คู่ซ่าคดีป่วน

คู่ซ่าคดีป่วน (2562/2019) ชาลี เรียนจบทางด้านกฎหมายมา 2-3 ปีแล้ว แต่เขายังไม่เคยได้ทำงานว่าความจริง ๆ เลย ไม่ใช่เพราะไม่เก่ง เพราะชาลีเรียบจบด้วยคะแนนระดับเกียรตินิยม ไม่ใช่เพราะขี้เกียจ เพราะขณะที่เรียนเขาทำกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย แต่เป็นเพราะเมื่อเรียนจบ ชาลีเลือกที่จะไปทำงานเป็นอาสาสมัครอยู่ที่นามีเบีย ประเทศเล็ก ๆ ในทวีปแอฟริกา ชาลีมีความตั้งใจเป็นอย่างสูงที่จะทำงานรับใช้สังคม แม้ว่าสังคมที่เขาคิดจะไม่ได้ไกลถึงอีกซีกโลก แต่เมื่อโอกาสอำนวย เขาก็อาสาสมัครโดยไม่ได้คิดอะไรมาก สามปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ชาลีกลับมาเหยียบแผ่นดินไทยอีกครั้ง ยังไม่ทันข้ามวันดี เสรี เพื่อนร่วมรุ่นพี่ที่กอดคอร่วมงานค่ายอาสากันมาเมื่อสมัยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ก็ชวนให้เสรีมาร่วมทำงานที่สำนักงานทนายความของเขา “สำนักงานทนายความเสรีและเพื่อน” พร้อมทั้งให้ชาลีถือหุ้นของบริษัทด้วย ชาลีตอบรับทันที เป็นโอกาสของเขาที่จะทำงานรับใช้คนไทยบ้าง หลังจากตกระกำลำบากที่นามีเบียมานาน ชาลีคิดว่าเขาและเสรีจะต้องสานต่ออุดมการณ์ที่เคยคุยกันสมัยระหว่างร่ามงานค่ายอาสาว่าจะอุทิศความสามารถเพื่อช่วยเหลือประชาชน เมื่อชาลีเข้าไปทำงานวันแรก ดูเหมือนหลาย ๆ อย่างจะไม่เป็นอย่างที่คิด เสรี รุ่นพี่ที่เขาเคารพได้เปลี่ยนทัศนคติไปแล้ว จากเด็กค่ายอาสาช่วยเหลือชาวบ้าน กลายเป็นเสรีที่เงินไม่มางานไม่เดิน รับงานง่าย ๆ สบายจังฮู้ ยิ่งมาทำงานวันแรก พี่เสรีก็ปฏิเสธคดีถูกรถชนแล้วหนี เพียงเพราะเจ้าทุกข์มีเงินน้อยเท่านั้น งานนี้ก็ของขึ้นน่ะสิ ชาลีตกลงรับงานนี้โดยไม่คิดว่าทำคดี และยืนยันกับเสรีว่า ถ้าไม่ยอมเขาก็จะลาออกกลับไปทำงานที่นามีเบียตามเดิม (ความจริงก็ไม่อยากลาออกหรอก เพราะลงหุ้นไปพอสมควร) ในที่สุดเสรีก็ต้องยอม และนี่ก็กลายเป็นการร่วมงานกันของสองทนายที่มีคนละจุดยืนในการทำคดี แล้วมันจะป่วนสักเพียงไหนกันละนี่ "คู่ซ่าคดีป่วน" ซีรีส์คอมเมดี้ รู้ทันกฎหมาย กับ 2 ทนายสุดป่วน เน้นการนำเสนอความรู้ทางด้านกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายในชีวิตประจำวันที่มักมีปัญหาอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้ประชาชนทั่วไปถูกเอารัดเอาเปรียบทางกฎหมาย หรือถูกหลอกเพราะไม่รู้กฎหมาย อีกทั้งยังส่งเสริมให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกันในสังคม นอกจากนี้ ยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ ให้ตระหนักถึงปัญหา และอยากลงมือแก้ปัญหานั้น โดยเฉพาะปัญหาทางข้อกฎหมาย และการบังคับใช้กฎหมาย