แม่เบี้ย 2564

แม่เบี้ย

แม่เบี้ย (2564/2021) ณ เรือนไทยโบราณหลังใหญ่แห่ง อ.บางปลาม้า ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำสุพรรณบุรี มีอดีตดำมืดถึงความลี้ลับของบ้านหลังนี้ เพราะผู้คนในบ้านต่างมีพฤติกรรมที่แตกต่างจากชาวบ้านทั่วไป ทั้งสวมชุดไทยโบราณและดำเนินชีวิตกันอย่างสันโดษ ปฏิเสธการเข้าถึงของความเจริญ เพื่อคงสภาพความเป็นอยู่เหมือนเฉกเช่นวันที่เริ่มลงเสาเอกตั้งเรือน อีกทั้งยังมีสัตว์เดรัจฉานชีวิตตัวหนึ่งที่ทำหน้าที่ปกป้องคนในบ้านและเฝ้าบ้านหลังนี้จากผู้ที่ไม่หวังดีจนได้คร่าชีวิตผู้คนไปนักต่อนัก นั่นก็คือ..งูเห่าสีดำมะเมื่อมตัวใหญ่ที่ชาวบ้านริมแม่น้ำเรียกขานกันว่า...งูเจ้า หรือ...งูผี !! งูที่เป็นต้นตอของปริศนา..ความลับ..และพิศวาสฆาตกรรมที่เกิด ขึ้น ณ เรือนไทยโบราณหลังนี้ อันเป็นสาเหตุให้ถูกขนานนามว่า…บ้านบาป !!! ทายาทรุ่นปัจจุบันของบ้านหลังนี้มีนามว่า เมขลา (ทิสานาฏ ศรศึก) หญิงสาวสวยลึกลับผู้สวมชุดไทยอยู่ในบ้านจนเป็นที่กล่าวขานกันปากต่อปากในพฤติกรรมผิดจากคนยุคนี้ของเธอ ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังเป็นที่เลื่องลือในเรื่องความสวยจนใคร ๆ พากันร่ำลือว่าไม่ว่าชายใดได้เห็นเธอต่างต้องมีอันหลงใหลเธอทั้งนั้น หากแต่เธอกลับไม่เคยมีคนรัก หรือผ่านการแต่งงานเลยสักครั้ง จนชาวบ้านต่างซุบซิบนินทากันว่าเพราะ งูเจ้า หรือ งูผี คอยขัดขวางความรักของเธอ บ้างก็ว่าแท้จริงแล้ว….เมขลาเป็น ขณะเดียวกันที่คอนโดหรูใจกลางกรุงเทพฯ เมขลาดำเนินชีวิตผิดแผกไปจากที่บางปลาม้าอย่างสิ้นเชิง เธอเป็นเจ้าของบริษัททัวร์ที่มีชื่อเสียงจนถูกจัดให้เป็นเซเลบคนหนึ่งก็ว่าได้ และหนึ่งในโปรแกรมทัวร์ของเธอที่ไม่เหมือนใคร คือการพานักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมเรือนไทยโบราณของเธอที่ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ที่บริษัททัวร์ของเมขลานั้นยังมีผู้บริหารอีกคนที่เป็นหุ้นส่วนของเธอนั่นคือ บุษบา (ใจบัว ฮิดดิง) ซึ่งเป็นเพื่อนที่อยู่เคียงข้างเมขลามาเสมอตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย และอีกคนที่สนิทกันคือ อรรณพ (จิณณ์ จิณณะ) ซึ่งคอยตามจีบเมขลาแต่เมขลาก็ให้ได้แค่ความเป็นพี่เป็นน้อง อรรณพจึงหันมาเล่นสนุกจีบบุษบาแทนเพราะเห็นเป็นเรื่องสนุกและท้าทาย แต่ก็มักจะถูกบุษบาไล่ตะเพิดต่อปากต่อคำเป็นไม้เบื่อไม้เมากันประจำ แม้ว่าอรรณพจะมีความเพียบพร้อมทั้งหน้าตาและฐานะแต่ก็ไม่ทำให้เมขลาสนใจ ขณะเดียวกันเมขลายังมี พจน์ (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) นักธุรกิจหนุ่มมาตามจีบ แต่เมขลาไม่ได้สนใจอะไรเพราะพจน์มีเมียถูกต้องตามกฏหมายอยู่แล้ว คือ วิชชุดา (นิชานันท์ ฝั้นแก้ว) หากแต่ชีวิตสมรสของทั้งคู่กำลังเข้าสู่จุดแตกหัก เพราะความเป็นคนขี้หึงของวิชชุดาและความจุ้นจ้านวุ่นวายของณิณา (อมีนา พินิจ) น้องสาววิชชุดาที่ช่วยเหลือพี่สาวตามราวีผู้หญิงทุกคนที่มาเข้าใกล้พี่เขย ทำให้พจน์ยิ่งพยายามตีตัวออกห่าง จนเมื่อพบเมขลาและหลงรักเธอจนถอนตัวไม่ขึ้น วิชชุดาและณิณาจึงเห็นเมขลาเป็นศัตรูที่ต้องกำจัด !!! วันหนึ่ง ภาคภูมิ (พูลภัทร อัตถปัญญาพล) ซึ่งรู้จักมักคุ้นกับเมขลาจากการที่บริษัททัวร์ของเมขลาช่วยดูแลลูกค้าให้กับบริษัทที่ตน เป็นเลขาส่วนตัวของ ชนะชล (กันตพงศ์ บำรุงรักษ์) ประธานบริษัทคนใหม่ที่เพิ่งกลับจากเมืองนอกและเข้ารับตำแหน่งเป็น CEO แทนท่านประธานคนเก่าที่เพิ่งเสียไปเพราะชนะชลเป็นทายาทคนเดียว ให้ช่วยหาบ้านเรือนไทยโบราณ เพราะอยากมีบ้านเรือนไทยไว้พักเมื่อว่างจากงาน ชนะชลเป็นหนุ่มนักธุรกิจรูปหล่อมาดขรึมและหลงใหลความเป็นไทย ตั้งแต่เล็ก ๆ เขามีจิตใต้สำนึกที่มักจะฝันถึงเรือนไทยโบราณริมน้ำ และภาพความทุกข์ทรมานราวกับคนที่กำลังจะจมน้ำตายอยู่เสมอ ๆ จนพ่อแม่บุญธรรมที่เลี้ยงดูเขามาต้องส่งไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่เป็นวัยรุ่นเพื่อรักษาอาการนั้น ชนะชลอยู่เมืองนอกจนกระทั่งเรียนจบและได้แต่งงานกับ ไหมแก้ว (คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์) ลูกสาวข้าราชการในกระทรวงต่างประเทศที่มีหน้ามีตา มีลูกด้วยกัน 2 คนคือ แพร (ด.ญ.ปารย์ชนก ผ่านสำแดง) และต่วน (ด.ช.ปัญกร จันทศร) ก่อนต้องเดินทางกลับมาอยู่เมืองไทยอย่างถาวร เพื่อมาสานต่อธุรกิจของพ่อแม่ที่เสียชีวิตด้วยโรคร้ายกระทันหัน การกลับมาเมืองไทยครั้งนี้คือสิ่งที่ชนะชลโหยหา เพราะเป็นความต้องการตามหาความทรงจำเก่า ๆ ของเขาที่ว่า....แท้จริงแล้วเขาคือใครกันแน่ ??? ภาคภูมิจึงชวนชนะชลให้ใช้บริการทัวร์ของเมขลา ซึ่งเธอได้จัดทัวร์เชิงอนุรักษ์ขึ้นที่เรือนไทยของเธอในบางปลาม้า เขาจึงตอบตกลงไปที่นั่น โดยหารู้ไม่ว่าที่นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชีวิตของชนะชลเปลี่ยนไป การมาถึงบ้านเรือนไทยริมแม่น้ำที่บางปลาม้า ทำให้สิ่งลี้ลับที่ทุกคนกล่าวขานถูกเผยออกมาอีกครั้งผ่านงูเจ้าที่วนเวียนคอยสร้างความสะพรึงกลัวให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเรือนไทยหลังนี้ หากแต่ชนะชลที่มีหัวสมัยใหม่กลับไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวอะไร ทั้งยังไม่เชื่อในสิ่งที่ทุกคนต่างพากันลือถึงความลี้ลับในเรือนไทยหลังนี้ เพราะทั้งบรรยากาศและสายน้ำทุกอย่างที่โอบล้อมที่นี่สร้างความคุ้นตาผูกพัน คุ้นชิน จนชนะชลแทบตกอยู่ในภวังค์ ด้านเมขลาทันทีที่เธอได้พบชนะชล เธอรู้สึกสนใจในตัวเขามากกว่าลูกทัวร์คนอื่น ๆ เพราะชนะชลมีท่าทีประหม่าตลอดเวลาที่อยู่บนเรือ นั่นเพราะเขาเคยมีความทรงจำที่เจ็บปวดในวัยเด็กจากการเคยจมน้ำและเกือบเสียชีวิตมาก่อน ขณะที่ชนะชลรู้สึกแปลกกับการมาเยือนที่เรือนไทย ก็มีสายตาของสัตว์ร้ายตัวหนึ่งจับจ้องมองเขาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็คืองูเจ้าที่ร่ำลือแต่เมขลาและทุกคนในบ้านต่างเรียกมันว่า... ‘คุณ’ ทั้งยังสามารถพูดคุยสื่อสารกับมันได้ราวกับเป็นคนด้วยกัน หากแต่งูเห่าตัวนี้ไม่เคยทำร้ายคนในบ้านไม่ว่าจะเป็น ลุงทิม (รอง เค้ามูลคดี) กับ ป้าทับ (อำภา ภูษิต) และ นวล(ภัชธร ธนวัฒน์) เด็กสาววัย 16 หลานสาวของป้าทับ ซึ่งเป็นคนรับใช้ที่ดูแลเรือนไทยหลังนี้มาตั้งแต่สมัย โกสุม (ปัทมวรรณ เค้ามูลคดี) แม่ของเมขลายังอยู่ เพราะลุงทิมกับป้าทับเป็นคนเก่าคนแก่ที่โกสุมไว้ใจเหมือนญาติผู้ใหญ่ จึงไว้ใจให้ช่วยดูแลเมขลามาตั้งแต่เล็ก ๆ ก่อนที่โกสุมจะ จากไปในช่วงที่เมขลาเพิ่งจะ 6 ขวบ การตายของแม่ที่จากไปมีปริศนามากมายที่ซ่อนอยู่ มันเป็นความลึกลับที่ เกี่ยวข้องกับ คุณ ที่วนเวียน จับจ้อง เฝ้าดู ปกป้อง อยู่ในบ้านหลังนี้ ทำให้ทุกครั้งที่เมขลาเหยียบย่างกลับมา ภาพอดีตในความทรงจำตอนเด็ก ๆ มักจะถูกขุดคุ้ยขึ้นมาเสมอ ๆ ว่าเหตุไฉนเรือนไทยนี้ถึงถูกกล่าวขานว่าเป็น...บ้านบาป 20 ปีก่อน โกสุมเป็นเพียงเด็กสาวสวยคมเข้ม เพิ่งจะผ่านวัยสาวมาได้ไม่นานจากนครศรีธรรมราช ถูกพ่อขอร้องให้แต่งงานเป็นเมีย รังสรรค์ (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) เศรษฐีหนุ่มใหญ่จากเมืองสุพรรณฯ ที่พ่อจำเป็นต้องพึ่งอำนาจทางการเมืองให้ช่วยเหลือธุรกิจสวนยางที่กำลังจะล่มจมโดยหารู้ไม่ว่าเมื่อรังสรรค์พามาถึงเรือนไทยริมน้ำที่ใช้เป็นเรือนหอ เธอกลับต้องพบกับความจริงอันโหดร้ายที่รังสรรค์ปกปิดเธอมาตลอด รังสรรค์เป็นผู้ชายเจ้าชู้ที่มักมากในกามารมย์ จึงไม่ได้มีโกสุมเป็นเมียเดียวแต่มีเมียอยู่ที่บ้านแล้วถึง 2 คน คือ รุ่งทิพย์ (ภัทรวรินทร์ ทิมกุล) เมียหลวงจอมร้ายกาจที่หาทางเล่นงานเธอได้ทุกวัน และ อนงค์ (ชมพูนุช ปิยธรรมชัย) คนใช้นกสองหัว จอมเจ้าเล่ห์ที่ลักลอบเป็นเมียน้อยรังสรรค์ โกสุมจำต้องทนอยู่ในเรือนไทยด้วยความทุกข์ระทม แม้พยายามหนีจากเรือนไทยเพื่อกลับบ้านไปหา พี่ไม้ (ชลัฏ ณ สงขลา) พี่ชายต่างสายเลือดที่คอยเป็นห่วงเป็นใยเธอเสมอ ๆ แต่ก็ถูกรังสรรค์พาตัวกลับมาและถูกพ่อบังคับให้ต้องทนรับชะตากรรมรองรับตัณหาที่ไม่เคยพอของรังสรรค์ จนเธอตั้งท้องก็ยังไม่วายต้องรับมือกับความเกรี้ยวกราด ชิงดีชิงเด่นของรุ่งทิพย์และอนงค์ที่พยายามหาทางทำให้เธอแท้งลูก !!! กระทั่งในที่สุดพี่ไม้ก็ทนไม่ไหวต้องเดินทางมาทำงานเป็นคนสวน เพื่อคอยช่วยเหลือและดูแลโกสุมอย่างที่เคยดูแลมาตั้งแต่เด็ก รังสรรค์ให้ไม้พักอาศัยอยู่ที่กระท่อมเรือนเล็กในสวนหลังโคก คอยทำหน้าที่ทุกอย่างไม่ต่างจากคนใช้คนอื่น ๆ โดยมีสายตาของรุ่งทิพย์และอนงค์ที่คอยจับจ้อง จับผิด ถึงความสัมพันธ์ของโกสุมกับไม้ที่สงสัยว่าจะมากกว่าคำว่าพี่น้อง ยิ่งเป็นพี่น้องต่างสายเลือดก็ยิ่งเป็นที่สนใจ หาทางยัดเยียดคำว่าเล่นชู้กันให้โกสุมกับไม้ หวังใช้เสี้ยมให้รังสรรค์เขี่ยโกสุมไปให้พ้นจากเรือนไทยหลังนี้ แต่ไม้ก็รู้ตัวว่ากำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือทำลายชีวิตน้องสาว เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกครหา ไม้จึงหันไปคว้า อีแก้ว (วนิดา โสมศรีแพง) หญิงใบ้ชาวสวน ใกล้เรือนไทยมาเป็นเมีย เพื่อให้รังสรรค์สบายใจว่าตนไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับโกสุมไปมากกว่าคำว่าพี่น้อง แต่การแก้ปัญหาของไม้ก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์จ้องกำจัดโกสุมไปจากเรือนไทยของรุ่งทิพย์และอนงค์ลดน้อยถอยลง เพราะเมื่อโกสุมคลอดเมขลาออกมา รังสรรค์ก็ทั้งรักและหวงลูกสาวตัวน้อยจนพร้อมจะยกสมบัติให้ทั้งหมด ยิ่งทำให้รุ่งทิพย์และอนงค์ที่ไม่สามารถมีทายาทได้ต้องหาทางกำจัดโกสุมออกไปให้ได้...นี่เองจึงเป็นจุดเริ่มของปมพิศวาสฆาตกรรมที่ทำให้เรือนไทยหลังนี้ถูกกล่าวขานว่าเป็น...บ้านบาป และ งูเจ้าที่คอยเฝ้าวนเวียนอยู่ ด้านชนะชลเมื่อกลับจากบ้านเมขลาก็ได้แต่ฝันซ้ำ ๆ ถึงเรือนไทยโบราณหลังนั้น และภาพอดีตที่เคยจมน้ำเมื่อยังเล็ก จนทำให้ไหมแก้วรู้สึกแปลกใจที่สามีของเธอดูราวกับคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เธอจึงเอาเรื่องนี้ไปปรึกษา เพ็ญแสง (ภัทรานิษฐ์ วิริยะบำรุงกิจ) เพื่อนสนิทคนเดียวที่ไว้ใจมากที่สุด ทั้งเรื่องงานบริษัทประชาสัมพันธ์ที่เธอกำลังพยายามก่อร่างสร้างบริษัทด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเองไม่พึ่งสามี เพราะอยากใช้ความรู้ความสามารถที่เรียนมามากกว่าต้องเป็นแค่แม่บ้านเลี้ยงลูกไปวัน ๆ และเรื่องภายในครอบครัวที่เห็นว่าเพ็ญแสงเป็นเพื่อนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ แต่ไหมแก้วกลับไม่รู้ตัวเลยว่าเพ็ญแสงไม่ใช่เพื่อนแสนดีที่เธอคิด เพ็ญแสงก็ไม่ต่างจากงูเห่าที่พร้อมแว้งกัดได้เสมอ เมื่อคำแนะนำของเพ็ญแสงที่ให้ระแวงชนะชล ทำให้ไหมแก้วเริ่มกังวลอรรณพซึ่งเป็นน้องชายของไหมแก้วที่รักกันมาก คอยช่วยเหลือไหมแก้วทุกอย่าง ตั้งแต่พี่สาวกลับมาจากเมืองนอกมาอยู่เมืองไทยถาวร จึงพยายามเตือนสติรั้งให้พี่สาวไว้ใจชนะชล อย่าเอาความกังวลมาสร้างปัญหาภายในครอบครัวจนกระทบต่วนและแพร ซึ่งต่วนเองก็เริ่มมีปัญหากับเพื่อน ๆ ที่โรงเรียน เพราะพฤติกรรมขาดการเอาใจใส่จากพ่อแม่ที่มีปัญหาภายในบ้านกัน แล้วใช้ความใกล้ชิด ลดการทำงานลง เพื่อดึงชนะชลให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม ไหมแก้วเชื่อน้องชายจึงยอมเสียดีลธุรกิจสำคัญกับ ท่านปรีชา (อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ผู้กว้างขวาง ซึ่งแอบชอบไหมแก้วอยู่ เพื่อมาประคับประคองชีวิตคู่จนคิดว่าสามารถทำให้ชนะชลกลับมาเป็นสามีคนเดิมของเธอได้อีกครั้ง แต่นั่นกลับไม่ใช่อย่างที่ไหมแก้วคิด เพราะลึก ๆ แล้วในหัวใจของชนะชลยังร่ำร้องถึงเรือนไทยโบราณ ริมแม่น้ำที่สุพรรณหลังนั้น ภาพของเมขลาในชุดไทยเป็นเหมือนสัญชาตญาณดิบในตัว ที่ชนะชลกำลังโหยหาต้องการกลับไปที่นั่น แม้ต้องแลกกับคำว่าผิดศีลธรรม…เขาก็ยอม !!! ซึ่งนั่นก็ไม่ต่างจากเมขลาที่หลังจากได้พบกับชนะชลไปในคราวนั้น เธอพยายามหาทางทำความรู้จักเขาให้มากขึ้น แม้ว่าบุษบาจะคอยเตือนในเรื่องการวางตัวเพราะชนะชลมีครอบครัวแล้วก็ตาม แต่หัวใจของเมขลาก็ยังร่ำร้องและร้อนรุ่มคิดถึงแต่ชนะชล แม้การปรากฏตัวของ ‘คุณ’ จะมาเพื่อเตือนว่าสิ่งที่เธอกำลังโหยหาอยู่นั้นคือความผิด แต่เมขลาก็พร้อมที่จะฝ่าฝืนกฏข้อห้ามของคุณ เพื่อทำตามหัวใจที่กำลังตกหลุมรักชนะชลเข้าอย่างถอนตัวไม่ขึ้น เมขลาเลือกที่จะขัดคำสั่ง ทั้งยังพยายามผลักไสคุณให้ห่างออกจากเธอในเวลาที่อยู่กับชนะชล โดยหารู้ไม่ว่าการกระทำของเมขลายิ่งทำให้คุณไม่พอใจ และเตือนให้เธอรู้จนสร้างความกังวลให้กับลุงทิมที่เกรงว่าคุณจะ ทำร้ายเมขลาและชนะชล ขณะที่พจน์เองก็เริ่มรู้สึกระแคะระคายถึงความเปลี่ยนไปของเมขลา ทำให้ต้องคอยเฝ้าจับตาดูเธอตลอดเวลา จนบุกมาถึงห้องนอนเมขลาที่บ้านเรือนไทยริมน้ำด้วยความหึงหวง แต่คุณปรากฏตัวขึ้นพุ่งเข้าเล่นงานจนพจน์เกือบถูกกัด ทำให้พจน์เชื่อว่าสิ่งที่ชาวบ้านพากันเลื่องลือจากคำพูดของ อาเต๊า พ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ละแวกนี้มานานกับ เอกชัย (พีระพงษ์ หาญตา) ลูกชายของอาเต๊าที่คบหาเป็นแฟนกับนวล ว่าเรือนไทยหลังนั้นมีงูเจ้าหรืองูผีคอยคุ้ม ครองป้องกันเมขลาอยู่นั้นเป็นเรื่องจริง ผิดกับชนะชลที่เมขลาเชิญเขามาที่บ้านอีกหลายครั้ง เพราะเห็นถึงความตั้งใจของชนะชลที่โหยหาเรือนไทยหลังนี้ เพื่อให้ทั้งคู่ได้ดื่มด่ำเวลาอันมีความสุขร่วมกัน เมื่อคุณพยายามมาเตือนเมขลาก็เริ่มแสดงอาการกราดเกรี้ยวรุนแรงใส่คุณอย่างไม่ไว้หน้า ต่างจากทุกครั้งตั้งแต่เล็กจนโต ที่เธอจะพูดคุยกับคุณราวกับเป็นญาติผู้ใหญ่ที่ คอยดูแลกันมาตลอด วันหนึ่งขณะที่อรรณพพยายามจะไปรับเมขลาที่บริษัทแต่กลับถูกปฏิเสธ เขาตั้งใจจะเอาชนะใจเมขลาให้ได้จึงดั้นด้นไปหา แต่กลับพบว่าเมขลาออกไปกับชนะชลพี่เขยของตนเอง อรรณพจึงสะกดรอยทั้งคู่ไปจนรู้ว่าชนะชลกับเมขลามีความสัมพันธ์ที่มากกว่าคนรู้จัก อรรณพปวดใจที่ตัวเองกำลังถูกพี่เขยแย่งผู้หญิงที่ตนแอบรักไปและหนักใจกับความลับนี้ เพราะถ้าบอกให้พี่สาวรู้ก็จะยิ่งทำลายชีวิตครอบครัวและหลาน ๆ ที่กำลังพบกับปัญหาสารพัดจากการตามตื้อของท่านปรีชา ที่ทำให้ไหมแก้วต้องหนักอกหนักใจและเครียดมาก อรรณพไม่รู้จะทำอย่างไร ขณะเดียวกันไหมแก้วเริ่มระแคะระคายว่าชนะชลจะมีความลับปกปิดเธอ ยิ่งได้การเสี้ยมจากเพ็ญแสงว่าพบเห็นชนะชลกับเมขลามีพฤติกรรมน่าสงสัย ไหมแก้วจึงตัดสินใจสะกดรอยตามเขาไปโดยมีเพ็ญแสงไปเป็นเพื่อนไหมแก้วไปที่บริษัทของเมขลาแต่กลับได้เจอพจน์ที่เข้ามาโวยวายด้วยความหึงหวง อีกทั้งพจน์ยังประกาศกร้าวว่าจะเล่นงานผู้ชายทุกคนที่เข้ามายุ่งกับเมขลา ในเวลานี้ชีวิตของเมขลาจึงเต็มไปด้วยความวุ่นวาย เพราะพจน์พยายามเข้ามาพัวพันแสดงความเป็นเจ้าของสร้างความรำคาญใจให้กับเธอ ซ้ำเติมด้วยความจงเกลียดจงชังของไหมแก้วและวิชชุดา ที่จ้องแต่จะ ทำร้ายเธอไม่หยุดหย่อน แต่สิ่งที่ไหมแก้วแตกต่างจากวิชชุดาก็คือไหมแก้วมีความหน้าบางและรักในชื่อเสียงของตัวเอง ผิดกับวิชชุดาที่พร้อมจะเข้ามาตบตีทำร้ายเมขลาได้ทุกเมื่อ แต่ทั้งสองคนก็ทำทุกวิธีที่จะให้เมขลาเลิกยุ่งกับสามีของเธอ จนกระทั่งบริษัทในเครือของชนะชลซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ได้จัดงานเลี้ยงเปิดตัวคอนโดแห่งใหม่ ภาคภูมิเห็นว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่จะทำลายภาพพจน์ของชนะชลให้ผู้ถือหุ้นไม่ไว้วางใจ เพราะตั้งแต่ชนะชลเข้ามาสานต่องานจากท่านประธาน ภาคภูมิแอบจงเกลียดจงชังชนะชลมาตลอด เนื่องจากพ่อของภาคภูมิเคยเป็นผู้ช่วยทำงานอย่างหนักทุกอย่างร่วมกับพ่อเลี้ยงของชนะชลมาตลอด แต่กลับไม่ได้รับความไว้วางใจและทำงานจนตายโดยไม่มีใครเหลียวแล ภาคภูมิอยากเห็นหายนะเกิดขึ้นกับบริษัทนี้ที่ไม่เคยเห็นค่าชีวิตพ่อตน จึงวางแผนเชิญเมขลาให้มาร่วมงานเพื่อให้เจอกับไหมแก้ว แต่เหตุการณ์วันนั้นกลับเกิดความวุ่นวายขึ้น เมื่อวิชชุดาโผล่มาด่าทอเมขลาเสีย ๆ หาย ๆ จนพจน์ซึ่งตามมาทันรีบพาตัววิชชุดาออกไปจากงานสร้างความรู้สึกอับอายให้เมขลาเป็นที่สุด ขณะที่ณิณาอยากช่วยพี่สาวกำจัดเมขลาออกไปให้พ้นจากชีวิต เลยไปว่างจ้างนักเลงให้มาลักพาตัวเมขลาหวังอุ้มฆ่า แต่โชคดีที่บุษบาไปรู้เข้าจึงรีบมาเตือน แต่ไม่เจอเมขลาเพราะคลาดสายตากันไปนิดเดียว เหลือก็แต่ชนะชลที่เมื่อรู้เรื่องเข้าก็ตัดสินใจทิ้งลูกเมีย แล้วขับรถตามไปช่วยเมขลาได้สำเร็จ พวกนักเลงที่ถูกณิณาว่าจ้างมากลับประสบอุบัติเหตุตายอย่างสยดสยอง จากเหตุการณ์ประหลาดเมื่อมีงูเห่าขนาดใหญ่เลื้อยเข้ามาในรถที่กำลังวิ่งด้วยความเร็วสูง ส่วนณิณาก็ต้องพบกับเหตุการณ์ชวนขนลุกขนพองเฉียดจมน้ำในสระ เมื่อปรากฏงูเห่าขนาดใหญ่เลื้อยมาเล่นงานเธอถึงในสระว่ายน้ำ หลังจากชนะชลช่วยเมขลาได้แล้ว เมขลาตื้นตันใจที่ชนะชลห่วงใยเธอและเสี่ยงชีวิตมาช่วย ชนะชลไม่อยากกลับบ้านไปพบเจอไหมแก้วอีกแล้วจึงเอ่ยปากชวนเมขลาไปพักที่เรือนไทยริมน้ำ ช่วงเวลาอันหอมหวานและอบอวลไปด้วยความรักดำเนินไปพร้อมกับอันตรายที่เข้ามาสู่ตัวชนะชล เมื่อคุณปรากฏตัวขึ้นและพุ่งเข้ากัดชนะชล หากแต่เขากลับใช้มีดฟันโดนตัวงูจนได้รับบาดเจ็บ เมขลากรีดร้องด้วยความตกใจเพราะรู้ดีว่านี่คือสัญญาณอันตรายถึงชีวิตของชนะชล คุณจะต้องไม่ปล่อยเขาไว้แน่ รุ่งขึ้นเมขลาจึงให้ชนะชลกลับกรุงเทพฯ ทันที เรื่องราวความรักของเมขลา กับ ชนะชล และ “คุณ” จะเดินทางไป ณ จุดไหนและลงเอยอย่างไร?

ดู แม่เบี้ย (2564) inter.bugaboo
ชื่อไทย : แม่เบี้ย
ชื่ออังกฤษ : Mae Bia
ละครช่อง : ช่อง 7
ผลิตโดย : บริษัท เอ.แอ็คท์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
บทประพันธ์ : วาณิช จรุงกิจอนันต์
บทโทรทัศน์ : มุนีมนตรา
กำกับการแสดง : ผิน เกรียงไกรสกุล
แสดงนำ : กันตพงศ์ บำรุงรักษ์, คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์, ทิสานาฏ ศรศึก, ใจบัว ฮิดดิ้ง, จิณณะ นวรัตน์
ออกอากาศ : 27 กรกฎาคม 2564 – 21 กันยายน 2564
วันออกอากาศ : จันทร์ – อังคาร
เวลาออกอากาศ : 20:30 – 22:40 น.
จำนวนตอน : 17
ความยาวตอน : 83 นาที
เรทละคร :

 

เป็นคนแรกที่รีวิว “แม่เบี้ย”

ยังไม่มีรีวิว

นักแสดงและทีมงาน

เท่ห์ อุเทน พรหมมินทร์

ลุงทิม (วัยหนุ่ม)

วนิดา โสมศรีแพง

แก้วบ้าใบ้ (วัยสาว)

แอ๊ว สุกัญญา นาคสนธิ์

แก้วบ้าใบ้ (วัยปัจจุบัน) (รับเชิญ)

พีระพงษ์ หาญตา

เอกชัย (รับเชิญ)

หน่อย ณัฐนี สิทธิสมาน

ป้าทองสุก (รับเชิญ)

เวนย์ ฟอลโคเนอร์

วิเชียร (รับเชิญ)

เอ พศิน เรืองวุฒิ

หมอคม (รับเชิญ)

ปรมัฎศ์ ชัยสุวรรณ

อาเต๊า (วัยหนุ่ม) (รับเชิญ)

เรืองฤทธิ์ วิสมล

อ่ำ (รับเชิญ)

ไกรลาศ เกรียงไกร

อ่ำ (วัยแก่) (รับเชิญ)

แหม่ม อลิษา ขจรไชยกุล

ดาวเรือง (รับเชิญ)

อั๋น สิรคุปต์ เมทะนี

สุจินต์ (รับเชิญ)

ปวารา ยมจินดา

แม่ชนะชล (รับเชิญ)

หนึ่ง นึกคิด บุญทอง

พ่อโกสุม (รับเชิญ)

โซบี โชติรส แก้วพินิจ

ทับ (วัยสาว) (รับเชิญ)

กํากับการแสดง

นักเขียน

มุนีมนตรา

บทโทรทัศน์