็นเสือร้าย 2 คนคือ ไอ้เสือ (สุวิน สว่างรัตน์) และไอ้จอม (พิภพ ภู่ภิญโญ) ต่อมาเสี่ยบู๊ซึ่งหวังจะได้ปัทมาเป็นเมีย แค้นใจที่ผิดหวัง จึงฆ่าผู้จัดการป่าไม้ของปัทมาใส่กล่องส่งมาเป็นของขวัญวันเกิด ทุกคนในงานเกิดความกลัว ชาติชายเองเห็นภาพเหตุการณ์นี้ด้วย เมื่อได้รับทาบทามให้เป็นผู้จัดการป่าไม้แทน จึงตอบตกลงแม้ว่าปัทมาที่เริ่มชอบชาติชายแล้ว จะห้ามปรามเพราะกลัวชาติชายจะถูกฆ่าตายไปอีกคน ต่อมาเสี่ยบู๊จ้างชาติชายให้เลิกช่วยงานปัทมา เลิกยุ่งเกี่ยวกับปัทมาแต่ชาติชายไม่ยอม จึงเกิดการทะเลาะยิงปืนกัน ไอ้เสือสมุนมือขวาจะยิงชาติชาย แต่เสี่ยบู๊ห้ามไว้บอกว่า วันหลังค่อยจัดการ คืนหนึ่งขณะที่ชาติชาย-ปัทมาร้องเพลงพลอดรักกันในสวน เจ้าเสือก็มาลอบยิงชาติชายล้มพุบและจับตัวปัทมาไป แต่เสือหาญก็ตามไปช่วยกลับมาได้ ขณะที่ชาติชายรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล น้ำผึ้ง (สุมาลี ทองหล่อ) ลูกสาวของลุงชาติชายก็มาพูดบอกว่า ถ้าชาติชายหายป่วยจะแต่งงานกัน ทำให้ปัทมาที่รักชาติชายงอนและกลับบ้านไปเก็บตัวอยู่เงียบๆ จะหนีเข้ากรุงเทพฯ ต่อมาชาติชายสืบรู้แน่ชัดว่า เสี่ยบู๊เป็นคนฆ่าพ่อตน จึงจะไปแก้แค้น ก็เป็นเวลาเดียวกับที่เสี่ยบู๊ลงมือฆ่าพ่อปัทมา แล้วก็เผาตลาดและจับตัวปัทมาไป ชาติชายก็ตามไปช่วยมาปัทมามาได้
อินทรีทอง (2513)

อินทรีทอง (2513/1970) โรม ฤทธิไกร (มิตร ชัยบัญชา) อินทรีแดงตัวจริง ต้องเป็นอินทรีทอง เพื่อตามไล่ล่า ภูวนาท อินทรีแดงตัวปลอม (ครรชิต ขวัญประชา) ที่ออกมาสร้างความสับสนให้กับบ้านเมืองและโรมยังต้องกวาดล้างเหล่าร้ายไผ่แดงที่มีบาคิน (อบ บุญติด) เป็นหัวหน้าโดยมีวาสนา (เพชรา เชาวราษฏร์) เป็นผู้ช่วย โรม ฤทธิไกร ผู้ใช้ชีวิตปกติอย่างสำราญในช่วงที่บ้านเมืองอยู่ในความสงบ จนไม่ต้องเปลี่ยนตนเองเป็นอินทรีแดงอีกต่อไป ทว่า หลังการปรากฏตัวของอินทรีแดงตัวปลอม ที่ออกปล้นฆ่าผู้คนอย่างโหดเหี้ยมต่อเนื่อง เขาจึงจำต้องกลับมาสืบหาความจริงอีกครั้ง ด้วยการสวมหน้ากากอินทรีทอง

ชุมทางนักเลง (2513)
ชุมทางนักเลง (2513/1970) ข้อความบนใบปิด พันธุ์ทองภาพยนตร์ เสนอ ภาพยนตร์รัก บู๊ สู้ยับ แบบฉบับมือปืนจับวาง 7 ทิศ เคยพิชิตศัตรู มาชุมนุมใน... ชุมทางนักเลง ของ สราวุฒิ นำแสดงโดย (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) (อดุลย์ ดุลยรัตน์) (ชุมพร เทพพิทักษ์) ขบวนดาราคับคั่ง (อดินันท์ สิงห์หิรัญ), ประมินทร์ จารุจารีต, ฉัตร มงคลชัย, ไกร ครรชิต, ชาณีย์ ยอดชัย, (ชฎาพร วชิรปราณี), ศศิธร เพชรรุ่ง, โขมพัสตร์ อรรถยา, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม) ขอแนะนำดาวยั่วดวงใหม่ ดุจเดือน พรรณราย ฟังเพลงระบบ 35 ม.ม. 4 เพลง จินดา พันธุ์ทองดี อำนวยการสร้าง วินิจ ภักดีวิจิตร กำกับการแสดง สันทัด ศรีสัมพันธ์ ถ่ายภาพ รัตาชัยฟิล์ม จัดจำหน่าย
7 สิงห์คืนถิ่น (2513)
7 สิงห์คืนถิ่น (2513/1970) ข้อความบนใบปิด ราชภักดีภาพยนตร์ เสนอ พฤติการณ์อันห้าวหาญ บ้าบิ่น ของเหล่า 7 ชายฉกรรจ์ ใน 7 สิงห์คืนถิ่น ของ กริช กำจาย ชาญ ราชภักดี อำนวยการสร้าง-กำกับการแสดง (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) (ชุมพร เทพพิทักษ์), (เมตตา รุ่งรัตน์), ราชันย์ กาญจนมาศ, อภิญญา วีระขจร, สมชาย ศรีภูมิ นำขบวน 70 ดาราเด่น ชุมนุมดาราดาวร้ายครั้งยิ่งใหญ่ อาทิเช่น ประมินทร์ จารุจารีต, (สุวิน สว่างรัตน์), ชาณีย์ ยอดชัย, (เมืองเริง ปัทมินทร์), จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, พรชัย, เทียนชัย, หมี หมัดแม่น, แป้น ปลื้มสระไชย, แพน, ทวน, ประกอบ, แอ๋ , ไกร ครรชิต, ภูมิ เพชรพนม, สรวง ศักดิ์เพชร, วินัย แก้วส่งศรี, ดาวน้อย ดวงใหญ่, ชื้นแฉะ, เทอด, ปรีชา, รวิวรรณ-อรวรรณ สร้อยหงส์พราย, วิภาวดี ตรียะกุล, นิภา แก้วจำบัง, มิส ซวนเฮือง, น้ำเพชร ดารารัตน์, แพรวพรรณ ฯลฯ ฟังเพลงเอก 2 เพลง ร่วมใจฟิล์ม จัดจำหน่าย
จอมบึง (2513)
จอมบึง (2513/1970) เริง หนุ่มชาวจอมบึง จ.ราชบุรีที่ฝันอยากเป็นนักร้องลูกทุ่ง แม้พ่อที่เป็นครูจะไม่เห็นด้วยและคัดค้านอย่างเต็มที่ และให้เริงดูแลไร่ซึ่งเริงก็รับคำของพ่อแต่เขาก็ยังไม่ทิ้งความฝันในการเป็นนักร้อง จนกระทั่งได้มีโอกาสเมื่อมีวงดนตรีเข้ามาแสดงในตำบลใกล้ๆ เขาพยายามจนได้ขึ้นร้องเพลงแต่ทว่ามันกลับสร้างความผิดหวังให้กับตัวเขา จนเริงอับอายและหนีเตลิดออกจากหมู่บ้านไป ร้อนถึงเพื่อนๆ ที่ออกตามหา เริงได้พบกับ นำพร และจับพลัดจับผลูได้ไปทำงานในบ้านของเธอ เริงเกิดความรักต่อนำพรทว่าต้องผจญกับเรื่องยุ่งๆ จากพี่สะใภ้ของนำพรที่มาหลงรักเขาเข้า และสร้างความเข้าใจผิดระหว่างเขาและนำพร
จอมโจรมเหศวร (2513)
จอมโจรมเหศวร (2513/1970) ศวร ลูกชายผู้ใหญ่สุข ที่ปลดประจำการจากการเกณฑ์ทหารกลับมาบ้าน แล้วต้องพบกับเหตุการณ์พ่อถูกฆ่าด้วยน้ำมือของหมื่นชล ผู้ที่อยากเป็นเจ้าพ่อและครอบครองที่ดินทั้งหมดของผู้ใหญ่สุข โดยศวรถูกหมื่นชลและพวกไล่ตามฆ่าจึงต้องหนีเอาชีวิตรอดไปถึงที่ไร่แห่งหนึ่ง และพบรักกับโฉมยา หลานสาวเจ้าของไร่ ท่ามกลางความไม่พอใจของพิทักษ์ พี่ชายของโฉมยา ซึ่งได้วางแผนหลอกศวรว่าโฉมยากำลังจะแต่งงานกับชายอื่นที่คู่ควรกว่า ทำให้ศวรเสียใจมาก ด้วยความแค้นที่พ่อถูกฆ่าและโดนพรากคนรัก ทำให้ศวรเดินทางไปพบกับเสือฝ้าย และสร้างชื่อเป็นที่ร่ำลือกันทั่วในฉายาว่า "จอมโจรมเหศวร"
ชาติทองแดง (2513)
ชาติทองแดง (2513/1970) ข้อความบนใบปิด พันคำภาพยนตร์ ชีวิตชายชาตินักสู้ ที่ไม่รู้จักคำว่าถอย แกร่งฉกาจเยี่ยง ชาติทองแดง ของ โสจิรัตน์ บุญเรือง นำแสดงโดย (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) สุทิศา พัฒนุช พันคำ (อดุลย์ ดุลยรัตน์) (ชุมพร เทพพิทักษ์), โขมพัสตร์ อรรถยา, กันทิมา ดาราพันธ์, ชาณีย์ ยอดชัย, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), (สุวิน สว่างรัตน์), อนุชา รัตนมาลย์, จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, เทอด ดาวไท, ณรงค์, นวลศรี ฯลฯ พันคำ สร้าง-กำกับการแสดง วิเชียร วีระโชติ ถ่ายภาพ รัตนาชัยฟิล์ม จัดจำหน่าย
อีสาวบ้านไร่ (2513)
อีสาวบ้านไร่ (2513/1970) สมบัติ-อรัญญา ข้อความบนใบปิด โด่งดัง! สนั่นลั่น! กันคราวนี้ กรนิมิตภาพยนตร์ เสนอ... อีสาวบ้านไร่ นำโดย (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์) ฉัตร มงคลชัย ร่วมด้วย อนุชา รัตนมาลย์, ปริม ประภาพร, (ชุมพร เทพพิทักษ์), โขมพัสตร์ อรรถยา, (อดินันท์ สิงห์หิรัญ), ชาณีย์ ยอดชัย, มารศรี อิศรางกูร, พุทธชาติ, เทอด ดาวไท, พุทธพงษ์, เนตรดาว นภาพรรณ, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), สีเทา, ก๊กเฮง, (เสน่ห์ โกมารชุน) ฯลฯ และดาราสาวคนใหม่ สาวิตรี สุวรรณจิต ระบบมาตรฐานโลก 35 ม.ม. 4 เพลงลูกกรุงพบลูกทุ่ง ชาย นิมิตโชติชัย อำนวยการสร้าง สันทัด ศรีสัมพันธ์ ถ่ายภาพ วินิจ ภักดีวิจิตร กำกับการแสดง รัตนาชัยฟิล์ม จัดจำหน่าย
วิญญาณดอกประดู่ (2513)
วิญญาณดอกประดู่ (2513/1970) ข้อความบนใบปิด ลูกหลวงภาพยนตร์ วิญญาณดอกประดู่ ของ ส.อาสนจินดา ฟัง 2 เพลงเอก ระบบ 35 ม.ม. ดอกประดู่คู่ฟ้า นาวาคู่สมุทร เกียรติก้องทั่วสมุทร คือ วิญญาณดอกประดู่ (มิตร ชัยบัญชา) พบ (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) โสภา สถาพร พร้อมด้วย (อดุลย์ ดุลยรัตน์), (เมตตา รุ่งรัตน์), (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี), ทัต เอกทัต, สมควร กระจ่างศาสตร์, พูนสวัสดิ์ ธีมากร, (ทานทัต วิภาตะโยธิน), จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, ถวัลย์ คีรีวัต, โขน หมอผี, พฤหัส บุญหลง, (ล้อต๊อก), พงษ์ลดา พิมลพรรณ, ปราณีต คุ้มเดช นำแสดง อนุมาศ บุนนาค กำกับการแสดง ณรงค์ หล่อสมบูรณ์ อำนวยการสร้าง แสวง ดิษยะวรรธนะ ถ่ายภาพ มนัส เข็มกาญจน์ อุปการะ ร่วมใจฟิล์ม จัดจำหน่าย
ไอ้เบี้ยว (2513)
ไอ้เบี้ยว (2513/1970) ข้อความบนใบปิด นฤาชาภาพยนตร์ เสนอ ใครจะเบี้ยวกว่าใคร ยอดเยี่ยม ใหญ่ยิ่ง รวมดาราไว้อย่างคับคั่ง ที่ไม่มีใครกล้าสร้าง! ไอ้เบี้ยว ฟัง 4 เพลงเอก ระบบ 35 ม.ม. (มิตร ชัยบัญชา) พบ (ลือชัย นฤนาท) (อดุลย์ ดุลยรัตน์), (แมน ธีระพล), (ชุมพร เทพพิทักษ์), ทม วิศวชาติ, ถวัลย์ คีรีวัต, ขุนแผน, ถนอม นวลอนันต์, ลุงโกร่ง กางเกงแดง, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), สีเทา, พิภพ ภู่ภิญโญ, นาขา ชัยบดินทร์, ชิดชัย ฯลฯ (ลือชัย นฤนาท) พบ (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์), บุศรา นฤมิตร, (เมตตา รุ่งรัตน์), ศศิธร เพชรรุ่ง, โขมพัสตร์ อรรถยา, หยาดรุ้ง ระพี และศิริวรรณ ทองแสง อนุมาศ บุนนาค กำกับการแสดง กวี เกียรตินันท์-ปง อัศวินิกุล ถ่ายภาพ เครือมาศ สร้อยคีรี อำนวยการสร้าง
สามยอด (2513)

สามยอด (2513/1970) ข้อความบนใบปิด เทวราชฟิล์ม เสนผลงานเด่นในรอบปี... ดีกว่า...”นักเลงสี่แคว” แน่กว่า...”เสือภุพาน” สามยอด ดัง! กึกก้อง กัมปนาท สุดยอด ยิ่งใหญ่ 3 ทีมผู้สร้างที่เชื่อถือได้ รับรองคุณภาพ วินิจ ภักดีวิจิตร กำกับการแสดง สันทัด ศรีสัมพันธ์ ถ่ายภาพ โยธิน เทวราช อำนวยการสร้าง 3 ผู้ประพันธ์ อรชร, เพชร สถาบัน, นัทที เจษฎา 3 ดาราเด่น (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์) ฉัตร มงคลชัย ร่วมด้วยดาราชั้นนำคับคั่ง (อดุลย์ ดุลยรัตน์), (ชุมพร เทพพิทักษ์), ปริม ประภาพร, เพชร พิษณุ, อนุชา รัตนมาลย์ และใจดาว บุษยา, หยาดรุ้ง ระพี ฯลฯ นำแสดง เสรีภาพยนตร์ จัดจำหน่าย

 
สองสิงห์จ้าวพยัคฆ์ (2513) 2 สิงห์จ้าวพยัคฆ์
2 สิงห์จ้าวพยัคฆ์ (2513/1970). เมื่อนาวิน ((มิตร ชัยบัญชา)) กับรุ่งรวี ((ปริศนา ชบาไพร)) สองสายลับชาวไทยเดินทางไปรับเอกสารลับที่ประเทศมาเลเซียและมอบให้รุ่งรวีนำกลับกรุงเทพฯ ในระหว่างทางมีเหล่าร้ายดักปล้นชิงเอาเอกสาร แต่รุ่งรวีก็ยิงต่อสู้และหนีกลับกรุงเทพฯมาได้ พวกเหล่าร้ายยังคงติดตามมาถึงกรุงเทพฯและจับตัวรุ่งรวีไปขังไว้ที่องค์การร้าย ซึ่งที่นั่นมีชาตรี (ลือชัย นฤนาท) เป็นหัวหน้าใหญ่และสายสุนีย์ (เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์) เป็นนักจิตวิทยา ซึ่งทั้งคู่ได้ร่วมกันสอบเค้นเอาความจริงถึงแผนการที่ระบุอยู่ในเอกสารลับ แต่รุ่งรวีก็ไม่ยอมปริปากบอก ชาตรีจึงวางแผนหลอกให้นาวินเอาเอกสารลับมาแลกตัวรุ่งรวีคืน แต่เมื่อนาวินมาถึงก็ถูกชาตรีหักหลังจึงเกิดการต่อสู้กัน นาวินอาศัยชั้นเชิงที่เหนือกว่ากระโจนหนีออกทางหน้าต่างไปได้ เมื่อชาตรีเห็นว่ารุ่งรวีไม่มีประโยชน์แล้วจึงสั่งให้อำนาจ (แมน ธีระพล) นำตัวรุ่งรวีไปฆ่าทิ้ง แต่ระหว่างทางรุ่งรวีก็ฉวยโอกาสแย่งปืนจากสิงห์ (ชุมพร เทพพิทักษ์) แล้วหลบหนีไปได้ จากนั้นนาวินและรุ่งรวีก็ออกเดินทางไปยังประเทศลาวเพื่อประสานงานกับหน่วยจารกรรมลับที่รออยู่อีกกลุ่มหนึ่งซึ่งก็คือ ชาตรี นั่นเอง จากนั้นทั้งหมดก็เดินทางสู่ทุ่งไหหินซึ่งเป็นขุมกำลังใหญ่ของพวกผู้ก่อการร้ายและช่วยกันทำลายล้างจรวดนำวิถีที่กำลังจะยิงถล่มกรุงเทพฯได้สำเร็จ
ดาวพระเสาร์ (2513)

ดาวพระเสาร์ (2513/1970) ข้อความบนใบปิด ชมพูนุชภาพยนตร์ ทุ่มทุนสร้างเสนอ ภาพยนตร์ชีวิต การต่อสู้ของลูกผู้ชาย ผู้หยิ่งในศักดิ์ ดาวดวงไหนหรือจะใสเท่า ดาวพระเสาร์ ของ เสนีย์ บุษปะเกศ ละครวิทยุ คณะเสนีย์ บุษปะเกศ (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์) (รุจน์ รณภพ), เยาวเรศ นิสากร, (ชุมพร เทพพิทักษ์) พร้อมด้วยขบวนดารา สุมาลี ทองหล่อ, ถวัลย์ คีรีวัตร, (เมืองเริง ปัทมินทร์), จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, (ล้อต๊อก), (ชูศรี มีสมมนต์), ดาวน้อย ดวงใหญ่, สีเทา, ทองฮะ, เทียนชัย, พิภพ ภู่ภิญโญ, ลุงโกร่ง กางเกงแดง, เสนอ โกมารชุน ฯลฯ ดาราเกียรติยศ ส.อาสนจินดา ฟังเพลงเอกในระบบ 35 ม.ม. 

 
ท่าจีน (2513)
ท่าจีน (2513/1970) ข้อความบนใบปิด ทหารเรือมาแล้ว! ลูกประดู่สู้ไม่ถอย นำโดย (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี), (ชุมพร เทพพิทักษ์), ฤทธี นฤบาล, ปริม ประภาพร, อภิญญา วีระขจร, ชาณีย์ ยอดชัย และดาราหน้าหวาน เสียงทองจากจอแก้ว ภูษิต อภิมันต์ ส.อาสนจินดา ภาพยนตร์ เสนอ ท่าจีน จากบทประพันธ์ของ ไกรสร โกมลวิจิตร ฉลวย ศรีรัตนา ลำดับภาพ-กำกับการแสดง ส.อาสนจินดา อำนวยการสร้าง
ไอ้สู้ (2513)
ไอ้สู้ (2513/1970) ข้อความบนใบปิด เทียน-ศิวาพร สุยสว่าง อำนวยการสร้าง ศิวาพรฟิล์ม จัดจำหน่าย ไอ้สู้ (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) ส.อาสนจินดา, ทม วิศวชาติ, (เมตตา รุ่งรัตน์), (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี), (ชุมพร เทพพิทักษ์), (สุวิน สว่างรัตน์), อรสา อิศรางกูร, (มนัส บุณยเกียรติ), ศิริพงษ์ อิศรางกูร, (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), พัลลภ พรพิษณุ, ชาณีย์ ยอดชัย, จำรูญ หนวดจิ๋ม, พิภพ ภู่ภิญโญ, วลิต สนธิรัตน์, เทอด ดาวไท, ดาวน้อย ดวงใหญ่, ฉกาจ, บิส, พิส, ทวน, สมชาย แสดงนำ รุ่งฤดี จัดทำละครวิทยุ ส.อาสนจินดา กำกับการแสดง แสวง ดิษยวรรธนะ ถ่ายภาพ อดิศักดิ์ รัตนศักดิวิบูลย์ ดำเนินงาน ไกสร โกศลวิจิตร กำกับบท สุธรรพ์ ธนะประวิตร-พร พิรุณ สร้างเพลง
คมแฝก (2513)
คมแฝก (2513/1970) ข้อความบนใบปิด แคล้วพิศดารภาพยนตร์ เชิญพบกับความเผ็ดร้อน จากการร่วมบรรเลงเพลงบู๊ของ 4 พระเอก ผู้เกรียงไกรที่ร่วมแสดงกันได้ในเรื่องนี้เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น!! คิงส์ 4 คิงส์ คม 4 คม คิงส์โพธิ์ดำ (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) คมที่ 1 คิงส์หัวใจ (ลือชัย นฤนาท) คมที่ 2 คิงส์ข้าวหลามตัด (เกชา เปลี่ยนวิถี) คมที่ 3 คิงส์ดอกจิก เพชร พิษณุ คมที่ 4 ร่วมในหนังบู๊ระดับ จอมทัพ พร้อมด้วย (เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์) และ (เมตตา รุ่งรัตน์), (รุจน์ รณภพ), ศศิธร เพ็ชรรุ่ง, (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), ไกร ครรชิต, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), สีเทา คมแฝก ของ เสนีย์ บุษปะเกศ จากละครวิทยุที่ดังลั่นไปทั่วเจ็ดคาบสมุทร ส.อาสนจินดา กำกับการแสดง วิเชียร วีระโชติ-สล้าง ศราภัยวนิช ถ่ายภาพ ร่วมใจฟิล์ม จัดจำหน่าย
เทพฤทธิ์จอมเพชฌฆาต (2513)
เทพฤทธิ์จอมเพชฌฆาต (2513/1970) ข้อความบนใบปิด นพเก้าฟิล์ม ภูมิใจเสนอ อยู่ยงคงกะพันตั้งแต่ปืนพกกระทั่งปืนกล และกระแสไฟฟ้าแรงสูงถึง 300 โวลท์ ทรงพลังมหาศาลแม้แต่กำแพงคอนกรีตก็ทะลุวิ่งเข้าไปได้ เพราะเทพเจ้าประทานพรให้แก่เขา แต่! เขาฆ่าทุกคนด้วยมือเปล่า เทพฤทธิ์จอมเพชฌฆาต นำโดย (มิตร ชัยบัญชา) โสภา สถาพร (เมตตา รุ่งรัตน์) วาสนา ชลากร สมชาย ศรีภูมิ พร้อมด้วย ประมินทร์ จารุจารีต, ถวัลย์ คีรีวัต, เมฆ รุ่ง, ทวน, ก๊กเฮง, ทองแถม, ทองฮะ, แป๊ะอ้วน, ยรรยงค์, ดาวน้อย ดวงใหญ่, ศรีสละ ทองธารา, ขวัญ เพ็ญประภา อรรถจินดา อำนวยการสร้าง อรรถ อรรถจินดา ถ่ายภาพเทคนิค-กำกับการแสดง
อัศวินดาบกายสิทธิ์ (2513)

อัศวินดาบกายสิทธิ์ (2513/1970) ในระหว่างศึกสองตระกูล ระหว่างตระกูลชิงกับตระกูลเหอ เพื่อแย่งชิงสิทธิ์เหนือภูเขา ซึ่งมีแร่เกลือมูลค่ามหาศาล เหว่ยชิง บุตรชายตระกูลชิง (มิตร ชัยบัญชา) เกิดความรักกับบุตรสาวตระกูลเหอ (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) และกว่าง หลิน) ซึ่งสร้างความโกรธแค้นให้กับผู้นำของทั้งสองตระกูล ในขณะเดียวกัน ลู่หุ้ย (เถียนเหย่) ซึ่งก็หมายปองในตัวบุตรสาวตระกูลเหอ ก็เข้ามาขัดขวางความรักของคนทั้งคู่ การฆ่าฟันกันเพื่อความรัก และศักดิ์ศรีของตระกูลจึงเกิดขึ้น

ชาติเหมราช (2513)
ชาติเหมราช (2513/1970) ข้อความบนใบปิด จากนวนิยายยอดเด็ดของ เพชร สถาบัน มาเป็นภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ ชาติเหมราช ฟังเพลงเอกในระบบ 35 ม.ม.เสียงในฟิล์ม นำโดย (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) พบ (เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์) ชัชฎาภรณ์ รักษนาเวศ ร่วมด้วย (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี), (อดุลย์ ดุลยรัตน์), (รุจน์ รณภพ), อนุชา รัตนมาลย์, (อดินันท์ สิงห์หิรัญ), สิงห์ มิลินทราศัย, (ชุมพร เทพพิทักษ์), โยธิน เทวราช, สมควร กระจ่างศาสตร์, สุเมธ, สันทัด, หยาดรุ้ง ระพี ขอฝากฝังดาราจอแก้ว ศิริวรรณ ทองแสง วินิจ ภักดีวิจิตร ถ่ายภาพ สุรินทร์ เจริญปุระ- เอนก ชิตานุรัตน์ สร้าง (รุจน์ รณภพ) กำกับการแสดง
รอยพราน (2512)
รอยพราน (2512/1969) มิตร-เพชรา ข้อความบนใบปิด ชัยบัญชาภาพยนตร์ ภาพยนตร์โดย “(มิตร ชัยบัญชา)” พระเอกยอดนิยม ขวัญใจของคุณ เสนอ รอยพราน ของ พันธุ์บางกอก นำแสดงโดย (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) พร้อมด้วยดาราเด่น (เมตตา รุ่งรัตน์), สมควร กระจ่างศาสตร์, สุระ นานา (อดินันท์ สิงห์หิรัญ), (อดุลย์ ดุลยรัตน์), (สมจิตร ทรัพย์สำรวย), ชาณีย์ ยอดชัย, (ชุมพร เทพพิทักษ์), ขอใจ ฤทัยประชา, (ล้อต๊อก), (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม) ฯลฯ เพลงเอกในระบบ 35 ม.ม. 2 เพลง อนันต์ อินละออ ถ่ายภาพ (มิตร ชัยบัญชา)-มังกร ฤกษ์อร่าม อำนวยการสร้าง “เนรมิต” กำกับการแสดง เสรีภาพยนตร์ จัดจำหน่ายจัดจำหน่าย