ส.ค.ส. สวีทตี้ (2554/2011) เพราะเชื่อว่าทุกคนอยากได้ "สภาวะทิ้งตัว" ทุกคนอยากได้ ใครซักคนที่เรารัก ใครซักคนที่รักเรา ใครซักคนที่พึ่งพิงได้ และใครซักคนที่เราสามารถทิ้งทั้งตัวและหัวใจไว้กับเค้าได้ เรื่องราวความรักของคนเหล่านี้ เริ่มต้นขึ้นในคืนวันคริสมาสอีฟ และจบลงในคืนวันวาเลนไทน์ "คนบางคนหลงรักแฟนเพื่อน และคนบางคนหลงรักเพื่อนแฟน" "ผู้ชายบางคนเป็นพี่ชายที่น่ารักดี และผู้หญิงบางคนอยากหาพี่ชายดี ๆ มาเป็นคนรัก" "คนบางคนแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าเป็นคู่รักหรือเป็นคู่แข่ง และคนบางคนที่ยอมแพ้เพราะยอมให้" "คนบางคนไม่รู้ว่าหลงรักเพื่อนตัวเอง และคนบางคนไม่รู้ว่าเป็นเพื่อนรักหรือเป็นคนรัก" "คนบางคนต้องการหาใครซักคนบนโลกมาเป็นคนรัก และใครบางคนต้องการเป็นคนถูกรักมากที่สุดในโลก" "คนบางคน เมื่อมีความรักที่ดีดันไปทำเลว และเมื่อเวลาที่จะทำดี ใคร ๆ ก็ดันเชื่อว่าเดี๋ยวก็จะเลว" หลายครั้งที่เราสรุปว่า นี่คือตอนจบของความรัก แต่เชื่อเถอะ บางทีมันอาจจะไม่ใช่จุดจบ แต่มันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นด้วยซ้ำ จากภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้เราเชื่อได้ว่า ความรักจะจบลงเมื่อไหร่ก็ได้ และความรักจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้เช่นกัน คนรักของเราอาจจะเป็นคนนี้ก็ได้ เป็นคนใหม่ก็ได้ หรืออาจจะเป็นคนเก่าก็ได้ ความรักเป็นเรื่องที่ไม่ได้สวยงามอย่างเดียว มันมีเรื่องที่เลวร้ายรวมอยู่ด้วย แต่เมื่อเราเลือกที่จะมีคนรักแล้วล่ะก็ เราควรจะยอมรับทั้งส่วนที่สวยงามและส่วนที่เลวร้ายของคนรักเราด้วย...
วอนโดนเตะ!! THE KICK (2554/2011) “วอนโดนเตะ!!” (The Kick) ร่วมผนึกกำลังครั้งยิ่งใหญ่ สู่ปรากฏการณ์ภาพยนตร์แอคชั่นระดับโลก โดยการกำกับของ “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” ผู้สร้างภาพยนตร์แอคชั่นไทยสู่สายตาทั่วโลก ครั้งแรกของซูเปอร์สตาร์เมืองไทย “จีจ้า ญาณิน – หม่ำ จ๊กม๊ก” ปะทะซูเปอร์สตาร์เกาหลี “Cho Jaehyun – Ye Jiwon” และขอแนะนำนักแสดงหน้าใหม่ “Taejoo – K Kim” 2 นักกีฬาเทควันโดแห่งค่าย “K-Tigers” จากเกาหลีที่มีดีกรีแชมป์โลกการันตี เตรียมระเบิดความมันส์พร้อมกันทั่วประเทศ 22 ธันวาคมนี้ เรื่องราวความรัก มิตรภาพ ความผูกพันระหว่างครอบครัวชาวเกาหลีกับครอบครัวชาวไทย เมื่อ “มูน” (โจแจฮุน) และ “ยูน” (เยจีวอน) สองสามีภรรยาชาวเกาหลีที่ทั้งคู่เป็นอดีตนักเทควันโดทีมชาติ ได้ตัดสินใจเดินทางมาสร้างครอบครัวอยู่ที่เมืองไทย โดยยูนเปิดร้านอาหารเกาหลี ส่วนมูนผู้ผิดหวังจากแชมป์การแข่งขันเทควันโดโอลิมปิก จึงหันมาเปิดโรงเรียนฝึกสอนเทควันโด และปลูกฝังเทควันโดให้กับลูกๆ ทั้ง 3 คนคือ “แทยัง” (แทจู), “แทมิ” (เคคิม) และ “แทพุง” (ยูโร ธนเทพ) พร้อมกับตั้งความหวังแชมป์เทควันโดไว้ที่แทยัง แต่ว่าแทยังกลับมีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้อง จึงทำให้เขาทะเลาะกับพ่อและถูกทำโทษอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อครอบครัวของมูนเข้าไปเกี่ยวข้องและขัดขวางแผนการลักลอบขโมย “กริชโบราณ” สมบัติอันล้ำค่าที่แก๊งของ “ซอคดู” (อีกวันฮุน) กลุ่มโจรผู้ก่อการร้ายต้องการจะขโมยเพื่อมาเป็นสมบัติของตนเอง จึงเป็นสาเหตุทำให้ครอบครัวของมูนตกอยู่ในสภาวะอันตราย และถูกตามล่าจากเหตุการณ์ครั้งนั้น มูนจึงตัดสินใจพาลูกทั้ง 3 คนหลบหนีโดยนำไปฝากไว้ที่บ้านป่าของ “หม่ำ” (หม่ำ จ๊กม๊ก) เพื่อนสนิทชาวไทยที่ทำอาชีพเป็นผู้ดูแลสวนสัตว์ และคอยให้ความช่วยเหลือครอบครัวของเขามาโดยตลอด ทั้งแทยัง แทมิ และแทพุงจึงได้รู้จักกับ “หว่าหวา” (จีจ้า ญาณิน) หลานสาวของหม่ำที่มีความสามารถเก่งกาจด้านมวยไทยเป็นพิเศษ และยังเป็นผู้ถ่ายทอดการต่อสู้ให้กับแทยังอีกด้วย เมื่อการต่อสู้ของสองชาติ เทควันโดและมวยไทยถูกนำมารวมเป็นหนึ่งเดียวกัน การต่อสู้เพื่อปกป้องครอบครัว คนรัก และการเผชิญหน้าของเลือดนักสู้จึงเริ่มต้นขึ้น…
ฝนตกขึ้นฟ้า (2554/2011) "ตุล" เป็นนายตำรวจหนุ่มมือสะอาด อนาคตไกล แต่วันหนึ่งเขาถูกบังคับให้ทิ้งคดียาเสพติดคดีใหญ่ เพราะจำเลยคือผู้มีอิทธิพลเหนือกฎหมาย ชีวิตของตุลจบลงในคุกเพราะไม่ยอมรับสินบน ในประเทศเรามีองค์กรลับองค์กรหนึ่ง ตั้งขึ้นเพื่อ "เก็บ" มารสังคมที่กฎหมายทำอะไรไม่ได้ เช่น พวกนักการเมืองคอรัปชั่น พ่อค้ายาเสพติด หรือพวกร่ำรวยจากการค้าประเวณีเด็ก และอิทธิพลเหนือกฎหมายทั้งหลาย ตุลกลายมาเป็นมือสังหารขององค์กรลับแห่งนี้หลังออกจากคุก งานชิ้นล่าสุดของเขา ตุลพลาดท่าถูกยิงที่ศีรษะ แต่รอดตายหวุดหวิด เขานอนโคม่าอยู่ร่วมสามเดือน เมื่อฟื้นขึ้นมาตุลเห็นภาพทุกอย่างกลับหัว และมือสังหารไม่น่าจะเป็นอาชีพที่ดีนักสำหรับคนที่ เห็นทุกอย่างกลับหัว ตุลจึงตัดสินใจลาออกจากองค์กรนั้นและกลับไปบ้านเกิดในชนบทเพื่อมีชีวิตใหม่ที่สงบสุข แต่ "กรรม" ที่ตุลทำไว้ในอดีตจะปล่อยให้เขาหลุดจากบ่วงของมันไปได้ง่ายๆ จริงหรือ ความชอบธรรมที่เขาเชื่ออย่างสนิทใจว่าเขามีส่วนสร้างมันขึ้นมานั้น เป็นความชอบธรรมจริงหรือ และสมณเพศที่ตุลตัดสินใจเข้าไปใช้ชีวิตอยู่นั้น จะสามารถให้ความสงบร่มเย็นกับคนบาปอย่างเขาได้จริงหรือ
The Legend Of Ka-kee กากี ทะลุมิติ (2554/2011) การกลับมาของ กากี ผู้หญิงซึ่งได้ชื่อว่าหญิงงาม กายหอมที่หวนคืนมาเพื่อต้องการให้โลกรู้ว่า เธอไม่ได้เลวดังคำร่ำลือ.... พบกับ เชอร์รี่ สามโคก กับบทบาทอันเร่าร้อน ร้อนแรง..... นรินทร์ นักเขียนหนุ่มได้รับมอบหมายให้เขียนวิจารณ์พฤติกรรมของกากีกับเรยา โดยในวันหนึ่ง ขณะที่เขาศึกษางานอยู่นั้นเขาก็ได้พบกับกากีจากในฝันซึ่งในภพนั้นเขาก็เป็นหัวหน้าโจรป่า เป็น เพราะด้วยความผูกพันในภพภูมิของทั้งสองทำให้กากีได้หลุดทะลุมิติออกมาในยุคปัจจุบัน แต่ ด้วยมิติแห่งกาลเวลาซึ่งทำให้กากีไม่สามารถอยู่ในโลกปัจจุบันได้ตลอด นรินทร์ จึงต้องหา ทางออกให้ได้
มิดไมล์ RACING LOVE (2554/2011) จะเป็นอย่างไร หากสามล้อเครื่องตีนผี อยากพิสูจน์ตัวเอง ฝ่าดงเสียงด่า ทะลุขีดจำกัดรูปร่างหน้าตา เป็นนักแข่งรถ ซูเปอร์คาร์หัวใจคุณธรรมอยากจะมาดแมน แฮนด์ซัม แต่หุ่นอวบอัดเหมือนยางในรถวางซ้อนกันสามชั้น อยากหล่อ พ่อก็ไม่ให้มรดกใบหน้า แต่วีรกรรมแสบซ่า บาดจิตประทับใจสาว อยากจะมีรัก ก็ตกที่นั่งเวียนเฮด ต้องตีหน้าซื่อรับบทศิราณีจำเป็นให้กับผู้หญิงที่ตัวเองแอบชอบ ด้านสาวเจ้าก็ไปตกหลุมรักหนุ่มหล่อมาดเซอร์ผู้ไม่เคยรักใครที่พยายามผลักไสสาวเจ้าให้ไปไกลตัว แต่ยิ่งผลักกลายเป็นว่ายิ่งใกล้ ปรึกษาศิราณีก็เจอศิราณีสับขาหลอก หนำซ้ำยังมีหนุ่มกวนส้นแอนด์เกรียนโพด ๆ มาตกหลุมรักจุดใต้ตำตอรักหญิงเดียวกับศิราณี จากสามล้อเครื่องผู้ฝันจะซิ่งบนสนามแข่งระดับประเทศ ต้องมาวุ่นวายกลายเป็นศิราณีจำเป็น แถมยังเจ้าเล่ห์เพทุบาย ตีหน้าซื่อ สับขาหลอกอุปมาเป็นมนุษย์โลกประเภทหวังดีประสงค์ร้าย หน้าตาไม่ให้แต่ใจอยากจีบ สร้างเองให้ผู้ชายสองคน แข่งขันกันแย่งชิงหัวใจสาว ส่วนตัวศิราณีแอบเป็นตาอยู่ย่องดอดหวังคว้าสาวเจ้าไปครอบครองหนทางชีวิตยิ่งกว่าสนามแข่งรถ ฉวัดเฉวียนเวียนหัว เหวี่ยงหวือสุดเสียวเยี่ยวราดคน 4 คน ที่มีเส้นทางชีวิตเลี้ยวมาเปรี้ยวใส่กันเด็กหนุ่มสุดเกรียน ไม่กล้าเหยียบเข็มไมล์รถแข่ง ไม่กล้าจีบสาว จะเอาชนะความกลัวในหัวใจได้หรือไม่หญิงสาวเพ้อผู้ไล่ตามหารักแท้ จะรู้ไหมว่าความรักแท้จริงแล้วไม่ต้องตามหา เดี๋ยวมันจะมากองที่หน้าตักหนุ่มหล่อเซอร์ กวน เข้ม ผู้ไม่เคยรักใครจะรู้จักความรักและเข้าใจชีวิตหรือไม่และบุคคลสำคัญ... สามล้อเครื่องโลโซ จะสร้างบทพิสูจน์ครั้งประวัติศาสตร์ คนดีและคนเก่ง ไม่ได้วัดกันที่หน้าตา หุ่นไม่ให้แต่ใจแรงเกินเครื่องจะพลิกชีวิตจากช่างกลายเป็นนักแข่งได้หรือไม่...
30 กำลังแจ๋ว (2554/2011) จ๋า (พัชราภา ไชยเชื้อ) สาวเอเจนซี่โมษณาวัยย่าง 30 กำลังแจ๋วไปซะทุกเรื่อง ทั้งรูปร่างหน้าตาที่แสนจะแจ่มเจิดจรัสเต็มดีกรี หน้าที่การงานกำลังไปได้สวย เธอมีไลฟ์สไตล์สุดเริ่ดกับการรับจัดปาร์ตี้เฮาส์แฮงเอ้าท์เฮฮากับเพื่อน ๆ และมีชีวิตรักสุดเปอร์เฟ็กต์กับ นภ (ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล) กัปตันหนุ่มรูปงามที่บ่มความรักกันมาตั้ง 7 ปี ถึงมันจะย่างเลข 3 ในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว แต่เธอช่างมีความสุขเหลือเกิน ช่วงเวลานี้ช่างเป็นเวลา "30 กำลังแจ๋ว" ของเธอจริง ๆ เค้กก้อนโตบนโต๊ะ ปักเทียนเลข 3 และ 0 จ๋า ฉลองวันเกิดกับ นภ อย่างมีความสุข ทุกฝันในชีวิตของเธอที่มีเขาอยู่เคียงข้างค่อย ๆ ถูกถ่ายทอดออกมาให้ผู้ชายที่เธอรักฟังจนหมด ไม่ว่าจะเป็นบ้านของเรา งานแต่งงานของเรา จนกระทั่งถึงเรื่องลูกของเรา โดยที่เธอไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า ทันทีที่เธอพรั่งพรูความฝันออกมากองพร้อมแพลนชีวิตทั้งหมด มันทำให้ นภ เกิดความกลัวว่าเขาจะสูญเสียพื้นที่ความอิสระส่วนตัวของเขาไป เขาจึงขอถอยห่างความสัมพันธ์กับจ๋าในวันที่จ๋าถูกจัดว่าเป็นสาวเต็มวัย 30 พอดิบพอดี จ๋า ตะโกนก้องดัง ๆ ในใจว่า "มาขอห่าง ๆ อะไรกันตอนฉันอายุสามสิบ ฉันจะเริ่มกับใครใหม่ได้!!!" แต่เธอหารู้ไม่ว่าจุดสิ้นสุดของบางสิ่ง จะเป็นจุดเริ่มต้นของอีกหลายสิ่งเช่นกัน และจุดสิ้นสุดของความสัมพันธ์ในวันที่อายุ 30 มันกำลังจะกลายเป็นวันแห่งการเริ่มต้นที่จะทำให้ 30 ของเธอกลายเป็น 30 กำลังแจ๋ว ยกกำลังความแจ๋วดับเบิ้ลแจ๋ว ชนิดที่ตัวเธอเองก็ไม่คาดคิดว่ามันจะแจ๋วได้ขนาดนี้ เทียนบนเค้กเปลี่ยนเลขไป จ๋า ฉลองวันเกิดอีกปีกับบรรดาเพื่อนซี้สุดเปรี้ยว อันมี ป้าอ้วน (อรอานิญช์ พีรชาขจรพัฒน์), เจ๊ใหญ่ (วรินดา ดำรงผล), ซี (เบญจวรรณ์ เพียรทำดี), ยุ้ย (ศศพินทุ์ ศิริวานิช) และ เซน (นิธิศ วารายานนท์) หนุ่มเซอร์รุ่นน้องผู้ช่วยของเธออย่างสนุกสนานโดยไม่รู้ตัวสักนิดว่ารอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเธอไปติดตราตรึงใจหนุ่มน้อยอีกคนหนึ่งนามว่า ปอ หรือ รศิต (ภูภูมิ พงศ์ภานุ) หนุ่มน้อยหน้าตาแจ่มแจ๋วเจ้าของรอยยิ้ิมสดใส แววตาเต็มไปด้วยความร่าเริงเปิดเผย ที่สำคัญเขาอายุน้อยกว่าเธอ 7 ปี และ มีความเชื่อว่าจากสถิติล่าสุดเท่าที่มีการสำรวจอายุขัยของคนเราพบว่าผู้ชายเสียชีวิตก่อนผู้หญิงประมาณ 7 ปี พี่เกิดก่อนผม 7 ปี ถ้าผมกับพี่แต่งงานกัน แล้วเป็นไปตามนั้นผมก็จะตายพร้อม ๆ กับพี่พอดีแหล่ะ ไม่ดีเหรอจะได้ไม่ต้องทิ้งให้อีกคนร้องไห้ไว้ข้างหลัง "30 ช่างยกกำลังแจ๋วสุด ๆ" ในความรู้สึกของ จ๋า หัวใจเธอกำลังยิ้ม และมีชีวิตชีวาไปกับสารพัดความพยายามของเจ้าเด็กปรสิต (ปอ+รศิต) เขากระตือรือร้น ที่จะทำให้เธอมั่นใจ และเชื่อใจตามคำพูดของเขาว่า "พี่เป็นคนพิเศษสำหรับผมนะ จนผมลืมไปแล้วว่าพี่อายุเท่าไหร่"
30+ โสด ON SALE (2554/2011) อิง (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ช่างภาพสาวฝีมือดีพอ ๆ กับหน้าตา คือตัวแทนของสาว 30 อัพ ที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีสตูดิโอถ่ายรูปชื่อดังเป็นของตัวเอง มั่นอกมั่นใจในตัวเองสูงตามสไตล์สาวมั่นยุคใหม่ที่เชื่อว่ายังไงก็ตาม คาน ไม่ใช่แหล่งพักพิงสุดท้ายสำหรับสาวสวยรวยความสามารถอย่างเธอจะสิงสถิตย์อยู่ ถ้าบังเอิญแฟนหนุ่มที่คบกันมา 7 ปี ไม่ขอเธอแต่งงานซะก่อน แต่เป็นการขอไปแต่งงานกับคนอื่น อิง มีเพื่อนสาวทั้ง 2 ต้องคอยหาคู่เดทให้กับเธออย่าง มิ้นท์ (พิจิตตรา สิริเวชชะพันธ์) สาวเปรี้ยวชอบกินเด็ก แนะพาไปทางโลก ตรงเข้าฟิตเนสหาครูฝึกหนุ่ม ๆ หรือปาร์ตี้จับคู่ แนะนำผู้ชายมาไม่ซ้ำหน้า ตามด้วย ยี้ (สุดารัตน์ บุตรพรม) สาวเฟมินิสต์ แนะนำทางธรรม ชวนนั่งสมาธิ ทำตัวเพื่อสังคม พาไปประท้วงการสร้างซูเปอร์มาร์เก็ตต่างชาติ แต่ก็ยังไม่ถูกใจ อิง สักคน เมื่อเข้าตาจนอยู่ ๆ ฟ้ามีตาส่ง จืด (อารักษ์ อมรศุภศิริ) หนุ่มหน้าตาสมชื่อมาช่วยเธอตามหาผู้ชายในฝัน พร้อมกับสารพัดวิธีที่จะช่วยให้ สาว30+อย่าง อิง ลงจากคาน เพียงแต่เจ้าตัวต้องเชื่อใจและทำตามที่จืดบอก และแล้วผู้ชายที่ต้องการก็จะมาจริง แทน (เดิมพัน อยู่วิทยา) คือผู้ชายที่อิงใฝ่ฝัน เพียบพร้อมทุกอย่างตามสเปคที่เธอต้องการ เป็นผู้ชายดี ๆ มหาเศรษฐีหนุ่มผู้มีศิลปะในหัวใจ รักการผจญภัยไปพร้อมกับรักโลกใบนี้ ที่สำคัญพร้อมจะรัก อิง อยู่ ๆ ก็มีผู้ชาย 2 คนเข้ามาเดินวนเวียนในชีวิต แทน เป็นผู้ชายที่ อิง ใฝ่ฝัน แต่ จืด กลับเป็นผู้ชายที่ อิง อยู่ด้วยแล้วสบายใจอย่างประหลาด ความรักมักเป็นแบบนี้ ตอนไม่มีมันก็ไม่มา แต่พอตอนทำใจได้ กลับมาให้เลือกจนวุ่นวาย ทุกครั้งที่หัวใจแตกสลาย จะเกิดรอยแยกพร้อมที่จะเพาะปลูกเม็ดพันธุ์ความรักต้นใหม่เสมอ แต่จะเลือกปลูกต้นอะไรอิงมาถึงจุดต้องตัดสินใจอีกครั้ง การตัดสินใจคราวนี้ไม่ต้องใช้เหตุผล แต่ใช้ความรู้สึก แต่จะรู้ได้อย่างไรว่า "ใช่"
เลิฟซัมเมอร์ รักตะลอนออนเดอะบีช (2554/2011) แจ็ค (ธนา เอี่ยมนิยม) วัยรุ่นผู้ที่ลุ่มหลงไปกับชีวิตฟุ้งเฟ้อไปวัน ๆ จนวันหนึ่งเขาได้พบกับ จอร์จ (ธันวา สุริยะจักร) หนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ซึ่งกำลังขาดเพื่อนร่วมเดินทางไปบ้านเกิดของแม่ที่ล่วงลับไปแล้ว ทั้งสองตัดสินใจเดินทางร่วมกัน ซึ่งระหว่างทางบังเอิญได้พบกับ ไข่มุก (พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) สาวใสวัยน่ารักที่ขอติดรถไปด้วยเพราะต้องการไปตามล่าหาความฝันบางอย่าง เพียงเพื่อหวังให้พ่อภูมิใจกับสิ่งที่เธอได้ตัดสินใจทำลงไป แต่สิ่งที่เธอพยายามจะเป็นนั้นกลับไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเธอ ในแบบที่เธอต้องการจริง ๆ ยูอิ (ยูอิ ทัตสึมิ) ดาราสาวหนัง AV ผู้ที่โด่งดังที่สุดในประเทศญี่ปุ่น แต่ ยูอิ กลับหลีกหนีความวุ่นวายจากบ้านเกิดเบนเข็มชีวิตมุ่งหน้าสู่เมืองไทยเพื่อต้องการหาที่สักที่ ที่มีคนที่รักเธออย่างจริงใจ และเมื่อแว่บแรกที่เธอได้พูดคุยกับ จอร์จ ผู้ที่มองเธอด้วยสายตาแบบไม่แยแส หรือใส่ใจในรูปร่างที่เซ็กซี่ของ ยูอิ เลยแม้แต่น้อย ด้วยจุดนี้เองจึงทำให้ ยูอิ อยากเอาชนะใจ จอร์จ เธอจึงยกมือขอเป็นอีกหนึ่งคนที่รวมทริปไปในครั้งนี้พร้อมกับเพื่อนตัวป่วนอย่าง บ๊อบ (โจนาธาน แซมซัน) จนได้มาพบ เอก (ธนา สุทธิกมล) เจ้าของรีสอร์ทหนุ่มสุดหล่อ!? มิตรภาพที่เพิ่มขึ้นระหว่างการเดินทางร่วมกันจาก "กรุงเทพ ถึง ภูเก็ต" เริ่มต้นแค่คนแปลกหน้า กลายมาเป็น "เพื่อน" และความเป็นเพื่อนต้องสะดุดลง ด้วยความรู้สึกที่ "มากกว่าเพื่อน" ใครจะ "ซื่อสัตย์" ต่อความรู้สึกตัวเองได้ก่อนกัน ทั้ง 4 คนนี้ ใครจะเป็น คนอยู่ และ ใครจะต้องเป็นฝ่ายเดินจากไป
หมาแก่ อันตราย FRIDAY KILLER (2554/2011) เรื่องราวของ เป้ อูซี่ หรือ อินทรีแห่งเมืองจัน (เทพ โพธิ์งาม) มือปืนรับจ้างที่เพิ่งพ้นโทษออกมาจากคุก แล้วเพิ่งค้นพบความจริงที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนคือ ในชีวิตเขานั้นมีลูกสาวในไส้อยู่หนึ่งคนชื่อ ดาว (พลอย จินดาโชติ) แต่ เป้ กลับต้องหนีจากการตามล่าของลูกสาวของตัวเองเพราะเธอเข้าใจผิดคิดว่า เป้ อูซี่ คือคนที่ฆ่าพ่อที่แท้จริงของเธอ และคนที่ข่มขืน เพชร (สายป่าน อภิญญา) คนที่ดาวคบอยู่ การล้างแค้นของลูกตนเอง ทำให้ตนเองพบจุดจบ
Camellia รักแรก รักเธอ รักสุดท้าย (2554/2011) Iron Pussy (ไมเคิล เชาวนาศัย) คือสายลับในยุค 70 ที่ถูกส่งมาปฏิบัติภารกิจที่ปูซาน ทุกครั้งที่เขาได้รับภารกิจใหม่ เขาจะหายเข้าไปในร้านเสริมสวยก่อนจะกลับออกมาในคราบของสาวสวยทรงเสน่ห์ที่แสนเย้ายวน และอย่างไม่ทันตั้งตัว ขณะที่เธอไปที่ไนต์คลับแห่งหนึ่ง เธอก็พบว่าตัวเองได้ตกหลุมรักกับชายหนุ่มเกาหลีแสนดีคนหนึ่งเข้า (คิม มิน จุน) เมื่อความรักนั้นกำลังผลิดอกงดงาม กระทั่งภารกิจใหม่เข้ามาและ "เขาคนนั้น" ก็คือเป้าหมายที่เธอต้องฆ่า... Iron Pussy จะเลือกอะไรระหว่าง "ความรัก" กับ "หน้าที่" ที่เธอได้รับ
รักจัดหนัก Love, Not Yet (2554/2011) ทอมแฮ้ง - เรื่องวุ่น ๆ ของ นัท (อริสสรา เลอมวณ) สาวหล่อนักกีฬาบาสเกตบอลทีมโรงเรียนขวัญใจสาว ๆ ซึ่งเป็นเพื่อนซี้กับ เนม (นภัสสร เอี่ยมเจริญ) นักบาสฯ สาวสุดเซ็กซี่ที่ชอบจิ๊จ๊ะกับหนุ่ม ๆ ในคืนที่ทีมนักบาสทั้งหญิงชายชวนกันไปปาร์ตี้เลี้ยงปิดเทอม เลี้ยงฉลองกันจนเมาหัวทิ่ม นัทตื่นมาพบว่าตัวเองได้เสียสาวให้กับใครสักคนไปแล้วในคืนนั้น แม้เธอจะพยายามลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่เหตุการณ์นี้ก็ทำให้ชีวิตพลิกผันไปอย่างไม่คาดคิด แล้ว นัท จะเลือกเส้นทางชีวิตต่อไปอย่างไร? ความเป็นเพื่อนที่แสนรักของ เนม จะช่วยเธอได้ไหม และแม่ (จินตหรา สุขพัฒน์) ผู้หวังดีและคอยช่วยหาทางออกให้กับลูกอยู่เสมอล่ะ จะใช่ผู้ชี้คำตอบให้แก่นัทได้จริง ๆ รึเปล่า? เป็นแม่เป็นเมีย - ม่อน (รัชพล แย้มแสง) นักกีฬามวยสากลอนาคตไกลระดับตัวแทนโรงเรียน เกิดพลาดทำให้ อิ๋ง (วรรณิศร เลาหมนตรี) สาวดาวโรงเรียนผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้อง ตั้งท้องในขณะที่ทั้งคู่ยังเรียนอยู่ พวกเขาจึงต้องหยุดเรียนมาอยู่บ้าน เพื่อเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน ผ่านเหตุการณ์ชุลมุนแสนวายป่วงของบรรดาเพื่อน ๆ และคนรอบข้าง ที่ล้วนชวนให้ทั้งคู่ต้องฉุกคิดว่า การมีครอบครัวนั้นยากลำบากและวุ่นวายสาหัสเพียงใด ไปเสม็ด - เมื่อกลุ่มเพื่อนม.ปลาย 5 คนที่สนิทกันตอนเรียนพิเศษ ชวนกันไปฉลองสอบเสร็จ และรอลุ้นผลเอ็นทรานซ์ตามประสาวัยรุ่นที่เกาะเสม็ด ฤทธิความคึกคะนองและบรรยากาศชวนเคลิ้มทำให้ วิท (ศิครินทร์ ผลยงค์) และ แอน (ศิตา มหารวิเดชากร) สานสัมพันธ์อันลึกซึ้งโดยไม่แยแสอุปกรณ์ป้องกัน แต่เหตุการณ์แสนสุขสมในคืนนั้นก็ส่งผลให้ทั้งคู่ต้องเผชิญกับช่วงจิตตกตามมา แล้ววัยรุ่นที่ยังมีอนาคตสดใสรออยู่ข้างหน้าอย่างพวกเขาจะจัดการกับปัญหาและความรักครั้งนี้อย่างไรในมื่อชีวิตยังต้องเดินต่อ ตอนพิเศษ ก่อน - ช่วงเวลาสั้น ๆ ตอนต้นเรื่อง ที่ฟ้าบันดาลให้เหล่าตัวละครจากหนังทุกเรื่องได้มาพานพบกัน เพื่อเปิดฉากให้ผู้ชมได้รู้จักพวกเขา และเป็นจุดเริ่มต้นก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไปเผชิญเรื่องรักและเซ็กซ์อันสุดวุ่นแสนวายป่วง
Speed To The Sun ตัดตะวัน (2554/2011) ตะวัน เป็นเจ้าของอู่ Sun ที่ตกทอดมาจากพ่อ ตอนนี้เค้าใช้ชีวิตอยู่กับแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว หลังจากที่ อาทิตย์ พี่ชายของเค้าได้ตาย เพราะทำงานผิดกฎหมายส่งยาเสพติดให้กับแก๊งซ์ Shadow และ ถูกแก๊งซ์ Shadow ฆ่าตัดตอน ขอบฟ้า นายตำรวจหนุ่งแห่งกองปราบปรามยาเสพติด ขอบฟ้าติดตามคดี แก๊งซ์ค้ายา ที่ใช้ชื่อว่า แกงซ์ Shadow มานาน ขอบฟ้ามีคู่หมั้นชื่อ ข้าวหอม เป็นหมอที่เชี่ยวชาญด้าน โรคมะเร็ง และแน่นอนเค้ามีโครงการจะแต่งงานกันเร็วๆ นี้ วันหนึ่ง แก๊งซ์ Shadow ได้เข้าไปใน โรงพยาบาล และได้จับตัวข้าวหอม และแม่ของตะวันมา เพื่อต่อรองกับตะวันเพื่อให้ตะวันทำงานส่งยา ให้กับแก๊งซ์ Shadow ตะวันรู้ความจริงว่า แก๊งซ์ Shadow นี่เองที่ฆ่าอาทิตย์พี่ชายของเค้า ขอบฟ้าและ ตะวันจัดการกับศัตรูของตัวเอง และช่วยเหลือคนที่รักออกมาได้ ข้าวหมอ ดูแลรักษาจนแม่ของตะวัน แข็งแรงมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกพักใหญ่ๆ ขอบฟ้ารื้อคดีต่างๆ และปิดคดีสำนวนต่างๆ ได้ ตะวันปรับปรุงอู่ Sun จนโด่งดังข้ามชาติ และมีโอกาสได้เดินทางไปแข่งดริฟท์คิง ที่ญี่ปุ่น โดยมีพาสเนอร์ ชื่อ ขอบฟ้า
บางกอกกังฟู BANGKOK KUNGFU (2554/2011) โป้ง ชิ กา และ นา กลุ่มเด็กน้อย 4 คนที่ถูกกลุ่มค้ามนุษย์ลักพาตัวไปเพื่อบังคับให้เป็นขอทานพร้อมทั้งถูกทารุณกรรม โป้ง ถูกตัดลิ้นด้วยมีดตัดต้นไม้จนพูดไม่ได้ ชิ ถูกแทงจนตาบอดทั้งสองข้างด้วยไม้เสียบลูกชิ้น กา ถูกตบบ้องหูจนหนวก และ นา ถูกทุบหัวจนกลายเป็นคนสติเลอะเลือนไม่เต็มเต็ง พวกเขาถูกกลุ่มค้ามนุษย์ร่อนเร่ขอทานไปตามจังหวัดต่างๆ จนมาถึงกรุงเทพฯ ที่นั่นพวกเขาได้พบกับชายชราจีนที่มีชื่อว่า อึ้งเสี่ยวหงษ์ (ไพบูลย์ อนันต์สุวรรณ) อาจารย์ผู้ทรงวิทยายุทธ์ผู้สืบทอดคนสุดท้ายเเห่งพรรคจันทรา และเด็กผู้หญิงชื่อ กอหญ้า ชายชราได้ช่วยเหลือทั้ง 4 คนออกมาจากพวกค้ามนุษย์ และนั่นคือวันแรกที่พวกเขาได้รู้ว่าสุดยอดวิชากำลังภายในนั้นมันมีอยู่จริง เวลาผ่านไป 15 ปี โป้ง (อารักษ์ อมรศุภศิริ) ชิ (อธิกิตติ์ พริ้งพร้อม) กา (วิศว ไทยานนท์) และ นา (มาริโอ้ เมาเร่อ) ได้รับการถ่ายทอดวิทยายุทธ์จากชายจีนแก่ ซึ่งพวกเขาเรียกว่าอาจารย์ พวกเขารวมตัวกันเป็นนักฆ่ารับจ้าง และเพื่อการกลับมาล้างแค้นกลุ่มคนที่ลักพาตัวพวกเขามา ผ่านช่วงของเวลาล่วงเลยไปความสัมพันธ์ของพวกเขาถูกพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ กอหญ้า (จริญญา ศิริมงคลสกุล) คิดในใจว่าโป้งชอบตนเนื่องจากกล่องลูกแก้วที่โป้งมอบให้ไว้แทนใจ แต่โป้งมิได้เอ่ยปากหรือแสดงปฏิกิริยาต่อเธอแต่อย่างใด กอหญ้าไม่สามารถเก็บความในใจไว้ได้อีกต่อไปแล้ว และต้องการรู้ความจริงจากปากของโป้ง แต่โป้งกลับปฏิเสธว่ากล่องลูกแก้วนั้นไม่ใช่ของตน ขณะเดียวกันโป้งได้รับว่าจ้างฆ่าน้องชายของพรรคสุริยัน เป็นสาเหตุให้หัวหน้าพรรคโกรธมาก หมู่บ้านเล็กๆ อันแสนสงบจึงกลายเป็นสนามประลองยุทธ์ เหตุการณ์ทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร ใครจะเป็นกุญแจสำคัญที่ไขปริศนากล่องลูกแก้วของกอหญ้า การแก้แค้นอันสุดหฤโหดของพวกเขาจะสำเร็จหรือไม่
ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๔ ศึกนันทบุเรง

ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๔ ศึกนันทบุเรง (2554/2011) เรื่องราวอันเป็นผลจากการปราชัยของหงสาวดีในคราวศึก พระยาพะสิม และ พระเจ้าเชียงใหม่ ซึ่งทำให้ พระเจ้านันทบุเรง ทรงตระหนักในพระปรีชาสามารถของ สมเด็จพระนเรศวร และในความเข้มแข็งของกองทัพอยุธยา จึงทรงยกทัพใหญ่เป็นทัพกษัตริย์มาย่ำยีราชธานีสยามหวังให้ราบเป็นหน้ากลองเพื่อเป็นการแก้มือ และเพื่อรักษาซึ่งพระเกียรติยศ มิให้เป็นที่ดูแคลนแก่เหล่าเจ้าประเทศราชในการปกครองของฝ่ายพม่า กองทัพกษัตริย์ของ พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง มีความสมบูรณ์ยิ่งใหญ่น่าเกรงขามกว่าทุกศึก ประกอบด้วยช้าง 3,200 ทัพม้า 12,000 และไพร่ราบซึ่งมีจำนวนถึง 252,000 โดยมีนายทัพผู้ปรีชาสามารถมาร่วมรบ ทั้ง พระมหาอุปราชา มังจาปะโร และลักไวทำมูทหารกล้า กิตติศัพท์ความยิ่งใหญ่น่าเกรงขามของทัพหงสาวดีที่ยกเข้ามานี้ ส่งผลให้เจ้าเมืองในขอบขัณฑสีมาของราชอาณาจักรอยุธยาข้างฝ่ายเหนือประหวั่นพรั่นพรึงถึงกับสมคบคิดกัน แปรพักตร์เข้าสมานสมัคร พระเจ้านันทบุเรง รบ สมเด็จพระนเรศวร เป็นเหตุให้ สมเด็จพระนเรศวร ต้องเผชิญทั้งศึกนอกและศึกใน สถานการณ์กลับยิ่งบีบคั้นให้คับขันยิ่งขึ้น เมื่อ พระศรีสุพรรณธรรมาธิราช พระอนุชาเจ้ากรุงละแวกซึ่งขัดพระทัย สมเด็จพระนเรศวร แต่กาลก่อน ได้ยุยงให้พระเชษฐาตัดสัมพันธไมตรีกับอยุธยา ละแวกจึงกลายเป็นหอกข้างแคร่ที่พร้อมจะกระหน่ำซ้ำเติมสยามให้ย่อยยับหากมีอันพลาดท่าเสียทีในศึกนันทบุเรงนี้ ภัยรอบด้านบีบรัดให้ สมเด็จพระนเรศวร ทรงต้องเผชิญศึกอย่างโดดเดี่ยว ซ้ำเคราะห์กลับทับทวีคูณเมื่อสหายศึก เช่น เลอขิ่น และกองกำลังเมืองคัง ซึ่งร่วมกรำศึก กันมาแต่เบื้องต้นคิดถอนตัวตีจากเนื่องจากพิษรักระหว่างรบที่จบลงด้วยความร้าวฉานระหว่าง เลอขิ่น กับ พระราชมนู ขุนศึกคู่พระทัย ความขัดแย้งด้วยเหตุส่วนตัวได้บานปลายกลายเป็นภัยของแผ่นดินในคราวคับขันเมื่ออยุธยาต้องเผชิญศึก ซึ่งประมาณได้ว่าเป็นมหาสงครามภายใต้โทสจริตของ พระเจ้านันทบุเรง ด้วยข้อจำกัดที่รุมเร้าหลายประการ ผสานกับจำนวนไพร่พลที่เป็นรองหงสาวดีอยู่หลายขุม ทำให้ สมเด็จพระนเรศวร ทรงจำต้องปรับยุทธศาสตร์การตั้งรับทัพหงสาวดี โดยทรงใช้พระนครศรีอยุธยาซึ่งมีทำเลที่ตั้งที่ได้เปรียบเป็นฐานบัญชาการรบแต่เพียงแห่งเดียว ทรงส่งกำลังออกไปปักปราการ วางแนวป้องกันมิให้พม่าเข้ามาปลูกค่ายใกล้ขอบคูพระนครและกำแพงเมือง ทั้งยังแต่งกำลังเป็นกองโจรเข้าปล้นค่ายข้าศึกอย่างอาจหาญ เมื่อศึกเหนือเสือใต้รุมกระหน่ำ ขุนนางผู้ใหญ่ขาดสามัคคีคิดคดคำนึงแต่ประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง จอมทัพผู้รั้งราชบัลลังก์และความอยู่รอดของแผ่นดินก็มาพลาดท่า ต้องศาสตรากลางสมรภูมิศึก ยอดทหารเอกกรุงศรีถูกขุนศึกผู้ชาญณรงค์กว่าจับเป็นเชลย ชะตากรรมกรุงศรีอยุธยา และ สมเด็จพระนเรศวร จะลงเอยอย่างไร

ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน (2554/2011) คนที่ทั้งใช่และโดน จะมีมั้ยน๊า? ปัญหาโลกแตกที่ ใหม่ (สิริวิมล เจริญปุระ) สาวเปรี้ยวสุดซ่าส์ตั้งคำถามกับตัวเองมาตั้งแต่สมัยมัธยม จนผ่านมหาลัย ข้ามวัยมาจนถึงบัดนาว ก็ยังไม่เห็นหนุ่มหน้าไหนจะจริงใจรักจริงสักราย นอกจากพ่อบังเกิดเกล้า ผู้ชายทั่วไปก็เลวเหมือนกันหมดเจ้าชู้ไม่เลือกหน้า ดีที่ชีวิตนี้ยังมี หม่ำ (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) เพื่อนซี้ที่คอยดามอกหิ้วปีกใหม่ทุกครั้งที่เมาเละจากอาการอกหักจากบรรดาผู้ชายทั้งหลายที่เข้ามาในชีวิต แต่ในขณะเดียวกัน กะเพรา (ชูศักดิ์ เอี่ยมสุข) เมียสาวของ หม่ำ เริ่มอดรนทนไม่ไหวกับมิตรภาพความห่วงใยที่ไม่รู้จักเวล่ำเวลาของเพื่อน หม่ำ-ใหม่ ที่นับวันจะเกินความพอดี ถึงขนาดต้องยื่นคำขาดกันแล้วว่า ระหว่างเพื่อนกับเมีย หม่ำ จะเลือกใคร? แต่ก่อนที่ หม่ำ จะมีโอกาสเคลียร์โจทย์ที่ยากที่สุด เพราะทั้งชีวิตของ หม่ำ ก็มีแค่เพื่อนกับเมียนี่แหละสำคัญที่สุด แล้วทำไมต้องเลือกด้วย! ดูเหมือนอุปสรรคขวากหนามของชีวิตจะยังไม่ยุ่งเหยิงพอ จู่ ๆ สวรรค์เบื้องบนก็ส่ง โกสน (พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ) ไม่ใช่มือที่ 3 แต่เป็นมือที่ 4 มาทดสอบความสัมพันธ์ระหว่าง หม่ำ ใหม่ และ กะเพรา พร้อมกับดลใจให้หม่ำที่ร้อยวันพันปีไม่เคยกินเหล้าดันเกิดอาการเมาปลิ้นกับซี้ใหม่ ทั้งคู่ต่างสลบสไลไร้สติไปกับการเมาเละครั้งประวัติศาสตร์ก่อนที่จะตื่นขึ้นมาพบว่าต่างฝ่ายต่างเนื้อตัวล่อนจ้อน และที่สำคัญคือ ใหม่ ท้อง? เอาละซิ และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความรัก ความผูกผัน ของทั้ง 3 ที่ต้องมะรุมมะตุ้มวุ่นวายยุ่งเหยิงอย่างที่ใครก็กะเกณฑ์ไม่ได้ จนเป็นเหตุให้สัมพันธภาพของเพื่อนซี้อย่างใหม่-หม่ำ-ต้องเปลี่ยนไปอย่างกู่ไม่กลับโดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานภาพความเป็นเพื่อนรักเพื่อน
สะบายดี วันวิวาห์ (2554/2011) เชน (ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) ทำงานเป็นนักเขียนสกู๊ปให้กับนิตยสารชั้นนำฉบับหนึ่ง เชนเคยเดินทางมาทำข่าวที่ประเทศลาวเมื่อ 6 เดือนก่อน ในครั้งนั้นเขาได้รู้จักกับ คำ (คำลี่ พิลาวง) หญิงสาวชาวลาวที่เขารู้สึกผูกพันและชอบพอกับเธอ เขาให้สัญญาว่าจะกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้ง เชนทำตามคำมั่นโดยไม่คาดคิดมาก่อนว่าการกลับมาเยือนครั้งนี้จะทำให้เกิดเรื่องราวโกลาหลจนถึงขั้นต้องแต่งงานกับเธอ โดยทั้งที่เขาและเธอก็ยังไม่มั่นใจและไม่แน่ใจในงานแต่งงานครั้งนี้นัก ด้วยความแตกต่างทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตหลาย ๆ ด้าน ทั้งความทันสมัยของคนเมืองซึ่งดูขัดแย้งกับความงดงามและเรียบง่ายแบบดั้งเดิมของวิถีชีวิตชาวลาว เวลา 3-4 วันก่อนงานแต่งงาน ชายหนุ่มจากเมืองใหญ่ และหญิงสาวในเมืองเล็กที่มีวัฒนธรรมแตกต่างกัน ทั้งคู่ต้องเรียนรู้และปรับตัวร่วมกันเพื่อที่จะเริ่มต้นชีวิตครอบครัวใหม่ให้ได้ ขณะเดียวกัน ฝน (ธนิยา อำมฤตโชติ) เพื่อนสาวสมัยเรียนของเชน เริ่มเข้ามาพัวพันกับความรักของพวกเขา

หน้าที่