แต่ปางก่อน 2548

แต่ปางก่อน

แต่ปางก่อน (2548/2005) หม่อมเจ้ารังสิธร หรือท่านชายใหญ่ พระโอรสองค์เดียวของเสด็จในกรมฯ ในรัชสมัย ร.6 ได้พบรักกับ เจ้านางม่านแก้ว ที่ได้เข้ามาฝากเนื้อฝากตัวที่วังของเสด็จพ่อ เพื่อศึกษาเล่าเรียน หม่อมพเยีย มารดาของท่านชายใหญ่คัดค้านเต็มที่ เนื่องด้วยริษยาที่ม่านแก้วเป็นคนโปรดของเสด็จฯ และมีความสามารถทางภาษาหลายด้าน และที่สำคัญได้หมายมาดให้ท่านชายใหญ่ได้สมรสกับ หม่อมเจ้าหญิงวิไลเรขา ซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติผู้น้อง แต่ท่านชายใหญ่ก็ยังยืนยันที่จะแต่งงานกับเจ้านางม่านแก้ว ในคืนวันส่งตัวเข้าหอ เจ้านางม่านแก้วถูกลอบวางยาพิษอย่างโหดเหี้ยมจนเสียชีวิต สร้างความเสียใจให้แก่ท่านชายใหญ่เป็นอย่างยิ่ง และด้วยความรักที่มีต่อเธอ ท่านชายใหญ่ไม่ยอมที่จะมีรักกับใครอีกแม้กระทั่งหม่อมเจ้าหญิงวิไลเรขาก็ตาม กาลเวลาผ่านไปเจ้านางม่านแก้วได้ไปเกิดใหม่ และได้กลับมาที่วังแห่งนี้อีกครั้งซึ่งในปัจจุบันเป็นโรงเรียนสตรีชื่อว่า "โรงเรียนกุลนารีวิทยา" และได้กลายเป็นสมบัติของ หม่อมราชวงศ์จิรายุส หลานชายคนเดียวของหม่อมเจ้าหญิงวิไลเรขาซึ่งมีสิทธิในสมบัติทั้งหมดหลังจากที่ท่านชายใหญ่สิ้นพระชนม์ ในชาติภพใหม่นี้เธอชื่อ ราชาวดี เธอได้เข้าทำหน้าที่เป็นครูสอนภาษา ราชาวดีรู้สึกผูกพันกับสถานที่นี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรือนฝรั่งด้านหลังและเพลงลาวม่านแก้ว ที่เป็นเพลงต้องห้ามของที่นี่เป็นอย่างยิ่งเนื่องจากเป็นเพลงที่ท่านชายใหญ่นั้นได้แต่งขึ้นเพื่อมอบให้แก่เจ้านางม่านแก้ว หญิงเดียวที่เขารัก ณ ที่แห่งนี้เธอได้พบกับท่านชายใหญ่ที่คอยวนเวียนรอคอยเธออยู่ตลอดเวลา แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าราชาวดีนั้นลืมเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในอดีตจนหมดสิ้น ราชาวดีสนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตอย่างมากและหาโอกาสมาฟังท่านชายใหญ่เล่าเรื่องราวให้ฟังอยู่เสมอ โดยที่เธอไม่ได้เกรงกลัวเขาเลยแม้แต่น้อย จนวันหนึ่งเธอได้พบรูปของเจ้านางม่านแก้วซึ่งมีใบหน้าละม้ายคล้ายเธอประหนึ่งเป็นพิมพ์เดียวกัน ทำให้เธอได้ทราบว่า เจ้านางม่านแก้วกับเธอจะต้องมีความเกี่ยวพันกันอย่างแน่นอน และเธอเองก็รู้สึกผูกพันกับท่านชายใหญ่โดยไม่รู้ตัว คุณชายจิรายุสหลงรักราชาวดี ถึงแม้ว่าเขาจะมี หม่อมราชวงศ์หญิงสวรรยา เป็นคู่หมั้นอยู่แล้ว จนเขาตัดสินใจที่จะถอนหมั้นกับคุณหญิงสวรรยา ซึ่งทำให้ท่านหญิงวิไลเรขา ซึ่งมีศักดิ์เป็นย่าและมีชีวิตอยู่อย่างเดียวดายอยู่ที่วังสาทรหลังจากเกิดเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนั้น ท่านหญิงวิไลเรขาได้พบราชาวดี ซึ่งทันทีที่ได้เห็นเธอก็ปักใจทันทีว่านี่คือ เจ้านางม่านแก้วที่กลับชาติมาเกิดเพื่อทำลายเธอ และเธอเองก็ไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ท่านหญิงจึงวางแผนให้อาจารย์ใหญ่พาราชาวดีมาถวายการรับใช้ ซึ่งการที่ราชาวดีมาอยู่ที่นี่เธอได้พบว่าท่านหญิงวิไลนั้นเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องพิษ วันหนึ่งเธอได้พบว่าท่านชายใหญ่มาหาเธอที่วังของหม่อมเจ้าหญิงวิไลเรขา เธอจึงสอบถามและได้ทราบว่าคนที่วางยาพิษม่านแก้วก็คือหม่อมเจ้าหญิงวิไลเรขานั่นเอง โดยร่วมมือกับหม่อมพเยียมารดาของท่านชายใหญ่ในการลงมือ และความพยาบาทจากครั้งนั้นก็ยังไม่สิ้นสุด เมื่อหม่อมเจ้าหญิงวิไลเรขาพยายามที่จะวางยาราชาวดีอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้คุณชายจิรายุสมาช่วยเหลือได้ทัน หลังจากที่หม่อมเจ้าหญิงวิไลเรขาสิ้นใจไปพร้อมกับความพยาบาท คุณชายจิรายุสก็ได้ขอราชาวดีแต่งงานอีกครั้ง แต่เป็นเพราะความรัก ความจริงใจและความผูกพันของท่านชายใหญ่ที่มีต่อเธอ เธอจึงปฏิเสธและตัดสินใจละทางโลกไปปฏิบัติธรรมเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับท่านชายใหญ่ สร้างความผิดหวังให้กับคุณชายจิรายุสเป็นอย่างยิ่ง จนเวลาผ่านไปอีกไม่นานเธอก็เสียชีวิต ในที่สุดดวงชะตาของคนสองคนที่ได้พลัดพรากจากกันมานานแสนนานก็ได้กลับมาพบกัน ท่านชายใหญ่ได้กลับมาเกิดเป็นลูกชายคนเดียวของคุณชายจิรายุสกับคุณหญิงสวรรยาชื่อว่า หม่อมหลวงจิราคม ส่วนราชาวดีได้กลับมาเกิดเป็นลูกสาวของคุณถวิลเพื่อนรักของราชาวดีชื่อว่า อันตรา และมีใบหน้าละม้ายกับราชาวดีเป็นอย่างยิ่ง ทั้งสองสนิทสนมกันอย่างรวดเร็วจนคุณชายจิรายุสแปลกใจ แต่เมื่อคุณถวิลได้นำจดหมายของราชาวดีที่เขียนถึงเธอก่อนตาย และได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดของเธอ ทำให้คุณชายจิรายุสเข้าใจและรู้ว่าที่ราชาวดีไม่รับรักเขาเป็นเพราะอะไร ทั้งจิราคมและอันตราผูกพันกันอย่างรวดเร็วเนื่องด้วยเพลงลาวม่านแก้วที่ทั้งคู่ชื่นชอบเป็นพิเศษจนทำให้ความสัมพันธ์พัฒนาอย่างรวดเร็วทั้ง 2 แต่งงานกันแต่ระหว่างนั้นดวงพระวิญญาณของท่านหญิงวิไลเลขา ผู้มีพระทัยอาฆาตไม่ยอมไปเกิด ก็ได้มาเล่นงานทั้งคู่ แต่แล้วคุณชายจิรายุสผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของท่านหญิงวิไลเลขาก็พูดจนท่านหญิงวิไลเลขาละความพยาบาทและไปเกิดได้ ในที่สุด การรอคอยและความรักของคนทั้งคู่ที่รอคอยการพบกันมานานแสนนานก็ได้กลับมาพบกันและสุขสมหวังอีกครั้ง

ชื่อไทย : แต่ปางก่อน

ชื่ออังกฤษ :
ละครช่อง : ช่อง 3
บทประพันธ์ : วินิตา ดิถียนต์
บทโทรทัศน์ : ยิ่งยศ ปัญญา, ไขนภา เจียรบุตร
กำกับการแสดง : ชนะ คราประยูร
แสดงนำ : ศรราม เทพพิทักษ์, แอน ทองประสม, ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ, เมย์ เฟื่องอารมย์
ออกอากาศ : 10 พฤษภาคม 2548 – 5 กรกฎาคม 2548
วันออกอากาศ : จันทร์ – อังคาร
เวลาออกอากาศ : 20.20 – 22.05 น.
จำนวนตอน :
ความยาวตอน :
เรทละคร :
เป็นคนแรกที่รีวิว “แต่ปางก่อน”

ยังไม่มีรีวิว

นักแสดงและทีมงาน

หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์

หม่อมเจ้ารังสิธร สาธร (ท่านชายใหญ่) / หม่อมหลวงจิราคม สาธร (คุณจี)

แอน ทองประสม

เจ้านางม่านแก้ว / ราชาวดี ปชาธร (ฟ้า) / อันตรา โพสพาณิชย์ / อันตรา สาธร ณ อยุธยา (แอน)

ชาย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ

หม่อมราชวงศ์จิรายุส สาธร (คุณชายยุส)

เมย์ เฟื่องอารมย์

หม่อมราชวงศ์หญิงสวรรยา สาธร

อ๋อม สกาวใจ พูนสวัสดิ์

หม่อมเจ้าหญิงวิไลเลขา สาธร (ท่านหญิงแต้)

แดง ธัญญา โสภณ

หม่อมพเยีย

พิศมัย วิไลศักดิ์

เจ้าจอมมารดาแส

ต่อตระกูล จันทิมา

หม่อมเจ้าวงศธร สาธร/ท่านชายตั้ว

รัชนก พูนผลิน (รัชนก แสง-ชูโต)

สุดถวิล วาดภรีย์ / ถวิล กุลมาธร

ใหม่ นัฏฐา ลอยด์

อาจารย์กาบทอง

สุพรรษา เนื่องภิรมย์

หม่อมพรรณราย สาธร ณ อยุธยา

อภิชาติ หาลำเจียก

หม่อมเจ้าสิทธิชัย (ท่านชายกั้ง)

เปี๊ยก สมมาตร ไพรหิรัญ

บุญเรือง ปชาธร (พ่อของราชาวดี)

วรวุฒิ พงษ์ธีระพล

เจ้าอินปัน (พ่อของเจ้านางม่านแก้ว)

กํากับการแสดง

นักเขียน

ยิ่งยศ ปัญญา

บทโทรทัศน์