ดอกซ่อนชู้

ดอกซ่อนชู้ (2558/2015) ดอกซ่อนชู้ (The Last Memory) เป็นโศกนาฏกรรมความรักที่เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงหลังการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองได้ 3 ปี มาจนถึงปี พ.ศ. 2487 ซึ่งเป็นยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือสงครามมหาเอเชียบูรพา ส่องสะท้อนให้เห็นถึงสภาพสังคมและวัฒนธรรมไทยในยุคที่บ้านเมืองไทยกำลังก้าวเข้าสู่ความศิวิไลตามแบบตะวันตก หากแต่คำนิยมเก่า ๆ ยังมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตคนไทยอยู่มาก สิทธิของชายและหญิงยังแตกต่างกันอย่างชัดเจน ผู้ชายสามารถมีภรรยาจำนวนมากได้โดยชอบธรรม ซ้ำยังได้รับการเชิดชูบูชาจากคนในสังคม ในขณะนี้ผู้หญิงนั้นยังถูกลิดรอนสิทธิ หากผู้หญิงคนใดมีชู้จะถูกลงโทษอย่างหนัก และตกเป็นจำเลยของสังคมไปโดยปริยาย ดอกซ่อนชู้ เป็นเรื่องราวที่สะท้อนจิตใจของมนุษย์ทั้งด้านสว่างและด้านมืด ความต้องการของมนุษย์นั้นไม่เคยมีที่สิ้นสุด ทุกคนพยายามไขว่คว้าให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนปรารถนาเพื่อสนองบำเรอความอยากที่ถมไม่เต็มของตน กิเลส ตัณหา ราคะ ที่บังตาจนมืดมนก่อให๎เกิดความอิจฉาริษยา ความขัดแย่ง การแก่งแย่งชิงดีที่รุนแรงไม่ต่างจากไฟสงครามในใจ ปี พุทธศักราช 2478 ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองได้ 3 ปี ที่หมู่บ้านเล็ก ๆ ในอำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ดอกแก้ว หญิงสาวชาวบ้านวัย 20 ปี ซึ่งมีอาชีพเป็นแม่ค้าขายน้ำตาลสด หลังจากพายเรือขายน้ำตาลสดในคลองดำเนินสะดวกแล้ว ทุกบ่ายเธอมักจะลักลอบไปหา นิรันดร ชายหนุ่มรูปงามที่สมัครรักใคร่คบหากันมาหลายปี แต่วันหนึ่ง นางแล่ม ขี้เหล้าผีพนันตัวกลั่น มารดาของดอกแก้ว ได้พรากเธอจากอ้อมอกของคนรักซึ่งเป็นเพียงเด็กวัดฐานะยากจน มาขายเป็นเมีย หลวงปกรณ์ราชกิจ ข้าราชการเศรษฐีผู้ร่ำรวยในบางกอก ดอกแก้วจำใจทนทุกข์มาอยู่ที่ บ้านนพรัตน์ ริมคลองบางกอกน้อย จังหวัดธนบุรี ในฐานะเมียแต่งคนที่ 3 ของคุณหลวง เพื่อแลกกับเงินสินสอดจำนวนมากให้ผู้เป็นแม่นำไปถลุงเล่นพนันในโรงบ่อน เมื่อเข้ามาอยู่ที่บ้านนพรัตน์ เธอได้นำดอกซ่อนชู้ที่เบ่งบานอยู่ริมคลองดำเนินสะดวก มาปลูกในเขตเรือนด้วย คุณหลวงมีภรรยาอยู่แล้ว 2 คน คือ คุณสร้อยทอง และ คุณลำเจียก เธอทั้งสองเป็นผู้ดีมีตระกูลสูงส่ง ทั้งสองให้ความเมตตาแก่ดอกแก้วซึ่งเป็นสาวชาวชนบทมาก คุณลำเจียกเป็นผู้หญิงอ่อนโยนเปราะบาง เธอเอ็นดูและสนิทสนมกับดอกแก้วมาก ได้อบรมสั่งสอนกิริยามารยาทและงานบ้านงานฝีมือให้ดอกแก้วทุกอย่าง คุณหลวงมีลูกชายคนหนึ่งชื่อ คุณเทพไท อายุ 17 ปี ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นลูกชายของคุณเทพทองพี่ชายผู้ล่วงลับของคุณสร้อยทอง คุณหลวงและคุณสร้อยทองได้ให้การอุปการะเด็กชายคนนี้มาจนโต เขาสอบเข้าเป็นนักเรียนแพทย์ที่โรงเรียนราชแพทยาลัยศิริราชพยาบาลได้ คุณหลวงพาดอกแก้วออกงานสังคม จนเธอกลายเป็นสาวสังคมที่โดดเด่นและเก่งกาจในการเต้นรำ ดอกแก้วเริ่มสนิทสนมกับคุณเทพไท เมื่อคุณหลวงให้เธอช่วยพาเขาไปเรียนรู้การออกงานสังคม ในเวลาต่อมาคุณหลวงได้แต่งภรรยาเพิ่มอีกหนึ่งคน ชื่อ สารภี เธอเป็นอดีตคนรักของคุณเทพไท สารภีต้องแต่งงานกับคุณหลวงเพื่อหนุนฐานะทางการเงินของบ้าน ในขณะที่หัวใจของเธอฝังแน่นอยู่กับคุณเทพไทด้วยความรักล้นใจ สารภีมีนิสัยเห็นแก่ตัวและไม่ค่อยถูกชะตากับคนอื่น ๆ ในบ้าน รวมทั้งคุณลำเจียกซึ่งไม่เคยเกลียดชังใครเลย คุณลำเจียกได้ให้ดอกแก้วสอนเธอใช้คำหยาบคายเพื่อกำราบสารภี คุณหลวงให้สารภีเรียนรู้การขับรถกับนายเชต คนขับรถหนุ่มรูปหล่อ ในเวลาต่อมา สารภีตั้งท้องมีทายาทให้คุณหลวงเป็นลูกชายชื่อ สารพัฒน์ ส่วนดอกแก้วมีทายาทให้คุณหลวงเป็นลูกสาวชื่อ กิ่งฟ้า แต่ผู้เป็นสามีกลับไม่ค่อยใส่ใจใยดีเธอกับลูกสาวนัก ด้วยค่านิยมที่ว่า ลูกชายดีกว่าลูกสาว เพราะสามารถสืบสกุลได้ เธอจึงก้มหน้าก้มตาทำงานรับใช้สามีไปอย่างปล่อยปลง เวลาต่อมาคุณลำเจียกตั้งครรภ์ โดยมีพระทำนายว่าลูกชายในท้องของเธอจะเป็นเจ้าใหญ่นายโตสืบไปภายหน้า ทำให้คุณหลวงกลับมาเห่อคุณลำเจียกอีกครั้ง ประคบประหงมเอาอกเอาใจเธอไม่ห่าง สร้างความไม่พอใจให้แก่สารภี หล่อนจึงรวมหัวกันกับนางอึ่ง บ่าวของคุณลำเจียกใส่ร้ายว่าเธอท้องกับเจ็กลากรถ อยู่มาวันหนึ่ง นางอึ่ง ถูกคุณลำเจียกใช้ให้ไปปีนเอามะม่วงมากินแก้แพ้ท้อง ขณะฝนตกหนัก นางอึ่งถูกฟ้าผ่าตายที่สวนหลังบ้าน คุณลำเจียก ถูกคุณหลวงทุบตีทำร้ายปางตายจนแท้งลูก หลังจากนั้นเธอมีสภาพจิตที่ผิดปรกติกลายเป็นคนสติวิปลาส ดอกแก้วต้องรับภาระหน้าที่งานบ้านทุกอย่างแทน เธอปรารถนาจะให้คุณเทพไทแต่งงานมีเหย้ามีเรือนจึงแนะนำให้รู้จักกับหม่อมหลวงรัศมีดารา แห่งวังลดารมย์ ซึ่งเป็นผู้ดีมีชาติตระกูลการศึกษาสูงทายาทของหม่อมดุจเดือนและหม่อมราชวงศ์รังสรรค์สโมสร สหายสนิทของคุณเทพทอง (พี่ชายของคุณสร้อยทอง) จนกระทั่งทั้งคู่ได้หมั้นหมายกัน สร้างความแค้นเคืองใจให้สารภี ดึกสงัดคืนวันหมั้นสารภีทุบตีทำร้ายดอกแก้วสาหัส ดอกแก้วได้รับการกระทบกระเทือนที่สมองจนลืมเลือนเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่บ้านนพรัตน์ไปทั้งหมด ลืมสามี ลืมลูก ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง แต่กลับจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่บ้านแพ้วได้ชัดเจน เธอเข้าใจผิดคิดว่าคุณเทพไทนั้นคือนิรันดรชายอันเป็นที่รักของเธอ เธอรบเร้าให้เขาพากลับบ้านแพ้ว เมื่อชายหนุ่มมาคอยดูแลเธอที่กำลังเจ็บป่วยด้วยภาวะความจำเสื่อม เธอได้กอดจูบพลอดพร่ำแสดงความรักต่อเขาซึ่งเป็นลูกชายของสามีฉันชู้สาวอย่างที่เคยทำกับนิรันดร ในวันแต่งงาน (ที่ดอกแก้วตั้งใจให้จัดขึ้นเมื่อครั้งเธอยังสติดีอยู่) ดอกแก้วอาละวาดกลางพิธีจนพังพินาศ ทำร้ายร่างกายหม่อมรัศมีดารา คุณหลวงเจ็บแค้นเสียหน้ามาก จึงสั่งล่ามโซ่และขังเธอไว้ เหตุการณ์เกิดขึ้นในห้วงปี 2487 ซึ่งประจวบกับภาวะสงครามโลกครั้งที่สอง ความวุ่นวายปั่นป่วนในบ้านนพรัตน์ทำให้สมาชิกไร้สิ้นซึ่งความสงบสุข คุณหลวงทรมานดอกแก้วอย่างสาหัสเพราะแค้นคลั่งเมื่อได้ยินสารภีใส่ร้ายว่าดอกแก้วมีชู้ ในขณะที่ตัวคุณหลวงเองกลับคว้าเอาพุดจีบสาวใช้วัยเด็กมาทำเมียอย่างหน้าตาเฉย ผู้เป็นประมุขของบ้านใช้อารมณ์และความยิ่งใหญ่ของความเป็นผู้ชายตัดสินทุกอย่างโดยไร้เหตุผล ภรรยาของเขาล้วนมีชื่อพ้องดอกไม้ทั้งหมดทุกคน เป็นดอกไม้ต่างชนิด และต่างจิต ต่างใจ กว่าคุณหลวงจะรู้ความจริงว่าใครดีใครร้าย ใครถูกใครผิดนั้นก็สายเกินแก้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ระเบิดครั้งใหญ่ที่บางกอกน้อย เมื่อคืนวันเพ็ญเดือน 12 ปี พ.ศ. 2487 ชีวิตของคนบริสุทธิ์ต้องจบลงพร้อมกับคำครหาใส่ร้าย ทำมกลางกลิ่นหอมของดอกซ่อนชู้สีขาวบริสุทธิ์ที่เบ่งบานอยู่กลางเพลิงสงครามอันร้อนระอุ ความรักอันบริสุทธิ์ของดอกแก้วได้ผลิบานและร่วงโรยลงในชั่วพริบตา ติดตามชม ละครดอกซ่อนชู้

เป็นคนแรกที่รีวิว “ดอกซ่อนชู้”

ยังไม่มีรีวิว

นักแสดงและทีมงาน

เบิร์ด วันชนะ สวัสดี

หลวงปกรณ์ราชกิจ

ฟาง ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์

หม่อมหลวงรัศมีดารา

อ่อง กษาปณ์ จำปาดิบ

เพิ่มพูน (พ่อสารภี)

เงาะ กชกร นิมากรณ์

หม่อมดุจเดือน

ลีวายส์ อินฑัช เตชะเกิดกมล

กะปี้ (ลูกชายพุดจีบ)

กํากับการแสดง