TOP SECRET วัยรุ่นพันล้าน (2554/2011) เรื่องราวจากชีวิตเบื้องลึกของ ต๊อบ อิทธิพัฒน์ (พชร จิราธิวัฒน์) เจ้าของธุรกิจสาหร่ายเถ้าแก่น้อย วัยรุ่นไทยที่พลิกชีวิตจากเด็กติดเกมส์ออนไลน์ เด็กมัธยมปลายที่เคยถูกครูฝ่ายปกครองค่อนขอดว่าเรียนจบแล้วจะไปทำอะไรกิน จนกลายมาเป็นวัยรุ่นพันล้านในวันนี้ ต๊อบ ก้าวกระโดดมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร แน่นอนว่าใคร ๆ ก็อยากรวย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะกล้าลงมือรวยแบบ ต๊อบ อะไรคือสิ่งที่ ต๊อบ ต้องฝ่าฝัน อะไรคือสิ่งที่ ต๊อบ ต้องแลกให้กับคำว่า รวย อะไรคือมูลค่าที่แท้จริงของความรวย อายุ 16 ต๊อบ มีเงินจากการเล่นเกมส์เดือนละ 400,000 บาท อายุ 17 ยอมติด F แลกกับเงินค่าขายเกาลัดแค่ 2,000 บาท อายุ 18 บ้านล้มละลายเป็นหนี้ 40 ล้าน อายุ 19 นำสาหร่ายเถ้าแก่น้อยเข้าเซเว่น 3,000 สาขา ทุกวันนี้ ต๊อบ อายุ 26 ปีเป็นเจ้าของแบรนด์สาหร่ายอันดับหนึ่งของเมืองไทย เจ้าของมาร์เก็ตแชร์ 85% ของทั้งตลาด หรือเท่ากับยอดขายเหยียบ 1,000 ล้านบาทต่อปี มีลูกน้องในบริษัททั้งสิ้น 1,200 คน คุณทำอะไรอยู่ตอนคุณอายุเท่า ต๊อบ?
Hi-So ไฮโซ (2554/2011) ไฮโซ เป็นภาพยนตร์แนวรักโรแมนติก ที่เล่าเรื่องความต่างของวัฒนธรรมในการใช้ชีวิตของคนในสังคมไทยยุคปัจจุบัน โดยจะถ่ายทอดผ่านการเล่าเรื่องราว และมุมมองความรัก ของนางเอกสองคน (ต่างชาติและไทย) ที่มีต่อพระเอกลูกครึ่ง นำแสดงโดย อนันดา เอเวอริงแฮม พระเอกหนุ่มที่ผู้กำกับหลายท่านอยากร่วมงาน เพราะนอกจากบทบาทการแสดงที่เขาสามารถเข้าถึงทุกบทบาทแล้ว ภาพยนตร์เรื่อง ไฮโซ เรียกได้ว่า คือการแสดงที่เป็นตัวตนของตัวเขาเองมากที่สุด โดยเรื่องราวความรักในทั้งสองครั้ง จะสะท้อนเหตุการณ์ของกันและกัน ผ่านการสื่อสารจากคนต่างสัญชาติและภาษา ต่อผู้ชายคนเดียวกันที่มีทั้งสองสัญชาติและภาษาอยู่ในตัวเอง และด้วยความผสมผสานระหว่างสองวัฒนธรรมที่รวมอยู่ในตัวของ พระเอกลูกครึ่ง นำไปสู่การตั้งคำถามของความเป็นตัวตนที่แท้จริงของคนรุ่นใหม่อย่างเขา ในสังคมโลกาภิวัฒน์ปัจจุบันที่เต็มไปด้วยผู้คนที่เกิดจากการผสมผสานหลายเชื้อชาติ ที่มีความหลากหลายทางวิถีชีวิต ต่างไปจากผู้คนในอดีต รวมถึงยังสะท้อนแง่คิดเรื่องความเป็นตัวตนของมนุษย์ ว่าแท้จริงใครเป็นคนกำหนดจุดยืนที่เราเป็น
หมาแก่ อันตราย FRIDAY KILLER (2554/2011) เรื่องราวของ เป้ อูซี่ หรือ อินทรีแห่งเมืองจัน (เทพ โพธิ์งาม) มือปืนรับจ้างที่เพิ่งพ้นโทษออกมาจากคุก แล้วเพิ่งค้นพบความจริงที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนคือ ในชีวิตเขานั้นมีลูกสาวในไส้อยู่หนึ่งคนชื่อ ดาว (พลอย จินดาโชติ) แต่ เป้ กลับต้องหนีจากการตามล่าของลูกสาวของตัวเองเพราะเธอเข้าใจผิดคิดว่า เป้ อูซี่ คือคนที่ฆ่าพ่อที่แท้จริงของเธอ และคนที่ข่มขืน เพชร (สายป่าน อภิญญา) คนที่ดาวคบอยู่ การล้างแค้นของลูกตนเอง ทำให้ตนเองพบจุดจบ
Camellia รักแรก รักเธอ รักสุดท้าย (2554/2011) Iron Pussy (ไมเคิล เชาวนาศัย) คือสายลับในยุค 70 ที่ถูกส่งมาปฏิบัติภารกิจที่ปูซาน ทุกครั้งที่เขาได้รับภารกิจใหม่ เขาจะหายเข้าไปในร้านเสริมสวยก่อนจะกลับออกมาในคราบของสาวสวยทรงเสน่ห์ที่แสนเย้ายวน และอย่างไม่ทันตั้งตัว ขณะที่เธอไปที่ไนต์คลับแห่งหนึ่ง เธอก็พบว่าตัวเองได้ตกหลุมรักกับชายหนุ่มเกาหลีแสนดีคนหนึ่งเข้า (คิม มิน จุน) เมื่อความรักนั้นกำลังผลิดอกงดงาม กระทั่งภารกิจใหม่เข้ามาและ "เขาคนนั้น" ก็คือเป้าหมายที่เธอต้องฆ่า... Iron Pussy จะเลือกอะไรระหว่าง "ความรัก" กับ "หน้าที่" ที่เธอได้รับ
ที่รัก Eternity (2554/2011) เรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งผ่านสามช่วงเวลาของชีวิต ช่วงแรกคือชีวิตหลังความตายของเขาที่มีโอกาสได้กลับไปเยือนบ้านเกิดสมัยวัยเยาว์ ช่วงที่สองพูดถึงความทรงจำที่ดีที่สุดของชายหนุ่มคนนั้น นั่นคือช่วงเวลาที่เขาได้พบหญิงสาวที่จะมาเป็นภรรยาของเขาในอนาคต และช่วงสุดท้ายจะสะท้อนภาพชีวิตของภรรยา ลูกชาย และ ลูกสาวของเขา ในวันที่ไม่มีเขาอยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว
อุโมงค์ผาเมือง (2554/2011) ปีพุทธศักราช 2110 ณ นครผาเมืองแห่งอาณาจักรเชียงแสนอันรุ่งเรือง วันหนึ่งหลังจากเกิดวิบัติการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ทั้งอัคคีภัยครั้งใหญ่หลวง แผ่นดินไหวอันรุนแรง และโรคร้ายระบาดคร่าชีวิตประชาชนไปกว่าครึ่งนคร ก็เกิดคดีฆาตกรรมปริศนาที่น่าสะพรึงกลัวและซับซ้อนซ่อนเงื่อนสุดที่จะค้นหาความจริงได้ โจรป่าสิงห์คำ (ดอม เหตระกูล) ผู้โหดร้ายที่สุดในแผ่นดินถูกจับได้ในคดีฆาตกรรม ขุนศึกเจ้าหล้าฟ้า (อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) และข่มขืน แม่หญิงคำแก้ว (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ภรรยาของขุนศึกในป่านอกเมือง ขณะที่สองสามีภรรยาเดินทางออกจากเมืองเพื่อไปเยี่ยมญาติที่นครเชียงคำ จากคำให้การของ โจรป่า และ แม่หญิง สร้างความปั่นป่วนและพิศวงงงงวยให้แก่ เจ้าผู้ครองนคร (ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) และประชาชนผู้มาฟังคำให้การเป็นอย่างยิ่ง เพราะทั้งคู่ต่างยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานว่าตนเองเป็นผู้ฆ่าขุนศึก เจ้าหลวงจึงเรียก ผีมด-ร่างทรง (รัดเกล้า อามระดิษ) มาเข้าทรงดวงวิญญาณของขุนศึกเพื่อค้นหาความจริง แต่แล้ววิญญาณของขุนศึกกลับให้การผ่านร่างทรงว่า ตนต่างหากที่ฆ่าตัวตายเอง! เหตุการณ์ทั้งหมดถูกถ่ายทอดผ่านการพบเห็นและสนทนาของ พระหนุ่ม (มาริโอ้ เมาเร่อ), ชายตัดฟืน (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) และ สัปเหร่อ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) ภายในอุโมงค์ผีที่ผาเมือง ซึ่งไม่อาจเข้าใจได้เลยว่า เหตุใดทั้ง 3 คนจึงให้การปิดบังความจริงที่เกิดขึ้น และ ความจริงทั้งหมดคืออะไรกันแน่?
รักจัดหนัก Love, Not Yet (2554/2011) ทอมแฮ้ง - เรื่องวุ่น ๆ ของ นัท (อริสสรา เลอมวณ) สาวหล่อนักกีฬาบาสเกตบอลทีมโรงเรียนขวัญใจสาว ๆ ซึ่งเป็นเพื่อนซี้กับ เนม (นภัสสร เอี่ยมเจริญ) นักบาสฯ สาวสุดเซ็กซี่ที่ชอบจิ๊จ๊ะกับหนุ่ม ๆ ในคืนที่ทีมนักบาสทั้งหญิงชายชวนกันไปปาร์ตี้เลี้ยงปิดเทอม เลี้ยงฉลองกันจนเมาหัวทิ่ม นัทตื่นมาพบว่าตัวเองได้เสียสาวให้กับใครสักคนไปแล้วในคืนนั้น แม้เธอจะพยายามลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่เหตุการณ์นี้ก็ทำให้ชีวิตพลิกผันไปอย่างไม่คาดคิด แล้ว นัท จะเลือกเส้นทางชีวิตต่อไปอย่างไร? ความเป็นเพื่อนที่แสนรักของ เนม จะช่วยเธอได้ไหม และแม่ (จินตหรา สุขพัฒน์) ผู้หวังดีและคอยช่วยหาทางออกให้กับลูกอยู่เสมอล่ะ จะใช่ผู้ชี้คำตอบให้แก่นัทได้จริง ๆ รึเปล่า? เป็นแม่เป็นเมีย - ม่อน (รัชพล แย้มแสง) นักกีฬามวยสากลอนาคตไกลระดับตัวแทนโรงเรียน เกิดพลาดทำให้ อิ๋ง (วรรณิศร เลาหมนตรี) สาวดาวโรงเรียนผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้อง ตั้งท้องในขณะที่ทั้งคู่ยังเรียนอยู่ พวกเขาจึงต้องหยุดเรียนมาอยู่บ้าน เพื่อเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน ผ่านเหตุการณ์ชุลมุนแสนวายป่วงของบรรดาเพื่อน ๆ และคนรอบข้าง ที่ล้วนชวนให้ทั้งคู่ต้องฉุกคิดว่า การมีครอบครัวนั้นยากลำบากและวุ่นวายสาหัสเพียงใด ไปเสม็ด - เมื่อกลุ่มเพื่อนม.ปลาย 5 คนที่สนิทกันตอนเรียนพิเศษ ชวนกันไปฉลองสอบเสร็จ และรอลุ้นผลเอ็นทรานซ์ตามประสาวัยรุ่นที่เกาะเสม็ด ฤทธิความคึกคะนองและบรรยากาศชวนเคลิ้มทำให้ วิท (ศิครินทร์ ผลยงค์) และ แอน (ศิตา มหารวิเดชากร) สานสัมพันธ์อันลึกซึ้งโดยไม่แยแสอุปกรณ์ป้องกัน แต่เหตุการณ์แสนสุขสมในคืนนั้นก็ส่งผลให้ทั้งคู่ต้องเผชิญกับช่วงจิตตกตามมา แล้ววัยรุ่นที่ยังมีอนาคตสดใสรออยู่ข้างหน้าอย่างพวกเขาจะจัดการกับปัญหาและความรักครั้งนี้อย่างไรในมื่อชีวิตยังต้องเดินต่อ ตอนพิเศษ ก่อน - ช่วงเวลาสั้น ๆ ตอนต้นเรื่อง ที่ฟ้าบันดาลให้เหล่าตัวละครจากหนังทุกเรื่องได้มาพานพบกัน เพื่อเปิดฉากให้ผู้ชมได้รู้จักพวกเขา และเป็นจุดเริ่มต้นก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไปเผชิญเรื่องรักและเซ็กซ์อันสุดวุ่นแสนวายป่วง
คนโขน (2554/2011) เรื่องของคน เรื่องของโขนนี้ เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2508 โดยเล่าเรื่องราวของ ชาด (อภิญญา รุ่งพิทักษ์มานะ) เด็กกำพร้าที่ถูกครูโขนฝีมือดีอย่าง ครูหยด (สรพงษ์ ชาตรี) เลี้ยงดูและฝึกหัดโขนให้ตั้งแต่เล็ก ๆ จนกระทั่งเติบใหญ่มีฝีไม้ลายมือเก่งกาจกลายเป็นศิษย์เอกในคณะโขนของครูหยด อีกทั้ง ชาด ยังได้รับความช่วยเหลือและกำลังใจที่ดีเสมอมาจากเพื่อนรักอย่าง ตือ (กองทุน พงษ์พัฒนะ) และ แรม (นันทรัตน์ ชาวราษฎร์) ที่สนิทสนมรักใคร่ผูกพันกันมาตั้งแต่วัยเด็ก ด้าน ครูหยด ก็ได้มองเห็นแววที่จะเอาดีทางด้านนี้ของ ชาด และคิดจะเปิดตัวชาดในบทพระรามเป็นครั้งแรกในงานแสดงโขนประจำปีครั้งใหญ่ที่วัดอ่างทอง เส้นทางชีวิตของ ชาด ดูเหมือนจะไร้ซึ่งอุปสรรคในการก้าวตามความฝัน เพื่อมุ่งสู่จุดสูงสุดของชีวิตนักแสดงโขนตามความทะยานอยากในวัยหนุ่มของเขา แต่เมื่อ ครูเสก (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) อดีตเพื่อนรักของครูหยด ที่ปัจจุบันกลายมาเป็นศัตรูตัวฉกาจด้วยปมแค้นฝังลึก ได้รับรู้เรื่องการแสดงของ คณะครูหยด จึงหาวิธีกลั่นแกล้งไม่ให้ ครูหยด ได้แสดงโขนที่วัดนี้ ซึ่งก็เข้าทางหลานชายสายเลือดโขนของครูเสกอย่าง คม (ขจรพงศ์ พรพิสุทธิ์) คู่อริเก่าของ ชาด ที่ต้องการแก้แค้นและเอาคืน ชาด อย่างสาสมเช่นกัน บางครั้งเราก็ต้องพบกับฝันร้ายโดยไม่รู้ตัว... เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เมื่อปัญหาที่ถาโถมเข้ามาหา ครูหยด และ ชาด นั้นไม่ใช่แค่มายาแห่งนาฏกรรมโขนอันเกิดมาจากความอาฆาตแค้นไม่สิ้นสุดของ ครูเสก และ คม เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ ชาด ยังหลงเข้าไปในวังวนแห่งตัณหาราคะที่ก่อเกิดจาก รำไพ (พิมลรัตน์ พิศลยบุตร) เมียรุ่นลูกของ ครูหยด ที่จ้องจะเข้าหา ชาด ทุกครั้งที่มีโอกาส รวมทั้งมิตรภาพระหว่างเพื่อนรักอย่าง ชาด, แรม และ ตือ ที่ถูกสั่นคลอนลงอย่างไม่คาดฝัน นั่นเป็นเหตุให้ชีวิตของ ชาด ซวนเซและพลิกผันไปอย่างไม่ทันตั้งตัว ฉากสุดท้ายของ ชาด จะสามารถกลับลำและไปถึงฝั่งฝันได้หรือไม่ ถึงเวลาที่ ชาด จะต้องต่อสู้เอาชนะด้านมืดของตัวเอง และพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ หาใช่หัวโขนที่สวมใส่
ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๔ ศึกนันทบุเรง

ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๔ ศึกนันทบุเรง (2554/2011) เรื่องราวอันเป็นผลจากการปราชัยของหงสาวดีในคราวศึก พระยาพะสิม และ พระเจ้าเชียงใหม่ ซึ่งทำให้ พระเจ้านันทบุเรง ทรงตระหนักในพระปรีชาสามารถของ สมเด็จพระนเรศวร และในความเข้มแข็งของกองทัพอยุธยา จึงทรงยกทัพใหญ่เป็นทัพกษัตริย์มาย่ำยีราชธานีสยามหวังให้ราบเป็นหน้ากลองเพื่อเป็นการแก้มือ และเพื่อรักษาซึ่งพระเกียรติยศ มิให้เป็นที่ดูแคลนแก่เหล่าเจ้าประเทศราชในการปกครองของฝ่ายพม่า กองทัพกษัตริย์ของ พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง มีความสมบูรณ์ยิ่งใหญ่น่าเกรงขามกว่าทุกศึก ประกอบด้วยช้าง 3,200 ทัพม้า 12,000 และไพร่ราบซึ่งมีจำนวนถึง 252,000 โดยมีนายทัพผู้ปรีชาสามารถมาร่วมรบ ทั้ง พระมหาอุปราชา มังจาปะโร และลักไวทำมูทหารกล้า กิตติศัพท์ความยิ่งใหญ่น่าเกรงขามของทัพหงสาวดีที่ยกเข้ามานี้ ส่งผลให้เจ้าเมืองในขอบขัณฑสีมาของราชอาณาจักรอยุธยาข้างฝ่ายเหนือประหวั่นพรั่นพรึงถึงกับสมคบคิดกัน แปรพักตร์เข้าสมานสมัคร พระเจ้านันทบุเรง รบ สมเด็จพระนเรศวร เป็นเหตุให้ สมเด็จพระนเรศวร ต้องเผชิญทั้งศึกนอกและศึกใน สถานการณ์กลับยิ่งบีบคั้นให้คับขันยิ่งขึ้น เมื่อ พระศรีสุพรรณธรรมาธิราช พระอนุชาเจ้ากรุงละแวกซึ่งขัดพระทัย สมเด็จพระนเรศวร แต่กาลก่อน ได้ยุยงให้พระเชษฐาตัดสัมพันธไมตรีกับอยุธยา ละแวกจึงกลายเป็นหอกข้างแคร่ที่พร้อมจะกระหน่ำซ้ำเติมสยามให้ย่อยยับหากมีอันพลาดท่าเสียทีในศึกนันทบุเรงนี้ ภัยรอบด้านบีบรัดให้ สมเด็จพระนเรศวร ทรงต้องเผชิญศึกอย่างโดดเดี่ยว ซ้ำเคราะห์กลับทับทวีคูณเมื่อสหายศึก เช่น เลอขิ่น และกองกำลังเมืองคัง ซึ่งร่วมกรำศึก กันมาแต่เบื้องต้นคิดถอนตัวตีจากเนื่องจากพิษรักระหว่างรบที่จบลงด้วยความร้าวฉานระหว่าง เลอขิ่น กับ พระราชมนู ขุนศึกคู่พระทัย ความขัดแย้งด้วยเหตุส่วนตัวได้บานปลายกลายเป็นภัยของแผ่นดินในคราวคับขันเมื่ออยุธยาต้องเผชิญศึก ซึ่งประมาณได้ว่าเป็นมหาสงครามภายใต้โทสจริตของ พระเจ้านันทบุเรง ด้วยข้อจำกัดที่รุมเร้าหลายประการ ผสานกับจำนวนไพร่พลที่เป็นรองหงสาวดีอยู่หลายขุม ทำให้ สมเด็จพระนเรศวร ทรงจำต้องปรับยุทธศาสตร์การตั้งรับทัพหงสาวดี โดยทรงใช้พระนครศรีอยุธยาซึ่งมีทำเลที่ตั้งที่ได้เปรียบเป็นฐานบัญชาการรบแต่เพียงแห่งเดียว ทรงส่งกำลังออกไปปักปราการ วางแนวป้องกันมิให้พม่าเข้ามาปลูกค่ายใกล้ขอบคูพระนครและกำแพงเมือง ทั้งยังแต่งกำลังเป็นกองโจรเข้าปล้นค่ายข้าศึกอย่างอาจหาญ เมื่อศึกเหนือเสือใต้รุมกระหน่ำ ขุนนางผู้ใหญ่ขาดสามัคคีคิดคดคำนึงแต่ประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง จอมทัพผู้รั้งราชบัลลังก์และความอยู่รอดของแผ่นดินก็มาพลาดท่า ต้องศาสตรากลางสมรภูมิศึก ยอดทหารเอกกรุงศรีถูกขุนศึกผู้ชาญณรงค์กว่าจับเป็นเชลย ชะตากรรมกรุงศรีอยุธยา และ สมเด็จพระนเรศวร จะลงเอยอย่างไร

พุ่มพวง (2554/2011) เมื่อเด็กผู้หญิงคนหนึ่งฝันอยากเป็นนักร้อง วินาทีแห่งการไข่วคว้าเพื่อความฝันอันยิ่งใหญ่ และการเดินทางของชีวิตจึงเริ่มต้นขึ้น ผึ้ง (พรพิมล เฟื่องฟุ้ง) เกิดและโตที่จังหวัดสุพรรณบุรี ด้วยฐานะทางบ้านยากจน เรียนจบเพียงแค่ชั้นป.2 แต่มีความฝันอยากเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เธอจึงตัดสินใจเดินทางออกตามหาความฝัน ด้วยการมุ่งหน้าเข้ามาเผชิญโชคในเมืองกรุง ผึ้ง เริ่มต้นจากตำแหน่งหางเครื่องในวงดนตรีของ ครูไวพจน์ เพชรสุพรรณ (สมชาย สุขสวัสดิ์ชล) จนได้พบรักกับ ธีระพล แสนสุข (ณัฐวุฒิ สกิดใจ) นักดนตรีเป่าแซกโซโฟนในวง และทำให้ความฝันอยากเป็นนักร้องกลับฝันสลาย เพราะความรักของทั้งคู่เป็นตัวก่อเหตุให้โดนไล่ออกจากวงไวพจน์ ทั้งคู่ยอมอดทน ฝ่าฟันอุปสรรคต่อสู้กับชีวิตที่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดอย่างยากลำบาก จนเมื่อได้พบกับ ครูมนต์ เมืองเหนือ (วิทยา เจตะภัย) ผึ้ง ขอฝากตัวเป็นศิษย์ ครูมนต์ จึงตั้งชื่อใหม่ให้เป็น พุ่มพวง ดวงจันทร์ และปั้นเธอให้เป็นนักร้อง ถึงแม้จะอ่านหนังสือไม่ออก เขียนไม่ได้ เผชิญกับความผิดหวังเสียใจ การพรากจากของคนรัก หรือการเจ็บป่วย สิ่งเหล่านี้ใช่ว่าจะเป็นอุปสรรคทำให้เธอท้อถอยและถอดใจจากความฝัน แต่กลับกลายเป็นความน่าอัศจรรย์ในความเป็นอัจฉริยะของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่จดจำเนื้อเพลงได้มากกว่า 500 เพลง และเป็นนักร้องลูกทุ่งอันเป็นที่รักของคนไทยทุกระดับชั้น จนถูกยกย่องให้เป็น "ราชินีลูกทุ่ง" เพียงหนึ่งเดียวตลอดกาล
Love Faith Miracle ความรัก ศรัทธา ปาฏิหาริย์ (2554/2011) "ผู้หญิงคนนี้ไม่อยากชื่อบุญรอด - Precious Love" บุญรอด (ศิรพันธ์ วัฒนจินดา) ผู้หญิงธรรมดาที่ไร้ต้นทุนทางสังคม แต่สามารถสร้างมรดกล้ำค่าเพื่อมอบให้กับลูกได้ เธอคือตัวแทนผู้หญิงไทยที่ต้องตกเป็นเหยื่อถูกกระทำความรุนแรงที่จิตใจ จากความต้องการทางเพศที่ไม่เคยพอของคนที่เป็นสามี เธอต้องต่อสู้กับความกลัวในหัวใจตัวเองที่จะไม่ทำลายชีวิตลูก เพราะเชื้อโรคซิฟิลิสที่สามีนำมาติดขณะตั้งครรภ์จนเป็นเหตุที่อาจทำให้ลูกต้องตาบอด อะไรทำให้หัวใจแม่พลิกจากความกลัวเป็นกล้า แล้วอะไรทำให้หัวใจลูกพลิกจากความหวาดหวั่นเป็นมั่นคงในที่สุด "ขยะ - Junk" เตย (สุชารัตน์ มานะยิ่ง) เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่เติบโตมาจากข้างถนน ไม่มีทั้งแม่และพ่อ เธอต้องเอาชีวิตรอดไปวัน ๆ อย่างไร้ภูมิคุ้มกันเหมือนถังขยะข้างถนน ในที่สุดเธอก็ติดยาเสพติดและถูกจับ เตย อ้อนวอนขออิสรภาพจากเจ้าหน้าที่ซึ่งเขาก็แสนใจดียอมมอบให้ เพียงให้เธอทำตามเงื่อนไขคือการนอนกับผู้ชายจำนวนมากให้เขาดูเพื่อแลกเปลี่ยนกับอิสรภาพ ไม่มีใครคิดว่าอิสรภาพในวันนั้นจะทำให้เธอต้องติดเชื้อเอดส์ และตั้งท้อง แต่เด็กข้างถนนที่เคยมีความทุกข์อัดแน่นอยู่เต็มหัวใจ ก็ได้พิสูจน์ให้โลกเห็นว่า หนูไม่ใช่ถังขยะ "สวัสดีความรัก - Hello Love" ปริม เด็กนักเรียนนาฏศิลป์อายุ 16 ปี ที่กำลังอยู่ในวัยสดใสร่าเริง แต่ชีวิตของเธอกลับพลิกผันเพราะความรักที่เกินขอบเขต เธอตั้งท้องทั้งที่ยังไม่พร้อม และท้องนี้ก็ทำให้เธอต้องเผชิญกับปัญหาชีวิตมากมายอย่างที่เธอคาดไม่ถึง เส้นทางชีวิตของปริมสะท้อนชีวิตจริงของวัยรุ่นไทยจำนวนมาก เธอเกลียดลูกที่มาทำร้ายชีวิตอันสวยงามของเธอ แต่การได้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านสายสัมพันธ์ ได้เปลี่ยนแปลงหัวใจของเธอจนหมดสิ้น หัวใจแม่ที่มอบให้กับลูกอย่างไม่มีเงื่อนไขได้หล่อหลอมให้ลูกเติบใหญ่ และพร้อมเข้าสู่บททดสอบชีวิตวัยใสที่เรียกว่า ความรัก เช่นเดียวกับแม่ "ภัยใกล้ตัว - Porcelain Doll" บุ๋ม เด็กหญิงวัย 10 ปี เรียบร้อย พูดน้อย คนภายนอกจะมองเธออย่างชื่นชมในความเรียบร้อยน่ารักของเธอ แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าภายใต้กิริยาท่าทางที่เรียบร้อยน่ารักนั้น ต้องปิดบังความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจไว้อย่างมากมาย บุ๋ม ถูก พ่อเลี้ยง (อภิสิทธิ์ พงศ์ชัยสิริกุล) ซึ่งเป็นชายที่แม่เธอรักสุดหัวใจข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนบุ๋มตั้งครรภ์ และพ่อเลี้ยงก็ยังพยายามพรากความรักที่เหลืออยู่น้อยนิดไปจากเธอและลูก แม้ลูกจะไม่ได้เกิดมาด้วยความรัก แต่ด้วยหัวใจแม่ เธอก็รักลูกของเธอ "เสียงของความเงียบ - Sound of Silent" เอ (พลอยลภัสร์ อมรธนาพรกุล) ผู้หญิงวัยทำงาน เธอร่าเริงสดใสและทำงานเก่งจนเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานและ เจ้านาย (ราชวัติ ขลิบเงิน) เขาชื่นชมและเมตตาเอ็นดูเธอจนเธอยกย่องศรัทธาเขาเป็นดังพ่อพระ แต่แล้ว เอ ก็พบความจริงว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอคิดผิด พ่อพระของเธอแท้จริงคือซาตานที่ทำลายชีวิตเธออย่างย่อยยับ เอ ถูกเจ้านายข่มขืนจนตั้งท้องและถูกไล่ออกจากงาน เธอโกรธแค้นเขาแต่ไม่เคยโกรธแค้นลูก เธอได้พบกับเสียงเตือนจากธรรมชาติ ที่ทำให้เธอได้สัมผัสกับพลังแห่งรักจากหัวใจของแม่ ที่ช่วยประคับประคองชีวิตของเธอและลูกได้โดยลำพัง "แสงสุดท้าย - Last Light" ซาร่า (นันทรัตน์ เชาวราษฏร์) เด็กสาวนักเรียนนอกจากครอบครัวที่สมบูรณ์ เธอร่าเริง เธอฉลาด และเธอมีความรัก แต่ความรักทำให้เธอหลงผิด เธอติดยาเสพติดเพียงเพราะคำพูดเดียวจากชายคนรักที่บอกว่า เธอไม่รู้หรอกว่าคนติดยารู้สึกยังไง จากแค่ลองกลายเป็นติด จากติดกลายเป็นเอเย่นต์ ยาเสพติดได้คร่าชีวิตเธอจนแทบไม่เหลืออะไรเลย กระทั่งเธอออกบวชและได้พบกับพระธรรม แสงสว่างนี้ทำให้เธอหลุดพ้นจากบ่วงทุกข์ที่ผ่านมาได้ แต่มันเป็นแสงสุดท้ายในชีวิตของเธอ "ฟื้น - Conscious" เจน (กิตต์ลภัส กรสุทธิ์ไรวรรณ) เด็กสาวนักกีฬาดีเด่น เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความอบอุ่น เธอเป็นความหวังของที่โรงเรียนและครอบครัว ที่จะสร้างชื่อเป็นนักกีฬาทีมชาติ แต่แล้วความหวังของทุกคนก็ดับวูบลง เมื่อเธอถูกเดนนรกกลุ่มใหญ่ฉุดลากเธอไปย่ำยี พวกมันฆ่าแต่เจนไม่ตาย เธอเก็บงำเรื่องราวทั้งหมดไว้เพียงลำพังเพราะหวังว่ามันจะจบ แต่การตั้งท้องที่ไม่รู้ว่าใครคือพ่อ ทำให้เธอไม่ใช่ความหวังที่น่าภาคภูมิใจอีกต่อไป เธอถูกไล่ออกจากบ้านและโรงเรียนเป็นบาดแผลที่เจ็บปวดยิ่งกว่าการถูกเดนนรกย่ำยี จนเธอคิดจะฆ่าตัวตาย แต่ชีวิตเล็ก ๆ ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงความคิดของเธอตลอดไป
สะบายดี วันวิวาห์ (2554/2011) เชน (ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) ทำงานเป็นนักเขียนสกู๊ปให้กับนิตยสารชั้นนำฉบับหนึ่ง เชนเคยเดินทางมาทำข่าวที่ประเทศลาวเมื่อ 6 เดือนก่อน ในครั้งนั้นเขาได้รู้จักกับ คำ (คำลี่ พิลาวง) หญิงสาวชาวลาวที่เขารู้สึกผูกพันและชอบพอกับเธอ เขาให้สัญญาว่าจะกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้ง เชนทำตามคำมั่นโดยไม่คาดคิดมาก่อนว่าการกลับมาเยือนครั้งนี้จะทำให้เกิดเรื่องราวโกลาหลจนถึงขั้นต้องแต่งงานกับเธอ โดยทั้งที่เขาและเธอก็ยังไม่มั่นใจและไม่แน่ใจในงานแต่งงานครั้งนี้นัก ด้วยความแตกต่างทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตหลาย ๆ ด้าน ทั้งความทันสมัยของคนเมืองซึ่งดูขัดแย้งกับความงดงามและเรียบง่ายแบบดั้งเดิมของวิถีชีวิตชาวลาว เวลา 3-4 วันก่อนงานแต่งงาน ชายหนุ่มจากเมืองใหญ่ และหญิงสาวในเมืองเล็กที่มีวัฒนธรรมแตกต่างกัน ทั้งคู่ต้องเรียนรู้และปรับตัวร่วมกันเพื่อที่จะเริ่มต้นชีวิตครอบครัวใหม่ให้ได้ ขณะเดียวกัน ฝน (ธนิยา อำมฤตโชติ) เพื่อนสาวสมัยเรียนของเชน เริ่มเข้ามาพัวพันกับความรักของพวกเขา
ขอบคุณที่รักกัน (2554/2011) ภาพยนตร์แห่งความรักและความเข้าใจที่พูดถึงความรักของคนหลากหลายวัย เล่าถึงเหตุการณ์ของ 3 ครอบครัวไปพร้อม ๆ กัน จ่อย (พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข) กับ เป๋อ (อภิญญา สกุลเจริญสุข) พี่ชายที่คอยดูแลน้องสาวที่เป็นออทิสติกซึ่งต้องร่วมเดินทางไปกับ อาจารย์เสนาะ (สมชาย ศักดิกุล) อาจารย์ดนตรีที่กำลังจะหูหนวก พร้อม ๆ กับที่ได้รับรู้เรื่องของ ขวัญ (ลลิตา ปัญโญภาส) ภรรยาที่ต้องละทิ้งความสุขความสบาย ความเคยชินของตัวเองเพื่อทำตามความฝันของสามี (ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) และอีกด้านหนึ่งในเมืองหลวงเราได้เห็น เถ้าแก่ (ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว) โรงงานใหญ่ที่ไม่เคยเชื่อฟังคำของ เตี่ย (อุดม ทรงแสง) จนเมื่อ หมวย (ณภัทร บรรจงจิตไพศาล) หลานสาวที่ติดคุย BB กลายเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ของทุกคนในครอบครัว
อีนางเอ๊ย เขยฝรั่ง (2554/2011) เรื่องราวความรักของหนุ่มสาวอีสานยุคใหม่ (ที่เกิดขึ้นแล้วจริง ๆ นะ!) พร้อมกับคำถามคำโตฝากไปให้หนุ่มไทยทั้งหลายเอากลับไปคิดว่า หนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าวมีดีจั๋งได๋แท้น้อ? อีนางทั้งหลายถึงปันใจจะไปมีผัวฝรั่งกันเมิ้ด? ผ่านมุมมองของ บักมาร์ค (ภัทรภณ โตอุ่น) หนุ่มอีสานที่เฝ้าฝันจะมีอนาคตที่ดีเพื่อกลับมาพัฒนาหมู่บ้านโดยมีพ่อที่เป็น ผู้ใหญ่บ้าน (ปิยะ ตระกูลราษฎร์) เห็นดีเห็นงามด้วยตัดสินใจขายควายส่งลูกชายเข้าเรียนนิติศาสตร์รามฯ หวังว่าจบมาจะได้เป็นปลัดหรือทนาย แต่หลังจากใช้ชีวิตในรั้วมหาลัยในกรุงมา 6 ปีเต็ม ก็ยังสอบไม่ผ่านสักที เพราะติดอยู่ที่วิชาอังกฤษ วิชาเดียวที่นอกจากจะไม่ถนัดแล้วยังไม่ใช่ภาษาประจำชาติอีกต่างหาก จนเกิดอาการท้อ และตัดสินใจกลับมาตั้งหลักที่บ้านเกิด ก่อนที่จะพบว่าหมู่บ้านกำลังถูกรุกรานทางวัฒนธรรม เมื่อผู้สาวที่ทั้งสาวและไม่สาวต่างมีค่านิยมใหม่ขึ้นมากันเป็นแถวนั่นคือ การนิยมมีเขยฝรั่ง Love Farang แม้แต่ แต๋วแหล่ (รุ้งลาวัลย์ โทนะหงษา) ที่เกลียดฝรั่งขนาดหนักก็ยังเปลี่ยนใจไปรับฮักพ่อบักสีดา เอาละซิ! ความสงบสุขที่เคยมีกำลังจะสูญหาย สถานการณ์รอบตัวย่ำแย่อย่างหนัก
ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๓ ยุทธนาวี

ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๓ ยุทธนาวี (2554/2011) การประกาศเอกราชที่เมืองแครง และสังหารสุระกำมาเหนือยุทธภูมิฝั่งแม่น้ำสะโตงของ “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” (สมเด็จพระนเรศ) ในปีพุทธศักราช 2127 ได้สร้างความตระหนกแก่ “พระเจ้านันทบุเรง” องค์ราชันหงสาวดีพระองค์ใหม่ ด้วยเกรงว่าการแข็งข้อของอยุธยาในครั้งนี้จะเป็นเยี่ยงอย่างให้เหล่าเจ้าประเทศราชที่ขึ้นกับหงสาวดีอาศัยลอกเลียนตั้งตัวกระด้างกระเดื่องตาม แต่จนพระทัยด้วยติดพันศึกอังวะ จึงจำต้องส่งเพียงทัพ “พระยาพะสิม” และ “พระเจ้าเชียงใหม่” เข้าประชิดกรุงศรีอยุธยา ทางหนึ่งนั้นพระเจ้านันทบุเรงทรงประมาทสมเด็จพระนเรศ ด้วยเห็นว่ายังอ่อนพระชันษาคงมิอาจรับมือจอมทัพผู้ชาญณรงค์ทั้งสองได้ ทางหนึ่งก็สำคัญว่ากรุงศรีอยุธยายังบอบช้ำแต่คราวสงครามเสียกรุง ไพร่พลเสบียงกรังยังมิบริบูรณ์คงยากจะรักษาพระนคร ครั้งนั้นพม่ารามัญยกเข้ามาเป็นศึกกระหนาบถึง 2 ทาง ทัพพระยาพะสิมยกเข้ามาทางด่านพระเจดีย์สามองค์เลยล่วงเข้ามาถึงแดนสุพรรณบุรี ส่วนพระเจ้าเชียงใหม่-นรธาเมงสอมาจากทางเหนือ นำทัพบุกลงมาตั้งค่ายถึงบ้านสระเกศ แขวงเมืองอ่างทอง กิตติศัพท์การชนะศึกของสมเด็จพระนเรศหลายครั้งหลายคราระบือไกลถึงแผ่นดินละแวก “เจ้ากรุงละแวก” มิได้ทอดธุระ ได้ลอบส่งจารชนชาวจีนฝีมือกล้านามว่า “พระยาจีนจันตุ” มาลอบสืบความที่กรุงศรีอยุธยาแต่ถูกจับพิรุธได้จนต้องลอบตีสำเภาหนีกลับกรุงละแวก สมเด็จพระนเรศทรงนำทัพเรือออกตามจนเกิดยุทธนาวี แต่พระยาจีนจันตุหนีรอดได้ เมื่อเจ้ากรุงละแวกได้ทราบกิตติศัพท์การณรงค์ของพระนเรศจึงเปลี่ยนพระทัยหันมาสานไมตรีกับอยุธยา และส่ง “พระศรีสุพรรณราชาธิราช” ผู้อนุชามาช่วยอยุธยาทำศึกหงสา หากแต่พระศรีสุพรรณผู้นี้ต่างจากเจ้ากรุงละแวกเพราะหาใคร่พอใจผูกมิตรด้วยอยุธยา การได้พระศรีสุพรรณฯ มาเป็นสหายศึกจึงประหนึ่งอยุธยาได้มาซึ่งหอกข้างแคร่

หน้าที่