ดอกอ้อสายขวัญ 2556

ดอกอ้อสายขวัญ

ดอกอ้อสายขวัญ (2556/2013) สายขวัญ ถูก คุณนายสายจิตต์ ผู้เป็นแม่ บังคับให้แต่งงานกับ จ้าวพงศ์นรินทร์ ที่สูงวัยกว่า และดูเคร่งขรึม น่าเบื่อหน่ายในความรู้สึกของสายขวัญ แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับที่จ้าวไม่ใช่ผู้ชายที่สายขวัญรัก... ทางเดียวที่จะทำให้สายขวัญรอดพ้นจากการต้องตกเป็นเมียจ้าวคือ “หนี !”

การเดินทางสู่อิสรภาพของสายขวัญเริ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้แม่รู้ตัว สายขวัญตัดสินใจหั่นผมตัวเองจนสั้นจู๋และจ้างให้ นายแกน คนรับใช้เก่าแก่ไปเอาเสื้อผ้าลูกชายมาให้ เพื่อสายขวัญจะได้ทำให้ตัวเองกลายเป็นเด็กผู้ชาย มิใช่นางสาวสายขวัญที่เป็นอยู่ตอนนี้ จากนั้น สายขวัญก็ตรงดิ่งไปที่ท่าเรือ แอบสืบจนรู้ว่ามีเรือลำหนึ่งจะมุ่งหน้าจากเมืองตากไปกรุงเทพฯ และในเรือนั้นก็มีเพียงเจ้าของเรือกับคนขับเรือที่เป็นคนสนิทเท่านั้น ... สายขวัญลอบลงเรือไปเพียงหมายจะหนีการแต่งงาน โดยไม่รู้เลยว่าเรือลำนี้มิเพียงเปลี่ยนทางเดินชีวิต หากแต่เจ้าของเรือ คือผู้ที่จะเปลี่ยนชะตาของเธอ...ตลอดกาล ก่อนที่สายขวัญจะลงเรือ สายขวัญแอบเห็นเจ้าของเรือกำลังร่ำลาคนรักอยู่ด้วยความอาลัยอาวรณ์ คมเพชร บอกกับ กองแก้ว ว่าเขามีความจำเป็นต้องจากเธอไป เพราะเขาค้นเจอจดหมายจากพ่อที่เขียนถึงแม่ที่เสียชีวิตไปแล้ว ทำให้เขาได้รู้ความจริงว่า พ่อไล่แม่ออกจากบ้านเพราะเข้าใจว่าแม่มีชู้ แม่จึงต้องหอบท้องพาเขาระหกระเหินมาอยู่ที่นี่ กว่าพ่อจะรู้ความจริงว่าชู้นั้นคือพี่ชายแท้ๆของแม่ ก็สายไปเสียแล้วเพราะไม่ว่าพ่อจะตามมาขอโทษอย่างไร แม่ก็ไม่ยอมคืนดีด้วยแถมยังโกหกว่าลูกตายจากไปแล้ว พ่อรู้ว่าแม่โกหกจึงทำพินัยกรรมไว้ให้คมเพชรทั้งหมด จากนั้นเขาก็ค้นเจอจดหมายอีกฉบับ เป็นจดหมายขู่จากผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นผู้มีสิทธิ์ในมรดกทั้งหมดของพ่อ ห้ามเขาไปเหยียบที่ ‘บ้านสัก’ ถ้าไม่อยากตาย คมเพชรพยายามสืบจนรู้ข้อมูลจากเพื่อนว่าครอบครัวที่อาศัยอยู่ในบ้านสักคือครอบครัวของอาชื่อ ส่อง มีภรรยาชื่อ คุณนายคอน อาศัยอยู่กับลูกคือ ส่งศักดิ์ กับ สิตา จากจดหมายพ่อ แม้จะไม่บ่งชัดว่าเรื่องจริงเป็นเช่นไร หากก็มีข้อความชวนให้เชื่อว่า พ่อไม่ได้ทำพินัยกรรมยกสมบัติให้กับครอบครัวของอาส่อง หากเป็นเช่นนั้น ก็เท่ากับว่าเขากำลังถูกโกง ซึ่งสำหรับคม เรื่องเงิน ไม่สำคัญเท่ากับศักดิ์ศรีที่เขาคงยอมถูกตราหน้าว่าโง่ไม่ได้เด็ดขาด คมตัดสินใจจะกลับไปตามล่าหาความจริง โดยไม่รู้ว่าในเรือมีสาวน้อยนางหนึ่งแอบซ่อนตัวมาด้วย จังหวะที่เครื่องเรือเกิดเสีย สายขวัญตกใจปรากฎตัวจากที่ซ่อน ทำให้ได้พบกับคม คมซักไซร้ สายขวัญไม่กล้าบอกความจริง เลยโกหกคมไปว่าชื่อ “ดอกอ้อ” ติดเรือมาเพราะอยากไปกรุงเทพฯ แต่ไม่มีเงิน คมไม่เชื่อพยายามจะผลักไสสายขวัญลงจากเรือ กระเป๋าเครื่องเพชรที่สายขวัญเอาติดตัวมาจากบ้านตกกระจาย คมเข้าใจว่าสายขวัญคือนางโจรปล้นเพชรและกำลังจะหนี เลยคิดจะจับสายขวัญส่งตำรวจ สายขวัญพยายามบอกความจริงว่าหนีการแต่งงานมา แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร คมก็ไม่เชื่อยืนยันจะส่งสายขวัญให้ตำรวจ ... ทั้งสองมีเรื่องทะเลาะ ต่อล้อต่อเถียงสารพัด .. ความผูกพันเล็กๆเกิดขึ้นระหว่างทาง สายขวัญพยายามเอาใจคมทุกอย่าง จนคมเริ่มรู้สึกสงสารไม่อยากเอาผิดกับสายขวัญ เมื่อเรือเทียบท่า คมที่ตั้งใจจะแวะหาเพื่อนสนิทเพื่อขอความช่วยเหลือ จึงจงใจปล่อยสายขวัญไว้ เพื่อเปิดโอกาสให้สายขวัญหนี ที่บ้าน งามสม เพื่อนของคมและสามี ร่วมวางแผนหาวิธีให้คมได้เข้าไปในบ้านสักเพื่อค้นหาความจริง งามสมรู้ว่าที่บ้านสักกำลังรับสมัครคนทำงานหญิงหนึ่ง ชายหนึ่ง โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นผัวเมียกันเพราะคุณนายคอนเกรงว่าหากรับผู้ชายเพียงคนเดียวตามที่ต้องการ คมอาจปลอมตัวเข้ามา งามสมจึงวางแผนว่าคมจะต้องปลอมตัวเข้าไปสมัครงานในบ้านหลังนั้น แต่ปัญหาคือเขาจะไปหาผู้หญิงที่ไหนมาสมมุติเป็นเมีย .. วินาทีนั้น คมก็นึกถึงสายขวัญขึ้นมาทันที...คมรีบกลับมาที่เรือ ทั้งที่ไม่มีหวังเพราะคิดว่าอย่างไร สายขวัญก็คงจะหนีไปแล้ว แต่ผิดคาดเพราะสายขวัญยังคงอยู่ที่เรืออย่างร่าเริง คมดีใจมาก ตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้สายขวัญฟัง และเสนอเงื่อนไขว่าจะขอให้สายขวัญไปเป็นเมียสมมุติของเขาแลกกับการที่เขาไม่แจ้งตำรวจจับสายขวัญ...สายขวัญตัดสินใจรับข้อเสนอของคม ... คมพาสายขวัญย้อนกลับไปที่บ้านเพื่อนเพื่อวางแผนกันอีกครั้ง โดยแผนครั้งนี้ ทั้งคู่จะต้องสร้างเรื่องและปลอมตัวให้ดูเหมือนคนใช้ พร้อมทั้งตั้งชื่อใหม่โดยคมใช้ชื่อ “ไว” เพราะนึกถึง “วิง” คนขับเรือคนสนิทของเขา ส่วนสายขวัญ ให้ชื่อ “อ้อ” แทนชื่ออดอกอ้อ แล้วปฏิบัติการตามล่าหาความจริงก็เริ่มขึ้น ไว ขอให้ อ้อ หาโอกาสหาที่ซ่อนพินัยกรรม เพราะอ้อรับหน้าที่เป็นคนใช้ในบ้าน จึงมีโอกาสมากกว่าไวซึ่งรับหน้าที่เป็นทั้งคนสวนและคนขับรถ ... แต่เกิดเรื่องวุ่นชุลมุลขึ้นเพราะแม้อ้อจะปลอมตัวจนเปิ่นเป๋อ แต่ก็ยังไม่วายถูกส่งศักดิ์แทะโลม ทั้งที่ส่งศักดิ์เองก็มีคู่หมั้นอยู่แล้วคือ อรชา เจ้าของวังกุหลาบ โชคดีที่มี ป้าเนียม กับ จวน คนใช้ในบ้านคอยขัดจังหวะ ส่วนคมก็มีโอกาสใกล้ชิดสิตาด้วยความเจ้าชู้ของสิตา เป็นเหตุให้ต่างฝ่ายต่างเกิดอาการ “หึง” และพ่อแง่แม่งอนกันตลอดเวลา จนวันหนึ่ง คมก็รู้สึกตัวว่ารักแม่ดอกอ้อดอกสวยเข้าแล้วอย่างเต็มหัวใจ สายขวัญเองก็ใช่จะไม่รู้ใจตัวเอง แต่ก็ต้องตัดใจเพราะรู้ว่าไวหรือคมเพชร มีคู่หมายอยู่แล้ว ส่วนไวเองก็รู้สึกผิดที่เคยบอกให้กองแก้วรอเขา สัญญาที่เคยบอกว่าจะกลับไปแต่งงานคอยบาดใจคมทุกครั้งที่ใกล้ชิดกับสายขวัญ การสืบหาความจริงยังดำเนินไปท่ามกลางความยากลำบาก อ้อกับไวได้รู้ความจริงมากมายจากปากจวนและยังรู้ว่าที่บ้านไม้ท้ายสวนของบ้านสัก มีชายชราบ้าบอคนเก่าแก่อาศัยอยู่ ชื่อ ลุงมัก คำว่า “คนเก่าแก่” สะกิดใจ อ้อหาโอกาสไปพบลุงมักในวันหนึ่ง ด้วยท่าทาง คำพูดบางคำของลุงมัก ทำให้อ้อรู้สึกว่าลุงมักนี่แหละคือกุญแจไขปริศนาที่ตนกับไวกำลังตามหา อ้อบอกความจริงกับไวและพาไวไปพบลุงมัก ทั้งสองเกือบจะล้วงความจริงได้ แต่ก็มีเหตุให้ต้องล่าถอยกลับไป เพราะอาการคุ้มดีคุ้มร้ายของลุงมัก ... หากวันหนึ่ง โอกาสดีก็มาถึง อ้อพยายามล่อหลอกลุงมักทุกวิถีทางจนลุงมักเกือบจะหลุดปากเรื่องพินัยกรรมออกมา แต่โชคร้ายที่ ชัดชรินทร์ แฟนหนุ่มของสิตาที่เคยเจอกับอ้อในงานเลี้ยง มาหาสิตาและได้พบกับอ้อ ความเกือบแตกโชคดีที่ไวแอบกันอ้อออกไปได้ทัน ชัดคอยหาโอกาสดักเจออ้อเพื่อถามความจริง อ้อจนใจจะปิดบัง จึงขอร้องชัดที่ขณะนั้นกำลังตกงาน ด้วยการยกสร้อยเพชรให้ชัดหนึ่งเส้นแลกกับความลับ คมแอบเห็น เข้าใจผิดคิดว่าชัดเป็นกิ๊กของอ้อ เกิดเหตุทะเลาะกันอีก แทนที่ชัดจะหยุดเพียงเท่านั้น เขากับเลือกจะไปพบคุณนายสายจิตต์ เพื่อบอกข่าวลูกสาวที่หายไป เพื่อแลกกับตำแหน่งงานในบริษัทของคุณนาย ซึ่งคุณนายสายจิตต์ก็ตกปากรับคำอย่างไม่มีเงื่อนไขเพราะความเป็นห่วงและคิดถึงลูกสาวคนเดียวใจจะขาด...ส่วนชัด คิดว่าการที่เขามีการงานทำมั่นคงจะทำให้เขาได้รับการยอมรับจากคุณนายคอนและจะได้แต่งงานออกหน้าออกตากับสิตาอย่างเปิดเผยเสียที ชัดรู้สึกว่าความลับที่เขากำไว้น่าจะทำประโยชน์ให้เขาได้ เขาจึงขอสิตาเข้ามาอยู่ในบ้านโดยให้สิตาบอกกับแม่ว่าเขาเป็นเพื่อนจากต่างจังหวัดที่จะมาขอพักอยู่ด้วยเพียงชั่วคราว เพื่อเขาจะได้หาโอกาสจับตาสายขวัญ สิตาถึงจะอึดอัดก็ต้องจำยอมเพราะกลัวความจริงที่เธอจดทะเบียนสมรสกับชัดแล้วจะรู้ถึงหูแม่ ขณะนั้นกองแก้วที่คิดถึงคมมาก คิดจะมาหาคม จึงติดต่อกับ พีร์ ลูกชาย เศรษฐีพันธ์ ที่แอบรักกองแก้วมาตั้งแต่เด็ก ว่าจะขอมาพักที่บ้านพีร์ ในวันที่พีร์มารับกองแก้วที่สถานีรถไฟ ทั้งสองได้พบกับชัดและสิตาโดยบังเอิญ ชัดรู้จักกับกองแก้วมาก่อน จึงเข้าไปทักทายและแนะนำกันว่าพีร์เป็นพี่ชายของ พินทุ ชัดชวนกองแก้วกับพีร์ไปทานข้าวที่บ้านสิตา และในวันนั้น ก็เป็นวันที่ลุงมักนัดให้อ้อไปพบ เพราะอ้อพิสูจน์ตัวเองจนลุงมักแน่ใจว่าอ้อเป็นคนดีที่ไว้ใจได้เพราะนอกจากน้ำใจที่อ้อคอยหยิบยื่น อ้อยังเคยช่วยลุงมักจาก นายพุด คนขับรถคุณนายคอนที่จ้องจะทำร้ายลุงมัก และเคยจับลุงมักไปทรมานหวังจะให้ลุงมักตาย ถึงวันนัดทานข้าว กองแก้วกับคมได้พบกัน ทั้งสองต่างตกใจแต่ไม่กล้าแสดงออก คมแอบกระซิบนัดกองแก้วออกไปพบตอนเย็น กองแก้วที่รู้เพียงว่าคมจะปลอมตัวเป็นคนใช้ เห็นคมที่สถานภาพปัจจุบันกลายเป็นคนมีภรรยาแล้วคืออ้อ จิตใจเลยว้าวุ่นอยู่ไม่เป็นสุขจนพีร์สังเกตเห็น อาการอิหลักอิเหลื่อชวนอึดอัดเป็นไปตลอดระยะเวลารับประทานอาหาร อ้อเองก็เสียใจ คมที่กลัวว่าอ้อจะเข้าใจผิดตัดสินใจสารภาพรักกับอ้อ อ้อรู้สึกสับสนจึงเลี่ยงออกจากงาน ไปพบกับลุงมักตามนัดหมาย ลุงมักสารภาพกับอ้อว่าไม่ได้บ้า แต่ต้องแกล้งบ้าเพื่อปกป้องสมบัติไว้ให้ทายาทแท้จริง และเมื่อรู้ว่านายไว คือคมเพชร ลุงมักดีใจมากยอมบอกที่ซ่อนพินัยกรรมว่าอยู่ในโพรงไม้ใกล้บ่อน้ำพุบนเขามอ อ้อรีบไปเอาพินัยกรรมมาจากที่ซ่อนทันที ขณะอ้อจะเอาพินัยกรรมมาให้คมด้วยหัวใจที่เบ่งบานสุดขีด หัวใจของอ้อก็ต้องหุบฟีบลงทันทีเมื่อต้องมาเห็นภาพที่คมตระกองกอดกับกองแก้ว...โดยไม่รู้ความจริงว่ากองแก้วตามมาซักไซร้คมเรื่องอ้อ และคมก็ได้สารภาพกับกองแก้วว่าเขารักผู้หญิงทั้งสองคนนี้...หากเป็นคนละแบบ กองแก้วนั้น เขารักอย่างบูชาแต่กับดอกอ้อ .. มันคือรักแท้ที่ผูกพันอย่างยากจะตัดใจ กองแก้วเสียใจจนเป็นลมล้มพับ คมจึงต้องเข้าประคอง...มิได้เข้าไปกอดกองแก้วด้วยความรักเสน่หา...แต่กระนั้น อ้อก็เข้าใจผิดไปแล้ว เมื่อกองแก้วรู้สึกตัว ก็ตัดสินใจเดินจากคมไปด้วยความเสียใจ ... พีร์ที่ตามหากองแก้ว โกรธคมมากที่ทำให้กองแก้วเสียใจ หากเป็นกองแก้วเองที่เข้าใจว่าความรักเป็นเรื่องที่บังคับจิตใจกันไม่ได้ พีร์ยิ่งรู้สึกรักกองแก้วมากเป็นเท่าทวี เขาจึงอาสาเป็นผู้เยียวยาหัวใจให้กองแก้ว พีร์คอยดูแลกองแก้วตลอด เอาอกเอาใจจนไม่มีเวลาอยู่เป็นเพื่อนน้อง พินทุเหมือนถูกทิ้ง จึงฆ่าเวลาด้วยการลุกขึ้นแต่งตัวเป็นทอมบอย ออกจากบ้านพร้อมจักรยานคู่ใจ เกิดอุบัติเหตุฝูงควายเดินตัดหน้า จักรยานพินทุลอยละลิ่วไปพร้อมคนขี่ โชคดีที่จ้าวพงศ์นรินทร์บังเอิญผ่านมา เข้าไปช่วยและพาพินทุไปหาหมอ จ้าวพงศ์นรินทร์เข้าใจว่าพินทุเป็นเด็กผู้ชาย ซึ่งพินทุเองก็ไม่ได้ใส่ใจจะบอกความจริงเพราะไม่คิดว่าชีวิตจะต้องผูกพันกับชายแปลกหน้าผู้นี้ ... จ้าวพงศ์นรินทร์บอกพินทุว่าชื่อพงศ์ ขณะที่พินทุเองก็บอกว่าตัวเองชื่อ พิน .. พินทุรู้จักจ้าวเพียงคำที่จ้าวบอกคือ เขามาจากเมืองเหนือ และมาธุระที่กรุงเทพฯเพียงสองสามวันก็จะกลับ พินทุเลยไม่รู้ว่าที่จริงแล้ว “ธุระ” ที่นายพงศ์บอกคือการตามหาคู่หมั้นคือสายขวัญนั่นเอง พินทุใช้ให้คนขี่สามล้อที่รู้จักกันไปส่งจ้าวพงศ์นรินทร์ ไม่วายย้ำจ้อยว่าห้ามบอกความจริงเด็ดขาดว่าพินทุเป็นลูกเต้าเหล้าใครและที่สำคัญคือเป็นผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชายอย่างที่จ้าวเข้าใจ ส่วนจ้าวฯเองก็ไม่รู้สักนิดว่าโรงแรมที่เขากับคุณนายสายจิตต์มาพักอยู่คือโรงแรมของเศรษฐีพันธ์ พ่อของพินทุนั่นเอง หลังจากนั้น พินทุก็พยายามสืบหาประวัติของนายพงศ์ จนรู้ว่าที่แท้ ผู้ชายมาดนิ่งใจดีคนนี้ คือจ้าวพงศ์นรินทร์ เป็นจ้าวที่จนเพราะล้มเหลวจากธุรกิจเหมืองแร่ พินทุรู้สึกสงสาร ยิ่งเมื่อได้ใกล้ชิด ก็ยิ่งรู้สึกผูกพันกับผู้ดีตกยากผู้นี้อย่างยากจะถอนใจ จึงคิดหาทางจะช่วยจ้าวพงศ์นรินทร์ให้มีฐานะเป็นปึกแผ่นเหมือนเดิม ฝ่ายดอกอ้อที่หัวใจช้ำ ตัดสินใจว่าคงจะทนอยู่ในสภาพนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงตัดสินใจเขียนจดหมายลาพร้อมวางพินัยกรรมไว้ให้คมในห้อง แต่โชคร้ายขณะกำลังจะย่องออกจากบ้าน ยายเนียมมาเห็นเข้า ร้องเอะอะโวยวายว่าอ้อเป็นหัวขโมย อ้อถูกจับไปสอบสวนทันที ขณะที่ส่งศักดิ์จะเรียกตำรวจมาจับก็เป็นเวลาที่ชัดชรินทร์ พาคุณนายสายจิตต์กับจ้าวพงศ์นรินทร์มาที่บ้าน ความจริงเปิดเผย ส่งศักดิ์กับคุณนายคอนตกใจแทบเป็นลม ส่วนคมเองก็ต้องมารับรู้ว่าที่แท้ นางโจรดอกอ้อ คือ ลูกสาวเศรษฐีนี ! และความจริงต่อไปที่ทำให้ครอบครัวส่งศักดิ์แทบเหมือนถูกระเบิดลง คือความจริงที่ว่า แท้จริงแล้ว นายไว คือ คมเพชร ทายาทคนเดียวของบ้านสัก ซึ่งเป็นผู้ได้รับมรดกทั้งหมดของตระกูล สายขวัญที่รู้สึกว่าภารกิจของตนเสร็จสิ้นแล้วตัดสินใจบอกลาคมกลับไปกับแม่ ส่วนคมก็เสียใจเพราะเข้าใจว่าสายขวัญเพียงเห็นความผูกพันที่ผ่านมาเป็นแค่เรื่องตลก ไม่ได้มีความหมายใดๆ ...จึงตัดใจปล่อยสายขวัญไป ... ตรงข้ามกับคู่ของกองแก้วกับพีร์ที่นับวันยิ่งจะเข้าใจกันมากขึ้น จนสุดท้ายก็จบลงที่การแต่งงาน คุณนายสายจิตต์กับลูกได้เปิดใจคุยกัน คุณนายสายจิตต์สัญญาว่าจะไม่บังคับจิตใจลูกอีก จากนั้นสายขวัญก็เปิดฉากเจรจากับจ้าวพงศ์นรินทร์ตรงๆว่าตนคงไม่อาจเป็นเจ้าสาวของจ้าวได้ ซึ่งจ้าวพงศ์นรินทร์ก็รับฟังอย่างยินดี เพราะใจของเขาตอนนี้ มีแต่เด็กผู้ชายหน้าสวยเดินป้วนเปี้ยนอยู่ตลอดเวลา ชีวิตของสายขวัญนับจากนั้นมีแต่ความหม่นเศร้า มีเพียง ยายแฝด แม่นมของสายขวัญที่คอยปลอบโยนและสังเกตเห็นว่าอาการของสายขวัญ คืออาการของคนอกหัก ซึ่งสายขวัญก็ยอมรับ เพียงแต่ไม่ปริปากว่าคนที่หักอกเธอนั้นเป็นใคร ? ส่งศักดิ์ที่แต่แรกก็ไม่ยอมรับคม แต่สุดท้ายก็ต้องยอมจำนน ส่วนหนึ่งเพราะส่งศักดิ์เสียใจที่อรชาบอกเลิกไปแต่งงานกับชายที่ตนรักทำให้ส่งศักดิ์ไม่มีกะจิตกะใจจะต่อสู้กับอะไรอีก ชัดกับสิตาก็ลงเอยกันอย่างมีความสุขเพราะคุณนายสายจิตต์เมตตาให้งานสิตาทำด้วย คมเห็นว่าเรื่องต่างๆลงเอยด้วยดีจึงไม่อยากรื้อฟื้นอีก ให้อภัยและยอมให้ทุกคนอยู่ในบ้านสักต่อไป ส่วนพินทุ ยิ่งนานวันก็ยิ่งรู้ตัวว่ารักจ้าวพงศ์นรินทร์ คิดจะแอบลงทุนให้จ้าวฯได้สานฝัน จึงขอร้องคุณนายสายจิตต์ให้รับสมอ้างเป็นนายทุน จ้าวพงศ์นรินทร์ที่ไม่รู้ว่าพินทุเป็นต้นคิดเรื่องนี้ ดีใจมากและเลือกจะไปบอกข่าวดีกับพินทุเป็นคนแรก เขาเอ่ยปากชวนพินทุไปอยู่ด้วยกันที่ตากเพราะไม่ชอบสังคมเมืองกรุง แต่อินทุปฏิเสธบอกว่าเธอเองก็มีภาระการงานต้องทำ แต่ลองโยนหินถามทางว่าจ้าวคงจะลืมเด็กผู้ชายคนนี้ถ้าพบผู้หญิงถูกใจ จ้าวรับปากว่าถ้าหาเงินคืนเจ้าของเงินยังไม่ได้ ก็จะไม่มองผู้หญิงเป็นอันขาด.. ทั้งคู่ต่างให้คำมั่นสัญญาว่าจะคิดถึงกัน และทำเงินแข่งกัน นับวันคุณนายสายจิตต์ยิ่งมองเห็นความทุกข์เศร้าของสายขวัญ และหลังจากได้ตรวจสอบหัวใจของลูกสาวแล้ว จึงคิดว่าคงปล่อยไว้เช่นนี้ต่อไปไม่ได้ พอดีกับที่คมเองก็คิดถึงสายขวัญจนทนไม่ไหว ตัดสินใจไปหาสายขวัญที่บ้าน ได้พบกับสายจิตต์ สายจิตต์ไม่อ้อมค้อม ถามคมตรงๆว่ารักลูกสาวของเธอมั้ย คมก็ตอบตรงอย่างไม่โกหกใจตัวเอง จากนั้นคมก็กลับไป ส่วนสายขวัญ หลังจากรู้ความจริงเรื่องที่กองแก้วจะแต่งงานกับพีร์ และข่าวดีที่จ้าวพงศ์นรินทร์กับพินทุก็จะลงเอยเช่นกันเพราะหลังจากที่จ้าวพงศ์นรินทร์รู้ความจริงเรื่องที่พินทุเป็นผู้หญิง แทนที่เขาจะโกรธว่าพินทุหลอก เขากลับดีใจมากและยิ่งรักพินทุมากขึ้นอีก สายขวัญตัดสินใจไปที่บ้านต้นสัก และได้พบกับคมเพชรอีกครั้ง ซึ่งการพบกันครั้งนี้ ต่างเดินเข้าหา พูดจากันด้วยภาษารัก... คมเพชรให้สัญญา ไม่ว่าจะเป็นดอกอ้อ หรือสายขวัญ เขาจะรักเธอชั่วนิรันดร์ และจะไม่มีวันทำให้เธอต้องเสียน้ำตาอีกเลย

ชื่อไทย : ดอกอ้อสายขวัญ
ชื่ออังกฤษ :
ละครช่อง : ช่อง 3
บทประพันธ์ : ชอุ่ม ปัญจพรรค์
บทโทรทัศน์ : พรหมลิขิต
กำกับการแสดง : ชูศักดิ์ สุธีรธรรม
แสดงนำ : เกียรติกมล ล่าทา, หยาดทิพย์ ราชปาล
ออกอากาศ : 23 กันยายน 2556 – 23 ตุลาคม 2556
วันออกอากาศ : จันทร์ – ศุกร์
เวลาออกอากาศ : 18.30 – 19.45 น.
จำนวนตอน :
ความยาวตอน :
เรทละคร :
เป็นคนแรกที่รีวิว “ดอกอ้อสายขวัญ”

ยังไม่มีรีวิว

นักแสดงและทีมงาน

บอย ภาสกร บุญวรเมธี

เจ้าพงษ์นรินทร์

กํากับการแสดง

นักเขียน

พรหมลิขิต

บทโทรทัศน์