หัวลำโพง ฮาเฮ สเตชัน

หัวลำโพง ฮาเฮ สเตชัน (2547/2004) หัวลำโพง คือ ชุมทางของคนทั้งประเทศที่ผ่านไปมาวันละหมื่นๆ หรือเป็นแสนในช่วงเทศกาลสำคัญ คนส่วนใหญ่ที่มาเหยียบกรุงเทพฯ แล้วมักจะหลงเสน่ห์ทั้งในทางดีและทางเลว ไม่อยากกลับบ้านนอก ทั้งๆ ที่ไม่มีที่จะอยู่ก็จะดันทุรังจรจัดอยู่ที่หัวลำโพงมายี่สิบปี โดยไม่มีใครไล่ไปได้ ดังเช่น ลุงฝืด ซึ่งเข้ากรุงเทพฯ มารุ่นเดียวกับ ลุงเก๋า ลุงเก๋าถีบตัวจากคนจรจัดมาเป็นเจ้าของธุรกิจ SME ซุ้มกาแฟโบราณกลายเป็นคนฐานะดี แต่ลุงฝืดยังคงดูฝืดเหมือนเดิม นิวาสสถานของแกคือเซฟแชร์ หรือใต้เก้าอี้นั่งพักในสถานีที่แกแอบผลิตขึ้นเอง มีที่หลบหลับนอนใต้เก้าอี้ สามารถย้ายไปมาได้ตามโอกาส บางครั้งแกไปเอาชุดที่พวกพนักงานรถไฟบริจาคให้มาใส่ทำเดินเก๋ มีคนยกมือไหว้เป็นทางคิดว่าเป็นพนักงานรุ่นใหญ่ แกเลยยิ่งวางมาดหนักขึ้น มั่วให้คำปรึกษาผิดๆ ถูกๆ กับผู้มาซักถามบ่อยๆ แต่ถึงกระนั้นแกก็เป็นคนดีมีน้ำใจ สิ่งที่ได้รับจากการทำงานของแกจึงมักเป็นคำขอบใจไม่ใช่เงิน แกคิดใหม่ทำใหม่ตามนโยบายรัฐบาล ไปคุ้ยขยะหาพวกขวดและกล่องกระดาษไปขายหาเงินเลี้ยงชีพ มีรายได้พอสมควร มีเงินเก็บไม่น้อย แต่แกก็ยังทำเป็นว่าชั้นยากจนน่าสงสารต่อไป เพื่อได้ของฟรีจากคนอื่น ยามว่างแกจะขดตัวอยู่ใต้เก้าอี้แอบฟังเรื่องราวของชาวบ้าน แล้วเอามาเปิดประเด็นผิดบ้างถูกบ้างที่สภากาแฟของลุงเก๋าทำให้เกิดความชุลมุนวุ่นวาย ลุงเก๋าผิดกับลุงฝืดตรงที่แกเป็นคนตรงไปตรงมาเรื่องงาน ถือคติว่างานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข คำขอบใจไม่รับ รับเงินสดเท่านั้น แกจึงเป็นเพื่อนซี้ปึ้กและซี้ซั้วของลุงฝืดแล้วแต่โอกาส เช่น ถ้ากาแฟเหลือหลังสถานีปิด แกให้กินฟรี แต่ก่อนเวลาสถานีเปิด ต่อให้เงินค่ากาแฟของลุงฝืดขาดไปสลึงเดียวก็อย่าหวังจะได้กินฟรี ส่วนเงินที่ใครกู้ยืมเงินแกต้องมีดอกเบี้ยขึ้นลงตามกระแสดอกเบี้ยธนาคาร ถ้าดอกไม่ส่งแกจะเอาดอกเบี้ยไปทบต้น เพราะแกเป็นคนตรงไปตรงมา แกมีหลานสาว (ความจริงเป็นเมียน้อย) มาช่วยเสิร์ฟและชงชาคนหนึ่งชื่อ แป๋วแหวว ลุงฝืดสนใจจะจีบแป๋วแหวว แต่ลุงเก๋าเล่นงาน พวกไส้อั่วแม่ค้าส้มตำและ รุ่งอรุณ พนักง่านซุ้มจัดหางานมาเจ๊าะแจ๊ะขอกาแฟฟรีกินจากลุงเก๋า ก็เจอแป๋วแหววด่าเพราะหึง แต่ทุกคนเข้าใจว่าลุงเก๋าหวงหลานสาวมาก และหลานสาวก็หวง ลุงเก๋ากับลุงฝืดมีศัตรูร่วมกันอยู่หลายราย รายแรกคือ ไอ้ร้อย แต่ยศจริงเป็นนายสิบ ตำรวจประจำสถานีรถไฟ ซึ่งคอยไล่ไม่ให้ลุงฝืดไปเร่ร่อนรบกวนผู้คนที่ผ่านไปมา คอยสำรวจควบคุมราคากาแฟของลุงเก๋าที่มักฉวยโอกาสขึ้นราคาตามกระแสฟีเวอร์ต่างๆ และต้องคอยปราบปราม ไอ้โจ๋ ที่พยายามตั้งตัวเป็นนักเลงโตเรียกค่าคุ้มครองของใครก็ตามที่เร่ร่อนและหากินอยู่ที่หัวลำโพง จัดหางานเถื่อน จัดทัวร์เถื่อน และร้อยยังต้องคอยช่วยเหลือและจับกุม เจ้าจอน เด็กจรจัดที่ขึ้นรถไฟมาตามพ่อเพราะคิดว่ากรุงเทพฯ เล็กเหมือนบ้านนอก แต่ 3 ปีผ่านไปก็ไม่เคยตามพ่อเจอ ร้อยสงสารแต่ก็ต้องทำตามระเบียบและกฎหมาย จึงพยายามจับไอ้จอนส่งสถานสงเคราะห์ แต่ไอ้จอนก็หนีกลับมา จับส่งขึ้นสถานีรถไฟกลับบ้าน มันก็กลับมาอีก จนร้อยต้องเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ปล่อยให้มันยึดอาชีพรับจ้างขัดรองเท้าเลี้ยงชีวิตต่อไป ไอ้จอนมักทะเลาะกับลุงฝืดเรื่องแย่งกันรื้อขยะ ซึ่งมันอ้างว่าเป็นอาชีพเสริมของมัน ลุงฝืดอ้างกับร้อยและทุกคนว่าแกกำลังรอน้องสาวที่บ้านนอกมารับ แต่ทุกคนส่ายหน้าไม่เชื่อ เพราะลุงเก๋าบอกว่าแกรอมา 20 ปีแล้ว ยังไม่เห็นมีใครมารับ แต่ท้ายสุดของเรื่องมีคนมารับแกจริง ร้อยต้องปวดหัวบ่อยๆ กับสองพี่น้อง เฮียกิ๊ก กับ เจ๊กั๊ก เจ้าของกิ๊กกั๊กโชวห่วย กิ๊กนั้นความจริงเป็นสาวสวย แต่ต้องอยู่ในหมู่เสือสิงห์กระทิงแรด จึงพยายามปิดบังความสวยด้วยการทำตัวเป็นทอม ใส่หมวกปิดหน้า ใส่แว่นปิดตา ชอบให้คนเรียกว่าเฮีย แต่แท้ที่จริงเป็นหญิงเต็มร้อย แต่เจ๊กั๊กชอบโชว์ความสวยงามของตัวเองให้คนอื่นเห็นจึงแต่งเต็มที่ สองพี่น้องขยันทำมาหากินเป็นที่สุด แต่ก็มีคุณธรรมมีน้ำใจกับผู้อื่น กิ๊กแอบชอบนายร้อย แต่กลัวร้อยจะรู้ว่าตัวเองชอบ วันดีคืนดีกิ๊กอยากสวยแต่งตัวเป็นหญิงออกไปช้อปปิ้ง แต่ถูกร้อยจับได้ขณะทำลับๆ ล่อๆ ร้อยเข้าใจว่าเป็นพวกจะมาวางระเบิดพลีชีพที่สถานีรถไป ร้อยตกใจกับความสวยของกิ๊ก แต่แกล้งทำเป็นเยาะเย้ยว่าไม่เห็นสวย ทำให้กิ๊กทั้งโกรธและอายมีปากเสียงกัน ตั้งแต่วันนั้นมาร้อยอยากเจอกิ๊กบ่อยๆ แต่แกล้งเข้าทางกั๊ก เลยทำให้เจ๊กั๊กคิดว่าร้อยมาชอบตัวเอง กิ๊กออกอาการหวงพี่สาวแต่ความจริงหึงร้อย กั๊กโกรธหาว่าพี่สาวจะได้ดีมาหวงไม่เข้าเรื่อง เรื่องราวทั้งหลายเกิดขึ้นที่นี่หัวลำโพง (ฮาเฮ) สเตชั่น ด้วยความสนุกสนาน จบเป็นตอนๆ แต่เนื้อหาต่อเนื่องกัน และแทรกคติธรรมของการอยู่ร่วมกันในสังคม โดยจะใช้ดารารับเชิญมาร่วมแสดงในแต่ละตอนทุกสัปดาห์

เป็นคนแรกที่รีวิว “หัวลำโพง ฮาเฮ สเตชัน”

ยังไม่มีรีวิว

นักแสดงและทีมงาน