ม่านบังใจ 2542

ม่านบังใจ

ม่านบังใจ (2543/2000) เฟื่องลดานักเรียนชั้นเตรียมปีที่ 2 แห่งโรงเรียนดรุณีวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนสตรีที่มีชื่อ กำลังเตรียมตัวแสดงระบำร่วมกับเพื่อน ๆ ในงานประจำปีของโรงเรียน และปีนี้ก็ดูครึกครื้นกว่าทุกครั้ง กำลังเตรียมตัวแสดงระบำร่วมกับเพื่อน ๆ ในงานประจำปีของโรงเรียน และปีนี้ก็ดูครึกครื้นกว่าทุกครั้ง เพราะเป็นงานฉลองครบรอบ 25 ปีของโรงเรียนด้วย ในขณะเดียวกัน เฟื่อง ผู้เป็นบิดาก็กำลังจะไปงานโรงเรียนลูกสาว และนำชุดกระโปรงที่เฟื่องลดาจะใส่แสดงไปให้ด้วย เฟื่องยกกล่องใส่ชุดขึ้นบังหน้าขณะเดินข้ามถนนด้วยความเร่งรีบเลยไม่ทันได้ ระวังรถที่เลี้ยวมาจากหัวมุมถนน แม้ว่าคนขับจะพยายามเบรกแล้วแต่ก็ไม่ทัน เฟื่องถูกรถชนล้มคว่ำอยู่ตรงนั้น เฟื่องลดารอพ่อด้วยความกระวนกระวายใจ เพราะใกล้จะถึงเวลาแสดงอยู่แล้ว สักครู่เฟื่องลดาได้รับทราบจากอาจารย์ว่าพ่อติดธุระมาไม่ได้จึงให้คนนำชุดมา ให้ โดยที่เฟื่องลดาเองก็ไม่รู้เลยว่าคนที่นำชุดมาให้นั้นชื่อ ทัฬห์ พฤทานนท์ ผู้ที่ขับรถชนบิดาของเธอ เขานำชุดมาให้เธอตามคำขอร้องของนายเฟื่อง และเขาก็นั่งชมการแสดงของเธอด้วยความร้อนใจ เพราะเป็นห่วงอาการของเฟื่องที่ยังอยู่ในโรงพยาบาล ขณะที่นั่งชมการแสดงอยู่นั้นเขาบังเอิญได้ยินชาย 2 คนทั่งอยู่ข้าง ๆ เขาพูดถึงเฟื่องลดา ชายคนหนึ่ง โฆษิต เป็นพี่ชายของเพื่อนเฟื่องลดา อีกคนหนึ่ง เสี่ยนภ ผู้ซึ่งพอใจในตัวเฟื่องลดาและต้องการได้ตัวเธอมา โดยมีโฆษิตเป็นผู้รับอาสาจะจัดการให้ ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็ชอบเฟื่องลดาอยู่เช่นกัน แต่ก็เห็นแก่เงินของเสี่ยมากกว่า ทัฬห์ได้ยินเช่นนั้นก็ให้นึกห่วงเฟื่องลดาขึ้นมาว่า ถ้านายเฟื่องเป็นอะไรไป เธอคงต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน เขาจึงรีบไปดูอาการของนายเฟื่องทันที พอไปถึงโรงพยาบาลเขาก็พบกับ สร้องทอง ผู้เป็นภรรยาของนายเฟื่อง และสร้อยสนลูกสาวของสร้อยทองก่อนสิ้นใจนายเฟื่องได้กระซิบฝากเฟื่องลดาไว้ กับทัฬห์ เพราะไม่ไว้ใจแม่เลี้ยง พูดได้เท่านั้นนายเฟื่องก็สิ้นใจ ทัฬห์สัญญากับตัวเองว่าเขาจะดูแลคุ้มครองเฟื่องลดาอย่างสุดความสามารถ เพราะเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้นายเฟื่องตาย ยิ่งเมื่อรู้ว่าสร้อยทองมิใช่แม่แท้ ๆ ของเฟื่องลดา เขาก็ยิ่งเป็นห่วงเฟื่องลดามากยิ่งขึ้น เฟื่องลดาทราบข่าวในวันรุ่งขึ้นว่าบิดาเสียชีวิตเพราะถูกรถชน ทำให้เธออาฆาตแค้นและเกลียดชังผู้ที่ขับรถชนพ่อของเธออย่างมาก ใน วันเผาศพนายเฟื่อง ทัฬห์ชวนไทว์ น้องชายของเขาไปด้วย และยุให้ไทว์จีบเฟื่องลดา ถ้าไทว์ทำให้เฟื่องลดายอมแต่งงานด้วยเขาจะออกค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่าง แล้วเขาก็เล่าให้ไทว์ฟังถึงความจริงว่ามีเสี่ยต้องการจะซื้อตัวเฟื่องลดา เขาเกรงว่าสร้อยทองจะขายเธอไป เพราะท่าทางของสร้อยทองนั้นเห็นแก่เงิน เมื่อ ทั้งสองไปถึงงานศพก็พบเฟื่องลดายืนต้อนรับแขกอยู่ด้านหน้ากับ กานดา เพื่อนสนิท ทัฬห์ทักทายเฟื่องลดาด้วยความอ่อนโยนแต่เฟื่องลดากลับมองทัฬห์อย่างอาฆาต แค้น ซ้ำยังแกล้งเจาะยางรถยนต์ของเขาอีก ทำให้ไทว์นึกขยาดไม่กล้าจีบเฟื่องลดาตามคำแนะนำของพี่ชาย ถึงแม้ว่าเขาจะพอใจในความงามของเธอก็ตาม ประกอบกับไทว์มีแฟนอยู่แล้วคือ สิริโสภา ราษริปูราษฎร์ ลูกสาวผู้บังคับบัญชาของไทว์เอง หลังจากที่นาย เฟื่องตาย สร้อยทองมักไปขอเงินจากทัฬห์อยู่เสมอ และวันหนึ่งเธอนำข่าวไปบอกทัฬห์ว่าเสี่ยนพมาขอซื้อตัวเฟื่องลดาเป็นเงินถึง 6 หมื่นบาท ทัฬห์จึงเสนอว่าเขาจะให้เงินสร้อยทอง 1 แสนบาท แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องมีสิทธิ์ในตัวเฟื่องลดาแต่เพียงผู้เดียว และไม่ให้บังคับเฟื่องลดา เขาจะแต่งงานกับเฟื่องลดาก็ต่อเมื่อเธอยินยอม พอสร้อยสนทราบข่าวเข้าก็ขัดแย้งกับแม่อีก เพราะเธอไม่เห็นด้วยเธอสงสารและเห็นใจเฟื่องลดา เพราะเฟื่องลดาอยากเรียนต่อ แต่สร้อยทองอ้างว่าไม่มีรายได้มากพอที่จะส่งเรียน สร้อยทองฉลาดพอที่ไม่ใช้วิธีบังคับเฟื่องลดา เพราะเธอรู้ว่าเฟื่องลดาเป็นเด็กดื้อรั้นและทนงตัว เฟื่องลดาไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากทัฬห์เลย แม้ว่าเขาเต็มใจที่จะช่วยเหลือเธอทุกอย่างก็ตาม สร้อยทองพูดจาหว่านล้อมด้วยคำพูดที่หวาน ๆ จนเฟื่องลดาใจอ่อนเลิกล้มความตั้งใจที่จะเรียนและหางานทำ ระหว่างนั้นสร้อยทองซื้อเสื้อผ้าสวย ๆ ราคาแพงให้เฟื่องลดาเป็นการเอาใจและยังให้ไปเที่ยวที่ชะอำเพื่อเป็นการปลอบ ขวัญ เฟื่องลดาชวนกานดาไปด้วยโดยพักอยู่กับญาติของสร้อยทอง ระหว่างที่พักอยู่ชะอำเฟื่องลดาและกานดาได้รู้จักกับเด็กหญิงเล็ก ๆ 2 คน คือ เป๊ปซี่และโคล่า ความน่ารักของเด็กหญิงทั้ง 2 ทำให้เฟื่องลดารักและเอ็นดูอย่างมาก ในตอนแรกที่เฟื่องลดารู้ว่าเด็กทั้ง 2 เป็นลูกสาวของทัฬห์ เธอพยายามไม่ข้องแวะด้วย แต่ด้วยความฉลาดและช่างพูดของเด็กทั้งสอง ทำให้เฟื่องลดาติดใจและเมื่อรู้ว่าเด็กทั้ง 2 กำพร้าแม่ เธอก็ยิ่งรักและสงสารมากยิ่งขึ้น หลังกลับจากชะอำเฟื่องลดาได้ทำงาน เป็นเสมียนในบริษัทฝรั่งแห่งหนึ่ง ส่วนกานดาได้เรียนต่อ เป๊ปซี่และโคล่ารักและติดใจเฟื่องลดาและกานดามาก จึงรบเร้าให้ทัฬห์พาไปหาบ่อย ๆ ความเกลียดชังที่เฟื่องลดามีต่อทัฬห์ในครั้งแรกเริ่มคลายลงบ้าง แต่แล้วเหตุการณ์กลับเลวร้ายลงไปอีกเมื่อสร้อยทองโกหกเฟื่องลดาว่า เมื่อครั้งเฟื่องยังมีชีวิตอยู่ได้สร้างหนี้สินไว้มากและตอนนี้ก็กำลังจะถูก ฟ้องล้มละลายตนจึงไปขอกู้เงินจากทัฬห์ และตอนนี้ทัฬห์ก็เร่งรัดหนี้สินโดยไม่ยอมผ่อนผันให้แม้ว่าตนอ้อนวอนขอร้อง อย่างไรก็ตาม ดังนั้นเฟื่องลดาจึงยอมแต่งงานกับทัฬห์เพราะเห็นแก่แม่เลี้ยง สร้อยทองจึงยุยงให้เฟื่องลดาปอกลอกทรัพย์สินของทัฬห์เพื่อเป็นการแก้แค้น ทัฬห์เองก็รู้ถึงแผนการของสร้อยทอง เพราะสร้อยสนเขียนจดหมายมาบอกให้ทัฬห์ทราบ แทนที่ทัฬห์จะคอยระมัดระวังเขากลับแสดงความจริงใจต่อเฟื่องลดา โดยสอนให้เธอรู้รหัสตู้เซฟที่เก็บเงินและเครื่องเพชร และด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ ทัฬห์ไม่ได้ข่มเหงน้ำใจเฟื่องลดาเลย ทำให้เฟื่องลดาเริ่มรักทัฬห์อย่างไม่รู้ตัว เมื่อสร้อยทองเห็นว่าแผนของตัวเองจะไม่สำเร็จ จึงเริ่มคิดแผนอันชั่วร้ายใหม่ โดยย้ายไปอยู่ที่บ้านทัฬห์เพื่อหวังให้ทัฬห์หันมาสนใจสร้อยสนแทน สร้อยสนไม่เห็นด้วยจึงไม่ยอมไป แต่ก็ขัดไม่ได้เพราะสร้อยทองเซ้งบ้านไปแล้ว และสร้อยสนอยากอยู่บ้านเก่าต่อไปให้หาเงินมาแทน สร้อยสนจนใจเพราะไม่รู้จะหาเงินจากที่ไหน เธอเองก็มีอาชีพแค่รับจ้างตัดเสื้อผ้าเท่านั้น จึงต้องยอมไปอยู่ด้วย เฟื่องลดาดีใจมากที่สร้อยทองและสร้อยสนย้ายมาอยู่ด้วย โดยเธอไม่ได้ระแวงเลยว่าสร้อยทองคิดร้ายกับเธอ ไทว์สร้างบ้านใหม่เพื่อหวังจะให้เป็นเรือนหอของตัวเองกับสิริโสภา แต่เขาก็ต้องผิดหวังเมื่อสิริโสภาได้รู้จักกับ สมัย ประทีปทอง แล้วเกิดเปลี่ยนใจไปรับหมั้นสมัย เพราะเห็นว่าสมัยร่ำรวยกว่าไทว์ แต่ไทว์เองก็มิได้เสียใจมากนัก วันหนึ่งเขาแวะมาเยี่ยมพี่ชายและรู้ว่าสองแม่ลูกย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านพี่ ชายก็ไม่พอใจ ความเกลียดที่มีต่อสร้อยทองจึงตกทอดไปถึงสร้อยสนด้วย ความ ไม่เข้าใจกันระหว่างทัฬห์และเฟื่องลดายิ่งเพิ่มมากขึ้น เมื่อเฟื่องลดาเข้าใจว่าทัฬห์และสร้อยสนรักกัน ส่วนทัฬห์ก็คิดว่าเฟื่องลดาชอบกับไทว์ ซ้ำยังมีโฆษิตที่เฟื่องลดาโกหกว่าเป็นแฟนเก่าของตนเข้ามาพัวพันอีก สร้อยสนเห็นว่าเฟื่องลดานั้นรักทัฬห์ และทัฬห์เองก็รักเฟื่องลดามากเช่นกัน จึงเล่าความจริงให้เฟื่องลดาฟังว่าทัฬห์ไม่ได้ให้เงินแม่กู้แถมยังเป็นคนใช้ หนี้สินให้แม่อีกด้วย เฟื่องลดาดีใจมากที่ได้ทราบความจริงว่าทัฬห์ไม่ใช่คนหลอกลวงอย่างที่เธอเข้า ใจผิดมาตลอด สร้องทองนั้นติดการพนันมาก เมื่อสร้อยสนไม่ให้ความร่วมมือด้วยจึงคิดจะใส่ร้ายเฟื่องลดาว่ามีชู้กับ โฆษิต ช้อยคนรับใช้เก่าที่บ้านเฟื่องลดารู้ถึงแผนการของสร้อยทองด้วย เพราะสร้อยทองจะใช้ให้ช้อยปลอมตัวเป็นเฟื่องลดาเพื่อให้ทัฬห์เข้าใจผิด ช้อยจึงนำเรื่องมาบอกไทว์ ไทว์ได้ฟังดังนั้นก็โกรธแค้นสร้อยทองมาก และคิดว่าถ้าลูกสาวของสร้อยทองเองเกิดหนีตามผู้ชายไป และผู้ชายคนนั้นก็เป็นเพียงพลทหารต่ำต้อย สร้อยทองจะเสียใจเพียงใด คิดได้ดังนั้นไทว์จึงเรียกสร้อยสนมา แล้วเล่าถึงแผนการของสร้อยทองให้เธอฟัง ซ้ำยังขู่ว่าจะเล่าความจริงให้ทัฬห์และเฟื่องลดารู้ เมื่อทั้งสองกลับจากงานเลี้ยงแล้ว สร้อยสนขอร้องไทว์ไม่ให้บอกทัฬห์และเฟื่องลดา เพราะเกรงว่าเฟื่องลดาจะเสียใจและหมดความรักความเคารพที่มีต่อสร้อยทอง สร้อยสนขอเลือกคนที่ไทว์รู้จักดีที่สุด ซึ่งก็คือพลทหารรับใช้ของเขา เมื่อสร้อยสนยืนยันเช่นนั้นเขาจึงตัดสินใจพาเธอไปที่บ้านแต่ไม่ได้บอกให้ คิด ทราบว่าเธอเป็นใคร คิดจึงเข้าใจว่าเธอคือแฟนของไทว์ ข่าวของ สิริโสภาดังขึ้นอีกครั้งตามหน้าหนังสือพิมพ์ เมื่อคู่หมั้นของเธอคือนายสมัย ถูกจับข้อหาค้าฝิ่น เธอจึงคิดจะกลับมาหาไทว์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไทว์รู้ใจตัวเองว่าเขามิได้รักเธอ แต่เขารักสร้อยสน ซึ่งต่อมาเขาก็รู้ความจริงว่าสร้อยสนมิได้คิดจะแย่งทัฬห์มาจากเฟื่องลดาตาม ที่เขาเข้าใจ ส่วนโฆษิตนั้นยังเคืองแค้นเฟื่องลดาอยู่จึงวางแผนชวนเฟื่องลดาไปเที่ยวน้ำตก สาริกากับกลุ่มเพื่อน ๆ และมีสร้อยทองไปด้วย ระหว่างทางที่แวะพักทานข้าวโฆษิตแกล้งทำเป็นรถเสีย เพื่อจะให้รถเพื่อน ๆ ของเฟื่องลดานำหน้าไปก่อน โดยเขามีจุดประสงค์จะพาตัวเฟื่องลดาไปขายให้เสี่ยคนหนึ่ง ซึ่งนัดกันไว้ที่สระบุรี แผนการณ์ของโฆษิตครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากสร้อยทองและกานดาน้องสาวของ เขา โดยทุกคนมีส่วนแบ่งในเงินค่าจ้าง 1 แสนบาท แต่ก่อนที่เฟื่องลดาจะถูกทำร้าย ทัฬห์ได้ตามมาช่วยไว้ทัน ทั้งสองจึงปรับความเข้าใจกันและได้ประจักษ์ถึงความรักที่มีต่อกัน

แท็ก : , ,
ชื่อไทย : ม่านบังใจ
ชื่ออังกฤษ : Marn Bang Jai
ละครช่อง : ช่อง 7
ผลิตโดย : บริษัท ดาราวิดีโอ จำกัด
บทประพันธ์ : ชูวงศ์ ฉายะจินดา
บทโทรทัศน์ :
กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
แสดงนำ : จอห์น รัตนเวโรจน์, สุวนันท์ คงยิ่ง, ธนพล แมคโดนัลด์, ภัคจิรา วรรณสุทธิ์
ออกอากาศ : 27 มีนาคม 2543 – 1 พฤษภาคม 2543
วันออกอากาศ : จันทร์ – อังคาร
เวลาออกอากาศ : 20:20 – 22:20 น.
จำนวนตอน : 11
ความยาวตอน :
เรทละคร :

 

ที่มา : รายชื่อละครโทรทัศน์ทางช่อง 7 เอชดี

เป็นคนแรกที่รีวิว “ม่านบังใจ”

ยังไม่มีรีวิว

นักแสดงและทีมงาน

กํากับการแสดง

นักเขียน