ใต้ร่มพระบารมี เรื่อง แสงสุดท้าย

ใต้ร่มพระบารมี เรื่อง แสงสุดท้าย (2559/2016) แสงเทียนเด็กหนุ่มวัย 17 ผู้มีพรสวรรค์ทางด้านศิลปะเป็นอย่างมากประทีปพ่อของเทียนก็มีฝีมือทางด้านศิลปะ มากอยู่เหมือนกัน เขาเคยใฝ่ฝันจะเป็นศิลปินเพียงแต่ตอนนี้ดวงตาทั้ง 2 ข้างของประทีปไม่สามารถใช้การได้เหมือนเดิมที่พอจะมองเห็นได้ มีเพียงแสงมัว ๆ ประทีปตั้งความหวังเอาไว้ ว่าเทียนจะสานฝันของเขาได้ และเทียนก็ทำได้จริง ๆ เทียนสอบเข้าเรียนที่ อาชีวะปลูกศิลป์ ได้สำเร็จด้วยคะแนนอันดับหนึ่ง ทำให้เขาได้เป็นนักเรียนทุนของสถาบัน ประทีปปลื้มใจมาก ชีวิตชายพิการยากจนต้องอาศัยวัดอยู่ดูมีความหวังเรืองรองขึ้นมา ผลการเรียนของเทียนออกมาดีมาก ฝีมือวาดภาพ และปฏิมากรรมอันเก่งฉกาจของเทียนทำให้ อ. สัญญา พอใจและมักจะหางานพิเศษมาให้เทียนทำเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ทั้ง อ.สัญญา และประทีปกังวล ก็คือกลุ่มเพื่อนของเทียน ซึ่งประกอบไปด้วย วิณ ลูกชายนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผู้มั่งคั่งซึ่งมีนิสัยรักพวกพ้องมาก บิ๊กลูกชายร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ ผู้มีนิสัยเกเร และชอบหาเรื่องมาให้เพื่อน ๆ ไม่เว้นแต่ละวัน ส่วนโจ๊ก ลูกแม่ค้าในตลาด และภูมิลูกครูก็ทำตัวเป็นลูกสมุนของบิ๊ก ผู้ที่พร้อมจะลุยเสมอเพียงแต่บิ๊กเอ่ยปาก กลุ่มของบิ๊กคือ ตัวปัญหาของสถาบัน เมื่อเกิดเรื่องอะไรขึ้น บิ๊กจะกระพือไฟให้ลุกลาม ยุยงเพื่อนร่วมสถาบันให้ลุกขึ้นมาต่อยตีกับคู่อริต่างสถาบัน เทียนก็มักจะติดร่างแหไปกับเขาด้วยทุกครั้ง มันทำให้ประทีปเจ็บปวดหัวใจ เหตุผลที่เทียนต้องเข้าไปยุ่งกับการทะเลาะวิวาททุกครั้ง ก็เพราะเขาห่วงวิณ วิณเป็นเพื่อนสนิทของเทียน ถึงแม้ว่า วิณจะเป็นลูกคนรวย แต่ก็ไม่เคยรังเกียจเด็กวัดจน ๆ อย่างเทียน เวลาที่เทียนลำบาก วิณจะช่วยเหลือทุกครั้งไป อ.สัญญา และหลวงพ่อรู้ดีว่าเทียนไม่ใช่เด็กที่ชอบมีเรื่อง เทียนเป็นเด็กดีและมีน้ำใจว่าง ๆ เทียนมักจะจับเด็กเล็ก ๆ แถววัดมาสอนวาดรูปโดยไม่ได้คิดมูลค่าใด ๆ เลย เพื่อให้เด็ก ๆ มีกิจกรรมที่สร้างสรรค์ในวันหยุดดีกว่าไปเกกมะเหรกเกเรทุกอย่างอยู่ในสายตาหลวงพ่อเสมอ ทุกครั้งที่เทียนไปมีเรื่องมา ประทีปมักจะใส่อารมณ์กับลูกเสมอ แม้เทียนจะอธิบายเหตุผลก็ตาม นี่เองที่เป็นสาเหตุ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกเป็นไปอย่างกระท่อนกระแท่นพ่อลูกจะพูดคุยกันเท่าที่จำเป็นเท่านั้น วันหนึ่ง ๆ ประทีปจะขลุกอยู่กับการปั้นพระประธาน เขาค่อย ๆ คลำปั้นไปทีละเล็กละน้อยจนเป็นที่เวทนาของชาวบ้าน เพราะดูแล้วก็ไม่มีวี่แววว่าจะเสร็จ ประทีบมีลูกมือตัวน้อย คือ น้ำขิง คอยเล่นซนช่วยหยิบจับอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ใกล้ ๆ น้ำขิงทำให้ประทีปคิดถึง แสงทอง ลูกสาวที่ภรรยาของเขาพาหนีไปตอนที่ตัวเท่า ๆ กับน้ำขิง จึงทำให้ประทีปเอ็นดูน้ำขิงเป็นพิเศษ ป้านิ่ม ย่าของน้ำขิงเป็นคนพูดมาก แม้จะมีน้ำใจหาข้าวปลามาให้กินทุกวัน แต่ก็อดบ่นโน่นบ่นนี่ ค่อนแคะถึงความล่าช้าในการสร้างพระประธานของประทีปไม่ได้ แกเคยเปรย ๆ กับหลวงพ่อว่า ให้ไปสั่งซื้อแถวเสาชิงช้าน่าจะง่ายกว่า แต่หลวงพ่อก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ถึงแม้จะโดนค่อนแคะทุกวัน แต่ประทีปก็ยังคงยึดมั่นในความเพียร อย่างที่ในหลวงทรงสอนเอาไว้ ผ่านพระราชนิพนธ์ พระมหาชนก เทียนเองก็อยากจะช่วยพ่อทำ แต่เข้าใกล้กันทีไร ก็มักจะมีเรื่องให้ทะเลาะกันเสมอ จึงทำให้เทียนต้องคอยเลี่ยงที่จะอยู่ใกล้พ่อ อีกสิ่งหนึ่งที่ประทีปทำเป็นประจำก็คือ การไปเฝ้ารอรับเสด็จองค์พระบาทพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ที่โรงพยาบาลสิริราช ยิ่งช่วงหลัง ๆ ที่มีข่าวพระอาการประชวรของพระองค์ออกมาถี่เหลือเกิน ยิ่งทำให้ประทีปไม่สบายใจ ต้องไปเฝ้ารอฟังข่าวพระอาการของพระองค์บ่อยขึ้น ถึงแม้การเดินทางไปแต่ละครั้งจะยากลำบากแค่ไหน ประทีปก็จะไป เทียนเป็นห่วงพ่อ แต่ทักท้วงเท่าไหร่พ่อก็ไม่ฟัง ทำให้เทียนเหนื่อยใจคนที่รู้ทุกเรื่องและเป็นที่ปรึกษาให้เทียน คือเพลงชนก เพลงมีความรู้สึกดี ๆ ให้เทียน เทียนเองก็หลงรักเด็กสาว หน้าตาน่ารัก จิตใจดี ฝีมือเขียนรูปฉกาจอย่างเพลง เพียงแต่เทียนรู้สึกเจียมตน จึงไม่เผยความรู้สึกใด ๆ ออกมาและอีกหนึ่งเหตุผลก็คือ เทียนรู้ว่าวิณชอบเพลง ถ้าเพื่อวิณแล้ว เทียนยอมได้ทุกอย่าง แม้ตัวเองจะต้องเจ็บปวดหัวใจก็ตาม วันหนึ่งนักเรียนอาชีวะยกพวกตีกันครั้งใหญ่ จนทำให้ หมี เพื่อนสนิทในชั้นเรียนคนหนึ่งของเทียนต้องตาย หมีเป็นคนหงอ ๆ ขี้กลัว มักจะคอยบอกเทียนให้เลิกยุ่งกับบิ๊ก แต่เทียนไม่เชื่อ การตายของหมี ทำให้เทียนเสียใจมาก อ.สัญญาเรียกกลุ่มหัวโจกมาตักเตือนทำให้เกิดการโต้เถียงกัน อ. สัญญาบันดาลโทสะไปตบหน้าวิณเข้า เรื่องไปถึงพ่อวิณ ผอ.รำไพ ต้องเข้ามาช่วยเคลียร์ปัญหาด้วยความลำบากใจ เพราะพ่อวิณบริจาคเงินสร้างห้องภาพพิมพ์ ห้องคอมพิวเตอร์ และอีกสารพัดอย่างในโรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งมันมีประโยชน์ต่อการเรียนการสอนมาก ผอ.รำไพ ขอให้ อ.สัญญาขอขมาพ่อวิณ เพื่อให้ทุกปัญหาเบาลง อ.สัญญาน้อยใจมากจะขอลาออก ผอ.รำไพขอร้องให้พิจารณาให้ดี เพราะโรงเรียนยังต้องการครูดี ๆ อย่าง อ.สัญญา ให้อยู่ช่วยอบรมสั่งสอน และคอยกันพวกเด็ก ๆ ออกจากพวกรุ่นพี่นักเลงหัวไม้ ที่แม้จะจบไปแล้ว แต่ก็ยังวนเวียนคอยยุงให้น้องรักสถาบันแบบผิด ๆ อย่าง แบงค์ อ.สัญญาท้อใจบอกกับ ผอ.รำไพว่าไม่มีใครมาเปลี่ยนวิถีชีวิตของเด็กพวกนี้ได้แต่ ผอ.แย้งว่า ถ้าพวกเขามีแบบอย่างที่ดี มีคนอบรมสั่งสอนที่ดี วันหนึ่งพวกเขาจะเปลี่ยนได้ อ.สัญญาฟังก็ใจอ่อน ตั้งหน้าตั้งตารอปาฏิหาริย์ ส่วนประทีปเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ 2 พ่อลูกถึงจุดแตกหัก ประทีปโกรธเทียนมากถึงขั้นลงไม้ลงมือทำให้เทียนเสียใจมาก เทียนน้อยใจที่ประทีปไม่เคยมั่นใจในตัวเขาเลย ถ้าพ่อมีเหตุผลพอและรับฟังเขาอย่างตั้งใจ พ่อจะรู้ว่าเขาไม่ผิด และไม่ได้ตั้งใจที่จะมีเรื่องต่อยตี หลังจากวันนั้นพ่อลูกก็แทบไม่ได้คุยกันเลย พ่อของบิ๊กเป็นเพียงเจ้าของร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์เล็ก ๆ แต่เขากลับมีเงินให้ลูกผลาญเล่นอย่างเหลือเฟือ แท้จริงแล้ว เขาแอบขายยาไอซ์ให้กลุ่มวัยรุ่นละแวกนั้นและยังมีแผนขยายเข้าไปสู่สถาบันการศึกษาอีกต่างหาก บิ๊กไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเพราะพ่อไม่อยากให้บิ๊กรู้ คนเป็นพ่อย่อมอยากจะดูดีเสมอในสายตาลูก แต่โจ๊กและภูมิรู้ดี นั่นเป็นเหตุผลที่ 2 คนอยากเป็นลูกไล่บิ๊ก เพราะจะได้รางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ จากพ่อของบิ๊กอยู่เสมอ คนที่สงสัยในตัวพ่อบิ๊กอีกคนหนึ่งคือเทียน นั่นเป็นเหตุผลที่เขาพยายามดึงวิณออกจากกลุ่มของบิ๊ก แต่วิณไม่ยอม การมีบิ๊กและกลุ่มนักเรียนนักเลงคุ้มหัว การได้ออกไปต่อยไปตีทำให้วิณรู้สึกได้ถึงพลังและอำนาจบางอย่างที่เขาไม่เคยมี วันหนึ่งวิณถูกเพลงปฏิเสธ เพลงให้เหตุผลว่าเธอมีคนอื่นในใจแล้ว วิณถามเพลงว่าใช่เทียนหรือเปล่า เพลงไม่ปฏิเสธ ทำให้วิณเสียใจมากเหมือนถูกหักหลัง เขาโกรธเทียนมาก เทียนเองก็เสียใจ ตั้งแต่นั้นมาวิณก็เลิกคบเทียน เก้า และ ไม้ เป็นคู่อริต่างสถาบัน ไม่ชอบขี้หน้าเทียนมาก ๆ เพราะเพลงชนกเธอดังข้ามสถาบันเป็นขวัญใจหนุ่ม ๆ คนที่ได้ใกล้ชิดเธออย่างเทียนย่อมถูกหมั่นไส้ เท่ากับเทียนกำลังตกที่นั่งลำบาก ต้องเจอทั้งศึกนอกศึกใน ไหนจะเรื่องพ่ออีก ในเวลานี้มีเพียง อ.สัญญาเท่านั้นที่คอยเป็นกำลังใจให้คำชี้นำที่ดีแก่เทียน และพยายามชี้นำให้เทียนเข้าอกเข้าใจพ่อของเขา ประทีปได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับในหลวงที่เขาไม่อยากได้ยินตลอดทั้งวัน เขาไม่สบายใจแม้ใคร ๆ จะบอกว่าให้รอฟังประกาศจากรัฐบาล ประทีปก็แทบจะรอไม่ไหว แม้จะป่วยหนักประทีปก็มุ่งมั่นที่จะไปรอฟังข่าวที่ศิริราชให้ได้ ทำให้เทียนทนไม่ไหวต้องขออาสาพาพ่อไปเองครั้งนี้เองทำให้ 2 พ่อลูกตื้นตันใจที่ได้กลับมาคุยกัน เทียนและประทีปเกือบจะเดินพ้นวัดออกไปอยู่แล้ว ภูมิก็วิ่งเข้ามาส่งข่าวว่ากลุ่มของบิ๊กกับวิณกำลังจะมีเรื่อง ตอนนี้ถูกนักเรียนต่างสถาบันกลุ่มใหญ่ล้อมไว้อยู่ เทียนไม่ฟังคำทัดทานของพ่อเขารีบรุดไปที่เกิดเหตุทันทีเพื่อไปช่วยวิณ เมื่อไปถึงเหตุการณ์บานปลายไปมากแล้ว เทียนลุยเข้าไปจนถึงตัววิณ ช่วยวิณเอาไว้ได้ แต่ฝ่าวงล้อมกลับออกไปไม่ได้ เทียนกับวิณคิดว่าต้องตายแน่ แต่ประทีปก็เข้ามาช่วยได้พอดี ประทีปโดนลูกหลงเข้าอย่างจังจนเขาล้มลง เหตุการณ์กำลังเข้าขั้นวิกฤติแต่ทุกอย่างต้องชะงักลงเมื่อโทรทัศน์ออกประกาศแถลงการณ์การเสด็จสวรรคตขององค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทุกอย่างหยุดนิ่งเหมือนต้องมนต์ สิ้นสุดการประกาศ เสียงร้องไห้ระงมของชาวบ้านก็ดังขึ้น ประทีปหัวใจสลายเขาสิ้นใจตายอยู่ตรงนั้นเอง เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ อ.สัญญาเสียใจ และท้อใจที่จะสอนเด็ก ๆ อีกต่อไป เขารู้แล้วว่าไม่มีอะไรที่จะมาเปลี่ยนใจเด็กพวกนี้ได้ เขาประกาศลาออกหน้าเสาธงในเช้าวันรุ่งขึ้น เทียนรู้สึกว่าเขาสูญเสียทุกอย่างแล้ว เขาจะเสียครูดี ๆ ไปไม่ได้ เขาจึงขึ้นไปพูดโน้มน้าวเพื่อน ๆ ร่วมสถาบัน "พ่อไม่ได้สอนให้เรารักพ่อ แต่พ่อสอนให้เรารักกัน" และเทียนขอปฏิญาณตนเลิกทะเลาะวิวาท เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯซึ่งเพื่อน ๆ ร่วมสถาบันทุกคนก็เห็นดีเห็นงามด้วย ข่าวนี้แพร่สะพัดไปทุกสถาบัน นำมาซึ่งการนัดรวมตัวกันถวายสัตย์ปฏิญาณที่จะเลิกทะเลาะวิวาทกัน อ.สัญญาดีใจมาก ผอ.รำไพว่านี่แหละ คือ ปาฏิหาริย์ ในงานศพของประทีปที่จัดแบบเรียบง่าย หลวงพ่อได้เล่าภูมิหลังของประทีปให้เทียนฟังว่า ประทีปเป็นคนมีฝีมือทางด้านศิลปะ เขาได้รับแรงบันดาลใจเมื่อครั้งได้เห็นภาพวาดฝีพระหัตถ์ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ๆ จึงฝึกฝนวาดรูปจนเก่งได้รับทุนเรียนดี แต่ด้วยความใจร้อนประทีปมักมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคนอื่นเป็นประจำ จนวันหนึ่งพลาดท่าถูกคู่อริทำร้าย ด้วยระเบิดทำให้ตาทั้งสองข้างถูกทำลาย เพราะไม่มีเงินจึงรักษาได้ไม่ดีพอทำให้ตาทั้ง 2 ของประทีปพิการตั้งแต่นั้นมา ประทีปฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเทียน อยากเห็นเทียนเป็นตัวแทนของตน อยากให้เทียนเก่งศิลปะเหมือนในหลวง และอยากให้เทียนนำความสามารถของตนไปรับใช้สังคมและประเทศชาติ เทียนได้ฟังแล้วก็เข้าใจ เขาเสียใจที่ได้รู้ความจริง ในวันที่สายไปเสียแล้ว เทียนจึงขอบวชให้พ่อและตั้งใจว่าจะไม่สึก จนกว่าจะสานต่องานปั้นพระประธานต่อจากพ่อได้สำเร็จลุล่วง ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตของเทียนเลยทีเดียว แต่ อ.สัญญาและเพื่อน ๆ ก็ไม่ทอดทิ้งเทียน ทุกคนที่รู้ข่าวต่างมาช่วยเทียนปั้นพระ พ่อของวิณก็สนับสนุนในเรื่องทุนทรัพย์ในขั้นตอนของการหล่อโลหะ อย่างเต็มที่ เทียนซาบซึ้งใจมากและขอบคุณทุก ๆ คน วิณว่าเขาต้องรีบช่วยเทียนปั้นพระให้เสร็จ ไม่งั้นเพลงได้ขึ้นคานแน่ ๆ ด้วยพระบารมีล้นเกล้าของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ท่านทรงบันดาลให้เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ กลายเป็นจริงขึ้นมาได้นับครั้งไม่ถ้วน รวมทั้งเหตุการณ์ถวายสัตย์ของนักเรียนอาชีวะกรุงเก่าในครั้งนี้ โดยหวังว่านี่จะเป็นแบบอย่างให้นักเรียนอาชีวะทั่วประเทศ เกิดสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณจนเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ติดตามชมละคร เทิดพระเกียรติชุด ใต้ร่มบารมี ตอน แสงสุดท้าย ได้ในวันพุธที่ 7 ธันวาคม 2559 เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7 สี

เป็นคนแรกที่รีวิว “ใต้ร่มพระบารมี เรื่อง แสงสุดท้าย”

ยังไม่มีรีวิว

นักแสดงและทีมงาน